ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Easy Mode ; Hard Mode

    ลำดับตอนที่ #2 : โลกทั้งสาม

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 57


    “เอ๋?”


    หญิงสาวแสดงสีหน้างุนงงเหมือนจะไม่เข้าใจที่ผมพูด

    เฮ้ๆ ขอให้ไปเสี่ยงชีวิตทั้งทีกลับไม่มีอะไรตอบแทนคิดว่าผมเป็นใครกัน

    แค่พนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆเองนะ


    จะว่าไปนิยายหลายๆเรื่องที่ตัวเอกถูกขอให้ไปเสี่ยงชีวิต

    ถ้าไม่นับตัวเอกที่เข้าไปช่วยโดยไม่ได้ขอ

    ตัวเหล่านั้นกลับไม่ขอค่าจ้างเลยต่างหากนี่สิแปลก


    “คิดซะว่าเป็นค่าจ้างผมแล้วกัน แต่บอกก่อนนะว่า 5 ล้านนี่ผมแค่ยอมฟังเรื่องทั้งหมดนะ แล้วถ้างานมันยิ่งเสี่ยงผมจะยิ่งชาร์ตเพิ่มอีก”


    “อะ...เอ๋...เดี๋ยวสิ”


    “ออ ไม่ต้องห่วงผมไม่กะจะให้จ่ายงวดเดียวหมดหรอกนะ หลังผมประเมินราคาแล้วขอให้จ่ายมาก่อนซัก 20% ก็พอส่วนที่เหลือค่อยจ่ายตามผลงาน อย่างนี้เป็นพอไหวไหมครับ”


    “นะ...นายนี่มัน…”


    ตั้งแต่เมื่อครู่ใบหน้านิ่งๆของเธอก็เปลี่ยนไปมาหลายอารมณ์

    ตกใจ

    สับสน

    โกรธ

    แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อยดีกว่าเป็นพวกหน้าตายตลอดล่ะนะ


    “ผมทำไมหรอครับ? เห็นแก่ตัว หรือ หน้าเงินล่ะ?”

    “...”

    “ถ้าขนาดให้ไปช่วยโลก ความเสี่ยงน่าจะถึงชีวิต อยู่ๆจะให้ผมเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนที่เพิ่งเจอหน้านี่คงไม่ไหวมั้งครับ ผมไม่ได้ใจดีเหมือนตัวเอกในนิยายหรอกนะ แถมชีวิตนี้ถ้าอยู่ๆหายไป คนที่ผมทิ้งไว้ข้างหลังจะเป็นยังไง”


    ผมชำเลืองมองเธออย่างหวาดๆ

    จะพูดเกินไปไหมเนี่ย

    ถ้าเธอคลั่งขึ้นมาผมคงจบชีวิตได้ง่ายๆ

    แต่คงไม่เป็นไรมั้งดูเหมือนว่าเธอจะยังต้องการตัวผมอยู่

    ยังไงตอนนี้คงต้องพูดให้เธอยอมรับจะจ่ายเงินให้ผมให้ได้ก่อน

    แล้วพอเธอทำไม่ได้ ผมก็จะได้มีข้ออ้างปฏิเสธไม่รับงานนี้

    คราวนี้ก็จะได้ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิม


    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรใบหน้าที่แสดงอารมณ์โกรธขึ้นมาหน่อยๆของเธอ

    กลายเป็นใบหน้าแปลกใจอีกครั้ง

    เห็นดังนั้นค่อยโล่งใจไปเปราะนึง


    “คิดว่าค่าเลี้ยงดูเด็กคนนึงให้จบการศึกษามันเสียไปเท่าไรกันครับ”

    “เอ๋ เอ่อ น่าจะประมาณหลักล้านมั้งคะ?”

