คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Part 3 > > > การฝึกมหาโหด 2 < < <
Part 3 > > > การฝึกมหาโหด 2 < < <
“ อู้ย..ย..ย...>o<..หนักชะมัดเลย นี่นายหอบอะไรมานักหนาเนี่ย ”
“ เอาน่า อีกกล่องเดียวก็หมดแล้ว อย่าบ่นเป็นคนแก่ไปหน่อยเลย ”
“ โอ๊ย ! ไอ้ประตูบ้านี่มันจะสูงกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้หรือไงฟะ เจ็บนะโว้ย T_T ”
“ นี่ชางมิน.......ชั้นมีความคิดอะไรดีๆแล้วหล่ะ ”
“ อะไรหรอ ”
“ ลิฟต์ก็มี.....ทำไมเราไม่ลองขึ้นไปกันล่ะ ”
“ เนี่ยนะความคิดที่ดี จะพาให้ซวยล่ะสิไม่ว่า ชั้นยังไม่อยากตายนะ ยังมีหนังสืออีกตั้งหลายเล่มที่ชั้นไม่เคยอ่าน ”
“ โธ่เอ๊ย.......ทำไมปอดแหกหยั่งงี้นะ วันนี้วันเสาร์พวกนั้นไม่อยู่หรอกน่า ”
“ จากการคำนวน เปอร์เซ็นต์ที่จะถูกจับได้ มัน 50:50 เลยนะ ไม่เอาหรอก ”
“ ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงล่ะ วันนี้หอเงียบจะตาย หรือนายจะแบกของพวกนี้ขึ้นไปชั้น 9 อีก คิดดูดีๆน้า นายยกมันขึ้นไปตั้ง 3 รอบแล้วนะ ไม่เหนื่อยหรอ......ไหนจะประตูเข้าหออีก เตี้ยก็เตี้ยนา....ว่าไง สนป่ะๆ ”
“ แหม.....มันก็จริงอยู่หรอกนะ แต่..... ”
“ งั้นชั้นไปหล่ะ เจอกันข้างบนละกัน บ๊ายบาย ”
“ รอด้วยสิจุนซู ทำไมชั้นต้องมายกของของแกด้วยวะ >O< ”
“ เห็นมะ ชั้นบอกแล้วว่าไม่มีใครอยู่หรอก ”
“ รู้งี้น่าจะขึ้นมาตั้งนานแล้วเนอะ ”
“ ทีเงี้ยทำพูดดี ตอนแรกล่ะปอดแหก ”
“ ใครจะไปรู้ล่ะ งั้น....เราลงไปหาไรกินกัน ชั้นรู้จักร้านอร่อยๆหลายร้านเลยนะ ”
“ แต่ว่าเรายังไม่ได้เก็บของเข้าห้องเลยนะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยมาเก็บก็ได้ ที่นี่ไม่มีขโมยหรอก ไปเถอะ ชั้นหิวแล้ว ”
“ เอางั้นหรอ งั้นก็ไปเถอะ ชั้นก็ชักจะหิวแล้วเหมือนกัน ”
“ งั้นเราลงลิฟท์กันนะ ^O^ ”
ว่าแล้วร่างสูงนั่นก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ด้วยท่าทางตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยขึ้นลิฟต์มาก่อน
“ ได้ใช้ลิฟต์เนี่ยมันทำให้รู้สึกดีจังเลยเนาะ ^_^ ”
“ ทำเป็นไม่เคยใช้ไปได้ ”
“ ก็ใช่น่ะสิ ตั้งแต่ชั้นเข้ามาตอนม.1 เพิ่งเคยได้ใช้ลิฟต์ครั้งแรกก็ตอนนี้แหล่ะ ตื่นเต้นชะมัดเลย ”
“ -*- น่าตื่นเต้นตรงไหนเนี่ย ”
“ อ๊า.....ถึงแล้ว จะได้กินของอร่อยซะทีนะ ”
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด ก็ปรากฏร่างของคนที่จุนซูไม่ปรารถนาจะพบเจอมากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ จอมมารคิม แจจุง
“ O_O จอมมารคิม แจจุง ”
