ตอนที่ 14 : ENGINEER 13 [100%]
“อื้อ ล ลิซ พี่ อ๊ะ!”
“พี่จีซ... อ่า”
“ลิซ... ลิซ...”
“อ๊ะ ซี้ดดดด”
คิดว่าเสียงที่ดังมาจากห้องตรงข้ามคือเสียงอะไรคะ เชื่อเถอะค่ะว่าทุกคนคิดเหมือนเซ่
เซ่ไม่คิดว่าการที่เซ่หิวตอนดึกแล้วชวนพี่เจนให้ลงไปเซเว่นข้างหอด้วยกัน มันจะลงเอยด้วยการเอาหูมาแนบห้องตรงข้ามอยู่แทน ไม่ได้โรคจิตนะคะ เซ่แค่สงสัยว่าพวกเค้าทำอะไรกัน ดูสิ ซี้ดซ้าดๆเชียว กินมาม่าหรอคะ สงสัยคงเผ็ชชชมากส์
เซ่ก็อยากจะชวนพี่เจนไปกินมาม่าด้วยกันบ้าง... อุ๊ยโทษค่ะ อันนี้ลั่น
“โรเซ่ พี่ว่า... เราไปเซเว่นกันเถอะ เดี๋ยวหิวเกิน” พี่เจนนี่ดึงตัวเองออกมาจากประตูที่แทบจะสิงอยู่แล้ว พี่ส่งยิ้มแห้งๆให้บวกกับหน้าแมวของพี่ที่กำลังขึ้นสีเล็กน้อย
เชื่อเซ่สิว่าพี่เจนก็อยากจะกินมาม่ากับเซ่เหมือนกัน ไม่ได้หลงตัวเอง จริ๊งงงง
-
“เซ่ พี่อยากกินไอติมจัง”
“พี่เจนคะ นี่มันดึกมากแล้วนะ ถ้ากินไปแล้วไม่สบายขึ้นมาทำยังไง ยิ่งป่วยง่ายอยู่”
“เซ่ แล้วขากลับ พี่กินไก่ทอดร้านป้าบมหน้าหอได้มั้ย”
“ถ้าพี่กินเข้าไปพี่ต้องท้องอืดแน่ๆ ไม่เอาๆ”
“อันนี้พี่ขอกินนะ น้าๆๆๆๆ”
บอกเซ่ทีว่าเซ่เป็นพี่หรือเป็นน้องกันแน่
แต่พอได้เห็นพี่เจนนี่ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้แล้ว... น่ารักจัง
ฉันเดินหยิบของกินที่คิดว่ากินไปแล้วอิ่มลงตะกร้า ส่วนพี่เจนนี่ก็ยังคงรั้งแขนฉันไปมาพร้อมขอนู่นขอนี่อยู่ตลอด ทั้งๆที่ถ้าพี่อยากกินก็ซื้อกินเองได้เลย ไม่จำเป็นต้องขอ
แต่ก็นะ เราเชื่อใจกันไงว่าอีกคนจะเลือกสิ่งดีๆให้
ง่อววววววว
“เซ่ พี่กินโค้ก...”
“ไม่ได้ค่ะ!”
ฉันรีบฉกเอาขวดสีน้ำตาลเข้มในมือของพี่เจนนี่ไปวางไว้ที่เดิมทันที ก่อนจะเดินไปหยิบแซนวิชไก่อบส่งให้พนักานไปเวฟให้ ถ้ามองไม่ผิด ฉันเห็นพี่พนักงานยิ้มเขินให้ฉันด้วย แหม่ งี้แหละคนมันเสน่ห์แรง เฉยๆอ่ะค่ะ
ตึง!
“เวฟอันนี้ให้ด้วยค่ะ เร็ว หิว จะรีบกลับหอ” พี่เจนนี่วางแฮมเบอร์เกอร์ลงบนเคาน์เตอร์อย่างแรงจนฉันกลัวว่าไส้จะเละไม่ก็เคาน์เตอร์พัง พนักงานคนนั้นหน้าเจื่อนไปเลยที่เห็นกิริยาท่าทางของพี่
หึงแรงจังวะ เริ่มกลัว
“พี่เจน ซื้อมาม่าไปเผื่อหิวมั้ย วันอื่นจะได้ไม่ต้องลงมา” ฉันชี้รามยอนหรือมาม่านั่นแหละ พี่เจนเดินมาหาฉัน กอดแขนฉัน ทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อย ฉันละสายตาจากพี่ ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจะหยิบรสที่ชอบ
“อ๊ะ!”
