ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FULL-TIME #สายรุ้งสีคราม

    ลำดับตอนที่ #6 : CH05 :: 05:00

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 63





    05:00

     

    ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงสำหรับการคอลออนไลน์กับสายรุ้ง

    สิบนาทีแรกคืออีกคนเอาแต่ขอบคุณอย่างนั้นอย่างนี้ ขอบคุณนักขอบคุณหนาที่ผมว่างคุยด้วย ซึ่งผมบอกให้เจ้าตัวหยุดขอบคุณไปแล้วกี่ครั้งก็ไม่รู้

    สายรุ้งกำลังเริ่มทำเทอมโปรเจกต์ โจทย์ที่เจ้าตัวบอกเล่าฟังดูคล้ายกับเทอมโปรเจกต์ของไอ้พี่จูนที่เคยมาขอให้ผมเป็นผู้สงสารไปถึงพี่ฟ้าให้มาเป็นยูสเซอร์ให้

    ไม่สิไม่คล้ายหรอก ผมว่ามันเหมือนกันเป๊ะเลยแหละที่ให้ออกแบบกิจการหนึ่งๆ ขึ้นมาตามความต้องการของยูสเซอร์ที่นักศึกษาเลือก

    สายรุ้งเลือกกิจการร้านอาหาร เจาะจงเป็นร้านหรูระดับภัตตาคารเพื่อความเล่นใหญ่

    แรกเริ่มเดิมทีสายรุ้งกำลังเครียดที่ตัวเองยังหายูสเซอร์สำหรับเทอมโปรเจกต์ไม่ได้เลยต้องการใครสักคนเพื่อนระบายความเครียดนั้นออกมาเฉยๆ ไม่รู้หรอกว่าทำไมผมถึงเป็นคนที่เขาเลือกจะระบายความเครียดนั้นให้ฟัง แต่ถ้าลองคิดแบบไม่จริงจังมากนักก็คงเพราะ เล่าให้คนที่ไม่ได้รู้จักกันมากมายคงสบายใจกว่าการเล่ามันให้คนที่รู้จักตัวเองดี

    มั้งนะ...

    และด้วยความที่พี่ฟ้าหรือก็คือพี่ชายผมทำร้านอาหารพอดีก็เลยหลุดปากเสนอออกไป บวกกับลองแชทไปถามดูก็ดันตกลงเป็นยูสเซอร์ให้สายรุ้งเฉย

    ก็เลยได้เสียงแหกปากร้องดีใจของคนปลายสายมา 2-3 นาที แถมให้ด้วยเสียงทุบประตูจากที่ไกลๆ ก็นิดหน่อย คงไปใครสักคนในหอของสายรุ้งที่มาเคาะประตูบอกให้เงียบเสียงนั่นแหละ

    ‘[Rainbow]: ขอบคุณเรามากๆ เลย

    ‘[Rainbow]: ที่อุตส่าห์เป็นธุระให้

    ‘[Rainbow]: ไว้พี่พาไปเลี้ยงอีกนะๆๆๆๆๆ

    ผลของการช่วยหายูสเซอร์ให้ คือผมจะถูกเปย์ด้วยของกินอีกแล้ว

    จะว่าไปก็แอบขำนะ สายรุ้งเป็นอะไรกับการเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมคนอื่นหรือเปล่า ทำไมหาเรื่องเลี้ยงผมบ่อยจังเลย คือก็แอบเกรงใจไง เงินค่าขนมที่ได้แต่ละเดือนมันก็เยอะในระดับหนึ่งแล้วนะ

    แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ...ก็น่ารักดี ที่ตอบแทนกันด้วยการให้กินของอร่อยๆ ถ้าบ่อยไปก็น่าจะจบลงที่อ้วน

    แวะเข้าห้องแชทกลุ่มไปคุยเล่นไร้สาระนิดหน่อย ก่อนจะไปจัดการอาบน้ำแต่งตัวและกลับมาโดดขึ้นเตียงเตรียมตัวเล่นเกม

    ใจหนึ่งก็อยากทำงานนะ แต่ใจที่อยากเล่นเกมมันมีมากกว่า

    ครืด...