จุนซูเผลออุทานขึ้นเมื่อเห็นร่างของซาตานจอมโหด แววตาบ่งบอกถึงความเคียดแค้น ไม่รอช้าความคิดที่จะเอาตัวรอดก็ผุดขึ้นมาในสมอง พลันสั่งการให้จุนซูรีบเอื้อมมือเรียวเล็กนั่นกดปิดประตูลิฟต์โดยด่วน แต่ว่าไม่ทันที่ลิฟต์จะปิดดี มือของจอมมารก็ดันเข้ามาขวางไว้จนประตูเปิดออก
“ จอมมารงั้นหรอ นายอยากจะลองดีกับชั้นใช่มั้ย ”
นั่นคือน้ำเสียงเย็นชาที่ออกมาจากปากของซาตาน
“ ชั้น....คือ........>_< ..... ”
ทำไงดี ชางมินเอ๊ย....ช่วยชั้นทีโว้ยยยย (- - )( - -)(- - )( - -) อ้าว! มันหายไปไหนวะ อย่าเอาตัวรอดคนเดียวสิเฟ้ย
“ ก็ชั้นเพิ่งย้ายมาวันนี้นี่ แล้วอีกอย่างของมันก็ทั้งหนักทั้งเยอะ ใครจะแบกไหวล่ะ ”
“ ชั้นว่าชั้นเคยบอกนายไปแล้วนะว่ากฎของที่นี่ก็คือ ห้ามนักเรียนทุกคนใช่ลิฟต์ แต่นายกลับฝ่าฝืน เพราะฉะนั้น นายต้องถูกทำโทษ ”
“ ทำโทษงั้นหรอ นายจะทำอะไรชั้น.... ”
“ เดี๋ยวก็รู้ ”
“ นายมันก็เป็นแค่ประธานนักเรียนแหล่ะน่า ไม่ใช่ ผอ. ซะหน่อย อย่ามาวางอำนาจหน่อยเลย ”
“ ชั้นจะทำให้นายรู้ว่าชั้นน่ะ มีสิทธิ์ในโรงเรียนนี้มากกว่าที่นายคิดซะอีก นายคอยดูให้ดีนะ ”
ว่าแล้วร่างบางก็เดินไปหยิบโทรโข่งแล้วเดินออกไปที่หน้าตึก ทันทีที่พูดคำแรกขึ้น นักเรียนทั้งหมดต่างก็โผล่หน้าออกมาจากระเบียงเพื่อที่จะฟังคำบัญชาจากซาตาน
“ ทุกคนฟังทางนี้ ชั้นขอสั่งห้ามไม่ให้ใครก็ตามพูดคุยหรือเกี่ยวข้องกับคิม จุนซู เด็ดขาด ถ้าใครขัดคำสั่งชั้นจะถือว่าคนๆนั้นต้องการที่จะเป็นศัตรูกับชั้น แล้วใครที่รู้ตัวว่าอยู่ชั้น 9 ให้เอาข้าวของของคิม จุนซูโยนลงมาข้างล่างให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว เอาหล่ะ กลับเข้าห้องของตัวเองได้ ”
จุนซูได้แต่ยื่นตัวแข็งมองดูกระเป๋าสัมภาระ และกล่องใส่หนังสือของตัวเองร่วงโปรยปรายลงมาจากชั้น 9 ราวกับหิมะตก ของบางอย่างก็ใช้การได้ แต่บางอย่างก็ไม่สามารถใช้การได้อีก อย่างเช่นรูปพ่อกับแม่ของจุนซูที่แตกยับเยิน หรือจะเป็น Laptop ราคาแพง ที่พ่อกับแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็กดีๆนี่เอง
“ T_T......นายมันไม่ใช่คน นายมันเป็นซาตาน ทำไมนายถึงใจร้ายได้ขนาดนี้นะ คิม แจจุง ชั้นไปทำอะไรให้นายนักหนา ทำไมนายถึงตามจองล้างจองผลาญชั้นไม่เลิก ทำไม..... ”
ร่างเล็กพูดด้วยน้ำตานองหน้า เห็นอย่างนั้น ชางมินจึงวิ่งเข้ามาปลอบ พลางจ้องไปที่ซาตานตาเขม็ง
“ นายทำมากเกินไปแล้วนะ คิม แจจุง ”
“ ชั้นไม่สนใจหรอกนะ การที่นายอยู่ข้างคิม จุนซู ก็เท่ากับว่านายเป็นศัตรูของชั้น ดูแลเพื่อนของนายให้ดีเถอะ แล้วก็ช่วยเก็บขยะพวกนี้ไปให้พ้นทางด้วย แล้วจำไว้ว่าลิฟต์ที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับคนอย่างพวกนาย ”
