NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FANFIC ] TOXIC (รินxลัล) : จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #9 : 8th TOXIC – ผิดพลาด [rw]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      101
      12 มี.ค. 66

    กฏแห่งกรรมที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ ข้อที่แปด – ผิดพลาด

     

    1.

    หนึ่งวัน...

    สองวัน...

    สามวัน...

     

    หนึ่งสัปดาห์...

    สามสัปดาห์...

     

    หนึ่งเดือน...

     

    ลัลทริมารู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเป็นปี

    ร้องไห้จนร่างกายหยุดไปเอง เธอคิดว่าน้าโรสคงจับสังเกตได้บ้าง แต่ไม่เคยปริปากถาม

    หญิงสาวกำมือแน่น

    สมองหลอกเธอว่าได้กลิ่นกาแฟในอากาศ

     

     

    2.

    กาแฟเย็นแก้วนึงค่ะ”

    เมนูเครื่องดื่มที่ต้องการในครั้งนี้ต่างออกไป

    เครื่องดื่มแก้วนั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอโปรดปราน

    และคนที่ควรจะเป็นคนดื่มมันกลับไม่อยู่ตรงนี้

    ลัลทริมาจ่ายเงิน

    ปักหลอดและหยิบแก้ว

     

    ขยับปลายหลอดพลาสติกจ่อริมฝีปาก

    แม้แต่กาแฟที่ลัลทริมาไม่เคยนึกชอบ

    เธอก็ยังต้องดื่มมันเพราะนึกถึงเขาจนปวดใจ

    ไม่ต่างอะไรกับกรอกยาพิษเข้าปาก

     

    รสหวานติดปลายลิ้น หากเข้มเฝื่อนในลำคอ

    ...หวานอมขม

    เช่นนี้เองหรือที่เขาติดใจมันนัก

     

     

     

    3.

    พรุ่งนี้ ...ให้ไปรับไหม”

    แล้วอยากมาหรือเปล่า”

    เมื่อรุทรพยักหน้า แน่นอนว่าพรุ่งนี้ลัลทริมาคงเห็นเขามาหาเช่นเคย ชายหนุ่มผิวเข้มย่นคิ้วนิดๆ เหลือบมองแก้วกาแฟเย็นของเธอบนโต๊ะ และเอ่ยทัก

    ฉันคิดว่าเธอชอบชาเย็นซะอีก”

    ฉันชอบชาเย็น” เธอยิ้มบางให้หนุ่มรุ่นน้อง เบนสายตาไปที่กีตาร์โปร่งมุมห้อง “อยากฟังเพลงเมื่อวาน ช่วยเล่นให้ฟังอีกรอบสิ”

    “เพลงเมื่อวานเหรอ?”

    “อืม ฉันไม่รู้ชื่อ แต่อยากฟังอีก ได้ไหม”

    ร่างโปร่งถอนใจ สายหัวเบา ๆ กับความเอาแต่ใจของเธอ พร้อมทั้งลุกขึ้นไปหยิบกีต้าร์โปร่งที่วางไว้ เค้นความทรงจำนึกว่าเมื่อวานเล่นเพลงอะไรให้เธอฟัง

    และปล่อยภาพไอเย็นรอบแก้วกาแฟไว้ในความคิด

     

     

     

    4.

    ลัลทริมาส่งกระดาษคำตอบไว้หน้าห้อง

    ควิซย่อยวันนี้รู้สึกว่าทำได้ไม่เลวนัก

    หญิงสาวก้าวผ่านประตูห้องสอบออกไป เดินเลี้ยวไปทางลิฟต์ ทว่าตรงนั้นมีใครบางคนที่เธอไม่นึกอยากพบเจอยืนอยู่ ท่าทางเหมือนมารอ

    สอบเป็นไง”

    ก็ดี”

    ทั้งสองคนก้าวเข้าไปในลิฟต์ กดลงชั้นล่าง

    ไหนดูหน่อย สร้อยเบี้ยยังอยู่ไหมยัยเบื๊อก”

    สองสามวันนี้เธอจะได้ยินคำถามนี้ประจำ

    ร่างบางพยักหน้า เอียงคอออกแต่โดยดีเมื่อฝ่ามือนั้นแง้มปกเสื้อดูให้รู้ว่าเธอไม่โกหก ลัลทริมาพับความคิดที่จะต่อต้านลงไป ทำไปก็ป่วยการเปล่าและคงไม่วายทะเลาะกันโดยใช่เรื่อง

