ตอนที่ 9 : 8 : ภาระ or พารัก
8
ภาระ or พารัก
"น้ำ...หิวน้ำ งือ"
มือเรียวป่ายปัดไปทั่วเตียง พยายามหาแว่นของตัวเองแต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ไหน ภาพที่พร่าเลือนเพราะค่าสายตาที่ติดลบเกือบห้าร้อยทำให้ทุกอย่างภายในห้องที่ไม่คุ้นเคยดูจะลำบากมาก จินตภัทรไม่รู้ว่าแว่นตาหายไปไหน แต่เพราะอาการคอแห้งที่เกิดขึ้นมันทรมานเกินไปจนต้องลุกงัวเงียขึ้นมามองหาน้ำดื่ม โชคดีที่อีกฝ่ายเปิดไฟหัวเตียงและห้องน้ำทิ้งไว้ให้ถึงได้มองเห็นว่าอะไรอยู่ทางไหนบ้างถึงจะมัวๆ ไปนิด
สัมผัสแรกที่แตะจมูกจากในตู้เย็นที่เปิดออกมาทำเอาแทบอาเจียน เหมือนกลิ่นโซนฟาสต์ฟู้ดของห้องสรรพสินค้าที่มีสารพัดกลิ่นอาหารตีกัน จินตภัทรพยายามหยีตามองหาขวดน้ำดื่ม จนกระทั่งเจอขวดใสๆ ที่เสียบอยู่ มือเรียวหยิบแล้วรีบหมุนฝาเกลียวออกก่อนจะกระดกขวดดื่มอึกๆ อย่างกระหาย ถึงรสชาติจะแปร่งๆ ไปบ้างมีรสฝาดๆ หวานๆ ไม่รู้ว่าเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย ลิ้นเลยรับรสแปลกไป หรือเพราะแท้จริงมันไม่ใช่น้ำเปล่า
วางขวดแก้วเปล่าๆ ไว้ในอ่างล้างจานที่อยู่ข้างตู้เย็นแล้วก็พาตัวเองเดินสะเปะสะปะไปทิ้งตัวลงนอนหลับไปอีกรอบ โดยไม่ได้ยินแม้แต่ เสียงดัง แกร๊ก เบาๆ ของวัตถุกรอบสีดำ ที่หล่นลงมาอยู่ข้างเตียง
....................
"อารมณ์ดีจังวะ วันนี้สอยเด็กได้เหรอ ยิ้มไม่หุบเลยมึง ไอ้บี"
เสียงแซวของพี่ชายเจ้าของร้านดังขึ้นมาทักทายขณะที่ร่างสูงใหญ่เดินลงจากเวที วันนี้กวินไม่ได้มาเพราะสลับกับพี่ชายดูหลานที่บ้าน
"เปล่าพี่ เอ่อ วันนี้ผมกลับก่อนนะ"
"เฮ้ย ไม่อยู่แดกด้วยกันก่อนวะ"
"วันหลังละกันพี่กวี ผมกลับก่อน"
"เออๆ กลับดีๆ มึง"
กวีมองตามเพื่อนของน้องชายอย่างรู้สึกแปลกใจ เพราะปกติต่อให้ได้หญิงกลับห้อง จอมพลก็ไม่เคยกลับเร็วขนาดนี้ เพราะนี่เพิ่งจะตีสอง ปกติหลังจากเล่นเสร็จ ก็ต้องมานั่งกินเหล้าฟรีจนเกือบสว่างกว่าจะกลับไปหลับไปนอน
ชายหนุ่มแทบจะเหาะกลับมาคอนโดฯ เพราะเปลี่ยนจากเรียกแท็กซี่มาเป็นซ้อนมอเตอร์ไซค์เด็กในร้านให้พามาส่ง มันเป็นวันแปลกๆ ที่เจ้าตัวไม่เข้าใจว่าทำไมจิตใจถึงจดจ่ออยู่กับคนที่นอนก้นโด่งอยู่ที่ห้อง ตื่นเต้นแม้กระทั่งตอนเดินออกจากลิฟต์แล้วแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง กวาดตามองทุกอย่างยังปกติดีอยู่ มือหนากดสวิตช์เปิดไฟดวงกลางห้องแล้วค่อยๆ ย่องไปวางกระเป๋ากีตาร์ กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือโยนไว้บนโซฟาก่อนจะใช้เท้าเหยียบส้นรองเท้าผ้าใบคู่เก่งถอดออก แล้วจมูกก็ปะทะกับกลิ่นเท้าของตัวเองจังๆ
