ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำรวจรวมเล่ม [EXO] △ Lost Forever | ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #5 : Lost Forever ✿ เวลาที่ 4 [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.37K
      135
      17 พ.ค. 59


    © themy  butter






    LOST FOREVER

    เวลาที่ 4

    ความทรงจำของเราที่ถูกลืมเลือน




    ในที่สุดความทรงจำดีๆ ที่เคยสร้างร่วมกันมาก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายภายในพริบตาเดียว



    ต้นบ๊วยถูกตัดทิ้งไปแล้ว



    พื้นที่กว้างซึ่งเคยถูกตกแต่งและอ้อมล้อมไปด้วยดอกไม้หลากหลายพันธุ์ดูสวยงามระรานตา ต้นไม้ใหญ่เพียงต้นเดียวที่เจ้าของบ้านแสนหวงแหนนักหนาได้กลายเป็นเพียงเศษซากความรู้สึกที่โดนเหยียบย่ำจนย่อยยับลงต่อหน้าคนใจร้าย



    แบคฮยอนปล่อยให้ความอ่อนแอที่เอ่อล้นรอบดวงตาทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงไหลผ่านแก้มทั้งสองข้างหยดแล้วหยดเล่าอย่างไม่คิดสนใจ ไหล่บางสั่นสะท้านเมื่อแรงสะอื้นที่พยายามกลั้นเอาไว้ใกล้จะพังลงมาเต็มที



    ต้นบ๊วยของเรา



    ชิงช้าของเรา



    แปลงดอกไม้เล็กๆ ของเรา



    ทุกอย่างที่เคยเป็นของเราไม่เหลืออีกแล้ว



    ดีเหลือเกินที่เจ้าสุนัขตัวโตยังคงยืนอยู่ตรงนี้ อามูร์ไม่ได้ถูกเขากำจัดทิ้งไปเฉกเช่นเศษท่อนไม้จากต้นบ๊วยที่เขาสั่งให้คนงานขนย้ายออกจากบริเวณหน้าบ้านของเรา



    ไม่คิดเสียดายเลยสักนิดหากเทียบกับสิ่งที่เพิ่งได้รับจากเขา ชานยอลไม่แยแสว่าใครจะทนมองสิ่งสำคัญถูกพรากไปโดยไม่ถือสาอะไรได้หรือไม่ แววตาแน่วแน่ยังคงติดอยู่ในห้วงคำนึงเสียจนไม่สามารถลบเลือนออกไปภายในระยะเวลาสั้นๆ



    เข้าบ้านกันเถอะนะคะคุณหนู



    ในฐานะคนสนิทที่เอ็นดูคุณหนูคนดีเสมือนลูกแท้ๆ คนหนึ่งกำลังหายใจไม่ออก ป้าซังมีแสนสงสารร่างบางที่เริ่มห่อไหล่ก้มหน้าสะอื้นไห้กับความเลวร้ายตรงหน้ามากจนอยากซับน้ำตาให้เหือดแห้งจากดวงหน้าหวานทว่าเต็มไปด้วยแววเศร้าโศก



    คุณหนูแบคฮยอนไม่เหมาะกับน้ำตาและไม่สมควรแบกรับความเสียใจไว้มากมายเช่นนี้



    ฮึก…”



    อ้อมกอดที่ใฝ่หาเมื่อยามอ่อนแอคือสิ่งเดียวที่ช่วยปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยให้มีแรงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ไม่อาจกลั้นความเสียใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว



    แบคฮยอนเป็นแค่คนอ่อนแอที่ไม่เคยต่อสู้กับความใจร้ายของปาร์คชานยอลได้เลยสักครั้ง



    คนตัวเล็กซุกใบหน้าลงกับอกอุ่นๆ ของร่างสูงวัยเพื่อหลบซ่อนความจริงและอยากกดความเจ็บปวดเอาไว้ให้ลึกสุดใจแม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยวเดียวก็ตาม หากมันจะช่วยทำให้ลืมเลือนความรู้สึกเหล่านี้ได้ แบคฮยอนยอมปิดหูปิดตาไม่รับรู้อะไรเลยเสียยังจะดีกว่า



    เขาใจร้าย ฮึกใจร้ายที่สุดเลยครับ



    เอ่ยทั้งสะอื้นเสียงอู้อี้ในอ้อมกอดของคุณป้าแม่บ้าน ดวงตาเรียวรีบวมช้ำเมื่อหยาดน้ำใสรินไหลลงมาไม่ขาดสายเพราะความเสียใจเล่นงานอย่างหนักหน่วง



    ต้องสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ ชีวิตนี้จึงจะได้มีความสุขจริงๆ เสียที



    คุณหนูคนดีของป้าหยุดร้องไห้เถอะนะคะ หากคุณท่านบยอนทั้งสองคนมองลงมาจากบนฟ้าเห็นลูกชายร้องไห้งอแงไม่หยุดแบบนี้ ท่านคงจะรู้สึกไม่ดี



    แบคแบคไม่อยากร้องเลยครับ ฮึกแต่แบคเสียใจ ฮือ แบคขอโทษ คุณพ่อกับคุณแม่อย่าโกรธแบคเลยนะครับ



    เว้าวอนกับคนที่อยู่บนฟากฟ้าไกล ไกลเกินกว่าจะเดินทางไปถึง แบคฮยอนเชื่อว่าคุณพ่อและคุณแม่จะรับรู้ได้แม้ยืนอยู่บนโลกคนละใบ



    เมื่อสี่ปีก่อน ในวันจบการศึกษาของร่างบาง วันเดียวที่มีความสุขและทุกข์ระทมไปพร้อมกัน บิดาและมารดาผู้มีพระคุณได้ประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวที่ได้รับใบปริญญาจากความมุมานะของตนเองเป็นรางวัลชิ้นใหญ่



    โศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงคร่าชีวิตคนที่แบคฮยอนรักมากที่สุดไปพร้อมกันถึงสองคน



    ความขยันหมั่นเพียรที่สั่งสมมาทั้งชีวิตจนประสบผลสำเร็จในวันนั้นกลายเป็นเพียงความว่างเปล่าเมื่อคนที่ต้องการให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกลับจากไปโดยที่ยังไม่ได้เอ่ยแม้แต่คำลา



    แค่อยากจะกล่าวคำมั่นสัญญาว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลใดๆ ลูกคนนี้จะเข้มแข็งต่อสู้กับทุกปัญหา จะหยัดยืนด้วยสองเท้าและจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดแม้จะไร้ที่พึ่งสุดท้าย ไม่อยากให้พ่อและแม่ที่มองลงมาจากบนฟ้าต้องทุกข์ใจไม่ว่าท่านจะรับรู้ถึงคำนั้นหรือไม่



    ผ่านมานานหลายปีแล้วยังคงรู้สึกอบอุ่นเสมอราวกับท่านทั้งสองคนไม่เคยหายไปไหนไกล ทุกสัมผัส ทุกความรักยังติดตรึงอยู่ภายใต้อกข้างซ้ายที่เต้นเป็นจังหวะแผ่วเบาในวินาทีที่กาลเวลาหมุนเวียนผ่าน



    แต่แล้ววันนี้แบคฮยอนกลับผิดสัญญาซึ่งเคยให้ไว้ในวันสุดท้ายที่ได้พิศมองใบหน้าแสนรักของผู้ให้ชีวิตทั้งสองคน ป่านนี้ท่านคงผิดหวังในตัวลูกชายไปเสียแล้ว แบคฮยอนที่เคยเข้มแข็งกลายเป็นเพียงคนขี้ขลาดกลัวการเผชิญหน้ากับความจริงแสนทรมานใจ ที่เคยบอกว่าจะต่อสู้กับปัญหาต่างๆ แม้ลำบากจนยากจะผ่านไปได้ วันนี้กลับรู้สึกว่าไม่สามารถเอ่ยได้อย่างเต็มปากว่าจะทนได้อีกนานสักแค่ไหน



    ข้างกายช่างหนาวเหน็บไร้ความอบอุ่นโอบอุ้มดวงใจให้รู้สึกปลอดภัยและมีแรงก้าวเดินต่อไปในหนทางข้างหน้า



    ไม่เอาค่ะ อย่าคิดมากเลยนะคะคนดี



    แบคผิดสัญญา แบคสัญญาว่าจะเข้มแข็งเพื่อที่คุณพ่อกับคุณแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ฮึกแย่มากเลยครับที่ทำไม่ได้ แบคอ่อนแอมากเลยใช่ไหมครับ



    โธ่ ใครว่ากันคะ คุณหนูของป้าเข้มแข็งที่สุดในโลกเลยค่ะ ไม่เช่นนั้นจะยิ้มกว้างสู้รับกับทุกปัญหาได้หรือคะ?”