    ใช้พลังงานในการสอบมากพอแล้ว เธอไม่อยากเหนื่อยที่ต้องตีกับเขาอีก

    สอบเสร็จแล้วนี่ วันนี้ไปหาพ่อกัน”

    ตอนเย็นฉันมีคลาสต่อ”

    รอได้”

    ลิฟท์เปิดออก

    หญิงสาวเดินไป

    ฝ่ามือของชายหนุ่มยกคว้าอากาศ

     

     

    5.

    ฉันเห็นเจ้าการินกลับไปใช้มอเตอร์ไซค์คันเก่า รถยนต์คันนี้ก็จอดทิ้งไว้ที่บ้านเป็นเดือน ๆ เพิ่งจะเห็นเอารถกลับไปขับไม่นานนี้เอง”

    “เหรอคะ...”

    “ขนาดคันเก่ายังใช้บ้างไม่ใช้บ้างเลยหนูลัล ฉันเพิ่งบ่นอยู่ว่าซื้อให้ใช้ทั้งทีก็น่าจะใช้ให้คุ้มกว่านี้หน่อย”

    บุคคลผู้เป็นหัวข้อสนทนาไม่ได้เอ่ยปากร่วม หรือทำสีหน้าไม่พอใจที่ถูกพูดถึง เขาแค่นั่งกินข้าวเย็นตามปกติ ดวงตาคมคอยเหลือบมองเธอเป็นระยะ

    ไม่ใช่ว่าหยุดขับไปเพราะรังเกียจกลิ่นเก่าหรือภาพจำติดตา  แต่เป็นด้วยเหตุผลหลายอย่างรวมด้วยกัน พักหลังจากที่แยกทางกันไปทั้งเรื่องความคล่องตัวและโอกาสไม่เอื้อให้ขับรถยนต์คันนั้นสักเท่าไหร่ เขาเดินทางไกล ไปหลายที่ จะฝืนขับสมบุกสมบันให้คุ้มสมคำพ่อก็เห็นจะเป็นการไม่ถนอมไปสักหน่อย

    และหนึ่งในนั้นคือไม่มีคนนั่งเบาะข้าง ๆ น่าแปลกสำหรับการิน ที่เหตุผลเพียงข้อเดียวกลับทำให้หลายข้อที่เหลือมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก

    “พ่อถามหาหนูลัลก็ไม่เห็นเจ้าการินมันพูดอะไรสักพักแล้ว ...นี่เราสองคนทะเลาะกันหรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงเงียบกันจัง”

    นรินทร์เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวกะทันหันทำให้เธอทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ

    คำถามที่ออกจากริมฝีปากพ่อของอดีตแฟนหนุ่มทำเอาลัลทริมารู้สึกเกร็งเล็กน้อย แต่ก็ไม่แปลกใจที่ถูกถาม อย่างการินน่ะเหรอจะเป็นฝ่ายยอมพูดถึงเธอให้พ่อเขาฟัง แถมไป ๆ มา ๆ ไหงบทสนทนาถึงมาลงเอยที่แบบนี้ก็ไม่รู้

    “แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะค่ะ”

    “พ่อรู้ดีว่าชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องคุยกันดี ๆ นะลูก มีอะไรก็ปรับตัวเข้าหากัน จะได้อยู่ด้วยกันอย่างดี รีบคืนดีกันซะล่ะ แกก็ฟังไว้ด้วยการิน”

    ราวกับรู้กันอยู่ ทั้งคู่ได้แต่ร้องเออออตามน้ำไป

    ถึงจะสงสัยแต่ลัลทริมาก็ไม่ได้อยากรู้อะไรมากนัก เพียงแต่ปั้นยิ้มตอบกลับ ใส่จริตนิด ๆ แต่พองามให้ผู้ใหญ่เข้าใจไปเองว่าคิดถูก จะได้ไม่โดนถามถึงเรื่องนี้ต่อ