"หื้ม สัด...เดี๋ยวแม่งตื่นมาด่าอีก จมูกยิ่งดีๆ อยู่"
บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบโยนรองเท้าใส่ตู้แล้วพับขากางเกงยีนส์ขาดๆของตัวเอง แล้วเดินไปล้างเท้า แต่ล้างไปล้างมาขากางเกงก็เปียกอีก สุดท้ายก็ต้องถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ทั้งที่ปกติกลับมาชุดไหนก็นอนมันชุดนั้นตลอด
"เหย"
ร่างสูงที่เดินเช็ดผมออกมาหยุดหน้าตู้เย็นมองขวดเปล่าที่วางทิ้งไว้ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่นอนหลับอุตุอยู่ ขวดแก้วที่วางทิ้งไว้คือขวดวอดก้าผสมสไปรท์ที่เขาเอาไว้จิบอันตรธานหายไปทั้งขวด ซึ่งมีความแรงพอสมควรเมื่อถูกผสมไปแล้ว
"จีน" มือหนาทิ้งผ้าเช็ดผมลงบนเก้าอี้ข้างเตียงที่พาดเสื้อผ้าสารพัดเอาไว้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ร่างบางที่นอนหลับสนิท แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย จนกระทั่งวางมือลงที่แขนเรียวและสัมผัสถึงไอร้อนที่ทำเอาสะดุ้ง
"ฉิบหายละ"
จอมพลรีบแตะหลังมือตรงซอกคอขาว และพบว่าอุณหภูมิร่างกายของจินตภัทรตอนนี้มันสูงมากจนผิดปกติ เขาไม่รู้ว่าเพราะเจ้าตัวมีไข้อยู่แล้ว หรือเพราะดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป เพราะมันเป็นได้ทั้งสองอย่าง และอันตรายเกินไปถ้าหากจะปล่อยให้หลับไปทั้งแบบนี้ เพราะหลายคนที่เมาหลับแล้วช็อกตายไปไม่รู้เรื่องก็มีเยอะแยะ
"ห่าเอ๊ย ไม่ได้นอนแล้วกู" สบถกับตัวเองก่อนจะคว้าผ้าเช็ดผมที่เพิ่งโยนทิ้งไปขึ้นมาแล้วรีบไปคว้ากระติกน้ำแข็งที่พอจะรองน้ำมาใช้แทนกะละมังได้เพราะเขาไม่มีอะไรที่พอจะใช้ได้เลย
"อื้อ หนาว"
เสียงงัวเงียงอแงดังขึ้นทันทีที่มือหนาค่อยๆ เช็ดใบหน้าและลำคอให้เพื่อลดไข้ จินตภัทรขยับหนีทั้งๆ ที่หลับตา แต่แทนที่จะถอยออกก็ดันขดตัวแล้วเกยขึ้นมาหนุนบนตักของร่างสูงแทน
มือเล็กๆ จิกกางเกงบ็อกเซอร์ของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว จอมพลได้แต่ก้มมองคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วถอนใจออกมา มือที่ถือผ้าขนหนูอยู่ค่อยๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางแล้วเช็ดตัวให้ เขาต้องสละเสื้อฮู้ดสีแดงแขนยาวราคาแพงสวมทับเสื้อยืดบริจาคของเด็กชาวเขา เพราะจินตภัทรดูเหมือนมีไข้จริงๆ ขืนยังสวมเสื้อบางๆ นอนก็มีหวังได้นอนขี้มูกไหลจนเช้าแน่ๆ
หลังจากที่เอาผ้าไปซักตากเรียบร้อยก็เดินกลับมาพร้อมที่จะทิ้งตัวลงนอน แต่กลับรู้สึกขบขันกับท่านอนก้นโด่งของจินตภัทรที่ตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ สวมเสื้อผ้าผิดไซซ์ ทั้งชายเสื้อที่ยาวปิดคลุมลงมาจนถึงเข่า แถมมือเล็กๆ ก็หายเข้าไปในแขนเสื้อจนหมด
