ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] All About - "JOKE" #Chansooตลกร้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : Just another day - (4) Trust me

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.4K
      23
      12 ม.ค. 59






    เสียงหายใจติดขัดและขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ พร้อมกับอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นของร่างในอ้อมกอดราวจับไข้ ริมฝีปากอิ่มครอบครองดูดดึงเรียวปากสวยสีแดงฉ่ำ ลิ้นร้อนไล้เลียแผ่วเบา รู้สึกถึงรสชาติของลูกอมกลิ่นองุ่นจางๆในโพรงปากเล็กที่คยองซูกินเข้าไปหลังกินข้าวเสร็จ

    มืออุ่นลูบไล้เอวบางก่อนจะหายเข้าไปในเสื้อสีขาวที่ร่างเล็กสวมใส่ ผิวกายนุ่มนิ่มลื่นมือชวนให้สัมผัสซ้ำๆ ไล้มือขึ้นไปสัมผัสแผ่นอกที่นุ่มหยุ่นราวมาชเมลโล่ ลูบไล้ผ่านยอดอกที่แข็งชันเบาๆร่างเล็กแอ่นอกสะท้านไปตามแรงมือของอีกฝ่ายที่สัมผัส ชานยอลผละจูบออกมาสบกับดวงตากลมโต แลบลิ้นเลียริมฝีปากหลุบตามองริมฝีปากสวยที่อ้าเผยอหอบ กดจูบเบาๆจากริมฝีปากสวยลงมาเรื่อยจนถึงไหปลาร้า เสื้อยืดคอกว้างถูกรั้งขึ้น แขนเล็กค่อยๆถอดเสื้อออกก่อนที่มันจะหลุดติดมืออีกฝ่ายและถูกทิ้งลงสู่พื้น

    กี่ปีแล้ว...ที่ไม่ได้สัมผัสกันและกัน อ้อมกอดอุ่นๆของชานยอล และผิวนุ่มนิ่มของคยองซู ต่างฝ่ายแสดงท่าทางที่โหยหากันและกันด้วยการกระทำที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ร่างผอมบางสะท้านไหวยามที่ริมฝีปากอุ่นประทับลงที่ผิวกาย เสียงครางกระเส่าเรียกชื่อชานยอลราวกับกระซิบ ทุกสัมผัสเป็นไปอย่างเนิบนาบไม่รีบร้อน ค่อยๆซึมซับความรู้สึกคิดถึงและโหยหาผ่านภาษากายที่เคลื่อนเข้าหากันราวกับไม่มีที่สิ้นสุด...

     

    .........................................

     

     

    “ชวนแดรกเบียร์แต่หัววันครับคุณคริส ดีนะวันนี้ที่รักกูไปช้อปปิ้งกับแม่” จื่อเทาเอ่ยขณะกระดกเบียร์กระป๋องลงคอดวงตาเฉี่ยวเหลือบมองเพื่อนซี้ที่นั่งเงียบไปตั้งแต่กลับมาจากห้องชานยอลกับคยองซู

    “มึงว่า..ถ้าตอนนั้นกูไม่ยอมแล้วดึงดันจะจีบคยองซูต่อ บางทีกูอาจจะยังคบกับคยองซูจนตอนนี้เหมือนที่มึงคบกับน้องจงอินนะ”

    “เพ้อฝันครับ มึงกับกูต่างกันราวฟ้ากับเหว กูอาจจะไม่ใช่คนดีของทุกคนนะ แต่กูดีกับเมียกูคนเดียว ส่วนมึง ดีกับทุกคนเลยครับไอ้พี่คริสครับ”

    “แค่มนุษยสัมพันธ์ดีต่างหาก”

    “ไม่อ่ะ กูนิยามพฤติกรรมมึงว่าขี้ม่อ”

    “แต่คยองซู กูจริงจังนะ”

    “เห็นเขารักกันแล้วอิจฉาก็บอก อย่าทำตัวเหี้ยใส่เพื่อนเลย ตอนนี้มึงเหลือแค่กูกับชานยอลนะไอ้หล่อ นอกนั้นมีแต่คนอยากนอนกับมึง แล้วก็คนอยากกระทืบมึง รักษามิตรภาพเอาไว้แล้วกลับบ้านไปชักว่าวเถอะครับเพื่อนรัก”

    “คยองซู...”

