ตอนที่ 17 : 16 : หยอก
Fan art credit : kiwiootori
..................
16
หยอก
อยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ก็ฉันนั้นอยากจะได้คนนี้เป็นแฟน
ถ้าหากได้คนนี้เป็นแฟนก็ดี
(ลิปตา - แฟน)
...................
"ชั้นอะไรครั--"
เสียงที่กำลังเอ่ยถามคนที่เดินตามหลังมาในลิฟต์ค่อยๆ เบาลง สายตามองลอดแว่นกรอบหนาไปยังร่างสูงใหญ่ที่เดินหอบผ้ากลับมาจากร้านซักรีดจนไม่มีมือจะกดลิฟต์ แต่ก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าให้กดชั้นไหน
จินตภัทรกดปิดลิฟต์แล้วมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้กอดผ้าแน่นแล้วหันหน้าเข้ามุมเงียบกริบเหมือนเตรียมสิงเข้าไปในผนังด้านหนึ่งของลิฟต์
ท่าทางของจอมพลทำเอาเกือบหลุดขำออกมา แต่ก็สงสารนิดๆ เพราะหลังจากที่กวินโทรมาขอโทษแทนเพื่อนควายของตัวเองแถมเล่าให้ฟังว่าจอมพลเป็นพวกตื่นตระหนกแล้วสมองช้า เหมือนกับตอนที่จินตภัทรคว้าโทรศัพท์วิ่งหนีออกมาจากร้านแล้วกว่าจะออกตัววิ่งตามมาก็นั่งเบลออยู่พักหนึ่งเลย
คุยไปคุยมา กวินก็บอกว่าช่วงนี้ให้แกล้งเมินๆ ไปก่อน คนที่เพิ่งนึกได้ว่าโดนสารภาพรักมันทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจินตภัทรจะพูดแบบนั้น
และนอกจากจะโทรมาขอโทษและรายงานเรื่องเพื่อนแล้ว กวินก็ยังสวดจินตภัทรยาวเหยียดจนแทบจะพนมมือรับพร
"แล้วทำไมจีนไปบอกชอบมันล่ะ ชอบมันจริงๆ หรือว่าแกล้งหยอกเล่น แกล้งบ่อยๆ ไม่ดีนะ เราก็สงสารมันเหมือนกัน จีนอาจจะอยากเอาคืนเรื่องที่มันทำตัวแย่ๆ ก่อนหน้านี้
แต่จีนก็เห็นใช่รึเปล่าว่าตอนนี้บีมันไม่เหมือนเดิม เวลาบีมันจริงจังกับใครขึ้นมา มันก็หงอนะ มันกลัวจีนเกลียดมันไง มันถึงพยายามถอย จีนเคยบอกว่าเกลียดมัน ไม่ชอบมัน ลองใครโดนพูดแบบนี้บ่อยๆ ก็มีเฮิร์ตเหมือนกัน"
จินตภัทรเชื่ออนิลแล้วว่ากวินนี่โคตรแสนดีและดูเหมือนเจ้าชายที่หลุดออกมาจากโลกดิสนีย์ตามคำพูดเพ้อๆ ของเพื่อนเขา จนพานคิดว่าถ้ากวินไม่มาจีบอนิล หรือมีเพื่อนที่นำพาแต่ความฉิบหายมาให้อย่างจอมพล คิดว่าวงการเกย์ไทยคงต้องสูญเสีย ผู้เกรดเอ ให้แก่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นแน่
เสียงเตือนเมื่อถึงชั้นยี่สิบสองดังขึ้นเรียกให้จินตภัทรหันไปมองคนที่ยืนหันหน้าเข้ามุมที่ค่อยๆ ถอยหลังออกจากลิฟต์ ก้มหน้าก้มตาไม่ทักไม่พูดอะไรด้วยเลย เห็นแล้วมันหมั่นไส้นิ้วเรียวเลยแกล้งจิ้มปุ่มกดปิดประตูลิฟต์มันเดี๋ยวนั้น
ตึ่ง!
