ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic] FINAL FANTASY XIII --After Story--

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapte 8 :ลูซิของออฟาน

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 53



     หลังจากเอฟอนและเซร่าห์เดินไป สโนวพยายามวิ่งตามทั้งสองคน

    “เดี๋ยวก่อนเซร่าห์ เซร่าห์!!”

    สโนวพยายามวิ่งตามทั้งสองคนและตะโกนเรียกเซร่าห์ไม่หยุดแต่ไม่ทันทั้งสองคนหายไปแล้ว

    “….นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!! เซร่าห์ เซร่าห์!!!”

    สโนวนั่งลงกับพื้นแล้วตะโกนลั่นเหมือนคนบ้า โฮปเป็นห่วงเลยเข้ามาปลอบใจ

    “ไม่เป็นไรนะครับ…คุณเซร่าห์ต้องกลับมาแน่!!”

    “…..”

    ไลท์นิ่งไม่ได้พูดอะไรได้แต่เอามือตบไหล่สโนวที่สับสนอยู่เท่านั้น 

    “คุณสโนวไปโรงพยาบาลก่อนไหมค่ะ…เลือดมัน”

    “…??”

    ยูทักขึ้น สโนวก้มลงดูแผลที่ท้องตัวเอง เลือดมันกลับมาไหลอีกครั้งหลังจากที่โฮปพยาบาลเบื้องต้นให้

    “ไม่เป็นไรน่า…ออกตามหาเซร่าห์เถอะ พี่สาวอุส่าไว้ใจชั้นแล้ว…ชั้นต้องปกป้องเซร่าห์แล้วก็…”

    สโนวพูดพร้อมกับลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ออกเดินสโนวก็ล้มลงแล้วสลบไปจริงๆ

    ยูกับโฮปช่วยกันแบกสโนวไปโรงพยาบาลทิ้งให้ไลท์นิ่งยืนคิดเรื่องสโนวกับเซร่าห์เพียงคนเดียว

    ……………………………………………………………………………………………………………………

    ณ. บ้านหลังเล็กๆ ในเมืองเอเดน เวลา บ่าย

    ก๊อกๆ

    “กลับมาแล้วค่า”

    เอฟอนตะโกนลั่นบ้านอย่างร่าเริงและเซร่าห์ที่เดินตามมาก็ถอดลองเท้าก่อนเข้าบ้าน

    “เอฟอนจังรองเท้า…”

    เซร่าห์ดึงแขนเอฟอนที่กำลังจะวิ่งไปและบอกเรื่องรองเท้าด้วยน้ำเสียงของตัวเอง 

    “ไม่เป็นไรหรอกเซร่าห์คนกวาดบ้านวันนี้….”

    “ชั้นนี่แหละ!!”

    ชายผมสีเงินตาสีแดงในชุดพ่อบ้านจ้องเอฟอนเขม่ง 

    “อ่าวเวรพี่ริเก็นหรอค่ะ….แฮะๆๆขอโทษค่ะนึกว่าเวรแฟรง”

    เอฟอนพูดเสร็จก็วิ่งเข้าห้องไปทันที ทิ้งเซร่าห์ที่กำลังจัดรองเท้าอยู่

    “ตุ๊กตาไม่ต้องทำ…กลับบ้านไปหาครอบครัวซะ”

    ริเก็นพูดเสียงเรียบใส่เซร่าห์

    “ยังกลับไม่ได้หรอกแล้วที่สำคัญชั้นไม่ใช่ตุ๊กตานะ”

    แล้วเซร่าห์ก็เดินผ่านริเก็นไป 

    “ทำไมยังกลับไม่ได้ล่ะ”

    ริเก็นพูดพลางปัดฝุ่นไป เซร่าห์หยุดเดินแล้วหันมาพูด

    “แล้วทำไมคุณริเก็นต้องเล็งจะทำร้ายพี่ชั้นล่ะ…ต่างคนต่างก็มีเหตุผลที่บอกไม่ได้ใช่ไหมล่ะ”

    ริเก็นเดินเข้ามาใกล้ๆเซร่าห์

    “คนๆนั้นเป็นตัวอันตรายไม่ใช่แค่พี่เธอ...สามีเธอและคนอื่นๆที่เคยเป็นลูซิพวกนั้นก็เป็นตัวอันตรายสำหรับ

    ท่านออฟานเช่นกัน ”

    ริเก็นจับคอเสื้อเซร่าห์แล้วดึงขึ้นอย่างแรงจนทำให้เซร่าห์หายใจไม่ออก

    “อะ..อึก..”

