ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ + * The Devil Of Love หนุ่มหน้าหวานซาตานรูปหล่อ * + ~

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3 > > > การฝึกมหาโหด 2 < < <

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 50




                          Part 3  > > > การฝึกมหาโหด 2 < < <

     

                    อู้ย..ย..ย...>o<..หนักชะมัดเลย นี่นายหอบอะไรมานักหนาเนี่ย

     

                    เอาน่า อีกกล่องเดียวก็หมดแล้ว อย่าบ่นเป็นคนแก่ไปหน่อยเลย

     

                    โอ๊ย ! ไอ้ประตูบ้านี่มันจะสูงกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้หรือไงฟะ เจ็บนะโว้ย T_T ”

     

                    นี่ชางมิน.......ชั้นมีความคิดอะไรดีๆแล้วหล่ะ

     

                    อะไรหรอ  

     

                    ลิฟต์ก็มี.....ทำไมเราไม่ลองขึ้นไปกันล่ะ

     

                    เนี่ยนะความคิดที่ดี จะพาให้ซวยล่ะสิไม่ว่า ชั้นยังไม่อยากตายนะ ยังมีหนังสืออีกตั้งหลายเล่มที่ชั้นไม่เคยอ่าน

     

                    โธ่เอ๊ย.......ทำไมปอดแหกหยั่งงี้นะ วันนี้วันเสาร์พวกนั้นไม่อยู่หรอกน่า

     

                    จากการคำนวน เปอร์เซ็นต์ที่จะถูกจับได้ มัน 50:50 เลยนะ ไม่เอาหรอก

     

                    ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงล่ะ วันนี้หอเงียบจะตาย หรือนายจะแบกของพวกนี้ขึ้นไปชั้น 9 อีก คิดดูดีๆน้า นายยกมันขึ้นไปตั้ง 3 รอบแล้วนะ ไม่เหนื่อยหรอ......ไหนจะประตูเข้าหออีก เตี้ยก็เตี้ยนา....ว่าไง สนป่ะๆ

     

                    แหม.....มันก็จริงอยู่หรอกนะ แต่.....

     

                    งั้นชั้นไปหล่ะ เจอกันข้างบนละกัน บ๊ายบาย

     

                    รอด้วยสิจุนซู ทำไมชั้นต้องมายกของของแกด้วยวะ >O< ”

     

     

                    เห็นมะ ชั้นบอกแล้วว่าไม่มีใครอยู่หรอก

     

                    รู้งี้น่าจะขึ้นมาตั้งนานแล้วเนอะ

     

                    ทีเงี้ยทำพูดดี ตอนแรกล่ะปอดแหก

     

                    ใครจะไปรู้ล่ะ งั้น....เราลงไปหาไรกินกัน ชั้นรู้จักร้านอร่อยๆหลายร้านเลยนะ

     

                    แต่ว่าเรายังไม่ได้เก็บของเข้าห้องเลยนะ

     

                    ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยมาเก็บก็ได้ ที่นี่ไม่มีขโมยหรอก ไปเถอะ ชั้นหิวแล้ว

     

                    เอางั้นหรอ งั้นก็ไปเถอะ ชั้นก็ชักจะหิวแล้วเหมือนกัน

     

                    งั้นเราลงลิฟท์กันนะ ^O^ ”

     

    ว่าแล้วร่างสูงนั่นก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ด้วยท่าทางตื่นเต้นราวกับว่าไม่เคยขึ้นลิฟต์มาก่อน

     

                   

                    ได้ใช้ลิฟต์เนี่ยมันทำให้รู้สึกดีจังเลยเนาะ ^_^ ”

     

                    ทำเป็นไม่เคยใช้ไปได้

     

                    ก็ใช่น่ะสิ ตั้งแต่ชั้นเข้ามาตอนม.1 เพิ่งเคยได้ใช้ลิฟต์ครั้งแรกก็ตอนนี้แหล่ะ ตื่นเต้นชะมัดเลย

     

                    -*- น่าตื่นเต้นตรงไหนเนี่ย

     

                    อ๊า.....ถึงแล้ว จะได้กินของอร่อยซะทีนะ

     

    ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด ก็ปรากฏร่างของคนที่จุนซูไม่ปรารถนาจะพบเจอมากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ จอมมารคิม แจจุง

     

                    “ O_O จอมมารคิม แจจุง

     

