ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เผด็จศึก
“หลักของการเผด็จศึกนั้น มีอยู่สามขั้นตอน ง่ายๆ ดูนะ” ฟ้าคำรามกล่าวจากนั้นจึงหันหน้าไปทางชิล สาธิตวิธีการเผด็จศึกให้ยุนบกดู
“ขั้นที่หนึ่ง เจ้าต้องมองตานางให้หวานซึ้งที่สุด ดู” พูดจบเขาก็ส่งสายตาเยิ้มให้ชิลขนลุกขนชัน
“ขั้นที่สอง ลมปาก เจ้าจะต้องใช้น้ำเสียงและคำพูดที่โดนใจนาง” ฟ้าคำรามเลื่อนหน้าของตนเข้าไปประชิดใบหูของชิล และกระซิบอย่างแผ่วเบา
“ข้ารักเจ้า เป็นของข้าเถอะ” ฟ้าคำรามกระซิบจากนั้นจึงกดร่างชิลนอนลงและขึ้นคร่อมทันที ทำเอายุนบกและชิลใจหายใจคว่ำ
“นี่ ละหลักการทั้งหมด ขั้นที่สามเจ้าต้องลงมือทันทีหลังจากทำขั้นที่สองเข้าใจไหม” ฟ้าคำรามลุกออกจากร่างชิลให้คนถูกจับกดโล่งใจอย่างแปลกประหลาด
“ท่านพูดอะไรเนี่ย? ข้าไม่เข้าใจเลยสักอย่าง” ยุนบกกล่าวหน้ามุ่ย
“อะไร กันว้า เจ้านี่มันสมองทึบจริงๆ ทำขนาดนี้แล้วยังไมรู้เรื่องอีก นี่จะให้ข้าปล้ำเจ้าชิลให้ดูตรงนี้เลยหรือไง” ฟ้าคำรามกล่าวอย่างอ่อนใจ แต่คำพูดเขาทำให้ชายร่างใหญ่อย่างชิลถึงกลับเสียวสันหลัง
“ข้าว่าข้าขอตัวก่อนดีกว่า” ชิลเห็นท่าไม่ดีจึงขอปลีกตัว หากแต่พอจะลุกก็โดนฟ้าคำรามกดร่างเขาให้นั่งลงตามเดิม
“เดี๋ยว.... ข้าว่าเห็นที เราคงต้องให้เจ้าไก่อ่อนนี่ เจอของจริงแล้วล่ะ” ฟ้าคำรามหันมาพูดกับชิล ชายร่างใหญ่ได้ยินดังนั้นก็กอดอกตัวสั่นด้วยความกลัวว่าจะถูกฟ้าคำรามปล้ำ ฟ้าคำรามเห็นดังนั้นก็มองเขาด้วยความฉงน
“เจ้าบ้า ใครจะไปทำกับเจ้าลงล่ะ ข้าหมายถึง จะพายุนบกมันไปขึ้นครูที่หอนางโลมต่างหาก” ฟ้าคำรามเฉลยให้ชิลถึงกับถอนหายใจโล่ง หากแต่ยุนบกที่ถูกกล่าวถึงกลับสะดุ้งโหยง
“หะ หะ หอนางโลม” ยุนบกอุทานติดอ่างด้วยความตกใจ
“ถูก ต้อง ไม่ต้องห่วงนะ น้องรัก หอนี้ข้ารู้จักนางโลมแต่ละนางเป็นอย่างดี ข้าจะเลือกคนที่เด็ดที่สุดให้กับเจ้าเลย” ฟ้าคำรามเข้ามากอดคอน้องรักและกล่าวอย่างชอบใจ แต่ยุนบกนั้นหน้าซีดเผือด
“ชิ ล...เอาไอ้นั่นมาซิ” ฟ้าคำรามกล่าวพร้อมยื่นมือไปรอรับ “ไอ้นั่น” ชิลได้ยินดังนั้นจึงล้วงตำราเล่มหนึ่งออกมาจากเสื้อของเขาส่งให้ฟ้าคำราม จากนั้นฟ้าคำรามจึงยื่นมันให้กับยุนบก
“เอ้า เอาไปศึกษาเสียให้พอ แล้วพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปปฏิบัติจริง ฮ่าๆๆๆๆ” ฟ้าคำรามกล่าวก่อนจะเดินหัวเราะชอบใจออกจากศาลาเขียนภาพไปพร้อมกับชิล เหลือเพียงยุนบกที่ยังนั่งหน้าซีดกับความคิดพิเรนของฟ้าคำราม ก่อนที่จะหันมาสนใจตำราในมือ เขาค่อยๆเปิดมันออกดู ทันทีที่เห็นหน้าแรกยุนบกก็ถึงกับโยนตำราทิ้งอย่างไม่รู้ตัว
“นะ..นะ..นี่มัน หนังสืออย่างว่านี่” ยุนบกหน้าตาตื่น
