คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 기회 C H A N C E 1
기회 C H A N C E 1
‘ครืด~ ครืด~’
‘ฮาโหล ชานยอลครับ’
‘.....’
‘อะไรนะครับ!? ไม่! มันต้องไม่จริงคุณโกหกผมใช่มั้ย?!’
ประโยคเพียงประโยคเดียวที่ทำให้ชายหนึ่งคนนึงแทบล้มทั้งยืน แค่เพียงประโยคสั้นๆประโยคเดียวเท่านั้น... ‘เสียใจด้วยนะครับ หมอพยายามยื้อไว้เต็มที่แล้ว แต่คนไข้…’ ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบประโยคชายหนุ่มร่างสูงก็สติขาดพลั่น เพราะเรื่องที่เขากลัวมากที่สุด...กลัว... กลัวการเสียคนรักไป แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นกับเขาจนได้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดมันเกิดขึ้นอีกครั้ง… (?)
Seoul, South Korea
12.32 P.M.
‘ครืดด~ ครืดด~ “
“ยอโบเซโย~” เสียงงัวเงียตอบรับเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์
“แบค!?” ร้องเรียกอีกคนสุดเสียงเมื่อเสียงสัญญาณตอบรับ
“ชานยอล! ยอล! เป็นอะไรไป ยอล!ตอบแบคสิ”
“........” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ตอนนี้ชานยอลกำลังกลัว กลัวที่สุด ภาพเหตุการณ์ครั้งนั้น ภาพเหตุการณ์ของการสูญเสียคนที่เขารักไป เขามักจะตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะแบบนี้บ่อยครั้ง เพราะภาพนั้น เสียงนั้น ทุกอย่างในเหตุการณ์นั้นมันตามกลับมาหลอกหลอนเขา เหตุการณ์เดิมๆที่วนซ้ำไปซ้ำมา ราวกับต้องการจะตอกย้ำเขาอย่างนั้นละ...
“ฝันแบบนั้นอีกแล้วใช่มั้ย? “เสียงใสถามต่อเมื่อได้ยินเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา
“……....” แต่เพราะเสียงของคนคนนี้แหละ ที่ทำให้ชานยอลข่มตาหลับลงมาได้อีกครั้ง เพราะเสียงปลอบขวัญของอีกคน คนสำคัญของเขา ที่ทำให้ภาพเหล่านั้นหายไปจากใจเขา ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม…
“ไม่เป็นไรแล้วนะยอล แบคอยู่นี้แล้ว แบคอยู่ตรงนี้ แบคจะไม่ทิ้งยอลไปไหนนะ เราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปนะ... “เปรียบเสมือนอาขยานที่ต้องท่องทุกวันของแบคฮยอน เพียงแต่เขาพูดมันซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่มีที่ท่าว่าจะเบื่อมันเลยแม้แต่น้อย เพราะมันคืออาขยานที่ทำให้คนรักของเขา ลืมภาพเหตุการณ์เลวร้ายในใจลงได้
“แบค... แบคฮยอน” เสียงแหบพร่านของอีกคนส่งเสียงตอบรับแทนการเงียบ เพราะกำลังใจแต่การปลอบที่อ่อนโยนของอีกคน ทำให้เขาลืมมันไปได้เช่นทุกครั้งจริงๆ เสียงหวานเสียงนั้น ทำให้เขานึกถึงใบหน้าของอีกคนที่หวานไม่แพ้กัน มันเป็นเหมือนยาที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเขาลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“แบครักยอลนะ นอนได้แล้วนะคนดี เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย ผิดนัดกับคนหล่อไม่ดีนะ” เสียงใสตอบรับทันใดเมื่อได้ยินการตอบรับจากคนรัก ถึงจะเรียกแค่ชื่อ ไม่ได้บอกรัก ไม่ได้บอกคิดถึง แค่ชื่อจริงๆก็สามารถกระตุ้นก่อนเนื้อเล็กๆตรงหน้าอกของเขาให้เต้นอย่างไม่เป็นจังหวะขึ้นมาได้
“ครับผม คนสวยต่างหากละ” เสียงของความหวาดกลัวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแห่งความสุขขึ้นมาที่ละนิด
“หล่อต่างหากเล้า บ้ายบายย พรุ่งนี้เจอกันนะสุดหล่อ” เสียงใสก็ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงของอีกคนเช่นกัน ถึงมันจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่แบคฮยอน กลับไม่รู้สึกชินเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“รักเตี้ยนะครับ จุ๊บ~” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงบนหน้าจอโทรศัพท์ราวกับเป็นริมฝีปากของคนรัก
“ยอลบ้า~ -///- แบคจะนอนไม่หลับเพราะยอลเนี่ยรู้มั้ย จุ๊บ~ แบครักโย่งกว่าเยอะ” วางสายจากอีกคนทันทีที่จบประโยค หลายคนคงชินกับเรื่องแฟนบอกรัก แต่สำหรับแบคฮยอน มันเปรียบเสมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ทั้งความรู้สึก และก่อนเนื้อที่เต้นตรงอก มันยังเป็นแบบเดิมทุกครั้งจนกระทั้งวันนี้
