ตอนที่ 30 : 29 : คลื่นใต้น้ำ
29
คลื่นใต้น้ำ
เดือนพฤษภาคมนับเป็นเดือนหนึ่งที่มีวันหยุดกลางสัปดาห์บ่อยๆ แต่น่าน้อยใจนักที่คนทำงานสำนักพิมพ์อย่างอนิลจะไม่ค่อยได้รับสิทธิ์ในการหยุดงาน ทั้งที่บริษัทประกาศให้หยุด แต่กลับต้องมานั่งเช็กที่อยู่จัดส่งหนังสือสำหรับคนที่สั่งจองมาทางเว็บของบริษัท ซึ่งส่วนมากก็เป็นแฟนคลับของจินตภัทรทั้งนั้น
น่าแปลกที่แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป ยุคดิจิทัลเข้ามามีบทบาทเสียจนสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ต้องปิดตัวลงไป แต่นิยายของจินตภัทรในรูปเล่มของหนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษกลับยังขายดีอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าแฟนคลับบ้างคนจะทดลองซื้อแบบอีบุ๊กไปอ่านบ้างแต่สุดท้ายก็กลับมาซื้อเป็นเล่มเช่นเดิม
ขณะที่กำลังไล่เช็กที่อยู่จัดส่งเพื่อส่งไปให้แผนกจัดซื้อทำเรื่องส่งหนังสืออก สายตาก็เหลือบไปเห็นหนึ่งในรายชื่อที่สะดุดตาเพราะนามสกุล
"กันนิชา กิจเจริญ...นามสกุลเดียวกับแจ็คเลยนี่นา"
พอเลื่อนเม้าส์ไปเช็กดูที่อยู่ก็พบว่าเป็นที่อยู่ของกวินจริงๆ ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าคนซื้อน่าจะเป็นน้องแบม แต่ไม่ยักกะรู้ว่าแบมเป็นแฟนนิยายของจินตภัทรด้วย
"แต่ถ้าเป็นแฟนนิยาย ก็ต้องรู้ว่าฉันทำงานที่นี่แล้วทำไมไม่ขอหนังสือฟรีวะ แถมนี่ขอลายเซ็นอีก"
อนิลบ่นกับตัวเองก่อนจะเอาชื่อจริงของแบมไปเสิร์ชหาว่ามีการซื้อไปกี่ครั้งแล้ว เพราะก่อนหน้านี้อนิลไม่ได้มาดูแลเรื่องรายชื่อจัดส่งหนังสือ แต่เพราะพนักงานที่ทำงานในส่วนนี้ลาคลอดไป เขาเลยมารับช่วงต่อแค่สามเดือนนี้เท่านั้น
ทันทีที่ค้นหารายชื่อ สิ่งที่น่าตกใจก็คือชื่อกันนิชาไม่ได้ซื้อแค่นิยายของจินตภัทร แต่ซื้อนิยายของลูกศรด้วย แต่เหมือนจะซื้อของลูกศรไปเพียงไม่กี่เล่มเพราะนอกนั้นเป็นหนังสือของจินตภัทรทั้งหมด แม้แต่นิยายเล่มแรกที่จินตภัทรยังไม่ได้ใช้ชื่อจินตภัทร เป็นนิยายประกวดที่เคยอยู่ในเว็บนิยายออนไลน์ ความอยากรู้อยากเห็นของอนิลไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อเริ่มค้นหาชื่อยูสเซอร์เนมของว่าที่น้องสามีที่ชวนให้สงสัย แต่ก็ไม่ยากเกินกำลังสำหรับคนที่สามารถล็อคอินเข้าระบบหลังบ้านของเว็บนิยายที่เป็นของสำนักพิมพ์ได้
ปกติงานในส่วนนี้จะเป็นฝั่งไอทีที่จะคัดกรองรีพอร์ตต่างๆ จากนักอ่านเพื่อดูเรื่องฟีดแบคของนิยายและแบนคำไม่เหมาะสมจากรีพอร์ตของนักอ่านที่ช่วยเป็นหูเป็นตา
และสิ่งที่ทำให้อนิลถึงกับผงะคือยูสเซอร์เนมที่มีเลขไอพีเดียวกับกันนิชามีประมาณสิบยูสเซอร์ที่รีพอร์ตเรื่องนิยายของลูกศรเข้ามา มีแม้กระทั่งสแกนหน้าหนังสือนิยายของลูกศรบางเล่มแล้วไฮไลท์ส่วนที่ก๊อปปี้มาจากนิยายของจินตภัทร
"โลกมันกลมหรือว่าเป็นเวรกรรมที่ทำร่วมกันมาวะเนี่ย...."
