คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Page....one
เศษกระจกเอ๋ย....
เจ้าช่างใสสะอาดและบริสุทธิ์
เจ้าสะท้อนความเป็นไปของชีวิตมนุษย์ทุกคน...
สะท้อนภาพแห่งความเป็นจริง
ภาพที่ไม่เคยคิดจะโกหกใคร...
เจ้าช่างบริสุทธิ์เสียจริง!
บริสุทธิ์...จนข้าเองจำต้องกลัวเจ้า...
แต่จะกลัวไปใย....
ในเมื่อเจ้าเองก็ยังแปดเปื้อนได้เช่นข้า
หยาดเลือดสีแดงสด...
กี่หยดแล้วเจ้าเอ๋ย...ที่สังเวยแก่เจ้า
เจ้าเศษกระจกเอ๋ย
เจ้าช่างอนบเนียนเป็นนักล่าที่เงียบสงัด...
กี่หยดแล้วเจ้าเอ๋ย
หยาดเลือดกลิ่นหวานที่กลายเป็นของเจ้า...
กระจกที่รัก!
ข้านั้นอยากได้ความจริงจากเจ้าโดยแท้...
เศษกระจกเอ๋ย
ได้โปรดเชื่อฟังข้า...
ทำตามความต้องการของข้า
ข้านั้นรักและเทิดทูนเจ้ายิ่งสิ่งใด....
เจ้าเศษกระจกที่บริสุทธิ์ของข้า
ได้โปรดเถิดที่รัก!
ได้โปรดฟังความต้องการของข้า...
พร้อมกับทำทำตามสิ่งที่ข้าประสงค์
ปลายแหลมคมของเจ้าช่าง...ยั่วใจ...
ได้โปรดหันมันไปตามทางที่ข้าต้องการ
กรีด แทง ตามความปราถนาของเจ้า
เศษกระจกเอ๋ย!
จงเชื่อฟังข้าเสียเถิด...
ข้าจะทำตามความปราถนาของเจ้าเช่นกัน
หยาดเลือดกลิ่นหอมที่เจ้าต้องการ...
ข้าหามาให้เจ้าได้
เพียงแต่..
ทำตามคำสั่งของเข้าเท่านั้น
แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ...
ข้า-ก็-เช่น-กัน!
.
.
.
.
รัตติกาลยามค่ำคืนเงียบสงัด ผืนนภากว้างใหญ่แผ่รัศมีเป็นเวทีอวดโฉมของเหล่าดาวน้อยส่องแสง
ระยิบระยับแต้มความงามให้แผ่นกระดาษสีครามมืดขนาดกว้างเมฆาอ่อนบางเลือนลอยหมุนวน
ผสมสีเทามืดแสงจันทราอ่อนนวลเฉิดฉายความงามที่ไม่มีผู้ใดอาจเอื้อมถึงได้
ลมอ่อนๆพัดผ่านกิ่งไม้ปลิวไหวเบาๆเสียดสีกันเป็นบทเพลงกล่อมนอนในยามคืนที่เงียบสงัด
กลิ่นแห่งอิสระและความมืดมิดคละคลุ้งไปกับหยาดน้ำค้างเย็นยะเยือกหลั่งรินเป็นสายปอยๆ
ทุกชีวิตพากันหลับใหลนิทราอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมที่เรียกว่า “บ้าน”
หน้าต่างและประตูทุกบานปิดสนิท แสงไฟจากเสากระจายความสว่างได้เล็กน้อยพอเห็น บ้านเรือน
ที่ปิดเงียบสนิท
ไม่มีใครรู้
.
.
ไม่มีใครเห็น
.
.
ตึกร้างทรงสูงเด่นสง่าอยู่ท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นแค่ซากที่เหลืออยู่เศษปูนที่ก่อไม่เสร็จดี
ห้องว่างทั้งหลายนับไม่ถ้วนรกร้างไปด้วยเศษอิฐและปูน สิ่งสกปรกทั้งหลายเกาะผนังตึก
สีทาบ้านลอกระเรื่อไม่มีชิ้นดี หมอกควันพัดผ่านไปมาไม่สิ่งมีชีวิตอยู่เลยแม้แต่น้อย
ความเงียบสงัดเท่านั้นที่คงอยู่ตราบนานเท่านั้น เมฆาล่องลอยเลือนเปิดฉากให้แสงจันทร์ได้ส่อง
สว่างในยามค่ำคืนทำให้พอเห็นได้บ้างว่าบนตึกร้างมีอะไรดำเนินการอยู่
แต่ใครเล่าจะเห็น...
