คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ชั่วโมงเรียนที่ 6 : ทรีเดย์มหาโหด! ชีวิตต่อชีวิต?!
“กับดักไฟ กับ กับดักค้อนมายา อันแรกไม่เท่าไหร่แต่อันหลังนี่ไม่น่าจะมีนี่นา!!” เรมตะโกนลั่น ก่อนที่จะลุกขึ้นมา
“อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ โทกิมิยะ หลังจากนี้มันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ” เซเว่นตอบคำถามก่อนที่จะวิ่งเข้าไปและหลบพลุไฟที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นอีกรอบ “ถ้าเราไปด้วยกันตายแน่ค่ะ แยกกันเถอะ” เรมเสนอไอเดียพร้อมกับวิ่งถอยกลับไปที่หน้าผาที่อยู่ใกล้ๆ “เจอกันที่โซริว...” เซเว่นพูดเสียงเรียบก่อนที่จะหายไป
“อืม...จะทำยังไงต่อดีล่ะ?” ชั้นพูดกับตัวเองเบาๆเพราะหลังจากคุณเซเว่นวิ่งไปด้านหน้ากับดักทั้งหมดก็ทำงานแบบฟูลพาวเวอร์มากๆเลยล่ะค่ะ แล้วไหนจะกับดับที่คุณเซเว่นไปเหยียบเพิ่มที่เป็นกับดักลำแสงตัดหญ้าที่เอาไว้ขัดขาชาวบ้านนั่นอีก
เรม! ทำอะไรอยู่น่ะ? ไปต่อสิ!! ชั้นสะอึกเมื่อเสียงแพนทายดังขึ้นมาในหัวชั้น
“รู้ได้ไงน่ะว่าชั้นยังไม่ได้ไปต่อ?!!” ชั้นพูดออกไปดังเผื่อเพื่อนชั้นจะได้ยิน ก็ใช้กล้องส่องเธออยู่น่ะ เห็นแสงแว๊บๆที่เก้านาฬิกาของแกไหมล่ะ?... พอเสียงของแพนทายหายไปชั้นก็หันไปตามที่เพื่อนบอก มีแสงอยู่จริงๆด้วย “กับดักมันฟูลซะขนาดนี้จะให้ไปยังไงล่ะ” ชั้นเอ่ยปากถามด้วยความจนปัญญาที่จะผ่านไป
กับดักมันก็มีจังหวะของมันน่ะแหละ อย่าโง่สิ!
“แล้วไหงแกมาด่าชั้นเล่า?!!” ชั้นเริ่มงงๆกับเพื่อนชั้นแล้วล่ะค่ะ มาช่วยหรือมาด่ากันล่ะเนี่ย... งั้นแกก็วิ่งไปตามสูตรที่เราสามคนคิดขึ้นก็ได้นี่
แพนทายพูดต่อจนชั้นร้อง ‘อ๋อ!’ ออกมา
บอกแค่นี้แหละนะ อาเรนรอชั้นอยู่ไปล่ะ! พอแพนทายพูดจบแสงที่เคยมีอยู่ก็หายไป “ขอบใจมากนะ” ชั้นพูดลอยๆออกไป ยังไงซะเพื่อนของชั้นมันก็ไม่ได้ยินแล้วล่ะเพราะอีกฝ่ายตัดการสนทนาไปแล้ว
สูตรที่ว่ามันก็เป็นแค่สเต๊ปที่ชั้นใช้โจมตีศัตรูธรรมดานี่แหละค่ะ...