    ‘BRO’

    หน้าจอเกมเปลี่ยนเป็นเฟซไทม์จากพี่ชายบังเกิดเกล้าทันใด

    What the...” อยากตัดสายใจแทบขาด แต่ตัดไปเดี๋ยวแม่งก็โทรมาใหม่จนกว่าผมจะรับนั่นแหละ เพราะงั้นรับๆ ไปให้มันสิ้นเรื่องเถอะ

    [สวัสดีน้องชาย] อีกฝ่ายทักทายทันทีที่กดรับสายพร้อมกับหน้าจอที่แสดงภาพไฟดาวน์ไลท์บนเพดาน

    “สวัสดีคนแก่ เฟซไทม์มาให้ดูเพดานห้องเพื่ออะไรก่อน”

    [ยังไม่แก่ พูดให้มันดีๆ หน่อยสกาย] ปลายสายแย้งก่อนที่ภาพฝ้าเพดานและดาวน์ไลท์จะเปลี่ยนมาเป็นหน้าหล่อๆ ของไอ้คุณพี่ชายที่กำลังแยกเขี้ยวใส่กัน ไม่อยากจะชมหรอก แต่ผมกับมันหน้าเหมือนกันอย่างกับแฝดทั้งที่เกิดห่างกันตั้ง 9 ปี

    “ไม่รู้ไม่สน แล้วตกลงมีไร”

    [คนที่แกมาขอให้ฉันไปเป็นเคสให้เป็นใคร]

    “พี่ที่รู้จัก”

    [เหรอ] ลากเสียงยานคางเป็นนัยว่าไม่เสียงสิ่งที่บอกสักนิด แต่ใช่ว่าผมจะต้องสนใจเลยทำเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก็เท่านั้น

    [ส่งคอนแทคพี่ที่รู้จักของแกมาให้ฉันด้วย ขี้เกียจคุยผ่านแก]

    “อือฮึ เดี๋ยวส่งให้ มีไรอีกป่ะ”

    อยากจะกดวางสายเต็มทน ในขณะที่แจ้งเตือนจากเกมก็ร้องหากันรัวๆ

    [มี เข้ามาชิมขนมใหม่ให้หน่อย] คนขอจากพี่ชายทำให้ขนในกายลุกซู่ ความรู้สึกพรั่นพรึงเข้าแทรกทันทีที่ได้ยิน ถึงผืนฟ้าเป็นเป็นเจ้าของร้านอาหารมีชื่อ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำอาหารเป็น

    ใช่ พี่ชายผมสกิลเข้าครัวห่วยแตก และที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันก็แค่บริหารร้านได้ดีแค่นั้นแหละ

    แล้วพอมันมาขอกันแบบนี้ใครจะไปตอบตกลงกัน ผมยังไม่อยากตายนะ!

    “ไม่กิน”

    [น้องเวร งั้นก็แค่นี้แหละ ไม่มาก็ไม่ต้องมา อย่าลืมส่งคอนแทคมาด้วยล่ะ]

     

     “พวกมึง อยากกินขนมว่ะ” เพื่อนตัวเล็กแต่แก้มย้วยที่แสร้งนั่งเรียนอยู่ข้างๆ กระซิบบอก ทำให้การฟังอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมามีสมาธิต่อ

    “กูไม่อยากของหวานว่ะ” คริสที่นั่งอยู่อีกฝั่งหันมาพูดข้ามหัวผมเบาๆ

    “ง่ะ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยไม่ได้เหรอ”

    “งั้นก็ไปถามพี่จูนกับพี่ซิงค์ในกลุ่มไป” ผมโพล่งแทรกขึ้นหลังจากที่จดเลคเชอร์เสร็จเรียบร้อย และตอนนี้อาจารย์ก็บอกเลิกคลาสแล้ว ผมถึงได้ละการเรียน (ที่แสนจะจำใจ) มาร่วมวงกับสองหน่อที่คุยกันข้ามหัวผมไปมา

    แจ้งเตือนแชทกลุ่มเด้งขึ้น หน้าจอบอกว่ามันมาจากคนอยากขนมหวานอย่างไอ้แทน และทุกคนในนั้นก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ และแทนที่มันจะจบลงแค่นั้น บทสรุปการสนทนาดันเป็นคืนนี้เจอกันที่ร้านเหล้าเฉย

    คือว่านะถึงพรุ่งนี่จะยังมีเรียน แต่ไหนๆ เพื่อนก็เสนอแล้ว เราก็เป็นคนดีสนองหน่อยละกัน