ใครเล่าจะสนใจ....
ห้องสภาพดีปราศจากสิ่งสกปรกไม่สมกับที่จะต้องเข้ามาอยู่ในตึกร้างนี้เลยสักนิดเดียว
โคมไฟห้อยระย้าส่องสว่างสาดแสงภาพให้ห้อง พื้นกระเบื้องสีดำสนิทสะท้อนฝาผนังข้างบน
ให้เห็นได้ชัดเจน
ห้องทึบที่ไม่มีหน้าต่าง เป็นเพียงแค่ห้องธรรมดา เงียบสงัด
ใครจะรู้เล่า
.
.
.
ว่ามีร่างของคนที่นอนรอความตายอยู่ในห้องนี้!!
ร่างที่สั่นสะท้านด้วยความเหน็บหนาวทั้งๆที่ในห้องไม่มีหน้าต่างแต่ความเย็นยะเยือกแทงทะลุถึง
ขั้วหัวใจในนาทีนี้ หมอกควันผ่านพ้นเข้ามาในห้องโดยไม่บอกกล่าว ดวงตาที่พร่ามัวไม่สามารถ
จ้องมองบริเวณห้องได้สะดวก....
จะขยับไปไหนไม่ได้เพราะความกลัวและ......
.
.
เศษกระจกที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเกลื่อนห้อง
.
.
เพียงแค่ขยับปลายแหลมก็บาดเนื้อสร้างความทรมานให้กับร่างที่นอนหายใจถี่ ด้วยความตื่นกลัว
และไม่รู้ว่าจะหาทางออกไปจากห้องนี้ได้อย่างไร
กึก....ตึก...ตึก...
ร้องเท้าผ้าใบหนังสีดำก้าวเข้ามาในห้องแห่งนี้ การขยับปลายเท้าดูเหมือนไม่รีบร้อนอะไรมากมาย
เสียงเท้าดังเข้ามาเรื่อยๆในห้องที่เงียบสงัด
ร่างที่น่าสงสารสัมผัสได้ถึงการมีอยู่จึงค่อยๆลุกขึ้นอย่างเจ็บปวดร่างกายที่ถูกกระจกบางส่วน
ทิ่มแทงไปบ้าง ดวงตากวาดมองหาต้นตอของเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนใกล้จะเดินมาถึงตรงที่เค้า
อยู่แล้ว หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆจนไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วบริเวณ
ถึงจะมีโคมไฟสาดแสงแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
ตึก...ตึก...ตึก...
ฝีเท้าที่ดูเบาสบายไม่หวั่นเกรงกับสิ่งรอบข้าง ค่อยๆตรงเข้ามาหาเค้าที่ยืนหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้น
เนื้อตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว ริมฝีปากแห่งเผือกสั่นเครือ
ดวงตาที่กวาดหามองอะไรบางอย่าง
“พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดส่งความสุขมาให้ข้าที่รับใช้ท่านด้วย....พระผู้เป็นเจ้าข้านั้นจงรักภักดีต่อท่าน
เสมอมา ขอให้ท่านส่งความสุขมาให้ข้าด้วยเถิด” คำขอพรดังขึ้นในความเงียบมันดังอยู่อย่างนั้น
วนเวียนไปมาไม่มีหยุด
แกรก....กึก....แกรก....
เศษกระจกที่ถูกร้องเท้าเหยียบจนแตกหัก ดังลั่นห้องว่างที่ยืนฟังถึงกลับขนลุกด้วยความกลัว
ขาขยับไปไหนไม่ได้ ได้แต่ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่เหมือนมีบนมนต์สะกดตราตรึงตัวเองไว้
ในไม่กี่นาที ริมฝีปากที่สั่นเครือค่อยๆขยับปากเอ่ยถ้อยคำออกมา
“พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดส่งความสุขมาให้ข้าที่รับใช้ท่านด้วย....พระผู้เป็นเจ้าข้านั้นจงรักภักดีต่อท่าน
เสมอมา ขอให้ท่านส่งความสุขมาให้ข้าด้วยเถิด”ถ้อยคำที่พูดตามบทขอพรค่อยๆพรั่งพรูออกมาจาก
ปากของเค้าเอง
มือเล็กเอื้อมเก็บเศษกระจกที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เสียงขอพรดังระงมภายในห้องว่างเงียบงำ
ฝีเท้าค่อยๆขยับเข้ามาเรื่อยๆ ใกล้เรื่อย...ใกล้เข้ามา....ใกล้เข้ามา
“พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดส่งความสุขมาให้ข้าที่รับใช้ท่านด้วย....พระผู้เป็นเจ้าข้านั้นจงรักภักดีต่อท่าน
เสมอมา ขอให้ท่านส่งความสุขมาให้ข้าด้วยเถิด”ร่างที่ถูกตรึงด้วยมนตราพึมพำบทขอพรไม่รู้สึกเลยว่า
มีอะไรยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
ดวงตาที่ว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว สมองสั่งการแค่ให้อยู่กับบทขอพรเท่านั้น
“พระผู้เป็นเจ้าข้าขอสังเวยชีวิตของมนุษย์ที่ท่านแค้นักแค้นหนาให้กับท่านในค่ำคืนนี้!”
