ตอนที่ 78 : Ep.17 Find Me
Upside Down
Welcome To The Upside Down
EP.17
"กากา นิๆ เอลโม่..."
ขณะที่กำลังง่วนอยู่กับมื้อเที่ยงของหลานสาว ชายหนุ่มก็เอี้ยวตัวหันมามองเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังชูโทรศัพท์ให้เขา ในคราแรกที่หันไปมองเขารีบส่ายหน้าและปฏิเสธทันที
"ในนี้ไม่มีครับ ต้องให้อาโหลดมาใหม่ก่อนนะ"
"มีๆ นี่ๆ มี โม่ๆ"
เด็กหญิงยังยืนยันว่าสิ่งที่เธอถืออยู่มันมีเจ้าเอลโม่จริงๆ กวินถอนใจก่อนจะเช็ดมือแล้วคิดว่าคงต้องเปิดหาในยูทูปให้น้ำหวานก่อน แต่ทันทีที่ก้มลงไปรับโทรศัพท์มา เครื่องที่น้ำหวานส่งให้มันกลับไม่ใช่เครื่องที่เขาใช้อยู่ในปัจจุบัน...แต่เป็นเครื่องที่ฝนทิพย์บอกว่าหายไปแล้วตอนที่เกิดอุบัติเหตุ...
เพราะเขาไม่ได้บอกใครว่าจะเรื่องทุกอย่างได้ เพียงแค่อยากรักษาน้ำใจคนที่บ้านและไม่อยากให้เรื่องของพิมพ์กลับมาทำให้ฝนทิพย์ลำบากใจอีก ทั้งโทรศัพท์และความจริงที่เขารู้มาจากความทรงจำที่ค่อยๆ หวนคืนมา ทุกอย่างเหล่านี้มีเพียงจินตภัทรที่รู้ว่าเขาจำได้แล้ว
"ถ้าการที่เราจดจำได้ มันทำร้ายคนอื่น หรือทำให้คนที่หวังดีกับเราต้องทุกข์ใจ ก็ทำเป็นไม่รู้ไปเถอะ..."
คำพูดของจินตภัทรไม่ได้หมายถึงฝนทิพย์กับกวี แต่หมายถึงจอมพลด้วยที่ยังไม่รู้ว่ากวินจำอะไรได้บ้าง และพอใจที่จะให้เขาเข้าใจผิดอยู่แบบนั้นว่าพิมพ์ประสบอุบัติเหตุเอง ไม่เกี่ยวกับอนิล เพราะทุกคนต่างคิดว่าเขาคงรับไม่ได้หากรู้ความจริง
เขาปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับโทรศัพท์ในมือที่ถูกปิดเครื่องเอาไว้ เขาคิดว่าฝนทิพย์คงไม่รู้จะทำยังไงกับเครื่องเขาเพราะไม่มีรหัสปลดล็อคเครื่อง เลยยังไม่กล้าคืนให้เพราะในนั้นคงมีข้อความที่เขาคุยกับพิมพ์อยู่
"น้ำหวานหม่ำๆ ข้าวก่อน หมดถ้วยแล้วเดี๋ยวอาเปิดให้ดู" กวินต่อลองกับหลานสาวเพื่อยื้อเวลาที่จะเปิดเครื่องและทำใจสักพัก
เด็กหญิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พอใจแต่ก็พาร่างกลมๆ ของตัวเองไปนั่งอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นเพื่อรอกินข้าวตามคำสั่งของคุณอา
กลิ่นข้าวตุ๋นใส่หมูบดกับสาหร่ายและแครอทบดถูกวางให้พร้อมช้อนพลาสติกลายลูกเจี๊ยบสีเหลืองประจำตัว เด็กหญิงค่อยๆตัดข้าวที่ยังอุ่นๆ ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเชื่อฟัง
กวินนั่งลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะกดเปิดเครื่อง รออยู่ไม่กี่นาที เมื่อโทรศัพท์ต่อเข้ากับสัญญาณอินเตอร์เน็ต สิ่งแรกที่เด้งขึ้นมาคือไลน์ที่เตือนขึ้นมาประมาณสี่ห้าข้อความจากคนๆ เดียว ที่ถูกส่งมาตั้งแต่ 3 อาทิตย์ที่แล้ว
นิ้วมือของชายหนุ่มค่อยๆ แตะเข้าโปรแกรมแชทและไล่สายตาอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกถ้อยคำที่ 'อนิล' ส่งมาทุกคำล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึก ราวกับอีกฝ่ายนั่งอยู่ตรงนี้และโอบกอดเขาเอาไว้...
