ตอนที่ 10 : 9 : คิดมาก vs คิดน้อย
9
คิดมาก vs คิดน้อย
"ติดต่อได้รึยัง"
"ยังครับพี่โฉม ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เอินโทรไปที่คอนโดฯ ก็ไม่มีคนรับ"
มือเรียวพยายามส่งข้อความแชตไปหากวินระหว่างที่ตอบผู้เป็นนาย ทางเดียวที่จะรู้ว่าจินตภัทรยังโอเคอยู่ไหมก็คงต้องฝากกวินถามอีตาจอมพลก่อน เนื่องจากตอนนี้อนิลยังออกไปไม่ได้เพราะยังไม่เลิกงาน แต่ไม่ว่าส่งข้อความไปเท่าไหร่คนที่เพิ่งคุยกันเมื่อคืนกลับไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน ร่างเพรียวลุกจากที่นั่ง กวาดตามองหาโฉมฉายแล้วเดินหลบเข้าไปในห้องถ่ายเอกสารก่อนจะกดวิดีโอคอลไปเพราะอยากเห็นหน้าคนคุยด้วย เสียงรอสายดังไม่นาน ก็กดรับพร้อมกับภาพในจอที่ตีลังกา ใบหน้าของเด็กหญิงแก้มยุ้ยโผล่เข้ามาในจอ
"น้ำหวาน นี่พี่ลูกไก่นะจ๊ะ อาแจ็คล่ะ"
(กากาวินยางมะตุ่น) เด็กหญิงบอกขณะที่เหมือนจะเดินถือโทรศัพท์ของคุณอาไปเล่นเองโดนที่เจ้าของไม่รู้
"น้ำหวานเรียกกากาวินให้พี่ลูกไก่ได้ไหมเอ่ย พี่ลูกไก่มีธุระด่วนมากเลย" อนิลพยายามตะล่อมคุยอย่างใจเย็น เพราะน้ำหวานเปรียบเสมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ของกวิน
(งื้อ)
....................
เด็กหญิงพยักหน้ากับคนปลายสายก่อนจะถือโทรศัพท์วิ่งตื๋อไปจากห้องของตัวเอง ขณะที่เท้าเล็กๆ กำลังเดินมุ่งหน้าไป เสียงเรียกของหญิงสาวที่มักจะแวะมาในบางอาทิตย์ก็ดังขึ้นเรียกเด็กหญิงรวมทั้งดึงความสนใจของคนที่อยู่ปลายสายให้ขมวดคิ้วแทบจะทันที
"น้ำหวานไปไหนคะ น้องแบมเข้าบ้านมาไม่เจอใครเลย คุณแม่หนูไปไหนเนี่ย"
หญิงสาววัยมหา’ลัยเดินมาอุ้มน้ำหวานโดยไม่รู้ว่าในมือที่ถือโทรศัพท์มีใครอีกคนฟังอยู่
"กากาวินทอสับ" น้ำหวานบอกขณะที่อาสาวอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเอ็นดู
"หื้ม หอมเชียว เดี๋ยวอาเปิดประตูให้" หญิงสาวผมยาวประบ่าไม่ได้สนใจที่น้ำหวานบอกนัก คิดแค่ว่าหลานสาวจะเข้าไปหาคุณอาก็เดินอุ้มหลานเปิดประตูเข้าไปเลย
มุมภาพที่เปิดจากกล้องหน้าพลิกกลับมาฉากภาพมุมเสยขึ้น เหมือนน้ำหวานจะวางมันไว้บนเตียงขณะที่ปีนขึ้นไป ไม่นานภาพมุมกล้องก็ฉายภาพคนที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมา วินาทีนั้นอนิลรู้สึกเหมือนตกหลุมรักซ้ำๆ กวินเป็นเหมือนเจ้าชายในจินตนาการ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่มือของคนในจอคว้าและดึงข้อมือหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเตียงลงมาพร้อมเสียงหวีดและเสียงหัวเราะของน้ำหวาน อนิลรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา และหัวใจถูกขยี้จนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี
"อีแจ็ค! ปล่อย" หญิงสาวตัวเล็กถูกลากลงมาอยู่บนเตียง โดนจับกอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนตุ๊กตา ขณะที่เด็กหญิงนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนานไปด้วย
"น้ำหวาน อาแบมพูดไม่เพราะ ตีอาแบมเลย" เจ้าของเตียงที่ยังกอดเอวเด็กสาวอายุน้อยกว่าเอาไว้หันไปฟ้องหลานพลางตีหน้าเศร้า
"อีเชี่ย ปากเหม็นอะมึง เพิ่งตื่นแล้วก็มาหอมแก้มกูอีเวร" พูดไปก็ตบอีกฝ่ายไปอย่างไม่ยั้งมือ
"แบมพูดไม่เพราะเลยอยู่ต่อหน้าหลานนะยัยห้อย"
"อีเถิก น้ำหวานเรียกมันว่าอีเถิก"
"ฮ่าๆ เถิก เถิก" น้ำหวานปรบมือขำ และปล่อยมือจากโทรศัพท์ที่ยังคงมีใครอีกคนอยู่ปลายสาย จังหวะที่เจ้าของโทรศัพท์กำลังยื่นหน้าทำปากจู๋ใส่แบม สายตาของเด็กสาวก็เหลือบไปเห็นใบหน้าบึ้งตึงที่ฉายอยู่บนจอ
"อีเถิกๆ" มือเรียวฟาดแขนคนที่กอดตัวเองไว้หยุดการกระทำของอีกฝ่ายก่อนจะนำสายตาไปที่หน้าจอที่ดับลงในทันที
"อะไรวะห้อย"
"เหมือนมีคนวิดีโอคอลมาหามึงป้ะ จอดับไปเมื่อกี้" แบมบอกก่อนจะเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ส่งให้แล้วหันไปเล่นกับหลานสาว ปล่อยให้คนมีศักดิ์เป็นญาติที่เห็นกันมาแต่เล็กจนโตหันไปกดโทรศัพท์ ไม่นานกวินก็สบถดังลั่นก่อนจะวิ่งออกไปจากห้อง
"อีเถิกมันเป็นอะไรอะน้ำหวาน" แบมหันไปมองสบตาเด็กหญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย
"ลู่ก่ายทอมาหา"
"หืม ลู่ก่าย"
"แฟนกากาวิน"
"แฟน ว้าย! อีนี่มีแฟนไม่บอกน้องบอกนุ่ง ต้องแซวละ" แบมพูดพลางเบ้ปากแล้วหันมาเล่นกับหลานสาวต่อ
....................
วิ่งออกมาจากห้องได้ก็รีบกดโทรกลับไป แต่อนิลไม่ยอมรับสายและตัดสายทิ้งไปแทบจะทันที กวินใจเสียไปหมด ขณะที่สลับไปที่โปรแกรมแชตก็เห็นอนิลเป็นฝ่ายทักมาก่อนเกือบสิบข้อความ
GAGAWIN : เอินตอบหน่อย เอิน เมื่อกี๊VDO call มาหรอ มีอะไรรึเปล่า?
GAGAWIN : เอินครับ ตอบแจ็คหน่อย อย่าอ่านเฉยๆสิ
GAGAWIN : เอินโกรธเรื่องแบมหรอ? นั่นน้องแจ็คอะ ลูกพี่ลูกน้องกัน อย่าเข้าใจผิดนะครับ
BabyEarn : ลูกพี่ลูกน้องเล่นกันแบบนั้นหรอ? แล้วน้องเขาเป็นผู้หญิงเล่นกันแบบนี้แน่ใจหรอว่าไม่มีอะไรกัน
GAGAWIN : หึงหรอ...
GAGAWIN :
BabyEarn : ขอเบอร์บีหน่อย เอินมีเรื่องอยากคุยกับบี
GAGAWIN : คุยกับมันเรื่องไร บอกแจ็คก็ได้เดี๋ยวถามให้
BabyEarn : อยากคุยเอง ธุระส่วนตัว
GAGAWIN : ครับ 087-229-2990
GAGAWIN : เอินไม่ได้โกรธแจ็คใช่ไหม? ถามจริงๆ
BabyEarn : คิดว่าตอนนี้บีอยู่ที่ห้องไหมเอินโทรไม่ติดเลยอะ
GAGAWIN : เอินถามทำไม มีเรื่องอะไรทำไมไม่บอกอะ โทรไปได้ไหมอยากคุย
BabyEarn : เดี๋ยวเอินคุยกับบีเสร็จแล้วค่อยว่ากัน เขารับสายละ
......................