    แต่ก่อนถึงเวลาที่นัดกันไว้ก็อีกนานโข หลังจากเรียนเสร็จพวกเราสามคนจึงแยกย้ายกันหลับหอใครหอมัน ผมผู้ซึ่งกดเข้าเกมยังไม่ทันโหลดเสร็จ (แม้จะใช่โปรเน็ตแพงฉิบหาย) ก็ถูกมารผจญเป็นลูกพี่ลูกน้องเจ้าเก่าที่ช่วงนี้แอบรู้สึกว่ามันจะวอแวผมบ่อยพิกล ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เราแทบจะไม่ติดต่อกันด้วยซ้ำ

    แต่ก็นั่นแหละ คนบ้าอย่างเจมิไนจะมีสาระอะไรมาคุยกับผมได้ นอกจากแวะมาโอดครวญเรื่องที่ผมยกพี่ชายตัวเองให้เป็น case study ของสายรุ้งปาดหน้ามัน ภายใต้เงื่อนไขที่อาจารย์บอกว่าห้ามใช้เคสเดียวกัน

    เฮ้อ... โวยวายใส่ผมแล้วมึงจะได้เคสเหรอเจ

    จบจากพี่ชายผู้เป็นผีบ้าก็ต่อด้วยพี่ชายคนใหม่ที่ช่วงนี้รู้สึกว่าเราสนิทกันเร็วกว่าที่ควรจะเป็น วันนี้ผมจะได้เล่นเกมไหม ให้ทาย

    ‘[Rainbow]: สกายยยยย

    ‘[Rainbow]: พี่ฟ้าทักมาบอกวันว่างแล้ว

    ‘[Rainbow]: เสาร์นี้ๆ

    ‘skyyy: อ่อครับ

    ว่าแต่สายรุ้งจะมาบอกผมทำไมนะ หรือผมจำเป็นต้องรู้ว่าเขาจะไปเจอพี่ชายผมวันไหน?

    ‘[Rainbow]: เราว่างมั้ย

    โอเคชัด ทั้งหมดทั้งมวลคืออยากหาคนไปเป็นเพื่อนสินะ แต่วันนั้นผมไม่ว่างแล้วสิ ช่วงนี้ต้องเริ่มทำเทอมโปรเจกต์ที่อาจารย์สั่งตั้งแต่ต้นเทอมได้แล้ว ขืนช้าไปกว่านี้ต้องปั่นกันตาแหกก่อนส่งแน่ๆ

    ผมตอบปฏิเสธสายรุ้งไปก่อนเราจะจบบทสนทนาด้วยการที่อีกคนบอกจะไปปั่นงานต่อ

    ผมกดเปลี่ยนแอปพลิเคชันมาที่เกมอีกครั้งพร้อมล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่เหมือนวันนี้จะไม่มีบุญที่จะเล่นเกมเลยสักนิด หัวถึงหมอนไม่ถึง 5 นาที Find Match ยังไม่ทันเจอก็เผลอหลับซะก่อน โธ่!

     

    ผมตื่นมาอีกทีฟ้าก็มืดเป็นที่เรียบร้อย ยังไม่ทันขยับตัวไปไหน โทรศัพท์ในมือก็สว่างจ้าพร้อมสายเรียกเข้าจากคนที่ชอบใช้ผมเป็นคนขับรถส่วนตัว

    [กว่าจะรับสายได้นะ มึงหลับเหรอกาย] ปลายสายโวยวายตามประสา

    “เหรอ” ตอบกลับแค่นั้นอย่างจงใจ การแกล้งไอ้แทนเล่นในทุกๆ โอกาสเป็นสิ่งที่สนุกที่สุกแล้วผมว่า และคนอื่นๆ ก็เห็นด้วยกับผมเหมือนกัน

    [กวนตีนนะมึง คนอื่นเค้าไปรอที่ร้านแล้ว เหลือแค่เราสองคนเนี่ย ถ้าเพิ่งตื่นก็เชิญมึงเสด็จไปล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวแล้วมารับกูนะครับเพื่อน]

    ใช้เวลาไม่นานสำหรับการจัดการตัวเองและขับรถไปรับคุณเพื่อนแทนที่อยู่หอถัดไป 2 ตึก แต่การใช้เวลาบนท้องถนนแม้จะในระยะทางที่สั้นฉิบหายก็ถือว่านานเกินกว่าที่มันจะเป็น