และความใจตรงกันนี้ก็บังเกิด
“งั้น ฉันซื้อไปสักสี่ห่อเลยละกัน เผื่อวันอื่นด้วย” ฉันหยิบมันขึ้นมาสี่ห่อใส่ตะกร้า ก่อนจะพากันไปจ่ายเงินและรอของเวฟ
“โรเซ่...”
“คะ”
“วันนี้... กินมาม่ากันมั้ย”
โอ้เชรดดดดดดดดด
ฟังจากเสียงและดูจากสายตาแล้ว แม่งไม่ใช่มาม่าในความหมายแบบเป็นเส้นเป็นน้ำซุปแน่ๆ ป๊าดๆๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้ความคิดความอ่านของแต่ละคนมันสามารถส่งหากันผ่านขนแขนได้แล้วหรอคะ
“กินค่ะ”
พูดขนาดนี้แล้ว แซนวงแซนวิชนี่เข้าตู้เย็นหมดอ่ะค่ะบอกเลย
-
“พี่เจน วันจันทร์นี้วันที่เท่าไหร่” ฉันถามพี่เจนนี่ในขณะที่กำลังยัดนู่นนี่นั่นเข้าตู้เย็นกับกล่องใส่ขนม
“วันที่แปดค่ะ...”
อ่า...
หลังจากคำถามนั้นก็เงียบกันไปเลย ฉันเผลอเอาแซนวิชใส่ตู้เย็นไปแล้ว และขี้เกียจลุก ฉันจึงยังไม่ได้กินอะไร ทั้งๆที่เป็นคนบ่นว่าหิวเอง
ก็ตอนนี้มันไม่ได้หิวขนมปังแล้วนี่นา หิวมาม่าต่างหาก...
มาม่ารสเจนนี่น่ะ
“วันจันทร์ ไปเดทครบรอบหนึ่งเดือนกัน”
“อื้ม...”
และทุกอย่างก็เงียบไปอีกครั้ง ไม่มีใครลุกจากเตียงไปหยิบอะไรมากินเลย ...ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิดหรอก
หนึ่งเดือนแล้วค่ะ เร็วแรงกว่าอีกสองคนที่เป็นคู่หลักอีก
จริงๆแล้ว ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเราจะคบกันในฐานะแฟนแบบนี้ ก็ต้องขอบคุณสองคนนั้นแหละที่มาสนิทกัน แล้วพลอยทำให้เราสองคนสนิทกันไปด้วย จริงๆก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้วแหละ แต่ไม่ค่อยได้เจอหน้า ไม่ค่อยได้คุยมากเท่าไหร่ แต่พอหลังจากที่ไอ่ลิซมันรู้พี่รหัส - ไม่ดิ กลายเป็นแฟนรหัสไปแล้ว – ฉันก็เริ่มเข้าหาพี่เจนนี่อย่างจริงจัง
อย่าบอกพี่เจนเชียวว่าฉันตกหลุมรักพี่เค้าตั้งแต่แรกเจอ
โคตรนิยายน้ำเน่าเลยว่ะ
เราเจอกันครั้งแรกตอนงานเฟรชชี่ พี่เค้าก็อยู่ปีสามแล้วนี่เนาะ ก็ต้องมาช่วยงานเป็นธรรมดา ตอนนั้นพวกพี่ปีสี่เค้าให้ปีหนึ่งเล่นเกมวิ่งไล่แกะโพสต์อิทกับปีสาม ตอนแรกก็เฉยๆแหละ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยสิคะ แต่พอได้เจอหน้าพี่เจ-
“เซ่...”