    คำปลอบโยนนุ่มนวลราวกับกำลังชั้นดีที่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต็มตื้นมีแรงฮึดสู้ได้อีกครั้ง



    แบคฮยอนทอดสายตาที่เคลือบคลอไปด้วยหยาดน้ำใสมองหญิงสูงวัยอย่างรักใคร่และนึกขอบคุณที่เธอคอยอยู่เคียงข้างเสมอมา แม้ในวันที่แสนอ่อนล้าจนไม่อยากรับรู้สิ่งใดบนโลกใบนี้ก็ยังมีคุณป้าซังมีที่ดูแลห่วงใยราวกับมารดาแท้ๆ ไม่ห่าง



    ขอบคุณครับ ฮึกขอบคุณที่คุณป้าไม่ทิ้งแบคไปไหน ตอนนี้แบคไม่เหลือใครแล้ว คุณพ่อและคุณแม่ก็จากไปยังโลกที่แบคไม่อาจไปถึง ส่วนคนที่แบครักมากก็เกลียดกันเสียยิ่งกว่าอะไร



    “…”



    เขาเกลียดกันจนยอมทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเรา แบคไม่มีอะไรจะให้เขาแล้วครับ แบคให้เขาไปหมดแล้ว



    “…”



    แบครู้ว่าตัวเองมีส่วนผิดที่ทำให้ชีวิตของเขาบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปเป็นร่าง อยากไถ่โทษกับสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่มาจนถึงทุกวันนี้ แต่การจะพาคนที่เขารักกลับมามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย



    “…”



    แบคมั่นใจมาตลอดว่าจะต้องทำสำเร็จในสักวัน แต่พอเริ่มนานเข้าก็ชักไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำมามันศูนย์เปล่าตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า



    คล้ายรำพันกับตัวเองเสียมากกว่าเอ่ยกับคู่สนทนา แบคฮยอนหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ความปวดหนึบแล่นไปทั่วร่างราวจะบีบกายให้แหลกเป็นผุยผง



    อีกแล้วสินะความรู้สึกแบบนี้ ไม่ว่าจะกี่ปีๆ ก็ยังร้ายกาจไม่เลิกรา ต่อสู้ดิ้นรนทนมาได้จนถึงวันนี้ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ตอนที่คิดจะยอมแพ้กลับง่ายดายจนไม่นึกถึงวันที่กำลังใจเปี่ยมล้นเลยสักนิด



    ครั้งนั้นอะไรๆ ก็ดูมืดมนไร้ทางออกราวกับคนหูหนวกตาบอด



    ลำบากยิ่งกว่าการตะเกียกตะกายแหวกว่ายจากใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อเอาตัวรอด



    บยอนแบคฮยอน



    นายอย่าเพิ่งยอมแพ้กับอุปสรรคที่เปรียบเหมือนขวากหนามคอยทิ่มแทงให้ก้าวไปข้างหน้าไม่ไหวสิ ยังมีอีกหลายสิ่งที่นายยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักประสบความสำเร็จในชีวิตเลยนะ



    ไม่ได้เห็นชานยอลมีความสุขมานานมากแค่ไหนแล้ว รอยยิ้มที่เคยส่งให้กันถูกแทนที่ด้วยแววตาเกลียดชังราวกับจะคั้นให้ตายมานานกี่ปีแล้ว



    เหลือเวลาอีกไม่นานหรอกที่นายจะได้มีโอกาสเฝ้ามองและคอยเป็นแรงสนับสนุนความฝันของเขาให้เป็นจริงอย่างที่ตั้งใจไว้



    ปาร์คชานยอล



    ฉันนี่แหละจะเป็นคนทำให้นายกลับมายิ้มได้อีกครั้ง



    แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่ใช่เหตุผลที่เกิดจากฉันก็ตาม



    ถ้าไม่สบายใจก็ระบายกับป้าได้นะคะ ป้าจะอยู่ข้างๆ คอยปลอบใจให้คุณหนูรู้สึกดีเองค่ะ



    คุณป้าครับ



    คะ?”



    ทำแบบนี้ดีแล้วใช่ไหมครับ



    ไม่ใช่คำถามที่น่างุนงงเลยสักนิดเพราะป้าซังมีรู้ดีว่าร่างบางหมายถึงเรื่องใด มือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบแก้มใสของคุณหนูคนดีด้วยความเอ็นดู แบคฮยอนเป็นคนน่ารักมากเสียจนคิดว่าหากใครได้ครอบครองหัวใจดวงนี้คงจะน่าอิจฉาไม่น้อย



    จนกระทั่งสังเกตได้ถึงบางสิ่งที่เด่นชัดในสายตาของคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ป้าซังมีดูออกว่าในขณะนั้นคุณหนูแบคฮยอนกำลังตกหลุมรักคุณชานยอลทายาทตระกูลปาร์คที่เธอรักมากไม่ต่างกัน



    เฝ้าภาวนาว่าความรักจะผ่านไปได้ด้วยดี ทว่าทุกอย่างกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชานยอลทั้งใจร้ายสารพัด ปฏิบัติกับภรรยาตัวเล็กราวคนเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน สาเหตุของความแตกหักเกิดจากใครบางคนที่เธอเองรู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยเสียเท่าไหร่นัก



    เพียงเพราะคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้คุณหนูแบคฮยอนต้องทนทรมานใจและเก็บงำเรื่องบางอย่างเอาไว้ไม่บอกกล่าวให้ใครได้ล่วงรู้



    ยิ่งกับเจ้าของหัวใจที่ไม่ต้องการเห็นเขาเจ็บปวดหรือระคายเคืองแม้แต่ผิวเนื้อก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้



    คุณหนูแสนดีเหลือเกิน



    ไม่มีใครสามารถทนทุกข์ระทมใจดังเช่นคนโง่เขลาจนหัวใจเริ่มบอบช้ำไปทั้งดวงได้หรอก แต่ร่างบางกลับเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้ไม่ห่างไปไหน



    นึกโกรธคุณชายใจร้ายของเธอเสียจริงๆ



    ชานยอลเป็นคนโชคดีมากแต่กลับไม่เคยรู้ตัว



    ซ้ำยังผลักไสคนที่รักตัวเองให้ห่างออกไปอย่างไม่นึกเห็นใจ



    ป้าเข้าใจทุกการกระทำของคุณหนูนะคะ ในเมื่อคุณหนูคิดดีแล้วที่จะไม่อธิบายหรือพูดอะไรกับเขา ยังไงป้าก็เคารพในการตัดสินใจของคุณหนูเสมอค่ะ



    แบคฮยอนเม้มริมฝีปากแน่นจนรู้สึกปวดไปหมด ความหนาวเย็นของอากาศติดลบบวกกับสายลมเย็นเยือกบริเวณหน้าบ้านทำให้ต้องห่อกายเข้ากับเสื้อโค้ทตัวหนาทั้งหน้าซีด จมูกจิ้มลิ้มแดงก่ำและเย็นจัดเพราะอุณภูมิลดลงต่ำมากกว่าทุกวัน



    ปุยหิมะเริ่มตกลงมาปกคลุมสนามหญ้าสีเขียวจนขาวโพลนไปทั้งพื้นที่



    เหมือนดังความรู้สึกในตอนนี้ที่เริ่มหนาวเหน็บราวกับถูกกดทับด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่จนชาไปหมดทั้งใจ



    อ่อนแอสักหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก



    เพราะนับจากนี้ไป แบคฮยอนจะเข้มแข็งเพื่อเอาชนะใจของชานยอลให้ได้











     





     

    ชานยอล จำได้หรือเปล่าว่าวันนี้วันอะไร?’



