ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ถอยทัพ
เช้าอันสดใสที่ดวงอาทิตย์ฉายแสงอย่างแข็งขัน “โครม!” เสียงดังโครมครามดังมาจากในครัว ทำให้ยุนบกสะดุ้งตื่น
“เอ่อ.... ขอโทษค่ะ” เสียงใสตะโกนออกมาจากครัว ก่อนที่คนขี้เซาจะตั้งสติได้และนั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ราวกับคนความจำเสื่อมที่ต้องนั่งระลึกความทรงจำ แล้วก็ต้องหน้าแดงแป๊ดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ยุนบกลูบไปที่ริมฝีปากตนเพื่อระลึกถึงสัมผัสนุ่มแล้วจึงยิ้มอย่างพอใจ ทันใดร่างบางที่กำลังทำอาหารอยู่ก็เดินอกมาจากครัวเพื่อมาเตรียมจัดโต๊ะ อาหาร ทั้งสองสบตากันอย่างไม่ทันตั้งตัว ต่างฝ่ายต่างมองกันอย่างเอียงอาย
“โอ้! เจ้า ตื่น แล้ว หรือ? อะ รุณ สะ หวัด” ยุนบกกล่าวทักทายเหมือนดั่งสะกดคำ จองฮยางหลบหน้าหนีเอียงอายและพยักหน้าตอบเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ช่างเขียน” นางตอบเสียงหวาน มันหวานเสียจนคนฟังซาบซ่านไปทั้งหัวใจ
“ท่านจะทานอาหารเลยไหมค่ะ?” นางถามและยังคงความหวานของน้ำเสียงไว้ อีกทั้งยังส่งสายตาพิฆาตดวงใจให้ยุนบกแทบอ่อนยวบ
“เอ่อ.... คือ.....ข้า.......ข้าขอตัวไปโดดน้ำ เอ้ย! ล้างหน้าน่ะ ข้าขอตัวไปล้างหน้าที่น้ำตกก่อนนะ” ยุนบกรีบตัดทบและเร่งฝีเท้าไปยังน้ำตก เมื่อมาถึงเขาจึงวางมือไปที่หน้าอกของตัวเอง
“เฮ้อ นึกว่าหัวใจมันจะกระดอนออกจากอกเสียแล้ว เต้นเบาๆหน่อยซิใจเอ้ย” เขากล่าวพลางลูบไปที่หน้าอกตนเอง ก่อนจะกวักน้ำขึ้นมาสาดใส่หน้าเป็นการเรียกสติ หากแต่ดูจะไม่เป็นผล เขาจึงมุดศีรษะลงไปในน้ำแทน
เมื่อยุนบกกลับมายังกระท่อม อาหารเช้าก็ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมกับจองฮยางที่นั่งรอเขาด้วยใบ หน้าเปื้อนยิ้ม ยุนบกค่อยๆก้าวเข้าไปทีละก้าว ก่อนจะนั่งแมะลงห่างเป็นวาจากโต๊ะสำรับ อีกทั้งยังนั่งเอียงข้างเพื่อจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับนาง จองฮยางมองเขาด้วยความสงสัยหากแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใด ยุนบกเอื้อมมือไปสุดแขนเพื่อหยิบชามข้าวของตน เขาพยายามที่จะไม่สบตานาง ก้มหน้าก้มตากินแต่ข้าวเปล่าในชามตน จองฮยางได้แต่มองเขาด้วยความฉงน
“ท่าน ไม่ทานกับหรือคะ?” นางถามพร้อมหยิบอาหารให้เขา หากแต่ยุนบกกลับหยิบอาหารจากอีกจานขึ้นมาใส่ชามของตนและทานต่อโดยไม่เหลียว มองนาง จองฮยางจึงต้องทานอาหารในมือเสียเอง
