NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FANFIC ] TOXIC (รินxลัล) : จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #22 : 21st TOXIC – วังวน [rw]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 942
      68
      12 มี.ค. 66

    กฎแห่งกรรมที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ ข้อที่ยี่สิบเอ็ด – วังวน

     

    1.

    เรื่องลึกลับจะไม่มีวันห่างไปไหน

    ตราบใดที่มันยังอยู่ ลัลทริมาก็ยังเป็นแม่มดสำหรับเขา ไม่สิ...แม่มดของเขาเสมอ หรือบางทีอาจจะตลอดไป เด็กหนุ่มมั่นใจข้อนี้ดี

    ในวันจบการศึกษาที่น่าเบื่อเขาถ่อมาเพื่อให้แน่ใจ

    ฝ่ามือสอดประสานแนบแน่นแม้ไร้ความรู้สึก แววตาของเธอดูหวาดกลัวต่อเขา ...เขารู้

     

    เสี้ยวกระจกอาวรณ์ถูกสะท้อนกลับหลังเมื่อร่างบอบบางเดินจากไป

    การินเลิกคิ้วขึ้น

         

    เขาเห็น 'มันแสยะยิ้มให้เขา

     

     

     

    2.

    นายรักฉันไหม” เขาไม่ได้ตอบ

    ฝ่ามืออุ่นวางลงบนศีรษะเล็ก กระซิบบอกราตรีสวัสดิ์กับแฟนสาว

    คืนนั้นเธอฝันดี

    และมีเขาอยู่ในนั้นด้วย

     

     

     

    3.

    “นายชอบฉันตรงไหน?”

    ไม่รู้ดิ...ตัวหอมดีมั้ง”

    ปลายจมูกซุกลงบนแก้มนิ่ม สูดกลิ่นหอมจากผิวนวลนิ่ม

    มือเรียวบางดันหน้าเขาออก

    แต่ชอบตอนที่เธอทำตัวเชื่อง ๆ มากกว่า”

    ลัลทริมาย่นคิ้วนิด ๆ ละเลงเนื้อครีมขาวลงบนคางแฟนหนุ่ม ทำตัวไม่ถูกนิดหน่อยตอนที่สายตาคู่นั้นเอาแต่จ้อง ...อย่างกับไม่เคยเห็นหน้ากันไปได้

    งั้นทำไมไม่เอาหมามาเลี้ยงล่ะ?”

    โอ้...ไหนเห่าซิ ลัลทริมา” เขายิ้มกวนประสาทน่าตี

    ตาบ้านี่ เดี๋ยวก็ปาดหน้าซะเลย” หญิงสาวกลอกตา ยกมีดโกนในมือขึ้นมาขู่ แต่ขอโทษที ของแค่นั้นคงทำให้ร่างสูงรู้สึกกลัวไม่ได้หรอก

    ส่วนตอนเป็นแม่มดชอบสุดๆ ล่ะ โทษที"

    "เฮ้อ ...รู้แล้วน่า"

    เสียงหวานเอ่ยตอบรับ

    ลากมีดโกนลงบนสันกรามได้รูปอย่างเบามือ

    ...

    ..

    เรียบร้อยแล้วค่ะคุณชาย”

    เธอผละปลายนิ้วออกจากใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเขา เก็บของทั้งหมดให้เข้าที่

    "ขอบใจ ยัยเบื๊อก"

    เสียงทุ้มเอ่ยเบา

    กดสัมผัสลงบนปากนุ่มนิ่มเร็วๆ แล้วเดินออกไป

    หญิงสาวยืนนิ่ง

    กลิ่นอาฟเตอร์เชฟลอยติดอยู่ที่ปลายจมูก

     

     

     

    4.

