ตอนที่ 99 : EP.37 Lost time
Upside Down
Welcome To The Upside Down
EP.37
หืม? เผลอหลับได้ไงเนี่ย
ดวงตารีมองซ้ายมองขวาขณะที่เสียงของ "ติวเตอร์" ยังดังอยู่หน้าห้อง หนังสือเรียนพิเศษตรงหน้ายังเปิดหน้าที่เขาจดโน้ตเอาไว้ มือเล็กหยิบดินสอกดสีเขียวขึ้นมาและเงยหน้ามองกระดาษอีกครั้งพร้อมถอนใจ จินตภัทรไม่ชอบเลยเวลาที่ตัวเองเอาแต่อ่านหนังสือนิยายจนดึกดื่นแล้วก็มาง่วงเอาตอนเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนทุกที
“เธอๆ” เด็กหญิงที่นั่งด้านหลังของจินตภัทรสะกิดเขาแขนของเบาๆ มือเล็กใช้นิ้วดันกรอบแว่นตัวเองที่ตกลงมาที่ปลายจมูกเล็กน้อยขณะที่หันไปตามเสียง
“หืม?” จินตภัทรมองเพื่อนร่วมคลาสเรียนพิเศษที่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่นอกจากยืมยางลบ
“มีคนฝากมาให้อะ” เธอเอ่ยพลางยัดกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ ที่น่าจะฉีกมาจากใบปลิวที่แจกข้างทางใส่มือของจินตภัทร
เด็กหญิงบอกเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาเรียนต่อ โดยไม่ยอมบอกว่าใครฝากมาให้ มือเล็กหยิบกระดาษมาเปิดดูและพบลายมือไก่เขี่ยที่เขียนข้อความสั้นๆ ว่า
'เลิกเรียนแล้วมารอตรงร้านชานม'
จินตภัทรรีบเก็บลงและตั้งใจเรียนต่อด้วยความรู้สึกที่สับสนไปหมด เขาไม่เคยได้ข้อความแบบนี้จากใครมาก่อนเลย….
จนกระทั่งเลิกเรียนเมษาเพื่อนสนิทจากโรงเรียนเดียวกันก็เดินเข้ามาชวนคุยด้วยท่าทางตื่นเต้นขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาจากโรงเรียนกวดวิชาด้วยกัน
“เนี่ยแก อาทิตย์ที่เราหยุดเรียนใช่ปะ พี่ตูนเขามาแจกลายเซ็นที่ร้านดีเจสยามด้วย”
“เหรอ…”
จินตภัทรตอบพลางมองไปทางร้านชานมไข่มุกเจ้าดังที่มีเด็กนักเรียนที่หิวโหยหลังเลิกเรียนไปต่อคิวรอซื้อมากมาย ดวงตารีหลังแว่นกรอบหนากวาดสายตาหาคนที่นัดไว้ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าเจ้าของจดหมายน้อยที่ส่งมาให้นั้นเป็นใครจนกระทั่งเหลือบไปเจอร่างสูงใหญ่ที่ยืนหันหน้ามาทางเขาอย่างจงใจ แถมมือข้างหนึ่งก็ล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนแบบเก๊กนิดๆ
“ไม่ตื่นเต้นเหรอ?” เมษาถามเพื่อนที่ไม่มีท่าทีตื่นเต้นไปกับเธอเลยแม้แต่น้อย
"เอ่อ เม แกจะกลับบ้านเลยไหม?"
"ยังอะ เดี๋ยวไปเดินเล่นมาบุญครองก่อน แกจะกลับแล้วเหรอ?"