Baby Earn : เอินไม่มีคำแก้ตัวอะไรสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็ไม่ได้อยากขอความเห็นใจอะไรทั้งนั้น ความผิดของเอินมันคงชดใช้ไม่ได้ง่ายแล้วก็คงช่วยให้แจ็คเข้าใจเอินไม่ได้ เป็นใครก็คงรับไม่ไหว ถ้าแจ็คจะโกรธหรือเกลียดกันก็ไม่เป็นไรนะ
Baby Earn : แต่ยังไงก็ยังอยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ทุกอย่างที่เอินทำให้แจ็คแล้วก็คนในครอบครัวเสียใจ เอินคงทำได้แค่ขอโทษในนี้เพราะพ่อไม่ยอมให้เอินออกจากบ้านไปแม้แต่งานศพของพิมพ์ เอินไม่รู้วาพ่อกับแม่ชดเชยให้ครอบครัวพิมพ์มากพอรึเปล่าแต่ทั้งหมดนั้นมันคงไม่สามารถทดแทนชีวิตคนๆ หนึ่งที่จากไปได้ ถ้ามีอะไรที่ครองครัวพิมพ์ต้องการมากกว่านี้ให้บอกทางทนายของพ่อเราได้เลยเพราะถึงนั้นเราคงไม่ได้อยู่ที่ไทยแล้วคงไม่สามารถจะชดเชยได้ด้วยตัวเองจริงๆ
Baby Earn : สำหรับเรื่องของเรา เอินรู้ว่ามันคงยากที่จะร้องขออะไร เอินเข้าใจดีว่าแจ็คเองก็คงทำใจลำบาก ไม่ต้องตอบอะไรกลับมาก็ได้ เอินเข้าใจทุกอย่างและขอให้แจ็คผ่านช่วงเวลาที่ลำบากไปได้ด้วยดี มีความสุขมากๆ กับชีวิตที่จะดำเนินต่อจากนี้ และขอโทษอีกครั้งที่ทำให้แจ็คต้องสูญเสียคนสำคัญไปเพราะเอิน ขอโทษที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการขอโทษอีกแล้ว
Baby Earn : เอินอยากให้แจ็ครู้ว่าเอินยังรักแจ็คเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
Baby Earn : ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน แม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับเอินแล้วมันช่างยาวนานเหลือเกินจนลืมไปเลยว่าเราเพิ่งคบกันจริงจังไม่กี่อาทิตย์ แจ็ครู้ไหม แจ็คเป็นแฟนคนแรกของเอินและแล้วเอินก็จะให้แจ็คเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดไป เอินรักแจ็คนะ...ขอโทษ และ ลาก่อน
"กากา..." เสียงเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อเงยหน้ามองคุณอาของเธอที่จู่ๆ ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา มือเล็กๆ วางช้อนลงก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมาหาคุณอาพร้อมกับมือเล็กๆ ที่เอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้ด้วยหัวใจที่เต้นรัวทั้งตกใจและสะเทือนใจตามประสาเด็กที่เห็นคนในบ้านร้องไห้แล้วก็เริ่มเบะปากตาม คุณอากอดเธอเอาไว้แน่นและร้องไห้เสียงดัง ร้องไห้แบบที่คุณพ่อบอกว่า 'ขี้มูกโป่ง'
น้ำหวานวางคางไว้ที่ไหล่หนาก่อนจะลูบแผ่นหลังของคุณอาเบาๆ เหมือนที่ทุกคนชอบทำกับเธอ ลูบหลังแล้วจูบแก้มเปียกของคุณอาเหมือนที่คุณอาเคยปลอบเธอในยามฝันร้าย
"มะโร้งน้า กากา มะโร้ง..."
เธอคิดว่าคุณอาคงมีเรื่องเสียใจมาก
อาจจะเพราะเธอดื้อรึเปล่า? เพราะแม่ชอบบอกว่า 'น้ำหวานดื้อมากๆ จนแม่อยากร้องไห้'
"มะดูเอลโม่ก๊ะด้าย น้า กากา มะโร้ง"
ความรู้สึกที่ทั้งหดหู่และเสียใจ ถูกขัดขึ้นเพราะเสียงของหลานสาวและมือเล็กๆ ที่หยิบโทรศัพท์มาคืนให้ก่อนที่เธอจะไปนั่งกินข้าวเงียบๆ และแอบเหลือบมองเขาว่าโอเคขึ้นรึยัง กวินยิ้มให้หลานสาวด้วยความเอ็นดูและไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเอ่ยชื่นชมความน่ารักของน้ำหวานได้อีกแล้ว มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะของเด็กหญิงที่มองหน้าเขาแล้วยิ้มตอบอย่างเอาอกเอาใจ
"เดี๋ยวกินอีกสองคำ อาให้ดูเอลโม่ตอนใหม่นะครับ"
"จิงหงอ?" เด็กหญิงถามเสียงสูงพลางทำตาโตอย่างดีใจ กวินยิ้มทั้งน้ำตาและพยักหน้าให้พร้อมคำตอบ
"จริงครับ"
.........20%.......