    และกว่าจะมาถึงร้านคนก็ยั๊วะเยี๊ยะเต็มไปหมดแม้จะยังคงเป็น week day ดีแล้วล่ะที่คนอื่นมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโต๊ะนั่งกันแน่ๆ

    ปล่อยให้แทนเป็นคนเดินนำไปที่โต๊ะเพราะดูเหมือนว่าใครสักคนจะโทรมาบอกตำแหน่งโต๊ะซึ่งอยู่ลึกจนเกือบจะอยู่ด้านในสุดของร้าน

    เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายหน้าตาดี (ไม่อยากหลงตัวเอง แต่มันเรื่องจริงเถอะ) ที่เข้าร้านเหล้ามาโดยไร้หญิงแล้วจะมีคนมากหน้าหลายตาให้ความสนใจ สิ่งยืนยันที่ดีคือทันทีที่ผมกับแทนเดินมาถึงโต๊ะ ก็พบว่าที่นั่งที่ควรจะเป็นของผมกับแทน หนึ่งในนั้นถูกแย่งไปโดยผู้หญิงผมลอนที่มาขอชนแก้วกับคริสแถมยังมองตาเป็นมันอย่างตั้งใจจะสื่อความหมาย

    ผมเลยไปนั่งเบียดไอ้พี่จูนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแทน ถึงจะลำบากสักหน่อยสำหรับการนั่งบนเลิฟซีทโดยผู้ชายตัวเท่าบ้านสามคน ส่วนอาร์มแชร์เพียงหนึ่งเดียวก็ยกให้แทนมันไปแล้วกัน

    “มึงมาเบียดพวกกูทำไมเนี่ย ไม่นั่งกับเพื่อนมึงล่ะกาย” พี่ซิงค์ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งชะโงกหน้ามาบ่นใส่ก่อนจะยื่นแก้วแอลกอฮอล์มาให้

    “พี่จะให้ผมไปนั่งตรงไหนก่อน ดูดิ” ว่าพลางพยักพเยิดให้หันไปมองคนคริสที่กำลังถูกรุกเต็มที่

    ผู้หญิงคนนี้ก็แปลก ทั้งๆ ที่คริสมันก็อุตส่าห์ปฏิเสธคำชวนไปที่โต๊ะของเธอแบบสุภาพแล้วก็ยังคะยั้นคะยอกันไม่เลิก

    ส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนกระดกของเหลวสีอำพันเข้าปาก พร้อมกับหางตาที่เห็นว่ามีใครบางคนเดินตรงเข้ามาพร้อมแก้วในมือและรอยยิ้มหวานหยด

     

     

    “กูไปห้องน้ำแป๊บ” พี่จูนว่าก่อนจะลุกออกไปทำให้ผมได้นั่งสบายๆ สักที ถึงจะแค่แป๊บเดียวก็เถอะ

    “ขอโทษนะคะ” เสียงหวานดังขึ้นใกล้หูเรียกให้ผมละสายตาจากแก้วในมือไปมองเจ้าของเสียง “เราชื่อเพนนีนะคะ คุณชื่ออะไรเหรอคะ” เธอถามเสียงอ่อนเสียงหวานส่งยิ้มสวยมาให้ไม่หยุด

    “สกายครับ” ตอบกลับพร้อมส่งยิ้มตามมารยาทกลับไป

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คือเราขอชนแก้วด้วยได้ไหม” ไม่พูดเปล่าเธอยังยื่นแก้วในมือมาตรงหน้าให้ผมต้องยื่นแก้วของตัวเองไปชนด้วย ก่อนยกขึ้นดื่มอีกครั้ง

    “เราขอคอนแทคของสกายได้ไหมคะ นะ” แล้วโทรศัพท์เครื่องบางที่ถูกเปิดหน้าสำหรับเสิร์จไอดีไว้รอก็ถูกยื่นมาให้

    ผมแอบลอบถอนหายใจเบาๆ มันเป็นเรื่องที่ควรชินแต่ผมก็ไม่รู้สักทีกับไอ้การที่มีคนมาขอไลน์อยู่เรื่อยๆ เนี่ย

    “ขอบคุณน๊า ไว้เราแชทหานะคะ” เธอรับโทรศัพท์กลับไปเมื่อผมพิมพ์ไอดีของตัวเองลงไปเรียบร้อย แต่แทนที่จะกลับไปดีๆ ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสดนั่นฉวยโอกาสหอมแก้มผมโดยที่ไม่ทันตั้งตัว แถมยังไม่วายมาบีบแก้มผมเหมือนเป็นเด็กก่อนไปอีกต่างหาก

    เอิ่ม...