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ วางเข่าลงบนเตียงและขยับไปนอนข้างๆ ก่อนจะถอนใจออกมาอย่างเซ็งๆ ที่เขาไม่เคยมีผ้าห่มเพราะเป็นคนขี้ร้อน ก็เลยไม่เคยมีเครื่องนอนชนิดนี้อยู่เลย พอมาตอนนี้กลับรู้สึกอยากจะมีขึ้นมาเพราะคนข้างๆ
จอมพลขยับเข้าไปหาร่างที่นอนหลับอุตุก่อนจะสอดแขนโอบเอวและรั้งกายบางให้ขยับเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ทันทีที่รวบตัวมากอดไว้ จินตภัทรก็ขยับเข้าหาไออุ่นอย่างอัตโนมัติราวกับเด็กติดหมอนข้าง ขาเล็กๆ พยายามก่ายขึ้นมาบนขายาวๆ ของจอมพล แต่สุดท้ายก็ก่ายไม่ได้เพราะขาสั้นเกินไป การกระทำนั้นตลกจนเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนที่ยังไม่หลับได้ก่อนจะถอนใจออกมาขณะที่พิจารณาใบหน้าของจินตภัทรใกล้ๆ
นิ้วหัวแม่มืออุ่นค่อยๆ เกลี่ยแก้มใสไปมาอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาไม่เคยถามอายุจินตภัทร แต่ก็พอเดาได้ว่าคงไล่ๆ กับเขา แต่ที่แน่ๆ คงเด็กกว่าสักปีสองปี เพราะดูจากท่าทางแล้วมันงอแงผิดวิสัยคนที่โตๆ กันแล้ว
"หึๆ"
จอมพลผงะไปอึดใจหนึ่งเมื่อมีเสียงหัวเราะดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจกั้น จินตภัทรนอนหัวเราะหึๆ ออกมาเหมือนคนละเมอทั้งที่หลับตาอยู่
"เอ๊า แก๊งสามช่าเข้าฝันเหรอวะ"
จอมพลแซวคนละเมอขณะบีบแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว แต่จู่ๆ ร่างบางที่นอนหัวเราะเมื่อครู่ก็ปัดมือเขาทิ้งแล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นมาเหมือนองค์ประทับ ร่างสูงแทบจะพนมมือรับพ่อปู่ที่อาจจะประทับร่างคนตรงหน้า แต่พอเห็นมือเรียวเริ่มดึงเสื้อที่สวมอยู่อย่างหงุดหงิดก็รู้เลยว่าไม่ใช่องค์พ่อปู่ แต่เป็นฟิลลิ่งคนเมาล้วนๆ
"โง้ยยยยยยย ร้อนนนนนน" เสียงขี้เมาบ่นก่อนจะมุดหัวลงไปในคอเสื้อแล้วหาทางถอดออก
"เฮ้ยๆ อย่าถอดนะ ถอดปั๊บนี่จับขึงเลยนะ" จอมพลรีบรั้งชายเสื้อฮู้ดสีแดงของตัวเองที่สวมให้จินตภัทรเอาไว้พลางพูดขู่ไปขำไป
"อ๊อย ร้อนนนนนนน ม่ายเปิดแอร์ไง ขี้งกอ่อ เปิดแอร์กัวเปืองหง่อ"
คิ้วหนาเลิกขึ้นขณะที่ฟังคำตัดพ้อซึ่งมันคุ้นมากเพราะเขาเคยพูดกับจินตภัทรแบบนี้ตอนที่ไปค้างห้อง 2207
มือหนาแกล้งผลักอีกฝ่ายที่ยังมุดหัวอยู่ในเสื้อหาทางออกไม่เจอ ผลักเล่นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ผลักไป ผลักมา แล้วขำสนุกอยู่คนเดียว จนกระทั่งเสียงสุดระทึกขวัญดังขึ้น
"อึก อุ๊แหวะ!"
