คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Ep.20 นีนี่..อันยอง
เสียงฝีเท้าดังก้องทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารเรียน ร่างผอมสูงของเด็กม.ต้นปีสามวิ่งสุดชีวิตหลังจากได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล...
“หวงจื่อเทา! ไปไหนหนะ เธอมีสอบช่วงบ่ายต่อนะ” เสียงอาจารย์ประจำวิชาเรียกไว้ เด็กหนุ่มจึงชะลอความเร็วแล้วหันมาตอบกลับด้วยความรีบร้อน
“พี่สาวผมกำลังจะคลอดครับอาจารย์ ผมต้องรีบไป เดี๋ยวผมจะกลับมาสอบซ่อมนะครับ”
เด็กหนุ่มกล่าวก่อนจะวิ่งสุดชีวิตลงบันไดอาคารเรียนไป....
ท่ามกลางคนป่วยและหมอพยาบาลที่เดินสวนกัน จื่อเทาเดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์
“คนป่วยชื่อซ่งเชี่ยนครับ ผมเป็นน้องชายเค้า”
“อ้อ ตอนนี้คนไข้เข้าห้องทำคลอดอยู่ค่ะ น่าจะอีกเที่ยงๆนะคะถึงจะเสร็จ คุณหมอให้ยาเร่งไปแล้วตั้งแต่เก้าโมงเช้าค่ะ”
“ผม....อยากเข้าไป”
“อืมทางเราไม่ได้รับเรื่องไว้ปกติเราจะไม่ให้นะคะ”
“แต่ว่าพี่สาวผมอยู่คนเดียว...” จื่อเทางัดไม้เด็ดออกมาต้องสีหน้าแสนเจ็บปวดและน้ำตาคลอเบ้า พยาบาลสาวมองหน้าเด็กชายตัวสูงอย่างครุ่นคิด..
“เดี๋ยวลองติดต่อคุณหมอให้ก่อนนะคะ แต่พี่ไม่รับปากนะคะ”
จื่อเทาพยักหน้าอย่างร้อนรน เขาไม่อยากให้พี่สาวเพียงคนเดียวต้องคลอดลูกตามลำพัง....
สุดท้ายจื่อเทาก็คิดว่าเขาคิดผิดมากๆที่อยากมาอยู่ในห้องที่มีกลิ่นยาฆ่าเชื้อแบบนี้ ตัวเขาอยู่ในชุดเหมือนพยาบาลพร้อมกับผ้าปิดปาก ซ่งเชี่ยน หรือ วิคตอเรีย พี่สาวแท้ๆของเขาตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเพราะตอนนี้คุณหมอและพยาบาลกำลังช่วยกันให้จังหวะในการหายใจของหญิงสาวเป็นไปอย่างถูกต้องเพื่อนำไปสู่การคลอดที่สมบูรณ์ ลูกชายของเธอตัวเล็กก็จริงแต่หัวโตจนคุณหมอบอกว่าช่วยที่เบ่งคลอด เธอจำเป็นต้องมีสมาธิและตั้งใจมาก มือข้างนึงของหญิงสาวจับมือน้องชายไว้แน่น
จื่อเทาคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นลม..... ทั้งกลิ่นในห้องและบรรยากาศชวนให้เวียนหัวเหลือเกิน แล้วพอเห็นสภาพและใบหน้าซีดเวียวของพี่สาวทำเอาน้ำตาของเด็กหนุ่มไหลพราก ตอนแม่คลอดเขากับพี่สาวก็คงเจ็บปวดแบบนี้เช่นกัน เขาคิดพลางยกข้อมือขึ้นเช็ดน้ำตา
“เทา..”
“ครับ”
“คิดชื่อหลานรึยัง”
“อ่าวพี่ไม่คิดไว้หรอ?”
