ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : แผนลวง
ในเช้าที่สงบสุขขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารอยู่นั้นพระเจ้าจองโจตรัสขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“หน่วย องครักษ์รายงานมาว่า พระอัยยิกาได้ส่งมือสังหารเข้ามาที่ยางโจเมื่อสองวันก่อน” พระองค์ตรัสด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ทำให้ทุกคนในวงอาหารหยุดชะงัก
“มือสังหารหรือพะยะค่ะ? แล้วพวกมันมาทำไมหรือพะยะค่ะ?” ยุนบกถามอย่างร้อนใจ
“ดู เหมือนนางจะไม่ยอมรามือง่ายๆ คราวนี้คงจะเอาเจ้ากลับฮันยางให้ได้ เพราะเจ้าเป็นเพียงจุดอ่อนเดียวของข้า” พระองค์ตอบ ทำให้ยุนบกถึงกับเครียด
“เช่นนั้นหม่อนฉันจะไปจากยางโจพะยะค่ะ” เขากล่าวก่อนจะลุกขึ้น
“เช่น นั้นเจ้าจะทำอย่างไรกับนาง?” พระเจ้าจองโจตรัสถามขณะที่ยุนบกจะเดินออกจากห้อง เขาจึงหยุดและหันกลับไปมองยัง “นาง” ซึ่งพระองค์ตรัสถึง
“นางเองก็ เป็นจุดอ่อนของเจ้าไม่ใช่หรือ หากจับนางได้ก็เหมือนกับจับเจ้าได้เช่นกัน หรือเจ้าทนได้ที่จะเห็นนางมีอันตราย” พระองค์ตรัสด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ยุนบกถึงกับหน้าถอดสีเมื่อจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับจองฮยาง ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบงัน ก่อนที่ฟ้าคำรามจะกล่าวขึ้น
“มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด หากข้ายังอยู่” เขากล่าวอย่างมาดมั่น
“ใช่จ๊ะน้องยุนบก แม่นางจองฮยาง ข้าและสามีจะไม่มีวันปล่อยให้พวกเจ้าพบจุดจบแบบนั้น” จานสมทบสามี
“งั้นเราต้องเอาตัวพวกเขาไปซ่อนก่อนเพื่อไม่ให้พวกนั้นหาเจอ จากนั้นเราค่อยจัดการพวกมัน” ชิลเสนอ
“ซ่อนตัวหรือครับ?” ยุนบกเอ่ยอย่างฉงน
“ใช่ จ๊ะ ในป่าแทบตะวันตกของยางโจมีกระท่อมที่เราใช้พักเวลาล่าสัตว์อยู่ เหมาะเป็นที่ที่พวกเจ้าจะซ่อนตัว รีบไปเก็บสัมภาระของพวกเจ้ากันเถอะ” จานเฉลยพร้อมลากทั้งสองออกจากห้องทานอาหาร เหลือเพียงพระเจ้าจองโจ ใต้เท้าฮง ฟ้าคำรามและชิลที่ต่างมองหน้ากันอย่างพอใจเมื่อแผนลุล่วงไปได้ด้วยดี
หลัง ทั้งสองเก็บสัมภาระของตนเสร็จก็มุ่งหน้าไปยังป่าแทบตะวันตกตามการนำทางของ ฟ้าคำรามและชิล ลึกเขาไปในป่าขณะที่ทั้งสีกำลังเดินทางอยู่นั้น ยุนบกสังเกตได้ว่าจองฮยางมีใบหน้าที่เหนื่อยล้ามากจึงถามขึ้นด้วยความเป็น ห่วง
“จองฮยางเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เราพักกันก่อนไหม?” ยุนบกถามอย่างห่วงใย
“ข้าไม่เป็นไร เรารีบเดินเถอะ” นางพยายามตอบเสียงเรียบ
“เช่นนั้นให้ข้าช่วยถือของเถอะนะ” ยุนบกเสนอตัว
