NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FANFIC ] TOXIC (รินxลัล) : จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #32 : 31st TOXIC – 384400 [rw]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 876
      74
      12 มี.ค. 66

    กฎแห่งกรรมที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ ข้อที่สามสิบเอ็ด – 384400

     

    1.

    การิน เจอนายพอดีเลย ฉันฝากของไปคืนยัยลัลหน่อยสิ ไม่เจอมาหลายวันแล้ว”

    แนทเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยทักร่างสูง

    เก็บไว้คืนเอง คงช่วยอะไรไม่ได้”

    อ้าว ทำไมงั้นล่ะ?”

    ฉันไม่ได้อยู่กับยัยนั่นแล้ว” พูดจบก็คว้าหูฟังขึ้นมาสวม ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เป็นการบอกอ้อม ๆ ว่าเขาไม่ต้องการจะสนทนาใดกับเธออีก

    ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนงุนงงอยู่ตรงนั้น

     

     

     

    2.

    ลัลทริมาฝันร้าย

    หลายวันมานี้...บ่อยครั้งที่หญิงสาวตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตาและเสียงสะอื้นของตัวเอง

    ความฝันที่แสนเศร้า  ในนั้นโดดเดี่ยว ว่างเปล่า ไม่มีผีหรือแมลงสักตัว

    ไม่มีเลือด ไม่มีอาถรรพ์ ไม่มีใครตาย

    มันแค่ไม่มีเขาอยู่ด้วย

     

     

     

    3.

    ช่วงนี้แกไม่ได้คบกับนายผิวแทนๆคนนั้นอยู่เหรอ”

    เปล่า เลิกแล้ว”

    อ้าวแล้ว...”

    ก็แค่ทำให้มันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น”

    ลัลทริมากลอกตา

    ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วที่เธอเลิกกับรุทร และสองเดือนกว่าที่เธอโดนเฉดหัวออกมาจากคอนโดการิน ตอนนี้นอกจากเพื่อนในสาขาแล้วเธอก็ไม่มีใคร

    กลุ่มสาว ๆ พวกนั้นพยายามชวนเธอทำนู่นทำนี่ ไปแฮงก์เอ้าท์บ้าง แต่ลัลทริมาไม่ได้ตอบรับทุกครั้งที่ถูกชวนเพราะเธอเองก็ไม่มีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ รวมถึงไม่ได้ติดต่อทั้งเอมทั้งนีด้วยเกรงว่าเพื่อนสมัยเรียนพาณิชย์ฝั่งนั้นอาจจะยุ่งอยู่ ถ้าถามว่าช่วงนี้ตัวติดกับใครมากสุดก็คงเป็นแนท เพื่อนสาวร่วมสาขาที่มีตารางเรียนใกล้เคียงกันมากที่สุด

    แล้วเที่ยงนี้ลัลไปไหนต่อล่ะ?”

    จะไปติดต่อธุระห้องทะเบียนก่อน เดี๋ยวไปหาข้าวกินกัน”

    ลัลทริมาออกจากห้องเรียนมาพร้อมเพื่อนสาว เลี้ยวไปทางกึ่งกลางของอาคารที่มีลิฟต์ให้ใช้ ทว่าเมื่อเห็นภาพกลับต้องยั้งฝีเท้าไว้

    หญิงสาวพลันตัวแข็งทื่อ ร่างสูงโปร่งคุ้นตายืนอยู่ปลายสุดของทางเดิน

    ช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันนั้นจนผ่านมาสองเดือนนี่เป็นครั้งแรกที่ลัลทริมาเห็นเขาเดินเข้ามาที่คณะ และจากเหตุการณ์นั้นเป็นเพียงครั้งเดียวที่เห็นเขาในช่วงเกือบครึ่งปีที่หายหน้าไป

    ชายหนุ่มผู้นั้นยืนหันหลัง เขาไม่เห็นตัวเธอ แต่เพียงเห็นแค่แผ่นหลังของเขาเธอก็จำได้แม่น

    ลัลทริมาหัวใจสั่นระรัว

    ดึงแขนเพื่อนเปลี่ยนทิศ เดินลงทางบันได

     

     

     

    5.