    “หุบปากค่ะพี่คริส อยู่กับน้องเทาพี่ไม่ค่วรพูดถึงคนอื่นนะคะ”

    “คยองซูน่ารักขึ้นมาอ่ะ...”

    “เห็นเขามีก็อยากมีมั่ง โรคจิตหรอคะ พี่คริสไม่เห็นอยากมีน้องเทามั่ง?” จื่อเทาบีบเสียงออกท่าทางจริตสาวแตกอย่างสนุกสนาน

    “กูพูดจริงนะ กูยังชอบคยองซูอยู่”

    “หนูก็พูดจริงค่ะพี่คริส อย่าสอดเข้าไปทำให้ครอบครัวชาวบ้านเขาแตกแยกจะดีกว่า วันใดมันเลิกกันอีกรอบค่อยไปเสียบสิ มีคนบอกกูว่า แฟนเก่าก็เหมือนหนังสือเล่มเดิมอะมึง อ่านกี่รอบตอนจบก็เหมือนเดิม ไอ้ชานมันก็คนเดิม คยองซูก็คนเดิม ถ้ามันทั้งคู่ไม่ช่วยกันเขียนตอนจบใหม่ให้มันดีๆ โอกาสของมึงก็มีทุกเมื่อ”

     

    คริสเหลือบมองเจ๊กบรรลุอรหันต์ข้างๆอย่างชื่นชม จื่อเทานอกจากจะเป็นเพื่อนที่ดีแล้วความโชคดีของมันที่ได้จงอินเป็นแฟนก็ช่วยให้ชีวิตมันก้าวกระโดดกว่าทุกคนในกลุ่ม เข้าทำนอง มีเมียดีเป็นศรีแก่ตัว

     

    ยังไม่ทันจะเอ่ยถามถึงนางฟ้านางสวรรค์ของจื่อเทา เสียงเปิดประตูหน้าห้องก็เรียกสายตาของคนทั้งสองหันไปมอง ถุงข้าวของเกือบสิบถุงถูกวางลงพร้อมกับร่างผอมบางในชุดเอี๊ยมยีนส์กับเสื้อกล้ามสีชมพูเดินเข้ามา

    “โหย เยอะไปป่ะเนี้ย ซื้อเผื่อโตหรอตัวเล็ก” จื่อเทาเดินเข้าไปช่วยแฟนเด็กหิ้วของเข้าห้อง จงอินที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะไอแดดด้านนอกยิ้มกว้างให้คริสก่อนจะโบกมือทักทาย

    “ไม่ต้องโบกให้มันเลย เดี๋ยวมันมาค้นพบว่าชอบเราด้วยอีกคน”

    “เห๋?”

    จื่อเทาแซะเพื่อนออกมาโต้งๆ มีเพียงคริสที่เข้าใจแล้วขำออกมา จงอินยืนทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจมองคริสสลับกับจื่อเทา ทำท่าจะใช้เท้าข้างนึงเหยียบส้นถอดรองเท้าออก ยังไม่ทันจะทำตามใจ ร่างหนาก็นั่งยองๆแล้วแกะเชือกผูกรองเท้าสีฟ้าออกให้

    “เวลาถอดพี่บอกแล้วอย่าเหยียดส้นไง” บ่นไปก็จับข้อเท้าเล็กแล้วดึงออกจากรองเท้าผ้าใบ แล้วจัดวางลงบนชั้นเก็บรองเท้าดีๆ

     

    คริสมองจื่อเทาแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนกากๆของเขาจะสามารถเป็นคนรักที่แสนดีขนาดนี้ได้ แต่ก่อนจื่อเทามีสาวในสังกัดไม่ใช่น้อย ไม่รวมลูกเขาเมียใครที่เล่นชู้กันสนุกสนาน ระยะเวลาเกือบ7ปี มันยาวนานมากสำหรับเขาที่จะรักใครคนนึง มันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย แต่กับจื่อเทาแล้วมันเป็นไปแล้ว...