“ไม่ เป็นไรค่ะ ข้าถือเองได้” นางตอบก่อนจะเดินนำยุนบกไป เขาได้แต่เดินตามนางและคอยมองด้วยความเป็นห่วง จนเมื่อถึงทั้งสองก็นั่งลงอย่างหมดแรงที่เก้าอี้หน้ากระท่อม
“เอ้าๆ อย่ามัวแต่นั่งอืดอาดอยู่ซิ เข้ามาดูข้างในก่อน” ฟ้าคำรามกล่าวก่อนจะลากยุนบกเข้ากระท่อม
“นี่ เจ้าเห็นไหมที่นอนเนื้อนุ่มอย่างดี พร้อมกับผ้าห่มผิวละเอียด เจ้าจับดูซิ แล้วนี่หมอน มาข้าจะปูให้พวกเจ้านะ” ฟ้าคำรามกล่าวอย่างตื่นเต้นก่อนจะปูที่นอนดังที่ว่า
“เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ ว่าแต่มีที่นอนแค่ผืนเดียวหรือครับ?” ยุนบกถามขึ้น
“อ้า...ก็นี่มันในป่า ไม่ค่อยมีคนเข้ามาหรอก มีแค่ผืนเดียวก็ดีแล้ว” ฟ้าคำรามรีบหาข้ออ้าง
“หาก ไม่มีคนเข้ามาจริง เหตุใดที่นอนผืนนั้นจึงใหม่ยิ่งนัก ราวกับเพิ่งถูกซื้อมาเมื่อไม่นาน แถมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆก็เหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน กระท่อมนี้เองก็ดูจะสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้” จองฮยางรัวถามเป็นชุดจนฟ้าคำรามถึงกับหน้าเจื่อน ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร เพราะความจริงกระท่อมหลังนี้เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อวาน รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ก็เพิ่งถูกซื้อมาวันนี้นี่เอง แล้วยังเรื่องมือสังหารที่พระเจ้าจองโจตรัสถึงก็ไม่มีจริง เห็นทีแผนการครั้งนี้คงจะแตกเสียแล้ว
“นั่นเพราะมันเพิ่งถูกสร้าง ขึ้นมา พระเจ้าจองโจทรงตระหนักถึงเรื่องที่จะเกิดในไม่ช้า จึงมีรับสั่งให้พวกข้าสร้างที่นี่ขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่ที่ไม่บอกพวกเจ้าเพราะไม่อยากให้เข้าใจผิด เจ้าคงไม่คิดว่าฝ่าบาททำแผนหลอกลวงพวกเจ้าเพียงเพื่อให้พวกเจ้าคืนดีกันหรอก นะ” ชิลกล่าวหยั่งเชิง
“เช่นนั้นหรือค่ะ หากเป็นอย่างที่ท่านว่าจริง ข้าก็ต้องขอโทษด้วยที่ระแวงพวกท่านและก็ต้องขอบพระทัยฝ่าบาทอย่างสูง” จองฮยางกล่าวอย่างรู้สึกผิด
“ไว้ข้าจะไปทูลพระองค์ให้ละกัน เอาล่ะพวกเจ้าพักผ่อนเถอะ หากเรื่องคลี่คลายแล้วข้าจะมารับพวกเจ้าเอง” ชิลกล่าวก่อนจะจากไปพร้อมฟ้าคำราม
“ข้านึกว่าแผนจะแตกแล้วเสียอีก เจ้านี่เก่งจริงๆชิล” ฟ้าคำรามเอ่ยชมขณะเดินทางกลับ
“เพราะข้ารู้จักคิดก่อนพูดนะซิ” ชิลกล่าว ทำให้ฟ้าคำรามมีน้ำโหขึ้นทันที
“เฮ้ย เจ้านี่! เจ้าว่าข้าพูดไม่คิดหรอ ข้าเป็นลูกพี่ของเจ้านะ นี่....เจ้าฟังข้าอยู่หรือเปล่า อย่าเดินหนีข้าสิ...นี่ชิล!” ฟ้าคำรามได้แต่โวยวายตามหลังชิล หากแต่เขาไม่สนใจฟัง ขณะเดียวกันที่กระท่อมหลังจากชิลและฟ้าคำรามจากไป ยุนบกและจองฮยางต่างก็นั่งเงียบอยู่คนละฝั่งของกระท่อม