พูดจบร่างนั้นก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับประตูลิฟต์ที่ปิดลง เหลือก็แต่จุนซูผู้น่าสงสารที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง ว่าจะเป็นยังไงต่อไป
“ มาช่วยกันเก็บของเถอะจุนซู มาเร็ว เดี๋ยวชั้นช่วยน้า.....ดูสิ นี่รูปนายตอนเด็กๆ น่ารักจังเลย ^_^ ”
ชางมินพยายามพูดให้จุนซูรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล
“ พอเถอะชางมิน นายไม่จำเป็นต้องมาช่วยชั้น ถ้านายไม่อยากเดือดร้อนก็เลิกยุ่งกับชั้นซะเถอะ ”
“ นายพูดหยั่งงี้ได้ไง ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ มาเถอะ ชั้นจะช่วยนายเก็บเองนะ ”
“ นะ.....นาย.....คือเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้นเลยนะ ชั้นเนี่ยโชคดีจริงๆ ที่เจอคนอย่างนาย ” ร่างเล็กยิ้มทั้งน้ำตา
“ เกิดอะไรขึ้นเนี่ยจุนซู ”
ยูชอนที่เพิ่งมาถามขึ้นเมื่อเห็นจุนซูนั่งร้องให้ทรุดอยู่กับพื้นส่วนข้างๆ ก็มีข้าวของกระจัดกระจายอยู่หน้าหอเต็มไปหมด
“ ก็ไปถามเพื่อนนายดูสิ ที่จุนซูร้องไห้ขนาดเนี้ยก็เป็นฝีมือเพื่อนนายนั่นแหล่ะ ” ชางมินพูดขึ้น
“ แจจุงมันทำอะไรนายหรอ ”
“ ช่างมันเถอะ ไป...ชางมิน เก็บของกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะเปล่าๆ ”
“ มา.....เดี๋ยวชั้นช่วยนะ ”
“ ขอบใจ แต่ช่วยไปบอกเพื่อนนายดีกว่าว่าอย่ามายุ่งกับเพื่อนชั้นอีก ”
“ เอาน่า ให้ชั้นช่วยนะ เดี๋ยวเราไปขึ้นลิฟต์กัน นายจะได้ไม่เหนื่อยไง ”
“ ไม่หล่ะ ขอบใจนะ แต่....ชั้นคงใช้ลิฟต์ไม่ได้หรอก ”
“ นายใช้ไม่ได้แต่ชั้นใช้ได้.....เอามานี่ เดี๋ยวชั้นจะขนเองทั้งหมดเลย นายไปคอยช่วยยกข้างบนเถอะ ”
“ เอางั้นหรอ ก็ดีเหมือนกันนะ จุนซู เราไปรอข้างบนกันดีกว่า ”
ว่าแล้วจุนซูกับชางมินก็รีบวิ่งขึ้นบันได้ไปรอรับของจากยูชอน อย่างน้อยมีเพื่อนที่ดีและมีคนใจดีอยู่ข้างๆ ก็ทำให้จุนซูมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป ถึงจะถูกคนอื่นกลั่นแกล้งบ้างก็ไม่เป็นไร
“ แจจุง ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย ”
“ เรียกชื่อชั้นถูก แสดงว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆเลยใช่มั้ย ^_^ ”
“ ชั้นขอคิม จุนซู เถอะนะ ”
“ ขอหรอ ....... ” แล้วใบหน้าที่เพิ่งยิ้ม ก็กลับกลายมาเป็นใบหน้าอันเย็นชาอีกครั้ง
“ ใช่ นายได้ยินไม่ผิดหรอก ชั้น-ขอ-คิม-จุน-ซู ”
ยูชอนพูดย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง
“ นายหมายความว่าไง ”
“ ชั้นอยากให้นายยกเลิกคำพูดที่ว่าห้ามไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับจุนซู ”
“ นายล้อชั้นเล่นใช่มั้ย ”