ภาย ในครัว จานและจองฮยางกำลังตักอาหารใส่ชามเพื่อเตรียมไปตั้งโต๊ะสำรับ จานเป็นผู้ถือสำรับนำไปก่อนเหลือเพียงจองฮยางที่คอยเก็บเครื่องปรุงและ เครื่องใช้ให้เข้าที่เข้าทาง เมื่อจัดเก็บเรียบร้อยนางจึงเดินออกจากครัวเพื่อไปร่วมทานอาหาร แต่ทันทีที่ก้าวออกจากครัวร่างบางก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างแรงจนทั้งสอง ล้มไม่เป็นท่า
“โอะ! เจ้าเป็นยังไงบ้างจองฮยาง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” ยุนบกถามขึ้นทันทีที่ตั้งตัวได้ เขาจึงรีบเข้าไปประคองนาง ในระหว่างที่ลุกขึ้นสายตาของจองฮยางก็เหลือบไปเห็นตำราเล่มหนึ่งที่หล่นอยู่ ไม่ไกลจากยุนบก นางจึงผละตัวออกจากเขาและก้มลงไปเก็บมันขึ้นมาดู เมื่อเปิดตำราขึ้นนางก็พบกับภาพอนาจารอย่างโจ่งแจ้ง ก่อนที่ยุนบกจะดึงหนังสือกลับไป จองฮยางมองเขาอย่างประหลาดใจ เขาเองก็ทำหน้าไม่ถูกเช่นกันอยากจะอธิบายแต่ปากดันพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนลุกลี้ลุกลนก่อนจะจ้ำอ้าวเข้าห้องตัวเองไป ร่างบางได้แต่มองตามเขาด้วยอาการช็อค
เมื่อเข้ามาภายในห้องยุนบกก็ถึงกับฟาดหนังสือดังกล่าวลงพื้นด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
“โธ่ เอ้ย แบบนี้จองฮยางจะมองข้ายังไงละเนี่ย นางต้องคิดว่าข้า.....” ยุนบกพึมพำกับตนเอง ก่อนจะนั่งลงกุมขมับ สักพักเขาก็เหลือบไปดูหนังสือเล่มนั้น และนึกถึงคำพูดของฟ้าคำราม
“เอ้า เอาไปศึกษาเสียให้พอ แล้วพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปปฏิบัติจริง ฮ่าๆๆๆๆ”
ยุ นบกส่ายหน้าสลัดความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะหันไปจัดเก็บอุปกรณ์เขียนภาพของตนที่ตั้งแต่กลับมาจากกระท่อมกลางป่า ก็ยังไม่ได้เอาออกจากย่าม เขาค่อยๆจัดเรียงอย่างระมัดระวัง สักพักสายตาก็หันไปจับจ้องที่หนังสือเล่มนั้นอีกครั้ง ยุนบกชั่งใจอยู่สักครู่
“เอาว่ะ แค่นิดเดียว อย่างน้อยเราก็เคยเขียนภาพแบบนี้มาก่อน ดูสิว่าเดี๋ยวนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว” เขาหาข้ออ้างให้ตนเอง แล้วจึงเปิดดูหนังสือนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
เช้าต่อมาเสน่ห์จัน ทราปิดร้านตามปกติ ทุกคนกลับมาทำหน้าที่เดิมของตัวเองอีกครั้ง ฟ้าคำรามอุ่นเหล้า จานต้อนรับลูกค้า จองฮยางเป็นแม่ครัว และยุนบกคอยยกอาหาร
“โต๊ะห้าขอน้ำแกงเพิ่มจ้าจองฮยาง” ยุนบกบอกกับร่างบาง นางจึงหันมาหาคนเรียก หากแต่พอสายตาทั้งสองผสานกันก็เกิดรู้สึกขัดเขินเอาเสียดื้อๆกับเหตุการณ์ เมื่อคืน
“อ้า พี่ฟ้าคำราเดี๋ยวข้าไปช่วยอุ่นเหล้า” ยุนบกจึงรีบหาข้ออ้างหลบสายตานางไปหลังร้าน และสลับหน้าที่กับฟ้าคำรามแทน เมื่อเข้าช่วงสายร้านปิดลงทุกคนทานอาหารกันเรียบร้อย ฟ้าคำรามและชิลก็เข้ามาประกบยุนบกทันที
“เอาล่ะ น้องรัก ถึงเวลาของลูกผู้ชายแล้ว ไปกันเลยดีกว่า” ฟ้าคำรามกล่าวพลางลากยุนบกออกจากบ้าน