    “รวมถึงเธอด้วยตุ๊กตา…ส่วนเหตุผลของชั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้”

    “อึก…ปล่อยนะ!”

    ริเก็นดึงคอเสื้อแรงขึ้นอีกจนเซร่าห์ร้องออกมา

    “ริเก็น!!!ทำอะไรน่ะปล่อยเซร่าห์นะ!!”

    เอฟอนออกมาจากห้องตัวเองเห็นริเก็นกำลังทำอะไรไม่รู้กับเซร่าห์ก็วิ่งเข้ามาห้าม 

    “เอฟอนถอยไปตุ๊กตาพรรค์นี้ทิ้งไปเถอะ!!”

    ริเก็นพูดตะคอกใส่เอฟอนด้วยความหวังดีแต่เอฟอนไม่เข้าใจก็ขยับมือไปมาเหมือนเชิดตุ๊กตา
    และเริ่มใช้เวทย์อะไรสักอย่าง ทำให้เซร่าห์สบัดมือริเก็นออกแล้วพุ่งจะเข้าไปชกริเก็น แต่ริเก็นปัดหมัด
    ของเซร่าห์ได้แล้วเอาไม้ปัดฝุ่นเคาะไปที่ข้อมือของเซร่าห์ทั้งสองข้างแล้วตามด้วยเจาะยางที่ขาขวาทำให้เซร่าห์ล้มลงไป แล้วเข้าไปเขกหัวเอฟอนให้หยุดเชิด

    เซร่าห์

    “พอได้แล้วเอฟอน…”

    ริเก็นพูดเสียงเรียบใส่เอฟอน เอฟอนก็หยุดเชิดทำให้เซร่าห์กลับมาเป็นคนเดิม

    “อื้อ...ลุกไม่ขึ้น”

    เซร่าห์นอนนิ่งกับพื้นแล้วบ่นกับตัวเอง เอฟอนก็วิ่งเข้าไปช่วยพยุงเซร่าห์ให้ลุกขึ้นมา


    “ความสามารถเชิดสิ่งมีชีวิตได้ของเธอมันน่ารังเกียจจริงๆ”

    ริเก็นพูดจบก็ทำความสะอาดบ้านต่อ

    “เชอะ…เซร่าห์ไหวนะเข้าห้องเถอะ”

    “อ่ะ..จ้ะ!!”

    เอฟอนกับเซร่าห์ก็เดินไป ชายร่างใหญ่ผมสีขาวตาสีทองก็ตื่นขึ้นมาริเก็นเห็นก็ทักทาย

    “สวัสดีแฟรงบ่ายแล้วนะกินข้าวไหม”

    แฟรงลุกขึ้นแล้วมองริเก็น

    “เอฟอนกลับมาหรือยัง”

    “กลับมาแล้ว”

    ว่าแล้วแฟรงก็เดินเข้าไปที่ห้องเอฟอนแล้วก็เงียบไปเลย

    “เกลียดไอ้นี่จังเลยวุ้ย”

    ริเก็นบบ่นอีกครั้งก่อนที่จะทำความสะอาดบ้านต่อ

    ห้องเอฟอน

    “ขอเข้าไปนะ”

    แฟรงเดินเข้ามาในห้องเอฟอนโดยไม่ใช้ประตู เอฟอนเห็นก็ตะคอกใส่

    “แฟรง!!อย่าทำตัวโปร่งใสแล้วเข้ามาในห้องชั้นจะได้ไหม”

    “ขอโทษ”

    เอฟอนบ่นใสแฟรงไม่หยุดเซร่าห์ก็มองทั้งสองคน

    “พวกเธอมีความสามารถแปลกๆกันจังเลย เวทย์มนต์หรอ”

    เซร่าห์ที่นั่งอยู่บนเตียงของเอฟอนมองทั้งสองด้วยความงง แฟรงและเอฟอนหันมามองเซร่าห์

    “แปลกหรอ??”