“ ชั้นพูดจริงนะ ชั้นไม่อยากเห็นจุนซูอยู่ที่โรงเรียนนี้อย่างหวาดระแวง ชั้นอยากให้เค้าอยู่โรงเรียนนี้อย่างมีความสุข แล้วก็มีเพื่อน ”
“ แกเห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อนของแกงั้นหรอ ”
“ ชั้นเห็นแก่ความถูกต้องต่างหาก ที่นายทำน่ะมันแรงเกินไป นายรู้มั้ยจากนี้จุนซูจะโดนอะไรบ้าง ”
“ รู้สิ ก็อาจจะโดนแกล้งนิดๆหน่อยๆ อย่าง....โดนผู้คนรังเกียจ โดนเอารองเท้าไปซ่อน หรือไม่ก็ถูกเอาน้ำสาดจากด้านบนขณะเดินอยู่ก็ได้ เหมือนไอ้พวกที่มันเคยต่อต้านชั้นไง ”
“ คิม แจจุง แกนี่มันโหดร้ายกว่าที่ชั้นคิดซะอีก ตั้งแต่เด็กๆ ชั้นไม่เคยเห็นแกเกลียดใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ อย่างว่าแหล่ะ แกมันไม่ใช่คน ”
“ หุบปากของแกไปเลยนะยูชอน ถ้าแกคิดว่ายังเป็นเพื่อนชั้นอยู่ล่ะก็เลิกช่วยพวกนั้นได้แล้ว ”
“ ก็เพราะนายเป็นเพื่อนชั้นยังไงล่ะ คิม แจจุง ”
พูดจบยูชอนก็เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง เหลือก็แต่แจจุง ที่เหมือนจะทวีความแค้นขึ้นเรื่อยๆ
“ คิม จุนซู นายแย่งเพื่อนของชั้นไป นายไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขหรอก นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ”
> > > เช้าวันรุ่งขึ้น < < <
“ เอาละจ้ะ นักเรียนทุกคน วันนี้เราจะเรียนเรื่องภาคตัดกรวยกันนะจ๊ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยากมากนะ ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ ”
“ อะไรวะเนี่ย งงชะมัดเลย ” จุนซูพึมพำกับตัวเอง
“ เอาหล่ะ ใครทำโจทย์ข้อนี้ได้มั่งจ๊ะ ”
“ คิม จุนซู ครับ เค้าบอกว่าเรื่องแค่เนี้ย ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยฮะ ”
“ จริงหรอจ๊ะ.....แหม...อย่างนี้ก็คงรู้คำตอบอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ”
O_O ไม่รู้ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น >_< ใครแกล้งวะเนี่ย ง่ายอะไรกัน ต่อให้ไปวิ่งรอบสนาม 10 รอบยังง่ายกว่าเลย
“ เอ่อ........คำตอบคือ.......คือ..... ”
“ ว่าไงล่ะจ๊ะ ”
“ คือ................... ” ไอ้บ้าเอ๊ย โดนแต่เช้าเลย
จุนซูที่ถูกแกล้งได้แต่มองไปรอบๆห้องเพื่อหวังว่าอาจจะมีคำตอบลอยอยู่บ้าง....แล้วก็มีจริงๆด้วย
“ สมการคือ 4x2 +24x + 3y2 - 12y - 144 =0 ครับ ”
“ เก่งมากจ้ะ เอาหล่ะ ไปพักได้ ”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“ ขอบใจนายมากเลยนะยูชอน ที่ช่วยชั้นวันนี้อ้ะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอก ชั้นก็แค่เขียนคำตอบแล้วชูขึ้นมาให้เท่านั้นแหล่ะ ถ้านายไม่มองมานอกหน้าต่างนายก็ไม่เห็นหรอก จริงมะ ^_^ ”