"อืม" ร่างเล็กพยักหน้าให้กับเพื่อนอย่างรู้สึกผิดในใจนิดๆ ที่ไม่ยอมพาเมษาไปด้วย แต่ท่าทีของคนที่ยืนรออยู่มันทำให้เขาอายนิดๆ และตัดสินจะเดินเข้าหาอีกฝ่ายตามลำพัง
เขาจำอีกฝ่ายได้ดี...แค่ไม่คิดว่ารุ่นพี่ใจดีเจ้าของร่มแม่ค้าสีแดงในวันฝนตกจะอยากมาเจอเขาอีก
พอเดินเข้าไปใกล้ๆ จินตภัทรถึงสังเกตเห็นว่าในมือของรุ่นพี่คนนั้นมีถุงใส่ของเล็กๆ อยู่ พอเขาเดินไปหยุดยืนต่อหน้ามือหนาก็ยื่นถุงนั้นมาให้พร้อมคำพูดที่ทำให้ใจเต้นแรง
"เห็นว่าชอบ เอาไปดิ"
คำพูดห้วนๆ ที่ไม่ได้หวานหู แต่กลับมีพลังบางอย่างในน้ำเสียงนั้นที่ทำให้จินตภัทรรู้สึกหน้าร้อนไปหมด
"ให้ทำไมอะ" เสียงเล็กๆ ถามพลางเหลือบมองคนตัวสูงกว่าอย่างเก็บอาการทั้งที่มือไม้มันสั่นไปหมด ยิ่งเห็นหน้าปกซีดีกับลายเซ็นที่อยู่บนปกอัลบั้มจังหวะหัวใจก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นไปอีก ถ้าเขาเป็นลมไปตอนนี้ไม่ต้องหาสาเหตุอื่นเลย
"จะเอาไม่เอา?" เสียงทุ้มถามเหมือนหาเรื่อง ขณะที่เดินมาส่งเด็กตัวเล็กในจุดที่นัดผู้ปกครองเอาไว้
"ทำไมใจดีอะ" จินตภัทรถามและยิ้มให้อย่างผ่อนคลาย มันอาจจะเพราะว่าพวกเขาเดินห่างออกมาจากกลุ่มเด็กนักเรียนคนอื่นๆ แล้ว
"ก็ไม่ได้ให้ฟรีนะ" ร่างสูงตอบพลางยกมือลูบต้นคอตัวเองอย่างขัดเขิน เพราะเงื่อนไขที่ลงทุนขโมยซีดีของเพื่อนมาให้มันก็ต้องมีบางอย่างแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่มันเขินเกินกว่าจะพูดออกมาตรงๆ
"งั้นเอาคืนไป ไม่มีตังค์หรอก ได้ค่าขนมวันละร้อยเดียวเอง" มือเล็กแกล้งยื่นถุงซีดีคืนให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะคว้ามันไปยัดใส่กระเป๋าหนังสือของเด็กตัวเล็กที่เขาเป็นช่วยถือมาตลอดทาง
"ใครบอกจะเอาตังค์อะ"
สิ้นเสียงอีกฝ่ายที่ตอบกลับ จินตภัทรเหลือบมองคนที่เดินเคียงข้าง แต่เพราะสูงใหญ่กว่ามากสายตาของเขาก็มองเห็นแต่ชื่อที่ปักไว้ใต้อักษรย่อ ท.ภ. บนหน้าอกขวาของอีกฝ่าย
'จอมพล' คือชื่อจริงของอีกฝ่ายที่เกือบทำเอาจินตภัทรหลุดขำออกมา
"ยิ้มอะไร?" ร่างสูงถามพลางเลิกคิ้วราวกับหาเรื่อง
"ชื่อจอมพลเหรอ?"