สระว่ายน้ำกลายเป็นที่ประจำที่คนในบ้านจะเห็นอนิลนั่งกอดเข่าและมองเงาตัวเองเงียบๆ ปล่อยตัวแะใจจมอยู่ในความคิดที่ไม่มีใครหยั่งถึง...
สองสามวันแล้วที่พี่สาวของอนิลซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ แม้ว่าจะสามารถซิงค์ข้อมูลทุกอย่างกลับมาได้ รวมทั้งแอคเค้าท์แชทที่้ประจำ มีเพียงข้อความเก่าที่หายไปแม้จะสามารถเปิดดูได้ในคอมพิวเตอร์ แต่อนิลก็เลือกที่จะไม่กลับไปอ่านมันอีก ทั้งที่คราแรกคิดไว้ว่าอยากจะติดต่อไปหาจินตภัทรเป็นคนแรก แต่ทุกอย่างกลับหยุดชะงักไปเมื่อเขาเห็นข่าวงานแถลงเปิดกล้องละครที่ซื้อต้นฉบับนิยายของเพื่อนเขามาและพระเอกที่ได้เล่นก็เป็นจอมพล สีหน้าและท่าทางจินตภัทรเต็มไปด้วยความสุขแม้ว้าจะไม่ได้ประกาศความสัมพันธ์กับคนรัก แต่ดูก็รู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เขาจะดึงเพื่อนให้มาสนใจเรื่องของตัวเอง
เพื่อนแบบที่เขาเป็น...คือคนที่คอยอยู่เคียงข้างในวันที่จินตภัทรไม่มีใคร ในวันที่เจ็บปวดและทุกข์ระทม
แต่ไม่ใช่วันที่เพื่อนกำลังมีความสุขแล้วอยู่ๆ ก็เดินไปโยนความทุกข์ใส่...
อนิลเลือกที่จะอยู่คนเดียวในช่วงเวลาที่ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เลือกที่จะพิจารณาตัวเองเงียบๆ เรื่องที่จะเรียนต่อถูกเลื่อนออกไปเพราะพี่สาวที่ช่วยคุยกับแม่ให้ว่าจิตใจเขาตอนนี้มันไม่พร้อม การเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดีมันก็ดีตรงนี้ ดีตรงที่สามารถจะพักได้ และปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเขาก็มีกินอยู่แล้ว แต่...เขาทำแบบนี้ไม่ได้ตั้งแต่มีจินตภัทรเป็นเพื่อน
เพราะจินตภัทรมาจากครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง พ่อแม่เป็นข้าราชการครู มีน้องชายที่อยู่ในวัยเรียนอีกหนึ่งคน นั่นจึงส่งผลให้เขาไม่เคยทำตัวล่องลอยปล่อยเวลาไปวันๆ เลย ขนาดแม่กับพี่สาวบอกให้เขาไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนมัธยม สุดท้ายเขาก็ไปแฮงค์เอ้าท์ได้แค่คืนเดียวและกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง...เพราะเขาเบื่อความเรื่อยเปื่อยที่ไม่เคยชินสักนิด
เพลง Fetish ของ Selena Gomez เปิดวนซ้ำไปซ้ำมาดังอยู่ในหูฟังไวเลสสีดำของ Monster ที่อนิลสวมเอาไว้ เขาเจอมันในห้องนอนของขวัญจากเพื่อนสมัยมัธยมสักคนที่บ้าหูฟังและหารุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์นี้มาให้เขาจนได้
You got a fetish for my love (เธอเกิดอารมณ์กับความรักของฉัน)
I push you out and you come right back (ฉันผลักไสเธอออกไปแล้ว แต่เธอก็ยังกลับมาหาฉันอยู่ดี)
เสียงของอนิลฮัมเพลงออกมาก่อนจะนอนลงที่ริมสระ เสื้อกล้ามสีชมพูที่สวมอยู่ชายเสื้อจุ่มลงไปในสระจนน้ำค่อยๆ ซึมจนแผ่นหลังบางเปียก ดวงตากลมโตหลับตาลงขณะที่ปล่อยให้เนื้อหาในเพลงนำพาให้เขาย้อนกลับไปอยู่ในช่วงเวลาที่แสนมีความสุข
สัมผัสของคนรัก...รสจูบที่ยังตราตรึง ทำให้คิดถึงจนอยากร้องไห้ออกมา
ช่วงเวลาที่ร่างกายของพวกเขาต่างกอดก่ายกันและกัน...ยากที่จะลืมเลือน
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าที่เขาไม่ได้ยินมานานจากโปรแกรมแชทดังขึ้นเรียกให้อนิลลืมตาขึ้นมาพร้อมกับจังหวะของหัวใจที่เต้นแรงอย่างไร้สาเหตุทั้งที่ยังไม่ได้กดอ่านข้อความนั้น...