    “ใช่ หลักล้านครับ แถมถ้าเราตีค่าให้เป็นเงินปัจจุบันจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก นี่ยังไม่รวมค่าเสียโอกาสที่ผมต้องทิ้งงานที่ทำไปอีกนะ อยู่ๆจะให้ผมไปเสี่ยงชีวิตอย่างน้อยก็น่าจะเตรียมเงินพวกนี้เอาไว้บ้างสิ”


    พอมาคิดๆดูสงสัยที่ในนิยายชอบเลือกเอาเด็กวัยเรียนไปกอบกู้โลก

    คงเพราะพวกเขายังไม่มีความกังวลในเรื่องเหล่านี้ล่ะมั้ง

    ถ้ากลายมาเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว

    ส่วนใหญ่ก็คงเรื่องมากแบบผม

    เพื่อตัดปัญหาก็เอาคนที่ยังอยู่ในวัยเรียนซะเลย

    อาจเป็นอย่างนี้ก็ได้


    แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง

    ดูเหมือนเธอจะเลือกผิดคนไม่ก็มาผิดเวลาแล้วล่ะ

    ถ้าเป็นผมสมัยก่อน…

    ไม่สิต่อให้เป็นสมัยก่อนผมก็อาจจะเรียกร้องเหมือนเดิมก็ได้น่ะนะ


    “เข้าใจแล้วค่ะ”


    กล่าวจบเธอหลับตาอยู่ครู่นึง


    ครึดๆ!


    มือถือผมดันสั่นขึ้นมาทำลายความเงียบ


    “ฉันโอนเงินให้แล้วลองเช็คยอดในธนาคารดูสิคะ”

    “หา!”


    บ้าน่า

    ผมไม่เชื่อคำพูดของเธอ

    แต่พอเปิดมือถือ ข้อความที่ส่งมาได้บอกว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร *** จำนวน 5 ล้านบาท

    ที่ผมเปิดไว้สำหรับเป็นเงินเก็บ


    “แค่เรื่องหมายเลขบัญชีของเป้าหมาย พวกเราทราบได้ไม่ยากหรอกค่ะ”


    ...อาจจะผิดพลาดก็ได้

    ผมลองโทรไปตรวจสอบกับทางธนาคารอีกครั้ง

    แต่ข่าวร้ายคือ มีเงินโอนเข้าไปจริงๆ...


    “คราวนี้พอจะฟังเรื่องของฉันได้รึยังคะ?”

    “...”


    เธอมองผมด้วยใบหน้าเฉยชาเหมือนตอนแรกที่เจอกัน

    แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกยังกับว่า

    เธอกำลังยิ้มอย่างมีชัยเสียได้…

    เอาเถอะฟังเรื่องของเธอก่อนแล้วกัน


    “ว่าไงคะ”

    “ครับ เชิญทางนี้”


    ผมที่ยืนขวางประตูระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นหลีกทางให้

    พอเธอเดินผ่านผมไป ผมก็หยิบก้อนกระจกที่เธอขยี้ไว้ขึ้นมา


    “ให้ตายสิพื้นห้องครัวแฉะไปหมดแล้ว”


    ลมที่ยังคงพัดรุนแรงทำเอาห้องครัวที่ไร้กระจกกั้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ

    ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

    ผมดึงกระจกที่ถูกม้วนเป็นก้อนกลมใส่กลับไปที่บานประตู

    เสียเวลาอยู่ครู่นึงพอเสร็จก็กลับไปยังห้องนั่งเล่น


    “เอาล่ะก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวเธอก่อนแล้วกัน”


    “ค่ะ ฉัน อลิซ เป็นแอนดรอยจากโลกในอีก 40 ปีข้างหน้า”


    ******************************

    โลกผ่านมุมมองของ อลิซ

    ******************************


    พ.ศ. 2560

    กลุ่มประเทศอาหรับยกเว้นอิสลาเอล และ อินเดียเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO)


    พ.ศ. 2561

    ขยายความร่วมมือจากความร่วมมือทางการทหารมาเป็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจด้วย พร้อมทั้งเริ่มออกออกนโยบายกีดกันการค้าจากประเทศนอกกลุ่ม


    พ.ศ. 2562

    เกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ ส่วนจีนบุกญี่ปุ่นและเวียดนามโดยอ้างสิทธิถือครองพื้นที่ทั้งหมดในทะเลจีนใต้

    เวียดนามขอความช่วยเหลือจากประเทศในกลุ่มอาเซียน

    ญี่ปุ่นขอความช่วยเหลือจากอเมริกา

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 98% (ปีฐาน พ.ศ. 2562)