“เอาล่ะนะ!” พูดจบชั้นก็วิ่งตรงไปที่กับดักนั่นทันที่กับดักแรกเป็นกับดักไฟที่พุ่งดักหน้าชั้นตอนแรก ตอนนี้มันพุ่งขึ้นมาด้านข้างของชั้นทั้งสองข้าง ชั้นต้องวิ่งไปด้านหน้าอย่างเดียว ต่อมาอีกหน่อยไฟพุ่งออกมาจากด้านซ้าย ต้องเบี่ยงตัวเองไปด้านขวาและซ้ายตามหลัง เมื่อไฟพุ่งมาทางด้านที่ชั้นเอาเท้าไปเหยียบแบบไม่รู้ตัว
“เหวอแสงตัดหญ้า!!” ชั้นร้องลั่นแต่ร่างกายชั้นกำลังตีลังกาลอยอยู่กลางอากาศตามสเต๊ปของชั้น สงสัยคงจะชินซะแล้วล่ะมั้ง จากนั้นตัวชั้นก็ถอยออกมาเล็กน้อยและเบรคโดยการยันตัวเองจากด้านหลังเป็นจังหวะเดียวกับที่กับดักค้อนหวดลงมาผ่านหน้าชั้นพอดี พอค้อนหายไปชั้นก็ต้องทำแบบเดินอีกสามรอบ จนในที่สุดชั้นก็ผ่านกับดักมาได้ค่ะ
“ต่อไป เอบอน...” ชั้นพูดลอยๆขึ้นมาอีกรอบ เพราะทางที่ไปต่อมีสองทางให้เลือก นั่นก็คือสะพานที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจกับ เนินสูงที่แม่น้ำสายเล็กๆอยู่ข้างใต้ ชั้นตัดสินใจที่จะไปสะพาน แต่อันตรายจะมีหรือไม่ การโยนอะไรสักอย่างนำหน้าไปก่อนเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะก้าวเท้าเดินพรวดๆออกไปเลย
เมื่อชั้นลองทางด้วยการขว้างหินก้อนเล็กๆแต่เท่ามือชั้นไปเท่านั้นแหละ
ตูม!!
สะพานระเบิดทันที ตัวสะพานที่เป็นหินแข็งๆแตกกระจายลอยน้ำออกไปทะเลทันทีค่ะ “เหวอ...ขึ้นเนินดีกว่า” ชั้นพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นๆก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่เนิน และก็เป็นโชคดีที่มันไม่มีกับดับอะไรวางดักไว้อยู่
พอเดินขึ้นมาเรื่อยก็ต้องหยุดเพราะชั้นมาถึงสุดทางแล้วและมันก็เป็นหน้าผาลาดชันเสียด้วย “ที่ทุ่งหญ้าตรงนั้นมีรอยไหม้ด้วย...ว้าก!! โกเลม?!!” ชั้นตะโกนว้ากออกมา เมื่อสายตาของชั้นหันไปเห็นแท่งหินประหลาดๆตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่งนั้นไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่นักถ้ามันไม่หันมามองชั้นน่ะนะ
รอยนั่นของคุณเซเว่นแน่เลย ชั้นคิดในใจก่อนที่จะตัดสิ้นใจลงจากหน้าผาลาดชันและเลือกที่จะเลี่ยงเจ้าโกเลมตัวนั้นด้วยการเข้าป่า
เป็นเรื่องยากที่จะลงจากหน้าผาสูงโดยไม่มีบาดแผล แต่เราก็สามารถเลือกที่จะลงมาจาหน้าผาโดยไม่ให้แขนหรือขาหักได้ ชั้นใช้วิธีค่อยๆสไลด์ตัวลงมาในลักษณะที่นอนหงายและหลังต้องติดกับหินของหน้าผาเอาไว้ มือทั้งสองก็จะต้องยันตัวเอาไว้และคอยหาหินที่งอกออกมาจับหรือยึดเอาไว้ ส่วนเท้าก็ต้องคอยหาที่เหยียบจากหินที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักชั้นได้ และต้องค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างช้าและเร็วสลับตามสภาพพื้นหิน แต่ชั้นก็ไม่ใช่นักปีนเขามืออาชีพ สุดท้ายชั้นก็ก้าวพลาดกลิ้งตกหน้าผาจนได้ค่ะ
แซ่ก...