    จุนซูเผลออุทานขึ้นเมื่อเห็นร่างของซาตานจอมโหด แววตาบ่งบอกถึงความเคียดแค้น ไม่รอช้าความคิดที่จะเอาตัวรอดก็ผุดขึ้นมาในสมอง พลันสั่งการให้จุนซูรีบเอื้อมมือเรียวเล็กนั่นกดปิดประตูลิฟต์โดยด่วน แต่ว่าไม่ทันที่ลิฟต์จะปิดดี มือของจอมมารก็ดันเข้ามาขวางไว้จนประตูเปิดออก

     

                    จอมมารงั้นหรอ นายอยากจะลองดีกับชั้นใช่มั้ย

     

    นั่นคือน้ำเสียงเย็นชาที่ออกมาจากปากของซาตาน

     

                    ชั้น....คือ........>_< .....

     

    ทำไงดี ชางมินเอ๊ย....ช่วยชั้นทีโว้ยยยย (- -  )(  - -)(- -  )(  - -) อ้าว! มันหายไปไหนวะ อย่าเอาตัวรอดคนเดียวสิเฟ้ย

     

                    ก็ชั้นเพิ่งย้ายมาวันนี้นี่ แล้วอีกอย่างของมันก็ทั้งหนักทั้งเยอะ ใครจะแบกไหวล่ะ

     

                    ชั้นว่าชั้นเคยบอกนายไปแล้วนะว่ากฎของที่นี่ก็คือ ห้ามนักเรียนทุกคนใช่ลิฟต์ แต่นายกลับฝ่าฝืน เพราะฉะนั้น นายต้องถูกทำโทษ

     

                    ทำโทษงั้นหรอ นายจะทำอะไรชั้น....

     

                    เดี๋ยวก็รู้

     

                    นายมันก็เป็นแค่ประธานนักเรียนแหล่ะน่า ไม่ใช่ ผอ. ซะหน่อย อย่ามาวางอำนาจหน่อยเลย

     

                    ชั้นจะทำให้นายรู้ว่าชั้นน่ะ มีสิทธิ์ในโรงเรียนนี้มากกว่าที่นายคิดซะอีก นายคอยดูให้ดีนะ

     

    ว่าแล้วร่างบางก็เดินไปหยิบโทรโข่งแล้วเดินออกไปที่หน้าตึก ทันทีที่พูดคำแรกขึ้น นักเรียนทั้งหมดต่างก็โผล่หน้าออกมาจากระเบียงเพื่อที่จะฟังคำบัญชาจากซาตาน

     

                    ทุกคนฟังทางนี้ ชั้นขอสั่งห้ามไม่ให้ใครก็ตามพูดคุยหรือเกี่ยวข้องกับคิม จุนซู เด็ดขาด ถ้าใครขัดคำสั่งชั้นจะถือว่าคนๆนั้นต้องการที่จะเป็นศัตรูกับชั้น แล้วใครที่รู้ตัวว่าอยู่ชั้น 9 ให้เอาข้าวของของคิม จุนซูโยนลงมาข้างล่างให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว เอาหล่ะ กลับเข้าห้องของตัวเองได้

     

    จุนซูได้แต่ยื่นตัวแข็งมองดูกระเป๋าสัมภาระ และกล่องใส่หนังสือของตัวเองร่วงโปรยปรายลงมาจากชั้น 9 ราวกับหิมะตก ของบางอย่างก็ใช้การได้ แต่บางอย่างก็ไม่สามารถใช้การได้อีก อย่างเช่นรูปพ่อกับแม่ของจุนซูที่แตกยับเยิน หรือจะเป็น Laptop ราคาแพง ที่พ่อกับแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็กดีๆนี่เอง

     

                    “ T_T......นายมันไม่ใช่คน นายมันเป็นซาตาน ทำไมนายถึงใจร้ายได้ขนาดนี้นะ คิม แจจุง ชั้นไปทำอะไรให้นายนักหนา ทำไมนายถึงตามจองล้างจองผลาญชั้นไม่เลิก ทำไม.....   

