ตอนที่ 71 : EP.11 แฟนชาวร็อค
Upside Down
Welcome To The Upside Down
EP.11
BEN : พี่ขอโทษนะที่ไม่ไปหา จีนโอเคแล้วใช่ไหม?
Pepi : อืม พวกข้าวของๆ พี่ เดี๋ยวเค้าให้โจเอาไปคืนให้นะ
BEN : ไม่เป็นไร ทิ้งไปก็ได้
Pepi : มีแต่เสื้อผ้าแพงๆ ทั้งนั้น ถ้าพี่ไม่เอา เค้าเอาไปบริจาคแล้วกัน
BEN : น่ารักจัง ขอบคุณนะครับ
Pepi : พี่ จีนถามเรื่องนึงสิ พอดีเมื่อวานโจบอกว่ากลับไปบ้านแล้วย้ายของมานอนห้องจีน โจเจอซีดีที่จีนเคยได้มาแล้วน้องถามว่าได้มาได้ไง ก็เลยเพิ่งนึกออก ตอบมาตรงๆนะ พี่เป็นเจ้าของจริงๆ เหรอ? ตอนรักกันจีนก็ไม่ได้เอะใจหรอก จนโจมาทักว่าพี่ไม่เห็นจะชอบบอดี้แสลมเลยอะ
BEN : 5555 มันไม่ใช่พี่ที่เป็นคนบอกแบบนั้น แต่เป็นจีนต่างหากที่คิดไปเอง พี่เห็นจีนขอบคุณทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ของๆ พี่ จะให้พี่พูดว่ายังไงในเมื่อตอนนั้นพี่จีบเราอยู่ เกิดบอกว่าไม่ใช่แล้วจีนลังเลไม่ตกลงคบกันพี่ก็แย่สิ
Pepi : เรื่องแค่นี้ก็ยังโกหกกันเนาะ แต่มันไม่ใช่ความผิดพี่หรอก จีนโง่เอง ขอบคุณสำหรับเรื่องห้องนะ เดี๋ยวเงินอีกครึ่งจีนได้ค่าลิขสิทธิ์จากผู้จัดละครแล้วจะรีบโอนคืนให้
BEN : เรายังคุยกับพี่ได้เหมือนเดิมนะ มีอะไรก็ทักมาได้เสมอ พี่เป็นห่วงจีนนะครับ
Pepi : ตอแหล
"เอิน! แกทำไรเนี่ย พี่เขา..." เจ้าของโทรศัพท์ที่ถูกดึงไปพิมพ์ด่าอีกฝ่ายด้วยคำที่แสนจะหยาบคาย ทำเอาจินตภัทรหน้าเสีย
"เยิ่นเย้ออยู่นั่นอะ รำคาญ!" อนิลโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงหลังจากถือวิสาสะดึงมาจากมือเพื่อนแล้วด่าอีผู้ชายจอมลีลาที่ยังมีหน้าแชตมาคุยกับเพื่อนเขา
จินตภัทรมองหน้าจอแชตที่อีกฝ่ายส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้มารัวๆ ก็ได้แต่ถอนใจแล้วกดปิดไป จะให้แก้ตัวว่าแมวพิมพ์ก็คงไม่เชื่อแน่ๆ ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนข้างเพื่อนสนิทที่มานอนเป็นเพื่อนในคืนที่สองหลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาล อนิลทำหน้าที่เพื่อนสนิทได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้กระทั่งลากเขาไปอาบน้ำแปรงฟันด้วย เพราะวันแรกที่ออกมาจากโรงพยาบาลจินตภัทรเอาแต่นอนร้องไห้ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มที่เคยนอนกับแฟนหนุ่ม
แต่อนิลก็ตัดสินใจแทนที่จะเปลี่ยนเตียงให้ในวันต่อมา หลังจากหลอกให้
จินตภัทรกลับไปช่วยน้องชายย้ายของจัดห้อง กลับมาถึงคอนโดฯ อีกที คุณหนูอนิลก็เนรมิตห้องให้ใหม่เหมือนจ้างอินทีเรียดีไซเนอร์มาตกแต่งยกเฟอร์นิเจอร์เก่าออกหมด แม้แต่ม่านสีเขียวที่เขาทั้งรักทั้งหวง อนิลก็เอาของเขาไปทิ้งไว้ที่ทิ้งขยะหลังคอนโดจนต้องวิ่งไปคุ้ยหาอยู่ตั้งนานกว่าจะเจอ แล้วก็ได้แต่เอาไปซักแล้วพับเก็บไว้ในตู้เพราะอันนี้เขาอุตส่าห์เก็บเงินซื้อเองตั้งแต่ยังไม่มีห้องจะติดม่านเชียวนะ
"แก"
"ไร?"
"ถ้าตอนนั้นฉันไม่คบกับพี่เบญ แกว่ามันจะจบแบบนี้ไหม?"
"ย้อนเวลาได้หรือไง พูดเป็นเด็กไปได้ แกเจอมันก่อนฉันอีก ฉันจะรู้ได้ไงว่าแกคิดอะไรถึงริอ่านมีผัวตั้งแต่เรียนม.4"
"พี่เขาก็ดีนะตอนนั้น..."
"อย่าร้องไห้อีกนะ ขี้เกียจปลอบแล้วเว้ย" อนิลลุกขึ้นมานั่งแล้วฟาดก้นเพื่อนที่นอนตะแคงอยู่ข้างๆ
จินตภัทรหัวเราะออกมาทั้งที่น้ำตายังรื้นอยู่ที่ขอบตา ก่อนจะเล่าเรื่องที่จำได้สมัยเด็กๆ ให้อนิลฟัง
"ตอนเด็กๆ ฉันเคยบ้าวงบอดี้สแลมอยู่พักนึง ตอนเด็กๆ แกชอบวงอะไร?"