    “ไอ้กายมันร้ายว่ะ มายังไม่ถึงสิบนาทีก็ตกสาวได้แล้วอ่ะ” ไอ้แทนโพล่งขึ้นทันทีที่สาวเจ้าจอมอุกอาจหันหลังจากไปในระยะที่พ้นการได้ยินแล้ว

    “คิดผิดคิดถูกมาร้านเหล้าแล้วให้มึงมาด้วยเนี่ย ไม่มีใครสนใจพวกกูกันแล้ว” พี่ซิงค์ว่าพลางหยิบแก้วแล้วลุกไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับคริสที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

    เพิ่งสังเกตว่าผู้หญิงที่พยายามลวนลามคริสตั้งแต่ตอนที่ผมเข้ามาหายไปแล้ว

    “นี่ถ้าเกิดว่าก่อนหน้านี้มันไม่มีแฟนนะ กูว่าผู้หญิงเข้าหามันมากกว่านี้อีก” คริสโพล่งขึ้นบ้างขณะที่สองมือก็กำลังจัดแจงผสมเครื่องดื่มของตัวเองอยู่

    “โทษทีที่หล่อกว่า” ว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เรียกเสียงโห่จากทั้งสามคนได้เป็นอย่างดี ก็ไม่อยากจะหลงตัวเองนะ แต่ผมหน้าตาดีอ่ะ จริงๆ

     

    นั่งดื่มกันอยู่นาน ไอ้แทนก็สรรหาเรื่องบ้าเรื่องบอมาพูดได้แบบไม่ซ้ำ และยังคงมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้ามาขอชนแก้วด้วย รวมไปถึงขอคอนแทคกันรัวๆ ก็แต่ก็นั่นเขาทำได้แค่นั้นและผมก็ทำได้แค่จำใจให้ไอดีตัวเองไป

    ...ค่อยไปนั่งบล็อกทีหลังก็แล้วกัน

    กว่าจะกลับถึงหอก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง และโชคดีนิดนึงที่พรุ่งนี้คลาสเริ่มตอนสิบโมงไม่ใช่แปดเก้าโมงเหมือนวิชาอื่นๆ

    แต่ตอนให้มีโอกาสตื่นสายกว่าทุกวันแต่ตอนนี้ผมกำลังจะไปไม่ทันเขาเรียนอยู่ดี แม่งเอ๊ย!

    วิ่งตาเหลือเข้าห้องพร้อมกับไอ้แทนกันทันเวลาหวุดหวิด วิชานี้เป็นวิชาไม่หนักหนาอะไร แต่มันไปหนักหนาตรงที่คนสอนแสนจะซีเรียสจนแทบจะเป็นไมเกรนเนี่นแหละ ก็ดีหน่อยที่คริสมาถึงก่อนและจองที่นั่งหลังห้องไว้ให้ จะได้ไม่ต้องระเห็จไปนั่งแถวหน้าให้แอบเล่นไม่ได้

    “เป็นอะไร เห็นจ้องโทรศัพท์นานแล้วนะ” หันไปถามไอ้คนที่ไม่ยอมจดเลคเชอร์สักตัว แถมยังเปิดปิดห้องแชทของแฟนมันเป็นว่าเล่น ถ้าโทรศัพท์มันพูดได้ก็คงจะโดนด่าไปหลายยกแล้วมั้ง

    “เหมือนเคปจะโกรธกูเลยว่ะ”

    “นี่ที่มึงไปเมื่อคืนคือแอบแฟนไปเหรอ เขาถึงได้โกรธมึงน่ะ” แทนที่นั่งประกบคนเขี่ยโทรศัพท์อยู่อีกด้านโพล่งขึ้นบ้าง แต่มันดันเสียงดังเกินไปปากกาไวทบอร์ดเลยบินมาลงกลางวงจนเกือบหลุดปากด่าใครออกไป

    “ถ้าจะคุยกันก็เชิญออกไปข้างนอกนะคะ” อาจารย์ป้าบอกเสียงเย็นพร้อมสายตาทิ่มแทงที่ถูกส่งตรงมาให้ พร้อมกับสายตาของคนทั้งห้องหันมามองกันเป็นตาเดียว เราสามคนได้แต่หุบปากเงียบก้มหัวขอโทษปลกๆ ก่อนจะทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาพเดิม

    ในเมื่อคุยกันไม่ได้ก็ต้องแชทคุยกันแทนละกันวะ

    แต่ทว่าก่อนจะไปพิมพ์อะไรส่งไปหาเพื่อนที่นั่งข้างตัว หน้าจอโทรศัพท์ของคริสก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นมา

    “ฉิบหายแล้ว”

    เสียงสบถเบาๆ ดังขึ้นก่อนแจ้งเตือนของตัวเองจะเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ คริสสร้างกลุ่มด่วนเฉพาะกิจที่มีแค่มัน ผม และแทน ก่อนส่งคลิปอะไรบางอย่างมาให้

    ‘Crystal royal: เคปส่งคลิปนี้มาให้กู

    และพอกดเล่นคลิปที่ว่าก็ปรากฏเหตุการณ์เมื่อคืนตอนนี้ใครสักคน (ที่ไม่ใช่คนเดียวกับตอนที่ผมไปถึง) กำลังหอมแก้มคริสโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ขัดขืน

    โอเคชัด คาดว่าสถานการณ์ของเพื่อนผู้นั่งหน้าเครียดอยู่ตอนนี้คงไม่สู้ดีนัก จะให้สอดมือเข้าไปช่วยก็ไม่ได้เดี๋ยวจะถูกหาว่าช่วยกันปิดบังความผิดอีก

     

    นับตั้งแต่ที่ได้คลิปมาคริสเพื่อนยากก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์ไปเลย กดโทรศัพท์ยิกๆ เรียนก็ไม่เรียน จะยอมวางไอ้เครื่องมือสื่อสารนั่นได้ก็แค่ช่วงบ่ายที่มีสอบย่อยเต็มเวลาก็เท่านั้น เพราะพอสอบเสร็จแม่งก็กลับมาจับโทรศัพท์ไม่ปล่อยเหมือนเดิม

    เห็นว่าโทรไปหาเคปก็โดนตัดสายทิ้งอีกต่างหาก

    และจากคำให้การผู้ต้องหายังไม่ได้คุยกับแฟนตัวเองเลยตั้งแต่เมื่อคืน

    เฮ้อ...

    “เคปอาจจะอยู่กับพวกพี่สายรุ้งหรือเปล่า กายมึงลองถามดิ” แทนเสนอขึ้นขณะที่เราสองคนยังคงยืนอยู่ตรงลานจอดรถหลังเลิกเรียน มองรถตามท้ายรถของคริสที่บอกว่าจะลองกลับไปดูที่หอเผื่อว่าเคปอาจจะกลับไปที่หอแล้ว

    “เขาเป็นแค่พี่รหัสน้องรหัสกัน ไม่น่าจะตัวติดกันขนาดนั้นมั้ง”

    “ก็ลองถามหน่อยมันจะเป็นอะไรล่ะ มึงนี่”

    ได้แต่ส่ายหัวอย่างหน่ายใจพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำตามที่เพื่อนบอกในขณะที่มันเอาแต่ยืนดูดชานมไข่มุกในมือพลางชะโงกหน้ามาดูจอโทรศัพท์ผมเป็นพักๆ

    และไม่อยากจะชมเลย แต่เป็นอย่างที่แทนมันว่า เคปที่คริสมันติดต่อไม่ได้ทั้งวันไปนั่งกินหมูกระทะกับพวกสายรุ้งอยู่ที่หลังมหาวิทยาลัย

    “คือกูไม่เข้าใจ ทะเลาะกันผิดใจกันแบบนี้ยังมีอารมณ์ไปกินปิ้งย่างอีกเหรอวะ” อดไม่ได้ที่จะตั้งข้อสงสัยพร้อมกับพิมพ์ข้อความส่งต่อสารที่ได้รับมาให้เพื่อไปจัดการต่อ

    “กับบางคนการกินก็คือการระบายความเครียดนะ แบบยิ่งเครียดยิ่งกินอ่ะ กูก็เป็น” ไอ้แทนบอกก่อนจะงับหลอดชามนมดูดต่อจนแก้มพอง

    “อย่างมึงเรียกเห็นแก่แดกเถอะ”

     