     

    ร่างเล็กพูดด้วยน้ำตานองหน้า เห็นอย่างนั้น ชางมินจึงวิ่งเข้ามาปลอบ พลางจ้องไปที่ซาตานตาเขม็ง

     

                    นายทำมากเกินไปแล้วนะ คิม แจจุง

     

                    ชั้นไม่สนใจหรอกนะ การที่นายอยู่ข้างคิม จุนซู ก็เท่ากับว่านายเป็นศัตรูของชั้น ดูแลเพื่อนของนายให้ดีเถอะ แล้วก็ช่วยเก็บขยะพวกนี้ไปให้พ้นทางด้วย แล้วจำไว้ว่าลิฟต์ที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับคนอย่างพวกนาย

     

    พูดจบร่างนั้นก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับประตูลิฟต์ที่ปิดลง เหลือก็แต่จุนซูผู้น่าสงสารที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

     

                    มาช่วยกันเก็บของเถอะจุนซู มาเร็ว เดี๋ยวชั้นช่วยน้า.....ดูสิ นี่รูปนายตอนเด็กๆ น่ารักจังเลย ^_^ ”

     

    ชางมินพยายามพูดให้จุนซูรู้สึกดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล

     

                    พอเถอะชางมิน นายไม่จำเป็นต้องมาช่วยชั้น ถ้านายไม่อยากเดือดร้อนก็เลิกยุ่งกับชั้นซะเถอะ

     

                    นายพูดหยั่งงี้ได้ไง ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ มาเถอะ ชั้นจะช่วยนายเก็บเองนะ

     

                    นะ.....นาย.....คือเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้นเลยนะ ชั้นเนี่ยโชคดีจริงๆ ที่เจอคนอย่างนาย ร่างเล็กยิ้มทั้งน้ำตา

     

                    เกิดอะไรขึ้นเนี่ยจุนซู

     

    ยูชอนที่เพิ่งมาถามขึ้นเมื่อเห็นจุนซูนั่งร้องให้ทรุดอยู่กับพื้นส่วนข้างๆ ก็มีข้าวของกระจัดกระจายอยู่หน้าหอเต็มไปหมด

     

                    ก็ไปถามเพื่อนนายดูสิ ที่จุนซูร้องไห้ขนาดเนี้ยก็เป็นฝีมือเพื่อนนายนั่นแหล่ะ ชางมินพูดขึ้น

     

                    แจจุงมันทำอะไรนายหรอ

     

                    ช่างมันเถอะ  ไป...ชางมิน เก็บของกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะเปล่าๆ

     

                    มา.....เดี๋ยวชั้นช่วยนะ

     

                    ขอบใจ แต่ช่วยไปบอกเพื่อนนายดีกว่าว่าอย่ามายุ่งกับเพื่อนชั้นอีก

     

                    เอาน่า ให้ชั้นช่วยนะ เดี๋ยวเราไปขึ้นลิฟต์กัน นายจะได้ไม่เหนื่อยไง

     

                    ไม่หล่ะ ขอบใจนะ แต่....ชั้นคงใช้ลิฟต์ไม่ได้หรอก

     

                    นายใช้ไม่ได้แต่ชั้นใช้ได้.....เอามานี่ เดี๋ยวชั้นจะขนเองทั้งหมดเลย นายไปคอยช่วยยกข้างบนเถอะ

     

                    เอางั้นหรอ  ก็ดีเหมือนกันนะ จุนซู เราไปรอข้างบนกันดีกว่า

     

    ว่าแล้วจุนซูกับชางมินก็รีบวิ่งขึ้นบันได้ไปรอรับของจากยูชอน อย่างน้อยมีเพื่อนที่ดีและมีคนใจดีอยู่ข้างๆ ก็ทำให้จุนซูมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไป ถึงจะถูกคนอื่นกลั่นแกล้งบ้างก็ไม่เป็นไร

     

                    แจจุง ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย

     

                    เรียกชื่อชั้นถูก แสดงว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆเลยใช่มั้ย ^_^ ”

     

                    ชั้นขอคิม จุนซู เถอะนะ

     

                    ขอหรอ ....... แล้วใบหน้าที่เพิ่งยิ้ม ก็กลับกลายมาเป็นใบหน้าอันเย็นชาอีกครั้ง

     

                    ใช่ นายได้ยินไม่ผิดหรอก ชั้น-ขอ-คิม-จุน-ซู

     

     ยูชอนพูดย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง

     

                    นายหมายความว่าไง

     

                    ชั้นอยากให้นายยกเลิกคำพูดที่ว่าห้ามไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับจุนซู

     

                    นายล้อชั้นเล่นใช่มั้ย

     

                    ชั้นพูดจริงนะ ชั้นไม่อยากเห็นจุนซูอยู่ที่โรงเรียนนี้อย่างหวาดระแวง ชั้นอยากให้เค้าอยู่โรงเรียนนี้อย่างมีความสุข แล้วก็มีเพื่อน

