ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Easy Mode ; Hard Mode

    ลำดับตอนที่ #4 : ผู้ล่า (1)

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 58


    ******************************

    โลกผ่านมุมมองของ ???

    ******************************


    ตึก!....ตึก!


    ฝีเท้าของบุคคลเบื้องหน้ายังคงวิ่งหนีสุดชีวิต…


    ตึก!...ตึก!


    แม้เขาจะพยายามวิ่งเร็วแค่ไหน

    จะซ่อนอย่างไร

    ก็ยังคงถูกเจออย่างง่ายดาย


    ตึก!...ตึก!...


    จากที่เคยสนุกในตอนแรก

    ตอนนี้กลับเริ่มน่าเบื่อเสียแล้ว…


    ทั้งๆที่ตอนแรกพูดจาซะดิบดี…


    ……………………….


    25 มิถุนายน พ.ศ. 2557  เวลาประมาณ 12.00 น.


    “คืนนี้เราจะไปสืบเรื่องนั้นกัน”


    หลงฉวน พูดเสียงดังขึ้นมาหลังเลิกคาบเรียน

    นักศึกษาหลายคนหันมองไปทางต้นเสียง


    “เรื่องนั้น...น่ะหรอ”


    เหล่าเสียงซุบซิบดังขึ้นในห้อง


    แม้ว่า หลงฉวน จะไม่ได้พูดประกาศหน้าชั้น

    แต่เจ้าตัวก็ยังคงพูดเสียงดังให้ผู้อื่นได้ยิน

    เหมือนอยากเป็นจุดสนใจ

    เหมือนอยากให้ผู้อื่นมองตนเองว่าเป็นคนเก่ง

    น่าสมเพช…


    เรื่องนั้น

    คงหมายถึงเรื่องที่ในช่วงนี้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยของเราหายตัวไปบ่อยๆ

    2 เดือนก่อนก็ 3 คน

    เดือนที่แล้ว 2 คน

    ส่วนเดือนนี้พึ่งมีหายตัวไปคนหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง


    แค่เรื่องที่แต่ละคนหายตัวไปก็น่าตกใจแล้ว

    แต่ที่แปลกคือคนที่หายไปต่างเป็นคนมีดังในมหาลัยด้านความสามารถทางกีฬาทั้งสิ้น

    จะว่าไปหลงฉวนก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยนี่น่า


    จากคำให้การของคนที่เห็นคนเหล่านั้นครั้งสุดท้ายให้การตรงกันว่า

    พวกเขาต่างกลับบ้านตามปรกติหลังจากซ้อมกีฬาของชมรมในมหาลัยทั้งสิ้น

    ทางมหาลัยจึงเริ่มออกกฏให้นักศึกษาแต่ละคนกลับบ้าน

    หรือ หอพักก่อนค่ำ

    ซึ่งก็แน่นอน

    มีนักศึกษาส่วนใหญ่ทำตามไม่กี่คน

    ส่วนมากก็ยังเที่ยวเตร่เหมือนเดิม

    จะมีก็แต่พวกที่ต้องพักในหอพักของมหาลัยที่ต้องกลับหออย่างช่วยไม่ได้เพราะยามจะปิดประตูหอตั้งแต่ 2 ทุ่ม

    คนที่พักอยู่หอถ้าเผลอออกไปเที่ยวจนกลับไม่ทันไม่ค้างบ้านเพื่อนก็มักนอนในร้านโต้รุ่ง

    ส่วนภายในตัวมหาลัยก็ยังกับตึกร้างตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้ว


    “นาย!...เอ่อ ชื่อไรหว่า…ช่างเถอะ เย็นนี้มากับชั้นด้วย”

    หลงฉวนอยู่ๆก็โอบไหล่ผมยังกับเพื่อนสนิท

    เริ่มพูดแกมบังคับให้ผมไปด้วย


    “เฮ้ย หลงฉวน นายอย่าบังคับคนอื่นดิวะ ไม่เห็นหรอว่าเค้าไม่สบายใจ”

    จิ้นหลิง พูดเตือนหลงฉวน


    “บังคับอะไรกัน หมอนี่เต็มใจอยู่แล้ว...เนอะ”

    “...อะ...ครับ”