“กินมาม่ากันเถอะ ห้องนู้นเค้ากินกันน่าอร่อยดีเนาะ”
เอาเป็นว่า ขอไปซดมาม่าก่อนแล้วค่อยมาเล่าต่อนะคะ
บอกเลย ว่ารสนี้เนี่ย ซี้ดซ้าดกว่าห้อง 308 แน่นอนค่ะ
-27%-
ข้อเสียของการปิดม่านไม่สนิท คือจะทำให้มีแสงเล็ดลอดเข้ามาแยงตาถึงในห้อง จนทำให้รู้สึกรำคาญ และนั่นก็ทำให้ฉันตื่นด้วยเช่นกัน
“อื่อ...” เส้นเสียงสั่นเครือยามที่ฉันเผลอละเมอ ก่อนที่ฉันจะลืมตาขึ้น และพบกับเตียงตัวเองเตียงเดิม
เพิ่มเติมคือเตียงข้างๆไม่มีคนนอน
เพราะเจ้าของเตียงข้างๆ กำลังนอนอยู่บนเตียงฉัน
“เชี่ย เป็นจ้ำเลย” ฉันแตะนิ้วลงบนรอยบริเวณไหล่พร้อมกับอุทานออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าเสียงแหบพร่ายามตื่นนอนของฉันจะไปรบกวนคนที่กำลังหลับฝันดี พี่จีซูนอนคว่ำหันหน้ามาทางฉัน แขนซ้ายของพี่ตวัดมากอดรัดเอวฉันแน่นราวกับว่าฉันเป็นหมอนข้าง ดวงหน้าใสไร้เครื่องสำอางกำลังหันมาซบอยู่ตรงคอฉันอย่างช่วยไม่ได้ พี่หลับตาพริ้มเหมือนว่ากำลังฝันดีอยู่
เวลาพี่จีซูหลับเนี่ย น่ารักจัง
ฉันพลิกกายเล็กน้อย ตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาพี่ แขนขวาถูกใช้เป็นที่รองหัวจำเป็น มืออีกข้างที่ว่างก็ถูกยกขึ้นมาทัดผมให้อีกคนเพราะมันดูน่ารำคาญจนรู้สึกรำคาญแทน ฉันเผลอยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่าพี่จีซูขยับกาย พลิกตัวเข้ามาสวมกอดฉันแน่นขึ้นกว่าเดิม
อ้อนได้แม้กระทั่งตอนหลับเลยนะ
“งื่อ...” คงเพราะแสงแดดที่ทะลุเข้ามาถึงในห้อง พี่ถึงได้พลิกตัวไปมาแล้วซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแบบนั้น ไม่นานพี่ก็ปัดผ้าห่มลงมาจากเดิมที่คุมโปงเอาไว้ ค่อยๆลืมตาขึ้นและหยีตาเล็กน้อย
ฮึ่ยยย อยากจะหยิกแก้มเหลือเกินนนน ก้อนนนน
“ลิซตื่นนานรึยัง” พี่ถามฉันทั้งยังทำตัวอ้อนเป็นกระต่ายก้อนๆตัวนึงใส่ฉันอีก “ก็นานพอจะเห็นพี่ดุ๊กดิ๊กๆใส่ฉันแบบนี้นี่แหละ”
“จริงหงอออออ”
มางงมาหงออะไรเล่า
เดี๋ยวก็จับฟัดอีกซะนี่
“อื้ม” ฉันตอบรับในรับคอแล้วเปลี่ยนมานอนราบแบบเดิม พี่จีซูก็เขยิบเข้ามาหนุนหัวบนแขนฉันทั้งๆที่หมอนก็น่าจะนุ่มกว่า
แถมยัง... เอาส่วนนุ่มนิ่มเท่ามะพร้าวมาถูกตัวฉันอีก
“หิวมั้ย กี่โมงแล้วล่ะ” จู่ๆพี่จีซูก็โพล่งถามฉันขึ้นมา ไม่พอ ยังลุกขึ้นนั่งไม่ทันให้ฉันได้กอดให้หนำใจอีก คือนั่งปกติฉันก็ไม่อะไรหรอก
ก็เราไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
แถมผ้าห่มยัง... ร่นลงมาอีก