“ไม่..นายคิดสิ พี่อยากให้นายเป็นคนคิด นายอาสาจะเลี้ยงลูกให้พี่นี่ จำได้รึเปล่า” หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนแรง มองน้องชายขี้แยที่ดราม่าเหมือนกลัวพี่สาวจะตายกะอีแค่คลอดลูก...เธอไม่ได้คิดชื่อลูกชายไว้ และไม่ยอมให้ที่บ้านคิดให้ เพราะเธอคิดว่าเด็กคนนี้มีเหตุผลเดียวที่จะเกิดมาคือ เกิดมาเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องชายของเธอ...
~~~~~~~~~~~~~~
เก้าเดือนที่แล้ว.....
“ฮึก ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! ฮืออออออออออ มันบอกใส่ถุงยางทุกครั้งอ่ะ”
“พี่อย่า! เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ทำไมทำแบบเนี้ย”
จื่อเทากอดพี่สาวที่เอาแต่ตีอกชกหัวตัวเองหลังจากเขวี้ยงที่ตรวจครรภ์กระเด็น เธอไม่ได้อยากท้องตอนนี้ เพราะวิคตอเรียกำลังจะขอเลิกกับจงแด คิมจงแดคือผู้ชายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนมหาลัยกับเธอ ความสัมพันธ์ทุกอย่างเริ่มต้นอย่างฉาบฉวย แต่วิคตอเรียก็มีจงแดคนเดียวจนกระทั่งเรียนจบ พ่อแม่ของเธอจึงไม่ยอม และทำให้ทั้งคู่จำใจต้องแต่งงานกัน สุดท้ายก็ไปไม่รอดและอยู่ในช่วงที่เธอกำลังจะขอหย่า แต่ไปๆมาๆ พระเจ้ากลับผูกมัดคนทั้งไว้ด้วยชีวิตใหม่ในท้องของเธอในวันที่เธอตั้งใจจะหนีกลับไปจีน
“พี่ไม่เอาน่า” จื่อเทากอดปลอบพี่สาว เขารู้ดีว่าการมีลูกไม่ใช่เรื่องง่าย เขาอาจจะเป็นเด็ก แต่เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พี่สาวอายุเพียงยี่สิบสองจะรับได้
“ฮึอออพี่จะทำยังไงดี พี่เลี้ยงไม่ไหวหรอกจื่อเทา พี่เลี้ยงไม่ได้หรอก ฮืออออ” เธอคร่ำครวญร้องไห้ทิ้งตัวลงอย่างน่าเวทนา จื่อเทาเองก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่หากพี่สาวพูดแบบนี้ทางเดียวที่เขานึกออกว่าพี่สาวจะทำอะไรต่อจากนี้คงไม่พ้นการทำแท้ง
“พี่ไม่ต้องเลี้ยงคนเดียวไง พี่มีผม ผมช่วยพี่โอเคไหม พี่อย่าคิดทำอะไรบ้าๆนะ”
“ไม่เอาจื่อเทา เธออายุแค่นี้จะมาช่วยพี่ได้ยังไงกัน ฮือออออ พี่ยอมตายดีกว่า ฮึก ถ้าเตี่ยรู้ว่าพี่ท้องเตี่ยต้องฆ่าพี่แน่”
“ไม่พี่ เขาจะฆ่าพี่ได้ไงพี่แต่งงานแล้วนะ ซ่งเชี่ยนพี่มีสติหน่อยดิ”
เป็นจริงตามที่จื่อเทาคาดไว้ พี่สาวเขายืนยันจะไม่บอกเรื่องนี้กับพี่เขยเขา และจะหย่าไปทั้งๆที่ท้องได้เดือนเดียว เธอไม่อยากผูกพันกับผู้ชายห่วยๆอย่างคิมจงแดอีก ผู้ชายคนนั้นวันๆก็เอาแต่ทำงาน ไม่เคยมาสนใจใยดีเลยว่าเธอจะอยู่ยังไง ดีเท่าไหร่แล้วที่น้องชายเธอมาเรียนที่เกาหลี ไม่งั้นเธอคงไม่เหลือใคร
“ผมเลี้ยงเอง โอเคไหม? เดี๋ยวผมเลี้ยงของผมเอง พี่คลอดเสร็จพี่อยากทำไรทำเลย” จื่อเทาตะคอกใส่พี่สาวอย่างเหลืออดเหลือทน ในวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่เกาหลี เธอยืนยันจะเอาเด็กออกให้ได้ เธอไม่อยากกลับไปหาพ่อแม่แบบนี้
“พูดอะไรออกมา แกอายุแค่ 16 เพิ่ง 16 ได้ไม่กี่วันเนี้ย ทำไมถึงคิดว่าการเลี้ยงเด็กมันง่าย”
“แล้วจะให้ผมทำไง ผมไม่อยากให้เขาตายอ่ะ! พี่คิดสิ นั่นคนนะ พี่กำลังจะฆ่าคนซ่งเชี่ยน!”