ดวงตากลมใสหลังแว่นกรอบหนาเหลือบมองราวกับหยอกล้อ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เขินเลยแม้แต่น้อย และกลายเป็นจินตภัทรเองที่ได้แต่ก้มหน้างุดเมื่อเจ้าของชื่อตอบกลับมา
"อยากมีแฟนชื่อนี้ปะล่ะ"
"หงึก ม่ายยยยย"
พอคนถูกถามส่ายหน้าและปฏิเสธ มือหนาก็แกล้งดึงกระเป๋าเป้นักเรียนของเด็กตัวเล็กกว่าพลางทวงของคืน
"งั้นเอาซีดีคืนมา"
"อะไรอะ ให้แล้วทำไมเอาคืนอะ"
"มีคนอยู่สามสถานะในชีวิตพี่เท่านั้นที่จะได้อะไรจากพี่ไปฟรีๆ พ่อแม่ เพื่อนสนิท แล้วก็แฟน"
"งั้นเป็นเพื่อนได้ปะล่ะ"
จินตภัทรเอ่ยพลางยิ้มและแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย แน่นอนว่าเด็กตัวเล็กแกล้งบ่ายเบี่ยงไปอยางนั้นเพราะอาย
แต่ดูเหมือนจอมพลจะเริ่มหงุดหงิดและเขินมากที่โดนปฏิเสธเป็นรอบที่สองและโวยวายออกมาพร้อมกับล็อคคอเด็กตัวเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมกอดพลางบีบแก้มนุ่มไปมาเป็นการลงโทษ
"เพื่อนกูเยอะแล้ว! เอาซีดีกูคืนมาเลย ไม่ยอมเป็นเมียกู ก็อย่าหวังจะได้พี่ตูนไปนอนฟังที่บ้าน"
"ฮ่าๆๆๆ ก็ได้ๆ เป็นแฟนก็ได้ แต่ถ้าได้กันแล้วห้ามเอาซีดีคืนนะ?"
.
.
.
เสียงหัวเราะที่ร่าเริงของคนทั้งคู่ค่อยๆ จางหายไปกับความมืดและแทนที่ด้วยแสงสว่างในยามเช้าขณะที่จินตภัทรค่อยๆ ลืมตาขึ้น
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่เหมือนในความฝันก็คืออ้อมกอดและลมหายใจอุ่นของจอมพล
แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันมันเป็นสิ่งที่จินตภัทรคาดหวังจะให้มันเกิดขึ้นในอดีตและเก็บไปฝันหลังจากรู้ว่าจอมพลคือคนที่แอบชอบเขาและเป็นเจ้าของซีดีพร้อมลายเซ็นที่จินตภัทรได้รับมันมาเมื่อสิบปีก่อน
ยามที่ตระหนักถึงช่วงเวลาที่หายไปในชีวิต เรามันจะมีคำว่า 'ถ้า' เป็นตัวแปรที่เราอยากให้สิ่งนั้นเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเพียงเพราะเราไม่มีความสุขกับมันเท่าที่ควร
แต่หากใคร่ครวญให้ดีจินตภัทรคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในอีกหลายล้านคนบนโลกที่แสนโชคดีที่สุดท้ายแล้วเขาสามารถตามหาคนที่หายไปในอดีตเจอ โชคดีเท่าไหรแล้วที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แม้จุดเริ่มต้นมันจะไม่น่ารักเหมือนในฝันที่เขาอยากให้มันเป็นก็ตาม...