    ผมตอบกลับไป


    เต็มใจบ้าอะไร

    คนทั้งห้องต่างรู้อยู่แล้วว่าแกมันทำกับผมเหมือนเป็นเบ๊

    แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


    จิ้นหลิงได้ยินผมตอบรับไปก็ทำหน้าลำบากใจ

    อะไรกันจะทำตัวให้เป็นคนดีเรียกคะแนนนิยมรึไง

    แค่ตัวแกเองเรียนได้คะแนนอันดับท็อผ แล้วคอยติวให้เพื่อนอยู่เสมอก็พอแล้วมั้ง

    จะมาทำตัวเป็นพระเอกสงสารผมอีกทำไม


    “หลงฉวนงั้นเอาแบบนี้ คืนนี้ผมไปด้วยแล้วกัน”


    จิ้นหลิงเสนอตัวเองออกมา

    เพื่อนหลายคนต่างค้าน

    แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะค้านพอเป็นพิธีมากกว่า

    ส่วนหนึ่งคงอยากทำอะไรเสี่ยงๆเพื่อความตื่นเต้น

    คำพูดแม้จะค้านจิ้นหลิง แต่ใบหน้าและดวงตากลับเหมือนจะอยากไปด้วยเต็มที่


    “ดีเลย งั้นคืนนี้ 2 ทุ่มเราไปรวมกันหลังร้านเสี่ยวฉู”


    2 ทุ่ม...คงกะว่าถ้าใครเลือกที่จะมาก็เลิกความคิดจะกลับหอสินะ

    เอาเถอะยังไงซะผมก็…


    ………………………………


    25 มิถุนายน พ.ศ. 2557  เวลาประมาณ  20.00 น. หลังร้านอาหารเสี่ยวฉู


    ร้านเสี่ยวฉู

    ร้านอาหารเล็กๆ หลังมหาลัย

    หลังร้านพอจะมีจุดที่สามารถปีนกำแพงกลับเข้าไปในมหาลัยได้


    พลั้ก!


    “นั่งทำบ้าอะไรอยู่นับซิ กี่คน”


    หลงฉวนอยู่ที่ก็ตบหัวผมเมื่อถึงเวลา

    ไม่ได้บอกมาก่อนซักหน่อย

    ถึงจะโกรธแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี


    ผมเริ่มนับคนที่มา...1...2...3…


    7 คน

    นอกจากผม หลงฉวน และ จิ้นหลิงแล้ว

    ยังมีเพื่อนชายของหลงฉวนอีก 1 คน ส่วนเพื่อนของจิ้นหลิงที่มา 3 คน...ต่างเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น

    ...ชิเนื้อหอมชะมัด น่าหมั่นไส้ซะจริง


    “มากันแค่นี้สินะ...งั้นไปกันได้แล้ว”


    หลงฉวนมองรอบๆเมื่อเห็นไม่ทีท่าว่าใครจะมาเพิ่มแล้วก็เพิ่มปีนกำแพงเข้าไปในมหาลัย


    ไม่นานนักพวกเราทุกคนก็ข้ามกำแพงมากันหมด…

    พวกเราเริ่มทำการเดินสำรวจไปยังอาคารต่างๆเริ่มจากโรงยิมที่ที่คนที่หายสาบสูญรายแรกอยู่

    จากนั้นก็สำรวจไปยังอาคารต่างๆ โดยมีหลงฉวนเป็นคนนำ…


    หลงฉวนดูเหมือนจะจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าที่ผมคิด

    สาเหตุอะไรนั้นผมก็ไม่คิดจะสนมันหรอก

    ตอนนี้ผมได้แต่เดินตามหลงฉวนไปเงียบๆ


    ส่วนที่น่าหงุดหงิดก็พวกนักศึกษาสาวที่จิ้นหลิงพามาด้วยนี่แหละ

    แต่ละคนยังกับจะจังหวะอ่อยจิ้นหลิง ทำเป็นกลัวโน้นนี่ทั้งๆที่จริงเหมือนจะไม่สนสภาพรอบข้างด้วยซ้ำ

    ตัวจิ้นหลิงเองดูเหมือนจะทำหน้าลำบากใจนิดๆเหมือนกัน

    อ่านบรรยากาศเป็นไหมนะยัยพวกนี้


    บึก!