หลังทานอาหารเสร็จยุนบ กก็หาเรื่องออกจากกระท่อม ด้วยไม่อยากอยู่กับจองฮยางสองต่อสอง เขาอ้างว่าจะออกไปเขียนภาพที่น้ำตก หากแต่พอมาถึงเขากลับไม่มีกระจิตกระใจแม้แต่จะหยิบพู่กัน ยุนบกได้แต่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางลูบริมฝีปากตนเอง เขาจินตนาการว่าหากเขาได้จุมพิตนางอีก เขาจะทำโน่น ทำนี่ ทำนั่น (เซ็นเซอร์)
“ช่างเขียนค่ะ!” เสียงใสตะโกนมาแต่ไกล ยุนบกที่กำลังคิดพิเลนอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“ข้าเอาชาและอาหารกลางวันมาให้ค่ะ” จองฮยางบอกพร้อมนั่งลงไปข้างๆยุนบก หากแต่เขาเขยิบหนี
“อ้า...ขอบ ใจนะ” ยุนบกตอบ แต่ไม่สบตาคนฟัง นั่นยิ่งทำให้นางรู้สึกอยากเอาชนะ นางรินชาใส่ถ้วยน้ำชาและส่งให้เขาพร้อมสายตาหวานเยิ้ม ยุนบกเผลอไปสบตานางเข้า เขาแทบจะหัวใจวายเพราะหัวใจที่เต้นรัวผิดปกติจึงต้องรีบหลบตา เขารับถ้วยชามาโดยไม่ได้มองจึงทำให้มันหกใส่ตัวเอง
“ตายจริง หกใส่ท่านหมดเลย” จองฮยางจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนซับไปตามรอยน้ำชาบนตัวเขา ยุนบกถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อถูกนางสัมผัส
“ม่ะ...ม่ะ...ไม่ ไม่เป็นไร ข่ะ...ข้าทำเองได้” เขาพูดติดอ่างและรีบเขยิบหนีนาง จองฮยางได้แต่อมยิ้มกับปฏิกิริยาของเขา
“ท่านเขียนภาพอะไรอยู่หรือค่ะ?” นางเปิดหัวข้อสนทนา นั่นช่วยเรียกความสนใจจากคนที่พยายามหลบหน้านางได้
“เอ่อ......ก็....ข้ายังคิดไม่ออกน่ะ” เขาตอบหลังจากซับน้ำชาที่หกใส่ตนเสร็จ
“เช่นนั้น เขียนภาพให้ข้าได้ไหมค่ะ?” จองฮยางถาม ยุนบกได้ยินก็ถึงกับอึ้ง
“เอ่อข้า......” เขาพยายามจะหาเหตุผลปฏิเสธหากแต่โดนนางสวนขึ้นก่อน
“นาน แล้วนะค่ะ ที่ท่านไม่ได้เขียนภาพโดยมีข้าเป็นแบบ นะค่ะ? ช่างเขียน” นางอ้อนเสียงหวาน คนฟังแทบจะละลายไปต่อหน้าต่อตา ยุนบกจึงได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ
“งั้นเจ้าไปนั่งตรงโน้นนะ” ยุนบกชี้ไปยังจุดที่จะให้นางนั่ง ซึ่งอยู่ไกลจากเขาหลายสิบเมตร ด้วยไม่อยากสบตากับนางในระยะใกล้ แม้จองฮยางจะไม่อยากแต่ก็ต้องทำตามที่เขาบอก นางเดินไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะสะดุดล่องหินล้มลง
“ว้าย!” จองฮยางร้องเสียงหลง ยุนบกเห็นดังนั้นก็รับวิ่งเข้าไปดูนางทันที
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม?” เขาถามด้วยความเป็นห่วงและก้มมองข้อเท้าของนาง จองฮยางมองเขาด้วยความซาบซึ้ง
“ข้า ไม่เป็นอะไรค่ะช่างเขียน” นางกระซิบไปที่ข้างหูยุนบก เขาจึงรีบผละตัวออกทันทีและจับไปที่ใบหูของตน ตอนนี้มันแดงแจ้ไปทั้งสองข้างรวมถึงใบหน้าของเขาด้วย