     

                    แกเห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อนของแกงั้นหรอ

     

                    ชั้นเห็นแก่ความถูกต้องต่างหาก ที่นายทำน่ะมันแรงเกินไป นายรู้มั้ยจากนี้จุนซูจะโดนอะไรบ้าง

     

                    รู้สิ ก็อาจจะโดนแกล้งนิดๆหน่อยๆ อย่าง....โดนผู้คนรังเกียจ โดนเอารองเท้าไปซ่อน หรือไม่ก็ถูกเอาน้ำสาดจากด้านบนขณะเดินอยู่ก็ได้  เหมือนไอ้พวกที่มันเคยต่อต้านชั้นไง

     

                    คิม แจจุง แกนี่มันโหดร้ายกว่าที่ชั้นคิดซะอีก ตั้งแต่เด็กๆ ชั้นไม่เคยเห็นแกเกลียดใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ อย่างว่าแหล่ะ แกมันไม่ใช่คน

     

                    หุบปากของแกไปเลยนะยูชอน ถ้าแกคิดว่ายังเป็นเพื่อนชั้นอยู่ล่ะก็เลิกช่วยพวกนั้นได้แล้ว

     

                    ก็เพราะนายเป็นเพื่อนชั้นยังไงล่ะ คิม แจจุง

     

    พูดจบยูชอนก็เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง เหลือก็แต่แจจุง ที่เหมือนจะทวีความแค้นขึ้นเรื่อยๆ

     

                    คิม จุนซู นายแย่งเพื่อนของชั้นไป นายไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขหรอก นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ

     

     

    > > > เช้าวันรุ่งขึ้น < < <

     

                    เอาละจ้ะ นักเรียนทุกคน วันนี้เราจะเรียนเรื่องภาคตัดกรวยกันนะจ๊ะ  ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยากมากนะ ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ

     

                    อะไรวะเนี่ย งงชะมัดเลย จุนซูพึมพำกับตัวเอง

     

                    เอาหล่ะ ใครทำโจทย์ข้อนี้ได้มั่งจ๊ะ

     

                    คิม จุนซู ครับ เค้าบอกว่าเรื่องแค่เนี้ย ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยฮะ

     

                    จริงหรอจ๊ะ.....แหม...อย่างนี้ก็คงรู้คำตอบอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ

     

    O_O ไม่รู้ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น >_< ใครแกล้งวะเนี่ย  ง่ายอะไรกัน ต่อให้ไปวิ่งรอบสนาม 10 รอบยังง่ายกว่าเลย

     

                    เอ่อ........คำตอบคือ.......คือ.....

     

                    ว่าไงล่ะจ๊ะ

     

                    คือ................... ไอ้บ้าเอ๊ย โดนแต่เช้าเลย

     

    จุนซูที่ถูกแกล้งได้แต่มองไปรอบๆห้องเพื่อหวังว่าอาจจะมีคำตอบลอยอยู่บ้าง....แล้วก็มีจริงๆด้วย

     

                    สมการคือ 4x2 +24x + 3y2 - 12y - 144 =0  ครับ ”

     

                    เก่งมากจ้ะ เอาหล่ะ ไปพักได้

     

                    -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -

     

                    ขอบใจนายมากเลยนะยูชอน ที่ช่วยชั้นวันนี้อ้ะ

     

                    ไม่เป็นไรหรอก ชั้นก็แค่เขียนคำตอบแล้วชูขึ้นมาให้เท่านั้นแหล่ะ ถ้านายไม่มองมานอกหน้าต่างนายก็ไม่เห็นหรอก จริงมะ ^_^ ”

     

                    ดีจังนะที่มีคนใจดีอย่างนายมาคอยช่วย แถมยังยิ้มเก่งอีกต่างหาก แค่เนี้ย ชั้นก็ดีใจแล้ว

     

                    แต่ชั้นคงช่วยนายไม่ได้ตลอดหรอกนะ นายต้องรู้จักดูแลตัวเอง ยังมีอะไรอีกเยอะที่รอนายอยู่

     

                    ไม่เอาน่า....อย่าพูดงั้นสิ รางไม่ดีเลย

     

                    จุนซู.....ยูชอน......ชั้นอยู่ทางนี้ ชางมินตะโกนเรียก

     

                    วันนี้เราจะกินอะไรกันดีน้า.....