OVERMOON
Seoul, South Korea
09.35 A.M.
ออดี้สีดำเลื่อนผ่านช่องตรวจบัตรที่ทางเข้าประตูมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องตรวจบัตรแบบคันอื่น เพราะเพียงแค่เห็นรถคันนี้ก็รู้แล้วว่าคนในนั้นคือใคร ร่างสูงในออดี้คันสวยบังคับรถให้มาจอดหน้าประตูทางเข้า ก่อนเปิดประตูก้าวขาลงมาจากรถสีดำแล้วโยนกุญแจให้บ๋อยที่ยืนรอรับตามหน้าที่ทุกครั้ง
ร่างสูงก้าวขายาวขึ้นตามขึ้นบันไดหินอ่อนสีสวยอย่างรีบร้อน ใช่สิตอนนี่มัน 9.35 แล้วนี้มันเลยเวลาที่เค้านัดคนรักไว้มากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ขายาวที่ก้าวไปตามทางเดินอย่างรีบร้อนแต่ยังคงดูหล่อเหลา ในหัวพลางจินตนาการถึงภาพคนรักที่ถูกปล่อยให้รอล่วงสามสิบนาที ป่านนี้จงงอนเขาตุ๊บป่องไปแล้วแน่ แต่ในทางตรงกันข้ามที่เขากลับยิ้มออกมาคนเดียวเมื่อนึกถึงภาพของคนตัวเล็กที่ไม่พอใจ ภาพแบคฮยอนที่ยืนกอดอกหันหลังให้เขา ส่งเสียงอู้อี้ถึงจะฟังไม่ถนัดแต่มันน่ารักเป็นบ้าสำหรับชานยอล
มือเรียวหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์เลื่อนนิ้วยาวไปกดเครื่องหมายลูกศรขึ้นเช่นทุกครั้ง รอเพียงไม่กี่นาทีประตูแก้วสีใสก็เปิดออก ขายาวก้าวเขาไปในลิฟต์โดยเร็ว ก่อนจะกดปุ่มเลข 38 เพื่อไปหาคนรักของเขา
“รอก่อนครับ!?” ชายร่างเล็กคนนึงวิ่งเขามาเอามีขัดประตูแก้วไว้
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ทันดู ประตูเกือบจะหนีบมือคุณแล้ว” ชานยอลรีบเข้าไปดูอาการของชายร่างเล็กที่พึ่งเข้ามาในลิฟต์
“ผมไม่เป็นไร ^^ แค่นี้เองอีกอย่างผมผิดเองที่วิ่งมาขัดประตูไว้แบบนั้น” ชายร่างเล็กโค้งให้ชานยอลแทนคำขอบคุณและการขอโทษ
“อ่อ... คุณจะไปชั้นไหนครับ” ชานยอลรีบถามชายร่างเล็กทันทีเมื่อสังเกตเห็นเลขที่แดงในจอดิจิตัลเคลื่อนไปถึงเลย 13 แล้ว
“38 ครับชั้นเดียวกับคุณ...เอ่อ...”