“อะแฮ่ม!.... อืม ข้าว่า เอาไว้เราค่อยเขียนภาพกันวันอื่นเถอะ.......ข้า...ข้าหิวแล้วล่ะ” ยุนบกรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีและหาข้ออ้างที่จะไม่เขียนภาพให้นางจนได้ จองฮยางจึงต้องคล้อยตามอย่างจำยอม ทั้งสองเลยทานอาหารกันริมธารน้ำ ยุนบกยังคงคอยหลบเลี่ยงสายตาจองฮยางอยู่ตลอดเวลา
ณ เสน่ห์จันทรา หลังจากเก็บร้านเรียบร้อย ทุกคนก็มานั่งทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้า รวมถึงพระเจ้าจองโจผู้ปรีชาที่วางแผนให้ยุนบกและจองฮยางได้อยู่ด้วยกัน
“พวกนั้นไม่ระแคะระคายแผนการของเราเลยนะ ดีจริงๆ ท่านว่าป่านนี้สองคนนั่นจะเป็นยังไงมั่ง?” ชิลเอ่ยขึ้น
“แน่ นอน! น้องรักของข้าไม่ทำให้ผิดหวัง มันต้องจัดการนางแล้วแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ” ฟ้าคำรามกล่าวเสียงดังและหัวเราะด้วยความพอใจ ก่อนจะถูกฝ่ามือพิฆาตของจานฟาดไปกลางศีรษะ
“ลูกนั่งอยู่ด้วยนะค่ะ ท่านพี่นี่พูดอะไรก็ไม่รู้” นางกล่าวด้วยวาจาสุภาพผิดกับน้ำเสียงที่ดุดัน
“จ๊ะ ภรรเมีย” ฟ้าคำรามก้มขอโทษขอโพย
“แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น” พระเจ้าจองโจตรัสขึ้น ทุกคนต่างหันไปมอง
“บางทีน้องรักของเจ้า อาจจะทำไม่ได้ ก็เป็นได้นะ” พระองค์ตรัสคลุมเครือ
“ท่าน ตรัสเช่นนี้ได้อย่างไร น้องของข้า ข้าสอนมันมากับมือ ไม่ว่าจะเรื่องต่อสู้หรือเรื่องสตรี มันย่อมไม่ต่างจากข้าแน่นอน” ฟ้าคำรามแย้ง
“ไม่ต่างจากเจ้ารึ? ฮึๆๆ เรื่องนี้ข้าสงสัยอยู่ ว่าเขาจะเหมือนกับเจ้าทุกอย่างไหม?” พระองค์ตรัสเป็นนัย จานได้ยินก็รู้สึกสงสัยยิ่งนัก “หรือว่าฝ่าบาทจะทรงทราบ?!” นางคิด
“ช่างเขียนค่ะ อาหารเสร็จแล้วค่ะ” จองฮยางเรียก
“เจ้ากินก่อนเถอะ ข้าจะไปอาบน้ำ” ยุนบกตอบ
“ช่างเขียนค่ะ ท่านจะไปไหนหรือค่ะ?” จองฮยางถาม
“ข้าจะออกไปตกปลา” ยุนบกตอบ
“ช่างเขียนค่ะ ข้างนอกมันหนาว เข้ามานอนในกระท่อมไหมค่ะ?” จองฮยางถาม
“โอ้ ไม่เป็นไร ข้าชอบอากาศหนาว” ยุนบกตอบ
แม้ จะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตามที่ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในป่าลึก หากแต่ยุนบกก็ยังรู้สึกไม่ชินกับการที่จะอยู่กับนางเพียงสองต่อสอง เขามักจะหาข้ออ้างออกไปโน่นมานี่อยู่ตลอดเวลา เพราะเพียงแค่เขามองนางใจเขาก็เต้นรัวเสียจนหูอื้อตาลาย ยิ่งนางเข้ามาใกล้ๆเขาก็พาลจะมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูก และหากไปสัมผัสนางโดยบังเอิญเข้าตัวเขาก็เหมือนถูกสาบให้แข็งทื่อเป็นท่อน ไม้ เช่นนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงไม่พัฒนาไปไหน กลับถ้อยหลังกว่าเมื่อก่อนเสียอีก ด้วยตอนนี้ยุนบกไม่กล้าที่จะมองหน้านางตรงๆด้วยซ้ำ ผิดจากแต่ก่อนที่เขามักจะวิ่งเข้าหานางเสมอ
