ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] All About - "JOKE" #Chansooตลกร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : Just another day - (2) come back to me

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.61K
      28
      12 ม.ค. 59





    เปิดเทอมฤดูร้อนชั้นมัธยมปลายปีหนึ่ง

     

    “เชี่ย!

    “เหยดดดดดดดดด”

    “พวกมึงแม่ง...”

    เด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามาเจอกันในห้องเรียนห้องใหม่เพื่อเริ่มต้นการเข้าสู่การเป็นเด็กม.ปลาย ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วอุทานพร้อมขำออกมาพร้อมกัน

     

    “ตัวเห้มารวมตัวกันมิได้นัดหมายรึไง” จื่อเทาเอ่ยขณะโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะข้างคริสที่นั่งอยู่ก่อน

    “อ่าวไมมึงนั่งนั่นอ่ะ” ชานยอลถาม คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ

    “ผัวเมียเขาจะนั่งด้วยกัน” จื่อเทาแกล้งคล้องแขนคริสไว้แล้วทำเป็นซบไหล่เพื่อนตัวเท่าๆกันเหมือนสาวน้อย

    “อี๋.....ระคายดากเลยอ่ะ” คริสทำท่าแขยงก่อนจะสะบัดแขนออกจากการพันธนาการเพื่อนร่วมชาติ

    “พี่คริสรังเกียจหนูหรอคะ” ความกวนตีนยังไม่สิ้นสุด จื่อเทาบึนปากใส่จริตเข้าไปเต็มที่จนชานยอลหลุดขำออกมา

    “เชี้ยเทา มึง...” นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากเพื่อนก่อนจะดันออกห่างตัว

     

    “เห่ยๆ พวกมึงรู้ยัง มีเด็กเข้าใหม่ด้วยนะห้องเราอ่ะ สองคน” เพื่อเกรียนร่วมห้องวิ่งเข้ามาป่าวประกาศก่อนจะนั่งลงที่ตัวเองขณะที่ครูประจำชั้นเดินเข้ามาพร้อมกับสั่งให้นั้งที่ เด็กหน้าใหม่สองคนเดินเข้ามา คนนึงตัวสูงโปร่ง ขณะที่อีกคนตัวเล็กราวกับเด็กประถม

    คริส “กูจอง”

    ชานยอล “คนไหน”

    คริส “คนหลังสิห่า คนแรกเอามาทำผัวหรอ?”

    ชานยอล “คนแรกกูว่าเก้ง”

    จื่อเทา “ไม่..ดูมือมัน ไม่เก้งแน่”

    คริส “มือทำไม?”

    จื่อเทา “มือซ้ายใหญ่ ว่าวบ่อยแน่นอน”

    ชานยอล “ทฤษฎีอะไรวะ?”

    จื่อเทา “พี่กูบอกมา”

    ชานยอล “ข่าวว่ามึงมีพี่สาว...”

    จื่อเทา “สาววายรู้ทุกอย่างมึง...”

     

    “ข้างหลังจะคุยกันอีกนานไหม?” เสียงครูประจำชั้นดุขึ้นขณะที่จ้องกลุ่มของชานยอลที่สุมหัวกันนินทาเด็กใหม่หน้าห้อง

    “เอ้าฟังเพื่อนแนะนำตัวก่อน อ่ะคนแรกเชิญค่ะ” ครูประจำชั้นสาวใหญ่เอ่ยก่อนจะพยัดเพยิดให้เด็กใหม่แนะนำตัว

     

    “โอ เซฮุนครับ มาจากซูวอน” รายแรกแนะนำด้วยท่าทางนิ่งๆ สายตากวาดมองเพื่อนร่วมห้องอย่างไม่มีอาการเขินอายเลย

    “โด คยองซูครับ มาจากพูซาน” ร่างเล็กเท่าไหล่ของคนแรกเอ่ยพลางอมยิ้มน้อยๆ เรียกเสียงแซวกิ้วก๊าวจากแกงค์หลังห้อง

    “น่ารักจังเลย เพื่อนเราชอบเธอนะ” จื่อเทาแกล้งแซว ก่อนจะชี้ไปที่ชานยอลที่หันควับไปมองจื่อเทาก่อนจะเงื้อมือใส่

    “ดีๆ ชอบก็ดี งั้นเราไปนั่งกับชานยอลป่ะ ส่วนเซฮุน นั่งแถวกลางนะ ข้างจุนมยอน” ครูสาวเอ่ยก่อนจะชี้นิ้วนำทางให้