"เชี่ย!"
จินตภัทรมองแล้วกลั้นขำตอนที่จอมพลเผลอสบถหยาบออกมาแทบจะในทันทีเมื่อโดนประตูลิฟต์ปิดกระแทกใส่ไหล่หนาเต็มๆ
ดวงตาคมเหลือบมองจินตภัทรที่ปิดปากหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกลับไปก้มหน้าก้มตาเดินออกจากลิฟต์ไม่พูดไม่จา ซ่อนสีหน้าที่เก้อเขินเอาไว้หลังกองผ้าที่หอบอยู่ในอ้อมแขน
"บี..กางเกงในหล่นอะ"
เสียงของคนที่เดินตามออกมาเบรคขายาวๆ ที่พยายามจ้ำอ้าวหนีจนหัวเกือบทิ่ม ใบหน้าหล่อเหลาหันควับมามองคนขี้แกล้งที่ยืนหัวเราะดังลั่นอยู่ข้างหลัง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากางเกงในหล่นอย่างที่พูด แล้วก็นึกได้หลังจากที่หันกลับมาแล้วว่าตัวเองส่งแต่กางเกงยีนส์กับเสื้อหนังไปซักที่ร้านเท่านั้น
มองค้อนร่างบางที่เดินเข้ามาหาก่อนจะพยายามเอาคีย์การ์ดแตะประตู แต่เพราะกองผ้ามันบังก็มองไม่เห็นอีกว่าเซ็นเซอร์ประตูอยู่ไหน จนกระทั่งมือเล็กๆ มาดึงคีย์การ์ดออกจากมือแล้วจัดแจงแตะคีย์การ์ดเปิดประตูให้
เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังขึ้นขณะที่จอมพลค่อยๆ เดินผ่านจินตภัทรที่ยืนอยู่คาประตูอย่างระแวดระวังเดินเข้าห้องไม่เอ่ยแม้แต่คำขอบคุณ มือหนาค่อยๆ วางผ้าลงที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง หันกลับมามองร่างบางที่กำลังเดินมาหา จินตภัทรอมยิ้มและมองสบตาเขาราวกับลองเชิงว่าเจ้าของห้องตัวโตจะทำยังไง จอมพลยังคงนั่งเงียบและหลบสายตาอีกฝ่าย
ไม่ใช่ว่าเขิน แต่จอมพลรู้สึกแย่ที่ตัวเองดูเงอะงะต่อหน้าคนที่ชอบ
ธรรมดามนุษย์ทั่วๆไป ก็คงไม่มีใครอยากทำตัวโง่ๆ ต่อหน้าคนที่ตัวเองแอบชอบอยู่แล้ว
จากที่ไม่แน่ใจว่าตกลงโดนเกลียดจริงรึเปล่า ตอนนี้ก็กลายเป็นคนหมดความมั่นใจไปเลย
เขาไม่รู้จะอธิบายให้จินตภัทรเข้าใจยังไง ว่าเขาไม่ตลก ไม่ขำกับเรื่องทุกอย่างที่จินตภัทรทำตอนนี้สักนิด
เพราะเขาไม่รู้ว่าที่จินตภัทรบอกว่าชอบเขา มันคือเรื่องจริง หรือแค่อยากพูดแกล้งกัน...