"บริทนี่ย์..." น้ำเสียงที่ตอบออกมาทำเอาจินตภัทรหัวเราะลั่น เพราะริมฝีปากอิ่มแดงของอนิลที่พูดเหยียดราวกับภูมิใจในความสาวกขุ่นแม่มากๆ
"มาสายตรงเลยถูกมะ? แล้วผู้ชายคนแรกที่แกชอบล่ะ?"
"ไม่มีอะ"
"ไม่เคยชอบใครจริงจังเลยเหรอ?" จินตภัทรทำตาโตเพราะไม่คิดว่าจะมีคนแบบอนิลอยู่ด้วย ที่เกิดมาแล้วไม่มีคนที่แอบชอบเลย
"ไม่อะ ตอนอยู่เมกาก็คบไปเรื่อย จนพ่อเรียกกลับมานี่ เขาคิดว่าจะเปลี่ยนฉันได้มั้ง แต่ย้ายกลับมาก็เท่านั้น"
เพราะว่าทั้งสองคนอยู่ในสังคมที่ค่อนข้างต่างกัน อนิลเป็นลูกคุณหนูที่ถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ประถม ขณะที่จินตภัทรเป็นลูกครูคณิตศาสตร์กับครูคหกรรมในโรงเรียนประจำจังหวัด ทำให้สังคมที่เติบโตมาต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเติบโตมาจากที่ไหน ทั้งสองก็ได้มาเจอกันในรั้วมหา’ลัย ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม
"ก่อนพี่เบญจะมาจีบฉัน จริงๆ ฉันมีคนที่แอบชอบด้วยละ เจอกันแค่ครั้งสองครั้งเองมั้ง"
"หวายยยย ปั๊ปปี้เลิฟว่ะ เจอกันยังไง?"
"เจอกันวันฝนตก..." จินตภัทรพูดแล้วก็เขินเพราะสายตาของอนิลที่หรี่ตามองแล้วแกล้งเบ้ปากใส่
"ละครมากกกกกก ถึงว่าชอบเขียนนิยาย"
"มันก็ไม่นิยายขนาดนั้น คือจริงๆ พี่เขาไม่ได้เรียนที่เดียวกับฉัน เหมือนเขามาหาเพื่อนอะ จำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านั้นคุยอะไรกันบ้าง แต่ที่จำได้แม่นคือฉันยืนรอแม่อยู่แล้วพี่เขาก็เดินแบกร่มแม่ค้าอันใหญ่ๆ มาบังฝนให้ ฮ่าๆๆๆ"
อนิลเห็นแก้มแดงๆ ของเพื่อนที่เล่าไปเขินไปแล้วก็อดเบะปากใส่ไม่ได้ มือเล็กๆ ของจินตภัทรเอื้อมมาตีแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนที่อนิลจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ มองเพดานที่อนิลเลือกให้ช่างเอาวอลเปเปอร์กาแลกซีที่เรืองแสงในที่มืดมาติดให้
"ถ้าตอนนั้นฉันใจกล้ากว่านี้คงทำตามที่แม่บอก..."
"ทำอะไร?"
พอคิดถึงช่วงเวลาที่ยังตราตรึงอยู่ในใจ แม้ภาพใบหน้าของอีกฝ่ายจะเลือนรางไปตามกาลเวลา แต่ทว่าการกระทำยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจของจินตภัทรมานานแสนนาน...
....................
flashback
"น้องไม่ชวนพี่เขาติดรถมาด้วย ฝนตกแรงขนาดนี้พี่เขาจะกลับยังไง?"
เสียงของแม่ถามขณะที่ขับรถอย่างระมัดระวังออกจากสยามเพื่อพาเขากลับบ้าน
"หงึ ไม่เอาอะ น้องไม่รู้จักพี่เขา..."
จินตภัทรในวัยสิบหกปีได้แต่ส่ายหน้า แล้วคาดเข็มขัดนิรภัยโดยไม่ต้องรอให้แม่บอก
"เขาอุตส่าห์ใจดียืนส่งน้องนะ"
แต่แม่ก็ยังถามถึงพี่คนนั้นอยู่...
"เปล่าซะหน่อย พี่เขายืนรอเพื่อน"
"ก็นั่นน่ะ รอเพื่อนอะไร หุบร่มเดินไปคืนแม่ค้าละ"
จริงอย่างที่แม่พูด เพราะแม่มองจากกระจกมองหลัง จินตภัทรก็เลยหันกลับไปมองบ้าง พี่ชายคนนั้นเดินแบกร่มข้ามไปคืนแม่ค้าแล้วเดินตากฝนหายไปตรงซอยเล็กๆ ถ้าชวนมาด้วยกันก็คงดี...