     

    “ฮิ้ววววววววววววว” เพื่อนในห้องร้องแซวขณะที่คยองซูเดินก้มหน้าก้มตามานั่งข้างชานยอลที่เขินไม่แพ้กัน

    คริสหันไปมองจื่อเทาด้วยหางตาก่อนจะชักศอกใส่สีข้างอีกฝ่าย จื่อเทาหัวเราะกวนประสาทออกมาเช่นเคย การได้แกล้งเพื่อนมันเป็นความสุขของจื่อเทาจริงๆ

    “เด็กใหม่ดูหนังสือกับเพื่อนไปก่อนนะจ๊ะ ข้างๆก็แบ่งเพื่อนดูด้วยกันแล้วก็ช่วยกันทำโจทย์นะคะ” อาจารย์ประจำชั้นเอ่ยก่อนจะเริ่มทำการสอน

    ชานยอลมองคยองซูที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่ก่อนจะเลื่อนหนังสือไปไว้ตรงกลางระหว่างกัน

    “อ่ะ”

    “ขอบใจนะ” คนตัวเล็กเอ่ยก่อนจะยิ้มน้อยๆ

    “จดเผื่อด้วยนะ” ว่าพลางส่งสมุดตัวเองไปให้อีกเล่ม คยองซูรับมาแบบงงๆ

    ชานยอลยิ้มก่อนจะนอนลงที่แขนตัวเองใบหน้าหันมาทางคยองซูก่อนจะหลับตาลง

    ดวงตากลมมองคนข้างๆอย่างอึ้งๆ ชานยอลเข้าสู่ห้วงนิทราในขณะที่ครูเริ่มสอน และไม่มีใครสนใจร่างสูงที่ซบหน้าลงนอนเลย

    “ไอ้ชานมันก็งี้แหละ” จื่อเทาที่อยู่ข้างหลังบอกก่อนจะตั้งใจจดงานบนกระดานต่อ

     

    หลังจากหมดคาบเรียนที่สาม

    “ไปกินข้าวกัน” จื่อเทาถือวิสาสะแตะไหล่คยองซูที่นั่งข้างหน้าเบาๆ เจ้าของความสูงไม่ถึง 160 พยักหน้าก่อนจะเก็บหนังสือเรียนให้ชานยอล อีกฝ่ายยังนอนเฉย..

    คริสทำท่าจะเข้ามาคุยแต่ก็ถูกจื่อเทาล็อคคอลากออกไปจากห้องก่อนจะเดินไปถึงตัวคยองซู

     

    “ไอ้เชี้ย มึงก็รู้กูชอบเขาอ่ะ”

    “มึงมันขี้ปี้ ไม่ได้ชอบจริงหรอก”

    “ไม่ต้องมารู้ดี แล้วเรื่องไรมาบอกว่าไอ้ชานชอบ”

    “เป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว ไม่มองหน้าเพื่อนหน่อยวะ?”

     

    คริสเงียบไป...จริงๆเขาเห็นชานยอลทำท่าทางสนใจอีกฝ่ายตั้งแต่เดินเข้ามา ถึงได้พูดโพล่งออกไปว่าจอง...เขารู้ว่าคนอย่างชานยอลไม่มีทางแย่งเขาแน่ๆ

    “สันดานเสียอ่ะมึง” จื่อเทาพูดแค่นั้นแล้วเดินนำไปโรงอาหาร คริสลังเลอยู่แปบนึง มองเห็นคยองซูค่อยๆเอียงหัวลงวางที่โต๊ะระดับเดียวกับชานยอลแล้วรู้สึกหงุดหงิด เลยเดินตามจื่อเทาไป

     

     

    ขนตายาวจัง...

    คยองซูคิดขณะที่นอนลงบนแขนตัวเองมองชานยอลที่ยังหลับอยู่

    ตอนที่เรียนชั้นม.ต้น คยองซูไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นพี่ที่มาจีบหรือรุ่นน้องที่มาชอบ นี่เป็นครั้งแรกที่มีเพื่อนวัยเดียวกัน...