“ ดีจังนะที่มีคนใจดีอย่างนายมาคอยช่วย แถมยังยิ้มเก่งอีกต่างหาก แค่เนี้ย ชั้นก็ดีใจแล้ว “
“ แต่ชั้นคงช่วยนายไม่ได้ตลอดหรอกนะ นายต้องรู้จักดูแลตัวเอง ยังมีอะไรอีกเยอะที่รอนายอยู่ ”
“ ไม่เอาน่า....อย่าพูดงั้นสิ รางไม่ดีเลย ”
“ จุนซู.....ยูชอน......ชั้นอยู่ทางนี้ ” ชางมินตะโกนเรียก
“ วันนี้เราจะกินอะไรกันดีน้า..... ”
ชางมินพูดพลางรีบวิ่งไปที่ร้านขายอาหารที่ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล แต่กลับถูกแกล้งแซงคิวแล้วแซงคิวอีก
“ นี่พวกนาย
“ ใครกันที่แซงคิว พวกเรามาต่อกันตั้งนานแล้วนะ ” นักเรียนคนนึงพูดขึ้นด้วยท่าทางกวนตี-น
“ ช่าย....มาทีหลังแล้วอย่าพาลดิ โห่...โห่.... ” อันธพาลอีกตัวพูดขึ้นพลางโห่ไล่ชางมิน
“ เห็นชัดๆว่าพวกนาย
“ พูดงี้อยากมีเรื่องหรอวะ ”
ว่าแล้วไอ้หมูตอนอันธพาลก็ง้างหมัดเพื่อจะต่อยไปที่หน้าชางมิน แต่แล้วก็มีมือหนึ่งมาขวางไว้ พลางสวนกลับซะจนไอ้หมูตอนหน้าหงาย
“ ปาร์ค ยูชอน O_O เฮ้ย ! ไปกันดีกว่าว่ะ ”
“ โห....เก่งจังเลยเพ่ สุดยอด อย่างกะพระเอกในหนังแน่ะ ”
“ แล้วนายจะเป็นนางเอกหรือไง -*- ”
“ หุหุ คงสยองดีพิลึก ”
“ ว่าแต่....เป็นอะไรมากรึเปล่าชางมิน ”
“ โอ๊ย สบายมาก ถ้านับเรื่องเมื่อเช้าด้วยละก็ จิ๊บๆ ”
“ เมื่อเช้านายก็โดนหรอ ”
“ แหงหล่ะ ใครจะไปคิดล่ะว่าอยู่ดีๆประตูห้องมันจะเตี้ยลงน่ะ ”
“ หมายความว่าไง ไม่เข้าใจ ”
“ ก็มีคนเอาแผ่นไม้ไปติดไว้บนประตูน่ะสิ พอชั้นเดินเข้าไปในห้อง หัวก็โขกเข้าไปเต็มๆเลย ดูสิ หัวยังโนอยู่เลยนะ ”
“ นี่มันชักจะเล่นแรงเกินไปแล้วนะ ชั้นจะไปคุยกับคิม แจจุงให้รู้เรื่อง ”
“ ไม่ต้องหรอก ยังไง วันนี้นายก็ต้องไปฝึกทำอาหารกับมันอยู่แล้วนิ่ ถึงตอนนั้นค่อยคุยกับมันก็ได้ ”
“ เอางั้นหรอยูชอน ”
“ เอางั้นแหล่ะจุนซู กินข้าวกันเถอะชั้นหิวแล้ว ” ชางมินพูดขึ้น
“ กินก็กิน ”
“ ชั้นเคยอ่านในหนังสือนะว่า อย่าไว้ใจคนของฝ่ายตรงข้าม เพราะว่ายังไงเค้าก็เคยอยู่ฝ่ายเดียวกันมาก่อน ย่อมต้องมีอะไรแอบแฝง ”
ชางมินพูดขึ้นขณะนั่งกินข้าว ทำให้ยูชอนถึงกับสำลัก จนต้องรีบหยิบน้ำขึ้นมากิน
“ นายหมายความว่าไงหรอชางมิน ”
“ ไม่รุ กันไว้ดีกว่าแก้ ” ชางมินพูดพลางมองไปที่ยูชอน
“ แต่ชั้นเคยอ่านเจอเหมือนกันนะว่า คนที่อ่านหนังสือมากไม่จำเป็นต้องฉลาดทุกคนน่ะ ” ยูชอนพูดเหน็บชางมิน
“ เล่มไหนหรอ ชั้นไม่เห็นเคยอ่านเลย ” แต่เหมือนชางมินจะไม่รู้ตัว
“ สงสัยจะจริงแฮะ ฮ่าๆ..ๆ..ๆ... ”
หลังจากเลิกเรียนต่างคนต่างก็แยกย้ายไปชมรมของตัวเอง ชางมินไปชมรมหนอนหนังสือ ส่วนจุนซูก็ต้องมาที่ชมรมงานบ้าน
“ หวัดดีฮะพี่ฮีชอล ”