ยังเก็บรักนั้น อยู่ในหัวใจ
เธอจะรู้ไหมฉันยัง...คงพร่ำเพ้อ
หลับตาทุกครั้ง ก็ยังเห็นเพียงแต่เธอ
ฉันยังคิดถึงเธอเสมอ ไม่เคยจะลบเลือน
(เพลง นาฬิกาตาย อัลบั้ม save my life ศิลปิน Bodyslam)
เสียงเพลงในอดีตที่ดังอยู่ในห้องรับแขกปลุกให้จอมพลลืมตาขึ้นมาอย่างุนงง เมื่อก้าวออกมาจากห้องก็เห็นคนรักกำลังนั่งอมยิ้มอยู่หน้าโน้ตบุ๊คสีขาว และหันมายิ้มให้เขาแทนคำทักทายเมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินออกมาจากห้องนอน
"....หลับตาทุกครั้ง ก็ยังเห็นเพียงแต่เธอ ฉันยังคิดถึงเธอเสมอ แม้นานจนวันนี้"
เสียงทุ้มร้องคลอไปกับเพลงที่เปิดอยู่ขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างแฟนตัวเล็กและมองในจอโน้ตบุ๊คที่กำลังสร้างรอยยิ้มให้จินตภัทร
"ไปหามาจากไหน"
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันขณะที่มองดูรูปตัวเองสมัยมัธยมปลายที่กำลังแหกปากอยู่บนเวที นอกจากจะขี้เหร่แล้วยังเสือกร้องไห้ด้วย...ซึ่งจินตภัทรคือเหตุผลนั้นที่ทำให้เขาอกหักก่อนวันแข่งและขึ้นไปร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบพังพินาศจนฟังไม่ออกว่ากำลังร้องเพลงอะไรอยู่ แต่ก็ดันได้ที่สองมาครอง
"เพื่อนส่งมาให้ จริงๆ ช่วงที่ประกวดฮอตเวฟ จีนได้ไปดูด้วยนะแต่ไม่ได้รอจนถึงวงเดฟโซลเล่น เพราะตอนนั้นต้องไปที่อื่นก่อน เพื่อนคนนี้มันชอบถ่ายรูปตั้งแต่มัธยมมีที่เราไปเชียร์รุ่นพี่งานฮอตเวฟ..ก็เลยเจอนี่"
จินตภัทรเพิ่งนึกถึงเพื่อนสมัยเรียนคนนี้ที่กลายเป็นช่างภาพคิวทองในปัจจุบัน เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเป็นนักเขียนอิสระก็ได้ร่วมงานกันตอนที่จินตภัทรเขียนเรื่องสั้นลงนิตยสารและเพื่อนคนนี้ก็ทำภาพประกอบให้เลยแลกเฟสบุ๊คกันเอาไว้ติดต่อเรื่องงาน หลังจากที่ทักไปและถามไถ่สารทุข์ต่างๆ ฝ่ายนั้นก็เป็นคนเปิดประเด็นเรื่องแฟนหนุ่มของจินตภัทรก่อน ..แน่นอนล่ะการมีแฟนเป็นคนดังก็คงเลี่ยงอะไรแบบนี้ไม่ได้ แต่ที่น่าขำคือเพื่อนของเขาส่งรูปที่เคยถ่ายในงานประกวดฮอตเวฟรอบชิงชนะเลิศมาให้แล้วบอกว่า
'เมื่อก่อนแฟนเธอหน้าตามันไม่หล่อขนาดนี้นะ'
พอเห็นรูปก็ถึงกับหยุดหัวเราะไม่ได้ เพราะแต่ละรูปของจอมพลที่เพื่อนของเขาถ่ายติดมา มันมีแต่ท่าทางตลกๆ ที่ทำร้ายพ่อนักร้องดังเสียจนเจ้าตัวมาเห็นยังอยากร้องไห้
"ให้หลุดไปลงโซเชี่ยลไม่ได้เลยนะเนี่ย..."