พอรู้ตัวอีกทีก็ชอบพี่เขามากเลย มองเห็นเขายืนอยู่กับเพื่อนฝั่งตรงข้ามถนนในวันต่อมา เหมือนเขาจะมาหาเพื่อนที่เรียนอยู่ดาวองก์เหมือนกัน แต่...ก็ไม่กล้าเข้าไปขอบคุณ ทั้งที่แม่บอกว่าถ้าเจออีกครั้งก็ขอบคุณเขาหน่อย
จู่ๆ ก็ได้ซีดีพร้อมลายเซ็นมา ในคราแรกก็คิดว่าพี่เขาเป็นคนให้หรือเปล่า แต่พอถามพี่เบญที่เพิ่งรู้จักกัน พี่เขาก็รับสมอ้างทันที ความคิดที่จะไปขอบคุณพี่คนนั้นก็เลยหายไปจากในหัว
หลายวันต่อมา...พี่เขาก็ไม่มาหาเพื่อนอีกเลย จู่ๆ ก็หายไป แล้วมาเจออีกทีแวบๆ ก็งานฮอตเวฟข้างหลังเวที เพราะรุ่นพี่ที่โรงเรียนประกวดด้วยก็เลยไปเชียร์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ดูพี่เขาขึ้นประกวด ไม่รู้เล่นวงไหน...เพราะพี่เบญก็มารับไปดูหนังเสียก่อน
....................
flashcome
"แกจำหน้าเขาได้ปะล่ะ?" อนิลเท้าแขนตะแคงมองหน้าเพื่อนที่เล่าเรื่องรักแรกในวัยขบเผาะแล้วก็หน้าแดงจนมันเขี้ยวอยากจะบีบ
"ไม่อะ จำไม่ได้แล้ว เกือบสิบปีแล้วแก..."
"ประกวดฮอตเวฟก็น่าจะมีชื่ออยู่ปะวะ? อย่างน้อยก็ชื่อโรงเรียน ใส่เสื้อพละสีอะไร?"
"สีเขียว"
"เสื้อพละสีเขียวจะมีสักกี่โรงเรียนวะที่ประกวดฮอตเวฟ สมัยนั้นโรงเรียนที่ส่งก็ไม่ได้เยอะมาก ถ้าได้ขึ้นเวทีก็แปลว่าเข้าไปรอบชิงแล้วสิ"
"อื้มใช่..." จินตภัทรพยายามนึกหน้า 'พี่คนนั้น' แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก...
"เออ วันเสาร์แกไปสัมภาษณ์นี่ ลองถามคนที่นั่นไหมว่าจะไปหาประวัติวงเก่าๆ ได้จากไหน?"
"สิบปีแล้วนะ จะมีเหรอ?"
"แก พี่ตูนอยู่วงละอ่อน ยังมีคลิปตอนประกวดเสียงเป็ดๆ อยู่ในยูทูปเลย แล้วนี่รุ่นน้องพี่ตูนตั้งหลายปีนะ มันจะหายากอะไร แค่หาชื่อโรงเรียนที่ประกวดรอบชิงปีนั้นเจอก็ง่ายละ"
"ถ้าเจอเขา...แกว่าฉันควรพูดว่าไง"
จู่ๆ ก็คิดว่าอาจจะได้เจอกัน...แต่สิ่งที่คิดเอาไว้ในใจกับคำแนะนำของเพื่อน มันช่างขัดกันโดยสิ้นเชิง...
"ตอนนี้หนูไม่ต้องการร่มโค้กจากพี่แล้ว ขอเป็นโค้กแข็งปวยแทน..."
"เอิน! อี๋ อีบ้า ตบปากเดี๋ยวนี้นะ!"
คำพูดสองแง่สองง่ามของอนิลทำเอาร่างเล็กต้องลุกขึ้นมาหยิกเอวเพื่อนทำโทษ
เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังอยู่ในห้องราวกับว่า...ความทุกข์ใจก่อนหน้านี้เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน
จินตภัทรคิดว่า...ต่อให้ต้องเจอแฟนไม่ดี อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อนดีๆ ตั้งหนึ่งคน
....................
คืนวันเสาร์
"ค่ะ อย่างที่แจนได้เกริ่นไว้ก่อนข่าวต้นชั่วโมงนะคะว่าวันนี้เรามีสัมภาษณ์สดกัน วันนี้เรามีนักเขียนชื่อดังและเจ้าของนิยายรักสุดโรแมนติกที่จะเปิดกล้องเร็วๆ นี้..."
ขณะที่เสียงของยลรดายังคงพูดเข้าช่วงสัมภาษณ์ไปเรื่อย สายตาของอนิลจับจ้องไปที่หญิงสาวและยืนกอดอกอยู่ในห้องผู้ช่วยที่มีกระจกกั้นกลางเอาไว้ระหว่างห้องจัดรายการ น้ำเสียงและหน้าตาของหญิงสาวในยามที่กำลังตั้งใจทำงานทำให้รูปลักษณ์ที่มองเห็นในตอนนี้ช่างแตกต่างกับตอนที่เจอกันที่โรงพยาบาลอย่างสิ้นเชิง
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างราบรื่นขณะที่มีสายโทรเข้ามาทักทายทั้งแฟนนิยาย และผู้โชคดีที่ได้รับหนังสือพร้อมลายเซ็นของจินตภัทรไปเป็นของที่ระลึกในที่ทางสำนักพิมพ์สมนาคุณให้ถึงสิบเล่มด้วยกัน และสุดท้ายแล้วแม้ว่าโฉมฉายจะพยายามพูดว่าอนิลมีงานค้างตั้งเยอะตั้งแยะแต่ก็แพ้ลูกอ้อนของจินตภัทรที่ร้องขอให้พาอนิลมาด้วยได้ในที่สุด
"ตัดเข้าโฆษณาครับพี่แจน"
เสียงของเด็กผู้ช่วยบอกผ่านไมค์ก่อนที่หญิงสาวจะหันมายิ้มและคุยกับ
จินตภัทรอย่างเป็นกันเองเมื่อปิดไมค์และตัดเข้าช่วงโฆษณา อนิลไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกันแต่ก็ดูไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยอะไรกับเพื่อนเขา ร่างบางฝากน้องผู้ช่วยบอกจินตภัทรว่าเขาจะออกไปซื้อกาแฟชั้นล่าง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องส่ง สองขาก้าวฉับๆ อย่างมั่นใจ ก้มหน้าหาบัตรสตาร์บักส์โดยที่ขาก็เดินไปตามทางอย่างไม่สนใจจะเงยหน้าขึ้นมองเลยว่ามีใครเดินสวนมา
ร่างสูงใหญ่แทบกลั้นใจตอนที่เห็นอนิล เพราะเขาไม่คิดว่าคุณเพื่อนที่แสนร้ายกาจจะมาด้วย...