“เอ่อ...ข้าจะออกไปสำรวจรอบๆนี้หน่อยนะ จะได้รู้ทางหนีทีไล่” เขากล่าวก่อนจะออกไป ยุนบกเดินสำรวจไปรอบๆบริเวณ จนไปเจอน้ำตกเข้า
“โอ้! มีน้ำตกด้วยหรือนี่ ยอดเลยไม่ไกลจากกระท่อมด้วย แบบนี้คงหาน้ำได้ไม่ยาก อ้าแต่ข้าเหนียวตัวจังเลยแฮะ” ว่าแล้วยุนบกก็มองซ้ายแลขวา
“ฮึๆๆ แถวนี้ไม่มีคนอย่างแน่นอน เอาล่ะขออาบน้ำให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” ยุนบกถอดเสื้อผ้าของตนออก ก่อนจะลงไปแช่ในน้ำ
“ดี นะเนี่ยที่น้ำไม่ค่อยลึก ฮ่ะๆๆ น้ำเย็นดีจัง” ยุนบกเอนกายพิงโขดหินใหญ่และผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ขณะเดียวกันจองฮยางที่เพิ่งเตรียมอาหารเสร็จก็รู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำให้ สดชื่น และนึกได้ว่าชิลนั้นบอกว่ามีน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากกระท่อมนัก นางจึงตรงไปยังน้ำตกทันที เมื่อมาถึงนางกวาดสายตามองไปรอบบริเวณก็ไม่พบใคร นางจึงวางใจเปลื้องผ้าตนเองลงอาบน้ำ นางซ่อนกายหลบอยู่ข้างโขดหินใหญ่ จองฮยางนั่งพิงโขดหินนั้นอย่างสบายอารมณ์ นางกวักน้ำเย็นชื่นใจขึ้นมาล้างใบหน้าและไหล่
“อ้า! สดชื่นจริงๆ” นางกล่าว เสียงของนางเป็นเหตุให้ร่างที่นินทราอยู่อีกฝั่งของโขดหินตื่นขึ้น เขาแว่วเสียงกวักน้ำเล่นของใครบางคนอีกฝั่งของโขดหิน จึงค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไปยังอีกฝาก ภาพร่างบางกำลังลูบไล้เนื้อตัวขาวละเอียดทำให้เขาถึงกับลืมหายใจ ยุนบกก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวจึงลื่นตกขอบโขดหินลงไปยังน้ำลึก
“อ้า ก!” เสียงยุนบกอุทาน จองฮยางเบิกตากว้างกับภาพที่เห็น เมื่อร่างของยุนบกกำลังจมหายไป นางจึงรีบดำลงไปคว้าตัวเขาไว้ จากนั้นนางจึงลากร่างของเขาขึ้นมายังฝั่ง
“ช่างเขียนท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” นางถามด้วยความเป็นห่วง หากแต่อีกคนนิ่งมองนางตาค้าง นางจึงมองตามสายตาเขามาจบที่อกอิ่มของตน
“ว้าย!” จองฮยางรีบโอบร่างปิดอกของตนไว้และหันหนีสายตาแสนซนของคนทะลึ่ง
“อ้า! ข้า!....เอ้ย!” ยุนบกกำลังจะอธิบายหากแต่เมื่อเขาลุกขึ้นนั่งก็พบว่าตนเองก็ล่อนจ้อนเช่นกัน เขาจึงรีบวิ่งไปยังโขดหินฝั่งของตนและใส่เสื้อผ้าทันที
“เอ่อ คือเจ้าเสร็จหรือยัง ข้าจะออกไปแล้วนะ” ยุนบกโยนหินถามทางก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่าจองฮยางแต่งกายเรียบร้อยออก มายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
“เอ่อคือข้า...” ไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร นางก็สะบัดหน้าเดินหนีเขาทันที ยุนบกได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจ นี่นางคงเกลียดเขามากกว่าเดิมเสียอีก