“อ่อ... ปาร์ค ชานยอลครับ เรียกผมชานยอลก็ได้ คุณ... เอ่ออ...” ชานยอลยื่นมือข้างขวาออกไปเพื่อแสดงความรู้จักกับคนข้างหน้า
“คยองซูครับ โด คยองซู: D “ชายร่างเล็กเอิ่มมือมารับมือหนาตามธรรมเนียม
ประตูลิฟต์แก้วสีใสเปิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเลขบนจอดิจิตัลเลื่อนมาถึงเลข 38 ร่างสูงหลบข้างเพื่อให้เพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักกันได้เดินออกไปก่อน หลังจากนั้นร่างสูงก็เดินตามออกมาติดๆ พวกเขามองดูประตูแก้วที่ปิดลงแล้เลื่อนไปยังชั้นต่อไป
“เฮ้ย!? ผมขอตัวก่อนนะครับคุณคยองซู ผมสายนัดมาหลายนาทีแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะครับ” ชานยอลร้องเสียงหลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคนรักรออยู่รีบโค้งให้คยองซูแล้วเดินตรงดิ่งไปยังห้องของคนที่รอเขาอยู่
“เอ่ออ.. ครับ” คยองซูมองชานยอลงงๆ ก่อนจะขานรับทั้งๆที่ร่างสูงเดินลับตาไปแล้วแท้ๆ ร่างเล็กเดินไปทางห้องของตนทันทีเมื่อหลุดจากภวังค์ วันนี้เป็นวันแรกที่คยองซูย้ายมาทีนี่ ถึงมันจะเป็นบ้านเกิดของเขาแต่เขากลับรู้สึกไม่ชินเลยซักนิด คยองซูถูกส่งไปเรียนที่นิวยอร์กตั้งแต่อายุ 15 ขวบกลับมาเกาหลีสองปีครั้งหรือนานกว่านั้น แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เขาตั้งใจย้ายกลับมาถาวร ไม่รู้อะไรดลใจเขาให้กลับมาทีนี้เหมือนกันทั้งๆที่คนคนนึงที่นี้ ได้พรากบางสิ่งบางอย่างไปจากเขา... บางอย่างที่ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้อีกแล้ว
ชานยอลเดินเร็วสุดฝีเท้าเพื่อตรงดิ่งไปยังห้องของคนรัก ร่างสูงเดินผ่านห้องที่มีประตูสีไม้นวลแบบเดียวกันซ้ำไปซ้ำมาหลายห้องจนมาหยุดอยู่ที่ห้องห้องหนึ่ง 3805
มือเรียวกดออดเรียกคนในห้องให้ออกมาเปิดประตูตามเคย ร่างสูงใช่เวลายืนอยู่นอกห้องไม่นานประตูไม้สีนวลก็ถูกเปิดออก จนพบกับเจ้าของห้องร่างเล็กที่ยืนหน้าบูดอยู่ ชานยอลโผล่กอดคนรักทันทีเมื่อเห็นใบหน้าหวาน โดยไม่สนว่าใบหน้านั้นจะแสดงอารมณ์อะไร เพราะแบคฮยอนของเขานะ... ทำอะไรก็น่ารัก
“ทำไมไม่มาพรุ่งนี่เลยอะ” ร่างเล็กส่งเสียงเมื่อห้องตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน
“โอ๋เอ๋~ เตี้ยอะเค้าขอโทษน้าาา วันหลัง...” ยังพูดไม่ทับจบประโยคคนตัวเล็กก็เขย่งเท้าเพื่อให้ส่วนสูงใกล้เคียงกับร่างสูงแล้วกดริมฝีปากบางลงบนริมฝีปากหนาเบาๆ
“ไม่ต้องพูดว่าวันหลังจะไม่ทำอีก เค้าฟังบ่อยแล้ว เค้ารู้ว่ายังไงยอลก็ทำไม่ได้หรอก” ร่างเล็กยู่จมูกใส่ร่างสูงแล้วเดินออกจากอ้อมกอดของคนรักไปนั่งที่โซฟาสีแดงสด