    คนตัวเล็กซ่อนตัวอยู่ภายใต้เสื้อไหมพรมสีขาวบริสุทธิ์ดูกลมกลืนไปกับผิวซีดๆ ของเจ้าตัว ดวงตาเรียวรีกะพริบปริบๆ ไปมาขณะจ้องคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างกายเพื่อเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ



    วันพุธไง ฉันเดาถูกใช่ไหม?’



    ชานยอลเผลอยิ้มมุมปากเมื่อท่าทางร่าเริงและอาการตื่นเต้นของร่างบางหายไปในทันตา ก่อนถูกแทนที่ด้วยใบหน้าหงอยๆ ไม่จากลูกหมาตัวน้อยที่หางลู่หูตกหลังถูกเจ้าของทิ้งไว้ให้นอนเหงาอยู่ในบ้านเพียงลำพัง



    ได้ไงกัน ชานยอลลืมจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย



    มันน่าน้อยใจนัก



    วันสำคัญทั้งทีชานยอลกลับลืมเสียได้ มีอย่างที่ไหนอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายสิบปีแต่จำวันเกิดของเพื่อนสนิทไม่ได้ เผลอน้อยใจจนใช้ฟันซี่คมขบกัดริมฝีปากอย่างที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย



    คนมองอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มให้ชี้ฟูไม่เป็นทรง แต่ก็ต้องถูกเจ้าลูกหมาที่เขามักล้อบ่อยๆ หันมาแยกเขี้ยวขู่ใส่ด้วยความขัดใจ



    ทำไมต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นด้วย เมื่อเช้าเจ้าของไม่ให้อาหารหรือไง



    ปึก!



    พูดยังไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ กำปั้นน้อยก็ทุบเข้าที่ต้นแขนหวังจะลงโทษที่เขาดันไปล้อสีหน้าไม่สบอารมณ์ของตนเอง คิดหรือไงว่าทุบเบาแค่นั้นเขาจะรู้สึกสะเทือนได้ คำว่าเจ็บคงไม่ต้องพูดถึง



    บยอนแบคฮยอนไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าการแกล้งทุบตีเขาทั้งที่สัมผัสออกจะนุ่มนวลเสียขนาดนั้น ก็เจ้าลูกหมาไม่กล้าแม้แต่จะทำให้ชานยอลรู้สึกเคืองแม้แต่ปลายนิ้วยังไงล่ะ



    ใครมันจะไปกล้ากัน



    ตอนเห็นเขาสะดุดล้มจนหัวเข่าถลอกนิดเดียวก็ร้องไห้โยเยเป็นเด็กให้ปลอบไม่หยุด บอกว่าไม่อยากเห็นชานยอลเจ็บหรือได้แผล ทีตัวเองหัวแตกเพราะซุ่มซ่ามเดินไม่ระวังยังไม่ร้องไห้เอาเป็นเอาตายแบบนี้เลย



    ช่างอ่อนไหวเสียจริงนะเจ้าลูกหมา



    ถึงจะไม่อยากให้ฉันเจ็บ แต่นายก็ควรห่วงตัวเองเสียบ้าง



    นายจะรักฉันมากกว่าตัวเองได้ยังไง



    เราไม่พูดด้วยแล้ว



    สะบัดหน้าหนีจนแก้มกลมๆ ขยับไปตามการเคลื่อนไหว กอดอกทำหน้าเง้างอนเช่นทุกครั้งที่ถูกเขาแกล้งให้หงุดหงิดใจ ชานยอลหยิกแก้มยุ้ยอย่างนึกเอ็นดู ก่อนใช้สองมือประคองใบหน้าเรียวให้หันมาสบตากัน



    หัวใจดวงน้อยเผลอสั่นไหวเต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ กลัวถูกเขาจับได้เหลือเกินว่าแอบคิดไม่ซื่อมานานแล้ว ความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในกำลังจะล้นออกมาจนกดไว้ไม่ไหวหากยังได้สบแก้วตากลมๆ ตรงหน้าไม่ละไปไหน



    ชานยอลชักจะมีอิทธิพลกับแบคฮยอนมากเกินไปแล้ว



    หลับตาก่อนสิ



    แบคฮยอนเลิกคิ้วสงสัยกับคำสั่งกลายๆ จากน้ำเสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์ของผู้ชายตัวสูง



    ถ้าเราหลับตาชานยอลก็จะแกล้งเราใช่ไหม



    ไม่แกล้งหรอกน่าลูกหมา เร็วครับหลับตาก่อนแล้วจะรู้



    เป็นอันว่าต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ แบคฮยอนใจเต้นแรงกับคำพูดคำจาเพราะๆ ที่ได้ยินไม่บ่อยนัก มือไม้สั่นไม่เป็นตัวของตัวเอง เม็ดเหงื่อผุดซึมตามขมับขาวด้วยความประหม่า



    ชานยอลล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบสิ่งที่เขาตั้งใจเตรียมมาให้เจ้าของดวงหน้าหวานราวกับตุ๊กตาแก้วในวันนี้ แก้มยุ้ยถูกตกแต่งด้วยสีเลือดฝาดน่ามองถูกดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่นานนับนาที หลังจากนั้นจึงบอกให้อีกฝ่ายลืมตามองของขวัญชิ้นที่ไม่มากค่ามากราคานัก หากแต่มันเป็นชิ้นที่ตั้งใจจะมอบให้คนสำคัญในชีวิต



    ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดี นอนคิดมาหลายวันอยู่เหมือนกัน แต่ว่าสิ่งนี้เหมาะกับนายมากเลยล่ะ



    เขายื่นสิ่งนั้นออกมาตรงหน้าในระดับสายตา แหวนเงินสองวงขนาดและลายสลักต่างกันสะท้อนอยู่ในดวงตาของคนทั้งคู่ แบคฮยอนกลั้นยิ้มจนปวดแก้มเมื่อเห็นว่าตัวอักษรที่สลักอยู่บนแหวนนั้นเป็นชื่อของตัวเองและผู้ชายตัวโต



    แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่แหวนวงเล็กสลักชื่อ Chanyeol



    แต่แหวนวงใหญ่กว่ากลับสลักชื่อ Baekhyun



    นอกจากจะแกล้งทำเป็นจำวันเกิดกันไม่ได้ ชานยอลยังจำไซส์นิ้วแบคฮยอนผิดอีกหรือเนี่ย



    นิ้วเราไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นเสียหน่อย จะใส่ได้ยังไงกันบ่นเสียงเล็กเสียงน้อยที่เพื่อนสนิทซื้อแหวนวงใหญ่กว่านิ้วมากๆ มาให้ แต่ลึกๆ ใจก็แอบเต้นอย่างลิงโลดเมื่อนึกไปว่าชานยอลตั้งใจจะใส่เป็นแหวนคู่



    นิสัยไม่ดีจริงๆ เลยแบคฮยอน คิดอะไรของนายกัน!



    ชานยอลมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ เขาจะหันมาชอบนายได้อย่างไร



    คำว่า เพื่อนสนิทที่เป็นเส้นคั่นกลางกำหนดความสัมพันธ์ของเราว่าควรอยู่ในที่ตรงไหนก็ยิ่งทำให้ความคิดไร้สาระนั่นเป็นไปไม่ได้



    ไม่มีทางล้ำเส้นมากเกินพอดีได้



    เขาเห็นเราเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น จำให้ขึ้นใจเสียทีสิ



    ใครว่าอย่างนั้นล่ะ



    ‘…’



    นี่ของนาย



    วางแหวนสลักชื่อตัวเองลงบนฝ่ามือเล็ก



    นี่ของฉัน



    พร้อมกับสวมแหวนสลักชื่อร่างบางเข้ากับนิ้วนางด้านซ้าย



    การกระทำเหล่านี้ยิ่งทำให้คนตัวเล็กแก้มแดงจัดและร้อนผ่าวไปทั้งหน้า เขาทำราวกับเรากำลังแลกกันสวมแหวนคู่เพื่อบ่งบอกว่าเป็นเจ้าของกันและกันอย่างไรอย่างนั้น คนตัวโตคงไม่รู้ว่าได้ทำให้ใครบางคนเผลอคิดไปไกลจนลืมความจริงที่ว่าชานยอลมีคนรักอยู่แล้ว



    ช่วยไม่ได้เลย แบคฮยอนเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่าที่ในเวลานี้พยายามไม่คิดถึงเธอคนนั้น อยากให้มีแค่เราเพียงสองคนเท่านั้น อยากหยุดเวลาเอาไว้เพื่อซึมซับทุกการกระทำ ทุกคำพูด ทุกเหตุการณ์ ทุกความรู้สึกเอาไว้ในความทรงจำก่อนที่เธอจะมาทวงสิทธิ์และคนรักกลับคืนไป



    นายใส่แหวนสลักชื่อของฉัน ส่วนฉันจะใส่แหวนสลักชื่อของนายเอง



    ‘…’



    แบคฮยอนพยายามแล้วที่จะไม่ใจเต้นแรงในตอนสบสายตากับอีกฝ่ายแต่ทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากันก็ไม่เคยทำได้เลย ภูมิต้านทานหัวใจเริ่มน้อยลงทุกทีหากชานยอลยังมีอิทธิพลในพื้นที่หัวใจของแบคฮยอนอยู่อย่างนี้



    มันไม่แพงหรอก ก็แค่แหวนทั่วๆ ไป แต่ฉันตั้งใจมอบให้นายนะ



    ชานยอล…’



    หืม?’



    ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ เลย



    ฉันเต็มใจ ไว้มีงานทำเมื่อไหร่จะให้ม๊าไปขอพร้อมแหวนเพชรนะ



    ชานยอลบ้า!’



    ทำเราไม่เป็นตัวของตัวเองอีกแล้ว



    ใจร้ายที่สุดเลย!

     

     






    คุณหนูคะ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ



    เสียงเรียกของคุณป้าแม่บ้านราวกับมือปริศนาที่ฉุดดึงให้หลุดจากภวังค์แสนหวานเมื่อครั้งในอดีต มือเรียวไล่ปาดน้ำตาเม็ดโตที่กลิ้งผ่านแก้มให้แห้งเหือดไปอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนลุกขึ้นยืนสูดลมหายใจ พยายามทำตัวเป็นปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตหรือให้ใครดูออกว่าดวงตาแดงก่ำนั้นเกิดจากการร้องไห้มาร่วมสองชั่วโมง



    แบคยังไม่หิวเลยครับ



    น้ำเสียงสั่นพร่าขึ้นจมูกบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าคุณหนูแบคฮยอนหลบเข้าไปร้องไห้ในห้องเงียบๆ ตามลำพัง อาการเบื่ออาหารเริ่มสำแดงฤทธิ์เดชอีกครั้งเสียแล้ว



    เมื่อไหร่มันจะจบลงสักที



    อ่อนล้าที่ต้องกดความเจ็บปวดเอาไว้มากมายเช่นนี้



    สิ่งแรกที่ทำเอาป้าซังมีรีบเข้าไปประคองร่างผอมบางก็คือท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงพร้อมจะทรุดลงกับพื้นได้ทุกเมื่อหากคลาดสายตาเพียงวินาทีเดียว



    แบคฮยอนระบายยิ้มหวานทั้งที่ทรงตัวแทบไม่ไหว ไม่อยากให้ป้าซังมีตำหนิเอาได้ว่าไม่ยอมดูแลตัวเอง ร่างบางไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่มีร่วมกับผู้ชายคนนั้นจะต้องร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ



    หรือเป็นเพราะชานยอลคนเดิมแสนดีเกินกว่าจะลบเลือนไปจากใจได้



    ต่างจากผู้ชายปัจจุบันคนนี้ที่ทั้งใจร้าย มักตวาดให้เสียขวัญ ไหนจะแววตาชิงชังที่จ้องมองกันราวกับเกลียดนักหนาในทุกครั้ง ซ้ำยังพร้อมจะทำลายสิ่งที่ครั้งหนึ่งมันเคยสำคัญกับเขามากๆ



    แต่ทว่าตอนนี้สิ่งนั้นกลับกลายเป็นของไร้ค่าอย่างสมบูรณ์แบบไปเสียแล้ว



    นั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าจะไปตักข้าวต้มมาให้คนอายุมากกว่าหลีกเลี่ยงที่จะถามถึงสาเหตุของดวงตาบวมช้ำบนใบหน้าสวย ป้าซังมีเดินหันหลังไปอีกทางแต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยคำถามหนึ่งจากร่างบอบบาง



    เขาเขาจะลงมาทานข้าวกับแบคไหมครับ



    ถ้วยเปล่าในมือแทบร่วงหล่นลงบนพื้นเมื่อได้ยินชัดเจนทุกคำพูด ป้าซังมีร้อนรนตอบคำถามทั้งปากคอสั่นไปหมดหลังเห็นแววตาเศร้าโศกกำลังคาดหวังคำตอบที่จะได้รับจากเธอ



    จะให้ตอบว่าอย่างไรในเมื่อคุณหนูรู้ดีอยู่แก่ใจทุกอย่าง



    เธอไม่อยากตอกย้ำด้วยคำพูดที่ทำให้คนฟังต้องปวดใจไปมากกว่านี้



    เอ่อรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวป้าจะไปถามคุณชานยอลให้ค่ะ



    เขาคงไม่ลงมางั้นสินะครับ



    คะคุณหนู



    ใครกันจะอยากมองหน้าคนที่ตัวเองแสนรังเกียจได้ลง



    แบคฮยอนรู้สึกเจ็บลึกในอกราวกับถูกกรีดด้วยมีดนับพันเล่ม ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการและเป็นไร้ค่าไร้ราคาในชีวิตของเขา แต่คนตัวเล็กก็ยังคิดที่จะผลักไสตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกใบนั้น



    โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานใจ



    ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า แบคจะพยายามยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ แม้มันจะยากเต็มที



    “…”



    แบคคงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป เขาจะฝืนใจร่วมโต๊ะทานอาหารกับคนที่ตัวเองเกลียดได้อย่างไร



    คนตัวเล็กหัวเราะในลำคอราวกับไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดนั้น ทั้งที่ความจริงคับอกว่าหัวใจมันปวดปร่าสิ้นดี เจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ประโยคที่เอ่ยออกไปคล้ายจะย้ำเตือนถึงเส้นความสัมพันธ์ของตัวเองที่ร่างสูงขีดร่างเอาไว้อย่างชัดเจน



    มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว



    พวกเราไม่ใช่เพื่อนสนิทที่ตัวติดราวกับเป็นคนเดียวกันอีกต่อไปแล้ว



    คิดมากอีกแล้วนะคะคนดี



    แย่จังเลยครับที่เอาแต่คิดเรื่องของเขาอยู่ตลอดเวลา



    ไม่แปลกเลยนี่คะ



    “…”



    ก็คุณชานยอลเป็นคนที่คุณหนูรัก



    ใช่ชายหนุ่มยังคงเป็นคนที่แบคฮยอนรักมากที่สุดในชีวิต



    เป็นดั่งครึ่งหนึ่งของหัวใจ เป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะ เป็นความสุข เป็นทุกๆ อย่างที่ทำให้โลกทั้งใบของแบคฮยอนสวยงามและมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง



    แล้วสำหรับชานยอลล่ะ



    แบคฮยอนคนนี้เป็นตัวอะไรในชีวิตของเขา



    จริงสิ วันนี้เขาได้แผลที่ขานี่ครับ ละแล้วเขาไปหาหมอหรือยัง คุณป้าทราบไหมครับ?”