“ฮื้ม ลิซอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน” พี่จีซูถามพลางเอียงคออย่างนึกสงสัย – แต่ฉันคิดว่าพี่กำลังอ่อยแบบใสซื่อบริสุทธิ์อยู่มากกว่า - ถามในสภาพล่อแหลมแบบนี้
ตอบว่าอยากกินพี่จะเป็นอะไรมั้ยคะ
“ฉันกินขนมปังในตู้ก็ได้” ถึงจะอยากตอบไปใจจะขาดว่าอยากอู้อ้ากับพี่ต่อ ก็ต้องตอบแบบที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้าควรจะตอบกันไป แหม่ นี่ถ้าไม่อยากขัด ฉันก็คงจับพี่จีซูกดไปแล้ว
ยัง อย่าคิดแบบนั้น ฉันหมายถึง จับพี่จีซูกดลงไปนอนกับเตียง แล้วลุกไปหานู่นนี่นั่นให้พี่จีซูกินต่างหาก เอ้ คิดไรกัน
“อ่า พี่นึกว่าเราจะตอบว่าอยากกินพี่ซะอีก”
ฮะ อะไรนะ
“เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ” ฉันถามออกไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ แหม่ ได้ยินชัดเจนค่ะ เต็มสองแก้วหู แต่จะให้รู้เรื่องเลยก็ดูจะไม่ดี ตีบทใสซื่อก่อนไม่เสียหาย
“อ่อ พี่พูดว่า นึกว่าเราจะอยากกินพิซซ่า”
แหม่ โคตรเหมือนกันเลยค่ะที่รัก
“ไม่ใช่ว่าพี่นึกอย่างอื่นหรอคะ” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคน และพี่จีซูก็ไม่ได้ถอยห่างออกไป ราวกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น
“แล้ว... ถ้าพี่นึกว่าลิซจะอยาก... แล้วพี่ก็ยินดีตลอดด้วย...”
“ลิซจะกินขนมปังมั้ยคะ”
ถามขนาดนี้ ขยับหน้าเข้ามาหาขนาดนี้
แถมยังดึงมือไปลูบขาตัวเองขนาดนี้
ขนมปังคืออะไรหรอคะ
-48%-
xxxx
“อ๊ะ! / ขอโทษ”
ฉันร้องตกใจเมื่อจู่ๆก็มีมือหนายื่นมาหยิบห่อเบอร์เกอร์ห่อเดียวกับฉัน ฉันชักมือกลับมาทันทีแทบพร้อมกับเขา ก่อนที่จะหันไปมอง
“พี่มาร์ค...”
ชายผมทองผิวขาวเกือบซีด ใบหน้าใสดูไร้รอยยิ้ม แต่ก็ไม่มีอะไรบอกว่าเขากำลังโกรธ พี่มาร์คยกยิ้มให้ฉันเล็กน้อย – ย้ำว่าเล็กน้อย – ก่อนที่ฉันจะนึกสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมา
พี่มาร์คมาทำอะไรที่โรงอาหารคณะวิศวะ
“จีซู... ชอบกินเบอร์เกอร์งั้นหรอ” เขาถามฉัน ฉันวาดยิ้มบางตอบ “ไม่ได้ชอบหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่รู้จะกินอะไรก็เท่านั้น”
“เราอยู่นิเทศนี่ ทำไมมาที่นี่” เขาถามฉันอีกครั้ง
“โรงอาหารนิเทศคนเยอะน่ะค่ะ เพราะบางปีมีสอบช่วงเช้าเลยเยอะเป็นพิเศษ แต่ปีสามไม่มีน่ะค่ะ ฉันเลยไม่ต้องรีบร้อนแบบพวกเค้า”
“แล้ว ทำไมพี่มาร์คถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ พี่อยู่บริหารไม่ใช่หรอ” ฉันถามกลับไปบ้าง เขาชะงักไปเล็กน้อยแต่เหมือนกำลังพยายามไม่ให้ฉันผิดสังเกต ก่อนจะทำตัวให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น “พี่มาส่งแบม มาหาไรกินเฉยๆ”
