ตอนที่ 24 : 23 : เหรียญ
23
เหรียญ
"เฮ้ย ไอ้บี!"
ทันทีที่เข้ามาในตึก G-building บริษัทอันดับต้นๆ ในประเทศ ที่มีธุรกิจบันเทิงครบวงจร ราวกับเดินเข้ามาอีกโลกที่จินตภัทรไม่เคยรู้จัก เหมือนเมืองที่ไม่เคยหลับใหลเพราะแม้ข้างนอกถนนจะเริ่มมีรถบางตาทั้งที่เป็นย่านที่รถติดที่สุดในระแวกนี้ แต่พอเดินผ่านประตูกระจกใสบานใหญ่เข้ามา กลับยังคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย และตลอดทางก็มีแต่เสียงทักทายแฟนตัวโตของจินตภัทรเป็นระยๆ ราวกับว่าเป็นคนสำคัญ เริ่มจากตอนที่เดินไปแลกบัตรขึ้นตึก รปภ.ยังทักทายจอมพลเหมือนลูกหลานที่เห็นกันมานาน
"บีอยู่ที่นี่มานานมากเลยเหรอ ทำไมคนรู้จักเยอะจัง"
"อืมมมม จริงๆ เข้ามาตั้งแต่มัธยมนะ เคยประกวดวงดนตรีมัธยมแล้วได้รางวัลของที่นี่ พอหลังจากนั้นก็เข้าๆ ออกๆ เรียกมาลองทำนั่นทำนี่ ฝึกด้วยเรียนด้วย พวกพี่เข้าก็เห็นหน้าตลอด น่าจะเข้าตึกบ่อยกว่าเข้าห้องเรียนอีก ถ้าไม่ติดว่าวันไหนไอ้แจ็คต้องส่งโมฯ ก็มาอยู่นี่จนดึกทุกวัน มาช่วงพี่เขาทำงานมั่งมาหัดทำนั่นทำนี่บ้าง อาศัยวิ่งซื้อข้าวซื้อกาแฟให้พี่เขาเวลาเขาทำงานดึกๆ ก็อยู่จนได้ฝึกงานตอนปีสี่อะ"
น้ำเสียงที่จอมพลเล่าออกมาเต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนมีความสุข เหมือนกับทุกภาพความทรงจำเหล่านั้นไม่เคยลบเลือนไปจากใจเลยแม้แต่เหตุการณ์เดียว...
"แล้วทำไมบีถึงไม่ได้ทำงานที่นี่ต่ออะ"
คำถามซื่อๆ ของจินตภัทรทำให้คนที่กำลังยิ้มค้างค่อยๆ หน้าเจื่อนลง ริมฝีปากหยักอ้าค้างราวกับพยายามหาคำอธิบาย แต่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี ในวินาทีนั้นเองจินตภัทรสัมผัสได้ว่ามันคงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจมากจริงๆ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไป ลิฟท์ก็พาทั้งสองคนขึ้นมาถึงชั้นยี่สิบสาม จุดหมายของทั้งคู่ในวันนี้
เสียงเพลงดังลอดมาจากในห้องที่อยู่ทางฝั่งซ้าย จากทางเดิน จอมพลยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากส่งสัญญาณว่าให้เงียบๆ ก่อนจะจูงมือเล็กๆ ให้เดินตามไปเรื่อยๆ มือหนาค่อยๆ หมุนลูกบิดแล้วเปิดช้าๆ ชะโงกหน้าไปมองคนที่อยู่ด้านในด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาจินตภัทรเดินตามเข้าไป
"ข่าวต้นชั่วโมงอยู่แก เฮ้ย หล่อขึ้นนะเนี่ย พวกป้าๆ ข้างบนเขาเจอแกแม่งต้องกรี๊ดอะ"
หญิงสาวหน้าตาสะสวยที่หันไปคุยกับจอมพลอย่างสนิทสนมราวกับมองไม่เห็นจินตภัทรที่ยืนอยู่ข้างหลัง จินตภัทรมองหน้าเธออย่างพิจารณาจนนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นแว่บๆ ในนิตยสารเวลาที่นั่งอ่านรอเข้าประชุมที่สำนักพิมพ์
"แจน นี่แฟนเรา" จอมพลขมวดคิ้วใส่หญิงสาวก่อนจะขยับถอยมาอยู่ข้างหลังจินตภัทร สองมือจับไหล่บางไว้ขณะที่ดันจินตภัทรมาข้างหน้า
"อุ๊ยขอโทษค่ะ จีนใชไหมคะ เราแจนนะ เพื่อนบี"
"ครับ เอ่อ ขอบคุณที่ให้มาดูการทำงานที่นี่นะ เรา..." แต่ยังไม่ทันที่จินตภัทรจะพูดอะไรมาก หญิงสาวอัธยาศัยดีช่างเจรจาก็พูดแทรกขึ้นมา
"บีเขาบอกหมดแล้วค่ะ จีนเดินดูได้ตามสบายเลย แต่เดี๋ยวเรามาคุยกันก่อนเรื่องงานคร่าวๆของดีเจ เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงของแจนเลย"
"โอเค ได้ๆ"
สายตาของแจนมองจินตภัทรที่พยักหน้าหงึกหงักสลับกับมองหน้าจอมพล จนสุดท้ายก็หลุดถามสิ่งที่สงสัยออกมา
"จีนอายุเท่าไหร่อะ ถามได้ป้ะ"
"เอ่อ ปีนี้เรายี่สิบสี่" จินตภัทรตอบเขินๆ เพราะไม่เคยมีใครมานั่งถามอายุแบบนี้ ขนาดจอมพลยังไม่เคยถามเลยและจินตภัทรเองก็ไม่รู้ด้วยว่าจอมพลอายุเท่าไหร่
"อ้าวงั้นก็รุ่นน้องเราดิ ไอ้บี หลอกเด็กนี่"
พอฟังที่แจนแซวจอมพลก็มองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกที่อายนิดๆ เขาไม่เคยรู้อายุจินตภัทร แต่ก็เดาไว้แล้วว่าเด็กกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะเด็กกว่าตั้งสองปี เพราะปีนี้เขาก็จะยี่สิบหกแล้ว พูดง่ายๆ ถ้าจินตภัทรเป็นเด็กเฟรชชี่ปีหนึ่ง เขาก็เป็นไอ้รุ่นพี่ปีสามขี้หลีคนหนึ่ง....
"บีอายุเท่าไหร่เหรอ"
น้ำเสียงติดงอแงของจินตภัทรถามออกมาต่อหน้าแจนที่เหวอไปเหมือนกัน ทั้งที่จอมพลแนะนำซะดิบดีว่าคนนี้แฟน แต่ทำไมไม่รู้แม้แต่อายุซะงั้น
"แกเอามีดจี้เอวขู่ให้เขามาเล่นพ่อแม่ลูกด้วยเหรอ ทำไมเขาไม่รู้อายุแก" แจนกอดอกมองจอมพลที่ตกเป็นจำเลยสังคมข้อหาหลอกเด็ก แต่ก็ยังไม่สาแก่ใจเท่าตอนที่จินตภัทรหันมาอธิบายตอกย้ำไปอีกว่าที่จอมพลมาบอกว่าจินตภัทรเป็นแฟนนั้น เป็นแฟนกันแบบไหน...