อนิลนั่งอ่านรีพอร์ตที่ทำให้โฉมฉายตัดสินใจยกเลิกสัญญาของลูกศรไป มันคือยูสเซอร์แฝงที่มีเลขไอพีใกล้เคียงกับของกันนิชา ในนั้นมีทั้งลิงก์นิยายของจินตภัทร และสแกนเล่มของลูกศรเรื่องที่ถูกร้องเรียนจนต้องเรียกเก็บ
พอค่อยๆ เลื่อนหน้าเพจลงมาอ่านข้อความของผู้หวังดีไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกขนลุกกับการกระทำของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อนิลเคยรู้สึกสงสารและเป็นห่วง เพราะแท้จริงแล้ว น้องแบมไม่ใช่แบบที่อนิลคิดเลยแม้แต่น้อย
‘เรียน คุณโฉมฉาย หัวหน้ากองบรรณาธิการสำนักพิมพ์นกน้อย
ดิฉันอยากสอบถามและติดตามผลของการสอบสวนเกี่ยวกับการคัดลอกนิยายของนักเขียนนามปากกาลูกศร ที่มีการนำนิยายของคุณจินตภัทรตั้งแต่ยังใช้นามปากกา "จีนจา" ว่าสรุปแล้วทางคุณได้ตัดสินใจอย่างไรกับประเด็นนี้
ในฐานะที่ดิฉันเป็นแฟนนิยายของคุณจินตภัทรมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ดิฉันต้องการให้ทางกองบรรณาธิการเร่งแถลงการณ์ออกมาให้เร็วที่สุด เพราะมีเพื่อนสมาชิกในกลุ่มเพจแฟนคลับนิยายของคุณจินตภัทรหลายท่านที่พร้อมจะออกมาพูดและเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเราทราบกันดีว่าคุณจินตภัทรอาจจะใจดีเกินไป หรือเกรงใจสำนักพิมพ์ถึงไม่เอาเรื่อง
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ถ้าหากทางสำนักพิมพ์ไม่ดำเนินการอะไรภายในสัปดาห์นี้ ดิฉันจะทำการโพสต์รูปสแกนจากหนังสือของคุณลูกศรทั้งหมดที่มีการคัดลอกบางประโยค และแม้แต่ไดอาล็อก ที่ดิฉันมั่นใจว่าคุณลูกศรได้ลอกมาจากหนังสือของคุณจินตภัทร แต่ทางสำนักพิมพ์กลับละเลยและยังวางจำหน่ายได้อย่างไม่คิดถึงใจของคุณจินตภัทรและแฟนนิยายของคุณจินตภัทรเลย ซึ่งถ้าหลักฐานดังกล่าวถูกโพสต์ลงในสื่อโซเชียล ดิฉันคิดว่าไม่ใช่นิยายเพียงเรื่องเดียวของคุณลูกศรที่สำนักพิมพ์จะต้องเรียกคืนกลับมา และชดเชยให้กับคนอ่าน แต่มีอีกหลายเรื่องที่ดิฉันมั่นใจว่าถ้าถูกเปิดเผยไป คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคุณโฉมฉาย
สุดท้ายนี้ดิฉันต้องการให้คุณแถลงการณ์ถึงบทลงโทษนักเขียนที่ไร้จรรยาบรรณอย่างคุณลูกศรโดยเร็วที่สุด’
คลื่นใต้น้ำ...คำนี้เหมาะสมกับการกระทำของแบมมากที่สุด เพราะไม่ได้ออกมาเรียกร้องสร้างความวุ่นวายแต่กลับกดดันคนที่มีประสบการณ์มานานอย่างหัวหน้ากองบรรณาธิการได้ด้วยหนังสือร้องเรียนที่ส่งมาเพียงฉบับเดียว หากตัดเรื่องที่แบมกับแก้มยุ้ยเป็นแฟนกันออกไป แบมก็ถือว่าเป็นแฟนนิยายของจินตภัทรที่ค่อนข้างรู้จักนิสัยของนักเขียนตัวเองพอสมควร
แต่ที่น่าแปลกคือทำไมถึงไม่จัดการลูกศรในฐานะของมือที่สาม แต่กลับมาจัดการในฐานะแฟนคลับของจินตภัทร แล้วความจริงตอนที่เจอกันแบมเองก็รู้ว่าเขาทำงานที่ไหน แถมรู้ด้วยว่าจินตภัทรเป็นเพื่อนเขา แต่ทำไมถึงยังทำเหมือนไม่รู้ ไม่ถามอะไร ทั้งที่โดยปกติเด็กที่เป็นแฟนนิยาย น่าจะอยากรู้เรื่องนักเขียนของตัวเอง อยากเจอ อยากได้ลายเซ็น อยากพูดคุย แต่แบมกลับไม่เคยถามอะไรเขาเลย
"จริงๆ แก้มยุ้ยน่าจะเล่าให้ฟังเรื่องคุยกับเรานะ..."