“แบคฮยอนนาาาาา~ ยอลขอโทษ อย่างอนนะคนดี” เดินตามร่างเล็กไปติดๆ
“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลยนะ คราวนี้เค้าไม่หายงอนหรอก” ร่างเล็กกระแทกก้นงอนๆลงบนโซฟาสีแดงสดก่อนหันหน้าหนีอีกคน ที่หันหนีไม่ใช่เพราะโกรธหรอกนะ แต่เพราะเขินต่างหาก เสียงอ้อนๆแบบนั้นนะไม่ใช่จะได้ยินบ่อยๆนะ ถึงจะรู้สึกดีที่ได้ยินแต่ก็ขอเล่นตัวนิดนึงเหอะ ไหนๆก็งอนละ
“ยอลนี้แย่จังเลยนะ ปล่อยให้แบครอตั้งนาน จะไม่ลงโทษยอลหน่อยอ่อ?” ร่างสูงขยับไปนั่งข้างๆร่างเล็กเบาๆโดยที่อีกคนไม่รู้ตัวก่อนจะรอบเอวบางมากอดแล้วกดจมูกคลอเคลียลงบนแก้มใสทั้งสองข้าง
“งื้ออ -//- ยอลบ้าาา ออกไปเลยนะไม่งั้นเค้าโกรธจริงๆด้วย” ร่างสูงหยุดการกระทำลงทันที่เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากร่างเล็ก แบคฮยอนก็ยังคงเป็นแบคฮยอนอยู่วันยังค่ำ เป็นคนแรกและคนเดียวที่เวลางอนแล้วน่ารักที่สุด
“หายงอนแล้วก็หันหน้ามาหาเค้าดิ” ปรับเสียงให้กลับเข้ามาอยู่ในโมทปกติ แบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็รีบหันหน้ากลับมาหาอีกคนตามคำสั่ง
“จุ๊บ~” ริมฝีปากหนากดลงบนริมฝีปากบางเบาๆเมื่ออีกฝ่ายหันมา แบคฮยอนยังคงน่ารักเสมอสำหรับเขา
“ชานยอล!? >////<” แบคฮยอนตะโกนร้องเรียกชื่อคนรักทันใด ตอนนี่หน้าสีขาวนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นชมพูที่แก้มสวยทั้งสองข้างลามไปถึงหู
“จ๋าาาาา” ลากเสียงยาวพร้อมทำหน้าล้อเลียนอีกคน
“ย๊าาาาาา!!” แล้วก็เป็นไปตามที่ชานยอลคาด แบคฮยอนต้องเถียงกลับมาแบบนี้แน่ๆ เพราะมันเป็นประโยคยอดฮิตของคนตัวเล็กเวลาไปไม่ถูก
“ย๊าาา~” ทำเสียงล้อเลียนคนรักแล้วดันร่างเล็กให้นอนราบไปกับโซฟา
“ชะชานยอล ไหนบอกจะไปเที่ยวกันไง” ก้อนเนื้อในอกเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้งเมื่อร่างสูงคร่อมตัวของเขาไว้ แล้วชานยอลนะแรงน้อยๆซะที่ไหน แบคฮยอนจะทำอะไรเขาได้
“เสร็จแล้วค่อยไปก็ได้ เค้าไม่รีบ” พูดจบก็ก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอของร่างเล็กเล่น แต่มีหรือแบคฮยอนจะยอมง่ายๆ มือเล็กพยายามดิ้นให้หลุดจากการกอบกุมของมือใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล
“ยอลอ้าาา~ กลับมาก่อนก็ได้นี้ จะได้ยาวถึงเช้าเลยไง? หรือว่าไม่อยาก” ชานยอลชะงักกับประโยคที่หลุดออกมาจากปากคนรักเมื่อครู่
“ทั้งคืนน~ เค้าว่าเตี้ยไม่ไหวหรอก เดี๋ยวก็สลบคาอกเค้าอีกอะ เอาตอนนี้เลยดีกว่า” กระซิบข้างหูคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงคลอเลียแก้มใสของคนตัวเล็กก่อนจะเลื่อนลงมาเล่นกับซอกคำสวยต่อ