     

    ชางมินพูดพลางรีบวิ่งไปที่ร้านขายอาหารที่ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล แต่กลับถูกแกล้งแซงคิวแล้วแซงคิวอีก

     

                    นี่พวกนายน่ะ อย่าแซงคิวเซ่ ชั้นมาก่อนนะโว้ย..ย..

     

                    ใครกันที่แซงคิว พวกเรามาต่อกันตั้งนานแล้วนะ นักเรียนคนนึงพูดขึ้นด้วยท่าทางกวนตี-น

     

                    ช่าย....มาทีหลังแล้วอย่าพาลดิ โห่...โห่.... อันธพาลอีกตัวพูดขึ้นพลางโห่ไล่ชางมิน

     

                    เห็นชัดๆว่าพวกนายมาแซง ยังจะหน้าด้านอีก

     

                    พูดงี้อยากมีเรื่องหรอวะ

     

    ว่าแล้วไอ้หมูตอนอันธพาลก็ง้างหมัดเพื่อจะต่อยไปที่หน้าชางมิน แต่แล้วก็มีมือหนึ่งมาขวางไว้ พลางสวนกลับซะจนไอ้หมูตอนหน้าหงาย

     

                    ปาร์ค ยูชอน O_O เฮ้ย ! ไปกันดีกว่าว่ะ

     

                    โห....เก่งจังเลยเพ่ สุดยอด อย่างกะพระเอกในหนังแน่ะ

     

                    แล้วนายจะเป็นนางเอกหรือไง -*-

     

                    หุหุ คงสยองดีพิลึก

     

                    ว่าแต่....เป็นอะไรมากรึเปล่าชางมิน

     

                    โอ๊ย สบายมาก ถ้านับเรื่องเมื่อเช้าด้วยละก็ จิ๊บๆ

     

                    เมื่อเช้านายก็โดนหรอ

     

                    แหงหล่ะ ใครจะไปคิดล่ะว่าอยู่ดีๆประตูห้องมันจะเตี้ยลงน่ะ

     

                    หมายความว่าไง ไม่เข้าใจ

     

                    ก็มีคนเอาแผ่นไม้ไปติดไว้บนประตูน่ะสิ พอชั้นเดินเข้าไปในห้อง หัวก็โขกเข้าไปเต็มๆเลย ดูสิ หัวยังโนอยู่เลยนะ

     

                    นี่มันชักจะเล่นแรงเกินไปแล้วนะ ชั้นจะไปคุยกับคิม แจจุงให้รู้เรื่อง

     

                    ไม่ต้องหรอก ยังไง วันนี้นายก็ต้องไปฝึกทำอาหารกับมันอยู่แล้วนิ่ ถึงตอนนั้นค่อยคุยกับมันก็ได้

     

                    เอางั้นหรอยูชอน

     

                    เอางั้นแหล่ะจุนซู กินข้าวกันเถอะชั้นหิวแล้ว ชางมินพูดขึ้น

     

                    กินก็กิน

     

                    ชั้นเคยอ่านในหนังสือนะว่า อย่าไว้ใจคนของฝ่ายตรงข้าม เพราะว่ายังไงเค้าก็เคยอยู่ฝ่ายเดียวกันมาก่อน ย่อมต้องมีอะไรแอบแฝง

     

    ชางมินพูดขึ้นขณะนั่งกินข้าว ทำให้ยูชอนถึงกับสำลัก จนต้องรีบหยิบน้ำขึ้นมากิน

     

                    นายหมายความว่าไงหรอชางมิน

     

                    ไม่รุ กันไว้ดีกว่าแก้ ชางมินพูดพลางมองไปที่ยูชอน

     

                    แต่ชั้นเคยอ่านเจอเหมือนกันนะว่า คนที่อ่านหนังสือมากไม่จำเป็นต้องฉลาดทุกคนน่ะ ยูชอนพูดเหน็บชางมิน

     

                    เล่มไหนหรอ ชั้นไม่เห็นเคยอ่านเลย แต่เหมือนชางมินจะไม่รู้ตัว

     

                    สงสัยจะจริงแฮะ ฮ่าๆ..ๆ..ๆ...

     

    หลังจากเลิกเรียนต่างคนต่างก็แยกย้ายไปชมรมของตัวเอง ชางมินไปชมรมหนอนหนังสือ ส่วนจุนซูก็ต้องมาที่ชมรมงานบ้าน

     

                    หวัดดีฮะพี่ฮีชอล

     

                    ดีๆ เฮ่อ....วันนี้ชมรมสกปรกจังเล้ย ไม่รุจักเก็บกันซะมั่ง.....งุบงิบๆ.....