"เถิก..เป็นไรวะ มานั่งทำไรเนี่ย" หญิงสาวร่างเล็กเดินมาตีไหล่คนเป็นพี่ก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนที่เพิ่งตื่นและทำหน้าเครียดอยู่ที่บันไดบ้านไม่ยอมลงไปกินข้าวจนเธอต้องเดินขึ้นมาตาม
"แบม...ถ้าสมมติเราไปนั่งกินข้าว มีคนที่เราชอบ มีเพื่อนสนิทเรา แต่พอเราเดินไปเอาของกลับมาอีกทีแล้วเพื่อนเราขอตัวกลับก่อน พอถามคนที่เราชอบว่าคุยอะไรกันเขาไม่ยอมบอก แปลว่าอะไรเหรอ"
เด็กสาวเบ้ปากหลังจากฟังเรื่องสมมติของพี่ชายจบ ไม่รู้จะอธิบายทำไมในเมื่อฟังก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร เพราะเธอฟังมาเป็นสิบๆ รอบแล้ว
"ยกตัวอย่างอะไรเนี่ย งงฉิบหาย พี่บีป้ะที่พูดถึง ถ้าไอ้ผู้ชายที่พี่บอกว่าเพื่อนสนิทคือไอ้พี่บีนะ ก็คิดได้แง่เดียวป้ะ นี่โดนเพื่อนแย่งแฟนกี่ครั้งแล้ว ยังคบกับมันอยู่ได้ เป็นแบมนะ แบมเอาไม้ฟาดหัวพี่บีให้ตายตั้งแต่เรื่องพี่พิมพ์แล้ว มันรู้ว่าพี่พิมพ์กะพี่คบกันก็ยังจีบพี่พิมพ์ แล้วสุดท้ายก็...."
"เลิกพูดเรื่องพิมพ์เหอะ"
กวินตัดบทน้องสาวไปและจมดิ่งไปสู่ห้วงความทรงจำที่เลวร้าย สิ่งที่แบมพูดราวกับสะกิดแผลเก่าที่มันยังคงฝังลึกอยู่ในใจ
พิมพ์เป็นรุ่นน้องคณะเดียวกันที่กวินจีบอยู่ ใครๆ ก็คิดว่าเขากับพิมพ์คบกันเหมือนที่แบมพูด แต่ความจริงแล้วทั้งคู่ไม่เคยมีสถานะอะไรเลย ก็แค่สนิทกัน แล้วสุดท้ายพอจอมพลมาเจอกับพิมพ์ในวันบายเนียร์ ทั้งคู่ก็เริ่มคบกันหลังจากนั้น
พิมพ์ไม่ใช่คนแรกที่ทิ้งเขาไปคบกับจอมพล แต่มีอีกหลายคนตั้งแต่สมัยมัธยม จนกระทั่งมหาวิทยาลัย
แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ ของจอมพล ก็เพราะพิมพ์ไม่เคยปล่อยมือจากกวิน เขามีชีวิตอยู่ข้างๆ พิมพ์โดยไร้สถานะ ตั้งแต่พิมพ์สอบแอร์ฯ ได้ วันไหนจอมพลไม่ว่าง เขาก็ไปรับพิมพ์ที่สนามบินแทน
ไปไหนก็ไปกันสามคนตลอด โดยที่ทั้งกวินและจอมพลไม่เคยคุยกันตรงๆ ว่าทำไมถึงต้องใช้ชีวิตกันแบบนี้ เหมือนจอมพลเองก็รู้ว่าตลอดมาตัวเองไม่ใช่ที่หนึ่งสำหรับพิมพ์ และมีความสำคัญกับกวิน ถ้าไม่อยากเลิกกับพิมพ์ก็ต้องรับกฎที่พิมพ์สร้างขึ้นให้ได้ พิมพ์อยากมีกวินเป็นทั้งพี่ เป็นทั้งเพื่อน และเป็นคนที่ไว้ใจ แต่พิมพ์ก็อยากมีจอมพลเป็นแฟน เป็นคนรัก
และสุดท้ายคนที่เริ่มแหกกฎ และแอบคบคนอื่นกลายเป็นจอมพล...