“พี่... ไปก่อนนะ” เขาเอ่ยลาฉัน ฉันโค้งให้เขาก่อนจะหยิบเบอร์เกอร์ที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะซื้อไปกินไปคิดเงิน
เป็นธรรมชาติมากเลยค่ะ
ประชดนะ
คือ ฉันจะไม่สงสัยอะไรเลย ถ้าวันนี่เด็กวิศวะปีหนึ่งมีเรียนช่วงเช้า วันนี้ลิซมีเรียนแค่ตอนบ่าย ชั่วโมงเดียวด้วยซ้ำ
แล้วน้องแบมก็อยู่คลาสเดียวกันกับลิซไม่ใช่รึไงล่ะ
จริงๆมันก็ตั้งนานแล้วแหละที่เขาชอบมาวนเวียนอยู่แถวๆคณะฉันกับลิซ ก็ไม่ได้เอะใจอะไรนักหรอก เพราะแฟนพี่มาร์คเขาก็อยู่คณะวิศวะ ฉันก็มีแฟนอยู่คณะวิศวะ – ไม่ได้อวด ยกตัวอย่างเฉยๆ – มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ถ้าหากเขาจะมาหา (เฝ้า) แฟนแบบฉัน แล้วยิ่งเป็นเดือนคณะด้วยยิ่งน่าหวงใหญ่ แต่พอมาวันนี้นี่สิ จากที่ไม่คิดจะเอะใจอะไรแล้ว ฉันก็ฉุกคิดจับผิดพี่มาร์คอีกครั้ง
ไม่ได้หลงตัวเอง แต่เหมือนเขาจะมาหาฉันมากกว่าน้องแบมแบม เขาเคยสารภาพรักกับฉันเลยนะ มันน่าคิดมั้ยล่ะ ว่าเขาจะมาที่นี่ทำไมในวันที่แบมไม่มีเรียน แถมคณะบริหารกับคณะวิศวะก็ไม่ใช่ว่าเดินสิบก้าวถึงก็ถึง มันใช้เวลาเกินกว่าจะพูดว่ามาเดินเล่นถ้าไม่มีธุระจริงๆ
นี่ฉันพยายามไม่คิดเยอะละนะ แต่มัน... เฮ่อ ไม่รู้สิ ช่างมันไปก่อนละกัน
“เจ้ เมื่อกี้บ็อบบี้ถามหาเจ้ด้วย”
วอทเดอะฟัค!?
“ถามว่าไรจุนฮเว”
“ก็ถามว่าเห็นพี่จีซูมั้ย ...เฮ้ยๆๆเจ้ใจเย็น ผมตอบไปว่าไม่เห็นเพราะผมรู้ว่าถ้าให้โลเคชั่นตอนนั้นของเจ้ให้มันไปผมคงไม่รอดอ่ะ” ฉันลดมือที่ง้างหมายจะตบกบาลคนข้างๆลง บ็อบบี้หรอ ไม่ได้เจอนานมากแล้วนะ ตั้งแต่ตอนนั้น ที่โดนจับไปแล้วพี่มาร์คก็พามันไปไหนก้ไม่รู้ แล้วก็หายไปเลย
เออใช่ พี่มาร์คจะทำอะไรบ็อบบี้บ้างนะ
ฉันไม่ได้เป็นห่วงหรอก คนแบบนั้นจะห่วงไปทำไม ฉันก็แค่สงสัย ว่าคนมีอำนาจค่อนข้างเยอะอย่างพี่มาร์ค เขาจะทำอะไรมันได้บ้าง
“จุนฮเว ฉันมีไรจะถาม” ฉันหันไปสะกิดเพื่อนสนิทคนข้างๆให้ละความสนใจจากเกมที่มันเล่นอยู่ “ฮึ อะไร”
“บ็อบบี้สภาพเป็นไง”
“ถามทำไมอ่ะเจ้” จุนฮเวดึงหูฟังออก “คิดถึงมันไง้ เดี๋ยวผมฟ้องน้องดาววิดวะนะ”
“คิดถึงพ่อมึงเถอะจุนฮเว”
“อุ๊ย ด่าน้อง ไม่คุยด้วยแล้ว”
จุนฮเวทำเป็นงอน ไอ่บ้า แบ๊วไม่ดูสารรูปหน้าตัวเองเลยว่าเข้มแค่ไหน – จริงๆจุนฮเวก้ไม่เชิงเป็นเพื่อนหรอก นางเป็นน้องมากกว่า ไม่ใช่เพราะฉันวิ่วหรือดรอปเลยแก่กว่าเพื่อนนะ มันนั่นแหละที่เด็กว่าคนอื่นในชั้นปี จุนฮเวเข้าโรงเรียนก่อนอายุปีนึง เลยเป็นอย่างที่รู้นี่แหละ