    “อะ...ขอโทษครับ”


    ผมที่เดินชนหลงฉวนที่อยู่ๆหยุดเดิน

    แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ยินที่ผมพูด

    เขาหน้าซีดยังกับเห็นอะไรซักอย่างเข้า

    แต่ผมลองมองดูไปรอบๆแต่กลับไม่เห็นอะไรที่แปลกไปตรงไหน


    บริเวณที่เราหยุดอยู่เป็นระเบียงทางเดินของตึกในอาคาร 3 ชั้น 4

    จากจุดนี้มองเห็นก็มีเพียง

    ฝั่งซ้าย จะเห็นประมาณชั้น 3 ถึงชั้น 5 ที่เป็นดาดฟ้าของอาคาร 4

    ฝั่งขวา ก็มีเพียงประตูและห้องเรียนมืดๆที่หากไม่เข้าไปเปิดไฟก็มองไม่เห็น


    “เป็นอะไรไปน่ะ”

    จิ้นหลิงที่ถามขึ้นมา


    หลงฉวนหันหน้ากลับมาหาพวกเราเหมือนถูกผีหลอก

    พยายามจะพูดอะไรซักอย่าง

    แต่กลับส่ายหน้าแล้วก็เงียบไป


    “กลับกันเถอะ”


    อยู่ๆหลงฉวนก็พูดขึ้นมา

    เพื่อนของหลงฉวน (หมอนั่นชื่ออะไรกันนะ) เหมือนจะถามเหตุผล

    แต่พอเห็นสีหน้าของเขาก็เงียบลง


    ทางฝั่งเพื่อนสาวของจิ้นหลิงเหมือนจะบ่นอะไรซักอย่างที่ผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก

    แต่คงจะนินทาตัวหลงฉวนนั่นแหละที่เหมือนจะเป็นคนต้นคิดจะสำรวจเอง

    แต่กลับยกเลิกทั้งๆที่เราเริ่มสำรวจได้เพียงโรงยิม 1 อาคาร 1 2 3  

    แต่ยังเหลืออาคารอีกตั้ง 3 อาคารและโรงยิมอีก 2 โรง

    ซึ่งจริงๆกว่าจะสำรวจเสร็จน่าจะเกือบเที่ยงคืน

    แต่นี่กลับสำรวจไปเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

    คะแนนนิยมของตัวหลงฉวนพรุ่งนี้คงลดฮวบฮาบแน่ๆ

    ………………………….


    25 มิถุนายน พ.ศ. 2557  เวลาประมาณ  22.00 น.


    พวกเราปีนกำแพงกลับออกมาจากนั้นแต่ละครก็เริ่มแยกย้ายกัน

    คนที่อยู่บ้านตนเองน่าจะโชคดีหน่อย

    แต่คนที่อยู่หอนี่สิจะทำยังไงหว่า…

    ช่างมันเถอะไม่ใช่เรื่องของเรานี่หน่า


    พอเห็นทุกคนกลับไปหมดแล้ว

    ผมหันหลังกลับแล้วไปทำธุระของตนเองต่อ…

    ...

    “เฮ้ หลงฉวน มาทำอะไรที่นี่น่ะ”


    ผมเดินกลับมาที่อาคารเรียน 4

    หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว

    หลงฉวนดูเหมือนจะมีอะไรซักอย่างค้างคาใจ

    เขากลับมาที่อาคารเรียน 3 อีกครั้ง

    จากนั้นก็ก็เดินไปยังแต่ละห้องเหมือนกำลังหาอะไรซักอย่าง

    ทำแบบนั้นซ้ำๆจนเกือบครึ่งชั่วโมงจนผมเริ่มทนไม่ไหว


    หลงฉวนตกใจหยุดนิ่งแล้วค่อยๆหันกลับมาหาผม


    “โธ่เอ้ย แก...เองหรอ”

    “อา แล้วตกลงมาทำอะไรน่ะ”


    หลงฉวนไม่ตอบคำถามของผม

    แต่กลับมองหน้าผมด้วยหน้าตาหน้ากลัว


    “ชั้นควรจะถามแกมากกว่า...แกมาทำอะไรที่นี่”

    “เอ...ก็แค่มาหาอะไรสนุกๆทำล่ะมั้ง”

    “สนุก?”


    กร็อบ!


    หลงฉวนยังมีสีหน้าไม่เข้าใจ

    พอมองไปตามเสียงก็เห็นแขนข้างหนึ่งของตนบิดไปอย่างผิดรูปร่าง

    กระบองตำรวจชนิดเหล็กที่ผมซ่อนเอาไว้หวดเต็มแรงไปยังข้อต่อ


    “อ้าก!...ไอ้....แก”

    “โทษทีนะ ถ้าเป็นนายสภาพเต็มร้อยผมก็ไม่มั่นใจว่าจะฆ่านายได้เท่าไร”

    “อะ...อึก”



    กร็อบ!


