NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FANFIC ] TOXIC (รินxลัล) : จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #43 : SPECIAL – COLD AS YOU [rw]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 904
      62
      12 มี.ค. 66

    C O L D   A S   Y O U


    1.

    “ชอบอากาศเย็น ๆ แบบนี้จัง” เธอว่า

    “แล้ว?”

    “อากาศน่าอ้อนแฟนจะตาย ไม่รู้สึกเหรอ” ดวงตากลมฉายแววแสนซนช้อนมอง

    เธอซุกหน้าเข้ากับแผงอกแข็ง ซุกตัวลงในอ้อมกอดอุ่น อีกฝ่ายหัวเราะหึ

    “ชอบอากาศหรือชอบอย่างอื่นกันแน่”

    “ชอบอากาศ”

    “แค่อากาศเองเหรอ?” ชายหนุ่มเย้า

    “แค่อากาศแหละ แฟนน่ะอ้อนเมื่อไหร่ก็ได้” ลัลทริมาระบายรอยยิ้มเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโฉบต่ำลงมาใกล้ คล้ายจะหยอกล้อกับริมฝีปาก

    เธอเบี่ยงหน้าหลบ

    หัวเราะคิกข้างหูเขา

     

     

     

    2.

    “ฮื่อ จั๊กจี้...ไม่เอา” ร่างบางสะดุ้งตัวเมื่อปลายนิ้วเย็นเฉียบแตะที่เอว และย่นคอหนีปลายจมูกโด่งที่เคลียซอกคอ

    เธอไม่ได้ต้องการเรื่องอย่างว่าจากเขาขนาดนั้น

    แต่หากเขาต้องการมัน เธอก็โอเคเสมอ

    “ครั้งที่แล้วไม่เห็นบอกอย่างนั้นเลย” เสียงทุ้มกล่าวแย้ง

    ท่วงท่าแช่มช้าแผ่วเบา ไม่คล้ายกับใส่ใจเท่าไรนัก หากไร้อารมณ์อย่างไม่ควรจะเป็น ขยับเคลื่อนทุกจังหวะราวกับไม่เต็มใจทำ

    เสื้อผ้าแทบไม่ถูกปลดออกจากตัวด้วยซ้ำ

    กลับกันเสียอีกที่เขาแนบกายเนิ่นนาน และถอนกายด้วยท่าทางราวกับไม่อยากถอนออก จูบอย่างกับอาหารที่เพราะหิวเลยจำเป็นต้องกิน จับเหมือนแค่เคยชินก็เลยต้องจับ อะไรก็ตามที่ร้อนรุ่มอยู่ภายในถูกกระตุ้นอย่างจงใจให้ดูเหมือนไม่จงใจ

    แผ่วเบา ละมุนละม่อมจนเกินควร

    ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าเขามันเลือดเย็นเป็นบ้า

    “พอได้แล้วน่า” ร่างบางเสียงขุ่น

    “...อยากอยู่ด้วยไง”

    เธอเม้มปาก “ขี้เกียจนักก็ไม่ต้องทำ”

    “ทำไมอะ แค่ขี้เกียจแล้วจะทำเลยไม่ได้เหรอ”

    “ตอนค้างมันน่าหงุดหงิดน่ะไม่รู้รึไง ถ้านายทำไม่เสร็จฉันจะโกรธให้—” ร่างกายเธอสั่น น้ำเสียงหวานแกว่งด้วยแรงโถมที่คล้ายจะหนักแน่นขึ้นมาเล็กน้อย “...อื้ออ”

    “ฉันไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นสักหน่อย”

    “กล้าพูดมาได้...”

    การินไม่ตอบโต้ เพียงแต่ส่งเสียงหัวเราะหึในลำคอ

     

     

     

    3.

    ในวันที่เธอถามว่าเธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม

    หากเขาตอบว่า ‘ไม่ต้องไปไหนหรอก’ มันจะเกิดอะไรขึ้น

     

    ...มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอก...