ปลายกระจกคมกริบถูกยกขึ้นเหนือศรีษะพุ่งกระแทกเนื้อตัดฉับเข้าขั้วหัวใจ
ฉึก....ฉึก...ฉึก....ฉึก...
“อ๊ากกกกก” ปลายแหลมแทงไม่นับกลางอก ลำตัว ใบหน้า หยาดโลหิตไหลเยิ้มเป็นทางพุ่งทะลัก
ออกมาเป็นสาย เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดดังลั่นห้องแข่งกับบทสวดที่จู่ๆดังขึ้นมา
ฉึก....ฉึก...ฉึก...
เนื้อหนังกระเด็นหลุดออกจากลำตัวเปิดโพรงให้เห็นกระดูกชโลมไปด้วยเลือกที่ไหลทะลักออกมา
ใบหน้าที่ถูกเฉือนจมูก ตัดริมฝีปาก ดวงตาข้างซ้ายถูกปลายแหลมของกระจกแทงทะลุหลุดกลิ้งออก
มากลางพื้น กลางลำตัวถูกแหวกให้เห็นลำไส้ไหลเลื่อนลงมากองบนพื้น
ถึงกระนั้นกลับยังคงมีชีวิตและรับรู้ความรู้สึกที่แสนทรมานและเจ็บปวดเจียนตาย
จะกรีดร้องก็ทำไม่ได้เพราะลิ้นถูกตวัดขาดกระเด็นติดผนัง
ฉึก....ฉึก...ฉึก...
ขาทั้ง2ข้างถูกแทงจนเลอะไม่เหลือให้วิ่งหนี ซี่โครงทั้ง2ข้างถูกดึกออกทำให้หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่หลุดล่วงออกมาเต้นตุบตับบนพื้นที่เต็มไปด้วย
เศษกระจกก้อนเนื้อถูกบาดและฉีกเป็นชิ้นๆตามการเต้นของจังหวะ
“แฮกๆ”บทสวดมนยังคงดังเข้าโสทประสาทหูและสมอง ความรู้สึกทุกอย่างยังอยู่ครบถึงแม้ร่างกาย
จะไม่เหลือแล้วก็ตาม
ปลายคมกริบสีใสเงาวับค่อยๆกรีดลงบนท่อนแขนแหวะเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ตวัดตัดเส้นเลือดให้ทะลักโลหิตออกมาอีกครั้ง......
และสุดท้าย!
ฉึก!
ไม้กางเขนขนาดพอมือปลายแหลมถูกแทงทะลุออกกลางหลัง ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นพิธี
เพียงแต่บทสวดยังคงดังต่อเนื่อ ดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆระงมตึกร้างที่เงียบสงัด
“พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดส่งความสุขมาให้ข้าที่รับใช้ท่านด้วย....พระผู้เป็นเจ้าข้านั้นจงรักภักดีต่อท่าน
เสมอมา ขอให้ท่านส่งความสุขมาให้ข้าด้วยเถิด”
ร่างที่ที่ไม่เหลืออะไรเลย ถูกไม้กางเขนปังทะลุหกลางหลัง หยาดเลือดส่งกลิ่นคาวคลุ้งไหลเปื้อน
พื้นกระเบื้องสีดำสนิท หมอกควันได้จางหายไปพร้อมกับฝีเท้าที่ค่อยๆเลือนจากไป
แบบไม่ใส่ใจอะไรเลย แต่บทสวดและคำขอพรยังคงดังอยู่เช่นเดิม
ถึงจะไม่เหลือชิ้นส่วนในร่างอีกแล้ว ริมฝีปากที่ถูกรีดลิ้นที่ขาดออกไม่เหลือชิ้นดี แม้กระนั้น
ก็ยังคงพร่ำขอพรจากพระเจ้า
“พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดส่งความสุขมาให้ข้าที่รับใช้ท่านด้วย....พระผู้เป็นเจ้าข้านั้นจงรักภักดีต่อท่าน
เสมอมา ขอให้ท่านส่งความสุขมาให้ข้าด้วยเถิด”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันที่ 31 กันยายน 19984
