คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Battle 15 : มาสเตอร์ที่ถูกเชิญ
หลายอาทิตย์ต่อมา ทุกอย่างก็ดูเงียบสงบมากเกินไป ไม่มีการชักนำของมิติ ไม่มีการต่อสู้ใดๆที่ควรเจอ
“โอ๊ย...พี่ริล ดึกๆดึนๆ จะพาหนูไปไหนอ่า...หนูง่วงนะ”
ไอซ์บ่นงัวเงียพร้อมกับเอนตัวไปทางไลท์นิ่งที่นั่งมาด้วย แซ็คที่นั่งข้างๆก็เอ็นดูไอซ์พร้อมกับยื่นมือจะไปลูบหัวแต่ก็ต้องชะงักเพราะไลท์นิ่งจ้องไปทางเขาเขม่ง...แซ็คก็ได้แต่เหงื่อตกและชักมือกลับ
“ขึ้นมหาลัยแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้...ถึงแล้วเดี๋ยวไลท์นิ่งก็อุ้มเราไปเองน่ะแหละ นอนไปเถอะ”
ริลบ่นพร้อมกับทำหน้าบู้ขณะที่กำลังขับรถอยู่ ไม่นานก็มีรถอีกสองคันตามมา
“รถนั่น...”
คลาวด์ที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับพูดขึ้นหลังจากที่เขาเห็นรถคันที่ว่า...
“อ๋อ...รถของเจ้าไบรด์กับหมอเจน่ะจ๊ะ”
ริลตอบด้วยน้ำเสียงแบบคนอารมณ์ดี ก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง
“โรงแรมจาชัวร์ เป็นโรงแรมในเครือของบริษัท อิเทชั่น คอมปานี...แล้วพี่ริสเรียกพวกเรามารวมตัวกันที่นี่ทำไมล่ะเนี่ย?”
แอนที่นั่งอยู่ในรถของไบร์ทก็พูดขึ้น โดยด้านหลังมีการแลนด์กับเคออสในชุดสูทนั่งอยู่
“เหมือนกับแม่ได้จดหมายเชิญอะไรสักอย่างน่ะ...อิเทชั่น คอมปานี มีผู้ก่อตั้งเป็นหนึ่งในมาสเตอร์รุ่นเก๋าเชียวนะ เพราะงั้นข้อมูลครึ่งหนึ่งของบริษัทจะมีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา ที่เป็นมาสเตอร์และพาทเนอร์อย่างมากเลยทีเดียว”
“งั้นหรอ?”
“อืม...แต่ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อิเทชั่นต้องการอะไรจากพวกเราหรือเปล่านะ”
ไบร์ดพูดขึ้นก่อนที่จะเลี้ยวรถตามคันหน้าเข้าไปในลานจอดรถ
“ง่วงหรือเปล่า? หนูออ” ในรถอีกคันหมอเจที่ไปรับออกับมายด์มาเอ่ยถามขึ้นเพราะเห็นคนที่นั่งข้างๆตาปรืออย่างเห็นได้ชัด ส่วนมายด์กับทิฟาที่นั่งกันอยู่เบาะหลัง ก็เอนตัวเข้าหากันและหลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเรนส์นั่งฟังเพลงเงียบๆอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูยังไหวอยู่...” เด็กสาวใช้นิ้วดันเปลือกตาขึ้นแล้วทำตาโต หมอเจก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไป
แล้วรถคันที่สามก็เข้าสู่ลานจอดรถของโรงแรมจาชัวร์…
เมื่อมาสเตอร์ที่ถูกเชิญมา(แคริส ไอซ์ ไบร์ด แอน เจ ออ และ มายด์) ก็ให้พาทเนอร์( คลาวด์ แซ็ค ไลท์นิ่ง เรนส์ การ์แลนด์ ทิฟา) เข้าโหมดpsp ก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงแรม
“ยินดีต้อนรับครับ มาสเตอร์ทุกท่าน”
“[ข้าวเย็นอยู่ในตู้เย็น เดี๋ยวจะกลับมา]...หือ? จะออกไปไหนกันอีกนะ ดึกขนาดนี้แล้ว??” อาร์มพูดพร้อมกับวางกระดาษโน๊ตไว้ที่โต๊ะกินข้าว
‘เหงาหรอ?’
“บ้า! ไม่ได้เหงาสักหน่อย แต่กินข้าวน่ะ จะให้อร่อยๆมันก็ต้องกินกันหลายๆคนสิ”
‘นั่นสินะ...’