    พี่คะ หนูมาขอเอกสารกิจกรรมล่าสุดของเอกมานุษหน่อยค่ะ”

    โอเค เราเรียนปีสี่ใช่ปะ” หลังลัลทริมาพยักหน้าตอบรับกระดาษปึกหนึ่งถูกยัดใส่มือหญิงสาว และมีซองกระดาษสีน้ำตาลตามมาอีกหนึ่ง ร่างบางมองสิ่งนั้นด้วยสายตางุนงง

    แล้วอันนี้คือ...?”

    อันนี้พี่รบกวน ฝากหนูเอาซองนี้ไปให้พวกโบราณฯหน่อย พี่เรียกให้มารับตั้งแต่วันอังคารก็ไม่มีใครมาเลย อ้อ...แล้วเอกสารตัวเก่าหมดเขตเย็นนี้นะ พี่ไม่มีเวลารอรับแล้ว ก็ให้ฝากไว้ที่คุณต้นแล้วกัน”

    “เอ๊ะ แล้วพวกนั้นจะอยู่ข้างบนกันเหรอคะ”

    “พี่ไลน์บอกอาจารย์หัวหน้าภาคไว้แล้วหนูเอาวางไว้บนโต๊ะเลยลูก แต่ถ้าเจอเพื่อนให้เพื่อนเลยก็ได้ ยังไงก็ต้องเอาไปแจกอยู่ดี”

    หล่อนพูดรัว รีบเก็บกระดาษบนโต๊ะซ้อนเป็นกองเดียวสูงเกือบฝ่ามือ พลางขอโทษขอโพยใหญ่และอธิบายว่าที่ต้องไหว้วานแบบนี้เพราะวันนี้ลาหยุดครึ่งวันเพื่อไปธุระ แต่กว่าจะเคลียร์งานเก่าที่ค้างไว้เสร็จก็เลทไปชั่วโมงกว่า

    ลัลทริมาตกปากเออออรับคำมาแบบงงๆ

    ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นจึงเป็นหญิงผิวแทนสีหน้าเคร่งเครียดที่กำลังกุลีกุจอยัดของจำเป็นลงกระเป๋าเท่าที่จะไวได้และเดินหน้าตั้งออกไปจากห้องกระจก

    “ลัล”

    สาวผมสั้นขมวดคิ้วเล็ก ๆ กับท่าทางเหม่อลอยของคนตรงหน้า

    “จะไปยังเนี่ย รีบส่งเอกสารแล้วไปนั่งเล่นข้างล่างกัน”

    “อ้อ...อืม จ้ะแนท”

    ลิฟต์เพียงตัวเดียวของคณะที่ถูกใช้งานอยู่ทำให้ร่างบางไม่คิดที่จะรอ รู้ตัวอีกทีเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน ยืนอยู่หน้าห้องของภาควิชาตามคำไหว้วาน

    ..........

    ..........

    ลัลทริมายืนกลืนน้ำลายอยู่หน้าประตูบานหนึ่งของชั้นสามที่เงียบงัน

    ที่หน้าห้องของอาจารย์หัวหน้าภาควิชา เธอกลับเห็นเรือนผมสีดำสนิท ใบหน้าได้รูปคุ้นเคยสวมแว่นตา ในชุดไปรเวทเสื้อยืดสีเทาเข้มกับกางเกงยีนส์สีหม่น ๆ นั่งอยู่หน้าแลบท็อปเพียงลำพังในห้องสีขาว

    ซวยโคตร

    นั่น...การิน

     

    “ยัยลัลแกเป็นอะไรของแกวะ”

    “เปล่า...”