จอมพลบ่นถึงรูปตัวเองสมัยเด็กที่เห็นกี่ครั้งก็อยากจะเผาทิ้ง ก่อนจะเอนศีรษะไปพิงไหล่คนรักที่เอาแต่หัวเราะขำ
"ทำไมล่ะ ชุดพละเขียวเฟี้ยวจะตาย ฮ่าๆๆ" เสียงที่แกล้งหยอกอีกฝ่ายเอ่ยกลั้วขำจนคนตัวโตกว่าถอนใจใส่
จอมพลมองรูปตอนมัธยมแล้วก็อดคิดถึงเด็กตัวเล็กแก้มยุ้ยที่เขาเคยได้แต่แอบมองไกลๆ ไม่ได้
ตอนนี้แม้เขาได้อยู่ใกล้ๆ กับจินตภัทรแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกใจเต้นแรงเหมือนเดิม
เหมือนวันที่เขาตกหลุมรักเด็กตัวเล็กๆ คนนั้นอีกครั้ง
"..เมื่อคืนจีนฝันถึงตัวเองตอนเด็กๆ เป็นฝันครั้งแรกที่จีนมีบีอยู่ข้างๆ เราคบกันตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่จีนอยู่ม.4"
เสียงเล็กเล่าออกมาด้วยท่าทีขัดเขินเล็กน้อย สองแก้มแดงเรื่อขณะที่หลุบตาลงมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย ริมฝีปากหยักอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขยับเข้ามาแตะเรียวปากอิ่มแผ่วเบา และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลงในกายของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
มันคงจะต่อยอดไปสู่ความสัมพันธ์ทางกายที่จินตภัทรต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง หากมือเรียวไม่ยกขึ้นดันไหล่หนาออกไปเสียก่อน
ทันทีที่ผละออก มือของจอมพลก็กอบกุมมือเรียววางทาบไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองแสร้งทำปากยื่นใส่คนรักแสดงอาการน้อยใจที่ความต้องการไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่แน่นอนล่ะ พอสบตากันแล้วเห็นรอยยิ้มหวานๆ ของคนรัก คนที่ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก็กลายเป็นตัวจอมพลเอง
"รู้ไหมในฝันบีก็หื่นเหมือนตอนนี้เลย.."
"หื่นยังไง? อยากมีอะไรกับแฟนตัวเองมันไม่ใช่หื่นดิ พวกหื่นมันคือผู้ชายที่แม่งมองใครก็เงี่ย.."
ก่อนที่คำหยาบมันจะหลุดออกจากปากพระเอกฟิคและทำให้ฟิคเรื่องนี้จะโดนเว็บเด็กดีแบนไป มือเรียวก็รีบยกขึ้นปิดปากคนรักเอาไว้และเอ่ยตัดบทไป
"นอกจากปากเหม็นแล้วยังหยาบคายอีก ไปแปรงฟันก่อนไหม? ตื่นเช้ามาควรทำเป็นสิ่งแรก"
"อะไออ๊ะ ออนอูบไอ้เอ็นอ่นอั๊กอำ" (อะไรวะตอบจูบไม่เห็นบ่นสักคำ) เสียงบ่นจากคนที่มีฟองยาสีฟันฟ่อดเต็มปากดังออกมาจากในห้องน้ำหลังจากถูกไล่ให้ไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย จอมพลมองตัวเองในกระจกขณะที่ขยับข้อมือสีฟันและฟังเพลงที่จินตภัทรเปิดฟังอยู่ในห้องนั่งเล่น ยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่เขายังเป้นเด็กมัธยมปลายหัวเกรียนหน้าสิวที่แอบไปด้อมๆ มองๆ เหมือนโรคจิตอยู่หน้าโรงเรียนสอนพิเศษเพียงแค่อยากเจอจินตภัทรตัวน้อยๆ ที่ตอนนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจินตภัทรในชุดนักเรียนมัธยมนั้นน่ารักมากจริงๆ เพียงแค่นึกถึงยังทำให้ยิ้มได้
ชุดนักเรียน...จริงๆ จีนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหรนี่หว่า
ร่างสูงคิดขณะที่ก้มลงป้วนปากก่อนจะเดินตรงไปหยิบโทรศัพท์มือถือและกดโทรหาฝ่ายคอสตูมที่เขาถ่ายละครด้วย แน่นอนว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุดของเขาแต่มีเข้าห้องบันทึกเสียงตอนหัวค่ำ นับเวลาทีเหลืออยู่สำหรับวันนี้ก่อนไปทำงาน เขามีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงที่จะอยู่กับแฟนโดยไม่มีใครเข้ามารบกวน และเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มี "ใคร" มารบกวนจริงๆ ....