“โอ้ย! โชคดีชะมัด” ชั้นบ่นออกมานิดหน่อยเพราะจากที่ชั้นตกลงมามันก็ห่างจากพื้นดินแค่ไม่กี่ฟุตแถมยังมีพุ่มไม้รองตัวชั้นเอาไว้อีก แต่บ่นมากก็เท่านั้นชั้นรีบลุกออกจากพุ่มไม้และตรงเข้าไปในป่าและผ่านมันออกมาโดยอาศัยการกระโดดตามกิ่งไม้ด้านบนแทนที่จะวิ่งอยู่บนพื้นด้านล่าง จากนั้นชั้นก็วิ่งตรงไปที่สะพานต่อกับเกาะกลางทะเลและวิ่งสะพานต่ออีกครั้ง โดยที่ไม่สนใจว่าจะมีกับดักหรืออะไรวางรอไว้อยู่หรือเปล่า เพราะถึงข้างๆจะมีเนินสูงให้เป็นทางเลือกแต่มันก็รู้สึกจะเสียเวลามากเกินไป แล้วชั้นก็วิ่งมาจนถึงด่านหน้าของโซริว โรเชียน่า แล้วค่ะ
อะแฮ่มๆ...คุณเรมกับคุณเซเว่น เนื่องจากพวกคุณได้โจทย์ยากกว่าผู้เข้าแข่งท่านอื่น ทางสภาจึงได้อนุญาตให้พวกคุณทั้งสองคนใช้ศัตรูในการเดินทางเป็นกรณีพิเศษค่ะ
หลังจากวิ่งมาเรื่อยๆในเขตของโซริว ชั้นก็ได้รับข้อความจากสุซาคุ และดูจากข้อความแล้วคุณเซเว่นก็คงได้รับเหมือนกัน “ศัตรูหรอ??...” ชั้นบ่นอุบอิบตามภาษาคนอยู่คนเดียว ก่อนที่ชั้นจะต้องมาหยุดเมื่อแผนที่ส่องแสงออกมา
“แผนที่??” ชั้นหยิบมันออกมาและกางมันออกมาดู ในแผนที่ปรากฏจุดสีฟ้าๆเอาไว้ที่แสดงถึงตัวชั้น มันกลับมีจุดสีแดงๆส้มๆสองจุดมันวนอยู่รอบๆจุดสีฟ้าและมีข้อความปรากฏออกมา “เป้าหมาย” ชั้นอ่านข้อมความที่ปรากฏออกมา ก่อนที่จะหันมองไปรอบๆ “ไม่มีใครนี่นา...” ชั้นพูดก่อนที่รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านหัวชั้นไป
“ข้าอยู่บนนี้!” เสียงมันดังมาจากด้านบน ทำให้ชั้นต้องเงยหน้าขึ้นไป
พรวด!
บร้ะเจ้า! มังกร!! ชั้นตะโกนในใจเป็นภาษาแปลกๆ พร้อมกับเบิกตากว้างพร้อมกับสำลักน้ำลายตัวเองในเวลาเดียวกัน แล้วต้นเสียงที่อยู่ด้านบนก็ทิ้งตัวลงจอดกับพื้น มันเป็นมังกรเลี้ยงของโซริวนั่นเอง แถมยังมากันตั้งสองตัวแหนะ...
มังกรที่ร่างเล็กๆขี่มาเป็นมังกรสีครามเกล็ดแบบงูสวยมากเลยล่ะค่ะ ส่วนอีกตัวเป็นสีขาวไม่มีเกร็ดแต่เป็นขนแทนรูปร่างมันเท่ห์มากเลยล่ะแถมยังปิดตามาด้วย แล้วจะปิดตาทำไมกันล่ะ?
“ก้มหน่อยว้อย ข้าจะลง!” ร่างเล็กๆที่อยู่บนมังกรก็พูดขึ้น เจ้ามังกรก็นอนลงกับพื้นแล้วร่างเล็กๆก็ลงมาจากมังกร เป็นคุณลุงตัวเล็กๆที่ใส่ชุดทหารแบบโซริวแต่ไม่ใส่หมวก และที่น่าสังเกตุอีกอย่างก็คือสายคาดสีทองของสภานักเรียน...สงสัยคุณลุงคงเป็นสต๊าฟงานนี้ด้วยล่ะมั้งเนี่ย?
“เอ็งแข่งวิ่งรีเดย์...”
“ทรีเดย์ค่ะ”
“เออๆๆ นั่นแหละ”
พูดจบคุณลุงก็ถือของสองสิ่งขึ้นมา มันเป็นดาบเก่าๆเล่มหนึ่ง กับหลอดแก้วเปล่าๆขวดหนึ่ง “จงเลือก...” คุณลุงเริ่มชูของทั้งสองอย่างมาตรงหน้าชั้นและพูดเสียงเอื่อยๆเหมือนพูดตามสคริป
“จะฆ่าหรือจะเลี้ยง?”
