คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ชั่วโมงเรียนที่ 7 : ทรีเดย์มหาโหด! ชีวิตต่อชีวิต?! [2]
“ประธานหายไปไหนมาน่ะ?...” รองประธานเอ่ยปากถามประธานที่เพิ่งจะเดินมานั่งข้างๆ “ไปเดินเล่นมาน่ะ...ก็แบบว่าไม่ค่อยอยากจะทำอะไรเท่าไหร่น่ะ” ประธานพูดบ่นๆก่อนที่จะยื่นมือไปหยิบรายชื่อคนเข้าแข่งที่ตอนนี้เหลือเพียง คลาส0,1,4,7,8 ที่ยังไม่โดนขีดค่าออกเพราะรีทาย
“ดูสิทรีเดย์ปีนี้ สละสิทธิแข่งก็เยอะ รีทายออกจากเกมก่อนก็เยอะ แบบนี้มันจะไปสนุกอะไรล่ะ? เห็นไหมรองไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยอ่ะ ฮะๆๆ” ธารนั่งบ่นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างจงใจเพราะด้านหลังเขามีสมาชิกสภานักเรียนอยู่ด้วย และส่วนหนึ่งในนั้นก็เป็นพวกลูกหลานขุนนางที่ต้องการแย่งเก้าอี้ประธานและกำจัดเสี้ยนหนามขวางทางอย่าคลาสซีโร่...ตอนนี้ธารกำลังเล่นตามเกมของคนพวกนี้อยู่
“เดินเล่น...แสดงว่าท่านประธานคงเบื่อมากสินะคะ” สมาชิกคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ออกจะประจบประแจงใช้ได้ “อา...ไม่รู้สินะ แบบว่ามันน่าจะมีอะไรสนุกๆมากกว่านี้อีกสักหน่อยน่ะนะ” ธารหันไปพูดกับคนที่ทักเขาและยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“งั้นมาพนันอะไรสักอย่างให้มันดูตื่นเต้นๆตามที่ท่านประธานต้องการหน่อยไหมค่ะ”
“ผมไม่ได้พกอะไรมาด้วยสิ...จะให้ผมเอาอะไรเป็นเดิมพันดีล่ะครับ คุณชิลลี่” ธารพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ อีกฝ่ายก็ประกบมือเข้าหากันก่อนที่จะถูมือไปมาแบบคนที่กำลังจะขายของ แล้วเธอก็โน้มตัวมากระซิบข้างหูธารเบาๆ
“ตำแหน่งประธานยังไงล่ะค่ะ!”
............ปลากินเบ็ดแล้ว!
“โฮ่...น่าสนุกดีนี่แล้ว เราสองคนพนันอะไรกันดีล่ะครับ? แล้วต้องโยนลูกเต๋าหรือเปล่าล่ะครับ?” ประธานเอนตัวไปด้านหลังและพูดด้วยน้ำเสียงที่สนใจกับหัวข้อสนทนาของอีกฝ่าย “ไม่ต้องเลยค่ะ ก็แค่...”
“เราสองคนมาพนันกันว่าคุณเซเว่นจะกลับมาที่สุซาคุได้ไหมก็เท่านั้นเองค่ะ!”
“.......อย่างเซเว่นต้องกลับมาได้อยู่แล้วล่ะครับ” ธารส่งเสียงในลำคอก่อนที่จะเอ่ยปากว่าจะเสี่ยงดวงแบบไหน อีกฝ่ายก็ทำหน้าอย่างเสียดายทันที
“ว้า...กะจะทายว่ากลับมาได้อยู่แล้วเชียว งั้นชั้นก็ต้องพนันว่ากลับมาไม่ได้สินะคะ” พอเธอพูดจบธารก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“ฮะๆๆไม่แน่โชคอาจจะเข้าข้างคุณก็ได้นะครับ ผมเทหมดหน้าตักเลยเอา! ...ถ้าเซเว่นไม่กลับมาคุณเอาตำแหน่งประธานและสิทธิในโรงเรียนของผมที่มีทั้งหมดไปได้เลย” ธารพูดสรุปออกมาคนชักชวนถึงกับตาโตเป็นประกายตามภาษาคนโลภมากทันที
“จริงๆนะคะ?!”
“จริงทุกคำครับ!”
เมื่อจบบทสนทนาธารก็นั่งดูคนดูรอบๆสเตเดี่ยมก่อนที่จะมองไปที่ๆคลาสซีโร่นั่งอยู่ ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนจอที่ตอนนี้ฉายภาพเรมและเซเว่นอีกครั้ง
เสียเพื่อนไปคนสองคนคงไม่มีปัญหาอะไรกับคลาสซีโร่หรอกมั้ง?!...