    หลังจากที่แบคฮยอนหลบไปร้องไห้ในห้องนอนนานถึงสองชั่วโมงจึงไม่รู้ว่าร่างสูงออกจากบ้านไปบ้างหรือยัง หากเขายังคงหมกตัวอยู่ในห้องของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นก็แสดงว่ายังไม่ได้ทำแผลที่ถูกเจ้าอามูร์กัดน่ะสิ



    ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ



    จะรู้บ้างไหมว่ามีใครคนหนึ่งร้อนรนใจเป็นห่วงเป็นใยเขาจากที่ตรงนี้ แต่เขาคงไม่อยากรับความหวังดีจากคนน่ารังเกียจอย่างแบคฮยอนหรอก



    พอคิดมาถึงตรงนี้หัวใจดวงน้อยก็บีบรัดแน่นจนปวดหนึบเจียนจะหายใจไม่ออก



    คุณชานยอลเธอยังไม่ออกมาจากห้องเลยค่ะป้าซังมีตอบตามความจริง



    แบคขอไปดูเขาสักหน่อยนะครับ



    เอ่ยยังไม่จบประโยคดีด้วยซ้ำ ความห่วงใยที่มีล้นอกชักนำให้ขาเรียวก้าวยาวๆ ไปยังทางเดินซึ่งมุ่งตรงไปสู่ห้องนอนของผู้ชายตัวสูง ไม่ลืมหยิบกล่องทำแผลขนาดเล็กมาไว้ในมือแล้วกระตือรือร้นที่จะไปพบหน้าเจ้าของหัวใจด้วยความเป็นกังวล



    ไม่ว่าจะผ่านไปอีกสักกี่ปี คนที่แบคฮยอนห่วงใยมากที่สุดก็ยังคงเป็นเขา



    เป็นปาร์คชานยอล


















    สายลมหนาวเย็นพัดพาความเหงาจับใจมายังคนที่ยืนตรงริมระเบียงห้องนอนปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปไกล ท้องฟ้าในเย็นวันนี้มืดลงกว่าทุกวันและดูเงียบสงบกว่าครั้งไหนๆ ชายหนุ่มแหงนหน้าทอดมองดาวดวงน้อยนับร้อยพันที่ส่องแสงพร่างพราวบนท้องนภาไกลลับตา



    เป็นอีกวันที่เขารู้สึกเดียวดายราวกับยืนตัวคนเดียวบนโลกแสนกว้างใหญ่



    นึกย้อนไปถึงตอนที่ยังมีใครบางคนอยู่เคียงข้างกาย คนที่ทำให้เขามีความสุขเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวยๆ คนที่ทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้โดยไม่ต้องปั้นแต่งท่าทางแสนน่ารักเหล่านั้น



    ดวงตาทั้งคู่ที่เคยเป็นเจ้าของ


    มูก


    ริมฝีปาก


    และหัวใจ


    เธอเป็นทุกๆ อย่างในชีวิตของเขา



    เป็นรักแรกเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารักมากรองจากมารดาผู้ให้กำเนิด



    และตอนนี้มันก็ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่แปรเปลี่ยน



    เราเคยวาดฝันว่าจะแต่งงานกัน เขาควรจะได้เป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก เธอเองก็จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกเช่นกัน เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้เพื่ออนาคตข้างหน้า จะพาเธอไปท่องเที่ยวในทุกที่ที่อยากไป เธอเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานของเราได้โรแมนติกเสียยิ่งกว่าในเทพนิยาย



    แต่มันกลับถูกใจเขาเหลือเกิน



    เขาคาดหวังว่าจะมีลูกตัวเล็กๆ ด้วยกันสักคนสองคน จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก หากดวงใจที่ได้เติบโตมาเกิดจากความรักของเราทั้งสองคน



    เธอเป็นคนรักที่ดีมาตลอดสี่ปี ทำทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องจนเอาชนะใจของเขาไปได้ทั้งดวง ไม่มีสักครั้งที่เธอจะทำให้เขาเสียใจ และไม่มีครั้งไหนที่เขาจะทำให้เธอเสียน้ำตา เธอพร่ำบอกคำรักอยู่ทุกคืนวันและสัญญาว่าจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน



    ชายหนุ่มจึงปักใจเชื่อจนไม่คิดเผื่อใจว่าจะมีสักวันที่ต้องเลิกรา



    ชานยอลก้มหน้าลงพร้อมหลับตาขับหยาดน้ำชื้นๆ ให้หายไปจากหางตาอย่างคนหมดสิ้นกำลังใจในชีวิต ฝ่ามือแกร่งกำรอบราวระเบียงเย็นจัดแน่นเสียจนขึ้นข้อขาว เขาบดกรามกดความเจ็บปวดที่กำลังปะทุหนักในอกเอาไว้สุดความพยายาม



    อดีตที่งดงามในวันนั้นกลับมาเล่นงานให้เจ็บปางตาย



    รอยยิ้มที่เคยส่งให้กันในทุกๆ วันจางหายไปต่อหน้าต่อตาราวกับถูกสายลมพัดผ่าน วันนี้ไม่มีเธออีกต่อไปแล้ว



    หากวันนั้นไม่มีใครสักคนเดินเข้ามาพรากคนรักของเขาไป ไม่เข้ามาเหยียบย่ำความรักของเขาด้วยความเห็นแก่ตัวและเห็นความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง



    หากไม่มีหมอนั่น



    เขากับคนรักคงจะได้สร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยกันไปแล้ว



    ชานยอลลูบแขนบรรเทาความเย็นเยือกของอากาศที่พัดมากระทบผิวกาย เขาเฝ้าภาวนากับดวงดาวทุกคืนให้พาคนแสนดีของตัวเองหวนกลับมา แม้รู้ดีว่ามันเป็นไปได้ยากเหลือเกิน



    ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเหงาเหมือนที่เขาเป็นอยู่ไหม จะสบายดีหรือเปล่า ยามอากาศเย็นจัดเช่นนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่



    วันที่ป่วยใครจะเป็นคนดูแลไม่ห่าง ใครจะคอยจัดหายามาให้เหมือนที่เขาเคยทำ ความกังวลใจต่างๆ นานาส่งผลให้ชานยอลโมโหตัวเองแทบบ้า



    วันนั้นเขาทำอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถรักษาหรือเหนี่ยวรั้งหัวใจเพียงดวงเดียวเอาไว้ได้



    เขาทำไม่ได้



    เธอไม่ผิดเลยที่เลือกทิ้งเขาให้ทรมานกับปัจจุบัน เขาไม่เคยนึกโกรธหรือเก็บมาคิดแค้นว่าเป็นเพราะเธอไม่รักกันจึงได้เดินหันหลังจากไปปล่อยผู้ชายคนนี้เอาไว้กับรักช้ำๆ ที่ไม่มีวันย้อนกลับมาเป็นดังเดิม



    ในชีวิตนี้เขาคงไม่คิดรักใครอีกแล้ว



    ในเมื่อเธอเป็นคนกระชากหัวใจของเขาติดมือไปอย่างไม่คิดจะนำกลับคืน เขายังคงเฝ้ารอเจ้าของหัวใจถึงต่อให้รู้ดีแค่ไหนว่าอาจจะไม่มีวันนั้นอีกต่อไป



    จะไม่มีใครแทนที่ตำแหน่งซึ่งเคยยกให้ผู้หญิงที่เขารักหมดใจคนนั้น



    นานแค่ไหนก็รอได้ หรือจะให้รอทั้งชีวิต



    ปาร์คชานยอลทำให้ได้เสมอเพื่อผู้หญิงที่เขารัก



    เธอจะเป็นรักแรกและรักสุดท้ายของผู้ชายอย่างเขา








    แกรก



    ทันใดนั้นความผิดปกติบางอย่างก็ดึงความสนใจจากคนที่ยืนคิดอะไรเงียบๆ คนเดียวให้หันไปมอง การเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตทำลายภาพในอดีตของเขาไปเสียหมดสิ้น เหลือเพียงไอความรู้สึกเลือนลางที่ยังคงเจือจางในห้วงความคิด



    เสียงปลดล็อกประตูห้องดังสะท้อนในโสตประสาท ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อนึกได้ว่าเขาล็อกประตูห้องเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา ทันใดนั้นมุมปากหยักก็ยกขึ้นอย่างคาดเดาไม่ถูกว่าอยู่ในอารมณ์ใด ดวงตาทั้งคู่ทอประกายแข็งกร้าวราวกับราชสีห์เจ้าป่าที่ต้องการขย้ำเหยื่อให้สิ้นลมหายใจ



    ร่างสูงเดินผ่านประตูระเบียงเข้าไปยังตัวห้องกว้างที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้หรูหราจนประเมินค่าประเมินราคาไม่ได้ สีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความดุดันจนไม่กล้าสบสายตา จังหวะฝีเท้าในแต่ละก้าวกระทุ้งผะแผ่ว ทว่าหนักหน่วงและเชื่องช้าคล้ายมัจจุราชที่พร้อมจะเข้ามาพรากจิตวิญญาณให้ดับสูญ



    กล้าล้ำเส้นหวงห้ามที่เขาไม่ชอบใจหากใครเข้ามายุ่งวุ่นวายโดยไม่ได้รับอนุญาตงั้นหรือ?