    ลัลทริมาอยากจะร้องไห้เหลือเกิน

    ไม่รู้ว่าคนอื่นหายไปไหนหมด... ทำไมในห้องนี้ถึงมีเขานั่งอยู่คนเดียว หญิงสาวกลั้นใจดันประตูเข้าไป ต่อให้ไม่อยากเข้าไปแค่ไหนก็ต้องเข้าไป เอกสารของภาควิชาเขาอยู่ในมือเธอนี่นา

    การินละสายตาจากแล็ปท็อป เขาเองก็ชะงักที่เห็นเธอยืนอยู่ตรงหน้าเช่นกัน สบตากันเพียงวินาทีเดียวทำเอาความรู้สึกหวนคืนมา ทว่าดวงตาสีดำคมกริบคู่นั้นไม่เจืออารมณ์ใด

    เขามองเเธอเหมือนคนแปลกหน้า และความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ

    มีธุระอะไร” เสียงทุ้มเรียบเฉย

    “ห้องทะเบียนฝากเอกสารมาให้ บอกให้เอาเอกสารเก่าไปส่งก่อนสี่โมงเย็นด้วย”

    ฝ่ามือที่มีผ้าพันแผลยื่นมาข้างหน้าเมื่อเห็นว่าเธอส่งซองกระดาษให้เขา ลัลทริมามองฝ่ามือใหญ่อยู่ชั่วครู่แต่ในหัวดันเสร่อไปคิดถึงความอบอุ่นที่เคยได้จากมือข้างนั้นแทน

    ทั้งที่เป็นฝ่ายขอยกเลิกความสัมพันธ์เองแต่รู้สึกเหมือนโดนทิ้ง สมองหมุนตื้อไปหมด

    ในตอนที่คิดอะไรอยู่อดีตแฟนหนุ่มกลับลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินถือเอกสารอีกชุดเข้ามาใกล้ หญิงสาวเผยอริมฝีปากสวยขึ้น ไม่รู้ตัวว่าตัวเองจะพูดอะไรออกไปแต่อาจจะเป็นชื่อเขาก็ได้

    ร่างกายกลับยิ่งชาวาบเมื่อรู้สึกว่าฝ่ามือที่ทิ้งข้างลำตัวเฉียดกัน

    และผ่านไป

     

     

     

    6.

    ใกล้เพียงใดก็ไม่อาจสัมผัส

    ได้แต่จ้องมองแผ่นหลังกว้างห่างออกไป

    ระยะห่างเพียงสามเมตรครึ่ง ไกลอย่างกับระยะเดินทางจากโลกถึงดวงจันทร์ในความรู้สึกของเธอ และยิ่งห่างออกไปจนอาจจะหลุดวงโคจรกันและกันในท้ายที่สุด

    รู้สึกตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงเพื่อนสาวร้องทัก

    แหม่ะ เจอโจทย์เก่านี่เอง” หล่อนเหยียดริมฝีปากออก “มิน่าล่ะยืนตาละห้อยอยู่ได้ตั้งนาน”

    ไม่มีไร ช่างเถอะ”

    แนทจ้องใบหน้าอ่อนหวาน หรี่ตามองจับผิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาโต้งๆ จนอีกฝ่ายตั้งรับแทบไม่ทัน “นี่พวกแกทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”

    เปล่า”

    แล้วเป็นไรต้องทำหน้าแบบนั้น?”

    ไม่มีอะไร เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว แกอย่าถามอีกเลย”

    อ่อ ...เลิกกันแล้วจริงดิ?”

    อือ”

    เฮ้อ ยังไม่ทันกลับไปคบเลย เลิกกันอีกแล้วได้ไงเนี่ย ตอนนั้นไม่ยอมเล่างั้นตอนนี้ต้องเล่าแล้วนะ”

    ทั้งคู่เดินออกมาจากปีกอาคารนั้นไปยังอีกฝั่ง ดวงตากลมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างของอาคาร ไม่ได้มองหน้าเพื่อนสาวร่วมสาขาในตอนที่เปิดปากพูด “ครั้งนี้ฉันเป็นคนพูดเองแหละ ก็...ไม่รู้จะไปต่อยังไงน่ะ รู้สึกว่าทางมันตันแล้ว ความรักไม่มีเลย”

    ทำไมทะเลาะกันทีไรแกชอบนอยด์ว่าเขาไม่รักวะ”

    ก็การินเหมือนจะเป็นแบบนั้น แถมแสดงออกชัดเจนด้วยนี่”

    ...ฉันมองพวกแกก็ชัดเหมือนกัน แน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกตัวเองว่าการินไม่รักเธอ เพียงเพราะไม่อยากรู้สึกแย่ที่แกบอกเลิกเขาเอง?”