"เอ้า เหี้ย!"
ร่างสูงกระเด้งลุกจากเตียงก่อนจะรวบชายเสื้อที่จินตภัทรสวมอยู่แล้วรีบถอดออก ซากของเก่าที่จินตภัทรแหวะออกมาทำเอาเจ้าของห้องอยากลงไปดิ้นตาย เสื้อที่แสนแพงเละเทะไม่มีชิ้นดี ตอนนี้จินตภัทรนั่งเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงหน้าตาเหลอหลา เริ่มมีสติขึ้นมานิดๆ
"เอ๊า ลุกสิเว้ย"
จอมพลรีบลากคนที่ยังเมาขี้ตาให้ลงมาจากเตียง โชคดีที่ไม่เลอะผ้าปูที่นอนด้วย มือหนาผลักจินตภัทรเข้าไปในห้องน้ำ แล้วสั่งให้ล้างหน้าบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากให้สะอาด ส่วนตัวเองก็ยืนไว้อาลัยเสื้อราคาเกือบหกพันที่ถูกหย่อนลงถุงดำอย่างเศร้าๆ
"แม่ง กูจะทำไงดีวะเนี่ย ไอ้เชี่ยตีห้าแล้ว เมื่อไหร่กูจะ..." ขณะที่กำลังบ่นอยู่หน้าอ่างล้างจานก็สะดุ้งสุดตัวเพราะอยู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตมุดหัวเข้ามาอยู่ในเสื้อเขาแล้วบ่นเหมือนเด็ก
"หงึ หนาว ฮืออออ"
สัมผัสของผิวนุ่มลื่นที่แนบอยู่ที่แผ่นหลังชวนสยิวจนยืนเกร็งไปหมด จินตภัทรดูเหมือนจะไม่ค่อยมีสติมากเท่าไหร่ถึงกล้ามุดเข้ามาในเสื้อเขาแบบนี้ ความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นในใจตอนที่แขนเล็กๆ กอดเอวเขาไว้แน่นขณะที่ตัวยังซุกอยู่ในเสื้อขยุกขยิก
"ถ้าไม่สร่างจะทำให้อุ่นจนร้อนเลย" คำพูดสองแง่สองง่ามที่รู้อยู่คนเดียวเอ่ยออกมาทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่เข้าใจ
"..." ไม่มีสัญญาณตอบรับจากมนุษย์ผู้มีส่วนสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดเซนติเมตร
"จีน..."
เรียกชื่อเป็นครั้งสุดท้าย และความอดทนของมนุษย์ผู้ชายที่พร้อมจะข่มเหงคนไร้สติก็หมดลง มือหนาเลิกเสื้อยืดแล้วถอดออกก่อนจะปามันลอยข้ามห้องไป หันกลับมาหาคนที่ยืนหลับกลางอากาศเตรียมจะผลักร่างบางให้ถอยกลับไปที่เตียง แต่มือหนากลับหยุดคว้างทำอะไรไม่ถูกเมื่อหัวกลมของจินตภัทรเซมาซบอกเขาแล้วใช้สองแขนโอบกอดเขาอีกครั้ง
"อุ่นจัง..."