เห็นหน้าก็ผวาละ คนอะไรแม่งหน้าเหวี่ยงฉิบหาย...
จอมพลแกล้งเดินผ่านเร็วๆ ไม่ยอมทักทาย พอเลี้ยวมาทางห้องจัดรายการได้ก็ถึงกับถอนใจออกมาอย่างโล่งอก มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา เขามีเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่พี่พัฒน์จะเรียกเข้าห้องอัดที่อยู่คนละชั้นอีกครั้ง เมื่อกี้พอนั่งดูไลฟ์แล้วตัดโฆษณาปั๊บ จอมพลก็ก็พุ่งตัวออกมาจากห้องอัดทันที
"อ้าวพี่บี หวัดดีครับ" ผู้ช่วยของยลรดาเป็นคนแรกที่ทักเขาและยกมือไหว้โดยอัตโนมัติ จอมพลยิ้มให้เพียงเล็กน้อยก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่อุตส่าห์รีบลงลิฟต์มาจนหูอื้อไปหมด
"เรียกแจนให้ทีดิ เบรกอยู่ใช่ปะ?"
ผู้ชายของยลรดาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเคาะกระจกบอกอีกฝ่าย พอหันมาเจอเขาหญิงสาวก็ยิ้มและโบกมือให้อย่างเป็นมิตร ขณะที่ 'ตัวต้นเหตุ' ที่ทำให้เขาโดดงานลงมาหากลับหันมามองหน้าตามึนๆ ไม่หือไม่อือแล้วก้มลงไปเซ็นหนังสือต่อ
"เฮ้ย ตอนนี้ไลฟ์อยู่ โผล่มาทำไม?"
"อ้าว ไม่ได้ปิดกล้องเหรอ?"
"ไม่ได้ปิดครับพี่ เนี่ยข้อความในแชตเข้ามาเต็มเลย ตอนเปิดประตูหน้าพี่โชว์อยู่ในไลฟ์อะ มีแต่คนถามว่าพี่มาทำไม ข้อความเกี่ยวกับคุณจีนหายไปหมดเลย" เสียงของผู้ช่วยดูเซ็งๆ เพราะเขาต้องเลือกผู้โชคดีจากคนที่ส่งข้อความมา แต่เพียงแค่นักร้องหนุ่มโผล่หน้าเข้ามาในกล้องแค่วูบเดียว ก็มีแต่แฟนคลับของ "พี่บีเดฟโซล" เต็มฟีดไปหมด...
"เข้ามานี่เลย ติดงานปะ?"
"เปล่าไม่ติด ถามแจ็คแล้วมันบอกแวะมาได้อะ"
"แล้วทำไมแจ็คไม่มาเองล่ะ? นักเขียนคนนี้แจ็คชอบมากเลยนะ"
"เอ่อ...มันไม่ได้มาทำงานอะ วันนี้ไปดูร้านให้พี่กวี แจนเรามีเวลาครึ่งชั่วโมง" จอมพลยิ้มเจื่อนๆ เพราะไม่อยากจะสารภาพว่าโดดงานมา สายตาของยลรดาหรี่ลงอย่างใช้ความคิดก่อนจะพยักหน้าอนุญาตและสั่งงานเด็กผู้ช่วยทันที
"โอเค เอ่อ มาร์ค เดี๋ยวเปิดไมค์ตัวซ้ายให้พี่ด้วย แล้วก็ให้โจ้ขึ้นข้อความเซอร์ไพรซ์หน่อย ประมาณแบบสเปเชียลเกส"
....................
ได้แต่รอให้เธอเลิกกับเขา รอให้เธอต้องเสียใจ
รอให้เธอถูกทำร้าย รอให้เขาไม่ดูแลเธอ
รอคอยวันนั้น ฉันเอง ฉันเชื่อว่าทำได้ดีกว่าเขา
คนอย่างเขามีค่าอะไรคู่ควรไหม ที่เธอต้องเสียใจ
เสียงเพลงที่เปิดก่อนจะเข้าช่วงสัมภาษณ์ช่วงที่สอง มันคงไม่มีอะไรถ้าหากคนที่เสนอหน้ามาไม่บอกไม่กล่าวมานั่งลิปซิงก์อยู่ข้างๆ จินตภัทรรู้สึกถึงจังหวะเต้นของหัวใจที่มันเร็วขึ้นจนรู้สึกอึดอัด
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยลรดาอธิบายว่าคุณนักร้องอยากมาขอลายเซ็นแทนผู้จัดการที่มาไม่ได้
แต่แค่มาขอลายเซ็นให้เพื่อนจะมานั่งทำเกลืออะไรในห้องส่งไม่ทราบ...