“ไอ้บี้มันเข้าเฝือกข้างซ้ายน่ะ เออใช่เจ้ ผมเห็นพี่มาร์คกับบ็อบบี้มันคุยกันด้วย สีหน้าบี้แม่งโคตรแย่” จุนฮเวปิดเกมไปก่อนจะเปิดเข้าแกลอรี่ นั่นทำให้ฉันสนใจในทันที
“เนี่ย”
จุนฮเวยื่นโทรสัพท์ให้ฉัน ภาพที่ฉันเห็นในตอนนี้คือพี่มาร์คกำลังกระซิบอะไรบางอย่างกับบ็อบบี้ ซึ่งทำหน้าตาเหมือนเกรงกลัวพี่มาร์คมากอย่างไรอย่างนั้น สองคนนี้สนิทกันงั้นหรอ ไม่เห็นยักรู้เลย
“ลองสืบให้หน่อยได้มั้ยจุนว่าสองคนนี้กำลังจะทำอะไร” ฉันเอ่ยขอร้องคนที่หันไปหยิบสมุดเลคเชอร์วิชาภาษาอังกฤษจากกระเป๋าสะพาย จุนฮเววางสมุดกับปากกาลงก่อนจะมองหน้าฉันด้วยตาปรือๆ
“โอ้โหเจ้ พูดเป็นเล่น ไอ้บ็อบบี้มันก็พวกเยอะใช่ย่อย ไอ้พี่มาร์คแม่งก็บุญบารมีแผ่ทั่วมหาลัย ละเจ้ขอผมงี้ผมไม่ตายเลยหรอ”
“โธ่ กู จุนฮเว ช่วยฉันหน่อยนะ” ฉันทำตาปริบๆใส่มัน ก่อนที่จุนฮเวจะหลุดขำออกมา
“ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นน่าเจ้ เพื่อเจ้แล้วผมทำให้ได้ทุกอย่างแหละ แต่ว่านะเจ้...” จุนฮเวทำหน้าซีเรียสขึ้นก่อนจะโน้มตัวมาที่ข้างหูฉัน ฉันจึงขยับไปฟังใกล้ๆ
“ถ้าเจ้แบ๊วทำตาปิ๊งๆแบบเมื่อกี้ใส่ผมอีก ผมจะไม่ช่วยจริงๆด้วย ขนลุก”
“ไอ้เด็กเวร!”
xxxx
วันนี้มีเรียนแค่ช่วงบ่าย...จริงๆมาเรียนก็เหมือนไม่ได้เรียนอ่ะ อาจารย์สอนสนุกสนานม้ากกกมาก – เสียงสูง – สนุกมากจนฉันสามารถฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้ แต่อาจารย์คนนี้เค้าไม่ว่าอะไรหรอก อย่างมากก็แค่ “อ่าว ฝันดีมั้ยล่ะ แบ่งฉันฝันบ้างสินักศึกษา” แล้วก็พากันหัวเราะ แล้วก็สอนต่ออย่างสนุ้กสนุก – หรอ - จริงๆปกติฉันไม่ใช่คนขี้เซาอะไรนักหรอก แต่เมื่อคืนหนักไปหน่อย เลยค่อนข้างง่วง
ใจเย็น เล่นเกมหนักนะ ไม่ใช่อย่างอื่น
“พี่ชิชู่ววววว” ฉันตะโกนเรียกดาวนิเทศคนจ๋วยตั้งแต่อยู่ชั้นสองยันถึงชั้นหนึ่ง พี่จีซูเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ทำหน้าประมาณว่า อะไรของเอ๊งง แต่พี่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ว่าไงคะลลิสา ในคลาสหลับใช่มั้ย พี่รู้นะ” พี่จีซูทัก แหนะ รู้ใจจังค่ะ จับจูบตรงนี้เลยได้มั้ยอยากให้รางวัล – เดี๋ยวนั่นก็ออกตัวแรงไปนะ
“ก็สตีเฟ่นชวนยาวเลยนี่นา ตอนนั้นที่เมกาสิบโมงไงคะ ลิซเลยได้นอนตอนตีสามตอนที่เค้าบอกว่า เดี๋ยวไอไปกินข้าวก่อนนะ นั่นแหละ”
“ก็มีเรียนแค่ช่วงบ่าย ตอนเช้านอนไม่พออีกหรอ” แหนะ รู้ทันอีกละ
“แหะๆ เค้าตื่นมาเล่นเกมต่อตอนพี่ออกไปแล้วประมาณชั่วโมงนึงน่ะ” หัวเราะแห้งๆไปอีก
“แล้ววันนี้กลับไปเล่นเกมอีกแน่นอน?”