ตอนนี้ทางเราได้แก้ไขจอทั้งสองที่หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ตอนนี้ผู้เข้าแข่งทั้งสองอยู่บนมังกรค่ะ แต่มังกรนี่มีแต่คนโซริวเท่านั้นที่จะขี่มันได้ระหว่างที่สัญญาณขาดหายไปมันเกิดอะไรกันแน่เนี่ย!
ผู้บรรยายพูดฉอดๆออกมาอย่างเร็ว เมื่อช่องของคลาสซีโร่กลับมาฉายภาพอีกครั้ง ผู้ชมในสนามต่างโฮ่ร้องกันและคอยเรียกชื่อเชียรสองคนนี้ออกมาไม่ขาดสาย แน่ล่ะ...พวกเขาทึ่งกับมังกรไปแล้วมัน ต้องมีอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องตื่นเต้นอีกแน่
“...” ทางด้านเพริเนียที่นั่งอยู่ข้างๆไซด์ เธอมองช่องของเซเว่นและเรมแบบห่วงๆตั้งแต่แคปซูลตัวประกันแล้ว และรู้สึกว่าการแข่งนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ “เป็นอะไรไป?” ไซด์ทักเพริเนียที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเครียดมองจอภาพแบบตาไม่กระพริบ “เอ๋?! เปล่าค่ะไม่มีอะไร...” คนโดนทักตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆให้ เธอเผลอทำหน้าเครียดออกไป แล้วเพริเนียก็เข้าไปคลอเคลียไซด์เพื่อแสดงว่าเธอปกติดี ไซด์เอียงคอเล็กน้อยก่อนที่จะดูจอภาพต่อ
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงกระดิ่งดังขึ้นสั้นๆแต่ดังพอที่เจ้าของจะได้ยิน โทรศัพท์ของเพริเนียมีสายเข้ามาเธอจึงผละออกจากไซด์และรับโทรศัพท์
“คะ?...อ๋อ ได้สิ เจอที่หน้าประตูสนามกีฬานี่นะ จ้า...บายจะ”
“...” ไซด์มองคนข้างๆคุยโทรศัพท์อย่างเงียบๆ คงเป็นเพื่อนล่ะมั้ง ไซด์คิดแบบนั้นแล้วก็เลิกสนใจ “คุณไซด์ ชั้นขอตัวสักครู่นะคะ” ร่างเล็กหันมาพูดกับคนข้างๆ “อา...อื้อ แล้วมาขอชั้นทำไมล่ะ?” พอไซด์ตกลงอีกฝ่ายก็ลุกหายไปทันที แต่แม้ว่าเพริเนียจะไม่ได้อยู่กับไซด์แล้ว เหล่าแฟนคลับไอดอลก็ยังเขม่นไซด์ไม่เลิก
“โชคดีที่เลือกพกมา...” บนหลังมังกรเซเว่นพูดกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะหยิบสเปย์สมานแผล(โพชั่นแบบขวดฉีด) มาด้วย แล้วเซเว่นก็จัดการใช้มันฉีดไปที่แผลที่แขนซ้าย และบาดแผลส่วนอื่นด้วย
แม้เซเว่นจะใช้มังกรช่วยในการเดินทางตามกฏแล้วก็ตามแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ย่นระยะเวลาได้เลยเพราะบนฟ้านี้เกิดลมกรรชกพัดใส่อย่างรุนแรง ทางด้านเรมก็เสียเวลาเหมือนกัน เพราะระหว่างบินอยู่เธอได้เจอเพื่อนที่กำลังเดินทางกลับโดนมอนเตอร์ไล่ฆ่าอยู่
“แพนทาย! ให้ลงไปช่วยไหม?!” เรมตะโกนถามคนข้างล่างพร้อมกับบังคับให้มังกรบินวนอยู่รอบๆ “ไม่ๆๆไปเลย ไม่ต้องห่วงพวกชั้น!” คนข้างล่างก็ตอบกลับมา “แล้วเทเลพอร์ตสโตนล่ะ?!” เรมตะโกนถามอีกรอบ “เหวอ!...ชั้นเผลอใช้มันเป็นหินนำทางน่ะ” แพนทายตะโกนตอบหลังจากกระโดดหลบกรมเล็บของมอนเตอร์ เรมทำหน้าเจื่อน ใช้หินนำทางแสดงว่ายัยเพื่อนตัวดีของเธอใช้เทเลพอร์ตสโตนโยนนำหน้าเพื่อหากับดักสินะ... ได้แค่คิด เรมจึงตัดใจจากเพื่อนและมุ่งตรงไปที่เป้าหมายในแผนที่ระบุไว้ทันที
โอ๊ะ โว้ว! ตอนนี้ผู้เข้าแข่งแพนทายโดน “เจ้าทุย” ไล่ฆ่าใหญ่เลยล่ะค่ะ...ว่าแต่ทำไมถึงไม่ใช้เทเลพอร์ตสโตนวาปตัวประกัน กันล่ะนี่...ตัดไปทางด้าน ผู้เข้าแข่งเด็นวายจากคลาส4และผู้เข้าแข่งเยนจากคลาส8 เข้าช่วยตัวประกันได้แล้วค่ะ...