     

    แม้จะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่ชั่ววูบนั้นเขาก็ไม่ได้ต้องการเธอแล้วจริง ๆ

    นายมันเห็นแก่ตัว ถ้อยคำนั้นไร้สุ้มเสียง

    หากแต่ดวงตาสีน้ำตาลหลังม่านน้ำตา ซึ่งปนเปด้วยร้อยพันความรู้สึกที่เธอเรียกมันว่าความรักกำลังกรีดร้องตะโกนใส่เขาแบบนั้นทันที่ที่เผลอสบตากัน เขาหยุดนิ่ง รอยยิ้มอวดโอ่โอหังที่ควรจะมีไม่อาจปรากฏขึ้นได้ด้วยเพียงสบสายตานั้น

    “ดูแลตัวเองด้วยนะการิน”

    รู้ไหม...หากประโยคนี้กลายเป็นกำหมัดเธอคงซัดเขาหน้าหงายไปแล้ว

     

    เสียงเธอแสนเศร้า เธอกล่าวอำลา

    แต่น่าประหลาดนักที่การินรู้สึกราวกับได้ยินคำสาปแช่ง

     

     

     

    4.

    “การิน ถอดเสื้อไม่ลงตะกร้าแบบนี้ลำบากคนเก็บนะเนี่ย”

     

    ทั้งที่รู้เต็มอกว่าเป็นเพียงเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัว ทว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหาต้นตอตามสัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์

    ...ไม่สิ

    เป็นความเคยชินต่างหาก

     

    “การิน เย็นนี้ไปกินขนมร้านเดิมกันนะ”

     

    “ดูสิ...แคตตัสออกดอกแล้วล่ะ ฉันเลี้ยงรอดตั้งสองเทอมเชียวนะ เก่งใช่ม้า”

     

    “นายจะใส่เสื้อตัวไหนหยิบออกมาแขวนไว้หน้าตู้เลย เดี๋ยวฉันรีดให้”

     

    “นี่ การิน...นายจะมาแย่งไอติมฉันทำไม ทีหลังอยากกินก็บอก จะได้ซื้อมาเผื่อ”

     

    “อีกพรุ่งนี้ออกฟิลด์ทริปแต่เช้านะการิน ได้เก็บกระเป๋ารึยัง”

     

    พอแล้ว! 

    พอแล้ว! 

    พอได้แล้ว!!!

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่สีหน้าของเธอ..คำพูด...น้ำเสียงของแฟนเก่าดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งสลัดให้หลุดไปไม่ได้เหมือนกับเอียร์วอร์มที่เปิดวนซ้ำในสมอง

    เธอเคยยิ้มหวานอารมณ์ดี เอาแต่เรียกการินๆจนน่ารำคาญ การินอย่างนั้น การินอย่างนี้

    ไม่รู้หรือว่าคำหวานของเธอกำลังทรมานเขาทางอ้อม  เธอคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขานึกเกลียดตัวเอง ส่องกระจกยามเช้าแล้วไม่รู้ว่าคนในภาพสะท้อนเป็นใคร ...นั่นใช่หรือไม่ใช่ตัวเขากันแน่

     

    “การิน ไม่เอาแบบนี้...”

    “อย่าเมินกันแบบนี้ ฉันเสียใจนะ”

     

    “ฉันขอโทษ ขอโทษนะ ...จะทำตัวดี ๆแล้ว ...อย่าใจร้ายกับฉันแบบนี้เลย ขอร้อง”

     

    และนั่นทำให้เขานึกสงสัย

    ว่าทำไมคนเราถึงงมงายในความรักได้ขนาดนั้น

     

     

     

     

    5.

    รอยช้ำใต้ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

    เห็นเมื่อไรก็อดเป็นกังวลไม่ได้

     

    “โหมร่างกายอีกแล้วเหรอการิน ...แบบนี้ไม่ดีเลยนะ”

    ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยที่ใต้ตาร่างสูงด้วยสัมผัสแผ่วเบา

    “ดูแลตัวเองด้วยซิ”

    สิ้นเสียงอ่อนหวาน มีเพียงนัยน์ตาสีดำสนิทใต้กรอบตาคมดุเท่านั้นที่ขยับ ตวัดมองหญิงสาวอย่างเฉยชา คล้ายจะตำหนิทุกอย่างที่น่ารำคาญในตัวเธอ

    “...”