"หงึ บีไม่เคยบอก เราเลยไม่ได้ถาม จริงๆ ก็เพิ่งคบกันได้อาทิตย์เดียวเอง"
แจนฟังและมองท่าทางซื่อๆ ของจินตภัทรแล้วเกือบหลุดขำ ถ้าไม่เกรงใจว่าจินตภัทรยืนอยู่ตรงนี้ แจนคงแซวออกไปแล้วว่าจอมพลไปหลอกลูกใครเขามา ทำไมถึงใสซื่อขนาดนี้
"อ๋า เข้าใจละ เออบี เดี๋ยวตอนเราคุยกับจีน แกไปหาพี่พัฒหน่อยดิ พี่เขารอแกอยู่เหมือนอยากเจอเลย" แจนรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะเริ่มสงสารจอมพลที่เหมือนโดนแฟนแหกหน้ากลางอากาศ
"อ่าวแจนบอกเขาเหรอว่าเราจะมา" จอมพลถามขณะที่ล้วงกระเป๋ากางเกงมองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าเป็นเบอร์ที่แม้จะไม่ได้เมมไว้แต่ก็จำได้ดี เบอร์ของ 'อดีตพี่เขย' ที่แจนเพิ่งพูดถึง
"ก็ต้องบอกป้ะวะ ลูกรักพี่เขามาทั้งที ขึ้นไปเหอะพี่เขาคิดถึง ช่วงนี้กำลังจะมีคอนฯใหญ่ทีมนักดนตรีเขาเลยอยู่ค้างที่นี่กันหมด"
จอมพลมองหน้าจินตภัทรที่ยืนกอดกระเป๋าโน้ตบุ๊กไว้ราวกับขออนุญาต และเมื่อร่างเล็กพยักหน้านิดๆ จอมพลถึงหันไปตอบแจน
"โอเค แจนห้ามแกล้งแฟนเรานะ" จอมพลพูดทีเล่นทีจริงกับหญิงสาวก่อนจะหันไปยิ้มให้จินตภัทรที่แอบเบะปากใส่นิดๆ เพราะไม่พอใจที่จอมพลทำเหมือนเขาเป็นเด็กทันทีที่รู้ว่าตัวเองอายุมากกว่า
"ไอ้บีแม่ง..."
แจนพูดพลางขำออกมาน้อยๆ หญิงสาวมองหน้าจินตภัทรและยิ้มให้ก่อนจะเดินนำไปนั่งตรงโซฟาหน้าห้องส่ง
แต่ทันทีที่หันหลังให้ เสียงเรียบๆ ก็ถามคำถามที่แจนคิดไม่ถึงออกมา
"แจนคบกับบีนานแค่ไหนเหรอ"
ทั้งน้ำเสียงและคำพูดที่ใช้ทำให้แจนรู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้าที่จอมพลยังอยู่...
เมื่อหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่ายที่แจนเคยคิดว่าดูใสซื่อและน่ารัก กลับเปลี่ยนท่าทีราวกับเหรียญที่พลิกกลับด้านไปอีกด้านที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จนหญิงสาวรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
...................
"ทิ้งให้พวกกูหานักร้องใหม่ก่อนจะปล่อยซิงเกิ้ลเดือนเดียว แล้วชีวิตมึงดีขึ้นมะ"
คำพูดประชดประชันที่อีกฝ่ายเอ่ยกับเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่เคยเปลี่ยนไปเลยหลังจากที่ผ่านมาเกือบสามปีตั้งแต่วันนั้น...