"ค่ะ กลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการพูดคุยกับคุณจีน จินตภัทรนะคะ ท่านผู้ฟังยังสามารถส่งข้อความเข้ามาร่วมสนุกได้อีกสิบนาทีเท่านั้นนะคะ และถือว่าเซอร์ไพรซ์สุดๆ ในช่วงสัมภาษณ์นี้ กับแฟนนิยายของคุณจีนที่เดินเข้าห้องส่งมาขอลายเซ็นด้วยตัวเองกันเลยทีเดียว ขอต้อนรับคุณบี นักร้องนำจากวงเดฟโซลค่า"
พอยลรดาพูดจบชายหนุ่มก็หันไปยิ้มให้กล้องที่ถ่ายทอดสดอยู่พร้อมกับทักทายอย่างสบายๆ ไม่มีอาการเขินอายหรือประหม่าแม้แต่น้อย อาจจะเพราะสายอาชีพที่ต้องออกสื่อมากมายอยู่แล้วทำให้ทั้งคำพูดและท่าทางแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ
"จริงๆ ผู้จัดการผม คุณแจ็คอยากมาด้วยตัวเองครับ แต่พอดีวันนี้เขาติดงานก็เลยฝากหนังสือมาให้คุณจีนช่วยเซ็นให้"
"งั้นแสดงว่าคุณบีไม่ได้เป็นแฟนนิยาย แต่มาแทนเพื่อนแค่นั้นสินะคะ" ดีเจคนสวยพูดแซ็วกลั้วเสียงหัวเราะ เมื่อเหลือบเห็นสีหน้าของจินตภัทรที่เหมือนกินอะไรขมๆ ในปาก
ในขณะที่พ่อนักร้องดูจะรุกหนักจนแอบสงสารคุณนักเขียน...
"ผมอาจจะไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยายเท่าไรอะครับ แต่เห็นแบบนี้ผมก็เป็นแฟนคุณจีนนะครับ"
เป็น แฟน คุณ จีน...
ร่างเล็กทวนคำพูดของอีกฝ่ายและกลอกตาโดยอัตโนมัติ แต่ก็ยังยิ้มให้เพราะกล้องไลฟ์สดที่จ่อหน้าอยู่ ส่วนยลรดาดูจะสนุกกับการแกล้งเขาเอามากๆ
"จะบอกว่าเป็นแฟนคลับนักเขียนก่อนอ่านหนังสืออย่างนั้นเหรอคะ?"
"ครับใช่ แปลกไหมล่ะครับ ตอนแรกผู้จัดการบอกว่าหนังสือดีผมก็ยังไม่คิดจะอ่าน แต่พอเห็นคุณจีนวันนี้ก็อยากจะอ่านขึ้นมาทันทีเลย"
เสียงหัวเราะของยลรดาและจอมพลดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยและไม่แปลกใจเลยที่สองคนนี้อนิลบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ก็เพื่อนสนิทพอสมควรละนะถึงได้ตามไปถ่ายรูปพิมพ์มาฟ้องได้
"แหม เห็นแบบนี้แล้วก็อดถามไม่ได้นะคะ ว่าตำแหน่งพระเอกของเรื่องที่จะมีการเปิดออดิชั่นรอบที่สามในวันจันทร์หน้า หนึ่งในผู้เข้าร่วมออดิชั่นจะมีคุณบีไหมเอ่ย?"
จู่ๆ คำถามนี้ก็ถูกส่งให้คนที่นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ จินตภัทร สายตาของจอมพลแอบเหลือบมองและสังเกตเห็นแก้มนุ่มที่ขึ้นสีแดงเรื่ออย่างเขินอายแล้วก็เหมือนว่าอยากจะแกล้งให้มากกว่าเดิม เพราะช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา จินตภัทรเอาแต่หลบหน้าเขาไม่พูดไม่คุย ไม่ยอมทักแถมเกาะติดอนิลใช้เป็นไม้กันหมาอยู่ตลอดเวลา
คราวนี้แหละ...จะแกล้งให้เขินมากๆ เอาให้สมกับที่หนีหน้าเขามาหลายวัน
"ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องงานแสดงครับ แล้วอีกอย่างผมก็ไม่สามารถจะเป็นพระเอกคู่กับนางเอกคนไหนได้ ผมถนัดเป็นพระเอกในชีวิตจริงของใครสักคนมากกว่า..."
มันคงไม่มีอะไร หากว่าคำตอบนั้นถูกเอ่ยออกไปโดยที่จอมพลไม่หันมามองเขา จินตภัทรรู้สึกอายจนอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ ถ้าหากไม่มีกล้อง ไม่มีคนดูที่อยู่ทางบ้าน เขาอยากจะถีบจอมพลให้หงายท้องไปซะตรงนี้ แต่...เราจะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้!
"ผมคงเป็นเกียรติมากถ้าคุณมาลองออดิชั่นดู จริงๆ บทของ 'จอม' ในเรื่องนี้ก็เป็นนักดนตรีด้วย คุณอาจจะเหมาะกับบทก็ได้นะครับ"
น้ำเสียงที่ราบเรียบและเก็บอาการไว้ได้อย่างแนบเนียนเรียกรอยยิ้มจุดที่มุมปากของจอมพลทันทีที่ได้ยิน ราวกับคำท้าที่อีกฝ่ายอยากจะเห็นเขายืนเป็นไอ้โง่ตอนออดิชั่น มากกว่าเชิญตามมารยาท
จู่ๆ บรรยากาศระหว่างกันก็เด๊ดแอร์ขึ้นมาจนยลรดาต้องรีบหันไปพูดต่อ เพราะทั้งจอมพลเอาแต่มองหน้าจินตภัทรที่เบือนไปอีกทางแล้วอมยิ้มออกมาแต่ไม่พูดอะไร
"จริงด้วยค่ะคุณจีน เท่าที่แจนอ่านดู บทจอมในเรื่องนี้ก็ดูใกล้เคียงกับคุณบีมากเลยนะคะ ถ้าออดิชั่นครั้งนี้มีคุณบีไปลองแคสติ้งดูละก็ รับรองว่าทั้งแฟนคลับของคุณบีและแฟนนิยายของคุณจีนจะต้องเต็มสตูดิโอของเอ็กซิกต์ไปหมดแน่เลย เอาละค่ะ สำหรับผู้โชคดีที่ได้รับหนังสือพร้อมลายเซ็นสามารถเช็กชื่อได้จากหน้าเฟซบุ๊กเพจของเรานะคะ"
....................