ณ. ศาลเจ้าชินริวที่ญี่ปุ่น(ที่ซ่อมเสร็จแล้ว) มิโกะสาวนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่ร่างกายมีรอยแผลและผ้าผันอยู่หลายจุด ในมือกำpspสีเงินคาดดำไว้ไม่ห่าง
“พี่อาซามิ ทำอะไรอยู่คะ?” เด็กสาวคนหนึ่งตัวเล็ก ผิวซีด ผมสั้นสีดำคลั่บเดินมานั่งใกล้ๆกับมิโกะสาวที่นั่งนิ่งๆโดยไม่ตอบอะไร
“อือ...ยังคิดถึงเรื่องวันนั้นอยู่หรอคะ?”
“ก็...นิดหน่อย”
ถึงจะพูดไปแบบนั้น อาซามิก็ยังนึกถึงวันที่เธอโดนพัดไปที่โลกของดิสซิเดีย เธอได้เจอกับมาสเตอร์ของกอลเบลซ่าที่กำลังจะทำร้ายเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง การต่อสู้มันจบลงด้วยเวลาอันสั้น เธอพ่ายแพ้ให้กับมาสเตอร์คนนั้น แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถช่วยเด็กหญิงคนนั้นได้
“ก็ดีแล้วล่ะนะ” อาซามิพูดขึ้นก่อนที่จะลุกหายไป ทิ้งให้คนที่มาทักเธอนั่งงงอยู่อย่างงั้น มิโกะสาวโยนpspออกไปที่สวนเล็กๆข้างๆศาลเจ้า แล้วpspก็กลายเป็นพาทเนอร์ของเธอ เซฟิรอธในชุดยูกาตะสีเทาอมน้ำเงิน
“ไม่สบายใจที่แพ้ อย่างงั้นหรอ?” เซฟิรอธพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้อาซามิ “ไม่ใช่...ที่ไทยน่ะ”
“ไทย?”
“ที่นั่น...กำลังจะเกิดเรื่อง” อาซามิพูดพร้อมกับนั่งยองๆแล้วมองพาทเนอร์ของตนก่อนจะพูด
“อยากจะไป...ประเทศไทยไหม?”
“......ห๊ะ?!”
“ฝน...ฝน”
“อืม...อื้อ”
ณ บ้านทรงไทยที่อยู่ใจกลางเมือง เด็กสาวลูกครึ่งอาเนะโดนเพื่อนเขย่าตัวอย่างแรง จนคนโดนปลุกต้องจำใจตื่นขึ้นมา
“อะไรอ่ะ? จันทร์เจ้า” คนโดนปลุกขึ้นมาขยี้ตาพร้อมกับเอ่ยถามคนปลุก “ดูตรงนั้นสิ” จันทร์ทราพูดจบแล้วชี้ไปที่เงาดำๆรูปร่างเหมือนคนสองคนยืนอยู่ “เห้อ??” อาเนะค่อยๆมองไปที่ปลายทางที่นิ้วของจันทร์ทรา ก่อนที่จะเอี้ยวตัวไปเปิดไฟ
พรึบ
“ไงจ๊ะ? สาวๆ แฮ่ๆๆๆ”
ทันทีที่เปิดไป ทั้งคู่ยังไม่ทันได้ร้องสักแอะ เพราะว่ามีดาบบัสเตอร์ซอร์ตจอคออาเนะอยู่ ส่วนจันทราก็ได้แต่นั่งตัวสั้นเพราะของมีคมอันใหญ่อยู่ในใกล้ชิดในระยะไม่ถึงสองเซนต์
“อย่าขยับจะปลอดภัยกว่านะ” คนถือดาบพูดเสียงเรียบ “เฮ้ พูดมากน่า บันท์...เอาล่ะสาวน้อยตามชั้นมาซะดีๆ อ้ะ! จริงสิ...pspเครื่องนั้นหยิบมาด้วย” ชายแปลกหน้าพูดพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกตรงที่มีรถจอดอยู่
“ลุกเดินไปเงียบๆนะ ชั้นไปสำรวจมาแล้ว บ้านนี้น่ะ มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่หลับอยู่ ถ้าขัดขืนล่ะก็...คงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” บันท์พูดขู่ อาเนะที่ยืนฟังอยู่ถึงกับขนลุกซู่...เขาไม่ได้พูดเล่น ท่าทีของเขาจริงทุกอย่างไม่มีวี่แววที่จะล้อเธอเล่นสักนิด
“นั่นคุณยายชั้น...อย่ายุ่งนะ!” อาเนะจ้องหน้าขู่ คนถือดาบก็ปล่อยดาบในมือให้หายไป “งั้นเชื่อฟังมาสเตอร์ผมเถอะ....”
“ขอร้อง...”