    ผมตั้งใจจะฟาดไปยังศรีษะของหลงฉวนเต็มแรง

    แต่เจ้าตัวใช้แขนขึ้นมาการ์ดทันเวลา

    แต่ถึงอย่างนั้นแขนข้างนั้นก็คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะ


    หลงฉวนกัดฟันวิ่งหนีลงบันไดสุดชีวิต

    ในสภาพที่แขนทั้งสองข้างใช้การไม่ได้

    ต่อให้ตนเองจะเรียนศิลปะต่อสู้มา

    เมื่อต้องสู้กับคนที่มีอาวุธก็คงจะยากอยู่ดี

    ผมไล่ตามหลงฉวนไปอย่างไม่รีบร้อน


    ตึก!....ตึก!


    หลงฉวนยังคงวิ่งหนีสุดชีวิต…


    ตึก!...ตึก!


    แม้เขาจะพยายามวิ่งเร็วแค่ไหน

    จะซ่อนอย่างไร

    ก็ยังคงถูกเจออย่างง่ายดาย


    ตึก!...ตึก!...


    ระหว่างที่ผมไล่ตามบางครั้งอย่างตอนที่เข้าประตูโรงยิม

    อยู่ๆหลงฉวนก็กระโจนออกมาหมายจะเตะใส่หน้าผม

    ถ้าไม่รู้ล่วงหน้าก่อนก็คงเสร็จไปแล้ว

    พึ่งจะมีหลงฉวนคงแรกนี่แหละที่ผมปล่อยให้หนีไปแล้วหันกลับมา

    หาจังหวะโจมตีกลับแบบนี้


    แต่ถึงอย่างนั้นจากที่เคยสนุกในตอนแรก

    ตอนนี้กลับเริ่มน่าเบื่อเสียแล้ว…


    ทั้งๆที่ตอนแรกก่อนมานี่พูดจาซะดิบดีว่าจะหาตัวคนร้าย

    ตอนนี้คนคนนั้นอยู่นี่แล้วไง

    ไหงกับหนีไปล่ะ…


    เอาเถอะอย่างน้อยก็ถือว่าสนุกกว่ารายอื่นล่ะนะ

    แต่มันก็ควรจะจบได้แล้วล่ะนะ

    ผมตอนให้หลงฉวนไปยังโรงยิม 2 ตามที่คาดไว้


    “แก...ทำไม…”

    “มันก็เป็นแค่งานอดิเรกคลายเครียดน่ะ”


    หลงฉวนทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกอยู่ครู่นึง

    ผิดคาดผมนึกว่านิสัยอย่างหลงฉวนถ้าได้ยินอย่างนั้นควรจะโกรธเสียอีก


    “ฮะ! ฮะ! ฮะ!”


    อยู่ๆหลงฉวนหัวเราะเสียงดังขึ้นมากระทันหัน


    “งั้นหรอ...เป็นนายเองงั้นหรอ...”


    อย่าบอกนะว่านี่หนีมาตลอดหลงฉวนยังไม่ได้นึกเลยว่าเป็นผม

    จะทึ่มไปไหนกัน...ไม่สมเหตุสมผลซะเลย


    “ดีจริงๆ...ที่เป็นนาย....”


    หลงฉวนเข่าทรุดลงไป

    หัวเราะทั้งน้ำตาเหมือนคนที่หมดภาระ


    กร็อบ!


    เสียงกระดูกแตกดังสนั่นโรงยิม

    ทำไมหลงฉวนถึงพูดอย่างนั้นนะ

    แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะต้องเก็บกวาดซะแล้ว


    ================================================

    ส่งท้ายตอน

    ******************************

    โลกผ่านมุมมองของ หลงฉวน

    ******************************


    ผมฆ่าคนไปซะแล้ว…

    มันเริ่มประมาณ 2 เดือนก่อน

    ใบหน้าที่คุ้นตากำลังวิ่งหนีผมที่ระเบียงทางเดินมืดๆ

    ตอนแรกผมนึกว่าฝันร้ายไปเอง

    แต่ตอนเช้ากลับได้ข่าวว่าคนคนนั้นหายตัวไป

    ตอนแรกผมปลอบใจตัวเองว่ามันน่าจะเรื่องบังเอิญ

    แต่หลังจากนั้นฝันลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง

    ทุกครั้งคนที่ผมฝันหายตัวไป

    ผมเริ่มกลัว

    ปรกติทุกครั้งที่ผมกลับมาที่บ้านหลังซ้อมกีฬาเสร็จ

    ผมหลับเป็นตายตลอด

    เป็นไปได้ไหมว่าเราจะละเมอไปทำอะไรแบบนั้น

    ผมเริ่มศึกษาผ่าน Internet ก็เห็นกรณีที่มีคนเดินละเมอ

    แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีคนละเมอไปฆ่าคนมาก่อน

    นอกจากในหนัง


    ผมปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทของผม

    หมอนั่นหัวเราะพลางบอกกับผมว่าไร้สาระ

    ถ้าผมที่อยู่ในหอพักเดินออกไปแบบนั้นกล้องวงจรปิดคงจะจับได้แล้วผมคงถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยไปนานแล้ว