    ไม่อยากพูดว่าเลิกกันแล้ว

    และจะไม่พูดเรื่องระหว่างเธอกับเขาด้วย เพราะหากเผลอพูดอะไรไปแล้วผู้ใหญ่จับได้ก็มีสิทธิ์ที่จะได้เล่าเพิ่มอีก ว่าเลิกเมื่อไหร่ เลิกทำไม

    ลัลทริมาไม่อยากเสี่ยง เธอไม่อยากพูดอะไรเลยสักคำเดียว

    หนูลัลช่วงนี้งานที่มหาลัยหนักมากเลยเหรอ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

    เธอยิ้มเจื่อน นิดหน่อยค่ะ”

    งั้นกินเยอะ ๆ แล้วอย่าหักโหม พักผ่อนบ้างนะ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพเอา”

    “ขอบคุณค่ะ”

    ต่อหน้าพ่อของอดีตแฟนหนุ่ม เธออึดอัดเหลือเกิน แม้ลัลทริมาไม่ได้ตอบอะไร ทว่าภายในใจกำลังตะโกนบอกไปดัง ๆ ว่าเพราะลูกชายตัวดีของคุณลุงนั่นแหละเธอถึงได้เป็นแบบนี้

    การินที่ลอบมองอยู่ตลอดได้แต่ซ่อนรอยยิ้มใต้ใบหน้าเรียบนิ่งผ่านแววตาขบขัน

    เขารู้ดีว่าเธอกำลังลำบากใจ

    แท้จริงแล้วนรินทร์ไม่ได้เรียกหาเธอเป็นจริงเป็นจังนัก ท่านแค่เคยถามถึงเพียงครั้งสองครั้งในรอบหลายเดือนเท่านั้นเอง ที่บอกอดีตแฟนสาวไปว่าพ่อเรียกมากินข้าวน่ะ เหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น

    ...มันก็แค่ข้ออ้าง

    ...เขาแค่สมมติว่ามันมี

    นรินทร์จะร้องขอได้อย่างไร

    ในเมื่อลูกชายไม่ได้กลับบ้านมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วด้วยซ้ำ

     

     

     

    6.

    ห้องนอนของการินยังสภาพเดิม ที่เปลี่ยนไปคือ ข้าวของ กว่าครึ่งถูกย้ายไปไว้ที่คอนโดเสียหมด ลัลทริมาถูกเขาปั่นหัวอีกแล้ว เธอพลาดเองที่ก้าวเข้ามาในห้องนี้

    ไหนใครว่ามีของจะให้ กินข้าวเสร็จแล้วให้ขึ้นไปหยิบบนห้องเองได้เลยนะ ลัลทริมาก็ลืมถามเขาว่าหมายถึงของชิ้นไหน กำลังคุ้ยหาอยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง หันกลับไปกลับเห็นร่างเจ้าของห้องยืนขวางทางเข้าอยู่แทน ...ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

    ถอยไปเลยการิน”

    เธอว่าเสียงแข็ง แววตาไม่เป็นมิตรนัก

    คล้ายว่าภาพในอดีตลอยขึ้นมาซ้อนทับกัน ครั้งนั้น เขาก็ใช้ข้ออ้างทำนองนี้

    ฉันจะไม่หลวมตัวให้นายแน่”

    เธอก็หลวมตัวตั้งแค่บอกให้ฉันวอล์คอินคืนนั้นแล้ว” ร่างสูงยืนกอดอก พิงประตูห้องไว้ราวผู้คุมที่เฝ้าระวังนักโทษกักกัน ดวงตาคู่คมฉายแววเจ้าเล่ห์

    เธออึกอัก “งั้นฉันจะไม่หลวมตัวเป็นครั้งที่สอง”

    “ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ให้ออกเธอจะมีปัญญาหนีไปไหนได้”

    ถ้าฉันบอกนายว่าไม่ แล้วจะบังคับฉันหรือไง”

    ริมฝีปากหยักคลี่ออก ท่าทางรั้นเช่นนั้นก็สมแล้วที่เป็นจอมดื้อของเขา

    ชายหนุ่มไล่สายตาลง มองผิวกายละเอียดใต้ร่องสาบเสื้อ ขบขันในใจเมื่อพลันนึกได้ว่าเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้เคยเกิดขึ้น ...ครั้งแรกที่นี่