สิ้นเสียงผู้บรรยายตัวประกันของผู้เข้าแข่งคลาส4และ8ก็ปรากฏตัวขึ้นมากลางสนาม เหล่าเพื่อนๆในคลาสก็เข้าไปหาทันที
ในทางกลับกันผู้เข้าแข่งคาเตอร์จากคลาส1ซึ่งเป็นคนแรกที่ช่วยตัวประกันออกมาได้กลับไม่ใช่เทเลพอร์ตสโตนวาปตัวประกันกลับมา แต่กลับเลือกที่จะเดินกลับเหมือนกับผู้เข้าแข่งคลาส7...ทำไมกัน? น่าฉงนงุนงงจริงๆ อ้ะ! ในทางกลับกันเขากำลังเข้าไปช่วยผู้เข้าแข่งคลาส7ด้วยค่ะ!
ผู้บรรยายพูดร่ายยาวในขณะที่จอของคลาส1กำลังแสดงภาพตัวคนแข่งกับตัวประกันกำลังวิ่งเข้าไปช่วยคลาส7เสียด้วยซ้ำ...
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในสุซาคุและต่างชาติกำลังนั่งดูการแข่งขันวิ่งทรีเดย์นี้ ไอดอลสาวตัวน้อย เพริเนีย กับแว่นน้อย โคเวอร์ ก็กำลังดักฟัง พวกลูกหลานขุนนางคุยซุบซิบกันบนสเตเดียมตรงส่วนที่นั่งของสภานักเรียน อยู่ด้านหลังของธารที่เป็นประธานนักเรียนแบบไม่เห็นหัว ก่อนที่จะออกมานั่งอยู่ตรงน้ำพุหน้าตึกเรียนที่ทั้งสองคนนัดเจอกันไว้ก่อนหน้านี้
“ชั้นว่าพวกลูกหลานขุนนางที่เบียกโคแย่แล้วนะ...ที่นี่แย่กว่าอีก คำพูดพวกนั้นมันอะไรกัน คลาสซีโร่เคยป้องกันสุซาคุจากสงครามที่เกิดจากเบียกโคไม่ใช่หรอ? ทำไมคิดจะเขี่ยทิ้งเหมือนหมาหัวเน่าแบบนี้ล่ะ ...หงุดหงิดเฟ้ย!!” ประโยคสุดท้ายเพริเนียขึ้นไปยืนบนขอบน้ำพุแล้วตะโกนออกมาดังลั่นแบบไม่สนใจใคร “อ๊า! อย่าส่งเสียงดังแบบนั้นสิคะ...” แว่นน้อยยกมือดึงคนที่ยืนอยู่บนที่ๆไม่สมควรไปยืนให้ลงมา
“อะไรเล่า?! โคเวอร์ ตรงนี้ไม่มีใครอยู่สักหน่อย” เพริเนียเริ่มโวยวายก่อนที่จะลงมาแต่โดยดี “ถ้ามันมีอยู่จริง...หน้าที่ของพวกเราคือค้นหาสิ่งนั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ” โคเวอร์ไม่คิดที่จะต่อว่าแต่เริ่มถึงคำสั่งที่ได้มาเป็นนัยๆให้เพริเนียฟัง “เชอะ...ไปกันเลยเถอะ เรื่องจะได้จบๆ” เพริเนียพูดจบเธอและโคเวอร์ก็หายไปจากจุดเดิมที่ยืนอยู่ทันที
“โอ๊ส! ร่อนลงจอดตรงปากถ้ำนั้นเลย” ชั้นพูดสั่งมังกรสีขาวให้ลงจอดที่หน้าปากถ้ำตามคำสั่งชั้น แล้วมันก็ทำตามแต่โดยดี ทั้งๆที่ตอนแรกมันจะเหยียบชั้นอยู่แล้วเชียว
ฟิ้ว....
“เหวอ! ลมในถ้ำมันแรงขนาดนี้เลยหรอ?” เมื่อลงจากมังกรแล้วเดินไปตรงหน้าปากถ้ำ ลมจากด้านในพัดตรงมาหาชั้นจนชั้นต้องเอาแขนขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ “นายรออยู่นี่นะ” ชั้นสั่งมังกรอีกครั้งแต่คราวนี้มันกลับเดินหันหลังให้ชั้นแล้วหายไปต่อหน้าต่อตา
“เมื่อกี้ยังฟังกันอยู่ดีๆ ไหงตอนนี้เมินกันซะล่ะ?” ชั้นบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะไหวไหล่และเดินเข้าไปในถ้ำ
ตึง! ตึง!