    เธอรักเขาเกินกว่าที่ตัวเองจะนึกออกได้

    รักในทุกสิ่งอย่าง ทั้งแววตา สีหน้า น้ำเสียง รักอดีตทุกข์ตรมที่ฝากรอยสลักลึกในความทรงจำของเขา รักสัมผัสรสหวานขมที่เขามอบให้ ความใส่ใจรายละเอียดที่เขากระทำโดยไม่ต้องพูด

    รักสัมผัสยุบยวบจากอีกฟากฝั่งของฟูก

    รักในบรรยากาศทึมเทาเงียบขรึมในห้องที่เขาอาศัย รักกลิ่นอับบนหมอนแบบไม่เหม็น ไม่หอม ที่ทำให้รู้สึกถึงตัวตนเขากำลังโอบกอดเมื่อเธอเอนกายนอนร่วมเตียง

    รักที่จะซุกตัวในอ้อมแขนอุ่น ซบศีรษะแนบใบหูลงบนอกข้างหนึ่งของเขา ดวงตาใต้แพขนตาหนาปิดพริ้มในห้องนอนเงียบสงัด สิ่งที่ดังชัดที่สุด ณ เวลานั้นคงมีเพียงเสียงก้อนเนื้อที่ขยับสม่ำเสมอใต้แผ่นอกแกร่งกล่อมเธอยามนิทรา

    รักที่จะได้ลอบพินิจใบหน้าหล่อเหลาชวนมองยามหลับไหลที่จะมีแต่เธอได้เห็นเพียงผู้เดียว

    ไม่มีคำตอบใดสมเหตุสมผลกับความขยาดที่วันหนึ่งกลับกลายเป็นหลงใหลดั่งต้องมนตร์ เนิ่นนาน นอกเหนือไปจากความรัก

    เธอรักเขามากเกินกว่าที่ตัวเองจะนึกออกได้

    ในวันที่ทุกอย่างพังทลายจึงรู้สึกเหมือนใจถูกควักออกจากอก

     

    เพราะงั้นในเวลาที่เดินหันหลังจากกันไป...

    จึงไม่มีวินาทีไหนไม่คิดถึง

     

     

     

    5.

    ก้าวย่างไปในความมืด

    ภาพตรงหน้าเริ่มชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

    สวนดอกไม้กว้างสุดสายตาปรากฏขึ้นตรงหน้า แม้นหันหลังกลับไปมองทางเก่าก็เห็นภาพเช่นเดียวกันรอบทิศ ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินออกมาจากเส้นทางไหนเลย เพียงอยู่ตรงนี้มาตลอด

    ในมือเขามีแก้วชาเย็นที่ละลายน้ำแข็งไปแล้วนิดหน่อย โดยที่คนถือกลับนึกไม่ออกว่ามาจากไหนหรือมาจากใคร รอบแก้วมีละอองน้ำเกาะพราว ทว่าฝ่ามือไม่รับรู้ถึงอุณหภูมิความเย็นเลยแม้แต่นิดเดียว

    การินเห็นร่างบอบบางคุ้นตาอยู่ไม่ไกล เธอสวมชุดกระโปรงเนื้อบางสีขาวเช่นเคย นอนแผ่ดูดาวบนฟ้าทั้งที่ไม่มีสักดวง ครั้งนี้ไม่มีทะเลสาบ

    ลัลทริมาผงกหัวขึ้นมา เห็นใบหน้าคมคายของเขาก็ดีใจใหญ่ ชี้นิ้วไปที่แก้วน้ำในมือ

    “นายมาอีกแล้ว ฉันหิวน้ำอยู่พอดีเลย ขอดื่มนั่นได้ไหม”

    ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ กำลังจะยื่นแก้วในมือให้ แต่พลันชะงักสายตา

    ชาเย็นในมือกลับกลายเป็นกาแฟ

    ไม่...ไม่เอา”

    ทำไมล่ะ แค่อึกเดียวก็ได้”

    อย่าดื่มมัน” เขาห้ามเธอ

    ทำไมล่ะ”

    ถ้าดื่มมัน เธอจะตาย”