GAGAWIN : ถ้าคุณรู้ว่าใครคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม คุณจะไม่ทิ้งผมไปแบบนี้...
GAGAWIN : ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคุณไม่ตั้งใจ คุณไปเพราะคุณรู้สึกผิด แล้วผมทำผิดอะไรคุณถึงทิ้งผมไป?
GAGAWIN : คุณรู้ได้ยังไงว่าผมรักพิมพ์มากกว่าคุณ....
GAGAWIN : คุณรู้ได้ยังไงว่าชีวิตของผมจะมีความสุขหากไม่มีคุณ
GAGAWIN : สิ่งเดียวที่คุณต้องขอโทษผม คือขอโทษที่ทำให้ผมรักคุณมากจนรู้สึกอยากตายทุกครั้งที่ผมไม่รู้ว่าจะติดต่อคุณยังไง จะบอกคุณยังไงดี..ว่าผมคิดถึงคุณ ผมเพิ่งได้โทรศัพท์คืนและเพิ่งได้อ่านสิ่งที่คุณพร่ำขอโทษมาทั้งที่คนที่ผิดมันคือผม
GAGAWIN : ขอโทษที่ปล่อยให้คุณเสียใจและทุกข์ใจอยู่เพียงลำพัง ขอโทษที่ผมยังอยากขอโอกาสจากคุณทั้งที่ผมไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้พ่อคุณเชื่อว่าผมรักคุณ หรือแม้แต่ตัวคุณเอง...ก็อาจจะไม่เชื่อมันด้วยซ้ำ
ร่างผอมบางสะอื้นจนตัวโยนและสั่นสะท้านพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้มและหยดลงบนหน้าจอที่อนิลรีบกด Call หาอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่สับสนไปหมด เขากลัวว่าตัวเองอาจจะกำโดนใครสักคนหลอกให้เขาดีใจเล่น หรือมันอาจจะเป็นเพียงความฝัน...
เสียงคอลไลน์ดังเป็นจังหวะระหว่างที่รอให้อีกฝ่ายรับสาย มันนานจนอนิลเริ่มใจเสียและกลัวว่าทั้งหมดมันจะ...เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง
(ที่นี่ตีหนึ่งแล้วรู้ไหมเอิน แจ็คต้องวิ่งออกมาจากห้องหลานมานั่งโดนยุงกัดตรงระเบียง)
เสียงบ่นที่ทำเอาอนิลหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ร่างบางยืนขึ้นที่ริมขอบสระว่ายน้ำ จุดหมายคือเดินเข้าบ้านแต่...
"ขี้บ่นจัง เมื่อกี้พิมพ์เองหรือว่า..."
พรืด ผลั่ก !
เสียงของอนิลขาดหายไปพร้อมกับเสียงร่างบางที่ถอยหลังผิดจังหวะและหงายหลังศีรษะฟาดขอบสระและตกลงไปในน้ำ โทรศัพท์มือถือหลุดจากมือและกระเด็นคว่ำหน้าอยู่ริมสระ เสียงตะโกนของคนปลายสายที่อยู่กรุงเทพเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ร่างผอมบางในเสื้อกล้ามสีชมพูกางเกงขาสั้นสีขาวค่อยๆ จมดิ่งลงใต้สระว่ายน้ำ ร่างที่หมดสติหยุดนิ่งอยู่ที่ก้นสระเพียงลำพัง โดยไม่มีใครรู้...นอกจากคนที่เพิ่งสนทนาด้วยเมื่อครู่
..................
"ไอ้บ้านั่นมันเป็นอะไร ไล่มันไปสิ นี่มันตีหนึ่งกว่านะเว้ย!"
เสียงเจ้าของบ้านที่ด่าสาดใส่คนดูแลบ้านที่รีบวิ่งมาเคาะห้องปลุกเขาจากนิทราเพราะอดีตแฟนหนุ่มของลูกเขาที่จู่ๆ ก็ขับมอเตอร์ไซค์มาบีบแตรดังลั่นจนทุกคนต้องตื่นลงไปดู และปีนข้ามรั้วบ้านมาโดยไม่รอให้ใครเปิดประตูต้อนรับ
"คุณอรัญคะ ฟังก่อนเถอะค่ะ เขาบอกว่าโทรคุยกับคุณเอินแล้ว..."