“เสียง...” เดินเข้ามาได้สักพักชั้นก็ได้ยิงเสียงคนทุบกระจกดังๆสองสามครั้ง ชั้นรีบวิ่งไปหาต้นเสียงทันที ระหว่างทางที่เดินมาชั้นก็สังเกตเห็นรอยขีดกากบาท อยู่ตรงผนัง...เป็นคุณเซเว่นที่เข้ามาก่อนแน่นอน ชั้นมั่นใจก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ทางแยกสองทาง
“เวรล่ะ...ทางไหนล่ะเนี่ย”
ตึง! ตึง!
เสียงที่ว่าดังขึ้นอีกครั้ง “ทางนี้แหละ!” ชั้นพูดกับตัวเองด้วยความมั่นใจก่อนที่จะวิ่งไปที่ทางแยกด้านซ้าย...ซึ่งชั้นก็เดาถูกทางนี้ไม่มีรอยขีดของคุณเซเว่นเลย แล้วก็เดาได้เลยว่าอีกทางหนึ่งมีคุณดิวซ์อยู่แน่
วิ่งมาเรื่อยๆจนสุดทาง ปลายทางมีช่องทางเข้าใหญ่ๆอยู่ ชั้นก็หยุดเท้าและค่อยๆเดิน มันปลอดภัยกว่าที่จะวิ่งพรวดเข้าไปเพราะด้านในนอกจากเสียงทุบแล้วชั้นยังได้ยินเสียงอะไรสักอย่างเหมือนเครื่องจักรเดินเครื่องอยู่อย่างไงอย่างงั้น
เมื่อถึงทางเข้าชั้นดันตัวเองให้ชิดกับผนังถ้ำและชะโงกหน้าไปดูด้านใน “...โว้ว” ชั้นอุทานก่อนที่จะเดินเข้าไป มันไม่ใช่แค่ห้องใหญ่ๆโง่ๆในถ้ำ เครื่องจักรนานาชนิด อุปกรณ์ผ่าตัด เตียงผ่าตัด ตู้ใส่ๆที่เก็บเลือดและขวดยานานาชนิด แล้วก็ตู้แปลกๆที่ตั้งอยู่กับผนังถ้ำ นี่มันดูเหมือนห้องทดลองของนักวิจัยสติแตกชัดๆ ไหนจะแคปซูลออกซิเจน...
“แคปซูล?! คุณควีน!” ชั้นนึกขึ้นได้ก็รีบพุ่งตรงไปที่หลอดสีขาวอันใหญ่อย่างเร็ว “คุณควีน” พอชั้นส่องลงไปตรงช่องเล็กที่สามารถจะมองเห็นด้านในได้ ปรากฏว่าคุณควีนหลับอยู่ “หลับอยู่งั้นหรอแล้วเมื่อกี้ใครเคาะอะไรล่ะ?”
ตึง!
ทันทีที่มีเสียงของหนักๆกระทบกับพื้นชั้นก็หันควับทันที แล้วชั้นก็ต้องตกใจและดีดตัวออกห่างจากแคปซูลออกมา เมื่อเห็น...
“เฮบิมอธ!!” แม้มันจะตัวเล็กกว่าขนาดปกติและมีเครื่องจักรติดอยู่ที่ตัวแต่ดูยังไงก็เฮบิมอธชัดๆ
แฮ่.....
พอชั้นเรียกชื่อมัน มันก็ร้องขู่ชั้นทันที ชั้นต้องรีบถอยห่างจากแคปซูลอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือว่าไอ้นี่มันจะเป็นคนเคาะเรียกชั้น
ตึง! ตึง!
มอนเตอร์ตรงหน้าให้คำตอบชั้นราวกับมันรู้ว่าชั้นกำลังสงสัย มันเคาะไปที่แคปซูลสองสามที ก่อนที่มันจะหันมายิ้ม(?)ให้ชั้น
“ฉลาดจังนะแก...” ชั้นประชดใส่มันก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาโจมตีชั้น
มาแล้วค่าาาาาา! ฉากการต่อสู้ที่ชาวเรารอคอยมาแล้วเจ้าค่า จากนี้ทางเราจะใช้ระบบถ่ายทอดสดแบบ3มิติแทนภาพที่ฉายอยู่บนจอนะคะ!