'แจ็ค ฮึก ฮืออออ ไอ้เหี้ยบีมันนอนกับคนอื่นอะ ทำไมมันทำงี้ ถ้าพิมพ์ไม่เข้าไปเช็กแชตเฟซบุ๊กมัน จะมีใครบอกพิมพ์ป้ะ นี่พิมพ์เลื่อนไฟลต์มาเลยนะ"
'พิมพ์ใจเย็น พิมพ์อยู่ไหน'
'อยู่ที่คอนโดฯ ไอ้เหี้ยบีมันเอาอีผู้หญิงคนนั้นมานอนที่ห้องกี่ครั้งแล้ว แจ็ค
บอกพิมพ์มานะ'
'ใจเย็นๆ เดี๋ยวแจ็คไปหา พิมพ์รอก่อน'
'ไม่รอแล้ว ขอขึ้นไปดูหน้าอีผู้หญิงคนนั้นก่อน อยากรู้ว่ามันเป็นใคร'
'ไหนพิมพ์บอกจะเลิกกับมันแล้วไง ทำไมยังต้อง...'
'ก็บีมันหยามพิมพ์อะ มันจะมีคนอื่นทำไมไม่รอให้เลิกกันก่อน'
ทั้งที่ก่อนวันเกิดเรื่อง พิมพ์เป็นคนบอกกวินว่าจะเลิกกับจอมพล เพราะช่วงนี้จอมพลเริ่มมีท่าทีแปลกๆ เขาก็ยังให้คำปรึกษาและบอกเสมอว่ามันไม่แฟร์ถ้าจะคบกันแบบนี้ และพิมพ์ก็เพิ่งบอกว่าพิมพ์จะเลือกเขาถึงแม้ว่าจะต้องทะเลาะกับจอมพลก็ไม่เป็นไร กวินเองก็ทำใจแล้วว่าต้องทะเลาะกับเพื่อนแน่ๆ
กวินยังจำตอนที่ไปหาพิมพ์ที่คอนโดฯ หลังจากวางสายได้ พอไปถึงพิมพ์ก็โทรหาเขาพอดี ทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันระหว่างที่พิมพ์ลงมาจากคอนโดฯ หลังจากเข้าไปเจอจอมพลอยู่กับผู้หญิงอีกคนจังๆ ตอนที่พิมพ์ร้องไห้มาหยุดยืนอยู่หน้าคอนโดฯ และสบตากับเขา กวินได้แต่พูดผ่านโทรศัพท์ว่า ‘มันจบแล้วพิมพ์ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร’
ภาพของพิมพ์ที่ตั้งใจวิ่งข้ามฝั่งมาหาเขา ยังติดอยู่ในความทรงจำ
พิมพ์บอกกับเขาว่า ‘เราจะเริ่มต้นกันใหม่... มีแค่แจ็คกับพิมพ์นะ’
แต่แล้ว...ภาพแห่งความรัก ที่เต็มไปด้วยความหวัง หลังจากพิมพ์เดินไปขอเลิกกับเพื่อนเขา และเดินกลับมาหาเพื่อจับมือกันอีกครั้ง ก็กลายเป็นเพียงมโนภาพที่เกิดขึ้นในจินตนาการ ไม่มีวันเป็นจริง
หญิงสาวโดนรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับสวนเลนพุ่งมาชนกระเด็นต่อหน้าต่อตาเขา เหตุการณ์นั้นทำให้กวินรู้ว่าสุดท้ายแล้ว...