    แนท ถ้าเขาเฉยจนเหมือนไม่มีรักแล้วฉันต้องยื้อไว้เหรอ?”

    โอเค ถ้าเธอว่างั้น ...เฉยแล้วไงต่อ?”

    ตอนแรกเห็นว่าเขายังอยากนอนด้วยเราเลยดีลกันเรื่อย ๆ อะ ที่จริงมันมีเรื่องอื่นอีกนิดหน่อยแต่เคลียร์กันแล้วจนเหลือแค่เรื่องอย่างว่า ...สุดท้ายฉันทนไม่ไหว ไม่ใช่ว่าหมดรักนะ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเรายังเกี่ยวข้องกันด้วยอะไร ความรู้สึกในอกมันกลวงมาก ๆ เลย”

    คือนี่แก... แกเป็นเซ็กส์เฟรนด์กับแฟนเก่าหร๊อออ?!” แนทอ้าปากค้าง ดวงตาคมสวยเบิกโพลง คำตอบที่คาดหวังไม่ใช่สิ่งที่คิดว่าจะได้ยินจากปากเจ้าตัว

    ทำนองนั้นแหละ แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว”

    เพื่อนสาวยังไม่หายอึ้ง กระพริบตาปริบ เอ่ยพึมพำกับตัวเอง

    เชี่ย อึ้งโคตร คนอย่างแกเนี่ยนะ”

    ลัลทริมาเม้มปากแน่น หลุบสายตาลง

    ฉัน...ฉันดูเป็นผู้หญิงไม่ดีไปเลยใช่ไหม”

    คู่สนทนาส่ายหน้ารัว

    ไม่ ๆ ฉันจะไม่ตัดสินขาวหรือดำ ต่อให้แกดูเหมือนแม่ชีมาก ๆ แต่นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของแก แต่ฉันแค่เซอร์ไพรส์...ลุคแกไม่ให้ทางนี้เลยไม่คิดว่าจะดีลอะไรแบบนี้กันอะ และที่ฉันเห็นคือแกหลอกตัวเองว่าเขาไม่รักอยู่นี่ไง”

    ไม่ใช่แบบนั้นแนท คือมันเคยรู้สึกได้ว่ามี ...แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกแล้ว”

    เออนั่นสิ ไงล่ะ? ...จะเข็ดได้หรือยัง”

    “...”

    เพื่อนสาวมองหน้าเธอแล้วถอนหายใจ “นี่ ฉันมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง”

    พอเห็นว่าลัลทริมาฟังนิ่งเธอก็พูดต่อ

    ฉันไม่เคยปวดท้องเมนส์เลย แต่พอขึ้นปีสองจู่ ๆ ฉันเริ่มพกยาติดตัว ยานั้นฉันไม่ได้พกไว้กินเองแต่ฉันพกไว้ให้แกที่บ่นปวดท้องบ่อย ๆ นานเข้าก็เริ่มจำได้ว่าแกจะปวดท้องช่วงไหนและก็มียามาให้แกตอนเช้า ยิ่งกว่านั้นฉันไม่ได้ซื้อยามาเองไง ...แฟนแกเค้าฝากเอามาให้ตลอดเลย”

    แล้วมันยังไง?” เสียงหวานเบาจนแทบไม่ได้ยิน “เรื่องแบบนี้ใคร ๆ ก็ทำได้”

    เมื่อวันอังคารที่แล้วเขาก็เพิ่งฝากยาให้ฉันเอามาให้แก”

    มันก็แค่ยา คิดว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อมากินเองเหรอ”

    เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่หน้าที่การงานปะลัล ถ้าไม่ใส่ใจใครมันจะทำให้ทุกเดือน บางทีฉันยังลืมเลยถ้าการินไม่เป็นคนเดินมาฝากให้ เพราะนั่นมันไม่ใช่ปัญหาของฉันไง แกเข้าใจที่ฉันกำลังพูดไหม?”