JOMPHON : วันนี้มึงลากเมียไปหาน้ำหวานหรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้ที่ยัยเจ๊นั่นจะไม่มีเวลามากวนเมียกูได้มะ?
GAWIN : ห่ะ? ทำไมวะ?
JOMPHON : กูจะพาเมียไปรำลึกความหลังแถวสยามสแควร์
GAWIN : ไปเดทยังไงไม่ให้แฟนคลับตามวะ? มึงโผล่แค่ไรผมออกจากรถ แม่งก็โดนวิ่งตามเป็นซอมบี้แล้ว
JOMPHON : กูก็ไม่ต้องไปแบบ บี เดฟโซลสิ
หลังจากที่รอให้แมสเซนเจอร์ส่งชุดที่ขอเอาไว้จากฝ่ายคอสตูม จอมพลก็ยัดถุงกระดาษที่เตรียมไว้ให้ใส่มือคนรักแล้วดันหลังให้อีกฝ่ายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียม "ไปเดท" ส่วนตัวเองก็มีชุดที่เตรียมเอาไว้เหมือนกัน
"บี..มันไม่ตลกเหรอ? เราอายุยี่สิบสี่แล้วนะ"
"แต่ตัวเท่าเด็กอายุสิบสี่...." ร่างสูงในชุดพละสีเขียวกับกางเกงนักเรียนสีดำเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาขณะที่มองคนรักที่ดูขัดเขินกับ "ชุดไปเดท" ที่เขาเตรียมให้ด้วยสายตาภาคภูมิใจ
มันอาจจะไม่มีตราโรงเรียนที่จินตภัทรเคยสวมเพราะเป็นแค่เสื้อผ้าประกอบฉากที่ปักชื่อย่อโรงเรียนปลอมๆ แต่พออยู่บนร่างเล็กของจินตภัทรมันก็ทำให้รู้สึกไม่ต่างจากเด็กมัธยมต้นตัวเล็กๆ ที่อาจจะผมยาวผิดระเบียบไปสักนิด
"อืม แต่บีก็ดูเข้ากับชุดพละดีนะ..."
ยังไม่ทันที่จะพูดจบคนหลงตัวเองก็รีบตอบแทรก
"แน่นอน หล่อเหมือนเด็กมัธยมเป๊ะๆ"
"เปล่า เด็กมัธยมปลายเดี๋ยวนี้หน้าแก่เร็วมากๆ ต่างหาก"
หลังจากจินตภัทรพูดจบร่างสูงก็โถมเข้าใส่แล้วฟัดหอมแก้มใสเป็นการลงโทษ จินตภัทรไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตอนนี้ตัวเองดูน่ารักมากแค่ไหนในสายตาอีกฝ่าย
เพราะความรู้สึกของจอมพลตอนนี้มันไม่ต่างจากพวกที่เห็นสาวนมโตใส่ชุดเด็กมัธยมกระโปรงสั้น หรือเห็นเมียที่ใส่ชุดนางพยาบาลอ้อนผัว สองแขนที่กอดรัดร่างบางอยู่ค่อยๆ คลายออกก่อนจะแอบคิดแผนบางอย่างในใจและมองคนรักที่เอาแต่หัวเราะอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ให้โดนด่าว่าหื่นก็ยอม แต่วันนี้ถ้ากูไม่ได้ปล้ำเมียในชุดนักเรียนอย่าเรียกกูว่าจอมพล!
...............