พิพัฒน์ยังคงเป็นรุ่นพี่ที่จอมพลเคารพเหมือนเดิม เหมือนตอนที่พวกเขายังเล่นดนตรีด้วยกันและมีความฝันเดียวกัน แต่จุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จากพี่น้องที่เคยร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน กลับกลายเป็นคนที่เกียดกันจนไม่อยากมองหน้าหลังจากงานศพของพิมพ์ พี่พัฒเป็นคนหนึ่งที่เอ็นดูพิมพ์เหมือนน้องสาว
เพราะความน่ารักของเจ้าตัวที่ช่างพูดช่างคุยตีสนิทกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ทุกๆครั้งที่ติดตามจอมพลมาห้องซ้อม พิมพ์ก็จะนั่งกินขนม อ่านหนังสือ และคอยซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้เพื่อนร่วมวงของเขารวมทั้งพี่พัฒ สนิทสนมกันมาขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนร่วมวงแซวว่าพี่พัฒเหมือนพี่เขยของเขา เพราะพี่พัฒกับพิมพ์สนิทกันเหมือนกับพี่ชายน้องสาว และสิ่งที่ทำให้พวกเขามองหน้ากันไม่ติด ก็เพราะความผิดที่พี่พัฒเข้ามาร่วมรู้เห็นเป็นหนึ่งในคนที่เก็บความลับให้จอมพลในช่วงที่เขาเริ่มคบกับแจน
จอมพลไม่เคยบอกใครแม้แต่กวินที่เป็นเพื่อนสนิทว่าเขากำลังจะบอกเลิกกับพิมพ์ แม้จะรักกันมากแค่ไหน แต่ตราบใดที่สถานะของทั้งคู่ยังมีกวินคั่นอยู่ตรงกลางไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นที่สอง หรือเป็นตัวเลือกอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความสัมพันธ์ที่เขาไม่สามารถจะทำกับพิมพ์ได้หนึ่งในการตัดสินใจที่จะนอกใจของผู้ชายจำนวนมากรวมทั้งตัวจอมพลด้วยก็คือเรื่องเซ็กซ์
แต่หลังจากที่พิมพ์เสียพี่พัฒกับเขาก็ทะเลาะกันรุนแรง จนสุดท้ายจอมพลขอถอนตัวก่อนที่จะมีการปล่อยซิงเกิ้ลเปิดตัววงของเขาเพียงเดือนเดียว ไม่ใช่เรื่องที่ทะเลาะกับพี่พัฒ แต่รวมทั้งเรื่องญาติๆของพิมพ์ที่ตามด่าเขาไม่จบไม่สิ้น จอมพลตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่เกือบปีจนตัดสินใจเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และย้ายที่อยู่ไปเรื่อย จนสุดท้ายก็มาได้ห้อง 2209 คอนโดฯ ที่อยู่ในปัจจุบัน
"หากตอนนั้นถามว่าใครน่าสมเพชมากที่สุดก็คงเป็นมึง..." น้ำเสียงของคนอายุมากกว่าเจือไปด้วยความรู้สึกเศร้าๆ ที่เอ่ยพลางเหลือบมองเด็กที่โดนเขาด่าทอสารพัด แต่กลับเงียบมาตลอด
ไม่มีใครรู้ว่าจอมพลต้องเผชิญกับอะไรบ้างหลังจากที่พิมพ์จากไป มีเพียงเขา ที่รู้ว่าจอมพลต้องเข้มแข็งมากแค่ไหน ทั้งการเยียวยาตัวเองและเยียยวยาคนที่เป็นทั้งเพื่อนและมือที่สามมาตลอดอย่างกวิน พิพัฒน์เคยถามจอมพลว่าทำไมถึงยังเป็นเพื่อนกับกวินทั้งที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วตัวผู้หญิงเองก็ไม่คิดที่จะเลือกใครคนใดคนหนึ่ง เขากลับได้คำตอบที่ในตอนนั้นฟังแล้วก็ได้แต่ขำ แต่พอมาวันนี้ได้มองย้อนกลับไป คำตอบของจอมพลเป็นคำตอบที่ผู้ชายน้อยคนจะกล้าพูดออกมาตรงๆ
"ถ้าตัดเรื่องผู้หญิงไป ผมกับมันก็เป็นเพื่อนกันอยู่ดี ผมจะทิ้งมันทำไม ในเมื่อผมก็รู้อยู่ว่าสุดท้ายพิมพ์เขาก็ไม่ได้เลือกเราทั้งคู่นั่นแหละ...เพราะเขารักแต่ตัวเอง"
...................