    ให้ตายเถอะ แต่การินตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไม

    เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน

    ทำไมล่ะ...ขอมันให้ฉันเถอะ” มือบางดื้อดึงคว้าแก้วในมือเขาไป ริมฝีปากอิ่มแดงจรดลงปลายหลอด ดูดกาแฟเย็นในแก้วลงคอไปอึกใหญ่ ชายหนุ่มร้อนรน แต่แล้วก็ถอนใจโล่ง

     

    ...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เห็นไหม ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย” เธอยิ้มกว้าง

    ก็ดีแล้ว” เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆเธอ ฝ่ามือบางวางทับมือเขาอยู่ด้านบน ลูบเส้นเลือดและสันกระดูกที่ปูดบนหลังมือของเขาอย่างเพลินใจ

    การิน นายรักฉันไหม?”

    การินไม่ได้ตอบ

    “ฉันรักนายนะ”

    อืม”

    เธอยังคงถามต่อ น้ำเสียงใคร่รู้ราวกับเด็กน้อยขี้สงสัย

    นายชอบฉันตรงไหน”

    ก็รู้อยู่แล้วนี่ เคยพูดไปนานแล้ว”

    อยากฟังอีกนี่นา ฉันชอบ”

    กลิ่นหอมละมุนน่าเข้าใกล้ชวนให้เคลิบเคลิ้มปลอดโปร่งลอยผ่านปลายจมูก ต่อให้นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้กลิ่นหอมสบายมาจากร่างบอบบาง ทำให้อยากโน้มเข้าไปใกล้กว่านี้สักหน่อย

    “เพราะเธอฟังฉัน เธอเป็นคนเดียวที่ยอมทำแบบนั้น”

    หญิงสาวยิ้มแป้น คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

    หากไม่ใช่ลัลทริมาเกรงว่าโลกนี้คงไม่มีใครยอมรับเขาได้อีก

    “งั้นเหรอ แล้วไงอีก”

    เธอ...” การินเงียบ จ้องประกายสดใสในดวงตากลมโตค้างอยู่ครู่หนึ่ง

    หืม?”

    เธอเป็นแม่มด”

    อื้อ...รู้แล้วน่า” เธอยิ้มกว้างจนเขาใจสั่น

    เธอหลอกให้ฉันพูดหรือเปล่าเนี่ย”

    เปล่านะ ฉันชอบฟังนายพูดจริง ๆ”

    เมื่อสลัดเปลือกนอกและนำเกราะกั้นออก จิตในห้วงลึกทุกดวงจะไร้เดียงสา ไม่แปลกอะไรนักที่จะพูดออกมาตามตรง คงไม่มีวันที่จะได้เจอปฏิกิริยาเช่นนี้ หรือประโยคพวกนี้จากปากของแต่ละฝ่าย หากพวกเขามีสติอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

    จู่ ๆ หญิงสาวเริ่มไอออกมา เธอขมวดคิ้ว

    ไม่สบายเหรอ?” เขาถาม

    เปล่า...นี่ นายรีบไปเถอะ”

    ไปไหน

    ไปจากที่นี่ไง”

    เธอไออีกครั้ง

    จะไปได้ยังไง เข้ามาที่นี่ได้ยังไงฉันยังไม่รู้เลย”

    เดินไปเรื่อย ๆ ยังไงก็ได้...แค่ไปจากตรงนี้ก็พอ”

    “...เธอแน่ใจนะ?”