     

    “แม่ให้ซื้อเสื้อมาให้พี่ด้วยแหละ” พอเดินมานั่งจงอินก็นั่งลงแกะข้าวของออกมาอวด จื่อเทานั่งมองพลางขมวดคิ้ว

    มันมีอะไรมากมายที่คนเรามันต้องซื้อเยอะขนาดนี้ จงอินไม่ได้ไปห้างกับแม่ปีละครั้ง แต่ไปกันแทบทุกอาทิตย์ และทุกครั้งก็ได้เสื้อผ้ามาให้เขาไม่ต่ำกว่าสามสี่ตัว คราวนี้ก็เช่นกัน

    “เราต้องซื้อตู้เสื้อผ้าใหม่ป่ะตัวเล็ก ไม่งั้นเราคงต้องบริจาคห้องนอนเราไว้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกมานอนกันในครัวอ่ะ” จื่อเทาแซวออกมาหลังจากเห็นจำนวนเสื้อผ้าที่วางกองไว้

    “แม่อยากซื้อให้พี่อ่า ไปเดินห้างแม่ก็บอกว่าทำไมพี่ไม่มาด้วย แม่คิดถึงพี่มากน้า วันหลังไปด้วยกันจิ” จงอินบอกด้วยท่าทางน่ารักจบด้วยการทำตาปริบๆใส่

    “ไม่เอาอ่ะ...” คนถูกชวนปฏิเสธออกมา

    เขาไม่ค่อยชอบเดินซื้อของ ไม่เหมือนไอ้คริสที่ช้อปได้ทุกเดือน อีกอย่างเวลาไปกับว่าที่แม่ยายทีไรมีอันต้องถูกเข้าใจผิดเสมอ เพราะจงอินดูเด็กมากในขณะที่เขากับแม่ยายนี่หน้าตาหยั่งกะรุ่นเดียวกัน เพราะแบบนี้ไปเดินด้วยกันทีไรจงอินเลยกลายเป็นลูกเขากับแม่ยายซะงั้น

    “ไม่ไปก็ไม่ไปเดี๋ยวช้อปเผื่อเอง นี่ๆ เสื้อตัวนี้ซื้อมาสองตัวเลยนะมีไซส์เค้ากะไซส์พี่ด้วยหละใส่คู่กันชอบไหม?”

    “ชอบเวลาเราไม่ใส่อะไรเลยแล้วนอนคู่กันมากกว่า”

    “พี่!” จงอินเหลือบมองคริสที่ขำกลิ้งอยู่อีกฝั่ง ในขณะที่จื่อเทาหลบวูบเพราะรู้ว่าจะถูกตี

     

    ...................................

     

    แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องรับแขก บอกเวลาที่ล่วงเลยเวลาเที่ยงวันไปแล้ว สองร่างที่มีขนาดแตกต่างกัน นั่งกอดกันโดยมีผ้าห่มผืนใหญ่ห่มคลุมร่างกายเปลือยเปล่าไว้ วงแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกอดร่างที่นอนพิงหลังซบอกเขาไว้ จมูกโด่งคลอเคลียแก้มใสไปมา นิ้วมือเรียวเล็กประสานกับหว่างนิ้วของมือที่มีขนาดใหญ่กว่าประสานกันไว้พร้อมกับหันไปจูบแก้มสากเบาๆ