“ ดีๆ เฮ่อ....วันนี้ชมรมสกปรกจังเล้ย ไม่รุจักเก็บกันซะมั่ง.....งุบงิบๆ..... ”
ฮีชอลพูดพลางเก็บของที่วางเป็นระเบียบอยู่แล้ว แต่ในความคิดของเขา มันยังไม่เรียบร้อยนั่นเอง
“ ไง ยูชอน ทำอะไรอยู่น่ะ ”
“ รดน้ำต้นไม้น่ะสิ ดอกไม้สวยๆ ก็ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่นะ ^_^ ”
“ หวัดดีฮะพี่ยุน...... ”
“ เอากองไว้ตรงนั้นแหล่ะ ”
“ -*- หวัดดีฮะพี่คยูมิน จะไปไหนกันหรอ ”
“ ก็ไปทำขนมกันน่ะสิจ๊ะ ” ซองมินพูดพร้อมกับหันไปสบตาคยูจังอย่างมีเลศนัย
“ ขนมอะไรของมันวะ ทำกันทุกวัน เลิกเรียนทีก็หายหัวที ไม่เห็นจะเคยมีขนมอะไรมาให้กินมั่งเลย ”
“ แหม.....ฮีชอล ก็ที่นี่มันมีอุปกรณให้ทำซะเมื่อไหร่ล่ะ ห้องครัวน่ะแจจุงก็ยึดไปทำอาหารหมดแล้ว พวกเราก็ต้องกลับไปทำที่อพาร์ทเม้นท์ของเราน่ะสิ เนอะ...ซองมิล ”
“ บ้าหรอ ” ซองมินอายหน้าแดง
“ มันจะอายทำไมวะน่ะ แค่ทำขนม อย่าให้ชั้นจับได้นะโว้ยว่าพวกแกแอบไปทำข้าวเหนียวถั่วดำกันน่ะ ชั้นเอาตายแน่ๆ ”
“ บรึ๋ยยยย น่ากลัวจัง ไปกันเถอะคยูจัง ”
ว่าแล้วคยูจังกับซองมินก็ขับรถเบนซ์คันหรูออกไปข้างนอกด้วยท่าทางที่มีความสุข
“ เอ่อ.....พี่คยูมินเค้าไม่ได้อยู่หอในโรงเรียนหรอครับ ”
“ อื้อ........มันอยู่อพาร์ทเม้นท์กันสองคนน่ะแหล่ะ ตอนแรกไอ้ซองมินมันก็อยู่บ้านหรอกนะ แต่มันบอกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจมัน ก็เลยย้ายมาอยู่กะไอ้คยูน่ะแหล่ะ แ-ร-ด จริงๆเลยเพื่อนกรู ”
“ แล้วพี่ฮีชอลล่ะฮะ ”
“ ชั้นก็อยู่บ้านชั้นน่ะสิ คงไม่อยู่กับผั-ว เหมือนมันหรอก จริงๆเลยน้า......งุบงิบๆ..... ”
“ ไปดีกว่าเรา ขืนอยู่คงหูแฉะแน่เลย...... ”
“ คิม จุนซู มาก็ดีแระ ตามชั้นมา ”
แจจุงพูดพลางเดินเข้าไปในห้องครัวของชมรม จุนซูจึงเดินตามไป
“ อย่างแรกเลยคนทุกคนต้องทำกิมจิเป็น นายทำเป็นรึเปล่า ”
“ กิมจิหรอ........ไม่เป็นอ้ะ..... ”
“ แค่กิมจิก็ทำไม่เป็นหรอ โง่จริงๆด้วย ”
“ อะไรกัน แค่นี้ก็ต้องว่าด้วยหรอ ”
“ ไปเอาผักตรงโน้นมา ”
“ (- - )( - -) ไหนอ้ะ ”
“ ในสวนข้างหลังน่ะ ”
“ คงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ม้างแค่กิมจิ ไม่เห็นต้องใช้ผักดีขนาดนั้นเลยนี่ ”
“ สงสัยนายคงต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่นะ การทำอาหารที่ดีน่ะ เราต้องคำนึงถึงความสดของอาหาร แล้วก็ทำให้คนที่กินอาหารของเรามีความสุข ถึงจะเป็นแค่กิมจิที่ทุกบ้านก็มีเหมือนๆกัน แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เหมือนกับคนอื่นที่เอาเศษผักมาทำ เข้าใจมั้ย ”
เวลานายทำอาหารนี่ดูเหมือนเป็นคนละคนเลยนะเนี่ย ใส่ใจแม้กระทั่งอาหารพื้นๆ แต่ทำไมบางครั้งนายกลับดูน่ากลัวเหมือนเป็นคนละคนเลยล่ะ คิม แจจุง
“ ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะ ไปเอามาสิ ”
ว่าแล้วจุนซูก็รีบวิ่งไปที่แปลงผักด้านหลัง แล้วหอบผักกาดกับต้นหอมกลับมาเต็มไม้เต็มมือ
“ เอาผักไปล้าง ”
“ ใช้จังนะ ”
“ บ่นอะไร ทำไป ”
“ ผักนี่นายเป็นคนปลูกเองหรอ ”
“ ใช่ ทำไม ”
“ ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าคนอย่างนายจะปลูกผักได้งามขนาดเนี้ย อ้ะ เสร็จแระ ”
“ ทำไมล่ะ คนอย่างชั้นจะปลูกผักให้งามเหมือนยูชอนปลูกดอกไม้มั่งไม่ได้รึไง ”
แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับยื่นใบหน้าหวานเข้ามาใกล้กับจุนซู ทำให้ร่างเล็กตกใจจนเผลอปล่อยผักที่เพิ่งล้างเสร็จหล่นลงพื้น
“ ไม่มีสติเอาซะเลยนะ เก็บไปล้างใหม่เดี๋ยวนี้ ”
“ อะไรกัน....ก็นายนั่นแหล่ะ ”
“ เอาหล่ะก่อนอื่นนายต้องหั่นผักให้เท่ากันทุกชิ้นซะก่อน ”
“ O_O หา.......ต้องเท่ากันทุกชิ้นด้วยหรอ ” แกล้งกันชัดๆ
“ ใช่ ดูตัวอย่างนะ ”
ว่าแล้วแจจุงก็ค่อยๆหั่นผักจากช้าๆและเริ่มเร็วจนจุนซูแทบจะมองไม่ทัน ที่สำคัญผักทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะ
“ เก่งขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ” จุนซูกลืนน้ำลาย แบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ เอ้า ตานายแล้ว ”
แจจุงโยนมีดมาจนจุนซูเกือบจะรับพลาด ว่าแล้วจุนซูก็ค่อยๆหั่นผักอย่างพยายามที่สุดในชีวิตแต่ก็......
“ เละไม่เป็นท่า ถ้าหั่นผักแค่นี้ยังทำไม่ได้อย่าหวังเลยว่านายจะได้ลายเซ็นจากชั้น ”
“ อย่าเพิ่งรีบตัดสินสิ ชั้นเพิ่งจะเริ่มทำเองนะ ”
- - - - > 1 ชั่วโมงผ่านไป < - - - -
“ ดูสิ เท่ากัน 5 ชิ้นแล้วนะ ^O^ ”
“ ไม่ได้เรื่อง เอาใหม่ๆ ”
“ -*- ”
- - - - > 2 ชั่วโมงผ่านไป < - - - -
“ แจจุง ดูนี่สิ เกือบจะเท่ากันหมดแล้วนะ ^_^ ”
“ เวลาทำอาหารใครเค้าให้พูดเล่า เดี๋ยวน้ำลายก็กระเด็นลงผักหมดหรอก ”
“ คร๊าบ.....ต่อไปจะไม่พูดแล้ว ”
“ ยังจะพูดอีก แล้วก็ใครใช้ให้เรียกชั้นว่าแจ..... ”
“ แจจุงดูนี่สิ ชั้นหั่นเร็วๆได้แล้วน้า..... โอ๊ย ! ”
“ มีดบาดนิ่ ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ”
“ โอ๊ย ! เบาๆสิ ”
“ เอามือมานี่ ”
“ จะทำอะไรน่ะ ”
ว่าแล้วแจจุงก็ค่อยๆเลียลงไปที่แผลพลางดูดนิ้วมือเรียวเล็กนั่นเพื่อเป็นการห้ามเลือด ส่วนเจ้าของมือก็ได้แต่ยืนตัวสั่นงันงก ทำอะไรไม่ถูก
“ นายจะบ้าหรอมากินเลือดชั้นทำไม ”
“ ก็นายชอบว่าชั้นว่าเป็นซาตานไม่ใช่หรอ ซาตานก็ต้องดูดเลือดสิ ^_^ ”