"ตัดผมทำไม? พี่ว่าเราไว้ผมยาวก็ดีอยู่แล้ว"
"พี่ก็ไม่ชอบทุกอย่างที่ยุ้ยเป็นอยู่แล้ว พี่ก็แค่อยากให้ยุ้ยเป็นตัวแทนคนอื่น"
บทสนทนาที่กำลังถกเถียงกันนั้นเกิดขึ้นในรถเบนซ์คันหรูติดฟิล์มดำสนิทที่จอดอยู่หลังตึกเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากที่กวีโทรตามตัวญดาได้หลังจากที่หญิงสาวขาดการติดต่อเขาไปหลายวัน ถึงแม้จะได้ข่าวว่าญดามีเรื่องทะเลาะกับน้องสาวตัวเองแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้แยแสหรือออกความเห็นเรื่องดังกล่าวแม้ญดาจะบอกว่าเธอกำลังจะกลับไปคบกับกันนิชาเหมือนก่อนหน้านี้
"ตอนไพลินแนะนำเราให้พี่รู้จัก เหมือนว่ายุ้ยจะน่ารักกว่านี้"
"ตอนนั้นยุ้ยไม่รู้ว่าพี่เป็นพี่ชายของแบม ถ้ายุ้ยรู้ยุ้ยจะไม่..."
"ไม่อะไร? ไม่ขอเงินพี่เหรอ? แล้วคิดว่าเงินที่แบมใช้อยู่ทุกวันนี้เงินใคร? ไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไมแบมรู้เรื่องนี้ดีและน่าจะรู้มากนานแล้วแต่ไม่มาตีโพยตีพายอะไรกับพี่ เราคิดว่าเรารู้จักคนที่เรารักมากแค่ไหนกันยุ้ย"
คำพูดจี้ใจดำที่ฟังเหมือนสอน แต่มันไม่ต่างจำคำด่าที่กำลังจะบอกว่าเธอโง่ที่เชื่อทุกสิ่งที่คนรักบอก แม้จะสะกิดใจว่าทำไมกันนิชาถึงไม่พูดถึงประเด็นนี้เลย ทั้งที่ลูกศรเองก็มีหลักฐานว่าเธออยู่กับกวีในฐานะอะไร แต่เธอก็ทำได้แค่แก้ตัวแทนคนรักด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"แบมไม่เหมือนพี่"
"ไม่เหมือนก็ดี เพราะถ้าเหมือนอาจจะฉลาดกว่านี้ก็ได้ พี่จะบอกอะไรให้อีกอย่างนะ แบมมาอยู่บ้านพี่ในฐานะน้องสะใภ้ไม่ใช่น้องสาว ตามพินัยกรรมพ่อแม่เขา แบมต้องแต่งงานกับใครสักคนในตระกูพี่ คิดว่าทุกวันนี้พี่จะต้องเลี้ยงดูแบมไปทำไมในเมื่อเราไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ด้วยซ้ำ...เราน่าจะขอบคุณพี่ที่ทำให้แบมมีโอกาสได้เจอกับเราในฐานะคนรัก แล้วอีกเรื่องนะ ไพลินเพื่อนเราหักหลังพี่ด้วยการไปเป็นพยานให้ฝนฟ้องหย่าพี่ ถ้าฝนฟ้องหย่าชนะเพื่อนเราต้องรีบหาที่อยู่ใหม่แล้วล่ะ"
น้องสะใภ้คืออะไร...
คำถามที่วนเวียนอยู่ในความคิดของญดาทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวเหมือนจะเป็นลม เพราะตั้งแต่คบกันมาญดาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แล้วกันนิชาเองก็บอกว่าทั้งกวีและกวินเป็นพี่ชาย เธอเชื่อมาตลอดว่าทั้งสามคนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แล้วทำไมสิ่งที่กวีกำลังบอกมันช่างห่างไกลกับสิ่งที่เธอเชื่อมาตลอดแบบนี้
"ยุ้ยไม่อยากให้เรามาเจอกันแบบนี้อีกแล้ว..."
"เหรอ งั้นก็เอาแบมไปอยู่ด้วยตั้งแต่วันนี้เลยก็แล้วกัน ห้องที่เราอยู่พี่ยกให้ ลองเป็นคนจ่ายทุกอย่าง ส่งเสียแฟนเรียน หาบ้านให้อยู่ ทำทุกอย่างที่พี่เคยทำให้เรากับแบมดูแล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่ายังจะรักกันอยู่ไหม?"