“เอ่อ...คุณลุงค่ะ นี่ไม่ใช่วันปล่อยผีนะเล่นอะไรเนี่ย? แถมยังพูดผิดด้วย” ชั้นถามเสียงเรียบแล้วตาของลุงแกก็ถลึงใส่ชั้น “เลือกสิว้อย!” แถมลุงแกยังตะโกนเสียงแข็งอีก “เหวอ! เลี้ยงๆๆๆ” ชั้นก็ตอบกลับไปด้วยความตกใจ แล้วลุงแกก็ให้หลอดใส่ๆมา ก่อนที่จะโปรยผงอะไรสักอย่างใส่ชั้น
“ให้มาทำอะไรหรอคะ?” ชั้นเอ่ยปากถาม ลุงแกก็เดินไปปลดที่ปิดตาของมังกรสีขาว “เลือดแลกเลือด...ข้าบอกได้แค่นี้ที่เหลือ เอ็งจัดการตัวเองเถอะ!” คุณลงสต๊าฟพร้อมกับวิ่งไปที่มังกรสีคราม พอลุงแกขึ้นมังกรไปสิ่งที่ปิดตามังกรสีขาวก็ปลดออกแล้วมันก็คำรามลั่นทันที
“ข้าจะดูเอ็งใกล้ๆนี้แหละ มันค่อนข้างจะโกรธอยู่ระวังด้วยนะ แล้วเก็บขวดให้ดีๆ!” ลุงแกพูดจบ แกกับมังกรก็บินไปที่เนินสูงๆที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะได้นั่งดูอยู่ห่างๆ
ส่วนชั้นที่อยู่ตรงหน้ามังกรสีขาวก็ถึงกับสั่นเล็กน้อยเพราะหน้ามังกรมันอยู่ห่างชั้นแค่ไม่กี่เซนเท่านั้นเองน่ะสิ
ฟุด ฟุด ... กรรรรรรรรร!!!!!!
มันเข้ามาดมๆที่ตัวชั้นก่อนที่มันจะคำรามออกมาอีกครั้ง และมันก็เริ่มอาละวาดไปทั่วก่อนที่มันจะเริ่มเล็งเป้าหมายมาที่ชั้น
“อา...เด็กดีๆ อย่านะ ย...อย่านะเว้ย!”
ตึง!
“แว้กกกกกกกกกกกก!”
**นางเอกที่ดีไม่ควรร้องแว้กนะจ๊ะ**
“หือ? เสียงเหมือนเรมถูกมังกรไล่กระทืบเลย!” ทางด้านเขตหิมะหนาของเบียกโค แพนทายเพื่อนของเรมที่อยู่คลาส7 พูดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงตามสายลมมา
โจทย์ของเธอนั้นง่ายกว่าของเรมและเซเว่น (ให้ไปเก็บพาสเวิร์ดที่รังของลิงหิมะแล้วไปช่วยตัวประกันที่เมืองหลวงของเบียกโค โดยต้องตอบคำถามกับผบ.ชิด3ข้อ) ตอนนี้เธอช่วยตัวประกันออกมาได้แล้วและกำลังจะเดินทางกลับสุซาคุ
“หูฝาดไปเองแหละ...ว่าแต่ไอ้ตอบคำถามกับผบ.ชิดอะไรนั่นนี่ เขาถามอะไรหรอ?” อาเรนที่เป็นตัวประกันถาม แพนทายก็ตอบเสียงเหนื่อยๆออกมา
“ก็แค่ผลไม้ขึ้นชื่อของเบียกโค(สตอเบอรี่)กับวิธีปลุกและเลี้ยงดูแบบละเอียดน่ะ แถมยังฝากจดหมายแนะนำไร่สตอเบอรี่ของตัวเองฝากไปให้ ผอ.คาเลียด้วย”
แปะ แปะ
เสียงเลือดที่หยดลงบนพื้นหญ้า สีเขียวของมันถูกอาบไปด้วยน้ำสีแดงสดที่ไหลออกมาไม่หยุด อีกฝั่งหนึ่งเซเว่นก็กำลังเจอโจทย์เดียวกับเรม เธอกำลังจัดการกับมังกรอยู่นั่นเอง แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้เป็นเท่าตัวเพราะแขนซ้ายของเซเว่นได้รับบาดเจ็บจนใช้การไม่ได้ซะแล้ว
กรร!!!