ต่อให้พิมพ์ไม่รักจอมพล เขากับพิมพ์ก็ไม่มีวันได้อยู่ด้วยกัน
เพราะเรื่องของพิมพ์ กวินถึงเข้าใจในตอนนั้นว่าเขาไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์เลือก ต่อให้เขาพยายาม ถ้าเขาไม่ใช่คนที่ถูกเลือกตั้งแต่แรก มันก็จะจบแบบเรื่องพิมพ์ คนที่ไม่ใช่ก็ยังคงไม่ใช่ เขาไม่เคยโกรธจอมพลเลยสักครั้งเรื่องที่ทำตัวเจ้าชู้แล้วชอบมาแย่งจีบคนนั้นคนนี้ และคำพูดหมาๆ ที่บอกว่าถ้าตัวเองจีบอนิลไม่ติดจะยกให้ เขาก็หุบปากและรับข้อเสนอนั้นอย่างไม่คิดจะต่อรอง
สำหรับกวินแล้ว เขาไม่ใช่คนที่เลือกได้ แต่เป็นฝ่ายรอให้ถูกเลือก
ถ้าอนิลรักเขาจริง อนิลจะเลือกเขาเอง และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ อนิลแสดงออกว่าเลือกเขามาตลอด
แต่ในวันนี้อนิลกลับทำให้เขารู้สึกกังวล เขากลัวว่าอนิลจะเป็นเหมือนพิมพ์....
....................
"จีน เอ่อ... ไปซื้ออะไรกินก่อนไหม"
คนมีพิรุธเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่วางสายจากอนิล เดินเข้ามาเสนอให้ร่างบางที่กำลังจัดห้องให้ออกไปข้างนอกก่อนที่อนิลจะมาถึง
"หืม บีจะกินไรอะ จีนไม่หิวแล้ว" ใบหน้าที่สวมแว่นกรอบหนาเอาไว้อย่างเคยส่ายไปมาก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาซ้อนหลังและโอบเอวเขาเอาไว้
"อะไรก็ได้ จีนซื้ออะไรมาบีก็กินหมด"
"..."
ทุกอย่างมันแปลกไปหมดหลังจากจินตภัทรตื่นขึ้นมา ท่าทางของอีกฝ่ายที่ปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้ จินตภัทรไม่รู้ว่าทำไมจอมพลถึงพูดดีกับตัวเอง และชอบเดินมากอดบ่อยๆ แต่ที่ไม่ปฏิเสธก็เพราะอาศัยอยู่ในห้องอีกฝ่าย ถ้ายังต้องพึ่งพากันอยู่ก็คงต้องเปลืองตัวไปสักพัก...
"อือ..ก็ได้" จินตภัทรพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะยื่นมือไปรับกระเป๋าสตางค์ของอีกฝ่าย แต่คนเจ้าเล่ห์กลับใช้อีกมือรั้งข้อมือบางเอาไว้ แล้วฉวยโอกาสก้มลงไปกดจมูกหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่ ก่อนจะผละออกมาและยิ้มให้ ดวงตารีใต้กรอบแว่นสีดำเหลือบมองหน้าอีกฝ่ายที่ยังยิ้มให้อยู่ เขาไม่ได้ยิ้มตอบ และทำเพียงแค่มองนิ่งๆ จนจอมพลเริ่มหน้าเจื่อน
"โกรธเหรอ"
จินตภัทรถอนใจออกมาแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ขณะที่ตอบ
"เราคิดว่าการที่เรามาอาศัยห้องบี ก็คงต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบ้าง แต่ว่าแบบนี้มันไม่ถูก"
ทั้งน้ำเสียง และคำพูดที่ดูจริงจังจนใจของคนฟังเริ่มฝ่อ ความมั่นใจที่มีมาตลอดหลายปีเหมือนถูกบั่นทอนเพียงเพราะอีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลยกับการกระทำของเขาที่ไม่ว่าสาวไหนก็ระทดระทวยเป็นขี้ผึ้งรนไฟเสมอ
"ห๊ะ คิดว่าที่เราทำแบบนี้เพราะจีนมาอาศัยเหรอ"
"อืม ใช่ แต่เดี๋ยววันนี้เราคงได้กลับห้องแล้ว เราคงไม่รบกวนบีอีกอะ" ริมฝีปากอิ่มบอกแล้วพรูลมหายใจออกมาเหมือนเซ็งๆ ในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องงาน ถ้าวันนี้เข้าห้องไม่ได้สงสัยต้องไปนอนกับอนิลเพราะงานจะไม่เสร็จเอา ช่วงนี้ต้องรอปรู๊ฟหน้าปกนิยายที่จะออกต้นสัปดาห์หน้าด้วย
"บ้าเหรอ ใครเขากอดเขาหอมกันเพราะแค่นอนห้องเดียวกันวะ ไม่งั้นเรากับไอ้แจ็คไม่ได้กันแล้วรึไง แม่งมานอนด้วยโคตรบ่อยเลย..." จอมพลพูดไปก็หลุดขำออกมาเองเพราะคิดว่าจินตภัทรกำลังล้อเขาเล่น แต่พอพูดจบ จินตภัทรก็แค่พยักหน้าแล้วเปลี่ยนเรื่องไป
"ช่างมันเถอะ มีอะไรที่กินไม่ได้ไหม เผื่อเรา..."