"ตอนนั้นบีบอกว่าจะเลิกกับพิมพ์ ผู้ชายอะเวลาจะเอาแม่งก็พูดได้หมดแหละ พอถึงเวลาแม่งก็ไม่เลิกสักที"
หญิงสาวพูดระบายออกมาขณะที่ใช้ส้อมตักเค้กใส่ปาก แก้วน้ำถูกดันมาให้ เธอเหลือบมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วยิ้มน้อยๆ
พอได้มานั่งคุยกันตรงๆ แจนก็รู้ว่าคนที่เธอเห็นในคราแรกว่าเหมือนเด็ก แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนที่ค่อนข้าง 'ร้ายกาจ' พอสมควร จินตภัทรขอให้เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่พิมพ์จะถูกรถชนให้ฟัง ราวกับต้องการเช็กว่าเรื่องที่ตัวเองฟังมาจากปากจอมพลมันจริงแค่ไหน ไม่ต่างจากการ 'สืบหา' ความลับของคนที่เพิ่งคบกัน
"แล้วทำไมตอนนั้นแจนถึงแน่ใจว่าเขาจะเลิกกันอะ เขาอาจจะหลอกก็ได้นี่"
จินตภัทรถามออกมาด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างสับสน ปกติแล้วผู้ชายเจ้าชู้ร้อยทั้งร้อยก็น่าจะโดนผู้หญิงที่ตัวเองทิ้งไปด่าลับหลังสะบั้นหั่นแหลก แต่สิ่งที่แจนพูดถึงจอมพลแต่ละอย่างไม่มีแม้แต่ถ้อยคำที่ตัดพ้อหรือตำหนิ กลายเป็นว่าสิ่งที่จินตภัทรรอจะฟังจากแจนกลับกลายเป็นเพียงเรื่องในจินตนาการที่ยิ่งฟังแจนพูดก็ยิ่งรู้สึกแฟนตาซีมากๆ
"เพราะตอนนั้นเราเป็นฝ่ายชอบบีก่อนด้วยมั้ง จริงๆ เราเป็นคนที่เข้าหาบีก่อนนะ สมัยนั้นเด็กที่มาฝึกงานรุ่นเดียวกันก็มีแค่อีตานี่แหละที่หน้าตาดีสุด ก็เรื่องปกติป้ะที่เราจะชอบคนหน้าตาดีๆ อีกอย่างเหมือนตอนนั้นเขาก็เริ่มมีปัญหากับพิมพ์ เอาจริงไม่อยากนินทาคนตายไปแล้วอะนะ แต่พูดตรงๆ พิมพ์ก็เห็นแก่ตัว อยู่กับแจ็คแทบจะตลอดเวลา ไปกินข้าว ไปเที่ยว เอาจริงๆ สองคนนั้นเขามีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าที่อยู่กับบีอีก
ผู้หญิงคนนั้นอะร้ายจะตาย...น้องจีที่เป็นหลานรหัสแจ็คอะ เคยโดนพิมพ์ตบหน้าหันเลย เพราะน้องมันแอบเอาของขวัญวันวาเลนไทน์ไปให้แจ็ค ต่อหน้าก็ยิ้มๆ กันดี ผ่านไปได้วันเดียวพิมพ์แม่งตามไปตบน้องจีถึงห้องน้ำบนตึกคณะ เรื่องนี้แหละที่ทำให้บีเริ่มทนไม่ได้แล้วตัดสินใจมาคบกับเราจริงจัง..."
หญิงสาวเล่าไปก็หวนคิดถึงอดีต แม้จะรู้ว่าที่จอมพลบอกเลิกกับพิมพ์แล้วเป็นเรื่องโกหก แต่เธอก็ชอบจอมพลมากจนทำเป็นไม่รู้ไป ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ สายตาของแจนก็เหลือบไปเห็นมือเล็กๆ ที่ถือดินสอจดอะไรบางอย่างยุกยิกอยู่ในสมุดเล่มเล็กๆ
"จีนจดไรอะ"
"พล็อต...."
ทั้งที่อยากจะหัวเราะออกมาแต่สีหน้าที่ซีเรียสของจินตภัทรก็ทำให้แจนกลั้นขำและทำได้แค่อมยิ้มและมองด้วยสายตาเอ็นดู เธอไม่รู้ว่าจินตภัทรรู้สึกยังไงกับจอมพล เพราะอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะปริปากพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับจอมพลว่ามาคบกันได้ยังไง และไม่เปิดโอกาสให้แจนถามด้วยสายตาดุๆ นั่น
"จีนชอบบีตรงไหน"
ใบหน้าของคนที่กำลังตั้งใจจดพล็อตเรื่องที่น่าสนใจอยู่ค่อยๆ เงยขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยแบบน่าหมั่นไส้นิดๆ
"เราไม่ได้ชอบบีที่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ที่เราคบกับบีเพราะเราชอบตัวเองเวลาอยู่กับบี เราชอบที่เราเป็นคนสำคัญของเขาไม่ใช่ตัวเลือกของเขา...."