    รีบไปสิ”

    เขายังคงยืนนิ่ง ลังเล

    "ไปเร็ว แล้วอย่าหันกลับมา"

    หญิงสาวออกแรงผลัก เพียงเขาหันหลัง เธอเริ่มไออีกครั้ง

    ไอไม่หยุด

    และแหบแห้งขึ้นทุกที

    เสียงไออย่างทรมานนั้นดูท่าจะส่งไปไม่ถึงร่างสูงทั้งที่อยู่ไม่ห่างกัน ราวกับว่าเพียงเขาหันหลังระหว่างทั้งคู่ก็ถูกกั้นด้วยกำแพงกระจกหนา ได้ยินเสียงหัวเราะน่าสยองดังก้องไปทั่วบริเวณ

    ฝ่ามือบางยกขึ้นปิดปาก

    เลือดสีดำทะลักออกมาตามร่องนิ้ว จมูก ดวงตา

    หญิงสาวทรุดลง ทั่วกายถูกสีดำค่อย ๆ คืบคลานทุกตารางนิ้วของผิวหนัง ของเหลวน่าขนลุกที่นองพื้นขยายตัวเป็นวงกว้าง ดูดกลืนร่างบอบบางให้จมหายลงไปในพื้นที่นั้น

    เหลือเพียงคราบของเหลวสกปรกสีดำ

    และฉากสีขาวสว่างจ้าไร้ขอบเขต

     

     

     

    6.

    ลัลทริมาติดกลัดกระดุมเงินเม็ดสุดท้ายเข้าในรัง ปิดมิดถึงคอ

    มือบางคว้าเข็มขัดมหา’ลัยขึ้นมารัดเอว สวมเสื้อเชิ้ตคลุมทับอีกชั้น

    ไม่ร้อนรึไง?” เขาถาม

    หนาวจะตายอยู่แล้ว”

    นี่เธอป่วยเหรอ...” การินเห็นอดีตแฟนสาวยืนห่อตัวกอดอก ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นจะทาบที่หน้าผากเล็ก แต่เธอก็รีบบัดมือเขาออก

    ตั้งแต่สองวันก่อนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น หญิงสาวพยายามคิดเสียว่าร้องไห้แล้วให้อารมณ์จบลงตรงนั้น รู้ทั้งรู้ว่าต่อให้โกรธการินไป หมอนั่นก็ไม่ได้ทำตัวดีขึ้นสักเท่าไร แม้จะพยายามให้เป็นแบบนั้นทว่าความอัดอั้นในใจเธอไม่ยอมจบ

    ร่างบางเครียดจนไข้ขึ้น ไม่ปริปากคุยกับเขาจนถึงวันจันทร์

    ผู้ชายคนนั้นทำให้ความรู้สึกที่กำลังจะดีขึ้นมาพังลงไปเท่าเดิม

     

    ...บ้าบอชะมัด

     

    วันนี้ไม่ต้องมารับ ฉันจะกลับบ้านแล้ว” เธอเสียงแข็ง

    งั้นเดี๋ยวไปส่งบ้าน”

    ไม่ต้อง”

    ตอนค่ำจะเก็บของที่คอนโดไปให้อีกรอบ

    “...”

    “สอบเสร็จแล้วโทรมาเข้าใจไหม

    “...”

    ฟังอยู่หรือเปล่าเขาถอนหายใจ

    “…”

    ชอบให้เล่นบทโหดรึไง ได้สิ” เสียงนั้นเย็นเยือก ดวงตาคู่คมแข็งกร้าวขึ้นมา ฝ่ามือแข็งแรงคว้าปลายคางเล็กไว้ บีบจนเธอเจ็บ “อย่าลองดีท้าทายฉันแบบนี้ ถามว่าเข้าใจไหมก็ตอบสิวะ...ยัยโง่!!”

    ลัลทริมาสะดุ้งเฮือก ร่างกายแข็งทื่อ เออ!”

    ดี” การินเหยียดยิ้ม ผ่อนแรงบีบลงให้สะบัดจนหลุด

    ดูท่าทางอดีตแฟนสาวจะกลัววิธีสั่งสอนของเขาจนฝังใจ เธอยกสองแขนกอดตัวเอง ใบหน้าหวานหงิกงอ บอกบุญไม่รับ

    ...เป็นเช้าวันจันทร์ที่ห่วยแตกสิ้นดี

     

     

     

    7.

    กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้”

    เสียงทุ้มเอ่ยติดจะหงุดหงิด

    เธอพบว่าเขามายืนรอเธออยู่หน้าลิฟต์อีกครั้ง

    บอกว่าสอบเสร็จให้โทร ก็ไม่ยอมโทร”

    ว่าจะโทรตอนอยู่หน้าตึกแล้ว”

    หญิงสาวกดลิฟต์ ก้าวเข้าไปพร้อมกับเขา

    แก้ตัวหน้าตายเชียวนะ” คนตัวสูงส่ายหน้า

    ถ้าเขาไม่มาดักหน้าห้องเรียนคงหนีไปถึงไหนแล้ว

     

     

     

    8.

    แหน่ะ แต่งตัวสวยเชียว”

    คนโดนชมฉีกยิ้มรับ คืนนี้ลัลทริมามีนัดกับเพื่อนสาวร่วมสาขาที่สนิทกัน ช่วงนี้เธอกลับมาฝันร้ายอีกครั้ง และการินก็หายหัวไปแล้ว ไม่เห็นหน้าแฟนเก่าสองวัน มีความสุขดั่งยกแอกออกจากหลัง

    ขอบใจจ้ะ”

    แล้วแกมานี่แฟนไม่ว่ารึไง?”

    ไม่รู้ซะอย่างจะว่าได้ไง แนทก็อย่าเชคอินสิ... แล้วก็อย่าเรียกเขาว่าแฟนฉันด้วย ฉันโสดอยู่” เธอยักไหล่

    เพลงดังคลอกับบรรยากาศแสงสีและไฟสลัวในร้านเหล้า วงดนตรีเล่นสดกำลังสนุกได้ที่ โต๊ะอื่นโยกตามทำนองเพลง แต่หญิงสาวขมวดคิ้วหงุดหงิดกับมันจนอยากจะลุกหนีไป

    เพื่อนสาวร่วมสาขากลับยิ้มกริ่ม

    เนื้อตรงกับแกดีเนอะ”

    อะไรของเธอ”

    ก็ที่ว่า หัวใจนี้มันงมงาย ตักเตือนไม่เคยฟังกัน...”

    ถ้ายังชวนมาแต่ร้านที่เปิดเพลงแบบนี้อีก ทีหลังจะไม่มาด้วยแล้วนะ”

    “เฮ้ย ลัลก็พูดไป เพลงร้านนั่งดื่มมันก็ต้องเฮิร์ท ๆ ยังงี้แหละถึงจะได้ฟีล” หล่อนพูดกลั้วหัวเราะ “ฉันเพิ่งสั่งเหล้าไปเมื่อกี๊ ลัลอยากจะสั่งไรเพิ่มไหม หรืออยากจิบหวาน ๆ เบา ๆ”

    “ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่อยากดื่มเท่าไหร่ ขอน้ำอัดลมก็พอ”

    “ว้า เสียดายจัง...โอเค ๆ”

    “ว่าแต่” ทันใดนั้นลัลทริมามองซ้ายขวา “มีเราแค่สองคนเหรอ”

    “อืม เหลือกันอยู่แค่นี้แหละ คนนึงมีงานกลุ่มต้องทำ คนนึงกลับบ้านแถวชานเมือง คนนึงก็ไปดูหนังรอบดึกกับผัว ทั้งโต๊ะนี้เป็นของเราสองคนแล้ว ฉันนี่โชคดีชะมัดที่เธอยังโสด” เพื่อนสาวกระตุกยิ้มมุมปากเป็นนัย

    บทสนทนาไหลผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า โดยไม่รู้ตัววงดนตรีที่แสดงบนเวทีก็หยุดพักกันเสียแล้ว

    จู่ ๆ เครื่องดื่มมึนเมาแก้วหนึ่งที่ถูกปรุงแต่งอย่างดีก็ถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ เพื่อนสาวกับในสบตาลัลทริมาในสีหน้างุนงง พอนึกได้จังรีบหันไปส่ายหน้าปฏิเสธบริกร หนูไม่ได้สั่งอันนี้นะพี่ ผิดโต๊ะเปล่า”

    มือกลองสั่งให้ครับ”

    ให้ใคร?”