มังกรตัวดียังคำรามออกมาไม่หยุด จากนั้นมันก็เริ่มโจมตีเซเว่นต่อ เซเว่นเองก็ได้แต่กลิ้งไปมากับพื้นเพื่อหลบมันเท่านั้น
ขวดที่ให้มา ไม่เห็นมีประโยชน์เลยสักนิด... เซเว่นคิดพลางหลบการโจมตีของมังกรมือขวาก็กำขวดแก้วไว้แน่น สมองก็พยายามคิดหาวิธีจัดการกับปัญหาฟัลเซิลให้ออก แต่ตอนนี้ร่างกายที่เสียเลือดไปมาก สมองก็ไม่ทำงาน และเริ่มจะหลบการโจมตีของร่างใหญ่ตรงหน้าไม่ไหวซะแล้ว...
“เลือดแลกเลือด...” จังหวะที่มังกรกำลังคำราม เซเว่นพูดทวนถึงคำใบ้ เลือดของชั้นกับมัน...นี่ล่ะ!! พอนึกคำตอบขึ้นได้แม้ว่ามันจะถูกหรือไม่ก็ตามเซเว่นใช้แรงที่เหลือยกตัวเองขึ้นยืนทันที และตรงไปที่มังกรที่กำลังคำรามอยู่
“อื้ม...ดูสิแป๊กกี้ แม่หนูนั่นแก้คำใบ้ออกแล้วล่ะ” นักรบของโซริวที่เป็นสต๊าฟพูดขึ้นมังกรแป๊กกี้ที่อยู่ข้างๆก็ร้องออกมาเบาๆเป็นเชิงรับรู้ และดูการกระทำของเซเว่นที่ตอนนี้เธอกำลังใช้ขวดแก้วที่ได้มารองเลือดจากแขนซ้ายจนเต็ม และโยมมันไปที่มังกรขวดแก้วที่ใส่เลือดอยู่เต็มหลอดกลายเป็นผลึกสีเลือด เจ้าตัวใหญ่ก็หยุดคำรามแล้วใช้ปากของมันกินผลึกลงไป
โฮกกกก...
เซเว่นมองการกระทำของมังกรอย่างอึ้งๆ จากที่มันคำรามออกมาไม่หยุดและพยายามจะจัดการเธอ ตอนนี้มันสงบลงมากแล้ว มันครางออกมาเบาๆ นอนมอบอยู่ข้างๆเซเว่นและมันร้องไห้ออกมาเป็นเลือด...
“น้ำตามัน?! เลือด?...แบบนี้นี่เอง”
“เฮ้ย! ฉายต่อสิวะ ชั้นจะดูเรมจัง!”
“นี่! ตัดกันแบบนี้ พวกเราจะดูท่านเซเว่นพิชิตมังกรได้ยังไงล่ะยะ?!”
“จอพังหรือไง? เปิดช่องของคลาสซีโร่สิวะ!!”
ก่อนหน้านี้สี่ห้านาทีช่องของเซเว่นและเรมดับไปจากจอทั้งหมด เมื่อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับผู้เข้าแข่งคลาสซีโร่ เหล่าผู้ชมก็เริ่มโวยวายและด่าทอสต๊าฟกันใหญ่
อ่ะ...เอ่อ พอดีว่ามีบางอย่างผิดพลาดน่ะค่ะ ใจเย็นๆนะคะจะรีบแก้ไขเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ... ผู้บรรยายที่โดนด่าด้วยก็พยายามพูดให้ผู้ชมใจเย็นลง
“ทำไมมันไม่ฉายช่องของยัยขาวกับเซเว่นวะ?!” ไนน์เริ่มบ่นอย่างหัวเสียเพราะช่องบนจอนั่นเป็นทางเดียวที่เขาและเพื่อนๆในคลาสยังเห็นว่าเพื่อนของพวกเขายังไม่เป็นอะไร...
“มันเป็นภารกิจที่เกี่ยวกับมังกรน่ะค่ะ...” เด็กสาวข้างๆไซด์ก้มลงไปตอบไนน์ “หา?!...” “แล้วมันเป็นยังไงหรอครับ เพริเนียจัง?” เอทค์ที่นั่งข้างๆไนน์ก็พูดแทรกตัดบทไนน์ออกมาทันควัน และทุกคนก็รอฟังคำตอบจากไอดอลสาวจากเบียกโค
“มันเป็นขอตกลงระหว่างสุซาคุกับโซริวน่ะค่ะ...ทางโน้นเขาให้มังกรมาแค่สองตัวในการแข่งนี้เพื่อให้ผู้เข้าแข่งได้ใช้มังกรในการช่วยภารกิจ แต่มันจะต้องรับเลี้ยงมังกรก่อน...”