“เยสสส”
“เฮ่อออ จ้ะ”
ป๊าดติโธ่ ถอนหายใจอะไรแรงเบอร์นั้น
“ฮื่ออออ วันนี้ลิซไม่เล่นเกมก็ด้ายยยยยยย” ฉันเขยิบเข้าไปกอดแขนอย่างอ้อนๆ นานๆทีทำเลยนะเนี่ย นี่เห็นว่าเป็นแฟนเลยให้มากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษเลยนะ กับนังโรเซ่เพื่อนรักผู้หายสาบสูญนั่นไม่เคยอ้อนมันเลยนะ
“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา” พี่จีซูเลี้ยวเข้าเซเว่นข้างคณะ “เราจะเล่นก็เล่นไปสิ” ก่อนจะแยกจากฉันไปหยิบของกินด้านใน
อื้อหือ ฟังก็รู้ว่าไม่ได้อยากให้เล่นแบบที่พูด งี้ใครจะไปกล้าเล่นอีกเล่า
“พี่จีซูววววว วันนี้เค้าไม่เล่นแย้ววววว” ฉันวิ่งตามพี่ไปแล้วเกาะแขน “ต่อไปลิซจะให้เวลาพี่คนเดียวเลย เกมช่างมงช่างแม่งแล้ว” ใช่ เกมช่างแม่งแล้ว – แล้วเงินหมื่นที่ข้าพเจ้าเสียไปเพื่อซื้อไอเท็มล่ะวะ เออช่างแม่งก็ช่างแม่ง
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ไม่ได้ประชดด้วย” หรอคะ
“พี่เห็นเราเสียไปเยอะ ก็ไม่อยากให้เลิกเล่นง่ายๆเพราะพี่คนเดียวนะ” โอ้โหแม่คุณทูนหัว ยิ่งพูดกูยิ่งรู้สึกผิดค่ะ
“...ก็เพราะพี่คนเดียวไง”
“ฮื้ม”
พี่จีซูเลิกคิ้วเมื่อจู่ๆฉันก็โพล่งออกมาอย่างไม่มีจุดเริ่มต้น “เพราะพี่คนเดียว ฉันเลยยอมเลิกเล่นเกมไง”
“ฉันกลัวว่าพี่จะไม่รู้ว่าฉันแคร์พี่มากเกินกว่าจะเล่นเกมได้ต่อไป หากรู้ว่าพี่กำลังรู้สึกน้อยใจ”
“ฉันน่ะ แคร์พี่มากนะ”
ฉันพูดพลางลูบหัวพี่จีซูเบาๆ ได้ยินเสียงซุบซิบๆเล็กน้อย ฉันเหลือบมองนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก
“ไปรอพี่ด้านหน้าก็ได้น่า พอได้แล้ว พี่จะไปจ่ายเงินแล้ว” พี่จีซูดึงมือฉันลงก่อนจะเดินหนีไปเช็คบิล – เขินก็พูดว่าเขินสิคะ ไม่เห็นจะต้องเอาเรื่องเงินๆมาอ้าง
ฉันยอมเดินมารอพี่จีซูที่ด้านหน้าตรงชั้นขายหนังสือ แน่นอนว่านิตยสารแถวนั้นใช้อ่านฆ่าเวลารอพี่จีซูได้ ฉันหยิบขึ้นมาเล่มหนึ่งอย่างไม่คิดอะไร เปิดดูแบบผ่านๆก่อนจะเจอหน้าโฆษณาครีมเปลี่ยนสีผม พรีเซ็นเตอร์สาวกับผมสีแดงฮอตดั่งกับไฟเยอร์นั่นโคตรสะดุดตา
“ลิซ ไปกัน” พี่จีซูเรียกฉัน ฉันวางมันลงที่เดิมแล้วเดินตามไป ตัวก็อยู่กับพี่จีซูแหละ แต่ในใจนี่อยู่หน้าร้านเสริมสวยแล้วอ่ะ
“พี่จีซู”
“ว่า”
ฉันยกมือพี่มากุม สบสายตาด้วยอย่างจริงจัง พี่ยกยิ้มทั้งขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย “ฉันมีบางอย่างจะขอ”
“อะไรล่ะ”
“พี่จีซูย้อมผมนะ”
“ฮะ พี่ไม่-”
“สีแดงนะ!”