    พี่แกบอกให้น้องผมยาว อยากรู้จัก”

    บริกรตอบ ก่อนจะเดินกลับไป

    รู้ตัวเป้าหมายอย่างเห็นได้ชัด โต๊ะนี้มีเพียงลัลทริมาที่ปล่อยผมยาวสยาย ส่วนเพื่อนสาวของเธอตัดสั้นแค่บ่า เพื่อนสาวเบะปาก บ่นว่าเธอเนื้อหอมอีกแล้ว ทั้งที่เพิ่งมาถึงร้านแต่ดันมีผู้ชายอยากเล่นด้วย

    ลัลทริมาไม่ใช่คนชอบดื่มเท่าไหร่นัก ก่อนหน้านี้เรียกว่าแทบไม่แตะแอลกอฮอล์เลยก็ว่าได้ ดื่มแล้วเกลียดสัมผัสร้อนขมบาดลึกในคอ แต่รู้ดีว่ามีสรรพคุณช่วยให้ลืมเรื่องแย่ๆได้ แม้จะชั่วครั้งคราว

    ช่วงก่อนหน้านี้เธอรู้สึกแย่จนหนีไปพึ่งมันอยู่สักพัก ทว่าเดือนต่อมาพอคบกับรุทรเธอก็หยุดดื่มไป พอเลิกกันก็กลับมาดื่มอีก แต่ลดน้อยลงจนเลิกดื่มไปในที่สุด ถ้าเป็นเมื่อหกเดือนก่อนตอนเธอเสียศูนย์แรก ๆ คงกระดกมันเข้าปากอย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้กลับไม่อยากจะทำแบบนั้น

    ...คงเป็นเพราะเขากลับมาละมั้ง

    หญิงสาวจับแก้ว ดวงตาสีน้ำตาลมองมันอย่างชั่งใจครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนมันไปตรงหน้าเพื่อนสาวแทน เดิมทีคืนนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาดื่มอยู่แล้ว ที่มาเพราะแค่เพื่อนชวนมาเฉยๆ

    แนทอยากดื่มแก้วนี้ปะ?”

    ไม่อะ ฉันไม่ดื่มแก้วจากคนแปลกหน้า แกไม่รับของเขาก็วางมันไว้ตรงนั้นแหละ” แนทพูดเรื่องที่ตรงกับสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่พอดี นี่ถ้าเป็นตอนนั้นนะ ฉันไม่อยากจะคิด แกคงดื่มหมดอึกเดียวแล้วขอเบิ้ลอีกสามแก้วรวด”

    ฉันเคยทำแบบนั้นด้วยเหรอ?”

    "โห...แกเมาจนดูเหมือนไม่ใช่ลัลที่ทุกคนรู้จักอะ แม่พระแม่ชีอะไรนี่ไม่มี๊"

    "พูดเว่อร์ไปแล้ว"

    "อ่ะหรอ ...ฉันย้อนความให้เอาไหมว่าตอนแกโดนหมอนั่นทิ้งเดือนแรก แกเฮิร์ตเละเทะแค่ไหน ฉันเข้าร้านเหล้าเป็นว่าเล่น ช่วยแกที่เกือบโดนใครหิ้วไปก็ไม่รู้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจแฟนเก่าแกเลย ทั้งที่เขาดูหวงแกจะตายยังเทแกให้เมาหัวราน้ำขนาดนี้ได้ ใจร้ายไม่เบา"

    ลัลทริมากัดริมฝีปาก อยากจะปิดหูกับเรื่องน่าอายของตัวเองที่ออกจากปากเพื่อนสาว

    เลิกคุยเรื่องนี้เหอะ”

    “เออก็ได้”

    เพื่อนสาวเบนสายตาขึ้นไปบนเวที

    งั้นในเมื่อแกบอกว่าโสด...เรามาคุยเรื่องหนุ่มน่าฟัดที่เล่นตำแหน่งมือกลองนั่นเป็นไง?”