    แฟรงถาม

    “อืม…มากเลยล่ะ”

    เซร่าห์ตอบกลับ เอฟอนเลยอธิบาย

    “มันไม่แปลกหรอกเซร่าห์มันเป็นเวทย์เมื่อ600ปีก่อนน่ะ”

    “???”

    “ก็อย่างของแฟรงเมื่อกี้ไงที่ทำตัวโปร่งใสได้น่ะ…มันเรียกว่าอะไรนะ”

    “เทเรป”

    เอฟอนถามแฟรง แฟรงก็ตอบกลับเสียงเรียบ

    “นั่นแหละๆ ”

    “แล้วคุณริเก็นล่ะ”

    เซร่าห์ถามถึงริเก็น เอฟอนหน้าบูดทันที

    “ไม่รู้…”

    “อ่าว…แฟรงคุงล่ะรู้ไหม”

    แฟรงส่ายหน้า

    “อืม…แล้วของเอฟอนจังล่ะ…”

    “ของหนูเรียกว่ามาริโอเน็ตล่ะ สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตได้ เท่ห์ไหมล่ะ...”

    เอฟอนพูดแบบยืดๆ แฟรงอธิบายต่อ

    “แต่ว่าข้อเสียของเวทย์มาริโอเน็ตเยอะแยะเลย”

    “เอ๋??”

    “แฟรงพูดอะไรออกมาน่ะ!!”

    เซร่าห์ทำหน้าสงสัย เอฟอนพยายามไม่ให้แฟรงพูด แต่แฟรงก็อธิบายต่อ

    “เธอไม่สังเกตหรือไงเวลาตอนที่โดนเอฟอนควบคุมอยู่เธอจะจำใครไม่ได้ไม่เจ็บไม่รู้สึกอะไรเลย

    แต่ตอนที่พ้นจากการควบคุม”

    “พ้นจากการควบคุม??”

    “เมื่อพ้อจากการควบคุมเธอได้สติคืนมา รวมทั้งความทรงจำความรู้สึกทั้งหมดรวมถึงอาการบาดเจ็บด้วย….
    บอกตรงๆว่ามันไม่คุ้มเลยนะ ที่จะมาเป็นตุ๊กตาให้กับเอฟอนน่ะ”

    แฟรงอธิบายเพิ่มแต่เซร่าห์ยังไม่เข้าใจ แฟรงเลยชี้ไปที่ข้อมือของเซร่าห์

    “นั่นไงหลักฐาน”

    แฟรงพยายามบอกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะมาเจ็บฟรี เพียงแค่ต้องการปกป้องเอฟอน 

    เซร่าห์มองไปที่ข้อมือตัวเองมันยังแดงช้ำ และรู้สึกเจ็บแปล๊บๆอยู่ด้วย เซร่าห์ก็เข้าใจทันที

    “เข้าใจแล้วล่ะ”

    แต่ว่าเซร่าห์เข้าใจแค่เรื่องของเวทย์มาริโอเน็ตเท่านั้น ความหมายจริงๆที่อยากจะบอกเซร่าห์กลับไม่เข้าใจ

    “ดังนั้น…ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอีกกลับบ้านไปเถอะ ไม่งั้นเธออาจจะเสียใจภายหลังก็ได้”

    “แฟรงหยุดพูดแล้วออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!”

    เอฟอนตะคอกใส่แฟรงอย่างโกรธจัดและไล่แฟรงออกไปทันที

    “….ไปก็ได้”

    แล้วแฟรงก็ทำตัวโปร่งใสเดินออกจากห้องไปโดยไม่ใช้ประตู เอฟอนหายใจฟืดฟาดก่อนที่จะเข้ามากอดเซร่าห์

    “เซร่าห์…จากนี้ไปต้องเชื่อฟังชั้นนะ”

    เซร่าห์ยิ้มแล้วก็ยืนมือไปลูบหัวเอฟอนเบาๆ

    “อืม….”