    “หิวรึยัง?” คยองซูเอียงคอถาม

    “อืมหิวสิเมื่อเช้ายังไม่ได้กินไรเลย กินเตี้ยอย่างเดียวไม่อิ่มนะ”

    “บ้า”

    “อยากกินสปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งฝีมือเตี้ยจัง ไม่ได้กินนานแล้ว รู้ไหมพอไม่มีเตี้ยอยู่เค้าไม่กินเลยนะ”

    “ทำไมอ่ะ”

    “กินทีไรก็น้ำตาจะไหล แค่เห็นชื่อเมนูก็คิดถึงแล้ว”

    “โหย ปากหวานไป๊ ติดเชื้อมาจากคริสหรอ?”

    “มันเคยพูดแบบนี้ให้ฟังหรอ?” ชานยอลถามพลางแกล้งทำเสียงไม่พอใจ

    “อุ่ย....” คยองซูหลุบตาลง ทำหน้ารู้สึกผิด ชานยอลหรี่ตามองก่อนจะเอื้อมมือไปบีบกรามเล็กจนแก้มโย้

    “ไหน คริสมันพูดเมื่อไหร่?”

    “นานแล้วววววว”

    “ยังจำได้อีก? มีอะไรที่ไม่รู้อีกปะเนี้ย?”

    “ขี้หึงอ่า ไม่มีไรสักหน่อย นานมาแล้วแค่แซวเล่นเฉยๆ”

    “ไม่รักจะหึงปะครับ?”

    “........”

     

    คยองซูยกมือขึ้นปิดหน้า ทั้งที่มันอยากจะร้องออกมาดังๆเพราะเขินแต่ทำได้แต่ปิดหน้าตัวเองไว้เพราะรู้สึกเหมือนหุบยิ้มไม่ได้เลย อ้อมกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นขณะที่ไหล่ลาดถูกหอมเบาๆ

    “ไม่ต้องเขินเลย นอกใจอีกไม่ให้อภัยแล้วนะ”

    “งื้อ ไม่ทำแล้ว...” คยองซูส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันกลับมาโอบรอบคอชานยอลไว้ หัวกลมๆซบไหล่กว้าง

     

    ไม่อยากไปไหนแล้ว..อยากมีแค่ชานยอลคนเดียวจริงๆ ขอโทษนะที่เคยทำให้เสียใจ ต่อไปนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว....สัญญา

    คยองซูคิดขณะที่กอดอีกฝ่ายแน่น มือหนาลู่ผมนิ่มเบาๆ กดจูบกลางกระหม่อมและกระชับกอดอีกฝ่ายไว้

     

     

    ไม่นานชานยอลก็มาเดินเข็นรถอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ต เหมือนเห็นภาพเก่าๆ ครั้งที่ยังอยู่ชั้นมัธยมด้วยกัน ทุกเย็นเขากับคยองซูจะต้องมาเดินซื้อของไปทำมื้อเย็นด้วยกัน บางวันก็มาซื้อของใช้ที่หมดแล้ว ชานยอลจะเป็นคนเตือนว่ามีอะไรที่หมดแล้วเพราะเขาเป็นคนความจำดีมาก ขณะที่คยองซูจะเป็นคนเลือกยี่ห้อและราคาที่เหมาะสมให้

    “อันนี้ดีไหม? ซื้อสองแถมหนึ่ง”

    “ได้ๆ เอาขวดใหญ่มานะขี้เกียจซื้อบ่อย”

    ชานยอลเอ่ยถึงแชมพูที่ใช้ เขาใช้ยี่ห้อเดียวกับคยองซูมาก่อน พอเลิกกันแน่นอนชานยอลโละทุกอย่างที่คยองซูเคยใช้ และตามมาด้วยการเลือกแชมพูแบบมั่วซั่ว สภาพหนังศีรษะเลยโคตรแย่ ผมร่วงรังแคมั่งอะไรมั่งตามมีตามเกิด

    “เค เอาครีมนวดไปด้วยเนาะ นี่ๆ อันนี้เขาไว้นวดผมหลังสระกระตุ้นรากผมและทำให้ผมดกหนาด้วยหละ เดี๋ยวซื้อไปทำให้” คยองซูว่าพลางหยิบใส่ตะกร้ารถเข็น ชานยอลยกมือลูบหัวตัวเองอย่างเฟลๆ คือนี่เขาผมบางมากเลยหรอวะ?