อนิลบ่นพึมพำกับตัวเองและคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีเรื่องกัน ถ้าแบมรู้เรื่องอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมาทะเลาะกันหลังจากที่แก้มยุ้ยเจอเขา ถ้าจะยื่นคำขาดให้เลิกกับลูกศรก็น่าจะพูดนานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้ แถมช่วงหลังๆ ที่กวินบอกว่าแบมไปอยู่บ้านแก้มยุ้ย ก็มักจะเป็นวันที่เขาไปหากวินเสมอ
...................
"แจ็ค น้องแบมเคยเจอจีนไหม หรือถามถึงจีนอะไรเงี้ย" อนิลเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจหลังจากที่นั่งรถกันมาสักพัก วันนี้กวินก็มารับเขาที่ทำงานเหมือนวันอื่นๆ
"อืม ไม่น่าเคยเจอกันนะ แต่ก็พูดถึงอยู่ตอนที่แจ็คบอกว่าบีมันคบกับเพื่อนเอิน ก็คุยเล่นกัน ห้อยมันก็พูดอยู่ว่าสงสารจีนที่คบกับไอ้บี" น้ำเสียงร่าเริงปนขำของกวินยามที่พูดถึงน้องสาว ทำให้อนิลเริ่มคิดหนัก เขาไม่ควรเปิดประเด็นถามกวินเรื่องแบมกับจอมพลรึเปล่านะ...
"แบมไม่ชอบบีเหรอ"
"คู่กัดเลยล่ะ ยัยนั่นไม่ชอบไอ้บีมาตั้งแต่เด็ก เพราะบีมันเป็นคนลามกหน่อยๆ ชอบไปล้อน้องเรื่องตีฉิ่งด้วยไอ้ห่านี่ปากไม่มีหูรูด พูดอะไรไม่ค่อยคิดหรอก"
อนิลฟังแล้วก็หันไปยิ้มให้ราวกับมันเป็นเรื่องตลก แต่ในใจกลับรู้สึกกลัวแปลกๆ นี่ขนาดลูกศรลอกนิยายจินตภัทรไป แบมยังตามล่าจนกระทั่งยื่นหนังสือกับสำนักพิมพ์ได้ ก็ได้แต่คิดว่าคงจะไม่มีเรื่องถึงชีวิตจริงของตัวนักเขียนด้วย เพราะพฤติกรรมของแบมก็แปลกจริงๆ...
"วันนี้แวะไปหาน้ำหวานก่อนได้ไหม เอินคิดถึงน้ำหวานจัง วันนี้น้ำหวานอยู่กับใครเหรอ" อนิลหันไปถามคนขับด้วยรอยยิ้มแต่ใจก็แอบลุ้นให้ใครบางคนอยู่บ้านด้วย
"อ๋อวันนี้ห้อยอยู่บ้านอะ ไปดิ กินข้าวเย็นที่บ้านด้วยกันก็ดี"
...................