“นั่นท่านจะออกไปไหนอีกละค่ะ?” จองฮยางถามเมื่อเห็นยุนบกเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก
“อ้อ ข้าว่าจะออกไปตกปลาน่ะ” เขาตอบ
“ตก ปลาหรือค่ะ ไม่เห็นท่านได้ปลากลับมาเลย หากท่านอึดอัดใจที่จะอยู่กับข้า ก็บอกข้ามาตามตรง เช่นนั้นข้าจะได้ไปเอง” จองฮยางกล่าวอย่างน้อยใจ
“ไม่นะ ไม่ใช่แบบนั้น” ยุนบกรีบปฏิเสธ
“ว่า ไง คู่รักข้าวใหม่ปลามัน ยะฮู้ รักกันหวานชื่นเลยซินะ” ฟ้าคำรามส่งเสียงทักมาแต่ไกล หากแต่พอมาถึงกระท่อมกลับเจอกับบรรยากาศตึงเครียด จองฮยางจึงรีบเดินหนีเข้าไปในกระท่อม นั่นทำให้ฟ้าคำรามหน้าเอ๋อไปเลย
“พวกเจ้าทะเลาะกันหรือ?” ชิลถาม
“ก็....ไม่เชิงครับ” ยุนบกตอบเสียงอ่อน จากนั้นจึงพาฟ้าคำรามและชิลมาที่น้ำตกและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“โธ่ เว้ย! ไอ้เราก็นึกว่าเรียบร้อยโรงเรียนฟ้าคำรามไปแล้ว เจ้านี่มัน! จริงๆเล้ย” ฟ้าคำรามกล่าวอย่างอารมณ์เสียหลังฟังเรื่องราวจากยุนบก
“เอาน่าๆ อย่างน้อย พวกเจ้าก็กลับมาดีกันอีกครั้ง” ชิลปลอบ
“ดีบ้าดีบออะไรล่ะ เจ้าไม่เห็นหรอ นางโกรธเขาอีกแล้วน่ะ เจ้านี่มัน ไก่อ่อนจริงๆ!” ฟ้าคำรามพูดแดกดัน ยุนบกได้แต่นั่งคอตก
“เอา น่า ข้าว่าปัญหานี้ไม่น่าจะแก้ยากนะ โดยเฉพาะคนอย่างท่านนะ พี่ฟ้าคำราม” ชิลพูดเป็นนัย นั่นทำให้ฟ้าคำรามคิดอะไรบางอย่างได้ จึงยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์
“เข้าใจละ ก่อนอื่นคงต้องพาพวกเจ้าออกจากป่าเสียก่อน” ฟ้าคำรามกล่าว
“แล้วพวกมือสังหารละครับ?” ยุนบกถามอย่างวิตก
“มือ สังหารอะไรเล่ามันมีซะที่......อ้อ เรื่องมือสังหาร พวกข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ไล่เตะตูดมันกลับฮันยางไปแล้วล่ะ” ฟ้าคำรามเกือบเผลอบอกความจริงออกไป ยุนบกจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะที่ชิลมองฟ้าคำรามอย่างตำหนิ
จากนั้นยุนบกและจองฮยางก็กลับ มาที่เสน่ห์จันทรา หากแต่บรรยากาศตึงเครียดระหว่างทั้งสองก็ยังไม่คลี่คลลาย นางรีบตรงไปยังห้องของตนเมื่อมาถึง ยุนบกได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจ
“ไม่ต้องห่วงไอ้น้องชาย ข้า พี่ฟ้าคำรามยอดนักรักอยู่ตรงนี้แล้ว ข้าจะเป็นคนสอนเจ้าเอง” ฟ้าคำรามกอดคอน้องรักและกล่าวอย่างภาคภูมิ
“สอน? อะไรหรือครับ?” ยุนบกถามอย่างฉงน ฟ้าคำรามสแหยะยิ้มเจ้าเล่ห์
“ลีลารัก!” ฟ้าคำรามเฉลย ยุนบกได้ยินดังนั้นก็ถึงกับกอดอกตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น