“!!....” สิ้นเสียงร่างสูง อาเนะกับจันทรากับรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่าง บางอย่างที่เบาบางมาก แต่เนื่องจากสถานการณ์บังคับ จึงทำให้ทั้งสองคิดอะไรไม่ได้มาก นอกจากการเอาตัวรอดในตอนนี้
แล้วบันท์อาเนะกับจันทราก็เดินมาถึงลานจอดรถ ที่มีรถตู้ของชายปริศนาคนนี้จอดอยู่
“อาวล่ะ! ขึ้นรถเลยจ้า”
“ปล่อยหลานชั้นเถอะจ้ะ....” หญิงชราคนหนึ่งในชุดนอน เดินมากับไม้เท้าสีแดงเลือดหมู ที่คอมีเครื่องเกมpspสีฟ้าคาดส้มอมแดงคล้องสายลูกปัดหลากสีไว้อยู่
“คุณยาย!!”
“เฮ่ เฮ เฮ้! ยาย นภา ไม่คิดว่าจะได้เจอ” ชายปริศนาพูดทักทาย “ชาร์ม...ปล่อยหลานชั้นกับเพื่อนหลานชั้นเถอะนะลูก ยายขอร้องล่ะ” ยายแก่พูดขึ้น “ได้ไง ยาย...สองคนนี้จำเป็นในแผนการณ์ของผมนา” ชายปริศนาที่ชื่อ ชาร์ม พูดตอบด้วยท่าทียียวนกวนประสาท แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณยายเส้นกระตุกหรืออารมณ์เสียแต่อย่างใด “งั้นชั้นคงต้องอบรมเรื่องมารยาท เวลาพูดกับผู้ใหญ่เสียหน่อย”
“ไม่ต้องหรอกยาย ผมไม่ว่าง...”
“ฟรีโอคุง” หญิงชราขานชื่อ ร่างของเธอก็เรื่องแสงออกมา จากหญิงชราแก่ๆ กลายเป็นหญิงสาวผมสีเงินสวย พร้อมกับอาวุธที่ปักอยู่เต็มพื้น
“สังขารยังไหวอยู่อีกงั้นหรอ..บันท์จัดการ!” สิ้นเสียงชาร์ม บันท์ก็ผละออกจากอาเนะและจันทรา ทำให้ทั้งสองวิ่งไปอีกฝั่งได้ทันท่วงที ชาร์มมองเด็กสาวทั้งสองก่อนที่จะสบถหัวเสียอยู่ในใจก่อนที่จะขึ้นรถตู้หายไป
VS บันท์...
เสียงนุ่มทุ้มหล่อดังขึ้นในหัวของคุณยาย เท้าข้างถนัดของบันท์ที่ยืนอยู่ถูกกดลงกับพื้นหญ้า และพุ่งเข้ามาหาอีกฝ่ายพร้อมกับเรียกดาบบัสเตอร์ซอร์ตและมาซามุเนะออกมาโจมตี
“ฟรีโอคุง ปรับความเร็วให้ยายอีกหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
‘ครับ!’
เคร้ง!!!
คุณยายใช้มือหนึ่งหยิบดาบที่ใกล้ตัวขึ้นมาพร้อมกับมืออีกข้างหนึ่งหยิบหอกอันยาวขึ้นมาบล็อคการโจมตีของดาบใหญ่และดาบยาวเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น “ปล่อยพวกเราไปไม่ได้หรือจ๊ะ? บันท์คุง” ขณะประจันหน้ากัน ยายนภา(ในร่างสาว)ก็พูดถามอีกฝ่ายด้วยน้าเสียงนุ่มๆ “ขอโทษครับ...ผมขัดขืนคำสั่งของมาสเตอร์ไม่ได้”
“งั้นเธอคงต้องหลับไปก่อนแล้วล่ะจ๊ะ”
“นั่นมันคำพูดของผมต่างหากล่ะ....อีฟรีท!”
ตูม!!!!
เสาเพลิงต้นเล็กๆพุ่งขึ้นจากพื้นดินลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เพราะอากาศเย็นในตอนกลางคืน เสาเพลิงที่ควรจะหายไป100% กลับเหลือเศษลาวาที่แข็งตัว ลอยลงมาตกกระทบกับพื้นไปทั่วบริเวณ
“คุณน่ะเก่งนะครับ...แต่ว่ามาสเตอร์อีกคนหนึ่งน่ะ เป็นเพื่อนคุณด้วยใช่ไหม?”
“...ไอซ์น่ะหรือ?”
“ครับ...เขาอ่อนแอมากเลยล่ะ”
“งั้นหรือ? แต่ที่จริงแล้วน่ะ...”
ในจังหวะที่นภากำลังจะพูดจบ ขวานที่ปักอยู่กับพื้นก็ถูกพื้นดีดขึ้นมาจากการก้าวขาของผู้ใช้ ขวานสีแดงอมส้มเด้งขึ้นมาพอดีกับมือและถูกจามไปที่ศัตรูอย่างรวดเร็ว
ฉัวะ!!!
และมันก็เข้าเป้าอย่างจังเสียด้วย...
“เด็กคนนั้นเก่งกว่าชั้น4-5เท่าเลยนะจ๊ะ”
ความคิดเห็น