"แกจีบเขาอยู่ใช่มะ?"
เสียงของยลรดาทักขึ้นเมื่อจินตภัทรออกจากห้องไปและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่รายการคั่นด้วยข่าวสั้น ยลรดากับจอมพลก็มานั่งคุยกันอยู่ที่โซฟา ในห้องผู้ช่วยที่ตอนนี้เหลือเพียงพวกเขา
"ก็ไม่เชิง มันเลยขั้นจีบไปแล้ว แต่เขาก็ทำตัวมึนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
"ยัยพิมพ์รู้เรื่องนี้ปะ?" ยลรดาเอ่ยถึงรุ่นน้องที่เธอรู้สึกหมั่นไส้มาแสนนาน แต่พอเจ้าตัวมาตกม้าตายเอาด้วยเรื่องเสนอตัวนอนกับผู้ชายแก่คราวพ่อก็อดสมเพชไม่ได้
"อื้ม รู้ ก็บอกไปแล้ว เออพูดถึงพิมพ์ รูปนั้นแจนได้มายังไงเหรอ?"
"ผู้หวังดี เขาไม่บอกว่าเป็นใคร ส่งมาให้เราที่นี่แหละ จัดรายการอยู่ก็มีเด็กส่งซองขึ้นมาให้ เปิดมาเป็นเมมกล้อง"
ยลรดาเอ่ยแล้วก็เดินไปหยิบสิ่งที่ตัวเองได้รับมา หญิงสาวไม่คิดจะเก็บมันไว้หรอก ตราบใดที่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอแล้ว พอพิมพ์เลิกกับจอมพล แฟนเธอก็เจอน้องรหัสที่รักนักรักหนาน้อยลงเพราะตอนนี้ได้ข่าวว่าหญิงสาวสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วและจะได้บรรจุเข้าเป็นแอร์โฮสเตสตามที่ฝันไว้ ขณะที่ตัวกวินเองก็ดูเหมือนจะสนใจพิมพ์น้อยลงกว่าเดิมมาก ถ้าไม่ใช่ผิดหวังที่พิมพ์เอาตัวเข้าแลกเพื่อได้งานนี้มา ก็คงอายที่คนเสนอให้พิมพ์ใช้วิธีนี้คือพี่ชายกับพี่สะใภ้ตัวเอง
"เป็นไปได้ไหมว่าคนถ่ายจะเป็นแฟนคลับของเรา..." จอมพลเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจเลย เพราะกวินเองก็บอกว่าหลังๆ พิมพ์โดนแฟนคลับของเขามาวุ่นวายอยู่บ่อยๆ
"ถ้าไม่ใช่แฟนชาวร็อก ก็เป็นพวกชอบเสือก ถ้าแกคิดจะจีบคุณจีนจริงๆ ก็ดูแลเขาดีๆ ก็แล้วกันอย่าให้แฟนคลับแกรู้จะดีกว่า"
"ทำไมเราต้องเสียชีวิตส่วนตัวไปเพราะแค่เรามีชื่อเสียงวะ"
"เพราะชื่อเสียงของแกมันมาจากคนที่เรียกว่าแฟนคลับน่ะสิ อย่าลืม"
....................
"ทวีธาฯ เข้ารอบทุกปีนะ โรงเรียนนี้เก่งมาก แต่คลิปมันก็หาดูยากนะ ถ้าไม่ใช่พวกที่ชนะเลิศพี่ว่าคลิปมันหายากเลยอะ"
เสียงของพิพัฒน์ที่บังเอิญเป็นรุ่นพี่ที่ต้นว่านเพื่อนตุ๊ดที่เต๊าะผู้ไปทั่วราชอาณาจักร เรียกได้ว่าเป็นพี่ของเพื่อนของเพื่อนต้นว่านอีกที ที่อยู่ๆ ก็บังเอิญเจอกันในลิฟต์ คำถามที่ค้างคาใจก็เลยถูกพ่นใส่อีกฝ่ายอย่างไม่รีรอจนอนิลได้มานั่งอยู่ที่นี่
"งั้นถ้าเอินจะเอาคลิปของโรงเรียนนี้ที่เข้ารอบปีนั้นมาดูต้องหาที่ไหนอะครับ?"
น้ำเสียงติดอ้อนๆ ของอนิลทำเอาคนฟังทำหน้าไม่ถูก ยิ่งรอยยิ้มหวานๆ ที่เห็นเขี้ยวเล็กๆ นั่นด้วยแล้ว พิพัฒน์ก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก
"อืม...คือน้องเอินอยากเอาไปดูทำไมเหรอ?"
"หาคนที่เคยรู้จัก แต่ตอนนี้จำหน้าไม่ได้แล้วอะ" อนิลรับสมอ้างเอาเองเพราะจินตภัทรก็ไม่ได้ขอให้ทำแบบนี้
"อยู่ทวีธาฯ ด้วย?"