"แม่งใครจะไปเชื่อมัน เอินไม่มีโทรศัพท์!" เจ้าของบ้านวัยกลางคนตวาดใส่แม่บ้านก่อนจะเดินกระแทกเท้าอย่างไม่พอใจ หญิงชรารู้สึกร้อนจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเดินตามไปก็เห็นพ่อของคุณอนิลกำลังทะเลาะกับคนที่บุกมายามวิกาลโดยไม่ฟังอะไรเลย
"ผมคุยกับเอินเมื่อสองนาทีที่แล้ว! เขาเงียบหายไป! คุณต้องโทรไปเชคก่อนจะมาด่าผม เดี๋ยวนี้!" กวินแผดเสียงเหมือนคนบ้าเขาดึงดันที่จะให้อีกฝ่ายทำตามคำสั่งโดยไม่สนใจแล้วว่าตัวเองจะโดนอะไรบ้างหลังจากนี้ เขาเป็นห่วงอนิลมากจนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
"แกเป็นบ้าอะไรวะ ฉันบอกแล้วว่าให้...."
ก่อนที่ทุกอย่างจะยืดเยื้อไปด้วยคำต่อล้อต่อเถียง ชายหนุ่มกระชากแขนป้าแม่บ้านเข้ามาและจ่อคอของเธอด้วยปลายปากกาที่คว้าได้จากโต๊ะรับแขก
"เร็ว! โทรหาพี่สาวเอินก่อนที่ผมจะแทงคอเธอ!"
คุณอรัญถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของกวินที่เหมือนคนบ้าไม่มีผิด เขาจำใจต้องกดโทรหาลูกสาวและเปิดสปีคเกอร์ให้อีกฝ่ายได้ยิน ขณะที่แม่บ้านเก่าแก่ถูกจับตัวไว้เป็นตัวประกันกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร
(ค่ะพ่อ)
"แทม ไปเรียกน้องมา เอาโทรศัพท์เดินไปหาน้อง"
(ได้ค่ะ พ่อมีอะไรรึเปล่าคะ?)
"ไปหาน้องก่อนแทม ให้น้องรับสายพ่อเดี๋ยวนี้"
เสียงของหญิงสาวรับคำพ่อด้วยความตื่นตระหนก ช่วงเวลาที่รออยู่กวินรู้สึกเหมือนกำลังจะบ้า หัวใจของเขาเต้นแรงมากจนกระทั่งปลายสายแผดเสียงดังลั่น
(Oh no!)
เสียงของแทมมี่ไกลออกไปเหมือนเธอทิ้งโทรศัพท์และกระโจนลงไปช่วยน้องชายที่นอนคว่ำหน้าอยู่ก้นสระ ไม่นานก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเล่นอนิลและเสียงร้องไห้ของแทมมี่ดังมาจากปลายสาย ที่ทำให้คุณอรัญทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเหมือนหมดเรี่ยวแรง คนเป็นพ่อนั่งน้ำตาตกขณะที่กวินปล่อยหญิงชราและกอดปลอบเธอพร้อมขอโทษที่ทำให้ตกใจ
กวินเดินมานั่งกุมศีรษะเพราะเครียดจนเกิดยืนไม่ไหว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอนิล แต่สิ่งที่เขาทำหลังจากที่อีกฝ่ายเสียงเงียบไปและกดคอลหาไปเท่าไหร่ก็ไม่รับ มันไม่ใช่วิสัยของแฟนเขา ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาใจเย็นพอที่จะรอจนอีกฝ่ายติดต่อกลับมาเอง เขาพุ่งตัวออกจากบ้านพร้อมกุญแจรถรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายและรีบขับตะบึงออกมาอย่างไม่ต้องคิดซ้ำ มันบ้ามากที่เขาบีบแตรลั่นเรียกคนในบ้านของอนิลโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของอนิลอยู่
มันมีความเสี่ยงมากที่เขาจะโดนพ่อของอนิลตบกบาลแล้วส่งตำรวจข้อหาบุกรุกหากอนิลไม่ได้เป็นอะไรแล้วเขาประสาทกินไปเอง แต่อะไรบางอย่างมันทำให้เขาไม่รีรอที่จะมานั่งกลัวเรื่องพวกนั้น เขาห่วงอนิลจนไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันไร้สาระแม้แต่น้อย
(พ่อคะ..)