คำพูดที่เหมือนคำบอกเล่าทั่วๆ ไป แต่กลับทำให้คนฟังถึงกับหน้าชา แจนสบตากับอีกฝ่ายนิ่งราวกับประเมินความคิดของกันและกัน สายตาของจินตภัทรเหมือนกับเลเซอร์ที่ยิงทะลุทะลวงเข้ามาในความคิดของหญิงสาวทะลุปรุโปร่ง
"เหมือนจีนพูดดักคอเราเลย..." แจนแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนขณะที่เท้าคางมองอีกฝ่ายที่ก้มลงไปจดอะไรบางอย่างในสมุดที่ดูน่าสนใจกว่าการสนทนากับเธอ จนกระทั่งจินตภัทรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ทำให้รู้สึกราวกับโดนตบหน้าฉาดใหญ่ แถมความสะพรึงจนขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า
"คนเราก็มักจะพูดในมุมที่ตัวเองถูกต้องเสมอ เหมือนกับพวกขี้ขโมยที่ไม่มีวันยอมรับว่าตัวเองเป็นหัวขโมย นินทาคนตายไม่น่าเกลียดหรอก แต่การพยายามพูดบิดเบือนให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกทั้งที่ความจริงมันอาจจะตรงกันข้ามมันไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะแจน ทำงานดึกๆ ก็ระวังพิมพ์มาหานะ...."
เมื่อตระหนักได้ว่าจอมพลเองก็มีเพียงความต้องการแบบผู้ชายที่เห็นผู้หญิงสวยๆ ท่าทางเฟรนด์ลี่น่ารักก็จะรู้สึกวางใจ ก็ไม่แปลกที่จอมพลจะตกหลุมพลางผ้หญิงแบบแจน
จินตภัทรมองเห็นบางอย่างในตัวของแจนตั้งแต่แรกจากสายตาและการพูด เพราะความอัธยาศัยดีของผู้หญิงบางคนก็เหมือนหน้ากากที่สวมไว้ปิดบังความแพศยาในใจของตัวเองแล้วเที่ยวตีสนิทเข้าหาใครต่อใครอย่างง่ายดาย พูดเก่ง น่ารัก และทำเหมือนแม่พระที่พร้อมจะช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังอะไร...แต่คำพูดเวลาที่พูดถึงบุคคลที่สามอย่างพิมพ์กลับมีแต่คำพูดที่แอบใส่ร้ายและโน้มน้าวให้จินตภัทรเข้าใจว่าพิมพ์เป็นผู้หญิงไม่ดี
"จีนนี่มีหลายบุคลิกเหมือนกันนะ อยู่กับบีก็เป็นอีกอย่าง อยู่กับเราก็--"
ก่อนที่คำพูดเหน็บแนมจะเอ่ยออกมาจนจบประโยค เสียงของเก้าอี้ที่เลื่อนออกก็หยุดคำพูดนั้นไว้ พร้อมกับร่างเล็กที่สูงพอๆ กับเธอลุกขึ้นรวบข้าวของเก็บใส่กระเป๋า จินตภัทรมองหน้าแจนที่เงยขึ้นมาสบตาเหวอๆ ด้วยท่าทางและคำพูดที่ตบหน้าเธอซ้ำๆ
"เปล่า เราแค่เลือกปฏิบัติ กับคนที่เรารักมันก็ต้องได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าคนที่เราเกลียดขี้หน้าอยู่แล้ว"
..........TBC.........
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องจีนแซ่บ แม่ชอบบบบบบ