    ได้ยินแบบนั้นผมก็สบายใจ

    แต่ทว่าคืนนั้นเองผมก็เห็น…

    เห็นหมอนั่นวิ่งหนีสุดชีวิต...แบบเดียวกับทุกครั้ง

    ผมตะโกนให้หยุด...แต่มือที่ตีลงไปกลับไม่ยอมหยุด

    จนในที่สุดหมอนั่นก็สิ้นลมหายใจ

    ผมตกใจตื่นในตอนเช้าภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกในชีวิตว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ

    และความฝันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องจริง


    แต่แล้วไม่รู้เพราะผมไม่เคยขอพรพระเจ้าหรืออย่างไร

    ท่านจึงไม่ยอมทำตามให้

    ในเช้าวันถัดมาหมอนั่นก็หายสาบสูญไป

    ไปช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ราว 2-3 วัน


    วันนี้ล่ะที่ผมต้องพิสูจน์เรื่องให้ได้

    ถ้ามีคนอยู่กับเราทั้งคืนคงน่าจะไม่มีปัญหา

    ผมนึกถึงไอ้เด็กที่ผมใช้ให้ไปซื้อของประจำพอดี

    ไอ้นี่ชื่ออะไรหว่า…

    ถ้าเป็นไอ้นี่ ต่อให้ผมเป็นฆาตกรตอนกลางคืนจริงๆ

    พลาดไปก็คงไม่มีคนเสียใจเท่าไร

    แถมถ้าอยู่ๆไอ้นี่ตายไปผมจะต้องถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นแน่

    ก็ผมเล่นประกาศลั่นอย่างนั้น

    ถ้าผมถูกจับอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการไถ่โทษให้หมอนั่นแล้วกัน

    แต่จิ้นหลิงกลับทำเสียแผนซะได้ดันพาใครมาด้วยเยอะแยะ

    ช่างเถอะถ้าเป็นมัน น่าจะพอปกป้องคนอื่นจากผมได้

    ถึงมันจะชอบทำตัวเป็นเด็กเรียนอย่างเดียว

    แต่ดูจากท่าทางการเคลื่อนไหวแล้ว จิ้นหลิงฝีมือไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

    แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความชัวร์ผมได้เรียกเพื่ีอนอีกคนนึงมาด้วย


    คืนนั้นคนมาน้อยกว่าที่คิดแต่ไม่เป็นไร

    พวกเราสำรวจไปตามอาคารเรียนต่างๆจนมาถึง…

    อาคาร 3 ชั้น 4...ภาพที่หมอนั่นถูกฆ่าที่นี่ยังคงชัดเจนติดตา

    ตอนนั้นที่ผมฝันยังนึกทิวทัศน์ไม่ออกเท่าไร คงเพราะเป็นตอนกลางวัน

    แต่พอมาเห็นตอนกลางคืนที่นี่ใช่แน่


    ผมไล่ให้ทุกคนกลับบ้านไป

    แล้วกลับไปที่อาคาร 3 ชั้น 4 อีกครั้งเพื่อตรวจดูหาร่องรอยต่างๆ

    อยู่ๆก็มีคนมาเรียกใครกันนะ…

    ที่แท้เป็น....นี่น่าจะตามมาทำไมเนี่ยวันนี้ก็ทำเสียแผนไปทีหนึ่งแล้ว

    หลังจากที่...บอกกลับผมเช่นนั้น

    ถึงจะโกรธมันแค่ไหน แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก

    กลัวที่ตนเองจะเป็นคนผิดมากกว่าแก้แค้นให้เพื่อนงั้นหรือ

    ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเห็นเหตุการณ์พวกนั้นได้

    แต่ก็ดีแล้วที่ผมไม่ได้เป็นคนฆ่านายนะไอ้เพื่อนยาก...ดีจริงๆ

    ....



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×