“...แล้วมันจะมีวิธีการรับเลี้ยงมังกรด้วย โซริวคงไม่อยากให้เผยแพร่ออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นเข้าไปขโมยมังกรมาใช้ซะเองน่ะนะ...ชิ ชิ ชิ ชิ”
แล้วทำไมต้องชิๆด้วยล่ะฟ่ะ... ลีนและทิสคิดในใจขณะที่นั่งฟังสเปคอธิบาย
“แล้วไอ้วิธีที่ว่านี่มันต้องทำไงอ่ะ?” ไดอาถามก่อนที่จะยกบะหมี่ผัดขึ้นมาซัดจนแก้มตุ่ย “ชิ ชิ ชิ ชิ...ไม่รู้ดิ” สเปคพูดขึ้นก่อนที่จะยิ้มกวนๆออกมาทำเอาคนที่รอฟังอยากจะเข้าไปหวดกระบาลมันสักทีสองที
“หนูรู้ค่ะ พี่ลีน พี่ทิส” สาวแว่นตัวน้อย โคเวอร์ หันไปพูดกับลีนและทิส
“ที่จริงผมก็พอรู้มาบ้างนะครับ...” เทรย์พูดขึ้นแล้วเขาก็กระแอมเพื่อที่จะร่าย... “ขอสั้นๆนะมี้ยว...” แต่เคทพูดขัดเอาไว้ก่อน ทำให้ทุกคนไม่ต้องหูแฉะฟังเทรย์ร่ายยาว...
“วิธีรับเลี้ยงมังกร มันง่ายกว่าที่คิดนะครับ ที่ต้องทำก็เพียงแค่...”
“...ผู้รับเลี้ยงและมังกรต้องดื่มเลือดจากอีกฝ่ายโดยตรงค่ะ”
“ห๊า?! เลือดมังกร?! มีแต่คนโซริวที่ดื่มได้ไม่ใช่หรือไง?” ลีนกระซิบถามคนนั่งข้างๆ ในทางกลับกันอีกฝั่งหนึ่งเอชก็หันไปถามเพริเนียที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยคำเดียวกัน
“นั่นน่ะโกหกค่ะ...” คนให้ข้อมูลทั้งสองฝั่งพูดพร้อมกัน และนั่นก็ทำให้คนฟังถึงกับตะลึง “อย่างที่เข้าใจนั่นแหละค่ะ” เพริเนียพูดตัดบทเพราะขี้เกียจอธิบายอะไรอีก
“งั้นก็แสดงว่า...” ลีนที่กำลังจะสรุปคนนั่งข้างๆก็ยกมือเบรคอีกฝ่ายก่อนที่จะรับโทรศัพท์ “คะ? ...ได้ค่ะ ไงคะ? ดีค่ะกำลังดูเขาแข่งกีฬาอยู่เนี่ยล่ะค่ะ...ไม่รู้ค่ะ อยู่กับทีมเบสบอลล่ะมั้งค่ะ? เดี๋ยวจะตามให้ค่ะ...ค่ะ บ๊าย!” คุยโทรศัพท์จบ แว่นน้อยก็ลุกจากที่นั่งทันที “หนูต้องไปแล้วค่ะ...ไว้เจอกันใหม่นะคะ” โคเวอร์พูดจบก็เดินหายไปทันที ที่เหลือเลยนั่งดูการแข่งกันต่อ
“แหวะ...เหม็นเหล็กอ่ะ” เรมสบถออกมาหลังจากเธอสยบมังกรได้และดื่มเลือดมัน แต่ก็ได้แค่บ่นพอเรมได้เลือดไปแล้ว มังกรก็ปัดร่างเล็กกระเด็นลงน้ำทันที
ซูม!