"ลู่ก่ายยยยยยยยยยยยยยยย"
เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งมาถึงด้วยซ้ำ อนิลย่อกายลงรับน้ำหวานที่โผมาหาราวกับเพื่อนสนิทกัน ขณะที่กำลังกอดหอมเด็กหญิงอยู่สายตาของอนิลก็เหลือบไปมองอาสาวของน้ำหวานที่มองแล้วยิ้มให้เขาก่อนจะรีบลุกเดินหายเข้าไปในครัว ราวกับตั้งใจจะหลบหน้า
"น้ำหวานไปอาบน้ำป้ะ เดี๋ยวจะได้ลงมากินข้าว"
ชายหนุ่มเดินเข้ามาอุ้มหลานสาวขึ้นไปชั้นสองของบ้าน และหันมายิ้มให้อนิลก่อนจะจากหันไปคุยกับน้ำหวานราวกับมีเรื่องมากมายให้คุยกัน
อนิลเดินมาหยุดที่กองของเล่นของน้ำหวาน แล้วค่อยๆ หยิบใส่กล่องเก็บให้ทีละชิ้น ขณะที่ตัดสินใจอยู่ว่าจะเดินเข้าไปคุยกับแบมดีไหม เพราะปกติจะมีบุคคลที่สามอยู่ด้วยเสมอ และเขาไม่เคยกล้าจะเข้าไปคุยกับแบมแบบส่วนตัวตั้งแต่มีกรณีเรื่องแก้มยุ้ย เพราะไม่แน่ใจว่าแบมรู้ไหมว่าเขาคุยกับแก้มยุ้ยก่อนหน้าที่จะมีเรื่อง...
"หืม?"
ขณะที่กำลังหยิบของเล่นเก็บมือก็ไปแตะโดนโทรศัพท์มือถือที่วางเปิดการ์ตูนค้างเอาไว้ที่พื้น อนิลเดาว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ของแบม แต่วินาทีที่คิดจะหยิบไปคืนเจ้าของ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมันกลับทำให้เขาเปลี่ยนใจหยิบมันขึ้นมาแล้วกดดูอัลบั้มรูปในเครื่อง โชคดีที่มันเปิดแอปเล่นยูทูปค้างไว้ ก็เลยไม่ต้องเข้ารหัสเครื่องอีกทีราวกับโชคช่วย ขณะที่นิ้วเรียวค่อยๆ แตะเปิดดูรูปในเครื่องก็เหลือบมองประตูครัวเป็นพักๆ เพราะกลัวว่าเจ้าของครื่องจะเดินออกมา
นิ้วก็เลื่อนดูไปเรื่อยๆ สลับกับมองไปทางห้องครัวอย่างระแวดระวัง อยู่ๆ ก็มีเสียงของวิดีโอที่เลื่อนผ่านมาและแตะโดน ทำเอาอนิลสะดุ้งสุดตัว ตั้งสติได้ก็รีบปิดเสียงคลิปก่อนจะก้มลงมองหน้าจอ มันเป็นคลิปที่เหมือนแอบถ่ายจากขอบบนของประตูห้องน้ำสาธารณะที่ไหนสักที่ ช่วงแรกๆ เหมือนจะยังโฟกัสไม่ได้ แต่ก็ดูรู้ว่าคนในคลิปทำอะไรกัน จนภาพค่อยๆ โฟกัสหน้าของผู้หญิงที่ยืนพิงผนังอยู่ และเห็นหน้าผู้ชายที่กำลังทำกระแทกกายเข้าใส่ ชัดขึ้นเรื่อยๆ จนมองออกว่าใครคือผู้ชายที่อยู่ในคลิป
มือเรียวยกขึ้นปิดปากกั้นเสียงหวีดออกมาอย่างลืมตัวไว้ ขณะที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดพอสเพื่อดูหน้าทั้งสองคนชัดๆ ความรู้สึกตอนนี้มันตีรวนไปหมด ตกใจ ประหลาดใจ และหลงลืมไปแล้วว่ากำลังแอบดูโทรศัพท์ของคนอื่นอยู่ จนกระทั่งเสียงเจ้าของโทรศัพท์ดังขึ้นเหนือศีรษะ
"ถ้าอยากดูมากขนาดนั้น เดี๋ยวแบมส่งให้ก็ได้นะคะ"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หวังว่าจะไม่ใช่พี่บีใช่มั้ยผชในคลิปอะ ฮือออออ
ไม่อยากเดาเลออ