    ใบหน้าอีกฝ่ายเหมือนรูปวาดในหนังสือการ์ตูนไม่มีผิดเพี้ยน จมูกโด่งกับดวงตาที่ประดับไปด้วยขนตายาว ริมฝีปากหยักที่เหมือนอมยิ้มตลอดเวลา...ส่วนต่างๆเหล่านี้ประกอบเข้าด้วยกันบนใบหน้าอีกฝ่ายแล้ว ดูดีมากๆเลย

    “จ้องขนาดนี้จะลักหลับรึไง” เจ้าของใบหน้าที่คยองซูแอบมองอยู่พูดก่อนจะลืมตาขึ้น คยองซูมองตาปริบๆ แก้มใสขึ้นสีอย่างเขินอาย กำลังจะขยับหนีก็โดนอีกฝ่ายจับต้นแขนไว้ ใบหน้าหล่อขยับเข้ามาใกล้ ริมฝีปากที่อมยิ้มอยู่เมื่อกี๊กดลงที่แก้มนุ่มของคยองซูเบาๆ

    “ยินดีที่รู้จัก เราชื่อชานยอล”

     

     

    ..................................

     

    Flash come

     

    เสียงฝนตกกระทบกระจกใสกลายเป็นละอองน้ำเกาะจนมองไม่เห็นภายนอก ดวงตากลมมองผ่านม่านน้ำตาที่ยังไหลรินไปยังวิวมัวๆด้านนอก

    คยองซูยืนกอดอกหันหลังให้อีกฝ่ายที่นั่งเงียบเป็นชั่วโมง เพราะคำตอบของชานยอลทำเอาจุกจนพูดไม่ออก

     

    สี่ปีที่ผ่านมา ชานยอลเคยคิดถึงเราบ้างไหม?”

    “อ่าว แล้วตอนเลิกกันบอกให้ลืม ตอนนี้มาถามว่าคิดถึงไหม? อะไรวะ”

     

    ไม่มีอะไรจะเถียง...ทุกอย่าวมันเป็นความผิดของเขาทั้งหมด....แล้วถ้าจะเป็นแบบนี้คงอยู่ด้วยกันยากแล้ว ชานยอลเองไม่เปิดใจเลย เอาแต่อารมณ์เสียใส่เขา แต่พอเขาร้องไห้ก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหา แต่คยองซูก็ถอยหนี

     

    “กินข้าวมารึยัง” เสียงทุ้มถามทำลายความเงียบระหว่างกัน

    “ยัง”

     

    คยองซูตอบสั้นๆไม่มองหน้าอีกฝ่าย แต่ก็รับรู้ว่าชานยอลลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปในครัว ผ่านไปเกือบครึ่งชม. กลิ่นหอมๆก็ลอยเข้ามาในห้องนั่งเล่น คยองซูเดินเข้าไปในห้องครัวกอ่นจะมองที่โต๊ะกระจกที่วางจานข้าวไว้สองจานตรงข้ามกัน

    “นั่งสิ”  ชานยอลบอกก่อนจะเป็นฝ่ายนั่งลงก่อน

    คยองซูนั่งลงเงียบๆมองที่จานตัวเอง ข้าวผัดแบบง่ายๆ ชานยอลคงค้นตู้เย็นเอาของที่เหลือมาทำ ในจานของคยองซูมีเบค่อนหั่นสี่เหลี่ยมกับไข่เจียวหั่นฝอยวางอยู่บนข้าวที่ผัดกับไข่จนเหลืองนวล

    ในขณะที่จานของชานยอลมีกิมจิกับถั่วลันเตาเพิ่มจากส่วนผสมที่มีเหมือนของเขา

     

    ทั้งที่ยังจำได้ว่าเขาไม่กินผัก และไม่ชอบกลิ่นกระเทียม...ไหนบอกว่าลืมไปหมดแล้วไง...

    คยองซูตักข้าวเข้าปากทั้งน้ำตา ทิชชู่สีขาวถูกยื่นส่งให้ก่อนที่ชานยอลจะนั่งกินข้าวไปเงียบๆ เมนูที่ทำให้อีกฝ่าย ชานยอลไม่เคยทำมันกินอีกเลยตั้งแต่เลิกกัน มันแปลกมากที่หลายปีก่อนเขากินมันแทบทุกวัน แต่พอเลิกกันทุกอย่างที่คยองซูชอบกิน เขาก็เลิกกินหมด ทั้งที่พยายามไม่จำ พยายามลืมๆไป แต่กลับจำทุกอย่างได้ขึ้นใจ

     

    “อยู่มหาลัยแล้ว...น่าจะกินผักได้บ้าง”