    “ไม่ได้เป็นหมอ แต่เป็นห่วง... เก็ทไหม”

    “รู้แล้วน่ะ พูดมากจริง”

     

     

     

    6.

    “ฉันไปทำอะไรให้....ทำไมถึงต้องใจร้ายใส่กันขนาดนี้!”

     

    ภาพน้ำตานองใบหน้าหวานผุดขึ้นมา เธอสะอื้น ทรุดตัว กอดขา อ้อนวอนทุกวิถีทางแต่ชายหนุ่มเห็นภาพตัวเองสะบัดเธอออกแล้วเดินจากไป หลังจากทะเลาะกันครั้งนั้นมันไม่เคยมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นอีกเลย

    เขาสะดุ้ง มือแกร่งตะปบลงตรงที่ว่างข้างๆตัว

    โพลงลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าคว้าผ้าห่มเต็มรัก

     

    บ้าเอ๊ย...

    ใครมันจะมานอนอยู่ตรงนี้วะ ไม่มีหรอก

     

    ฝ่ามือข้างนั้นกำแน่น

    พลิกตัวตะแคง ดึงมันเข้ามากองไว้บนอก ราวกับว่าผ้าห่มผืนนั้นจะสามารถกลบโพรงดำมืดไว้ได้ จินตนาการว่าปิดหลุมในอกไว้ จะได้หายเจ็บใจสักที

    ชายหนุ่มขบกรามแน่น ยกผ้าห่มบนอกคุมโปงให้มืดสนิทและข่มตา ภาวนาให้เสียงพวกนั้นเบาลงบ้างทั้งที่ตระหนักดีว่ามันดังมาจากในหัวเขาเอง

    ...

    ...

    ...

    นอนไม่หลับ

    คงถูกสาปเข้าแล้ว

     

    ดวงตาคมกริบเหลือบมองต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมระเบียง

    ทั้งเดหลี พลูด่าง มอนสเตอร่า...จากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาลหมอง เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาเขากลับคอนโดนับครั้งได้ ไม่มีใครใส่ใจดูแลพวกมัน

    ฝุ่นจับเต็มห้อง ของทุกชิ้นยังคงวางอยู่ ณ จุดเดิม

    คงไม่ต้องขยายความถึงต้นไม้...ทุกต้นล้วนพากันตายห่าจนหมด

     

    “การินเห็นมั้ย...พอฉันปลูกต้นไม้ห้องนายก็สดใสขึ้นตั้งเยอะ ระเบียงนี่รับแดดดีจะตาย”

     

    ไม่ทันรู้ตัว  ชายหนุ่มสัมผัสปลายใบแห้งกรอบ

    ขยำเพียงเล็กน้อยก็แหลกสลาย ตอกย้ำว่าเป็นเพียงซากไร้ชีวิต

    ...มันแห้งเหี่ยว

    ...เปราะบาง

    สมควรเปลี่ยนต้นใหม่ หรือไม่ก็โยนทิ้งไปให้พ้น ๆ เสียแล้วไม่ต้องคิดที่จะเลี้ยงอะไรอีก หากต้นไม้พวกนี้พูดได้ขึ้นมา พวกมันคงหลั่งน้ำตาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเขาไม่ต่างจากที่เธอเป็น

    เขาไม่ได้ต้องการมันสักนิด

    ลัลทริมาต่างหากที่เป็นฝ่ายทิ้งพวกมันไว้และทำให้เขานึกถึง...ทิ้งไว้เต็มไปหมด เหลือร่อยรอยไว้มากมายเสียจนไม่น่าให้อภัย

     

    “นายรักฉันไหม”

     

    “...ฉัน”

    ราวกับว่าความผูกพัน ความรู้สึกและโชคชะตาไม่ได้ทำให้เธอกลับมาหาเขา กลับกันเลย...มันเหวี่ยงเขาให้กลับเข้าไปในชีวิตเธอต่างหาก

    การินไม่ได้จงใจให้มันเป็นแบบนี้

     

    ไม่ได้อยากทำให้เธอรัก

    ไม่ได้ต้องการให้เธอมีอิทธิพลกับความรู้สึก

    ไม่ได้ต้องการเผลอใจตัวเอง

    ก็แค่...