"ว่าไงลูก"
เสียงของคนเป็นพ่อที่คว้าโทรศัพท์มาตอบลูกสาวโดยที่ลืมไปว่าเปิดสปีคเกอร์อยู่ กวินเข้าใจท่าทางแบบนั้นดี คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ตกยู่ในความวิตกและหวาดกลัวยิ่งกว่าเขา
(โชคดีที่เรามาทันเวลาพอดี น้องเกือบตายไปแล้วถ้าพ่อไม่โทรมา ฮึก หนูขอโทษค่ะที่ดูแลน้องไม่ดี) เสียงของหญิงสาวที่สะอึกสะอื้นออกมา เพราะเธอยังไม่รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ คำพูดของแทมมี่ราวกับกล่าวโทษตัวเองที่ปล่อยให้น้องคิดสั้นแบบนั้น
"น้องเป็นยังไงบ้าง?" เสียงแหบแห้งถามกลับไปพร้อมกับเสียงสะอื้นเล็กน้อย
(เดี๋ยวนะคะพ่อ เอิน โอเคไหม? พ่ออยากคุยด้วย)
เสียงของแทมมี่เรียกน้องชายก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้อีกฝ่าย เสียงแทมมี่กระซิบถามน้องชายซ้ำๆว่าโอเคไหม? นี่มันเกิดอะไรขึ้น และคำตอบที่ลอยมาจากปลายสายคือ 'เอินลื่นขอบสระแล้วหัวคงไปฟาดขอบดูดิ หัวโนเลย' และพี่สาวคนดีก็ตอบว่า 'พี่จะทุบมันทิ้งพรุ่งนี้' กวินฟังแล้วไม่แปลกใจเลยว่าบ้านนี้เลี้ยงอนิลมายังไง...
(พ่อ)
"เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมทำแบบนี้?" เสียงที่สั่นเครือของคุณอรัญทำเอากวินน้ำตาคลอตามไปด้วย เขาเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อดีถึงแม้จะไม่มีลูก แต่เขาก็มีหลานสาวที่ให้ความรู้สึกเดียวกัน
(มันเป็นอุบัติเหตุ พ่อใจเย็นๆ ก่อน แต่พ่อรู้ได้ไง ถ้าแทมมาไม่ทันเอินต้องตายทุเรศมากอะ หน้าทิ่มสระเด็กตาย Tammy my head really hurt ฮืออออ)
เสียงอ้อนพี่สาวของอนิลทำเอากวินแอบอมยิ้มเพราะเขาไม่เคยได้ยินเวลาคนรักคุยกับพ่อแม่หรือพี่สาว น้ำเสียงและคำพูดของลูกคนเล็กนี่มันน่าหมั่นไส้จริงๆ
ชายหนุ่มลุกขึ้นเงียบๆ และเดินไปกอดขอโทษป้าแม่บ้านอีกครั้ง เธอดูเสียขวัญมากจริงๆ แต่กลับขอบคุณเขาที่มาช่วยคุณหนูของเธอไว้ กวินได้แต่ยิ้มและหันหลังเดินออกไปจากห้องรับแขกเงียบๆ แต่เสียงของเจ้าของบ้านที่ตอบลูกชายที่อยู่ปลายสายกลับทำให้เขาหยุดฝีเท้าและหันกลับไปมองอีกฝ่าย
"แฟนของลูกเป็นคนบอก...ลูกต้องขอบคุณเขา"
ชายวัยกลางคนยืนขึ้นและเดินตรงมาหากวินและยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขา ก่อนที่มืออุ่นจะตบไหล่ของชายหนุ่มและกระซิบบอกขอบคุณเขา...
"ขอบคุณความบ้าบอของเธอที่ช่วยลูกฉันเอาไว้ แต่ถ้าวันหลังคิดจะจับใครเป็นตัวประกันฉันแนะนำให้เปลี่ยนเป็นแม่ยายของเธอ"
คำพูดติดตลกที่ทำให้กวินหลุดยิ้มออกมาก่อนจะกดปิดสปีคเกอร์และยกโทรศัพท์มาแนบหู
"ไง"
คำๆ เดียวที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนอกจากเป็นคำพูดที่กวินไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นมันยังไง แต่แทนที่อีกฝ่ายจะตอบอะไรกลับมาเหมือนที่คุยพ่อ ปลายสายกลับเป็นเพียงเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่บอกพูดบางอย่างออกมา
เสียงของอนิลที่กวินฟังแล้วอยากจะร้องไห้
น้ำตามันไหลออกมาแทบจะในทันที
เพราะฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่คำเดียว
(แจ็ค ฮึก ฮืออออ แจ็ค ฮืออ เอิน เอิน จะ แจ็ค ฮืออออ พรุ่งนี้เอินจะ ฮืออออ ฮึก แจ็ค ฮือออออ)
...................