ทันทีที่ผู้บรรยายพูดจบ จอเล็กๆที่เคยฉายอยู่เหนือสเตเดี่ยมก็หายไปและปรากฏภาพ3มิติลอยต่ำติดอยู่กับพื้นสนาม ซึ่งมันกำลังฉายภาพเซเว่นและเรมกำลังสู้อยู่กับศัตรูต่างชนิดกัน
“เฮ้! นั่นมันหุ่นยนต์เฮบิมอธของเบียกโคนี่” คนดูที่เป็นชาวเบียกโคพูดขึ้น หลังจากภาพ3มิติได้ฉายเรมที่กำลังกระโดดหลบแล้วกลิ้งไปกลิ้งมารอบๆตัวเฮบิมอธ
“นั่น! ที่คุณเซเว่น กำลังสู้อยู่ ใช่สโนวไจแอนท์หรือเปล่าน่ะ?!”
“ใช่ๆๆ มีเครื่องจักรติดอยู่ด้วย หุ่นของเบียกโคเหมือนกับเฮบิมอธแน่เลย!”
“ลำเอียงนี่!! กะฆ่าคนหมกถ้ำเลยนี่หว่า!”
“กริ๊ด! แบบนี้ชั้นไม่ยอมนะ!”
และเสียงพูดคุยกันถึงเรื่องที่โจทย์ไม่เสมอภาคก็เริ่มหนาหูขึ้นทันที แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นคนที่นั่งอยู่ในสภาก็นิ่งเฉยและทำเป็นหูทวนลมไปซะหมด
“ชิ!” เซเว่นที่พลิกตัวหลบไม่ทันโดนเจ้าลิงหิมะอัดไปที่สีข้างแบบเต็มรัก จนตัวกระแทกกับผนังถ้ำอย่างจัง ร่างเล็กๆมองค้อนไปทางแคปซูลที่มีตัวประกันอยู่ด้านในและเจ้าลิงบ้านี่ก็ยืนขวางทางอยู่ เซเว่นยืนนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพุ่งไปหยิบอุปรกณ์ผ่าตัดที่มีอยู่หันกลับมาโจมตีเจ้าสโนวไจแอนท์บ้าง
ไวเท่าที่ตาเห็นทันทีที่เซเว่นปามีดที่หยิบติดมือมาได้ออกไป เจ้าสโนวไจแอนท์ใช้มือปัดมีดผ่าตัดแบบไม่ยากเย็นนัก แต่นั่นก็เป็นแค่ตัวล่อ เซเว่นต้องการที่จะช่วยดิวซ์เท่านั้นเธอไม่ยอมเสียเวลาสู้กับใครหรือตัวอะไรในเวลาแบบนี้ เซเว่นพุ่งตรงไปที่แผงควบคุมข้างๆแคปซูลแล้วรีบหยิบการ์ดขึ้นมาเพื่อปลดล็อคแคปซูลทันที แต่การ์ดยังไม่ทันจะได้แตะกับแผงควบคุม คนถือการ์ดก็โดนสโนวไจแอนท์ปัดมือเข้ากระแทกกับสีข้างซ้ำสองจนตัวลอยไปกระแทกกับผนังตามเดิม แต่ซวยหนักกว่าเดิมอีก เมื่อเจ้าสโนวไจแอนท์มันดันหยิบการ์ดที่เซเว่นทำหลุดมือไป แล้วเก็บเอาไว้กับตัวซะเฉยๆ
ทางด้านที่นั่งของสภานักเรียน พวกลูกหลานขุนนางเริ่มขยับตัวกันอีกเล็กน้อยหลังจากที่โดนผู้ชมด่าใส่อย่างหนาหู แต่ถึงอย่างนั้นธารก็เลือกที่จะนั่งดูการแข่งขันต่อไปเรื่อยและทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
“เมื่อกี้ ผมเห็นเพริเนียจัง ออกไป เธอรู้หรือเปล่าว่าน้องเธอออกไปไหนน่ะรอง?” ธารโน้มตัวไปกระซิบถามรองประธานที่นั่งอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายก็ไหวไหล่ตอบกลับมา “กลับเบียกโคไปแล้วมั้ง”
“แล้วรองไม่คิดจะกลับไปบ้านที่เบียกโคบ้างหรอ? ผมจะได้ไปหาคุณพ่อตาสักหน่อย” ธารกระซิบถามรองอีกรอบคราวนี้ประธานโดนรองต่อยเข้าที่หน้าอย่างจังและล้มไป จนคนที่นั่งอยู่ข้างหลังถึงกับสะดุ้งเฮือก แต่ธารก็ยกตัวกลับมานั่งปกติแล้วกลับมายิ้มเหมือนเดิม ส่วนรองก็นั่งทำหน้าบูดดูการแข่งขันต่อแม้ว่าตอนนี้รองประธานจะหน้าแดงก่ำจนปิดไม่มิดแล้วก็ตาม
“ไม่มีอะไรครับ ทุกท่าน...” ธารหันกลับไปพูดกับสมาชิกที่นั่งอยู่ด้านหลัง “อ่า...ค่ะ/ครับ” สมาชิกก็พูดขานรับก่อนที่จะทำตัวตามปกติ ธารเลื่อนสายตากลับไปดูภาพฉายต่อ