สุดท้ายวิคตอเรียก็ต้องยอมทำตามน้องชาย จื่อเทาบอกว่าอยากให้มันเป็นของขวัญวันเกิดของเขา เพราะเธอยังไม่ได้ให้อะไรเขาเลย จื่อเทาเลยขอลูกในท้องของเธอ.....ใช่ เพราะจื่อเทา เธอจึงตัดสินใจบอกพ่อแม่ และเก็บเด็กไว้
~~~~~~~~~~~~~~
“อุแว๊ อุแว๊ อุแว๊”
ทันทีที่คุณหมอตีก้นเล็กเบาๆ เด็กน้อยก็ร้องออกมาท่ามกลางสายตาของคนเป็นแม่ที่ร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกผิด ลูกชายเธอน่ารักเหลือเกิน ตอนนั้นเธอมันโง่เองที่คิดจะกำจัดเด็กคนนี้ออกไป... แต่คนที่ดูท่าทางจะซาบซึ้งมากกว่าเธอคงเป็นน้องชายที่ยืนปิดปากร้องไห้เมื่อเห็นหลานชายเป็นครั้งแรก
สาบตาของจื่อเทาที่มองเด็กตัวน้อยราวกับรอคอยมาแสนนาน วิคตอเรียไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตา แต่เมื่อเธอได้เห็นมันกับตาในวันที่ลูกชายเธอเกิด เธอเชื่ออย่างสนิทใจว่าเด็กคนนี้คือของขวัญของน้องชายเธอจริงๆ
จื่อเทาตั้งชื่อเขาว่า “จงอิน” แปลว่า ความอ่อนโยน....
~~~~~~~~~~~~~~
ป๊อก ป๊อก ป๊อก
เสียงค้อนของเล่นเด็กที่กระทบกับศีรษะของเด็กหนุ่มอายุ 17 อย่างเพลิดเพลิน เป็นจังหวะ เหมือนมีดนตรีในหัวใจ.....
“นีนี่น้าทำการบ้านก่อน”
“แอ๊” เด็กน้อยน้ำลายยืดตอบกลับเหมือนรู้ภาษา ดวงตาใสแจ๋วมองหน้าน้าชายก่อนจะเปลี่ยนมาเอาเท้าเล็กๆถีบแขนที่กำลังเขียนหนังสืออยู่ จื่อเทานั่งทำการบ้านบนฟูกที่ปูกับพื้น เขามีหน้าที่ดูแลหลานหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ก่อนหน้านั้นเป็นหน้าที่ของแม่เขากับพ่อเขา มันแปลกมากที่พอหลังจากที่เขาประกาศกร้าวว่าเมื่อคลอดลูกเสร็จพี่สาวเขาจะไปทำอะไรก็ไป...เธอก็ไปจริงๆ
วิคตอเรียทิ้งให้เขาและพ่อแม่ดูแลเด็กชายคิมจงอิน ในขณะที่เธอกลับไปทำงานที่เกาหลีเหมือนเดิมและส่งเงินมาให้ทุกเดือน แต่ชีวิตมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะหลังจากที่จงอินอายุได้ขวบนึง พี่เขยเขา คิมจงแดก็รู้จนได้ว่าตัวเองมีลูก จื่อเทาไม่สนใจว่าจงแดจะแวะมาหาลูกกี่ครั้ง เพราะเขายินดีเสมอ แต่สาวเขานั่นแหละตัวปัญหา สรุปก็เลยทะเลาะกันไม่เลิก ...