    เห็นทีจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้หลาบจำเสียแล้วว่าไม่ควรเหยียบย่างเข้ามายังพื้นที่ส่วนตัวของเขา!









     

     




     

    บรรยากาศภายในห้องกว้างเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหวใดๆ ราวปราศจากสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ความอุ่นของเครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพราะเจ้าของห้องตั้งใจเปิดทิ้งไว้บรรเทาความหนาวเย็นของอากาศภายนอก



    แบคฮยอนยืนนิ่งใกล้บานประตูหลังมัวเรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่นานสองนาน มือเรียวเล็กทั้งสองข้างถือกล่องทำแผลแน่นจนปวดหนึบที่ข้อนิ้ว ตบหน้าอกสองสามทีก่อนเอ่ยกับตัวเองเสียงเบา



    เอาน่าแบคฮยอน นายกำลังหวังดีอยู่นะ เขาคงไม่ใจร้ายจับนายโยนออกมาจากห้องได้ลงคอหรอก



    แม้จะคิดเอาไว้แล้วว่าไม่โดนเขาไล่ตะเพิดออกไปจากห้อง ก็คงจะถูกต่อว่าสารพัดด้วยวาจาเชือดเฉือนหัวใจ เจ็บแค่นี้จะเป็นอะไรไป หากแลกกับความรู้สึกของคนที่รัก



    แบคฮยอนยอมเป็นผู้เสียสละคงจะดีกว่า



    แค่กล้าเข้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของห้องก็เก่งกาจนักหนาแล้ว แต่การนำกุญแจสำรองมาไขเปิดจนบุกรุกห้องได้สำเร็จราวกับหัวขโมยย่องเบานั้นนับว่าใจกล้ามากที่ยอมเสี่ยงตัวเข้ามาเผชิญหน้ากับคนใจร้าย



    ร่างขาวกระจ่างตาในชุดนอนสีอ่อนลายการ์ตูนตัวโปรดดูบอบบางคล้ายเด็กตัวเล็กน่าจับมาฟัดให้จมเขี้ยวกำลังก้มหน้าก้มตาก้าวไปตามทางเดินอย่างระแวดระวัง เมื่อคิดว่าจะได้เห็นใบหน้าของคนที่แสนรักในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ใจดวงน้อยก็พลันเต้นด้วยจังหวะถี่รัวจนแทบลืมหายใจ



    กึก!



    ทว่าเข็มนาฬิกาในแต่ละวินาทีช่างเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วนัก ด้วยยังไม่ทันตั้งตัวกอปรกับแววตาของอีกฝ่ายที่มองจ้องมาส่งผลให้แข้งขาอ่อนแรงลงง่ายดาย เผลอกำกล่องยาขนาดเล็กแน่นราวกับทากาวติดไว้ เหงื่อในกายไหลมารวมกันจนรู้สึกชื้นไปทั่วทั้งร่าง



    ชานยอลยืนอยู่ตรงนั้น



    ไม่ไกลจากที่แบคฮยอนกำลังหยัดปลายเท้าลงสักเท่าไหร่



    คาดเดาอารมณ์ไม่ถูกเลยว่าตอนนี้ร่างสูงกำลังรู้สึกเช่นไร หากแต่สิ่งเดียวที่รับรู้ได้นั่นก็คือความไม่พอใจที่คละคลุ้งรอบตัวสร้างแรงกดดันให้แบคฮยอนอยู่มากโข



    ร่างเล็กพยายามทำใจดีสู้เสือ



    เสือร้ายที่ถอนหายใจหนักๆ จนเสียวสันหลังวาบไม่กล้าเคลื่อนไหวร่างกายเพราะกลัวจะถูกปลิดลมหายใจลงตรงนี้



    ใครใช้ให้นายเสนอหน้าเข้ามาในห้องนี้!



    เขาตวาดกร้าวดังลั่นห้องจนคนถูกต่อว่าตัวหดลีบลงในนาทีนั้น แบคฮยอนก้มหน้ามองปลายนิ้วมือที่กำลังสั่นระริก ไม่กล้าเงยขึ้นสบสายตาคู่โตของเขา หวาดกลัวจนพูดไม่ออก ถ้าหากมันขัดหูร่างสูงขึ้นมา



    แบคฮยอนเชื่อว่าตนนั้นต้องถูกบีบให้เละคาฝ่ามือใหญ่นั่นแน่ๆ



    ดวงตาเรียวรีเคลือบคลอด้วยน้ำสีใสดูสวยหวานแต่กลับโศกเศร้าไม่หยอกกลั้นใจขยับปลายเท้าเดินเข้าไปใกล้เขาทั้งตัวสั่นประหม่าราวกับลูกนกหลงรัง แบคฮยอนไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แต่ร่างบางจะพยายามเข้าหาเขาด้วยความจริงใจ ต่อให้ถูกผลักไสไล่ส่งอีกสักกี่พันครั้ง



    แบคฮยอนก็จะไม่ยอมแพ้อีกต่อไป



    เราเรียกชานยอลอยู่หน้าห้องตั้งนานแต่ชานยอลไม่ตอบ



    “…”



    เราขอโทษนะที่ถือวิสาสะเข้ามาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขออนุญาตเอ่ยไปทั้งปากสั่นคอสั่น ยิ่งร่างสูงเงียบไปไม่โต้ตอบกลับมาก็ยิ่งทำให้ร่างน้อยใจเสีย



    อ๋อ นายก็เลยทำกิริยามารยาทต่ำๆ แบบนี้อย่างนั้นหรือ?”



    เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ…”



    เรียนจบก็สูงนะ เหอะ! การศึกษาไม่ได้ทำให้จิตใจของคนสูงส่งขึ้นมาเลย



    เสียงแค่นหัวเราะในลำคอกับแววตาเหยียดหยามที่คนตัวโตตั้งใจใช้มองกันเปรียบดังมือปริศนาที่ตรงเข้ามาบีบหัวใจทั้งดวงให้ปวดหนึบจนแทบทรงตัวไม่ไหว



    วาจาต่อว่ารุนแรงที่ไม่เคยได้รับจากเขาเลยสักครั้ง



    พอมาได้ยินชัดเจนเต็มสองหู น้ำตาก็พลันจะไหลออกมาแสดงให้เขาเห็นว่าอ่อนแอมากเพียงใด



    ขอโทษขอโทษจริงๆ เราแค่เป็นห่วงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะล้ำเส้นหรือก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของชานยอล



    “…”



    แผลเป็นยังไงบ้าง เราขอดูอาการหน่อยได้ไหม ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือกล้าๆ กลัวๆ ก้มหน้าก้มตามองพื้นเพราะไม่สามารถทนสบแววตาแข็งกระด้างบนโครงหน้าหล่อเหลาได้



    เก็บความหวังดีจอมปลอมของนายไปซะ! หึ! เป็นยังไงล่ะ มันคงไม่ใช่อย่างที่นายหวังหรอกใช่ไหม เพราะฉันยังไม่ตาย!