“เดี๋ยวครับ ไป..ไปกันเลยรึครับ? เอาไว้วันหลังไม่ดีกว่าหรือครับ ข้า...ข้ายังไม่ได้ศึกษาหนังสือที่ท่านให้มาเลย” ยุนบกท้วง
“ไม่ ต้ององต้องอ่านมันหรอก เดี๋ยวไปเจอของจริงเจ้าก็ทำเป็นเองล่ะ มาเร็ว......ส่วนเจ้าเฝ้าบ้าน ดูต้นทางไว้” ฟ้าคำรามไม่ฟังลากร่างยุนบกไปตามใจ ก่อนจะหันมาพูดกับชิลให้ชายร่างใหญ่ทำหน้าจ้อยที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้าน
“ยินดีต้อนรับค่า นายท่านเชิญเลยค่าๆ” สาวงามหน้าหอร้องเรียกแขกผู้มาเยือนให้เข้าไปภายใน
“นี่ คือ หอบุปผาสวรรค์ ข้าเป็นลูกค้าชั้นเลิศของที่นี่เลยล่ะ นางโลมที่นี่เด็ดๆทั้งนั้น” ฟ้าคำรามบรรยายก่อนจะลูบปากเหมือนอยากของเปรี้ยว
“ข้าว่าเดี๋ยวเราค่อยมาวันอื่นดีกว่านะครับ วันนี้ข้ายังไม่พร้อม” ยุนบกกล่าวและพยายามขืนร่างตนจากฟ้าคำราม
“ต๊าย พี่ฟ้าคำราม! หายหน้าไปเสียนาน นึกว่าลืมที่นี่เสียแล้ว” นางโลมปากแดงนางหนึ่งเดินเข้ามาทักฟ้าคำรามอย่างคุ้นเคย ก่อนจะสังเกตเห็นหนุ่มรูปงามข้างๆ
“อุ้ยตายแล้ว นายน้อยท่านนี้เป็นใครกันค่ะ รูปงามนัก” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางหยิกแก้มใสของยุนบกอย่างหมันเคี้ยว
“นี่ น้องข้าเอง เป็นไงหล่อเหมือนข้าใช่ไหมล่ะ ข้าจะพามันมาขึ้นครู” ฟ้าคำรามแนะนำก่อนจะกระซิบกระซาบกับนางโลม เมื่อได้ยินดังนั้นนางก็มองเขาตาลุกวาวเหมือนเสือสาวเจอกวางหนุ่ม แล้วทั้งสองก็ลากเขาเข้าไปด้านใน ยุนบกและฟ้าคำรามเข้ามาดื่มเหล้ากันในห้องรับรองห้องหนึ่ง ฟ้าคำรามมีนางโลมคนสนิทคลอเคล้าอยู่ใกล้ๆ ส่วนยุนบกนั้นมีนางโลมสองนางนัวเนียจับโน่นนี่ของเขาอยู่ตลอดเวลา
“ดื่มอีกซิค่ะนายน้อย” นางโลมอ่อนเยาว์หากแต่กร้านโลกรินเหล้าให้เขา แล้วจึงมากระแซะถามเสียงอ้อน ยุนบกได้แต่นั่งตัวลีบ
“นายน้อยค่ะ ทานนี่หน่อยซิค่ะ” นางโลมอีกคนเบียดร่างเข้ามาอีกข้างพร้อมจะป้อนเขาด้วยปาก ยุนบกนั้นพยายามหันหน้าหนีสุดกำลัง
“เอ่อ...ข้ายังไม่หิว” เขากล่าวปฏิเสธเสียงอ่อน ในขณะที่ฟ้าคำรามซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองดูด้วยความชอบใจ
“แล้วนี่คยองเฮว่างหรือยังล่ะ?” ฟ้าคำรามเอ่ยถามขึ้นกับเหล่านางโลม
“แหม พี่ฟ้าคำรามนี่ ไม่ไว้หน้าข้าเลยนะค่ะ ทั้งที่ข้าก็นั่งอยู่ที่นี่แล้วแท้ๆ ยังจะเรียกหาคยองเฮอีก” นางโลมคนสนิทฟ้าคำรามกล่าวอย่างน้อยใจ เขาจึงหัวเราะชอบใจก่อนจะหอมนางไปฟอดใหญ่
“ข้าไม่ได้เรียกนางมาให้ข้าหรอก แต่ให้เจ้านี่ต่างหาก” ฟ้าคำรามกล่าวพร้อมชี้ไปที่ยุนบก ทำให้คนถูกกล่าวถึงทำหน้างง
“บุรุษ ทั่วมาโปต่างเล่าขาน หากผู้ใดได้หลับนอนข้ามคืนกับคยองเฮแล้วละก็ ชายผู้นั้นย่อมเป็นชายเหนือชาย” ฟ้าคำรามกล่าวพลางยกจอกขึ้นประกอบท่าทาง นางโลมทั้งหลายต่างหัวเราะคิกคัก