~~~~~~~~~~~~~~
“เจา เจา เจา เจา เจา”
“เจาเจายังทำการบ้านไม่เสร็จ นีนี่รอน้าทำการบ้านก่อน สิบนาที” จื่อเทาบอกก่อนจะบีบแก้มนิ่มเบาๆ เรื่องตลกที่สุดตั้งแต่จงอินเกิดมาก็คือ คำแรกที่เด็กน้อยพูดได้คือชื่อของเขา ไม่ใช่คำว่าแม่ หรือพ่อเหมือนเด็กคนอื่น แต่เป็น “เจาเจา” มาจากจื่อเทาที่คนมีศักดิ์เป็นคุณยายเรียกลูกชายตัวเองทุกวัน จนจงอินจำได้และจำมาพูด พอจงอินรู้ว่าถ้าจะเรียกคนตรงหน้าต้องเรียกแบบนี้ พอเริ่มอ้อแอ้พูดได้ ก็มีตา เจาเจาทั้งวันทั้งคืน
คำว่าโตวันโตคืนคงจะมีแต่คนที่ “เลี้ยงมาทั้งวันทั้งคืน” เท่านั้นจะรู้ และนั่นคือสิ่งที่จื่อเทารู้เช่นกัน
“จื้อเจา เบ๊บ เบ๊บ”
“ตรงไหน? แล้วนีนี่ไปโดนอะไรมาอ่ะ?”
“เบ๊บ นี่...นีนี่ เบ๊บ”
คนๆเดียวที่จะสื่อภาษากับเด็กน้อยวัยสองขวบได้คงมีแต่เขา ทั้งพ่อและแม่ของเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าหลานต้องการอะไร แต่จื่อเทารู้ ไอ้คำว่า “เบ๊บ เบ๊บ” ของนีนี่มันคือจะบอกว่าเจ็บนั่นแหละ เด็กตัวกลมนี่เจ็บตัวบ่อยมากจริงๆ พอจื่อเทาอยู่ใก้ลเมื่อไหร่ก็จะร้องเบ๊บๆ เหมือนเรียกร้องความสนใจ เพราถ้าบอกว่าเจ็บ จื่อเทาก็จะวางทุกอย่างแล้วเดินมาอุ้มเสมอ
“ไหน เป่าพ่วงๆ ไหนอ่ะไม่เห็นมีไรเลย นีนี่ขี้โม้อ่ะ”
“โมโม”
“ใช่ โม้โม้ อยากให้กอดอะดิ วันหลังห้ามโม้นะ จะให้กอดก็บอกดีๆ เข้าใจไหม?”
~~~~~~~~~~~~~~
3ปีผ่านไปวัยเหมือนโกหก.........
และที่ยิ่งกว่าเรื่องโกหกกว่านั้นคือ พี่สาวเขา แต่งงานใหม่.....กับผู้ชายคนเดิม
คิมจงแดคัมแบคอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองคนรักกันจนจื่อเทาสยองขวัญมาก คือหลังจากที่ซื้อเรือนหอใหม่เอี่ยมไว้ให้เขากับนีนี่ทั้งสองคนก็ทำงานกันเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อหาเงินมาผ่อนบ้าน ซื้อรถ และเป็นค่าใช้จ่ายเจ้าตัวเล็ก ทุกวันจื่อเทาต้องดูแลหลานด้วยตัวเองไม่ต่างจากตอนอยู่จีน หนำซ้ำพี่สาวพี่ชายก็เล่นไม่กลับบ้านกันเลย นานๆเข้ากลายเป็นว่าจื่อเทาก็ต้องอยู่บ้านกับหลานสองคน วันไหนมีโปรเจคทำงานมหาลัยส่งจื่อเทาก็ต้องหอบหลานรักไปทำวิจัยด้วย....