    ต่างกันที่ครั้งนี้ไม่มีกลิ่นน่าเวียนหัวจากกำยาน

    วันนี้ทั้งคู่ต่างก็มีสติดี และไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนครั้งเก่าก่อน

     

    ฉันเคยทำแบบนั้นด้วยเหรอ?” เขายิ้มเยาะ ดันร่างของเธอชิดกับผนังปูนเย็นชืด มือปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของเธอออก

     แค่คิดว่าอยากรั้งเธอไว้ในอ้อมกอดให้นานกว่านี้เท่านั้น

     

    เห็นทีว่าคงจะเป็นเขาเองกระมัง

    ...ที่ต้องมนตร์ของแม่มดเข้าเต็มเปา

     

     

     

    7.

    เขาคงเลิกเห็นแก่ตัวใส่เธอไม่ได้แน่

    แสงสว่างในตัวเธอหอมหวานจนเขาทนไม่ไหวเลย

    มือข้างที่มีผ้าพันแผลเกลี่ยเล่นเส้นผมบางดั่งเส้นไหม

     

    ดวงตาหลับพริ้ม

    แพขนตาหนานิ่งสนิท

    ร่างกายอ่อนนุ่ม

    ...เธอดูเปราะบางเหลือเกิน

     

    โกรธกันอยู่ใช่ไหม...ดีแล้วล่ะ”

    ดีแล้วที่เป็นแบบนั้น

    ก็ไม่อยากจะโทษตัวเองนักหรอก แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้เลยว่าต้นเหตุคือตัวเขาเอง สิ่งที่ชายหนุ่มทำลงไปคือพยายามกระตุ้นสัมผัสที่หกของเธอทั้งที่ไม่มีญาณอาถรรพ์แล้วนั่นเอง

    ก็เพราะ ‘เล่นบ้าๆ’ อย่างที่ลัลทริมาเคยกล่าวไว้ เรื่องพรรค์นี้จึงได้เกิดขึ้น

    สุดท้ายลุกลามไปถึงความสัมพันธ์

     

    ไม่เอาน่า ...ก็พยายามจะดึงเธอกลับมาอยู่นี่ไง

    แต่ดันเป็นเรื่องยาก เพราะแค่ปากหนักไปหน่อย

     

    ...เท่านั้นเอง

     

    มือข้างที่มีผ้าพันแผลเกลี่ยเล่นเส้นผมบางดั่งเส้นไหม

    แสงสว่างในตัวเธอหอมหวานจนเขาทนไม่ไหวเลย

    เขาคงเลิกเห็นแก่ตัวใส่เธอไม่ได้แน่

     

     

     

    8.

    ลัลทริมารู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู

    กลิ่นหอมกาแฟลอยมาปะทะจมูกแทนเสียงนาฬิกาปลุก

    ลุกไปอาบน้ำ”

    เสียงทุ้มห้วนดังขึ้นไม่ไกล สัมผัสร้อนถูกสอดเข้าใต้แผ่นหลังดันตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง ไม่วายพูดจาเสียดสีลัลทริมาตั้งแต่หัววัน “ลืมตาได้แล้วยัยง่อย หรือฉันต้องทำให้เธอทุกอย่างเลย”

    ไม่ต้องมาแตะ” เธอปัดมือใหญ่นั้นออกไร้เยื่อใย

    ต่อให้อยู่ในอาการสะลึมสะลือแค่ไหน ถ้อยคำร้ายกาจของเขาก็กระชากให้เธอกลับสู่ปัจจุบันอย่างง่ายดาย หญิงสาวอ้าปากหาวหวอด ยกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ

    ทำไมต้องมาไล่จี้กันด้วย ไม่มีอะไรทำเหรอการิน”

    “...ยังจะกลับบ้านไหมล่ะ”

    แม้ใจอยากจะไล่เขาออกไป แต่พอกระพริบตามองรอบห้องก็เริ่มได้สติว่าอยู่ในบ้านคนอื่น หญิงสาวพลันนึกได้เช่นนั้น ภาพเมื่อคืนก็ไหลย้อนเข้ามาติด ๆ ทำให้ต้องรีบดึงผ้าห่มที่เอวขึ้นมาปิดร่างกายไว้จนมิดถึงอก มองเขาด้วยความระแวดระวัง