"ก็พี่บอกว่าที่เข้ารอบมาปีนั้นถ้าเสื้อพละเขียวก็มีแค่ทวีธาฯ"
"ไม่ใช่ พี่แค่บอกว่าเสื้อพละเขียวอะพี่นึกถึงทวีธาฯ เพราะเป็นโรงเรียนเก่าไอ้บี ถ้าเจาะจงจะดูทวีธาฯ งั้นก็ไม่ต้องดูคลิปหรอก ก็วงเดฟโซลทั้งวงนอกจากไอ้กล้าที่เป็นมือกลอง นอกนั้นก็คือวงที่ประกวดในนามโรงเรียนทวีธาฯ หมด"
"บี?"
"อื้ม บี จอมพล มันเป็นนักร้องนำตั้งแต่ประกวด ว่าแต่คนที่เราหาอยู่ตำแหน่งไหนของวง?"
"อ้าว บีนี่อายุเท่าไร?"
"ก็มากกว่าเราสองปีล่ะ ก็เราบอกตอนนั้นเราอยู่ม.4 ก็ถ้าเข้าประกวดวงไอ้บีก็เข้าตอนมันอยู่ม.6 พอดี"
"เขาใช้เพลงใครประกวด?"
"บอดี้สแลม พี่เป็นคนเอามันมาเทรนเองทั้งวง จำได้แม่น ไอ้เชี่ยบีอกหักหนักมาก ร้องไห้บนเวที ต้องเอาคลิปไปดู แม่งตลกมาก แต่มันก็ยังได้รองแชมป์นะปีนั้น เห็นเพื่อนมันแซ็วอยู่ จำได้แค่ว่าเด็กที่ทำไอ้บีอกหัก เอ๊ เด็กอะไรวะ เฮ้ยๆ ไอ้โจ้ๆ น้องคนนั้นที่ทำไอ้บีอกหักตอนก่อนขึ้นประกวดมึงเรียกว่าไรกันนะ" เสียงพิพัฒน์ตะโกนถามมือกีตาร์ที่เดินออกมาจากห้องอัด อีกฝ่ายหันมาแบบเหวอๆ
"ห๊ะ? อ...อ๋อ น้องดาวองก์ ทุกวันนี้เปิดทีวีเจอ’จารย์ปิงไอ้บีแม่งแทบร้องไห้ ถามไอ้เชี่ยแจ็คดิแม่งรู้ดีสุด ไอ้บีขโมยซีดีบอดี้สแลมของมันไปจีบน้องเขาแต่เสือกโดนหมาคาบไปแดก"
อะไรมันจะ...
บ้าแล้ว ไม่ใช่หรอกเด็กดาวองก์เยอะแยะไม่น่าใช่ไอ้จีนมั้ง?
อนิลนั่งเงียบและคิดไปถึงเพื่อนตัวเอง พอคิดถึงเพื่อนขึ้นมาก็นึกได้ว่าทิ้งเพื่อนไว้ที่รายการนานเท่าไรแล้ว ป่านนี้น่าจะสัมภาษณ์เสร็จแล้วแน่ๆ
"พี่ครับ เดี๋ยวยังไงเอินขอไลน์พี่ก่อน เผื่อถ้าพี่หาคลิปเจอส่งให้เอินหน่อย"
"อ้าว ไม่ลองถามดู นี่ไงวงนี้แหละ เจอกันที่ไหนล่ะ?"
"เอ่อ...เดี๋ยวเอินค่อยคุยกับพี่ต่อในไลน์นะครับ ขอบคุณมากเลยที่พามาถึงนี่"
พิพัฒน์มองไอดีไลน์ของอนิลแล้วรู้สึกเขินหน่อยๆ ความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่มีรสนิยมทางเพศแนวชายรักชายเลย แต่สำหรับอนิลคงต้องเป็นข้อยกเว้น...
....................
"เพื่อนทิ้งเหรอ?"
คำถามที่ดังมาจากด้านหลัง ฟังแค่เสียงก็รู้ว่าใคร จินตภัทรไม่อยากจะหันกลับไปมองเลยตั้งแต่จบสัมภาษณ์และบอกลายลรดาทั้งๆ ที่อนิลไม่รู้หายหัวไปไหน
"ดึกแล้วรอกับพร้อมกันไหม ผมมีอัดอีกเพลงเดียวก็..." ร่างสูงเดินไปดักพลางเสนอตัวจะไปส่งพร้อมรอยยิ้มที่จินตภัทรมองแล้วก็รีบหลบตาไป
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอินก็มา"
"เอินอยู่บ้านใกล้แจ็คเดี๋ยวให้แจ็คมารับก็ได้ ส่วนเราอยู่คอนโดฯ เดียวกันก็น่าจะกลับด้วยกัน.."
สายตาที่มองอยู่ดูกรุ้มกริ่มจนจินตภัทรรู้สึกเขิน ยิ่งย้ำว่าอยู่คอนโดฯ เดียวกันก็ทำตัวไม่ถูกไปกันใหญ่ เพราะไม่รู้ทำไม ยิ่งจอมพลเดินมายืนอยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้นึกถึงคืนนั้นขึ้นมา
ร่างสูงขยับเข้ามาหาจนจินตภัทรได้แต่ยืนพิงประตูหนีไฟที่อยู่ในซอกใกล้ๆ กับลิฟต์ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะมายืนตรงนี้ แต่เพราะเดินเลี่ยงจอมพลมาเรื่อยๆ ก็เลยมาอยู่ในมุมอับลับสายตาผู้คนแบบนี้
"ผมอุตส่าห์โดดงานมาหา ก่อนหน้านี้ก็หลบหน้าผมตลอดเลย ผมเสียใจนะ"
คำว่า 'ผมเสียใจนะ' ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่มองอย่างตัดพ้อ ราวกับจินตภัทรทำอะไรผิดต่ออีกฝ่าย ทั้งที่ตัวจินตภัทรเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยกับเรื่องนี้ ทั้งที่อนิลก็ถามว่าจะเอายังไงต่อไป เขาเองก็ไม่สามารถตอบเพื่อนได้เช่นกัน
"เราเพิ่งเลิกกับแฟน ยังทำใจไม่ค่อยได้ เราไม่อยากเริ่มต้นใหม่ตอนนี้..."