“จื่อเทา..เค้าหิวแล้ว”
“นีนี่ไปนั่งรอน้าตรงนู้นก่อน แปบเดียวครับสิบนาที น้าแก้งานเสร็จเดี๋ยวพาไปกินเตี๋ยวเนอะ”
“เหี้ยเทามึงพาหลานไปเหอะ เดี๋ยวกูช่วยตรงนี้เอง”
“ไม่เอาหรอกมึงทำงานเหมือนใช้ส้นตีนไอ้ลู่”
“หลานมึงมาขี้เยี่ยวเลอะเทอะไม่ได้นะเว้ย”
“นีนี่เข้าห้องน้ำเป็นแล้ว...”
เสียงเล็กบอกอย่างไม่พอใจ พี่ลู่หานนิสัยไม่ดีชอบบอกว่านีนี่ฉี่ราดกางเกง ทั้งที่พี่ลู่หานเคยเห็นนีนี่ฉี่ใส่กางเกงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วนั่นมันก็เกิดที่บ้านของนีนี่ด้วย นีนี่ดูการ์ตูนอยู่เลยวิ่งไปฉี่ไม่ทัน....แค่นั้นเอง
เด็กชายวัยห้าขวบนั่งมองน้าชายไม่วางตา ถ้าเทียบกับเพื่อนๆของน้าของเขาทั้งกลุ่ม...ในสายตาเขาจื่อเทาก็หล่อที่สุด นีนี่เข้าใจคำว่าหล่อมาจากที่โรงเรียน เพื่อนๆในห้องชอบบอกว่าครูพละหล่อมากๆ เพราะจมูกโด่งผิวขาว ขายาว แล้วก็หุ่นดี แต่จื่อเทาของนีนี่ก็ไม่ต่างกับครูพละเลย นีนี่ว่าจื่อเทาหล่อกว่า ผิวก็ไม่ขาวมากด้วยนีนี่ชอบแบบนี้มากกว่า...
“มองแบบนี้ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงบ้านกูเรียกอ่อยนะ”
ลู่หานพูดออกมาหลังจากสังเกตพฤติกรรมหลานเพื่อนที่เอาแต่นั่งมองหน้าไอ้เพื่อนตัวเขียวไม่วางตา สายตาเด็กน้อยดูเคลิ้มคล้ายโดนสะกดจิตแปลกๆ ไม่เหมือนเด็กทั่วไปที่มองญาติตัวเอง นี่มันอาการตกหลุมรักชัดๆ
“มึงไม่ต้องมาเสี้ยมสอนไอ้ห่า เด็กตัวแค่นี้อ่อยเหี้ยอะไร”
“มึง...กูว่าหลานมึงนี่ไม่รอดและ”
“เหี้ยอะไรครับ ไม่ต้องมาสันดานไอ้ลู่ พ่องเหอะ ขี้เอาแบบมึงคิดอกุศลได้หมดอ่ะ”
“ว่ากูขี้เอา แหม อีคนดี อีผัวแม่ค้าขายข้าวแกง”
“ไอ้สัดหยุดพูดไปเลย กูไม่ได้เป็นไรกะเค้า” จื่อเทาทำท่าจะถีบเพื่อน เขาละเกลียดจริงๆเวลาที่ลู่หานแซวเรื่องแม่ค้าที่มหาลัย ก็ไม่รู้เวรกรรมอะไรถึงไปถูกเสปคแม่ค้าแม่งทุกร้าน จื่อเทาไปซื้อร้านไหนให้พิเศษไม่ว่า บางครั้งให้กินฟรีไม่เสียตังค์อีก
~~~~~~~~~~~~~~
“จื่อเทาอาบน้ำให้หน่อย”
“น้าเปิดน้ำใส่กะละมังให้แล้วไง อาบเองเลยน้าอยู่นี่ไม่ต้องปิดประตู”
“ไม่เอา อาบให้หน่อย จื่อทาวววว อาบน้ำให้นีนี่หน่อย” ใช้ลูกอ้อนบวกกับกอดหอมน้าเสียยกใหญ่สุดท้ายจื่อเทาที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่หน้าคอมพ์ก็ต้องเดินไปแก้ผ้าอาบน้ำพร้อมหลาน
ช่วงนั้นจื่อเทาไม่เคยสังเกตและไม่แม้แต่จะคิดอกุศลอะไรกับนีนี่เลยแม้แต่น้อย ถึงไอ้เพื่อนชั่วอย่างลู่หานจะชงทุกวันว่ามีหลานเหมือนมีเมีย ตามใจทุกอย่างไม่พอยังตามจิกทุกที่ด้วย นีนี่ไม่เคยติดเพื่อนที่โรงเรียน ไม่เคยมีเพื่อนข้างบ้านแม้จะมีเด็กๆในหมู่บ้านมากมายอยากเล่นด้วย แต่นีนี่ติดน้าชายตัวเองมากๆ ทุกวันจะต้องขี่หลังเกาะติดเป็นลูกหมี แม้แต่ตอนเดินทำงานบ้านในวันหยุด นีนี่ก็จะขี่หลังจื่อเทาไปทั่วบ้าน ไม่ก็ขี่คอ อยู่แบบนี้นัวเนียไม่ห่างแม้แต่วันเดียว....