     

     ฮีชอลพูดพลางเก็บของที่วางเป็นระเบียบอยู่แล้ว แต่ในความคิดของเขา มันยังไม่เรียบร้อยนั่นเอง

     

                    ไง ยูชอน ทำอะไรอยู่น่ะ

     

                    รดน้ำต้นไม้น่ะสิ ดอกไม้สวยๆ ก็ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่นะ ^_^ ”

     

                    หวัดดีฮะพี่ยุน......           

     

                    เอากองไว้ตรงนั้นแหล่ะ

     

                    “ -*-  หวัดดีฮะพี่คยูมิน จะไปไหนกันหรอ

     

                    ก็ไปทำขนมกันน่ะสิจ๊ะ ซองมินพูดพร้อมกับหันไปสบตาคยูจังอย่างมีเลศนัย

     

                    ขนมอะไรของมันวะ ทำกันทุกวัน เลิกเรียนทีก็หายหัวที ไม่เห็นจะเคยมีขนมอะไรมาให้กินมั่งเลย

     

                    แหม.....ฮีชอล ก็ที่นี่มันมีอุปกรณให้ทำซะเมื่อไหร่ล่ะ ห้องครัวน่ะแจจุงก็ยึดไปทำอาหารหมดแล้ว พวกเราก็ต้องกลับไปทำที่อพาร์ทเม้นท์ของเราน่ะสิ เนอะ...ซองมิล

     

                    บ้าหรอ ซองมินอายหน้าแดง

     

                    มันจะอายทำไมวะน่ะ แค่ทำขนม อย่าให้ชั้นจับได้นะโว้ยว่าพวกแกแอบไปทำข้าวเหนียวถั่วดำกันน่ะ ชั้นเอาตายแน่ๆ

     

                    บรึ๋ยยยย น่ากลัวจัง ไปกันเถอะคยูจัง

     

    ว่าแล้วคยูจังกับซองมินก็ขับรถเบนซ์คันหรูออกไปข้างนอกด้วยท่าทางที่มีความสุข

     

                    เอ่อ.....พี่คยูมินเค้าไม่ได้อยู่หอในโรงเรียนหรอครับ

     

                    อื้อ........มันอยู่อพาร์ทเม้นท์กันสองคนน่ะแหล่ะ ตอนแรกไอ้ซองมินมันก็อยู่บ้านหรอกนะ แต่มันบอกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจมัน ก็เลยย้ายมาอยู่กะไอ้คยูน่ะแหล่ะ แ-ร-ด จริงๆเลยเพื่อนกรู

     

                    แล้วพี่ฮีชอลล่ะฮะ

     

                    ชั้นก็อยู่บ้านชั้นน่ะสิ คงไม่อยู่กับผั-ว เหมือนมันหรอก จริงๆเลยน้า......งุบงิบๆ.....

     

                    ไปดีกว่าเรา ขืนอยู่คงหูแฉะแน่เลย......

     

                    คิม จุนซู มาก็ดีแระ ตามชั้นมา

     

    แจจุงพูดพลางเดินเข้าไปในห้องครัวของชมรม จุนซูจึงเดินตามไป

     

                    อย่างแรกเลยคนทุกคนต้องทำกิมจิเป็น นายทำเป็นรึเปล่า

     

                    กิมจิหรอ........ไม่เป็นอ้ะ.....

     

                    แค่กิมจิก็ทำไม่เป็นหรอ โง่จริงๆด้วย

     

                    อะไรกัน แค่นี้ก็ต้องว่าด้วยหรอ

     

                    ไปเอาผักตรงโน้นมา

     

                    (- -  )(  - -) ไหนอ้ะ

     

                    ในสวนข้างหลังน่ะ

     

                    คงไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ม้างแค่กิมจิ ไม่เห็นต้องใช้ผักดีขนาดนั้นเลยนี่

     

                    สงสัยนายคงต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่นะ การทำอาหารที่ดีน่ะ เราต้องคำนึงถึงความสดของอาหาร แล้วก็ทำให้คนที่กินอาหารของเรามีความสุข ถึงจะเป็นแค่กิมจิที่ทุกบ้านก็มีเหมือนๆกัน แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เหมือนกับคนอื่นที่เอาเศษผักมาทำ เข้าใจมั้ย

     