    พ.ศ. 2563

    อเมริกาส่งกำลังเข้าช่วยเหลือญี่ปุ่น รัสเซียจึงส่งกำลังเข้าร่วมรบ

    เกาหลีใต้ต้านทานทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือไม่ไหวประกาศยอมแพ้

    รัสเซียเริ่มบุกญี่ปุ่นแต่

    กลุ่มประเทศในยุโรปที่อยู่ใน NATO เคลื่อนไหวหมายจะบุกรัสเซีย

    แต่ถูกกลุ่มประเทศอาหรับเข้าต่อต้าน

    อินเดียบุกพม่า

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 95%


    พ.ศ. 2564

    มาเลเซีย อินโดนีเซียประกาศเข้าร่วมกับ SCO เริ่มบุกไทย และ ฟิลิปปินส์

    ไทยเปลี่ยนฝ่ายเข้าร่วมกับ SCO โดยอ้างความสัมพันธ์ถึงความสัมพันธ์อันดีกับจีน และ รัสเซีย แล้วถอนกำลังออกจากเวียดนาม

    ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย บุกพม่า ลาว กัมพูชา

    พม่าประกาศยอมแพ้สงคราม

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 92%


    พ.ศ. 2565

    ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ประกาศแพ้สงคราม

    เกิดโรคระบาดไปทั่วโลก ผู้นำในกลุ่มประเทศของ SCO อ้างว่าเป็นอาวุธเชื้อโรคของ NATO

    SCO เริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้ และ NATO เริ่มใช้ตาม แต่ระบบป้องกันขีปนาวุธที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายทำให้มีเพียงไม่กี่เมืองที่โดน

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 70%


    พ.ศ. 2566

    อเมริกาลดการส่งกำลังเสริมไปยังญี่ปุ่นเพื่อไปช่วยเหลือทางยุโรปที่กำลังต้านทานการรุกคืบของอาหรับและรัสเซีย

    ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงคราม จีนยึดครองพื้นที่บริเวณทะเลจีนใต้ทั้งหมด

    จีนส่งกำลังไปช่วยทางอาหรับ

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 65%


    พ.ศ. 2569

    กลุ่มประเทศยุโรปใน NATO ประกาศยอมแพ้

    จีนและรัสเซียตั้งฐานเพื่อทำการโจมตีอเมริกาในญี่ปุ่น แต่ถูกการต่อต้านแบบกองโจรรายวัน

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 40%


    พ.ศ. 2571

    อาชญากรรมในประเทศทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นทุกประเทศเกิน 200%

    อเมริกาประกาศแพ้สงคราม

    จีน และ รัสเซีย กลายเป็นประเทศมหาอำนาจ

    สกุลเงินกลางเปลี่ยนเป็นหยวน

    อเมริกาล้มละลายทางการเงินเพราะไม่สามารถจ่ายหนี้ตามเงินที่ผลิตออกมาได้

    หลายรัฐในอเมริกาแยกตัวออกเป็นประเทศ

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 30%


    พ.ศ. 2572

    เศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ

    กลุ่มประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซียกลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดเนื่องจากประเทศอื่นสูญเสียทรัพยากรจำนวนมากไปในสงครามขณะที่ในอาเซียนนอกจากเวียดนาม และ พม่าแล้วสูญเสียทรัพยากรน้อยมาก แม้แต่ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ที่เป็นประเทศผู้แพ้สงครามก็ยังคงสูญเสียไปน้อยเมื่อเทียบกับประเทศผู้แพ้สงครามอื่น


    รองลงมาคือทวีปออสเตเรียที่ไม่ได้มีส่วนร่วมการในทำสงคราม

    ส่วนแอฟริกามีเพียงแอฟริกาตอนล่างที่ได้รับผลกระทบน้อยต่างกับตอนบนที่ถูกใช้เป็นเวทีทำสงคราม


    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 35%


    พ.ศ. 2573

    มีการค้นพบแหล่งพลังงานใหม่ในขั้วโลกใต้

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 40%


    พ.ศ. 2577


    ครึ่งปีแรก

    ประชากรโลกคงเหลือประมาณ 60%

    เศรษฐกิจทุกประเทศกลับมาฟื้นตัว

    ประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    อาหารกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกโดยรวมสูงที่สุด