~~~~~~~~~~~~~~
และวันนึง..วันที่เกิดจุดหักเหในชีวิตของจื่อเทา เหตุการณ์ที่เปลี่ยนน้าชายคนดีไปตลอดกาล
“จื่อเทาในทีวีนั่นเขาทำอะไรหรอ ทำไมต้องเอาปากมาชนกัน” เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบกว่าเกือบแปดขวบคลานขึ้นมานั่งบนตักน้าชายที่กำลังจ้องมองฉากเลิฟซีนอย่างซาบซึ้งใจ
“จูบหนะ” ตอบไปส่งๆแต่ก็คว้าหลานมากอดไว้กันตกลงไปเพราะเจ้าตัวเล่นนั่งอยู่บนขาเพียงข้างเดียวของเขาหมิ่นเหม่มาก
“จูบคือไร?” ไม่เลิกถาม มองหน้าน้าชายแล้วใช้สองมือประคองหน้าอีกฝ่ายให้หันมาสนใจ
“ก็ดูดปากกัน” ตอบตัดรำคาญ จื่อเทารู้สึกว่าเขาเริ่มดูหนังไม่รู้เรื่องเพราะแรงเสียดสีบางอย่างที่ขาข้างซ้าย ยามที่เด็กตัวเล็กเบียดกายไปมามันแปลกมากๆ เหมือนหลานชายของเขาจงใจที่จะนั่งคร่อมและเบียดก้นไปมากับตักเขา
“มันดียังไงอ่ะ? ทำไปทำไม”
“มันดีตรงที่ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรารู้สึกยังไง เป็นวิธีบอกรักกัน”
“แล้วทำไมเค้าไม่พูดหละ พูดว่ารักไง” นีนี่ทำหน้าสงสัยจนผมอดขำไม่ได้ ความจริงคือเราสองคนบอกรักกันบ่อยมาก มากจนแม่กับพ่อเขายังไม่เคยบอกรักลูกแท้ๆของตัวเองมากขนาดนี้
“จูบมันดีกว่า ทำให้รู้สึกดีกว่าพูด” ผมสอนพลางหยิกแก้มนิ่มเบาๆ
ผมนั่งอธิบายพลางมองทีวีไม่ได้สนใจร่างเล็กๆของเด็กตัวเลยขวบที่เริ่มขยับตัวยุกยิกไปมาบนตักผม ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย ไม่รู้ทำไม ...ผมรู้สึกแปลกๆ
“นีนี่ลงไปอย่าซนเวลาน้าดูหนังได้ไหม” ผมบอกและพยายามอุ้มเขาลงจากตัว แต่จู่ริมฝีปากเล็กๆก็มาแตะที่ปากของผม ผมมองหน้าของหลาน ใบหน้าน่ารักช้อนตามองอย่างอ้อยอิ่ง ลิ้นเล็กๆ ค่อยๆบรรจงเลียไปที่ริมฝีปากผมอย่างไร้เดียงสา
นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมต้องกลายเป็นพวกโชตะค่อน ผมไม่เคยคิดกับหลานเกินเลยมาก่อน แต่ไอ้ที่หลานผมมันทำอยู่ตอนมันยิ่งยั่วกว่าการยั่วยุอารมณ์แบบที่ผมเคยเจอพวกสาวแก่แม่ม่ายทำให้ ก้นนุ่มนิ่มบดเบียดที่ท่อนเนื้อแข็งของผมไปมา ผมคิดว่าหลานคงไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ปากเนี้ยตั้งใจแน่ๆ
ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากผมอย่างไร้เดียงสา เราจูบกันแบบสกิลเด็กประถมที่เขาได้แต่ดูดดึงปากผมและเลียไปมาอย่างน่ารัก ผมไม่ปฏิเสธว่าเกิดอารมณ์กับหลาน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก...