ร่างบางสวมเสื้อยืดตัวโตสีขาวกับกางเกงขาสั้นที่มองเห็นชายกางเกงสีฟ้าที่โผล่พ้นจากเสื้อยืดที่คลุมสะโพกเพียงนิดเดียว รายละเอียดของเสื้อผ้า และเรียวขาขาวที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาหามันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะห่างที่เริ่มน้อยลงจนทำให้ใจสั่น
จอมพลเงยหน้าขึ้นตามมือเรียวที่แตะปลายคางสาก ใบหน้าสวยโน้มลงมาหาประทับจูบที่ริมฝีปากหยัก มันทั้งนุ่มนวล และหอมหวาน ก่อนที่จะผละออกช้าๆ
"เก็บค่าจ้างกดลิฟต์กับเปิดประตูให้"
ริมฝีปากอิ่มเอ่ยกระซิบ พลางยิ้มให้จนดวงตาหลังแว่นกรอบหนาโค้งลงมาเหมือนพระจันทร์เสี้ยวที่ทำให้จินตภัทรดูน่ารักมากขึ้น
จอมพลได้แต่นั่งนิ่งแล้วปล่อยให้จินตภัทรเดินถือถุงเซเว่นเดินออกจากห้องไปจนลับตา
เสียงประตูปิดลง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงเหมือนถูกยิงเข้าที่กลางหัวใจ มือขวาเลื่อนมากกุมหน้าอกสัมผัสถึงหัวใจที่เต้นรัวราวกับตกลงมาจากที่สูง
ดวงตาคมมองเพดานอย่างเหม่อลอย เผลอสบตากับจิ้งจกที่เดินผ่านไปยังรู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว
เพราะมันทำให้นึกถึงวันที่เขาแกล้งเอาจิ้งจกยัดใส่ซองไปรษณีย์ไปให้จินตภัทร...
...................
ดวงตารีเหลือบมองท้องฟ้าที่โปร่งไร้เมฆก้อนดำทะมึนที่บบดบังแสงแดดมานานหลายวัน หลังจากเช็กพยากรณ์อากาศ (ที่ไม่ค่อยจะแม่นยำเท่าไหร่) ก็ตัดสินใจเอาผ้าห่มนวมผืนหนาออกมาซัก
แม้ว่าใต้คอนโดฯ จะมีร้านรับซักผ้าปูที่นอนกับผ้านวม แต่จินตภัทรกลับรู้สึกว่ามันไม่สะอาด ไม่รู้ว่าเขาซักให้แบบไหน เพราะเคยอยู่หอพักตอนเรียนมหา’ลัย มองลงไปจากระเบียงเห็นแรงงานพม่าร้านซักรีดเอาเสื้อผ้าของคนที่ฝากซัก ลงไปวางกับพื้นแล้วลงแปรงพลาสติกซัก ไม่ก็หยิบมาสวมใส่เล่นก่อนซัก ทำเอาขนลุกขนพองจนไม่อยากจะใช้บริการประเภทนี้ และตัดใจซื้อเครื่องซักผ้าที่สามารถยัดผ้านวมใส่เข้าไปปั่นได้
แต่ปัญหามันก็มีตอนที่รอผ้าแห้ง จินตภัทรไม่ชอบเครื่องอบผ้าเพราะมันไม่หอม กลิ่นไอแดดที่อยู่บนผ้ามันหอมมากกว่า และด้วยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็ต้องหอบสังขารขึ้นมาตากผ้าบนชั้นดาดฟ้าที่ทางคอนโดฯ อนุญาตให้เอาผ้าขึ้นมาตากได้และมีราวตากผ้าสะอาดๆ จัดไว้ให้ให้
แต่สะอาดแค่ไหนจินตภัทรก็ต้องหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ ไปเช็ดก่อนเอาผ้าตัวเองพาดตากอยู่ดี วันนี้ก็เช่นกัน จินตภัทรแบกผ้านวมที่ปั่นเกือบแห้งขึ้นมาตากรับไอแดดช่วงสายๆ ขณะที่เงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างวิงวอนไม่ให้ฝนเทลงมา กลิ่นที่เกลียดแสนเกลียดก็ลอยมาแตะจมูกนำสายตาให้หันไปมอง
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกง หันหลังสูงบุหรี่อยู่ในชุดที่กึ่งๆ จะเป็นชุดนอน เสื้อยืดย้วยๆ กางเกงบ็อกเซอร์สีเหลืองอ๋อยที่ลายพล้อยไปด้วยตัวการ์ตูนบาร์ท ซิมป์สัน ที่มองแล้วขำแต่กลิ่นที่มันยังลอยมามันทำให้อารมณ์มันเหวี่ยงไปทางที่ ไม่ปลื้ม มากกว่า
"บี..."