    วันที่ 7 กรกฏาคม 2577

    โลกที่ทุกคนบนโลกใบเดิมรู้จักก็ถูกเปลี่ยนไปตลอดกาล


    เวลา 07.17 ประเทศไทย

    เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั้งโลกอย่างไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

    ภายหลังเมื่อตรวจสอบจากกล้องถ่ายวิดีโอบนดาวเทียมก็ได้เห็น…


    ถ้าเปรียบให้โลกเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ 3 มิติทรงกรม

    ก็ราวกับมีใครไม่รู้มาหยิบชิ้นส่วนของเราไป

    ทิ้งไว้แต่ส่วนที่เป็นประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ทวีป ออสเตเรีย และ ขั้วโลกใต้


    ส่วนที่เหลือกลับถูกแทนด้วยจิ๊กซอว์ของโลกอื่นมาแทน

    แม้ว่าขนาดของโลกจะยังคงเท่าเดิม...แต่

    รูปร่างพื้นดินโลกนอกจากโซนที่กล่าวเอาไว้ถูกเปลี่ยนไปอย่างไม่คุ้นตา



    ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือ ไม่

    ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ภายหลังวันที่ 7 กรกฏาคม 2577 ถูกเรียกว่า

    ‘วันอวสานโลกเก่า’

    ไม่ก็

    ‘วันกำเนิดโลกใหม่’


    ประชากรโลก ‘เดิม’ คงเหลือ 20%


    พ.ศ. 2578


    โลกถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน


    ส่วนแรกเราเรียกมันว่า โลกเวทมนต์

    ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นอเมริกาเหนือ และ อเมริกาใต้เดิม

    แต่จนถึงตอนนี้เรายังไม่อาจรู้ได้ว่าพื้นดินในบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

    แม้แต่ดาวเทียมที่มีศักยภาพสูงสุดที่เรายังคงเหลือไว้ก็ไม่สามารถถ่ายภาพผ่านสนามพลังที่มองไม่เห็นซึ่งปกคลุมรอบบริเวณได้


    สาเหตุที่ตั้งชื่อเช่นนั้น เพาะดินแดนแห่งนี้ ภูติผี ปิศาจ ไสยศาสตร์ เวทมนตร์ ไม่ใช่เป็นเพียงความเชื่อและเรื่องงมงายอีกต่อไป


    ส่วนที่สอง โลกยุทธจักร

    ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นทวีปยุโรป แอฟริกา และเอเซียตอนบน เพียงแต่ผืนดินถูกแบ่งออกเป็น 3 เกาะใหญ่ๆ


    สาเหตุที่ตั้งชื่อเช่นนั้นก็คล้ายกับโลกแรก

    เพราะผู้คนบนดินแดนแห่งนี้ราวกับหลุดมาจากนิยายกำลังภายในของจีน

    แม้ว่าจะไม่มีเวทมนต์เหมือนโลกแรก ไม่มีวิทยาการที่ก้าวหน้าเหมือนโลกของเรา

    แต่ความสามารถในการต่อสู้ของคนบนผืนดินนั้นสูงอย่างเหลือเชื่อ


    ส่วนสุดท้าย

    กินพื้นที่ตั้งแต่ ทวีป ออสเตเรีย และ แอนตาร์กติกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมด

    ยกเว้นครึ่งบนของประเทศพม่า และ บางจังหวัดของเวียดนาม และ ลาวที่หายไป


    เพื่อให้สอดคล้องกับการตั้งชื่อโลกอื่นพวกเราจึงเอาจุดเด่นของเรามาตั้งชื่อใหม่ว่าเป็น

    โลกวิทยาศาสตร์


    ……………………………………………….