“พรุ๊ด...ทำอะไรของแกน่ะ?!” เรมที่ตกน้ำก็ตะโกนขึ้นมาอย่างหัวเสีย “มันแค่จะล้างกลิ่นจากตัวเอ็งเท่านั้นแหละ จำที่ข้าสาดผงใส่เอ็งได้ไหมล่ะ?!” ลุงสต๊าฟขี้มังกรมาอยู่เหนือหัวเรมและตะโกนบอก เรมร้อง ‘อ๋อ!’ และพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนที่จะว่ายน้ำกลับฝั่ง
“ได้เวลาไปต่อแล้ว...ระวังเอาไว้ให้มากๆมันจะเชื่อฟังดีๆแค่หนแรกเท่านั้น แล้วเจอกันใหม่นักรบมังกรแห่งสุซาคุ” ลุงสต๊าฟพูดจบเขาก็โยนกล่องๆหนึ่งให้เรมจากบนฟ้าแล้วบินหายไป เหลือแต่มังกรที่เรมสยบมันได้ “นี่คงเป็นพาสเวิร์ดสินะ” พูดจบเรมแกะกล่องและหยิบของในกล่องทั้งหมดใส่กระเป๋าใบเล็กที่พกมา แล้วเรมก็ชูแผนที่ให้มังกรดู
“ไปตรงนี้...เข้าใจไหม?”
กรร... มังกรตอบรับและพยักหน้า เรมก็ปีนขึ้นขี่มันทันที
“ดีมาก...ไปเลย!”
แกร๊ก...
“ขออนุญาติค่ะ” ที่ห้องผบ.คาเลีย เสียงใสๆอ่อนๆดังขึ้นหลังจากประตูเปิด “โฮ่...เข้ามาเลย” เสียงเจ้าของห้องดังขึ้นเป็นการอนุญาติให้ผู้มาใหม่เข้ามา
“ค่ะ...” เมื่อเดินเข้ามาก็พบว่าเจ้าของห้องไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมี อเลเชียและธาร(ประธานนักเรียน) อยู่ด้วย หลังจากปิดประตูโคเวอร์โค้งให้อเลเชียทันทีด้วยความเคารพมากถึงมากที่สุด อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ
“มีเรื่องอะไรหรอ โคเวอร์?” ผบ.คาเลียเอ่ยปากถามผู้มาเยือนใหม่ “ข้อความจากเบียกโคค่ะ...” คาเลียผายมือไปด้านหน้าเป็นเชิงอนุญาต จากนั้นโคเวอร์ก็เล่าข้อความที่ได้จากทางเบียกโคให้ ผบ.คาเลียฟัง โดยมีอเลเชียและธารยืนฟังอยู่ด้วย
................................
“เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆด้วยนะครับ...” หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวธารก็พูดออกมาแบบติดตลก อเลเชียก็พ่นเสียงหัวเราะออกมา คาเลียเองก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“แน่ใจนะ?...โคเวอร์” คาเลียถามแว่นน้อยให้แน่ใจ “ค่ะ...ชัวร์อย่างที่สุดค่ะ” “อืม...จะทำยังไงกันดีล่ะ” คาเลียลูบคางเบาๆและถามความเห็นของคนที่อยู่ในห้อง
“เล่นตามบทที่พวกนั้นวางแผนเอาไว้สิ...” อเลเชียพูดขึ้น ทั้งหมดมองหน้ากันก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไปโดยไม่พูดอะไรกันอีก สร้างความงุนงงให้กับแว่นน้อยเป็นอย่างมาก
“โคเวอร์...”
“ค่ะ?”
“หนูมีอะไรอีกไหม ไม่งั้นชั้นจะให้หนูช่วยอะไรหน่อย”
“ไม่มีแล้วค่ะ สั่งมาได้เลย”
“อืม...ขอบใจมากนะโคเวอร์ ”
“งั้นถ้า.......................................................................................”
“...เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะบอกลุงชิดให้ค่ะ”
โคเวอร์พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไป แล้วคาเลียก็นั่งอ่านจดหมายที่ได้มาจากชิด มันมีข้อความสั้นๆถึงเขา มันทำให้คาเลียที่กำลังเครียดๆอยู่อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
[สตอเบอรี่กำลังจะออกผลและสุกเต็มที่แล้ว อย่าลืมมาที่เบียกโคแล้วทำขนมที่เรียกว่าพายสตอเบอรี่ให้ชั้นกินอีกนะ...มันอร่อยมากจนชั้นลืมไม่ลงเลย ฮ่าๆๆ จาก : ชิด]
“เฮ้อ...ถ้านายมีลูกเร็วกว่านี้ เก็นบุอาจจะยังไม่หายไปก็ได้นะ ชิด...”
http://writer.dek-d.com/hunterfamily/writer/viewlongc.php?id=736423&chapter=1
ความคิดเห็น