ยิ้มแล้ว......นายนั่นยิ้มแล้ว O_O ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าชายน้ำแข็งจะยิ้มได้ รอยยิ้มของซาตานมันเป็นอย่างงี้นี่เอง ^_^
“ คิดอะไรอยู่เนี่ย ”
“ คิดว่าเวลานายยิ้มแล้วดูดีกว่าตอนทำหน้าบึ้งตั้งเยอะแน่ะ ^O^ ”
“ อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย ” กลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง
“ นี่....แจจุง ”
“ อย่าเรียกงั้นนะว้อย ” < - - - นึกในใจ
“ ทำไมนายถึงได้รังเกียจชั้นนักล่ะ ” ทำหน้าเศร้า
“ อยากให้ชั้นชอบนายจริงๆหรอ ”
ว่าแล้วแจจุงก็เลื่อนหน้าเข้ามาที่ซอกคอขาวเนียนของจุนซูพลางเลื่อนมือปัดป่ายไปตามแผ่นหลังของร่างเล็ก ตอนนี้ ไม่มีอะไรจะมาหยุดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของซาตานได้
“ เพราะว่านายมันสะอาดเกินไปน่ะสิ บริสุทธิ์จนชั้นอยากจะทำให้มันแปดเปื้อน ”
ร่างบางพูดพลางขบเม้มริมฝีปากอุ่นๆไปที่ซอกคอนั่นเพื่อหวังทำสัญลักษ์แสดงความเป็นเจ้าของ รอยเล็กๆสีกุหลาบถูกประทับลงบนซอกคอที่ขาวเนียน จนทำให้รอยนั่นดูเด่นชัดขึ้น
“ นายไม่มีทางได้ลายเซ็นจากชั้นง่ายๆหรอก ” แจจุงกระซิบเบาๆ พลางขบเม้มไปที่ใบหู
“ นั่นสินะ ^_^ งั้นชั้นก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้( ทำท่า FIGHTING )....ขอบใจมากนะแจจุงที่ช่วยเตือนสติ ชั้นไปหล่ะ ”
ว่าแล้วร่างเล็กนั่นก็เดินออกไปด้วยใบหน้าที่มีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าได้ทำให้ซาตานผู้หิวโหยกลับมาอีกครั้ง
“ กล้ามากนะคิม จุนซู กล้าแสดงกิริยาแบบนั้นต่อหน้าชั้นงั้นหรอ อ่า.....ทำไมมันช่างร้อนรุ่มอย่างนี้นะ ใครก็ได้.....ช่วยดับไฟในตัวชั้นที คิม จุนซู นายต้องรับผิดชอบกับการกระทำครั้งนี้ ”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
หุ หุ ลุ้นกันล่ะสิ ยังค่ะ ยังไม่ถึงเวลา ^_^ อดใจรอไปก่อนนะคะ แหม....ถ้าเป็นอะฮั้นละก็ มีซาตานหล่อลากขนาดนี้ จะยอมพลีกายถวายชีวีแต่โดยดีเลยนิ แต่น่าเสียดาย คงได้แค่ฝัน T_T น่าสงสารน้องมินจังที่หัวโขกอยู่บ่อยๆ แต่ช่วยไม่ได้เกิดมาสูงเองนะจ๊ะ เรื่องนี้จะพยายามดึงจุดเด่นของแต่ละคนออกมาเป็นนิสัยของตัวละครนั้น อย่างเช่นความน่ารักสดใสของนู๋เซีย ความเจ้าชู้และใจดีของมิกกี้ ความอยากเป็นที่ 1 ของยุนโฮ และความรักระหว่าง คยูมิน แต่ว่าฮีชอลเป็นกรณีพิเศษ เอาสิ่งที่ตรงข้ามมาใส่เป็นนิสัยให้นะจ๊ะ ส่วนซาตานที่รักหรือว่า แจจุงของเรานั้น ดึงเอาบุคลิกที่ดูเหมือนจะเงียบขรึม ( ถ้าไม่ได้พูด ) แล้วก็เป็นตัวละครที่ดูน่าค้นหาเหมือนกับชีวิตจริง ยังไงก็ช่วยติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้า ~ + * HuNyOoMiNjAe * + ~ FIGHTING !
ความคิดเห็น