     

    เดินเล่นกันไปทั่วซุปเปอร์มาเก็ต บ้างก็เข็นรถ บ้างก็เข็นคยองซูที่ขึ้นมายืนเหยียบคานที่ล้อรถเข็นในวงแขนของชานยอลให้อีกฝ่ายเข็นให้ จนกระทั่งถึงหน้าแคชเชียร์ ชานยอลกำลังจะควักเงินแต่ไม่ทัน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีคยองซูก็รูดบัตรเครดิตไปแล้ว ร่างสูงมองกระเป๋าเงินตัวเองอย่างหัวเสีย ตั้งแต่ไฟไหม้ห้อง เงินก็ถูกใช้ไปกับการซื้อเสื้อผ้าใหม่และค่าปริ้นท์งานให้ลูกค้า กว่าเงินจ๊อบจะออกก็อีกหลายอาทิตย์

    เขาไม่ค่อยสะดวกใจนักที่ต้องใช้เงินอีกฝ่าย เหมือนความทรงจำที่ไม่ดีมันทำให้ชานยอลรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง ตอนเลิกกัน คยองซูก็จ่ายทุกอย่างโดยไม่ปริปาก เพราะเขาไม่มีเงินมากพอที่จะมาช่วยซื้อข้าวของเข้าห้อง จนสุดท้ายคยองซูก็คงทนไม่ไหวเรื่องนี้ด้วยรึเปล่า...

    ระหว่างนั่งแท็กซี่กลับห้องชานยอลเงียบไปเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ คยองซูที่นั่งจับมืออยู่ข้างๆรู้สึกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวของอีกฝ่ายจนทำเอาเครียดไปด้วย

     

    หรือว่าเพราะเขาแย่งจ่ายเงิน....

    ต้องใช้แน่ๆ เพราะว่ามันเคยตัว แต่ก่อนคยองซูเป็นคนรักผิดชอบค่าใช้จ่ายในห้อง ส่วนค่าห้องจะหารกัน เวลาไปกินข้าวด้วยกันบางครั้งชานยอลก็จ่าย แต่พอหลังๆชานยอลไม่ค่อยมีเงินคยองซูก็ต้องเป็นคนจ่ายให้ตลอด แต่มันไม่ใช่สาเหตที่เขาเลิกกับชานยอลเลย....

     

    “ตัวเอง มีอะไรหรอ? บอกได้ไหม?” คยองซูเป็นฝ่ายเริ่มพูดออกมา ไม่อยากให้ปัญหามันค้างคาจิตใจเหมือนแต่ก่อน

    “เรื่องเงินหนะ เค้ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เตี้ยจ่ายให้อีกแล้ว มันเลยรู้สึกเฟลๆ”

    “ไม่คิดมากสิ เงินตัวเองยังไม่ออกไม่ใช่หรอ? เอางี้ ตัวเองค่อยจ่ายรอบหน้าก็ได้ สลับกันไง”

    คยองซูดึงมืออีกฝ่ายมาว่างที่ตัก ชานยอลกันมามองอย่างรู้สึกผิด เอนหัวลงพิงไหล่เล็กก่อนจะหลับตาลง

     

    “ขอบคุณนะที่เข้าใจ”

     

     

    ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งคู่ก็กลับมาถึงคอนโดของคยองซู ชานยอลหิ้วถุงหนักๆแล้วเหลือเพียงถุงเล็กๆพวกขนมและของจุกจิกให้คยองซูถือด้วย พากันเดินออกจากลิฟท์มา ชานยอลมัวแต่มองพื้นเลยเบรคไม่ทัน กระแทกหลังคยองซูที่หยุดกระทันหัน ถึงจะไม่แรงนักแต่อีกฝ่ายก็เกือบล้ม

     

    “หยุดทำ.....ไม” ชานยอลกำลังจะถามแต่เมื่อมองไปเบื้องหน้าก็ทำเอาใจสั่น เขาจำคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องได้ดี

    “มะ แม่...” คยองซูเอ่ยออกมาอย่างตกใจ

     

    คุณแม่ของคยองซู เธอยิ้มให้ลูกชายก่อนจะตวัดสายตามามองชานยอล เหมือนในคราแรกจะจำเขาไม่ได้ แต่แล้วเมื่อแน่ใจว่าเป็นคนๆเดียวกับที่เคยคบกับคยองซูเมื่อสี่ปีก่อน รอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนก็เจื่อนลง แววตาที่มองชานยอลเต็มไปด้วยอามรณ์ที่หลากหลาย

    ครั้งนึงชานยอลเคยเป็นเด็กที่เธอรักเหมือนลูกชายแท้ๆ แต่หลังจากที่คยองซูเลิกกับชานยอลไป ชีวิตของลูกชายเธอเหมือนโดนคำสาป เธอไม่คิดว่าคยองซูจะมีชีวิตที่แย่ขนาดนี้หลังจากที่เลิกกับชานยอล

    ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอคิดว่าชานยอลคือคนที่ทำให้คยองซูเจอแต่ปัญหา แต่ไม่เลย...สุดท้ายปัญหามันก็เกิดขึ้นเพราะลูกชายเธอเอง

     

    เรียวขายาวกำลังจะก้าวถอยหลัง แต่มือเล็กของคยองซูก็คว้าข้อมือหนาไว้ คยองซูลากแขนชานยอลเข้าไปหาแม่โดยไม่พูดอะไร คยองซูมองหน้าแม่ เม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันอย่างลุ้นๆ

    “ไม่เจอกันนานนะจ๊ะ สูงขึ้นเยอะเลย”

    เพราะความเป็นผู้ใหญ่กว่า และเมื่อมองหน้าลูชายเธอแล้ว คยองซูคงตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ถึงกลับมาคบกับเด็กคนนี้อีก โดซองคยอง คุณแม่ยังสาวของคยองซูยิ้มให้ชานยอลก่อนจะหลบให้คยองซูเป็นคนเปิดประตูห้อง

    ชานยอลหันไปมองแม่ของคยองซูก่อนจะก้มหัวให้อย่างเก้ๆกังๆ

    “สวัสดีครับคุณน้า” หลังจากทักทายผู้เป็นแม่ของคนรักก็ยิ้มบางให้ ความเครียดทุกอย่างในใจของชานยอลก็เบาบางลง

     

    ความสัมพันธ์ของคนสองคน แม้ตอนแรกจะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกของเขาและคยองซู แต่เพราะไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าอย่างเขา คยองซูจึงมีสถานภาพแตกต่าง มีคนที่ร่วมแชร์ทุกความทุกข์ยากลำบากใจด้วย ชานยอลเดาได้ไม่ยากว่าช่วงที่เลิกกันแม่ของคยองซูคงรู้ทุกอย่าง..

     
     

    TBC
    #Chansooแฟนเก่า

    ได้โปรดอย่าลืมคอมเม้นกันเลยนะคะ เรื่องจะจบหรือไม่จบอยู่ที่ฟีทแบคคนอ่านเป็นสำคัญ
    คนอ่านน้อยลงเราคงไม่มีกำลังแต่งต่อแล้ว เนื่องจากเราติดงานเจอกันอีกทีวันที่ 26 ค่ะ


    © themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×