"วันนี้นอนห้องคุณเอินไปก่อนนะคะ คุณอรัญบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้คุณเขาจะชวนทานอาหารเช้าก่อน"
"ครับ"
"นี่ค่ะเสื้อผ้า ป้าดูของคุณอรัญมาให้อาจจะตัวใหญ่ไปหน่อยแต่ใส่นอนไปก่อนนะคะ"
หญิงชรายิ้มให้ชายหนุ่มแสนดีที่อาจจะน่ากลัวไปนิดตอนที่เอาปากกาจ่อคอเธอเป็นตัวประกัน แต่เขาก็เป็นคนดีที่ช่วยคุณหนูของเธอไว้ เธอปล่อยให้อีกฝ่ายเดินเข้าห้องคุณอนิลตามลำพังเพราะมันเป็นห้องใหญ่เพียงห้องเดียวในบ้านที่ไม่จำเป็นต้องเดินไปส่ง
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเดินลงบันไดบ้านไป เสียงหวีดร้องของอีกฝ่ายก็ทำเอาเธอและคุณอรัญที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามรีบวิ่งไปที่ห้องที่เกิดเหตุอย่างตื่นตระหนก ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เห็นกวินนั่งพนมมือท่วมหัวอยู่ที่พื้นแล้วสวดอะไรบางอย่าง สวดไปก็สะอึกสะอื้นไปอย่างน่าสงสาร หมดคราบพระเอกขี่ม้าขาวเมื่อชั่วโมงที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
ขนาดคุณอรัญว่าที่พ่อตาถึงกับสงสาร แต่พอเดินไปตบไหล่กวินก็ผวาร้องเอะอะอย่างน่าสงสารจนหญิงชราต้องเดินไปหยิบตุ๊กตาตัวโปรดของคุณอนิลลงจากเตียงก่อนจะอุ้มมันออกจากห้องพร้อมกับปลอบเจ้าตุ๊กตาน่าสงสารไปพลางๆ
"เห้อ นอนห้องเก็บของไปก่อนแล้วกันนะบิลลี่ เอาไว้คุณเอินกลับมาค่อยกลับไป"
บิลลี่ได้แต่ยิ้มแห้งและจำใจต้องไปนอนในห้องกลับของตามที่คุณป้าบอก....จนกว่านายของมันจะกลับมานอนกอดมันอีกครั้ง
....................
Baby Earn : ฉันจะกลับคืนนี้ อาจจะถึงกรุงเทพฯ สายๆ แต่คงไม่ได้ไปทำงานที่เดิมแล้วอะ พ่อบอกจะฝากงานให้ใหม่
Pepi : ไม่เป็นไรแก กลับมาก็ดีใจแล้ว คิดถึงอะ มาถึงขอหยิกทีได้ปะ แกไปลาแจ็คแต่ไม่ยอมมาลาฉันสักคำ
Baby Earn : ตอนนั้นในหัวฉันมีแต่เรื่องผัว...ขอโทษนะ
Baby Earn :
Pepi :
Baby Earn : ว้ายยยยย ติ๊กเก้อฟรีอ่อ?
Pepi : บีซื้อให้หรอก อย่ามาแซว ผัวมีตังค์จบนะ
Baby Earn : ยี้ๆๆๆ หมั่นไส้ เดี๋ยวกลับไปถึงไล่ผัวไปนอนที่อื่นเลยนะ จะกลับไปนอนเม้าส์กับแก
Pepi : บีไม่ได้นอนกับเรา แยกกันอยู่น่ะ
Baby Earn : อ้าว ทำไมวะ?
Pepi : อืม เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ตอนนี้แกมาหาฉันมาห้อง 2207 นะ
Baby Earn : เห้ย บ้า เกิดอะไรขึ้นวะ?
ร่างเล็กอ่านข้อความของเพื่อนที่ส่งคำถามรัวมา จินตภัทรไม่รู้จะตอบยังไง ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มตรงไหน
มันคงเป็นความผิดของเขาเองที่ขี้กลัว...
ในคืนนั้นหลังจากที่จอมพลอุตส่าพาเขาไปดินเนอร์และยืนยันว่าจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขา
แต่สุดท้ายแล้วเรื่องมันก็จบไม่สวยเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและบรรยากาศโรแมนติกบนชั้น 49 ที่จอมพลพาเขาขึ้นมาทานอาหาร
ก่อนที่จะกลับขณะที่อีกฝ่ายพล่ามบอกรักและพูดถึงช่วงเวลาที่อยากจะพากันไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ตามประสาคนรัก แต่จินตภัทรกลับเลือกที่จะพูดขัดใจอีกฝ่ายทั้งที่รู้ว่าจอมพลจะเสียใจ..
"เราอึดอัด...เราอึดอัดที่จะต้องถูกคนอื่นจับตามองในฐานะแฟนดารา เราไม่ได้อยากปิดบังเพราะห่วงบี แต่เราไม่อยากให้คนมารู้จักเราในฐานะแฟนของคนดัง เราเป็นนักเขียนที่ยังอยากให้คนสนใจผลงานของตัวเองมากกว่าเรื่องส่วนตัว ขอโทษนะแต่เราคงทำแบบที่บีอยากให้ทำไม่ได้...."
สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องย้ายของมาอยู่ห้อง 2207 เพราะจอมพลไม่สามารถอยู่ห้องนั้นได้อีกและยื่นคำขาดว่าจะมาอยู่ 2209 กับเขา แต่สุดท้ายจินตภัทรก็ยื่นข้อเสนอว่าเขาจะอยู่ห้องนั้นเอง ท่ามกลางความไม่พอใจและโกรธจนเกือบร้องไห้ของคนรัก....
..........TBC........
ขอโทษที่ช้าค่ะ เรามีเรื่องให้คิดเยอะในพาร์ท Upside down
เหตุเพราะไปอ่านหลายๆ คอมเม้นท์แล้วเหมือนจะเริ่มเดาทางถูก
เราเป็นนักเขียนที่มีนิสัยโรคจิตมาตลอดค่ะ คือถ้าคนอ่านเริ่มเดาถูกเราจะลบเขียนใหม่
ทั้งที่เราอาจจะเขียนไปแล้วสามสี่ตอน 55555555 ขอโทษที่เป็นคนแบบนี้นะคะ
แต่ไม่ใช่แกล้งเม้นเดาผิดๆ กันมานะคะ 55555
(แอบมีรีดเดอร์บางคนกำลังจะแกล้งเม้นเดามั่วเพราะกลัวเราเปลี่ยนแน่ๆ 5555)
รีปริ้นท์
Bad Neighbours #2209Bnior
กดซื้อออนไลน์ผ่านเว็บ Shopee เท่านั้น
ตอนนี้เหลือ 5 ชุด ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อนิลของแม่หมดทุกข์หมดโศรกซะทีนะความลูกคนเล็กอ่ะทำผิดก็จะหงอๆซึมๆแต่พอทุกคนบอกว่าให้อภัยละก็สับสวิตซ์เป็นโหมดร่าเริงขี้อ้อนทันทีประทับใจในความรักเพื่อนของเอินที่ยงพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะเป็นเพื่อนกับจีนให้ได้ทั้งเรื่องนิสัยส่วนตัวทั้งเรื่องการทำงานการใช้ชีวิตแล้วก็ความคิดที่แบบถ้าแกทุกข์เราทุกข์ด้วยแต่ถ้าแกสุขเราจะไม่เอาความทุกข์ไปใส่ในใจแกคือแบบจริงใจมากเราเชื่อว่าถ้าจีนรู้ว่าเอินคิดแบบนี้คงดีใจแต่ก็คงงอนเพื่อนด้วยเอินเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่จีนมีเวลาที่เอินทุกข์ใจจีนก็อยากจะอยู่ข้างๆแล้วก็พร้อมที่จะช่วยเอินทุกอย่างเหมือนกัน
สรุปคือบีกับจีนสลับห้องกันอยู่ค่อยๆคุยกันเด้ออย่าทะเลาะกันคนนึงก็พูดตรงคนนึงก็หัวร้อนเอาแต่ใจยังไงก็ค่อยหาทางออกมันต้องมีซักทางล่ะที่จะคบกันได้โดยที่ถูกใจและสบายใจทั้ง2คน
ต่อให้ไรท์เปลี่ยนเนื้อหาหลบการเดาแต่รีดเดอร์ทีมเผือกอย่างเราจะไม่หยุดค่ะยังคงยึดดหมั้นในอุดมการณ์ต่อไปเดาผิดไม่เป็นไรขอให้ได้ทายไว้ก่อนสบายใจ5555
สรุปว่าตอนเดียวนี่รีดทำตัวไม่ถูกเลย ครบรสมาก ชอบๆ
ส่วนบีจีนนั้น หนูต้องเข้าใจกันนะคะะ
เชียร์จ้า
โอ๊ยยย แล้วจีนจะทำไงต่อจ้ะ? เพราะยังไง ต่อไปก็ต้องมีคนรู้ไม่ใช่เหรอ? หรือพี่บีจะออกจากวงการ??? ไม่น่าได้นะ
จริงๆเวลาหนูเดาหนูไม่เคยแกล้งเดามั่วเลยนะแต่มันมั่วไปเอง(ปึกหลาย)555555555555 เดาไม่เคยจะถูกสักเรื่องแต่ก็ยังจะเดาทุกสถานการณ์ ชอบอ่านแล้วอยู่นิ่งๆไม่ได้มันคันปากมันต้องเม้าส์555555555555555555 เคารพในการตัดสินใจของพี่ไรท์ค่ะ
แถมคุณพ่อไฟเขียวแล้วด้วยT^T
ปล.ดีนะคะ ที่เราไม่เคยเดาเลย แค่ลุ้นตามไปแต่ละตอนก็สาหัสแล้วค่ะ555