“ทำแบบนี้ทำไมเนี้ย น้าไม่สนุกด้วยนะ” ผมเผลอพูดออกมาอย่างใจ ไม่รู้เขาจะเข้าใจไหม ผมไม่อยากให้ตัวเองมารู้สึกอะไรแปลกๆแบบนี้ มันไม่สนุกเลยที่ตอนนี้ผมเหมือนกำลังหลงเข้าไปในวังวนความรู้สึกที่ผิดศีลธรรมเข้าทุกที
“ก็จื่อเทาบอกว่ามันดีกว่าบอกรัก นีนี่อยากให้จื่อเทารู้ว่านีนี่รักจื่อเทามากๆ ทำแบบนี้ไม่ถูกหรอ?”
ผมไปต่อไม่ถูกเลย สายตาหลายผมตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม สายตาที่ครั้งนึงไอ้เหี้ยลู่บอกว่ามันคือการยั่วยวน แต่ผมกลับเลี่ยงที่จะคิดแบบนั้นมาตลอด....จนมาถึงตอนนี้ เศษเสี้ยวความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันยังบอกและเตือนผมอยู่ว่าหลานผมไม่รู้อะไร เขาก็แค่....เด็กไร้เดียงสาคนนึง
กลีบปากเล็กค่อยๆกดจูบผมอีกครั้ง คราวนี้สองแขนของเขาโอบคล้องคอผมไว้ ทุกอย่างรอบตัวผมเงียบงัน ผมกำลังหลุดไปอยู่อีกโลกนึง มือที่เคยกอดลำตัวของหลานไว้หลวมๆตอนนี้มันกลับสอดเข้าไปในเสื้อนักเรียนตัวเล็ก ผิวกายเนียนละเอียดที่นุ่มนิ่มทำให้ผมหยุดลูบไล้ไม่ได้ .. เด็กน้อยเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจเมื่อเขาผลักอกผมแรงๆและถอนจูบออกมาหายใจหอบ ผมสมองเบลอไปหมดกำลังคิดที่จะลุกไปห่างๆ ตอนนี้ส่วนนั้นของผมมันปวดหนึบไปหมดและต้องการที่จะปลดปล่อย แต่ดูเหมือนจะสายไป ใบหน้าน่ารักซบลงที่อกผมพร้อมกับร่างนุ่มนิ่มที่เบียดกายแนบชิด ผมว่าผมแตกคากางเกงไปแล้ว...หลังจากได้ยินเสียงของนีนี่พูดขึ้นมาว่า
“จื่อเทา...กอดหน่อย”
จบตอน #เทาไคshota
Talk : เนื่องจากหลังเราเปิดจองเล่มคอมเม้นฟิคในเด็กดีและแท็กก็น้อยตามไปด้วย ทำให้เราตัดสินไม่ลงสเปเชี่ยล และเนื้อเรื่องเต็มสำหรับพาร์ทนี้ทั้งหมดนะคะ
ตอนแรกไม่ได้กะจะทำแบบนี้ เพราะชานฮุนเราก็ลงให้ ทั้งที่มันเป็นสเปของในเล่ม แต่ก็ตามเหตุผลที่บอกค่ะ เราเลยตัดสินใจไม่ลงแล้ว หวังว่าจะเข้าใจนะคะ ขอบคุณค่ะ
จองฟิคกันได้แล้ววันนี้
http://t.co/7Cbw2ZAXDN
ความคิดเห็น