    คนจากต่างโลก ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม

    ความขัดแย้งจึงเกิดได้อย่างง่ายดาย


    ในช่วงแรกพวกเราที่มีวิทยาการเหนือล้ำกว่าโลกทั้งสองมาก

    คิดว่าจะสามารถกำราบพวกเขาได้ไม่ยาก…


    แต่พวกเราคิดผิด

    ปืนธรรมดาไม่สามารถทะลุแม้แต่ผิวหนังของทหารเลวจากโลกยุทธจักร

    แม่ทัพจากโลกยุทธจักรส่วนใหญ่ทำลายรถถังราวกับเป็นของเล่น


    จากคำบอกเราของทหารผู้รอดชีวิตบางคน

    กล่าวว่าแม้แต่เครื่องบินขับไล่ แม่ทัพบางนายของโลกยุทธจักรสามารถทำลายได้อย่างง่าด้วยวิธีอะไรก็ไม่อาจทราบได้


    ส่วนกองกำลังที่พวกเราส่งเพื่อไปสำรวจดินแดนของโลกเวทมนต์นั้น

    ทันทีที่ก้าวล้ำอาณาเขตไปก็จะขาดการติดต่อทันที


    ประชากรโลก ‘เดิม’ คงเหลือ 18%


    พ.ศ. 2579


    กำลังใจของพวกเราตกต่ำถึงขีดสุด

    บางคนรู้สึกผิดหวังว่าหากประเทศที่ยังอยู่ไม่ใช่พวกเราแต่เป็น

    รัสเซีย หรือ จีนที่มีความสามารถทางการทหารแข็งแกร่งกว่าเราหลายเท่าคงไม่เป็นเช่นนี้

    เกิดการจราจลประท้วงขึ้นในประเทศหลายประเทศ โทษผู้นำที่หันเอาดีทางด้านเศรษฐกิจหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 3 แทนที่จะหันมาพัฒนาทหาร ทำให้ไม่สามารถต่อกรกับโลกอื่นได้หลังวันกำเนิดโลกใหม่ แม้จะดูไร้เหตุผลแต่ผู้นำของอินโดนีเซียที่ตอนนี้กลายเป็นผู้นำของโลกวิทยาศาสตร์ถูกบีบให้ออก


    ก่อนสิ้นปี พม่า ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา เสียดินแดนให้โลกยุทธจักรไปเกือบครึ่ง

    ส่วนทางนิวซีแลนด์ต้องตั้งรับการรุกรานจากโลกเวทมนต์ที่พยามเข้ายึดครองพื้นที่ในแถบ แอนตาร์กติกา


    ประชากรโลก ‘เดิม’ คงเหลือ 15%


    พ.ศ. 2590


    ประชากรโลก ‘เดิม’ คงเหลือ 5%


    เป็นเวลาสิบกว่าปีที่โลกทั้งสามทำสงครามอย่างต่อเนื่อง

    โลกวิทยาศาสตร์เหลือพื้นที่เพียง ทวีปแอนตราติการ์

    เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดิม ถูกโลกยุทธจักรยึดทั้งหมด

    ทวีปออสเตเรีย ถูกโลกเวทมนต์ยึดทั้งหมด


    การรบซึ่งๆหน้ากับโลกยุทธจักร หรือ เวทมนตร์จะจบลงอย่างรวดเร็ว

    ด้วยผลคือพวกเราแพ้อย่างราบคาบ

    แม้ว่าจะพยายามพัฒนาวิทยาการอย่างหนักจนสามารถจะป้องกันการโจมตีจากทั้งโลกยุทธจักร และ โลกเวทมนต์ได้แล้ว แต่การยึดพื้นที่ที่เสียไปคืนยังแทบจะเป็นไปไม่ได้


    ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้การบุกเข้ายึดแอนตาร์ติการ์จากโลกทั้งสองเป็นไปได้ยาก

    ในขณะที่พวกเราสามารถปรับตัวเข้ากับแอนตาร์ติกการ์ได้ไม่ยากจากวิทยาการที่พัฒนาขึ้นเพื่อมาหาแหล่งพลังงานในทวีปนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน


    พ.ศ. 2595


    ตัวฉัน

    อลิซ

    แอนดรอยหมายเลข 5192

    ถูกสร้างขึ้นเพื่อจะหาคนมาช่วยกอบกู้สถานะการณ์ของโลก

    เพื่อป้องกันการล่มสลายของโลกวิทยาศาสตร์

    ………………….

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×