    ทะทำไมพูดแบบนี้ เราเราไม่เคยคิดจะให้ชานยอลจากเราไปเลยนะ



    คนฟังยืนนิ่งค้างพูดไม่ออกสักคำเดียว น้ำเสียงเจือกรุ่นโกรธดังกึกก้องซ้ำไปมาให้ช้ำหัวใจ ลำคอตีบตันจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยประโยคปฏิเสธออกไปได้อย่างทันท่วงที



    ความเจ็บปวดในอดีตทำให้ชานยอลเป็นเช่นนี้เชียวหรือ คนตัวเล็กกำลังคิด คิดว่าพอมีทางใดที่จะดึงผู้ชายแสนใจดีไร้ความเคียดแค้นคนนั้นกลับมาได้



    ไม่เคยเลยสักครั้งที่แบคฮยอนต้องการให้เขาหายไปจากโลกใบนี้ เพียงแค่เห็นเขาเจ็บปวด หัวใจที่ให้ไปก็ปวดร้าวราวกับถูกทุบด้วยหินก้อนใหญ่



    หากไม่มีชานยอล



    โลกแสนโหดร้ายก็คงไม่มีอะไรหลงเหลืออีกต่อไป



    เสแสร้งเก่งนี่ ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างนายน่ะหรือจะไม่ต้องการเห็นฉันเจ็บปวด แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร! ที่นายทำทุกอย่างเพื่อพรากคนที่ฉันรักไปมันคืออะไร!



    ริมฝีปากหยักแสนรักตะโกนอย่างเหลืออดให้สะดุ้งเสียขวัญ ไม่เหลือกลิ่นไอความทรงจำเก่าๆ ซึ่งเคยเป็นตัวตนของชานยอลคนเดิมเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ไม่ปรารถนามากที่สุดคือการเห็นเขาหน้าแดงก่ำเพราะอารมณ์โกรธจัดจนควบคุมตัวเองไม่ได้



    แบคฮยอนรู้ว่าเขากำลังโมโหและไม่พอใจมากเพียงใด



    ร่างเล็กไม่คิดถือโทษโกรธชายหนุ่มเลย เพราะรู้ว่าเขายังคงเข้าใจผิดไม่ต่างจากเมื่อสี่ปีก่อน หากคิดจะอธิบายความเป็นจริงก็เชื่อได้เลยว่าเขาคงไม่มีทางรับฟังเป็นแน่



    มีทางเดียวที่จะเอาชนะความใจร้อนนั้นได้ก็คือการเอาความใจเย็นและอ่อนโยนเข้าสู้



    หากชานยอลคือไฟ แบคฮยอนก็จะเป็นสายน้ำชุ่มฉ่ำคอยดับความร้อนแรงที่สามารถแผดเผาทุกอย่างให้มอดไหม้กลายเป็นจุณ



    ไม่เอาแล้ว เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้กันอีกแล้วนะ อ่าชานยอลทำแผลหรือยัง เจ็บมากหรือเปล่า?”



    เปลี่ยนประเด็นรวดเร็วราวกับเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับไม่ได้ถูกเขาต่อว่าจนปวดปร่าที่หัวใจ แบคฮยอนปั้นสีหน้าสดใสร่าเริงได้เก่งเหลือเกิน กลบเกลื่อนความรวดร้าวที่พลุ่งพล่านเล่นงานอยู่ทุกขณะจิตได้เป็นอย่างดี



    คนตัวเล็กวางกล่องยาลงบนโซฟากลางห้องอย่างถือวิสาสะ ไม่ได้ขออนุญาตเขาตั้งแต่แรก ซ้ำยังกล้าบุ่มบ่ามจับต้องสิ่งของเครื่องใช้ของเขาเสมือนเป็นของตนเอง



    นายไม่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้ามาภายในห้องนี้! ออกไป!



    แววตาวาวโรจน์จับจ้องอากัปกิริยาของคนที่กำลังยืนร่วมห้องในขณะนี้ แบคฮยอนหลบซ่อนความอ่อนไหวภายใต้แก้วตาใสด้วยการกะพริบตาถี่ๆ ไม่อยากให้เขาเห็นว่าตัวเองแกล้งเล่นละครตบตาได้อย่างแนบเนียน ทั้งที่ในอกสั่นไหวคล้ายมีผืนดินใหญ่ที่ใกล้จะถล่มลงมาเต็มที



    ละเลือด ชานยอลยังไม่ได้ทำแผลเหรอ เลือดออกเต็มเลย เจ็บมากไหม ขอเราดูหน่อยนะ เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้ชานยอลเจ็บแม้แต่นิดเดียว



    เหลือบไปเห็นโลหิตสีสดไหลเป็นทางยาวบนต้นขาของคนที่สวมกางเกงขาสั้นเพื่อความสะดวกสบาย บางส่วนแห้งกรังกลายเป็นคราบคล้ำโดยที่คนเจ็บไม่คิดสนใจ แต่มันไม่ใช่กับร่างเล็กที่ยืนเม้มปากแน่น ทอดมองบาดแผลของเขาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมากล้น แววกังวลตีตื้นเต็มอกลนลานจะก้าวเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้



    นอกจากจะทำตัวเป็นคนอ่อนต่อโลกแล้วยังหน้าด้านหน้าทนเสียด้วยสิ นายไม่คิดว่าตัวเองเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่มันไร้สมองหน่อยหรือ?”



    ร่างกายสูงใหญ่ที่โดดเด่นในกรอบสายตาดูโมโหมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้น้ำเสียงจะเรียบนิ่งไร้ความพิโรธเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่าแววตาดุดันกับท่าทางสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ปะทุออกมากลับชัดเจนเหลือเกินในแววตาของคนที่คอยจ้องมองด้วยความห่วงใยอยู่ตลอดเวลา



    สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเช่นนี้เสมอมา ชานยอลไม่ชอบให้ใครก็ตามเข้ามายุ่งวุ่นวายกับของส่วนตัว



    และแบคฮยอนก็เป็นได้แค่เพียงตัวเชื้อโรคที่เขาแสนรังเกียจ



    หากได้ก้าวก่ายเขตหวงห้ามหรือแตะต้องสิ่งสำคัญแม้แต่ปลายเล็บอย่างในตอนนี้



    คงไม่ต้องนึกภาพเลยว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นเช่นไร



    ถ้าชานยอลอยากให้เราไปไกลๆ ก็ทำแผลก่อนสิ



    ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำดีกับฉัน!”



    เราหวังดีกับชานยอลจริงๆ ทำแผลก่อนเถอะนะ ถ้ามันอักเสบขึ้นมาจะแย่กันไปใหญ่



    นี่มันชีวิตฉัน เลิกยุ่งวุ่นวายเสียที น่ารำคาญ!”



    เขากระแทกเท้าเดินตรงเข้ามาใกล้มากเสียจนใจหายวาบ ชั่ววินาทีแขนเล็กก็ถูกกระชากไปบีบแน่นด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลที่ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านหรือร้องขอความเห็นใจ ริมฝีปากบางหักโค้งลงเมื่อความปวดแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง คล้ายกระดูกในกายจะแตกละเอียดเป็นเศษผง แบคฮยอนกลับไม่กล้าเอื้อนเอ่ยวาจานุ่มนวลเพื่อขอให้เขาคลายแรงบีบรัดแม้แต่คำเดียว



    รู้ว่ามันไม่มีทางได้ผล



    รู้ว่าคนที่อยู่เหนือร่างไม่ใช่ชานยอลคนเดิม แล้วมันมีประโยชน์อะไรที่คนใจร้ายจะคิดสงสารกัน



    คนตัวสูงไม่มีทางรับรู้ว่ามันปวดร้าวเพียงใด



    เขาไม่เคยรับรู้เลย



    อึก…”



    แว่วเสียงสะอื้นในลำคอแสดงถึงความเจ็บปวดหลุดรอดผ่านไรฟันที่ขบกันแน่นขับให้น้ำตาซึม แววตาฉ่ำน้ำช้อนมองคนตัวโตกว่าที่กำลังฉุดร่างของตนไปยังบานประตูราวกับลากขยะไร้ค่าที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าให้เขาสะอิดสะเอียนจนต้องนำไปทิ้ง



    สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อกันทำให้ร่างบางอดน้อยอกน้อยใจไม่ได้



    เขาทำเหมือนแบคฮยอนไม่มีหัวใจ ทั้งที่คนคนหนึ่งมีเลือดเนื้อ มีความรู้สึก สามารถเจ็บปวดได้ร้องไห้เป็น



    แต่สิ่งที่ได้รับกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง



    ออกไปจากห้องของฉัน!”