    “แล้วทำไมหมอนั่นถึงไม่เอามาให้เองล่ะ”

    “แกลองถามสิ เขาไม่ยอมบอกฉัน อาจจะรอเธอถามอยู่ก็ได้” แนทยิ้ม

    ลัลทริมานิ่งเงียบ

    การินมันไม่เอารุ่น แต่ยอมมาค่ายคณะตามที่แกขอทั้งที่เกลียดกิจกรรมรุ่นยิ่งกว่าอะไรนี่ล่ะ? แล้วตอนที่เธอลืมของไว้ที่บ้านแล้วเขาวนรถกลับไปเอาให้ทั้งที่มันไกลจากคอนโดมาก ๆ อะ? เธออย่าลืมนะว่าการินเป็นผู้ชายขี้รำคาญ ฉันเป็นคนนอกยังรู้สึกเลยว่าเขาเป็นคนเอาแต่ใจ”

    พอได้แล้ว

    ฉันไม่รู้หรอกว่าหลังไมค์พวกแกสองคนมีปัญหายังไงกัน แต่ฉันจะพูดเท่าที่ฉันเห็นนี่แหละ แกรู้ปะว่าใครรู้เขาก็อิจฉา ท่าทางแฟนแกน่ากลัวขนาดนั้นแต่เคยรู้ไหมว่ามีผู้หญิงแอบหวีดตั้งกี่คน ฉันยังคิดเลยว่าเขาน่ารักมาก ๆ ที่ดูแลแก และไอ้ที่บอกว่าใคร ๆ ทำได้นั่นก็จริง ผู้ชายเทคแคร์แฟนแบบนี้แม่งไม่ใช่แรร์ไอเท็มอะไรเลย อย่างแกน่ะเผลอ ๆ หาดีกว่านี้จากเว็บจับคู่ก็ได้ด้วยซ้ำ แต่นั่นการินไง...การินนะเว้ย”

    หยุดพูดนะ

    เห็นเขาวางน้ำไว้ให้แกทุกครั้งที่กินข้าวเที่ยง ช่วยดูเปเปอร์ให้ตลอด แกไม่ใช่คนเรียกร้องแต่พอเห็นอยากได้อะไรเขาก็หาให้ทุกอย่าง ลัลจำไม่ได้เหรอว่ายังเคยพูดอวดฉันอยู่เลยว่าเขาจะให้เลี้ยงแมวด้วย ฉันไม่เห็นว่าเขาไม่รักแกตรงไหนเลย ใส่ใจตายห่า น่าอิจฉามากนะเว้ย...แต่ฉันรู้แหละว่ามันมีดีเทลยิบย่อยมากกว่านั้นเยอะ เรื่องแบบนี้อย่าให้คนนอกมาสอนดิ แกเป็นแฟนเขาแกน่ะแหละรู้ดีที่สุด”

    หยุดพูดสักที ...ได้โปรดเถอะ

    จนกระทั่งเมื่อกี๊ที่แกพูดว่าตอนนี้ไม่รู้สึกเนี่ยเลยสะกิดใจมาก ๆ ไอ้ที่เขากลับมาสองสามเดือนนี่ก็เห็นยังทำอะไรให้เหมือนเดิมเลยนะ ฉันเห็นแต่แกอะที่ตึงใส่เขาตลอดเวลา”

    ทั้งหมดที่พูดมาไม่ได้เข้าข้างผู้ชายเว้ย แค่งง... อยากรู้ว่าเนี่ยเหรอคือท่าทางของคนไม่รักอะ?”

    ลัลทริมาเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปอย่างไร

    อยากยกมือขึ้นปิดหูทั้งที่ตอนนี้แทบไม่มีแรง

    เอาเหอะ แบบนี้ก็ดีแล้วนี่ เห็นแกเอาแต่ปฏิเสธเขามาตลอด ตอนนี้เขาไม่สนใจแกแล้ว ไม่ตาม ไม่คุย ทำเป็นไม่รู้จักแบบนี้แกน่าจะสบายใจนะ” เธอเว้นวรรค มองเหม่อออกไปข้างล่างอาคารจนไม่ได้หันมาสังเกตคนข้าง ๆ

    มูฟออนหาผัวใหม่ไปเลย ...อ้าว เอ๊ยย! ลัล ...ฉันขอโทษๆ แกอย่าร้อง”

     

    ใช่ เธอน่ะรู้ดีที่สุด

     

     

     

    7.

    ลัลทริมารู้ดีที่สุด

    การินของเธอน่ะใจดี

    ความใจดีของเขาทำให้เธอกลัวว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจอมปลอม เธอรัก แต่รู้ดีว่าอีกด้านของการินเป็นยังไงเลยไม่อยากไว้ใจ ...หญิงสาวรู้ดีว่าเขาร้ายกาจและเธอไม่อยากเจ็บ หากก็เผลอใจทุกครั้งที่การินเข้าหาเธอด้วยความใจดีที่เธอหลงใหลนักหนา

    สุดท้ายก็บอกกับตัวเองว่า ‘เหมือนเขาจะรัก แต่ที่จริงก็ไม่’ เพื่อเป็นการอธิบายเรื่องราวที่ผ่านมาให้ตัวเองเข้าใจแบบนั้น

    เหมือนเราจะรักกันดี แต่ก็ไม่...เธอเลยเก็บของออกมาจากคอนโดเขา

    เหมือนเขาจะรัก เขาเลยกลับมา แต่ก็ไม่...เพราะที่จริงแล้วเขาสนใจเพียงอาถรรพ์ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา แล้วเธอล่ะเป็นอะไรสำหรับเขา เขาถึงยอมปล่อยให้ทุกอย่างมันพังแบบนี้?

    เหมือนเขาจะรัก เลยทำเป็นมาขอคืนดี แต่ก็ไม่...เขาไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขายังคงร้ายอย่างไรก็อย่างนั้น จำเธอเจ็บอย่างไรก็ยังคงเป็นเช่นนั้น เขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ...แม้แต่ความใจดีก็ยังมีให้เท่าเดิมไม่เคยย่อหย่อนลงไปเลย

    เหมือนเขาจะรัก เลยพูดว่าไม่ยอมปล่อยเธอไป แต่ก็ไม่...เธอกลัวว่าเขาแค่อยากได้ 'มัน' เพราะงั้นเธอเลยไม่ปล่อยให้มีช่องสานสัมพันธ์มากไปกว่านี้

    เหมือนเขาจะรัก เลยคอยดูแล แต่ก็คงไม่... ไม่หรอก ไม่งั้นวันนั้นเขาคงรั้งไว้แล้ว

    เหมือนจะ...

    เหมือนจะ...

    เหมือนจะ อะไรดีล่ะ?

    ลัลทริมาไม่ได้ผิดที่จะคิดแบบนั้น ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่กลไกป้องกันตัวทางความคิดของคนเอาแต่ใจคนหนึ่ง แถมลึกๆแล้วหญิงสาวไม่ได้อยากจบความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายสักนิดโดยที่เธอไม่ทันรู้สึกตัวถึงเรื่องนี้หรอก ตลอดเวลาที่ห่างกันไปในหัวเธอมีแต่เรื่องดี เรื่องเลว วนสลับกันไป แต่ไม่ว่าเรื่องไหนก็เป็นเรื่องของเขาอยู่ดี

    สุดท้ายก็ไม่พ้นคิดถึงเขานั่นแหละ

    นานแค่ไหนแล้วที่หญิงสาวรู้สึกว่าราวกับเขามีบุคลิกสองด้าน มีด้านหนึ่งพร้อมจะโอบกอดเธอ เสมือนฉากหน้าที่กดทับด้านตัวตนลึกๆ ที่ไม่ว่าจะกดยังไงก็กดไม่มิดของเขาเอาไว้อีกที

    ไม่ว่าเขาจะมีกี่ด้าน กี่ตัวตนก็แล้วแต่ หญิงสาวไม่ได้สนใจเรื่องนั้น

    ...อ้อมกอดนั้นต่างหากที่เธอต้องการ

    แม้เป็นหนังสือเล่มเก่า

    แต่เป็นหนังสือเล่มโปรด

     

    เธอแค่อยากได้ การิน..ของเธอ กลับคืนมา

     

     

     

    8.

    ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว

    ได้ติดต่อหรือเปล่า”

    อืม”

    "ยัยนั่นเป็นไงบ้าง”

    "ก็ดี"

     

    ...มั้ง

     

    รุทรเว้นคำไว้ในใจ

    "หวังว่าคงจะดีไปได้ตลอดนะ" การินพ่นลมหายใจเยาะหยัน ทว่าชายหนุ่มผมผิวเข้มรู้ว่าประโยคนั้นหมายถึงตัวเขาเอง

    "ดีตลอดไหมไม่รู้ ...รู้แค่ว่าฉันไม่เคยทำลัลทริมาร้องไห้แล้วกัน”

    คำพูดที่ตอกกลับนั้นทำให้การินเงียบไปอึดใจ

    รุทรแปลกใจไม่น้อยที่คนอย่างการินยอมปล่อยมือจากลัลทริมาอย่างง่ายดายในครั้งนี้ ทั้งที่ทำตัวเป็นจงอาจหวงไข่มาตลอด จู่ ๆ หมอนี่กลับยอมให้ผู้หญิงของตัวเองเดินมาหาเขา

    สงสัยหมอนี่จะคิดว่าเธอไม่เลือกมัน

    น่าเสียดาย ...เธอก็ไม่เลือกเขาเหมือนกัน ลัลทริมารักฝังใจเกินกว่าที่จะลืมการินได้ แถมตระหนักดีว่าทุกลมหายใจเข้าออกก็ยังมีแต่เขา

    ถึงปากจะตอบไปว่าเธอยังอยู่สบายดี แต่ในความจริงรุทรไม่ได้ติดต่อกับหญิงสาวแล้วด้วยซ้ำ ระหว่างเขากับเธอ ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ตะกอนที่ค้างในใจลัลทริมาก็มีแต่เรื่องของไอ้คนขวางโลกน่าหมั่นไส้คนนี้แหละ

    ...ท่าทางงุ่นง่านเงอะงะไร้สติของการินในสายตารุทรก็ดูน่าสมเพชไม่น้อย แต่เรื่องอะไรเขาจะบอกล่ะ ปล่อยให้เข้าใจแบบนั้นไปก็สะใจดีเหมือนกัน

    อ้อ อีกอย่างเธอไม่ได้พูดถึงนายสักเท่าไหร่”

    งั้นเหรอ งั้นก็ดีแล้ว”

    รุทรย่นคิ้วกับอาการเนือยๆของคู่สนทนา เห็นการินเป็นแบบนี้แล้วเขาคิดว่ามันก็

    ...แปลกดีแฮะ

     

     

     

    9.

    หายไปไหนมา?”

    ไปซื้อน้ำมาให้ ...อ่ะ”

    แก้วกาแฟเย็นถูกยื่นมาตรงหน้า

    ไปซื้อน้ำแล้วยืนคุยกับใคร?”

    ดวงตาคมหรี่มองจับผิด

    เขามาคุยด้วยเฉยๆ แต่ฉันบอกไปว่ามีแฟนแล้ว” หญิงสาวยิ้มหวานใส่ และเปลี่ยนเรื่องถาม “ว่าแต่อยู่ตั้งไกลนายมองเห็นได้ไงอะ เก่งจัง”

    เขารับแก้วกาแฟไว้

    ไกลแค่ไหนฉันก็มองเห็นเธออยู่ดี”

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++

    humble_h :  384400 กิโลเมตร เป็นระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์

    ปล. อีกสามตอนเรื่องนี้จะจบแล้วนะคะ สำหรับใครที่ตามอ่านมาตั้งแต่อัพตอนแรกๆเราขอบคุณมากจริงๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×