    กลับมานอนเกลือกกลิ้งที่หอตามปกติ เล่นเกมเล่นโซเชียลไปเรื่อยเปื่อย แต่แล้วก็ต้องเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงแน่วเมื่อเจอข้อความแปลกๆ

    ‘Gemini: ขอกำลังใจหน่อย

    “เชี่ยไรเนี่ย” อดไม่ได้ที่จะสบถจริงๆ ร้อยวันพันปีผมกับเจมิไนไม่เคยคุยกันแบบนี้ เอเลี่ยนเข้าสิงมันแน่ๆ แต่พอพิมพ์ด่ามันกลับไปมันก็ด่าผมกลับมาเหมือนปกติ แล้วมันจะมาขอกำลังใจทำไมวะ ถามไปก็ไม่ตอบอีก แถมยังมีหน้าส่งโลเคชั่นให้ไปหาอีก บอกไม่ได้ก็เร้าหรืออยู่ได้

    เพราะงั้นนะ... เออ กูไปก็ได้!

     

    พาพี่ออกไปจากที่นี่ที”

    ประโยคบอกขอร้องจากสายรุ้งที่เดินออกมาจากใต้หอที่เจมิไนส่งโลเคชันให้มาหาที่นี่

    ...งงนิดหน่อย แต่ไม่เข้าใจมากๆ

    ไม่รู้ว่าเจมันเป็นอะไร แต่ก็รับรู้ผ่านตัวอักษรที่มันส่งมาให้ได้ว่าไอ้คนส่งกำลังต้องการใครสักคน และหวยก็ดันมาออกที่ผม

    สายรุ้งขึ้นรถไปนั่งประจำที่ข้างคนขับเรียบร้อย ผมก็เลยทำได้แค่กวาดสายตามองหาไอ้ลูกพี่ลูกน้องที่เรียกผมมาที่นี่

    โอ๊ะ! นั่นไง ยืนทำหน้าเหมือนหมาโดนเทอยู่ข้างโต๊ะหน้าร้านมินิมาร์ท แต่ทว่าพอผมทำท่าจะเดินเข้าไปหามันก็ดันโบกมือไล่กันซะอย่างนั้น

    อิหยังของมันวะ?

    ปึง!

    กลับเข้ามาในรถแล้วเดดแอร์ก็บังเกิด เพราะคนโตกว่าอย่างสายรุ้งที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเอาแต่นิ่งเหม่อลอยไปไหนก็ไม่รู้

    พี่รุ้ง”

    ฮะ... เอ่อ...”

    พี่โอเคป่ะเนี่ย”

    โอเคสิ โอเคมากๆ เลย”

    แล้ว... อยากไปไหนครับ”

    ไป... ไปไหนดีอ่ะ ไปแมคได้มั้ย”

    เมื่อรับทราบจุดหมายปลายทางที่เหมือนอีกคนจะเลือกมาส่งๆ เหมือนคิดได้ปุบปับ แต่ก็ยังดีกว่าการบอกว่า 'ไปไหนก็ได้' หรือ 'ไม่รู้' เยอะเลยล่ะ

    ตลอดทางจนถึงที่หมาย แม้กระทั่งสั่งของกินเล่นเบาๆ แล้วมานั่งที่โต๊ะเรียบร้อย สายรุ้งก็ยังดูเหมือนจะกำลังคิดอะไรอยู่คนเดียวไม่พูดไม่จา ผมก็ได้แต่มองอยู่เงียบๆ

    อยากจะถามนะ แต่คิดว่าอีกสักแป๊บเจ้าตัวก็คงพูดออกมาเองแหละ

    เพราะดูจากสีหน้าแล้วคงไม่คิดจะเก็บเรื่องที่กำลังคิดอยู่ไว้กับตัวเองให้ปวดหัวเล่นคนเดียวหรอก

    ...ของแบบนี้มันต่อเผื่อแผ่

     

    CH05 :: 100%

     


    อ่ะ คราวนี้มาต่อไวแฮะ แหะๆ พี่เจเรียกน้องสกายมาหาทำไม

    แล้วพี่รุ้งโผล่มาได้ไง เรื่องงงงวย ณ ตอนนี้รอเฉลยในตอนต่อไปขอรับ 555555

    สัญญาว่า 1 ตอนต่อจากนี้จะรีบมานะขอรับ อุแหะ //พับเพียบไหว้

    #สายรุ้งสีคราม

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×