    ความจริงแล้วชานยอลควรจะเดินหันหลังกลับไปโดยไม่ต้องคิดใส่ใจ



    แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าแบคฮยอนคนน่ารังเกียจยังคงเหยียบย่างอยู่ในห้องที่เขาแสนหวงแหน



    แล้วมีหรือที่ชานยอลจะยอมปล่อยให้เชื้อโรคตัวนี้ยืนทำหน้าโง่ๆ ให้เขารำคาญใจไม่มีวันจบสิ้น



    อารมณ์คุกรุ่นยังคงระอุในอกเมื่อเหตุการณ์ในอดีตกลับมาฉายซ้ำวนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่จางหาย และเมื่อได้สบกับแววตาโศกที่เขาไม่มั่นใจว่ามันออกมาจากความรู้สึกจริงๆ หรือร่างบางกำลังเสแสร้งแกล้งทำ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเหวี่ยงร่างนุ่มนิ่มลงบนพื้นเต็มแรงอย่างไม่นึกสงสาร



    วินาทีนี้ ชายหนุ่มสนแค่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น



    เขาจึงละเลยและไม่ทันสังเกตเห็นว่าแขนของคนที่เขาแสนรังเกียจนั้นบอบบางมากแค่ไหน



    อึกอื้อ…”



    อาการชาวาบกัดกร่อนไปทั่วร่างจนไม่สามารถหยัดกายขึ้นยืนทรงตัวได้ แบคฮยอนน้ำตาคลอกับความเจ็บปวดและความใจร้ายของผู้ชายตัวสูง เพิ่งเข้าใจว่าโลกทั้งใบกำลังจะพังลงมานั้นเป็นอย่างไรก็วันนี้ วันที่ได้รับรู้ว่าเขาไม่อาจแสนดีเหมือนในอดีตได้อีกต่อไป



    คงเป็นแบคฮยอนที่คิดเข้าข้างตัวเองมาโดยตลอด



    มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว



    แผ่นหลังกว้างกำลังหันกลับเข้าไปในห้อง คนไม่ยอมแพ้ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายจับขอบประตูพยุงตัวลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งตามเขาเข้าไปในห้องได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่บานประตูจะถูกปิดลง



    ชานยอล ฟังเราอธิบายหน่อยได้ไหม เราไม่ได้คิดจะแก้ตัว แต่…”



    ฉันเกลียดนาย!”



    “…”



    จะให้ผ่านไปอีกสักกี่ปีก็เกลียดจนไม่อยากอยู่ใกล้ ในเมื่อพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”



    ย้ำชัดถึงความรู้สึกลึกๆ ในจิตใจ ชายหนุ่มไม่รอช้าเดินไปหยิบกล่องทำแผลขนาดเล็กที่วางตรงโซฟา เทข้าวของทุกอย่างลงบนพื้นเหลือเพียงกล่องพลาสติกใสเปล่า



    ชานยอล



    จังหวะที่คนตัวเล็กกำลังงุนงงว่าเขากำลังจะทำอะไร แบคฮยอนก็ได้รับคำตอบเป็นการกระทำที่เกิดจากความเกลียดชังในวินาทีนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย



    ปึก!



    โอ๊ย! ฮึก…”



    มือเรียวกุมหางคิ้วข้างขวาเมื่อร่างสูงตั้งใจเขวี้ยงของแข็งในมือตัวเองตรงมายังกระหม่อมบาง หากโชคดีที่มันพลาดไปโดนหางคิ้วได้รูปจนเลือดไหลซึมตามบาดแผลฉกรรจ์ด้วยความรุนแรงในระดับหนึ่ง



    แบคฮยอนก้มหน้าสะอึกเหมือนคนน้ำท่วมปวด เริ่มหายใจไม่ออกเพราะความปวดหนึบเข้าครอบครองร่างกายทุกส่วนเอาไว้ราวกับเป็นเจ้าของชีวิต น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าพลันไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ แผ่นหลังบางสั่นไหวดูน่าสงสารเหลือล้น



    เขาตั้งใจ



    ตั้งใจทำให้แบคฮยอนเจ็บจนแทบไม่อยากหายใจ



    คนตัวสูงไม่คิดรีรอและไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนกับการกระทำโหดร้ายป่าเถื่อน



    รู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่มไม่ใช่ผู้ชายใจดีที่ตนหลงรักมาหลายปีคนนั้น แต่แบคฮยอนก็ยังยินดียืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ยอมตกเป็นเบื้องล่างรองรับอารมณ์รุนแรงและความร้ายกาจของเขาอย่างเต็มใจ



    คนโง่เขลาที่แท้จริงคือ บยอนแบคฮยอน คนนี้เอง



    ไม่ใช่ชานยอลเลย



    ลูกชายคนเล็กของตระกูลปาร์คยืนนิ่งมองดูผลงานชิ้นโตด้วยใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ



    ยอมรับว่าตอนที่เห็นอีกฝ่ายล้มลงไปต่อหน้าต่อตาหลังถูกเขาทำร้าย หัวใจแข็งกระด้างของชายหนุ่มกลับวูบไหวคล้ายไปยืนบนหน้าผาสูงชันแล้วค่อยๆ ดิ่งตัวลงสู่พื้นด้านล่างด้วยความรวดเร็ว



    ไม่! เขาจะไม่มีทางสงสารคนที่เคยทำให้เขาเจ็บปวดปางตาย



    ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มต้องสูญเสียความเป็นตัวเอง สูญเสียคนรัก ขาดความสุขที่ควรจะมี อีกทั้งยังต้องบังคับฝืนใจตัวเองให้ทำในสิ่งที่เกลียดมากพอๆ กับใครบางคน



    คนที่ทำให้ชีวิตของเขาพังไม่เป็นท่า



    หึ



    สมควรแล้วนี่



    ในเมื่ออยากเข้ามายุ่งวุ่นวายนัก



    เขาก็จะสั่งสอนบทเรียนที่แบคฮยอนจะต้องจำไปจนวันตาย!











     100%












     


    สวัสดีค่ะ หายไปนานอีกเช่นเคย

    ก่อนอื่นขอขอบคุณคอมเม้นท์ของทุกคนมากๆ เลยค่ะ

    สาปแช่งพี่ชานกันสนุกเลยทีเดียว รู้สึกมีกำลังใจเขียนต่อ >_<

    ไม่ต้องกังวลว่าเราจะทิ้งฟิคเรื่องนี้นะคะ เราไม่ทำแบบนั้นแน่นอนค่ะ

    เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราตั้งใจเขียนมาก แล้วก็อยากแต่งต่อจนจบด้วย

    ไม่ทิ้งแน่นอนฮับ แต่อาจจะลงช้าบ้างอะไรบ้างก็อย่าถือสากันเลยนะคะ 


    ฮือออ สำหรับตอนนี้ไม่ขอเม้นท์ค่ะ ทำใจไม่ได้จริงๆ T__T


    ดราม่าคลุ้งทั้งเรื่องเลยนะคะ ใครที่คิดว่าไหวก็อยู่ด้วยกันไปนานๆ เล้ยยย

    อย่าเพิ่งทิ้งเค้าน้า ٩( 'ω' )و

    รัก 

     

    เล่นแท็กนี้ได้นะตัวเอง

    #ฟิคเข็มนาฬิกา


    อัพเดตล่าสุด : 17/05/59


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×