     

     

     

    9.

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝ่ายนั้นส่งแก้วมาทักทายก่อนหรือเปล่า หรือเพราะเพื่อนสาวชวนคุยถึงเขา แต่คืนนั้นหนุ่มมือกลองจนเขาถึงกับเดินลงเวทีเข้ามาหาถึงโต๊ะจริง ๆ ทิ้งไอดีไลน์แลกกัน ทิ้งเวลาเพียงคืนเดียว ตอนเช้าฝ่ายนั้นกลับทักมาก่อน

    แต่ดูเหมือนจะมีคนสาระแน

    เจ้าของใบหน้าคมคายเกยคางลงบนไหล่เล็ก ฝ่ามือร้อนโอบลงที่เอวบางอย่างถือวิสาสะ เขาถามเสียงเรียบจนเดาอารมณ์ไม่ถูก มันไม่ดิบ ไม่ห้วน แต่ก็ไม่เฉยชาจนเกินไป

    คุยกับใคร?”

    ผัวใหม่”

    ไปมีตอนไหน?” เขาย่นคิ้ว

    มีตอนไหนแล้วหนักหัวนายยังไง ไม่ได้คบซ้อนสักหน่อย”

    จริงเหรอ...เบาหน่อย นอโผล่หมดแล้ว” เขาเอื้อมมือมาบีบปลายจมูกรั้น

    ก็แค่แลกไลน์คุยกันเฉย ๆ แรดตรงไหน?”

    ก็เธอมีคนอื่นอะ”

    น้ำเสียงตัดพ้อที่ฟังดูยียวนในคราวเดียวกันทำให้ลัลทริมาขมวดคิ้ว เปล่งเสียงเรียบตอบกลับไป นายก็เป็นคนอื่นเหมือนกันนี่ เลิกกันแล้วทำไมฉันต้องแคร์?”

    แล้วได้ถามมันรึยัง ว่าชอบอยู่กันแบบสามคนเปล่า”

    ร่างบางอ้าปากค้าง

    “ไอ้...หน้าด้าน”

    จะไม่กลับมาคบกันก็ได้ แต่ฉันบอกแล้วว่าไม่ให้ไป”

    เห็นแก่ตัว”

    เออ จะทำไม”

    ทุเรศที่สุด”

    “อยากด่าไรด่าเลย ...แต่ผมมีโซ่อยู่ท้ายรถนะคุณ ระวังไว้ให้ดีล่ะ” อดีตแฟนหนุ่มหัวเราะในลำคอ ดวงตาพึงพอใจเมื่อเห็นสีหน้าเหวอจากเธออีกครั้ง แลบลิ้นเลียริมฝีปาก น้ำเสียงทุ้มทำให้คนฟังเกือบจะขนลุก

    “ยังไม่ได้จะทำอะไร บอกไว้ก่อนเฉยๆ”

     

     

     

    10.

    "ขยันทำฉันโกรธอยู่ได้ ไม่เบื่อบ้างหรือ?"

    "ก็ดีแล้วที่โกรธ เธอไม่ควรเฉยชา"

    เขาตอบแบบนั้น แนบริมฝีปากลงบนหลังคอขาวนวลเบาๆ

    เธอนึกสงสัย

    "ทำไม?"

    "เพราะฉันคงทำตัวไม่ได้ดั่งใจเธอไปตลอดชีวิต"

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++


    humble_h :

    กลัวคนอ่านลืมเลยแวะมาเจิมเฉยๆ

    อย่าเพิ่งลืมเรานะ กระซิกๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×