ร่างเล็กเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดุดันอะไร แต่เจ้าของชื่อดูจะตกใจเกินเหตุดูจากอาการที่หันมาเบิ่งตาใส่ แต่ปากยังคาบมวนบุหรี่ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งมวนไว้ คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจอัดบุหรี่เข้าปอดด้วยความเสียดายให้หมดเร็วๆ
จินตภัทรเดินเข้าไปหาและหยุดเหงยหน้ามองจอมพลและบึนปากใส่ เริ่มเปิดฉากพูดตัดพ้อใส่ราวกับเป็นคนสำคัญที่อีกฝ่ายต้องแคร์
"บอกให้เลิกสูบบุหรี่ไง มันอร่อยตรงไหนเนี่ย ชอบจังเลยนะ เหม็นก็เหม็น รสชาติก็ไม่น่าดีป้ะ"
เสียงบ่นแง้วๆ กับท่าทางหงุดหงิดที่พอมองแก้มเนียนใสที่พองลมน้อยๆ แล้วมันอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ จอมพลคิดว่าเขามีอีกเหตุผลที่ทำให้เขาชอบจินตภัทรมากขึ้นก็อาจจะเพราะว่าเขาชอบเด็ก ชอบคนอายุน้อยกว่า และจินตภัทรก็ดูเหมือนเด็กตลอดเวลายิ่งตอนไม่พอใจขึ้นมาก็ทำหน้าเหมือนเด็กเล็กๆ ที่เอาแต่ใจตลอด
"เคยลองป้ะ" มือที่คีบบุหรี่ออกจากริมฝีปากยกขึ้นสูงและเบี่ยงออกข้างเล็กน้อยกันลมพัดควันและขี้บุหรี่มาโดนคนตรงหน้า
"ไม่อะ"
คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธสายตายังมองสบตากัน เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรต้องกลัวกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลบตา หรือหนีหน้ากันอีกต่อไป จินตภัทรคิดว่าพวกเขาทั้งคู่โตพอจะยอมรับกันตรงๆ ได้แล้วว่า ใจตรงกัน (ถ้าแม้ว่าคนไม่ยอมรับตอนแรกมันก็มีแต่จินตภัทรนั่นแหละ)
"แล้วจีนรู้ได้ไงว่ามันไม่อร่อย" ริมฝีปากหยักยกยิ้มมุมปากขณะที่หันไปอัดนิโคตินเฮือกสุดท้ายที่ใกล้ติดก้นกรองขณะที่ฟังเสียงงอแงโต้ตอบกลับมา
"เราไม่จำเป็นต้องชิมหรอก ของที่มันทำลายสุขภาพมากๆ มันก็ไม่อร่อยใช่ไหมล่ะ ถึงเราจะดื่มเหล้าเหมือนกัน แต่มันยังควบคุมปริมาณได้ แต่บุหรี่นี่มันไม่ได้..."