                    เวลานายทำอาหารนี่ดูเหมือนเป็นคนละคนเลยนะเนี่ย ใส่ใจแม้กระทั่งอาหารพื้นๆ แต่ทำไมบางครั้งนายกลับดูน่ากลัวเหมือนเป็นคนละคนเลยล่ะ คิม แจจุง

     

                    ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะ ไปเอามาสิ

     

    ว่าแล้วจุนซูก็รีบวิ่งไปที่แปลงผักด้านหลัง แล้วหอบผักกาดกับต้นหอมกลับมาเต็มไม้เต็มมือ

     

                    เอาผักไปล้าง

     

                    ใช้จังนะ

     

                    บ่นอะไร ทำไป

     

                    ผักนี่นายเป็นคนปลูกเองหรอ

     

                    ใช่ ทำไม

     

                    ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าคนอย่างนายจะปลูกผักได้งามขนาดเนี้ย  อ้ะ เสร็จแระ

     

                    ทำไมล่ะ คนอย่างชั้นจะปลูกผักให้งามเหมือนยูชอนปลูกดอกไม้มั่งไม่ได้รึไง

     

    แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับยื่นใบหน้าหวานเข้ามาใกล้กับจุนซู ทำให้ร่างเล็กตกใจจนเผลอปล่อยผักที่เพิ่งล้างเสร็จหล่นลงพื้น

     

                    ไม่มีสติเอาซะเลยนะ เก็บไปล้างใหม่เดี๋ยวนี้

     

                    อะไรกัน....ก็นายนั่นแหล่ะ

     

                    เอาหล่ะก่อนอื่นนายต้องหั่นผักให้เท่ากันทุกชิ้นซะก่อน

     

                    “ O_O หา.......ต้องเท่ากันทุกชิ้นด้วยหรอ แกล้งกันชัดๆ

     

                    ใช่ ดูตัวอย่างนะ

     

    ว่าแล้วแจจุงก็ค่อยๆหั่นผักจากช้าๆและเริ่มเร็วจนจุนซูแทบจะมองไม่ทัน ที่สำคัญผักทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะ

     

                    เก่งขนาดนี้เลยหรอเนี่ย จุนซูกลืนน้ำลาย แบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

     

                    เอ้า ตานายแล้ว  

     

    แจจุงโยนมีดมาจนจุนซูเกือบจะรับพลาด ว่าแล้วจุนซูก็ค่อยๆหั่นผักอย่างพยายามที่สุดในชีวิตแต่ก็......

     

                    เละไม่เป็นท่า ถ้าหั่นผักแค่นี้ยังทำไม่ได้อย่าหวังเลยว่านายจะได้ลายเซ็นจากชั้น

     

                    อย่าเพิ่งรีบตัดสินสิ ชั้นเพิ่งจะเริ่มทำเองนะ

     

                   

                    - - - - > 1 ชั่วโมงผ่านไป < - - - -

     

                    ดูสิ เท่ากัน 5 ชิ้นแล้วนะ ^O^ ”

     

                    ไม่ได้เรื่อง เอาใหม่ๆ

     

                        -*-    

     

     

                    - - - - > 2 ชั่วโมงผ่านไป < - - - -

     

                    แจจุง ดูนี่สิ เกือบจะเท่ากันหมดแล้วนะ ^_^ ”

     

                    เวลาทำอาหารใครเค้าให้พูดเล่า เดี๋ยวน้ำลายก็กระเด็นลงผักหมดหรอก

     

                    คร๊าบ.....ต่อไปจะไม่พูดแล้ว

     

                    ยังจะพูดอีก แล้วก็ใครใช้ให้เรียกชั้นว่าแจ.....

     

                    แจจุงดูนี่สิ ชั้นหั่นเร็วๆได้แล้วน้า..... โอ๊ย ! ”

     

                    มีดบาดนิ่ ซุ่มซ่ามจริงๆเลย

     

                    โอ๊ย ! เบาๆสิ

     

                    เอามือมานี่

     

                    จะทำอะไรน่ะ

     

    ว่าแล้วแจจุงก็ค่อยๆเลียลงไปที่แผลพลางดูดนิ้วมือเรียวเล็กนั่นเพื่อเป็นการห้ามเลือด ส่วนเจ้าของมือก็ได้แต่ยืนตัวสั่นงันงก ทำอะไรไม่ถูก

     

                    นายจะบ้าหรอมากินเลือดชั้นทำไม

     