คำพูดเรียบๆ และฟังดูเหมือนอีกฝ่ายจะขบขันเสียด้วยซ้ำ แต่คนฟังกลับรู้สึกจนตรอกและคับแค้นใจจนแทบร้องตะโกนออกมา
"ถ้าพี่ไล่แบมออกจากบ้าน หนูจะบอกเรื่องพี่พิมพ์กับทุกคน บอกพี่ฝนพี่ตลอดมาพี่เป็นคนยังไง"
"คิดจะลากพี่ให้ตกนรกไปด้วยกัน มันเป็นวิธีเดิมๆ ที่เราเคยทำแล้วก็ล้มเหลวมาตลอดไม่ใช่เหรอ?"
มือหนาเอื้อมมาลูบศีรษะของญดาราวกับเอ็นดูเด็กตัวเล็กๆ แต่มือเรียวสวยก็ปัดมันออกและเงยหน้าต่อรองกับอีกฝ่ายทั้งที่ตอนนี้เธอรู้สึกพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพทที่สุด
"พี่จะทำยังไงกับหนูก็ได้ แต่พี่จะเอาทุกอย่างไปลงกับแบมไม่ได้"
"รู้ไหมในพินัยกรรมบอกไว้ว่าเมื่อแบมเรียนจบแบมต้องแต่งงาน ตอนนี้เรียนปีสามแล้วก็มีเวลาเหลืออีกแค่ปีเดียวที่เขาจะใช้ชีวิตตามใจชอบ.."
"แบมไม่มีทางแต่งงานกับพี่แจ็คหรอก พี่แจ็คมีแฟนแล้ว" หญิงสาวโต้กลับอย่างมั่นใจ เรื่องแค่นี้เอามาข่มขู่เธอไม่ได้หรอก เธอเชื่อว่ากวินจะไม่ทิ้งแฟนมาแต่งงานกับกันนิชาแน่นอน
แต่ดูเหมือนเธอจะตามเกมของอีกฝ่ายไม่ทันอยู่ดี...
"ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนโง่พอจะยกลูกสาวให้มาแต่งงานกับลูกชายคนรองของตระกูลที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยในมรดกหรอก เล่นละครเป็นตัวประกอบมาก็เยอะ น่าจะรู้นี่นา..."
"พี่ไม่ทำแบบนั้นกับแบมแน่...พี่เลี้ยงแบมมานะ ถ้าพี่จะทำแบบนั้นพี่คงทำไปนานแล้ว พี่ก็แค่เอาเรื่องนี้มาขู่หนู"
น้ำตาไหลอาบแก้มของหญิงสาวอย่างน่าสงสาร เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายทุกครั้งที่คิดว่าหลังจากนี้กันนิชาจะมีอนาคตยังไงต่อไป
"ไม่มีใครกินลูกเจี๊ยบหรอกยุ้ย เขาก็ต้องเลี้ยงให้มันโตเป็นไก่ก่อนถึงค่อยเชือดแล้วจับมาต้มยำทำแกง"
...........TBC..........
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กวีนี้มีทั้งเงินมีทั้งอำนาจ
ทำอะไรก็มีข้อต่อรองเหนือคนอื่นตลอด ส่งใครมาจัดการที
พ่ออนิลได้มั้ย
กวีออกมากี่ทีก็เกลียดคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าทุกคนเลยทำตัวเหนือกว่านี่อยากให้งัดข้อกับจอมพลจริงๆ เลย
ฉลาดและเห็นแก่ตัว นี่เป็นพระเอกละป่าว
คุณพระคุณเจ้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้ใครจะสามารถจัดการกับกวีได้ ไม่รู้ว่าจะมีมั้ย และไม่รู้ว่ากวีจะร้ายไปมากกว่านี้หรือเปล่า /พนมมือ
จินกับบีอ่ะ เขินจัง น่ารักสุดๆ ชอบ