เสียงดังโครมครามดังออกมาจากทั้งสองห้องในถ้ำแต่ดูท่าเรมและเซเว่นจะไม่ได้รู้สึกถึงเสียงที่ดังออกมาจากห้องที่ที่อยู่ข้างๆกันเลยแม้แต่น้อย
“โอ๊ย!” เรมส่งเสียงร้องออกมา หลังจากที่โดนเฮบิมอธตะปบเข้าให้ ถึงแม้เรมจะโยกตัวหลบได้แต่เล็บที่ยาวที่สุดของมันก็เฉือนเข้าที่หน้าผากด้านซ้ายจนเลือดไหลออกมาเล็กน้อย “โอ๊ย ดีนะที่แผลไม่ลึกมากน่ะ” เรมบ่นเบาๆก่อนที่จะหาทางเข้าไปหาในส่วนของแผงควบคุมหลังจากที่ตัวเองถอยออกมาตอนเจอเฮบิมอธครั้งแรก
“นั่น! เนื้อล่ะ!!” เรมพูดพร้อมกับชี้ไปด้านบน เพื่อหลอกให้ศัตรูมองตามแต่ไม่ได้ผล มันวิ่งเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงออกมาดังลั่นราวกับจะบอกว่า ‘ตรูใช้พลังงานเฟร้ย ซื่อบื้อ!’ จากนั้นมันก็หวดขาหน้าของมันโจมตีเรมอีกรอบหนึ่ง เรมใช้ความตัวเล็กหลบได้แบบไม่ยากเท่าไหร่นัก
“เหวอ! เป็นหุ่นยนต์งั้นหรอ?! มิน่าล่ะถึงได้ฉลาดนัก” พูดว่าศัตรูจบ มือทั้งสองของเรมก็ควานหาของรอบตัวที่มันพอจะใช้ได้ แล้วโชคก็เข้าข้างมือของเรมไปสะกิดกับของสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ...
“กรรไกร...ก็ยังดีล่ะนะ !!” เรมชูของที่หยิบได้ขึ้นมาดู ก่อนที่จะต้องย้ายตัวหลบหางของเฮบิมอธที่ฟาดลงพื้นอย่างแรง เรมที่พลิกตัวตั้งหลักได้แล้วเธอวิ่งไต่กับผนังหนังห้องแล้วกระโดดเกาะบนตัวเฮบิมอธ อีกฝ่ายมีหรือจะยอม มันเริ่มสะบัดตัวอย่างแรงคล้ายๆหมาพึ่งอาบน้ำเสร็จทันที
เรมเองก็ไม่ใช่จิ้งจกหรือตุ๊กแก พอมันสะบัดตัวได้สองสามที ร่างเล็กๆของเรมก็กระเด็นจนเรมปลิวออกมา แต่เรมอาศัยจังหวะที่ลอยอยู่หาหลักยืนและถีบตัวเองจากผนังถ้ำพุ่งไปที่ตัวเฮบิมอธอีกครั้ง คราวนี้เรมเล็งไปที่ตาของมัน
กร๊อบ!
เสียงของกรรไกรแทงทะลุกระจกแก้วดังขึ้น ก่อนที่จะตามด้วยเสียงช็อตไฟฟ้าที่ดังตามขึ้นมาติดๆพร้อมกับเสียงร้องของเจ้าหุ่นเฮบิมอธ
“อ๊าย! แขนติด!!” เหมือนจะจบเท่ห์แต่อนาจหนัก เมื่อแขนข้างถนัดที่ใช้กรรไกรแทงทะลุเข้าไปที่ตาของเจ้าหุ่นดันไปติดแล้วดึงออกมาไม่ได้ “ซวยแล้วๆๆ” เรมได้แต่บ่นเท่านั้น ตอนนี้เรมต้องขึ้นไปเหยียบบนปากเฮบิมอธแบบไม่กลัวมันกัด เป็นที่ยืนแล้วดึงแขนตัวเองออกมา
โชคดีปนโชคร้ายเจ้าเฮบิมอธเริ่มเซ็ตระบบตัวเองให้เป็นแบบยืนเหมือนมนุษย์แล้วมันก็ใช้ขาหน้าที่กลายเป็นมือแล้วจับตัวคนที่ยืนอยู่บนหน้ามันแล้วดึงออกมาเหมือนดึงเส้นเชือกออกจากหน้าตัวเองอย่างแรง ก่อนที่มันจะเหวี่ยงร่างเล็กลงกับพื้น
“อัก!” หลังกระแทกกับพื้นที่ไม่เรียบอย่างจังจนเรมต้องร้องออกมาไม่เท่านั้น แขนข้างที่ไปติดอยู่บนหน้าเฮบิมอธ เมื่อครู่ถูกอาบด้วยเลือดสีแดงสด เพราะในจังหวะที่ตัวเรมโดนดึงออกมานั้นแขนข้างที่ว่าก็ได้ขุดกับสายไฟและเส้นลวดต่างๆในตัวหุ่นเฮบิมอธ ผิวหนังหลุดออกไปเป็นทางยาวเหมือนเอาลวดแข็งๆขุดกับเทียนเป็นทาง
“ชิ!...ติดช็อต” เรมสบถอย่างหัวเสีย เพราะแขนข้างที่อาบเลือดอยู่นั้นมีแสงสายฟ้าแล่นผ่านออกมาและเธอรู้สึกชาจนขยับแขนไม่ได้ การโจมตีของเจ้าหุ่นยนต์ตรงหน้าก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่เรมก็ยังพยายามหลบด้วยขาทั้งสองข้างและแขนที่เหลืออยู่อย่างทุลักทุเล
เคร้ง!...