    …………………………………………………………………………………………………………………………

    โรงพยาบาล(เมืองโบดัม) ห้องฉุกเฉิน

    หน้าห้องฉุกเฉินโฮปและยูเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องเพราะความเป็นห่วงสโนว ในที่สุดหมอก็ออกมา

    “หมอเป็นไงบ้าง!!”

    โฮปยิงคำถามใส่หมออย่างรวดเร็ว ทำเอาหมอตกใจนิดหน่อย

    “ปลอดภัยแล้วครับ แผลที่ถูกแทงมีเลือดออกมากแต่ไม่โดนจุดสำคัญ “

    หมอตอบกลับไปอย่างใจเย็น โฮปกับยูได้ฟังก็เบาใจ

    “ถ้าพามาช้ากว่านี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้เหมือนกัน …หมอไปนะ”

    หมอได้เดินจากไป ส่วนสโนวก็ถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินและกำลังย้ายไปที่ห้องพักคนไข้
    โฮปกับยูก็เดินตามไปด้วย แต่ไม่มีวี่แววของไลท์นิ่ง

    “รุ่นพี่ไปไหนนะ…”

    ยูพูดขึ้นมาแล้วมองไปข้างหลังโฮปก็หันตาม แล้วกลับมาถาม

    “คุณชื่ออะไรหรอครับ??”

    “หือ...ชื่อ?”

    “ครับชื่อ…”

    “อ๋อๆๆ ยู ทารอส”

    “ผม โฮป เอสไฮม์”

    “….โฮป สินะ….”

    ยูหันมาหาโฮปและพูดทวนอีกครั้งแล้วหันกลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

    //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

    จิรุ : จะขออธิบายเพิ่มเรื่องเวทย์ เทเรปและมาริโอเน๊ตเพิ่มนะค่ะ (รู้สึกในเรื่องจะอธิบายไม่ละเอียดพอ)

    เทเรป
    เป็นเวทย์ที่ทำให้ผู้ใช้อยู่ในสภาวะโปร่งใส เดินทะลุสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตได้
    และทำให้การโจมตีทางกายภาพไม่ได้ผล ซึ่งนั่นทำให้ผู้ใช้โจมตีศัตรูทางกายภาพไม่ได้ผลเช่นกัน 

    มาริโอเน๊ต
    ตามชื่อ อดีตเป็นเวทย์สำหรับใช้เชิดตุ๊กตาหรือสิ่งไม่มีชีวิต แต่ภายหลังถูกใช้รวมกับเวทย์ควบคุมชนิดอื่น
    ทำให้สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตได้ ภาวะของผู้ถูกควบคุมโดยเวทย์นี้ ตัวตนและนิสัยจะเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้คุม
    จะไม่มีความรู้สึก โดนโจมตีก็จะไม่เจ็บ และ  ความทรงจำจะหายไปในช่วงที่ถูกควบคุมอยู่  
    ผู้ที่ถูกเชิดอยู่เมื่อพ้นสภาวะที่ว่าแล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมรวมทั้งความเสียหายทางร่างกายจะแสดงออกมา
    อย่างชัดเจน (เช่นตอนโดนควบคุมอยู่โดนแทงที่หัวใจร่างกายก็ยังขยับได้ตามปกติโดยไม่รู้สึกอะไร เมื่อพ้นจากการเชิด
    แล้วร่างนั้นก็จะตายทันที) และจะจำช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างที่ถูกควบคุมอยู่ไม่ได้

    จิรุ : ประมาณนี้แหละ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน (แกคิดเองไม่ใช่เรอะ!!)

    เอาเป็นว่าสงสัยอะไรก็ถามแล้วกันนะค่ะ...ถ้าพิมพ์ผิดก็ขออภัยนะค่ะ(ไม่ได้เช็คก่อนลงด้วย)

    อย่าลืมเมนท์นะค่ะ...เย้~วู้~!!





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×