“แหม แต่จะให้นายน้อยอ่อนหัดผู้นี้พบกับคยองเฮเลยหรือค่ะ เขาจะไหวหรอ” นางโลมคนสนิทฟ้าคำรามถาม
“ก็ เพราะอย่างนี้ไง เพราะเจ้านี่มันอ่อนหัด ต้องให้ถึงมือคยองเฮจัดการ” ฟ้าคำรามตอบ นางโลมทั้งสามก็หัวเราะชอบใจ คยองเฮที่กล่าวถึงคือหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งบุปผาสวรรค์ ไม่เพียงแค่มีใบหน้าที่งดงามหากแต่นางยังเป็นเลิศในการปรนเปรอบุรุษจนเป็น ที่เลื่องลือ ทันใดประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออก หญิงสาวรูปงามผู้หนึ่งย่างกายเข้ามาช้าๆ ก่อนจะส่งสายตาไปยังยุนบก
“นี่ ยุนบกหายไปไหนน่ะ ทำไมไม่มาสอนพวกเด็กๆล่ะ” จานถามจองฮยางขึ้นเมื่อมองไปยังศาลาเขียนภาพแล้วพบว่าเด็กๆนั้นเอาแต่วิ่ง เล่นกัน นางจึงเดินไปยังศาลาเขียนภาพพร้อมกับจองฮยาง
“ยุนบกล่ะชิล เขาไปไหนรึ?....แล้วนี่สามีตัวดีของข้าหายหัวไปไหนด้วยล่ะเนี่ย?” จานถามพลางมองไปรอบๆบริเวณ หากแต่ชิลไม่กล้าตอบจึงได้แต่ทำหน้าแหย
“ท่าน แม่ ท่านพ่อกับอาจารย์ไม่อยู่หรอกครับ ลุงชิลบอกว่าพวกเขาไปทำภารกิจของลูกผู้ชายกัน” ฟ้าลั่นลูกชายหัวแก้ววิ่งเข้ามากอดผู้เป็นแม่และรายงาน
“ห่ะ? ภารกิจลูกผู้ชายรึ?!” จานถึงกับลมออกหูเมื่อได้ยิน นางรู้ได้ทันทีว่าสามีตัวร้ายไปทำอะไร ที่ไหน และอย่างไร ชิลที่ไม่สามารถห้ามฟ้าลั่นไว้ได้ทันก็ถึงกับหน้าซีด
“ตัวใครตัวมันนะพี่ฟ้าคำราม” เขาพึมพำกับตัวเอง
ภายในห้องอันมืดสลัวสองร่างกำลังแนบชิดกัน ร่างหนึ่งถึงกับอ่อนเพลียส่วนอีกร่างยังคงพุ่งพล่านไปด้วยความต้องการ
“ข้าบอกว่าไม่เอาไงแม่นาง ท่านไม่ต้องทำอย่างที่พี่ฟ้าคำรามบอกก็ได้” ยุนบกพยายามผลักไส้ร่างของหญิงสาวที่รุกเร้าเข้ามาหาเขา
“แหม นายน้อย ข้ารับเงินมาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสิเจ้าค่ะ มาม่ะ อย่ากลัวๆ” คยองเฮไม่ลดละความพยายามในการปลุกปล้ำหนุ่มรูปงาม นางผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่บุรุษคนใดต้องพิชิตเขาผู้ถูกตาต้องใจตั้งแต่แรก เห็นให้ได้ ยุนบกรวบรวมแรงผลักนางออกไปสุดกำลังก่อนจะคลานหนี หากแต่นางกลับมาตั้งตัวได้ไวอย่างเหลือเชื่อ จึงตะคลุบเขาได้ทัน นางดึงทึ้งเสื้อผ้าของเขาออกทันที
“ม่ายยยยยยยยย!” เสียงร้องของยุนบกดังไปไกลถึงห้องรับรองที่ฟ้าคำรามยังคงดื่มเหล้าเคล้านารีอย่างสบายอารมณ์
“ฮ่าๆๆๆ เสียงดีจริงๆ สงสัยคยองเฮจัดหนักแน่ๆ” ฟ้าคำรามกล่าวพลางหัวเราะชอบใจโดยไม่ล่วงรู้ชะตากรรม
“ว่าแต่เมียพี่ไม่ว่ารึค่ะ ไม่รีบกลับเดี๋ยวนางก็มาฆ่าพี่หรอก” นางโลมคนสนิทกล่าว
“ฆ่า อะไรกัน เจ้าไม่รู้รึว่าข้าเป็นใคร ข้าพี่ฟ้าคำราม ลูกพี่ใหญ่แห่งมาโป ใครจะมากล้าหือ ฮ่าๆๆๆ” เขาหัวเราะอย่างไม่เกรงกลัวความตายที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู
“ข้านี่ไง!” จานเปิดประตูพรวดเข้ามาทันที ฟ้าคำรามถึงกับสำลักเหล้าที่กระดกลงคอ
“มะ..มะ... เมียจ้า ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษข้ามันเลวที่มาที่นี่” ฟ้าคำรามไม่รอช้ารีบเข้าไปกอดขาจานร่ำไห้อย่างกลัวตาย นางมองเขาพร้อมแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น
“ใจเย็นๆท่านพี่ ข้ายังไม่ฆ่าท่านตอนนี้หรอก.......บอกมาเดี๋ยวนี้ว่ายุนบกอยู่ไหน!” นางกล่าวเสียงหวาน ก่อนจะกระชากผมผู้เป็นสามีถาม ฟ้าคำรามจึงรีบชี้ไปยังทางที่ห้องของยุนบกอยู่ จานจึงมองหน้าจองฮยางอย่างหนักใจ
“ปล่อยข้า! ปล่อย.....” ยุนบกยังคงดิ้นรนอยู่ใต้ร่างของคยองเฮ นางไม่รอช้าจูบซ้ายจูบขวาที่แก้มของเขาทันที รอยปากของนางจึงติดเต็มแก้มเขา ยุนบกเห็นท่าจะแย่จึงพยายามรวบรวมสติ เขาหวนคิดถึงเผด็จศึกสามขั้นที่ฟ้าคำรามบอก ทันใดก็จับคยองเฮไว้ให้มั่น แล้วส่งสายตาหวานให้นางแทบละลาย ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู
“ปล่อยข้าไป เถอะนะ” เขากล่าวก่อนจะพลิกตัวเป็นผู้คร่อมนางเสียเอง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลุกหนี ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นภาพยุนบกที่เหลือเพียงชุดขาวบางกำลังค่อมร่างหญิงสาวที่เสื้อผ้า หลุดลุ่ย จองฮยางแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา ยุนบกเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่แข็งทื่ออยู่ในท่าคร่อมคยองเฮอยู่อย่างนั้น ก่อนที่คยองเฮจะรวบศีรษะเขาลงมาและกอดจูบอย่างไม่อายสายตาผู้มาเยือน
“อย่า แม่นาง! ข้าบอกว่าอย่าไง!” ยุนบกบอกกับนางหากแต่นางไม่ฟัง ยังคงพรมจูบไปทั่วใบหน้าเขา จองฮยางทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวจึงเดินจากไปอย่างโกรธเคือง
“อ่ะ! จองฮยาง! โอ้ย ปล่อยข้าสักทีเถอะ!” ยุนบกจะตามร่างบางออกไปหากแต่คยองเฮก็เกาะเขาไม่ปล่อย จานมองยุนบกด้วยสายตาผิดหวังแล้วจึงดึงหูสามีให้เดินตามตนกลับบ้าน
เมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้านจองฮยางก็ไม่พูดไม่จาตรงเข้าห้องของตนทันที ยุนบกจึงเดินตามมา
“จอง ฮยาง....ฟังข้าก่อน มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าเห็นนะ คือว่า ข้าน่ะ......” ยุนบกพยายามอธิบายอยู่นอกห้อง หากแต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาจึงถอดใจเพราะอย่างไรนางก็คงไม่ฟังยิ่งจะพาลเกลียดเขาเข้าไปใหญ่ เขาเลยหันหลังกลับเดินคอตก
“ท่านคิดจะกลับไปอย่างนี้หรือค่ะช่าง เขียน?” จองฮยางเปิดประตูออกมาและพูดกับเขา ยุนบกหันมาอย่างแปลกใจที่นางยอมออกมา ก่อนจะโดนจองฮยางลากเข้าไปในห้องและจับเขากดลงไปกับพื้น นางคร่อมร่างของเขาและมองเขาด้วยสายตามุ่งมั่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น