“ถ้าไม่หยุดเค้าจะฟ้องพี่แบคบอมนะ” เพียงแค่ได้ยินชื่อของใครบางคนจากปากคนรัก สันจมูกที่กำลังคลอเคลียกับลำคอสวยหยุดการกระทำโดยชะงัก
“โหยย เตี้ยอะเค้าแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง” ผละออกจากร่างเล็กแล้วคว้าตุ๊กตาคุมะตัวโปรดที่ตนเป็นคนซื้อให้คนตัวเล็กมากอด
“ชอบให้ขู่ตลอดเลยนะ~” คนตัวเล็กยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วขยับหน้าสวยไปใกล้ร่างสูง
“โอ้ยย!? เตี้ยอ้าา~ เค้าเจ็บนะ -......- “ชานยอลส่งเสียงร้องออกมาทันใดเมื่อมือสวยเลื่อนไปบิดหูกางๆของเขาเต็มแรง
“ก็ทำให้เจ็บไง ลามปามตลอดอะ” แบคฮยอนปล่อยมือออกจากหูกางๆของอีกคนก่อนจะเลื่อนริม
ฝีปากเล็กไปใกล้ไปหูที่แดงขึ้นมาเพราะแรงบิด พ่นลมบางๆใส่ใบหูนั้นเพื่อหลังลดอาการแดงที่ใบหู
“ก็อยากตื๊ดเมียบ้างอะไรบ้างอะ ไม่ทำกับเมียแล้วละจะให้ไปทำกับใครครับ หืมมม?” และแล้วความหื่นก็เข้าครอบงำชานยอลอีกครั้ง มือใหญ่รวบเอวเล็กมากอดอีกครั้งแล้วกดจมูกลงบนแก้มของคนตัวเล็กซ้ำไปซ้ำมา แต่มีหรืออีกคนจะยอมง่ายๆพยายามดิ้นสุดแรงเกิด แต่ก็สู้แรงลิงของอีกคนไม่ได้จริงๆ
“เลิกหื่นซักวันจะเป็นอะไรมั้ยชานยอล!?” และชานยอลก็ต้องหยุดการกระทำลงอีกครั้ง เมื่อร้องเล็กตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ มือใหญ่คลายกอดออกจากเอวเล็กแล้วหยิบตุ๊กตาคุมะมานั่งกอดเหมือนเดิม
“.........” แบคฮยอนยังคงไม่พูดอะไรทำเพียงมองอีกคนนั่งหน้าจ๋อยอยู่ข้างๆ
5 นาทีผ่านไปด้วยความเร็วแสง ในห้องยังคงเงียบสงัดไม่มีใครปริปากพูดออกมา ชานยอลยังคงนั่นอยู่ที่ท่ากับตุ๊กตาคุมะในอ้อมกอด ส่วนแบคฮยอนก็ยังคนแอบมองอีกคนเป็นระยะ แล้วหันไปกดรายการโปรดดูต่อ
“เค้ากลับบ้านก่อนนะ” ในที่สุดชานยอลก็เป็นผู้ทะลายความเงียบที่ปรกคลุมดินแดนแห่งนี่มานานเนิ่นนานลง (เวอร์ละ -...- )
“ไหนบอกจะพาเค้าไปเที่ยวไง” ละสายตาจากรายการทีวีหันมาจ้องมองคนรักอย่างถาวร ตาคู่สวยมองคนตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด ‘ผมพูดแรงไปหรอ?’ เกิดคำถามขึ้นในหัวของแบคฮยอนเมื่อเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงของคนรัก
“วันนี้คงไม่สนุกแล้วละ ไว้พรุ่งนี้แล้วกันเนอะ เค้าจะไม่สายแล้วสัญญาเลย” วางตุ๊กตาคุมะลงบนโซฟาสีแดงสดดังเดิม ก่อนจะหันไปส่งยิ้มเจื่อนๆให้คนตัวเล็กก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ผมของอีกคนเล่นก่อนจะลุกออกไปจากโซฟา
“ชานยอล... แบคขอโทษ” ถึงแม้การกระทำของอีกคนจะไม่แสดงออกมาเลยว่าโกรธ แต่แบคฮยอนผู้ฉลาดล้ำก็ยังคงอย่างรู้ได้