“นั่นมัน?!” โชคเข้าข้างจู่ๆก็มีวัตถุประหลาดหลนลงมาอยู่ข้างๆเรม มันเป็นหอกสีฟ้าใสและด้ามไม่ยาวมากนักขนาดเหมาะมือมาก เรมรีบเก็บมันขึ้นมาก่อนที่จะหลบการโจมตีของเจ้าหุ่นเฮบิมอธอีกครั้ง
“หอกนี่มาจากไหนกันนะ? ช่างเถอะ...” เรมเริ่มจะตั้งท่าโจมตีกลับบ้างแต่ เรมใช้อาวุธระยะกลางไม่เป็น...จึงได้แต่ใช้มันบล๊อคการโจมตีเท่านั้นบวกกับแขนข้างที่บาดเจ็บติดสภาพวะผิดปกติอยู่ด้วยทำให้เรมโจมตีกลับไม่สะดวกมากนัก
“โอ๊ย! ขยับไม่สะดวกเลยให้ตายเถอะ...ยาก็ไม่มี” ด้วยความที่บาดเจ็บอยู่แล้วและต้องคอยป้องกันตัวเองจากการโจมตีของอีกฝ่าย ทำให้คนเฉื่อยๆอย่างเรมถึงกับเริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้ว
“ย้าาาาา!!” อาการหัวเสียทำให้เรมพุ่งตัวเองเข้าไปหาเจ้าหุ่นยักษ์แล้วใช้หอกที่ได้มาแทงไปที่ใต้ท้องของเจ้าหุ่นเฮบิมอธอย่างแรง
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก... เสียงเครื่องจักรดังขึ้นแสดงขึ้นอาการขัดข้องอย่างเห็นได้ชัด “ดูท่าจะได้ผลสินะ...” เรมพูดออกมาอย่างมีความหวัง ร่างใหญ่ๆของหุ่นยักษ์สั้นเล็กน้ก่อนจะหยุดลงพร้อมกับเสียงที่เป็นการส่งสัญญาณว่ามันพังไปแล้ว
“...ลัคกี้!” เรมพูดด้วยน้าเสียงที่อารมณ์ดีไม่ใช่น้อย เธอค่อยๆเดินไปที่ตู้แคปซูลช้าๆโดยมีเจ้าหอกปริศนาที่เธอใช้จัดการเจ้าหุ่นเฮบิมอธ เมื่อมาถึงหน้าแคปซูลเธอก็หยุดมองมันนิ่งๆ ก่อนที่จะหยิบการ์ดขึ้นมาแล้วมองของบนมือนิ่งๆอีกครั้ง
“ง่า....ใช้ยังไงล่ะ?” แม้จะใช้เวทย์มนต์ได้ดีมากแค่ไหน แต่กลับเครื่องจักรแบบนี้เรมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน เดือดร้อนคนที่แอบดูอยู่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยอีกครั้ง
“เอาบัตรนั่นใส่เข้าไปที่ช่องเล็กๆในกล่องสีดำข้างๆแคปซูลค่ะ” เสียงปริศนาดังขึ้น เรมเองที่ยังมึนๆ เหนื่อย และ อ่อนแรง มากถึงมากที่สุดบวกกับการเสียเลือดไปมากด้วยแล้ว ทำให้เรมเลือกที่จะไม่ตั้งคำถามใส่เสียงปริศนาและเลือกที่จะทำตามเสียงที่ดังออกมา “กดรหัส9986ที่จอในช่องสีฟ้าค่ะ” เสียงปริศนาดังขึ้นเพื่อบอกขั้นตอนไปเรื่อยๆ เรมเองก็ทำตามอย่างรวดเร็ว
ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ .....ซู่
แล้วก็สำเร็จแคปซูลค่อยๆเปิดออกมาช้าๆ เรมค่อยๆถอยห่างออกมาเพราะมีน้ำไหลออกมาจากแคปซูล ไม่นานเรมก็เดินเข้าไปใกล้ เมื่อตู้เปิดออกมาร่างของควีนก็ค่อยๆออกมาจากแคปซูล เรมก็รีบเข้าไปประคองทันทีก่อนที่จะค่อยๆวางควีนให้นอนกับพื้น
“คุณควีน...คุณควีน” ชั้นพยายามจะปลุกให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมา หลังจากที่ปล่อยให้เธอนอนนิ่งๆมาสักพัก แม้เธอจะยังหายใจอยู่เบาๆแต่ก็ไม่ยอมขยับตัวเลยแม้แต่น้อย แต่รวมๆแล้วชั้นไม่มั่นใจเลย...ในหลายๆอย่างน่ะนะ “เอายังไงดีล่ะเรา?...” ชั้นลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจใช้มือข้างที่ยังใช้ได้อยู่ค่อยตบหน้าคุณควีนเบาๆ
เพี้ยะ!!