     

    แค่อยากกลับไปสนุกเหมือนเดิม

     

    “...ฉันรักนายนะ”

     

    ได้โปรด ได้โปรด

    หยุดพูดคำนั้นสักที

     

    หยุดพูดว่ารักสักที

     

    “ฉัน...”

     

    ...ทรมาน

     

     

     

    7.

    ลัลทริมาอังมือเล็กทั้งสองเข้ากับถ้วยกาแฟอุ่น ในเวลาเจ็ดโมงเช้าของวันที่อากาศหนาวแบบนี้ ได้สูดกลิ่นหอมโชยจากไอควันแล้วรู้สึกดีทีเดียว

    ดวงตากลมเหลือบมองร่างสูงที่กำลังปิดประตูระเบียงเดินเข้ามาด้านใน

    ”ออกไปทำอะไรเหรอ”

    “รดน้ำต้นไม้ให้แล้วนะ” การินชูฝักบัวเล็ก ๆ ในมือให้เธอดู ก่อนจะเห็นว่าสองมือเล็กของเธอกุมแก้วกาแฟที่เขาชงทิ้งไว้

    สายตาดูแปลกใจนิด ๆ

    “อยากดื่มเหรอ”

    “เปล่า”

    เจ้าของใบหน้าหวานยิ้มบาง มองผ่านร่างสูงไปยังต้นไม้ใหม่เอี่ยมที่ระเบียง ใบเขียวชอุ่มส่องประกายด้วยหยาดน้ำต้องแสงอาทิตย์รำไรน่ามอง ไม่เสียแรงที่ช่วยกันเลือกซื้อเข้ามาเมื่ออาทิตย์ก่อน

    เพราะเธอไม่อาจเข้าใจและดื่มด่ำกับรสขมชวนพิศวงได้อย่างที่เขาทำ

    จึงขอแค่รับไออุ่นจากถ้วยของเขาก็พอแล้ว

     

     

     

    8.

    หญิงสาวเลิกคิ้วแปลกใจ

    ขยับตัวเล็กน้อยเมื่อมีมือใหญ่สอดเข้ามาในกระเป๋าเสื้อฮู้ดสีดำตัวใหญ่ที่เธอสวม โดยที่มือข้างนั้นเป็นของเจ้าของเสื้อที่เธอสวมใส่ และอาศัยตักเขานั่ง

    “เป็นอะไรไป หนาวเหรอการิน”

    “เปล่า”

    ชายหนุ่มปฏิเสธเนิบนาบ แอบอิงไออุ่นจากร่างเล็ก พลางซุกหน้าเข้ากับเรือนผมสีน้ำตาล สมองย้อนนึกถึงเรื่องเก่า ๆ ในวันที่อากาศเย็นคล้ายวันนี้

    ริมฝีปากหยักเผยยิ้มเบาบาง

     

    อากาศแบบนี้...น่าอ้อนแฟนจริง ๆ น่ะแหละ

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    humble_H : 

    ห่างหายไปนานเลยกับฟิคยาพิษอันนี้ ด้วยอินสไปร์จากอากาศเมืองไทยช่วงนี้ เรามาอัพตอนพิเศษให้อ่านแล้วนะคะ โฮวววว

    สัญญาแล้วว่าจะไม่ทิ้ง ไว้มีโมเม้นจะมาอัพก็มาจริงๆแล้วนะ

    หลังจากกระทำการกระโชกโฮกฮากบนเตียงมาเยอะ แล้วก็มีหวานอมขมผสมเมคเลิฟสไตล์วนิลา ฟีลลิ่งแบบ lazy sex มันก็ดีไปอีกแบบเนาะ 55555 จริงตานี่มันไม่ได้ชอบแบบ rough เท่านั้นหรอก นี่กะว่าจะเอาความ kinky เล็กๆน้อยๆของนัง (หรือของฉัน??) ไปใส่ในอีกฟิคนึง อะเฮือกกกก


    ขอยาดโฆษณานิสนึง ตอนนี้เราเขียนฟิครินลัลภาคต่อของ TOXIC อยู่ล่ะค่ะ

    ..

    ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ


    รักนักอ่านทุกท่านที่แวะเวียนมา ดูแลสุขภาพด้วย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×