“พี่ไม่อยาก-” “ทำเถอะนะพี่จีซูววว”
“ไม่เอ๊า!”
-100%-
ช่วงไรท์พบประชารีด
ไรท์อิสคัมมิ่งแบคคคคแบคแบคแบคแบค *ทำเอกโค่*
โอ้โหครึ่งเดือน คือแบบ คือแบบ ไม่คิดว่าตัวเองจะดองขนาดนี้ 555 ขอโต๊ดดดดด
คิดถึงทุกคนนะคะ ทุกคนคิดถึงไรท์มั้ย คิดถึงหรอคะ ขอบคุณค่ะะะ ถถถ
งานเยอะมากกกกก การบ้านเยอะสุดไรสุด ไหนจะโครงงานช่วงชั้น นี่ก็ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ยังไม่อ่านอีก 555 จริงๆพวกเรื่องงานเยอะมันไม่ใช่ปัญหาค่ะ เดี๊ยนสามารถโดดงานมาได้ แต่ประเด็นคืออะไรรู้มั้ย
ไรท์ติดฟิคเพื่อนชาวต่างชาติค่ะ 55555 /โดนตบ/
เอาเป็นว่า เค้ากลับมาแล้วนะ และไม่รู้จะกลับมาอีกเมื่อไหร่ /โดนกระทืบ/ ตอนแรกกะมาอัพตอนวันเกิดเมื่อวันที่ 1 แต่ขี้เกียจค่ะ ถถถ
พอเถอะ เชื่อว่ามันต้องมีรีดที่เบื่อช่วงทอล์อ ฮ่าาาาาาา
*วิบัติเพื่ออรรถรสนะคะ อิ้อิ้*
ถ้ามีคำผิดเดี๋ยวมาแก้ให้เนาะะะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชอบมากเลย
สงสารโรเซ่เพื่อนตั้งชื่อให้น่ารักทั้งนั้น555555
ลิซจะให้พี่เขาทำผมแดงหรอ5555
ตื่นเต้นมากด้วย
แบบอ่านยาวรวดเดียว14 ตอนอะ
สงสัยมาร์คมากอะ
ลิซซูอย่างนีารักเลยอะ
บอกเลยมันมากค่ะ
ลิซมีฟามบังคับอ่อน
ขอแบบนี้ก็ได้หรอลิซ~
อยากบอกว่ามันได้ผลค่ะ 555 เราจะแกล้งทำเป็นลืมเรื่องพี่มาร์คไป ขอฟินลิซูก่อนค่าาาาาา ฮิ้ววว~~~!!
นี่ก็ใกล้สอบแล้วเหมือนกันค่าา~ หนังสือยังไม่ได้อ่าน อ่านแต่ฟิค ขอบคุณไรท์มากๆที่มาอัพต่อให้
ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็เป็นกำลังใจก่อนสอบที่ดี อิอิ พิมพ์เยอะไปเดี๋ยวไรท์ขี้เกียจอ่าน เอาเป็นว่ารอตอนหน้านะคะ
กอ ไก่ ล้านตัว
อร้ายยยยยยย! ค้างแรงมากมาย!! ให้ตายเถอะ เค้าเริ่มอยากกินมาม่าซะแล้วสิ
แต่ก่อนกินคงต้องไปหัดอ่อยกับจีซูแล้วล่ะ
#ไรท์ค่ะเห็นใจรีดหน่อยมากระปิดกระปอยแบบนี้สักวันคงคลั้งตายได้นะค่ะ
นี่เราอยู่โรงเรียนเดียวกันป้ะคะ 555
ส่วนจีซูลิซ่านี่ยังไงจ๊ะ รอบสองมะ ขอNCดั้วววว คิคิคิ
ขอบคุณที่มาอัพและยังไม่ลืมกันนะคะไรท์ ตั้งใจเรียนนะคะ ว่างเมื่อไหร่ก็อัพหรือไม่ว่างแล้วอยากอัพก็ได้ค่ะ 5555