                    ก็นายชอบว่าชั้นว่าเป็นซาตานไม่ใช่หรอ ซาตานก็ต้องดูดเลือดสิ ^_^ ”

     

    ยิ้มแล้ว......นายนั่นยิ้มแล้ว O_O ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าชายน้ำแข็งจะยิ้มได้ รอยยิ้มของซาตานมันเป็นอย่างงี้นี่เอง ^_^

     

                    คิดอะไรอยู่เนี่ย

     

                    คิดว่าเวลานายยิ้มแล้วดูดีกว่าตอนทำหน้าบึ้งตั้งเยอะแน่ะ ^O^ ”

     

                    อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย กลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง

     

                    นี่....แจจุง

     

                    อย่าเรียกงั้นนะว้อย   < - - - นึกในใจ

     

                    ทำไมนายถึงได้รังเกียจชั้นนักล่ะ ทำหน้าเศร้า

     

                    อยากให้ชั้นชอบนายจริงๆหรอ

     

    ว่าแล้วแจจุงก็เลื่อนหน้าเข้ามาที่ซอกคอขาวเนียนของจุนซูพลางเลื่อนมือปัดป่ายไปตามแผ่นหลังของร่างเล็ก ตอนนี้ ไม่มีอะไรจะมาหยุดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของซาตานได้

     

                    เพราะว่านายมันสะอาดเกินไปน่ะสิ บริสุทธิ์จนชั้นอยากจะทำให้มันแปดเปื้อน

     

    ร่างบางพูดพลางขบเม้มริมฝีปากอุ่นๆไปที่ซอกคอนั่นเพื่อหวังทำสัญลักษ์แสดงความเป็นเจ้าของ รอยเล็กๆสีกุหลาบถูกประทับลงบนซอกคอที่ขาวเนียน จนทำให้รอยนั่นดูเด่นชัดขึ้น

     

                    นายไม่มีทางได้ลายเซ็นจากชั้นง่ายๆหรอก แจจุงกระซิบเบาๆ พลางขบเม้มไปที่ใบหู

     

                    นั่นสินะ ^_^ งั้นชั้นก็ต้องพยายามให้มากกว่านี้( ทำท่า FIGHTING )....ขอบใจมากนะแจจุงที่ช่วยเตือนสติ ชั้นไปหล่ะ

     

    ว่าแล้วร่างเล็กนั่นก็เดินออกไปด้วยใบหน้าที่มีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าได้ทำให้ซาตานผู้หิวโหยกลับมาอีกครั้ง

     

                    กล้ามากนะคิม จุนซู กล้าแสดงกิริยาแบบนั้นต่อหน้าชั้นงั้นหรอ อ่า.....ทำไมมันช่างร้อนรุ่มอย่างนี้นะ  ใครก็ได้.....ช่วยดับไฟในตัวชั้นที คิม จุนซู นายต้องรับผิดชอบกับการกระทำครั้งนี้    

     

     

     

                    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

                    หุ หุ ลุ้นกันล่ะสิ ยังค่ะ ยังไม่ถึงเวลา ^_^ อดใจรอไปก่อนนะคะ แหม....ถ้าเป็นอะฮั้นละก็ มีซาตานหล่อลากขนาดนี้ จะยอมพลีกายถวายชีวีแต่โดยดีเลยนิ แต่น่าเสียดาย คงได้แค่ฝัน T_T น่าสงสารน้องมินจังที่หัวโขกอยู่บ่อยๆ แต่ช่วยไม่ได้เกิดมาสูงเองนะจ๊ะ เรื่องนี้จะพยายามดึงจุดเด่นของแต่ละคนออกมาเป็นนิสัยของตัวละครนั้น อย่างเช่นความน่ารักสดใสของนู๋เซีย ความเจ้าชู้และใจดีของมิกกี้ ความอยากเป็นที่ 1 ของยุนโฮ และความรักระหว่าง คยูมิน แต่ว่าฮีชอลเป็นกรณีพิเศษ เอาสิ่งที่ตรงข้ามมาใส่เป็นนิสัยให้นะจ๊ะ ส่วนซาตานที่รักหรือว่า แจจุงของเรานั้น ดึงเอาบุคลิกที่ดูเหมือนจะเงียบขรึม ( ถ้าไม่ได้พูด ) แล้วก็เป็นตัวละครที่ดูน่าค้นหาเหมือนกับชีวิตจริง ยังไงก็ช่วยติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้า ~ + * HuNyOoMiNjAe * + ~  FIGHTING !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×