เสียงละเมอราวกระซิบของจินตภัทรดังขึ้นพร้อมกับแก้มนุ่มๆ ไถไปไถมากับอกกว้าง
ร่างสูงใหญ่ที่คิดจะเผด็จศึกอีกฝ่ายทำได้แค่ยืนเคว้งคว้างไม่รู้จะต้องทำยังไง แต่คิดว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่จินตภัทรเมา
ถ้าอีกฝ่ายยังมีสติอยู่ จอมพลคิดว่าเขาคงรู้สึกอายมากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายแนบใบหน้าลงมาที่หน้าอกข้างซ้ายตอนนี้
เพราะเสียงหัวใจของเขามันดังยิ่งกว่าเสียงกลองชุด รวมทั้งใบหน้าก็ซ่อนความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มือที่ลอยคว้างค่อยๆ สัมผัสไหล่เนียนและลูบไล้ผิวบอบบางด้วยความรู้สึกเผลอไผล ค่อยๆ ประคองกอดคนที่ตัวเล็กกว่าเอาไว้ กอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ พลางก้มลงกดจมูกลงที่เรือนผมนุ่มและค่อยๆ กดจูบแผ่วเบา
ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่าย เพราะความคิดที่ไม่ตรงกัน และเพิ่งจะทะเลาะกันแรงๆ ไป แต่เขากลับถูกดึงดูดด้วยการกระทำน่ารักๆ ที่จินตภัทรคงไม่รู้ตัวเลยว่ามันสร้างความเสียหายกับหัวใจคนอื่นมากแค่ไหน
ความรู้สึกหมั่นไส้ที่เคยเกิดขึ้นมันจางหายไปจนเขาจำไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่เคยรู้สึกพิศวาสคนในอ้อมกอดแม้แต่น้อย
ขณะที่ตกอยู่ในห้วงความสับสนในจิตใจกับคนข้างห้องที่เจอกันแค่อาทิตย์เดียว ชายหนุ่มกลับลืมเลือนอดีตไปได้โดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ชอบที่จินตภัทรทำให้นึกถึงพิมพ์ในบางครั้ง
แต่เขาชอบตัวเองเวลาที่อยู่กับจินตภัทร ได้เป็นตัวเอง ได้พูด ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำกับใคร
และชอบช่วงเวลานี้...ช่วงเวลาที่เหมือนได้พบกลับมาเจอ เพื่อนเก่า ที่หายหน้าหายตาไปนาน
เพื่อนเก่าที่ชื่อว่า...ความรัก
....................
เสียงนกที่เกาะอยู่บนกรอบหน้าต่างเหนือเตียงดังจุ๊บจิ๊บๆ ราวกับพวกขี้นินทา ดวงตารีค่อยๆ ลืมขึ้นพร้อมกับความรู้สึกที่หนักหัวไปหมดเหมือนตอนไปรับน้องแล้วรุ่นพี่บังคับให้ดื่มเหล้า ตื่นเช้ามาก็อาการคล้ายๆ แบบนี้
สิ่งแรกที่จินตภัทรมองเห็นคือใบหน้าเลือนๆ ของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ดวงตาปรือปรอยของคนเพิ่งตื่นกวาดตามองไปเรื่อยจนมาถึงมือที่วางไว้ข้างหมอน ขยับนิ้วเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกถึงมืออุ่นๆ ที่จับมือเขาเอาไว้ นิ้วที่ใหญ่กว่าสอดประสานไว้ระหว่างนิ้วเรียว ถึงจะมองไม่ชัดแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายจับมือเขาเอาไว้ พอค่อยๆ ดึงออก มือของคนที่หลับอยู่ก็รีบกุมมือเขาเอาไว้ พร้อมกับชื่อที่เอ่ยออกมาจากปากของคนที่ยังหลับสนิท
"จีน..."
ทั้งที่ผ่านมามีแต่ชื่อของผู้หญิงคนนั้นตลอด แต่ในวันนี้กลับเป็นชื่อของตัวเองได้ยินชัดเจนเต็มสองหู...
นาทีนั้น จินตภัทรรู้สึกกลัว...กลัวความสัมพันธ์บางอย่างที่มันอาจจะเกิดขึ้น
กลัวว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ จะเข้าใจผิด เพียงเพราะความสนิทสนมที่เกิดขึ้นเร็วเกินไประหว่างกันและกัน
ได้แต่ภาวนาว่าเมื่อตื่นขึ้นมา จอมพลจะด่าเขาต่อไป หรือยังแกล้งเขาเหมือนที่ผ่านมา
แต่ขออย่างเดียว อย่าพูดว่าชอบหรือรักกันเด็ดขาด...
.............TBC...............
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นอะไรธรรมดาแต่อบอุ่นมากๆ ละมุนมาก งื้อ