“หืมม? ขอโทษไมอะ?” หันหลังกลับไปมองร่างเล็กที่นั่งอยู่ที่เดิม
“ไม่ต้องมาทำแบบนี้เลยนะ โกรธก็บอกง่าโกรธมาดิ แบบนี้เค้าอึดอัดนะ!?” คนตัวเล็กลุกจาดที่นั่งเดิมเดินตรงมาที่คนรัก พร้อมกับแฝดเสียงดังลั่น
“เตี้ยเป็นไรเนี่ย ยอลไม่ได้โกรธเตี้ยซะหน่อย” ยืนยันอีกครั้งให้ร่างเล็กแน่ใจแต่ดูจากสีหน้าแล้วคนตัวเล็กท่าจะไม่เชื่อ
“ไม่โกรธแล้วกลับทำไม” ถามหน้านิ่ง ชานยอลเดาอารมณ์จากตาฅู่นั้นออกได้ในทันที คนรักของเขากำลังโกรธ
“ก็เตี้ยดูอารมณ์ไม่ดีนี่น้า ก็เลยจะกลับ” ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของปาร์ค ชานยอลคนนี่คือ คิออะไรได้ก็พูดออกไปเลย ไม่มีไตรตรองกรองผ่านสมองเลยซักกะติ๊ด
“เบื่อใช่มั้ยละ ถ้างั้นก็กลับไปเหอะ” เดินกลับมานั่งบนที่นั่งเดิม ร่างสูงยังไม่ไหวติง ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นเทพเจ้ากรีซอยู่
“นั้น... ยอลกลับก่อนนะ” ลากเสียงยาวๆเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอีกคน แต่ก็ไม่เป็นผล
“…...” สิ่งที่ได้ตอบกลับมาจากคนรักคือ... ความเงียบ
ในที่สุดขายาวของคนตัวสูงก็ก้าวออกจากห้องของคนตัวเล็กมาพลางพิมพ์ข้อความบางข้อความถึงคนบางคน ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่หน้าลิฟต์ตัวเดิมพลางกดแผ่นสีเหลี่ยมที่สลักลูกศรลง ละสายตาจากโทรศัพท์มามองแผงดิจิตอลบนแก้ว รอให้ตัวเลขนั้นเลื่อนมาถึงเลขยี่สิบสาม
Decemcle Condo
Seoul ,South Korea
‘เอาดอกไม้อันนั้นมาวางไว้ตรงนี้ด้วย’
‘ผ้าปูที่นอนเอาสิเนื้ออ่อน ไม่เอาสีนี้บอกแล้วไง’
‘น้ำหอมเอาโรสแมรี่นะ ห้ามเอากลิ่นอื่นเตี้ยไม่ชอบ’
หลังจากออกจากคอนโดอีกคน ร่างสูงก็มาถึงที่หมาย เสียงที่กำลังสั่งบริกรในชุดสูทสีดำนับสิบ ที่กำลังจัดวางเปลี่ยนทุกอย่างตามที่ร่างสูงสั่งขายาวก้าวไปทั่วบริเวณห้องเพื่อดูความเรียบร้อยของ ดอกไม้สีพาสเทลที่ถูกสั่งตรงมาจากแดนไกลเพื่อนใครบางคน กลิ่นหอมของโรสแมรี่ที่ฟุ้งไปทั่วห้อง ผ้าปูที่นอนสีเนื้ออ่อนที่ถูกปูอย่างปราณีตในห้องโทนสีสะอาดตา ช่อดอกไม่ที่ถูกวางไว้บนโต๊ะสีขาวอย่างตั้งใจพร้อมกับจานชามสีสวย เกาอี้สองตัวที่วางไว้โดยตั้งใจ เชิงเทียนสีแดงสดที่อยู่ท่ามกลางกุหลาบหลากสีวางอยู่ใจกลางโต๊ะ ทั้งหมดนี้เขาเตรียมมาเพื่อคนคนเดียงเท่านั่น
‘บยอน แบคฮยอน’
(เคยมีเรื่องเก่าด้วยหรอ) เราหวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ
ผิดพลาดยังไงขอโทดด้วยน้า อยากให้แก้ไข้ว่ากล่าว
ติชมเม้นได้โล้ดด วันนี้ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกคนน~
ความคิดเห็น