คำพูดที่อยากจะสอนอีกฝ่ายถูกกลืนหายลงคอไปพร้อมกับรสชาติแปลกๆ ที่ถูกส่งเข้ามาในโพรงปาก มันไม่ได้ขมปี๋แต่มีรสเฝื่อนนิดๆ รับรู้ถึงความรู้สึกเย็นๆ ขณะที่สูบเข้าไปทางปาก ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละริมฝีปากออก
"ค่อยๆ เป่าออกมา เหมือนผิวปาก แต่ช้าๆ" เสียงทุ้มกระซิบบอกและจินตภัทรก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย มันไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่อะไร ควันสีขาวหม่นค่อยๆ ถูกปล่อยออกมาพร้อมกันลมที่ผ่านริมฝีปากแดงสด
"มันขมนิดๆ ที่ปลายลิ้น" ริมฝีปากอิ่มอธิบายพลางเลียริมฝีปากละขบเม้มไปมาเหมือนเด็กที่เพิ่งชิมรสชาติของอาหารที่ไม่เคยกินเป็นครั้งแรก
จอมพลแกล้งขมวดคิ้วเหมือนสิ่งที่จินตภัทรพูดมันประหลาด จินตภัทรเองก็มองหน้าอีกฝ่ายตาปริบๆ ไม่ค่อยเข้าใจ
"เหรอ ไหนแลบลิ้น"
จินตภัทรทำตาปริบๆ แล้วแลบลิ้นออกมาอย่างสับสน ใจก็คิดแต่ว่ามันจะอันตราย แต่อีกใจก็พยายามคิดว่าถ้ามันอันตรายถึงตายแค่ลองครั้งแรก คนตรงหน้าอาจจะไปนอนคุยกับรากมะม่วงนานแล้ว
ทันทีที่แลบลิ้นสีแดงฉ่ำออกมาอย่างไม่ประสีประสา ใบหน้าของคนตัวสูงกว่าก็ขยับปรับองศาเล็กน้อยและก้มลงมาแตะปลายลิ้นชื้นลงที่ริมฝีปากแดงสดตรงหน้า และค่อยๆ ลากเลียมาแตะปลายลิ้นเล็กก่อนจะขบเม้มริมฝีปากลงเบาๆ ดูดดุนลิ้นเล็กที่เจ้าของมันเริ่มทำท่าจะผละออก แต่มือหนาก็จับยึดเอวบางเอาไว้ ขณะที่ยังส่งเรียวลิ้นไปหยอกเย้าริมฝีปากที่อิ่มเชื่อมราวกับลูกเชอร์รีสีแดง
มันไม่ใช่จูบ แต่กลับรู้สึกวาบหวามไปหมดยามที่ลิ้นหยุ่นลากเลียแตะกันไปมา จนสุดท้ายเหมือนจะพอใจแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ผละออกมา ขบเม้มริมฝีปากตัวเองขณะที่อมยิ้มให้
จินตภัทรยังคงเผยอปากอ้าค้างและมองสบตาราวกับถามกลับว่าเมื่อครู่มันคือพิธีกรรมอะไร จนกระทั่งเสียงทุ่มต่ำตอบคำถามออกมาอย่างยียวน ราวกับก๊อปปี้คำพูดเขามาตอกกลับใส่
"รสขมๆ อะไร จีนอะคิดไปเอง บีว่ามันหวานจะตายไป"
ให้คำตอบจบมือหนาก็ยกขึ้นบีบแก้มนุ่มของจินตภัทรอย่างมันเขี้ยว และผละกายออกเดินหนีไปในทันที
จินตภัทรเม้มริมฝีปากอิ่มเบาๆ ขณะที่กลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว และเอ่ยปากสั่งคนที่กำลังจะเดินหนีลงชั้นล่างได้ฟังก่อนจะจากไป
"ไม่ต้องขึ้นมาสูบบุหรี่จนกว่าจีนจะเอาผ้าห่มลงไปเก็บ เข้าใจป้ะ"
คนที่อยู่ห่างออกไปหันกลับมายิ้มให้มาพร้อมเสียงกวนๆ ที่ตอบรับกลับมาแค่คำเดียว...
"จ้าาาาาาาาาาาา"
คำๆ เดียว แต่น้ำเสียงมันฟังแล้วเขินจนร่างบางแอบบึนปากใส่นิดๆ เพราะตอนนี้มันหุบยิ้มไม่ได้เลย...
..........TB...........
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นิพพาน...
เขินจนเอาหน้าซุกหมอนแล้วกรี้ดอยู่เกือบนาที หนูจีนหวานมากใช่มั้ยคะพี่บี -/////-