“โฮก!!”
โครม! เคร้งๆๆๆ!!
ทันทีที่มือชั้นสัมผัสกับแก้มนิ่มของคุณควีนเพียงแค่นิดเดียว หน้าชั้นก็โดนฝ่ามือที่คุ้นเคย(?)หวดเข้าไปที่หน้าเต็มๆจนตัวลอยไปชนกับกองอุปกรณ์ที่ตั้งไว้โครมใหญ่
“คราวที่แล้วก็มองชั้นด้วยสายตาหื่นกาม...คราวนี้จะลวนลามชั้นอย่างนั้นหรือคะ?... โท..กิ..มิ..ยะ..ซัง!! ” เสียงใสๆและสั่นเล็กน้อยด้วยความหนาวดังขึ้นบวกกับความโกรธ คุณควีนใช้มือข้างที่ตบชั้นขยับแว่นเล็กน้อย ชั้นลืมตาขึ้นหลังจากต้องหลับตาปี๋ในจังหวะที่ตัวลอยไปกระแทกกับกองอุปกรณ์ที่ตั้งกันอยู่เละเทะ
“...” ชั้นมองอีกฝ่ายเงียบๆโดยที่ไม่พูดอะไร คงจะเป็นเพราะตัวชั้นเริ่มจะชาๆด้วยบาดแผลด้วยล่ะมั้ง แต่อีกฝ่ายเองก็สั่นเพราะความหนาวเหมือนกันล่ะนะ
“ม....มองอะไรคะ?” อีกฝ่ายถามชั้นด้วยน้ำเสียงที่ขุนและสั่นเครือด้วยความหนาวเล็กน้อยแล้วก็หน้าขึ้นสีเล็กน้อยด้วย ทำไมล่ะ? “ย...ยังไม่เลิกมองชั้นด้วยสายตาหื่นกามแบบนั้นอีกใช่ไหมคะ?!”
ป้าบ!
“โอ๊ย!” คราวนี้คุณควีนไม่พูดอย่างเดียวคุณเธอขว้างแผ่นอะไรสักอย่างที่คล้ายๆถาดใส่หน้าชั้นดังป้าบ! หัวหน้าคนนี้ไร้เหตุผลชะมัดเลย
ถึงจะคิดแบบนั่นแต่การที่คุณควีนสบายดีมันก็ทำให้ชั้นยิ้มออกมาน้อยๆโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ “ยิ้มอะไรคะ?” อีกฝ่ายถามชั้นทันทีแน่นอนใบหน้าของคุณควีนแดงหนักขึ้นกว่าเดิมไม่รู้เป็นเพราะอะไร?...
ชั้นไม่ได้พูดอะไรออกไปชั้นจ้องหน้าคุณควีนที่แกล้งทำเป็นขยับแว่นแก้เขินแบบไม่เนียน แล้วชั้นก็ยิ้มแห้งๆออกมาเพราะอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งตัวมันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่จะฝืนทนเจ็บเดินอ้อมไปด้านหลังคุณควีนแล้วถอดเสื้อกันหนาวตัวนอกแล้วคลุมตัวคุณควีนเอาไว้
“ดีแล้วล่ะค่ะ...ที่คุณควีนไม่เป็นอะไร”
“อย่ามาแตะตัวชั้นนะคะ!!”
ผลัก!
“โอ๊ย! ยังไม่ได้โดนตัวเลยนะคะ?!”
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่กลับมาอ่านกันนะคะ // โค้งงามๆ3ที
ความคิดเห็น