"ไม่อยากรู้จริงเหรอว่าทำไม"
มือหนาเอื้อมมาลูบแก้มนุ่มเบาๆ ขณะที่ก้มลงมาหา คำถามที่ไม่ว่าพูดกับใครก็คงรู้ดีว่าเขากำลังจะบอกอะไร ร้อยทั้งร้อยต่อให้มีลูกมีผัวแล้วก็คงต้องเขินกันมั่ง
แต่เมื่อมือเรียวยกขึ้นมาและปัดมือของร่างสูงออก หัวใจที่เคยเต้นแรงเพราะตื่นเต้นราวกับคนกำลังจะสารภาพรัก กลับถูกทิ่มแทงด้วยคำพูด สีหน้านิ่งๆ และสายตาที่เย็นชาจนจอมพลรู้สึกเหมือนจะล้มทั้งยืน
"ถ้าบีคิดว่าจะแกล้งเราด้วยการบอกว่าชอบเรา ขอบอกเลยว่ามุขนี้ไม่ได้ผลหรอก เพราะเราไม่ได้ชอบบี ต่อให้หลอกว่าเมื่อคืนเราได้กันไปแล้ว เราก็ไม่เชื่ออีกเหมือนกัน เราอาจจะเป็นคนหลับลึกมีละเมอบ้าง แต่เราไม่น่าจะพิศวาสผู้ชายตัวเหม็นสกปรกแบบบีอะ อ้อ นอกจากของกิน เดี๋ยวเราซื้อเดทตอลน้ำยาที่เอาไว้ฆ่าเชื้อโรคให้นะ เราว่าบีอาบน้ำด้วยสบู่ปกติไม่น่าได้ผลแล้วอะ ทาโรลออนอย่างเดียวไม่ช่วยนะ ถ้าอาบน้ำไม่สะอาด"
พูดจบร่างบางก็เดินย่นจมูกเปิดประตูออกไปแบบโนสนโนแคร์คนที่ยืนชีวิตสับสน หันไปดมรักแร้ตัวเองหน้าเสีย ไม่เคยมีใครพูดกับเขาแบบนี้ ก็ยังพอเข้าใจว่าคนปกติเขาไม่พูดกัน แต่ไอ้เรื่องที่จินตภัทรบอกว่าไม่มีวันพิศวาสเขานี่โคตรไม่จริงเลย เพราะเรื่องเมื่อคืนจิ้งจกในห้องเป็นพยานได้เลย ว่าจินตภัทรเดินมามุดเสื้อแล้วกอดเขาแน่นยังกับลูกลิง!
.............TBC...............
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จริงๆพิมพ์ก็นอกใจเหมือนกันอะ มีแฟนแต่ก็ยังอยากมีอีกคนในชีวิต มันไม่แฟร์กับใครทั้งนั้น ไม่ต่างจากคบกันสามคน..
แต่ฝากถึงกวินนิดนึงเน๊าะ คือ ถ้าคนที่ใช่ ยังไงมันก็ใช่อ่ะ ความจริงมันก็ถูก แต่แกอย่าลืมนะว่าเอิน ไม่เคยรู้พาร์ทอดีตแสนเศร้าเคล้าน้ำตาของแกอะ ยังไงก็ต้องไฟ้ท์ด้วยเว้ย อธิบาย พยายามอย่างเต็มที่ก่อนอ่ะ อย่าเพิ่งถอดใจ
น้องจีนเป็นคนตรงๆ 555555
มันต้องมีมากกว่าการรู้ทัน จีนมีอะไรปิดบังพี่อยู่ บอกมานะ