    “เรากินแครอทได้แล้ว แต่ต้องต้มสุกๆ”

    “งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้จะซื้อมา”

     

    คยองซูห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่ขระที่ตักข้าวเข้าปาก น้ำตาอุ่นไหลอาบแก้มผสมกับรสของข้าวผัดที่ยังอร่อยเหมือนเดิม

     

    ทั้งที่ชานยอลใจร้ายและพูดไม่ดีกับเขาเมื่อกี๊ แต่กลับทำข้าวผัดให้เขากิน รู้และยังจดจำได้ว่าอะไรบ้างที่เขาไม่กิน ชานยอลยังเป็นคนเดิม ที่ปากร้ายแต่ใจดีกับเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ คยองซูคงไม่เลือกที่จะทิ้งชานยอลไปแบบนั้น

     

    ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก...

    ตอนที่เขาตัดสินใจจะเลิกกับชานยอล เพราะว่าอีกฝ่ายในตอนนั้นกำลังมีปัญหา ชานยอลกำลังจะถูกตัดเบี้ยเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ที่เคยอยู่ เพราะว่าไม่มีผู้ปกครองและไม่มีหลักประกันอะไรเลยในชีวิต ชานยอลไม่เหมือนเขาที่มีพร้อมทุกอย่าง คยองซูรู้สึกว่าตัวเองลำบากใจ ที่จะต้องคบอีกฝ่ายต่อไป เขาคิดว่าหากยังคบชานยอลอยู่ เขาอาจจะต้องลำบาก และชานยอลเองก็คงไม่สามารถมีชีวิตที่ดีไปกว่าเดิมได้

    ความคิดของเด็กอายุ 18 ที่มองเห็นแฟนตัวเองที่แม้จะรักมากแค่ไหน แต่ใครกันจะอยากมีชีวิตที่ลำบาก ความรู้สึกที่ผ่านไปแต่ละวันมีแต่ความเครียด แทนที่จะได้เดท ไปดูหนังเหมือนคู่รักอื่นๆ คยองซูแทบไม่เจอชานยอลเลยเพราะอีกฝ่ายวิ่งรอกทำงานพิเศษไปทั่วเพื่อหาเงินประทังชีวิต

    มันไม่ง่ายที่จะยอมรับได้ ในเมื่อชานยอลไม่เคยใส่ใจเขาเลย ในทุกๆวันได้ยินแต่เรื่องเกี่ยวกับงาน และความเครียดที่ชานยอลเจอ ไร้เรื่องรื่นเริงบันเทิงใจ ในวัยนั้นใครกันจะอยากมีแฟนที่ไม่มีเคยมีกิจกรรมอะไรร่วมกันเลย และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คยองซูเริ่มคบหากับคนอื่น....

     

    ความผิดเขาเองทั้งหมด แถมตอนเลิกกันเพราะชานยอลเอาแต่ถามว่าทำไม ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเราแทบไม่มีเวลาให้กัน แต่ชานยอลกลับต้องการจะมีเขาไว้ข้างๆ เหมือนสิ่งของสักอย่างที่แค่ต้องมี คยองซูจึงเผลอใช้คำพูดร้ายกาจตำหนิอีกฝ่ายและเดินออกไปจากชีวิตชานยอลโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย...

     

     

    “ล้างจานนะ เราไปอาบน้ำก่อน” ชานยอลเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นว่าคยองซูจัดการมื้อเย็นจนหมดจานแล้ว

    “อืม” คยองซูพยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บจานไปล้าง

     

    นึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกัน ตอนนั้นชานยอลก็มาอยู่ที่บ้านเขา เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัด คยองซูเลยเช่าห้องอยู่คนเดียวและเมื่อคบกันชานยอลก็มาอยู่ด้วยกัน หารค่าใช้จ่ายเท่ากัน แบ่งหน้าที่กันคือชานยอลจะทำกับข้าวและซักผ้า ในขณะที่คยองซูจะล้างจานและทำความสะอาดบ้าน ภาพของชานยอลที่เดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลังขณะที่กำลังล้างจาน ช่างเป็นภาพแห่งความทรงจำที่แสนหวาน แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     

    หลังจากที่ชานยอลเดินหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำคยองซูมองอย่างชั่งใจ หากเป็นแต่ก่อนอีกฝ่ายคงงอแงให้เขาเช็ดผมแล้วเป่าผมให้ แต่ตอนนี้ชานยอลนั่งอยู่หน้าพัดลมและเช็ดผมเองเงียบๆ

     

    คยองซูใช้เวลาไม่นานในการจัดการตัวเองและอยู่ในชุดนอนสีฟ้าลายตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์ มองไปที่เตียงชานยอลนอนฝั่งที่อยู่ริมด้านนอก เหลือที่ว่างฝั่งติดผนังไว้ให้

     

    “เราไม่ชอบนอนริมนอกอ่ะกลัว”

    “กลัวอะไร?”