กลางฝูงชนที่เดินเบียดเสียดกันไปมาบนจัตุรัตกลางเมืองของนครปารีสแห่งมนเสน่ห์ เสียงพูดคุยดังระงมไปมา ทุกดคนต่างทำกิจกรรมของตัวเองเช่นเดิม เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ผิดแปลกอะไรไปจากเดิมเลย คุณยายกำลังจูงสุนัข เด็กผู้หญิงซื้อไอศครีม หญิงสาวกำลังรีบเร่งที่จะทำงาน ทุกคนยังคงดำเนินชีวิตของตัวเองไป
เดินไปมาอย่างมีจุดหมายของแต่ล่ะคนที่แตกต่างกันออกไป
ทีวีขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งอยู่บนตึกตรงข้ามกับจัตุรัตกำลังถ่ายโฆษณาดาราสาวกับผลงานชุดใหม่
แต่กลับถูกขั้นด้วยข่าวด่วนที่โผล่มาพร้อมกับผู้อ่านข่าว
“ข่าวด่วนประจำวันนี้...มีรายงานเกิดปริศนาน่าประหลาดใจขึ้น เมื่อยามประจำหมู่บ้านได้เข้าไป
สำรวจตึกร้างท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พบศพชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพเละไปทั้งตัว ชิ้นส่วนกระจาย
เกลื่อนห้องครับแถมกลางหน้าอกยังมีไม้กางเขนปักทะลุอยู่”ในขณะที่ผู้รายงานข่าวพูดไปบนจอภาพปรับเปลี่ยนเป็นฉากของตึกร้างและศพที่
พบเจอ สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนที่หยุดดูได้อย่างมาก
“ก...เกิดขึ้นได้ไงเนี่ย แหวะ!จะอ้วก”
“น่ากลัวชะมัด...”
“ครับ!ทางเรายังไม่ทราบชื่อของผู้ตายเพราะดูจากสภาพศพที่คาดเดายากแล้ว...ยังไม่ทราบสาเหตุ
ที่แท้จริงว่านี้คือการฆาตรกรรมหรืออะไรกันแน่ ขอจบการายงานข่าวถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะ
มาทำเสนอใหม่ครับ”
จอผ่านถูกกลับไปเป็นโฆษณาใหม่อีกรอบ แต่ผู้คนทั้งหลายกับนิ่งค้าง ยืนอ้าปากค้างอยู่กับที่
ไม่มีใครคาดเดาอะไรได้เลยจากเหตุการณ์ทที่ได้ดูไป หลายคนพยายามลืมภาพที่ได้เห็น
“เป็นไปได้ยังไงกัน....คาดเดาอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอ”
คดีปริศนาเป็นข่าวดังระงมไปทั่วในชั่วพริบตา แพร่กระจายไปทั่วประเทศฝรั่งเศส
เพราะเป็นที่น่าสงสัยว่าการตายของศพที่ทราบชื่อที่หลังว่า นาย ไรท์ แมกสัน
ตายในสภาพที่น่าอนาถชิ้นส่วนในร่างกายเกลื่อนพื้นห้อง ทั้งๆที่ในห้องนั้นไม่มีอะไรแหลมคม
แม้แต่น้อย แถมยังถูกไม้กางเขนปักกลางลำตัวจนทะลุอีกด้วย ริมฝีปากที่ฉีดขาด ก้อนหัวใจ
กระเด็นออกมาถูกฉีกขาดไม่เหลือชิ้นดีพบศพเข้าที่ตึกร้างท้ายหมู่บ้านชื่อว่า “ไวท์”
ภายในห้องดูเก่าโทรมอยู่ชั้นบนสุดของตึก นับจากทางซ้ายมา3ห้อง
จากคำให้การของคนในหมู่บ้านปราฏรว่า ไม่มีใครได้ยินหรือเห็นอะไรเลยในค่ำคืนนั้น
เป็นที่น่าแปลกใจให้กับตำรวจอย่างมาก
ทางFBIแจ้งว่าอาจจะเป็นการฆาตรกรรมโหดที่เกิดจากความแค้นก็เป็นได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้อะไร
ได้แน่ชัดนัก ยังคงเป็นปริศนาต่อไป
ถ้านี้คือการฆาตรกรรม!
.
.
.
แล้วใครล่ะที่เป็นคนฆ่า?
.
.
.
พระเจ้าหรือ....
.
.
.
ความคิดเห็น