เมื่อกลับมาถึงกระท่อมทั้งสอง ก็ทานอาหารกันด้วยความเงียบงัน ยุนบกเหลือบมองใบหน้าไร้อารมณ์ของนางเป็นพักๆ ในขณะที่นางไม่แม้แต่จะชายตามองเขา หลังทานอาหารเสร็จจองฮยางก็เตรียมจัดที่หลับที่นอน
“เจ้านอนเถอะนะ ข้าจะเฝ้าข้างนอกให้เอง” เขากล่าวก่อนจะเดินออกจากกระท่อม ยุนบกทรุดตัวลงนั่งข้างๆประตู เวลาผ่านไปโดยไร้ซุ่มเสียง จนเขาแน่ใจว่านางหลับแล้ว
“เจ้าหลับหรือยังจองฮยาง?” ยุนบกเอ่ยถาม หากแต่ไม่มีเสียงตอบจากคนในกระท่อม
“คง หลับแล้วซินะ........ข้ามันน่ารังเกียจ ข้ารู้ดี ถึงข้าอยากจะอธิบาย แต่มันก็เป็นได้แค่คำแก้ตัวเท่านั้น แม้จะบอกว่าข้าไม่ได้ตั้งใจมอง แต่ข้าก็เห็นมันอยู่ดี.........ทั้งที่เจ้ายังโกรธข้าอยู่แท้ๆ แต่ข้าก็คอยแต่สร้างเรื่องให้เจ้าโกรธและเกลียดข้ามากขึ้นไปอีก ข้านี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ ข้าขอโทษนะจองฮยาง ข้าขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำให้เจ้าไม่พอใจ ข้าขอโทษ...ขอโทษที่เป็นคนไม่ได้เรื่องแบบนี้ นอกจากรักเจ้าแล้ว ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรดีๆให้เจ้าได้เลย ข้าได้แต่รักเจ้า รักเจ้าอย่างคนบ้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง” ยุนบกระบายความในใจก่อนจะผล็อยหลับไป โดยไม่รู้เลยว่าดวงตาคู่งามยังคงเบิกกว้างอยู่ในกระท่อม โดยมีหยดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งรินไหลอยู่ สักพักร่างบางก็เปิดประตูออกมา นางทรุดลงนั่งข้างเขาก่อนจะห่มผ้าที่นำออกมาด้วยให้แก่เขา
“ใช่ข้า โกรธท่านมาก แต่คนที่ข้าโกรธที่สุดก็คือตัวข้าเองที่ไม่สามารถเกลียดท่านได้ ไม่ว่าท่านจะทำอะไรหัวใจของข้าก็พร้อมจะให้อภัยและรักท่านอยู่เสมอเหมือน ดั่งทาสผู้ซื่อสัตย์ หากแต่ข้าไม่อยากถูกมองเป็นของตายที่ไม่ว่าท่านจะทำเช่นไรก็ได้ ข้าจึงต้องแสร้งทำเป็นโกรธเคืองท่าน ข้าเองก็เป็นคนไม่ได้เรื่องเช่นกัน ข้าเองก็ได้แต่รักท่านอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน” นางกล่าวทั้งน้ำตา ทันใดมือของยุนบกก็เอื้อมไปสัมผัสใบหน้านาง จองฮยางถึงกับสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าเขาจะตื่น ทั้งสองต่างสบตากันอยู่เนิ่นนาน
“ข้าขอโทษ ที่รักเพียงเจ้า” เสียงหัวใจของยุนบก
“ข้าเองก็ไม่สามารถรักใครได้ นอกจากท่าน” เสียงหัวใจของจองฮยาง
ร่าง ทั้งสองค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน จองฮยางหลับตาพริ้มริม ฝีปากบางสั่นเล็กน้อยเมื่อถูกริมฝีปากของยุนบกสัมผัส จุมพิตแผ่วเบาท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนนี้จะตราตรึงใจทั้งสองไปตลอดกาล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น