    “ผีใต้เตียง”

     

    คำพูดของตัวเองเมื่อตอนนั้นลอยเข้ามาในหัว เขาเป็นคนงอแงขอนอนริมในติดผนังเอง เพราะเหตุผลปัญญาอ่อนมากๆ ดีใจที่อีกฝ่ายยังจำได้ และดีใจที่ชานยอลไม่หนีไปนอนห้องรับแขกเหมือนเมื่อวาน

     

    คยองซูค่อยๆปีนขึ้นไปบนเตียงอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าชานยอลจะหลับไปแล้ว ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ หันหน้าไปมองคนที่นอนอยู่ก่อน ชานยอลไม่ห่มผ้า เพราะเป็นคนขี้ร้อน คยองซูค่อยๆดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองมองใบหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายที่หลับตาอยู่...ชานยอลยังไม่หลับแน่ เขารู้สึกได้

     

    “อึดอัดรึเปล่า” คยองซูถามเบาๆ

    “ไม่”

    “โอเค”

     

    คยองซูตอบก่อนจะหลับตาลง ไร้บทสนทนาจะไปต่อแล้ว ไม่รู้จะชวนคุยอะไรในเมื่ออีกฝ่ายกั้นกำแพงไว้สูงจนเขาไม่อาจจะปีนเข้าไปได้

    ได้แต่คิดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าการกลับมาของตัวเองดูจะไม่มีทางไปต่ออีกแล้ว...

     

    ขณะที่ในหัวมีแต่ความคิดวุ่นวายตีกันมั่ว จู่ๆก็รู้สึกเหมือนผ้าห่มถูกดึงขยับลงไปอยู่ปลายเท้าช้าๆ ผิวสัมผัสอุ่นของวงแขนแกร่งโอบเอวเขาไว้ เรียวขาบางถูกขายาวของอีกฝ่ายแทรกเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้าง แขนหนาโอบกระชับร่างเล็กเข้าไปแนบอก คยองซูค่อยๆขยับหัวขึ้นขณะที่แขนหนาสอดเข้ามาใต้หัวเขาแทนหมอน

     

    ท่านอนที่ไม่เคยได้สัมผัสมานานแสนนาน

    คยองซูเป็นพวกติดหมอนข้าง แต่ชานยอลไม่ชอบให้เอาอะไรมาเกะกะบนที่นอน ทางแก้ปัญหาตอนที่อยู่ด้วยกันก็คือ คยองซูจะกอดขาชานยอลแทนหมอนข้างแล้วชานยอลก็จะนอนกอดเขาไว้แทนผ้าห่ม

     

    ความรู้สึกเดิมๆที่แสนอบอุ่นกลับเข้ามาในหัวใจคยองซูอีกครั้ง ย้ำเตือนความรู้สึกด้วยสัมผัสที่หน้าผากเมื่อชานยอลกดจูบลงมาเบาๆ เหมือนที่เคยทำ

     

    “ฝันดี” ชานยอลเอ่ยคำพูดเดิมๆออกมา

    “ฝันถึงเราได้ไหม?” คยองซูตอบกลับเหมือนที่เคยทำ

    “ไม่มีคืนไหนที่ไม่ฝันถึง..นอนได้แล้วเตี้ย”

     

    คยองซูสะอื้นออกมาเบาๆ ชื่อเรียกที่ชานยอลเคยเรียกถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง มืออุ่นลูบหลังปลอบพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ คยองซูหลับไปทั้งน้ำตา ขณะที่ชานยอลยังรู้สึกวุ่นวายและสับสนจนนอนไม่หลับ

     

    TBC>>> #Chansooแฟนเก่า อย่าลืมโหวต อย่าลืมเม้น เพื่อสนับสนุนเราให้มีกำลังใจในการเขียนฟิคต่อไปนะคะ

    เจอกันอีกทีวันอาทิตย์ค่ะ 

     

     

     


    © themy  butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×