"อ้าว...เลิกกันแล้วเหรอ?" จู่ๆ เสียงของจอมพลก็พูดแทรกขึ้นมา ทำให้ได้สติขึ้นมาอีกครั้งว่าเรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้นอกจากอนิล พอเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย สายตาของจอมพลราวกับมีคำถามเต็มไปหมด
"คือ..เพิ่งเลิก" จินตภัทรตอบเสียงเบา เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกอีกฝ่ายไหม หรือจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายโดนทิ้งมันก็กระดากนิดหน่อยที่จะตอบคำถาม แต่อีกฝ่ายกลับถามในสิ่งที่มันบีบหัวใจจนจินตภัทรเริ่มหน้าเสีย
"เขาทิ้งคุณใช่ไหม?"
ร่างเล็กไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าตัวเองเป็นยังไง แต่ที่รู้สึกคือลมหายใจที่มันผิดจังหวะไป ขอบตาร้อนผ่าวราวกับคำถามเพียงแค่นั้นทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้และนั่งอยู่ในห้องน้ำโดยไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร...
"ใช่..เขา ฮึก บอกเลิกเรา ก่อนที่คุณจะนอนกับเรา พี่เขาส่งข้อความมาตอนมือถือเราแบตหมด ฮึก เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด ทั้งที่เราไม่เคยนอกใจเขา เราอยู่ที่ห้องเพื่อรอเขา ฮึก ฮืออออ เราเหมือนคนโง่เลยอะ"
เสียงที่สั่นเครือและน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสทำให้หัวใจของคนที่มองอยู่
อ่อนยวบและเจ็บปวดตามไปด้วย สองแขนของจอมพลโอบกอดคนที่หัวใจสลายเอาไว้แนบอก ความรู้สึกมันอาจจะต่างกันในวันที่พิมพ์จากไป แต่เขาเองก็มีคำถามเช่นเดียวกับจินตภัทรเหมือนกันว่าเขาทำผิดอะไร? เขาห่วงพิมพ์ก็เพราะรักและอยากให้พิมพ์มีชีวิตที่ปลอดภัยตราบใดที่เขายังพอดูแลเธอได้
ทั้งเรื่องของเขาและจินตภัทรมันทำให้รู้ว่า...ผลลัพธ์ที่ตอบแทนความรัก ความซื่อสัตย์ และความห่วงใย มันช่างเจ็บปวดจนเกินจะบรรยาย...
"จีนให้โอกาสบีได้ไหม? ขอให้บีเป็นคนที่จีนจะไว้ใจอีกสักครั้งได้หรือเปล่า?"
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่เอาแต่ร้องไห้เหมือนเด็กในอ้อมกอด แต่จอมพลคิดว่าเขาได้รับคำตอบจากการกระทำ ที่แขนเรียวของคนในอ้อมกอดโอบกอดเอวเขาตอบและซบหน้าลงกับอกราวกับลูกแมวที่พยายามซุกหาไออุ่น
อนิลได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ และให้เวลาคนทั้งสองไปเรื่อยๆ ทั้งที่เจ้าตัวเดินมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว เพราะตอนนี้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่มีใครเดินผ่านตรงนี้เหมือนช่วงกลางวัน ร่างบางได้แต่เก็บสิ่งที่รู้เอาไว้ในใจ ทั้งที่เซนซ์มันบอกว่าคนที่จินตภัทรเคยชอบอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นจอมพล เพราะทั้งเรื่องซีดีและเรื่องที่เรียนพิเศษของจินตภัทรมันตรงกับที่เพื่อนเขาเล่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พระเจ้าก็ใจร้ายไปหน่อยที่ทำให้พวกเขาแยกจากกันมาเกือบ 10 ปี...
............TBC...........
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขนลุกกับตอนนี้
อ่านแล้วเพลงนี้ก็ลอยมา
สบายดีหรือเปล่า ข่าวคราวไม่เคยรู้ สืบดูเธอไม่อยู่ แอบดูแวะมองหา 55555
คนอกหัก2คนมาเจอกันจุดติดง่ายไวกว่า4Gประเทศไทยอ่ะบีกับจีนเหมือนเป็นตัวอย่างของคำว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อ่ะความรักอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีได้รับรักตอบแทนกลับมา
สงสารน้องจีนที่ยังลืมผช.คนนั้นไม่ได้ไม่ชอบเวลาน้องร้องไห้เหมือนกันใจบาง เข้มแข็งนะลูกเดี๋ยวมันก็ผ่านไปอาจต้องใช้เวลาสักพัก หวังว่าบีจะทำให้หนูกลับมาเป็นคนเดิมเป็นน้องเป็ดกาบๆๆเหมือนเดิมนะ
อนิลนี่ทำใจผช.สั่นไหวไปทั่วถ้าโรคจิตกวินมาเห็นจะเป็นยังไงงงง -//-
และถ้าสองคนรักกันอีกครั้งคำว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันมันจะมีมนต์มากเลย