    ความคิดลัลทริมาก็ประชดประชันไม่แพ้กัน อยากรู้ว่าหากเธอพูดว่าอยากให้การินทำให้ทุกอย่างเลย อย่างที่เจ้าตัวท้าทายไว้ก่อนหน้านี้ หมอนั่นจะทำยอมโดยดีหรือไม่ หากความคิดนั้นก็ถูกปัดตกไปเพราะความไม่สบอารมณ์

    “หรืออยากอยู่ที่นี่ด้วยกันต่อฉันก็ไม่ว่านะ ตามใจเธออยู่แล้ว”

    “เมื่อไหร่ถึงจะจบกันฮะ... ทำยังไงนายจะไปสักที” เธอตัดบท

    ชายหนุ่มจิบกาแฟ ส่งสายตาหยิ่งยโสใส่อดีตแฟนสาว

    เฮอะ...ยังจะมีหน้ามาทำเป็นรังเกียจ ไม่สำนึกเลยรึไงว่าถ้าไม่ได้ฉันป่านนี้เธอก็คงไปอยู่กับพี่ชายนานแล้ว” ลัลทริมาหน้าตึงขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพูดกระทบประเด็นอ่อนไหว เบือนหน้าหนีแววตาเหยียดหยันเป็นเอกลักษณ์ที่มองมา น้ำเสียงเย้ยหยันดังซ้ำขึ้นอีก

    “พนันได้เลยว่าตอนเบญจเพสเธอจะซวยยิ่งกว่านี้อีก หัดเรียนรู้สถานะของตัวเองซะมั่งนะยัยโง่”

    การินทำเฉย รู้ทั้งรู้ว่าเธออยากจะพุ่งเข้ามากระชากหัวเขาแค่ไหน

    งั้นทำไมไม่มาอีกทีตอนฉันเบญจเพสล่ะ”

    ในเมื่อต้องกลับมาอยู่ดี ถ้าฉันกลับตอนไหนแล้วมันจะต่างกันยังไง”

    “ฉันไม่มีญาณอาถรรพ์แล้วนายจะไปสนุกอะไร ทั้งที่ไม่มีคนปกติที่ไหนพยายามทำให้ตัวเองเบื่อ แต่นายก็ทำด้วยการลากฉันไปไหนมาไหนเนี่ยนะการิน...คิดอะไรอยู่กันแน่”

    ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ร่างบาง หลังมือที่สัมผัสโดนผิวกายนิ่มยามเมื่อปลายนิ้วเกี่ยวสายบราเซียที่ตกข้างไหล่ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่มันควรจะเป็น

    ริมฝีปากหยักเหยียดออกเล็กน้อย

    ไว้ผ่านตอนนั้นมาได้โดยที่เธอยังไม่ตายเมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้ดีกว่า”

     

    หญิงสาวหน้าง้ำงอ

    ดวงตาจับจ้องแก้วกาแฟร้อนในมือการิน

    เธออยากคว้ามันมาสาดใส่หน้าเขาชะมัด

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++

    humble_h :

    ทีนี้รู้แล้วเนอะว่าทำไมถึงได้กลิ่นกาแฟจากลัล

    ใจจริงอยากรู้ว่าเราควรยืดเรื่องมันไปเรื่อยๆดีไหม หรือควรให้จบตรงที่วางเอาไว้ เพราะเดิมวางไว้แค่ 8 บทเอง สำนวนบรรยายมันไม่หนัก ใช้การเขียนแบบนี้หลายๆตอนเข้าเกรงว่าจะดูน่าเบื่อเกินไป (รึเปล่านะ?)

    แต่เขียนแนวนี้มันง่ายตรงที่ปรับแผนได้ตลอด ไทม์ไลน์ดิ้นไปมา ลงสลับกันทีละฉาก

    -----------------

    humble_h  rewrite: ตอนเขียนรอบแรกถามว่ายืดเรื่องดีไหม กลับมาแก้คำผิดปี 66 บอกเลยว่ายืดคนับ ยืดกว่าแพลนแรกไปเกือบ 6 เท่าแน่ะ ยืดขนาดนี้แต่นี่ยังเล่าเรื่องแบบกั๊กดีเทลไว้เล่าต่อเรื่อยๆอยู่เลย ฮืออ TT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×