ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] เทาไคShota [TaoKai]

    ลำดับตอนที่ #7 : Ep.7 นีนี่เด็กดื้อ ต้องถูกลงโทษ! #เทาไคShota

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 58







     


    ถ้ามึงลำบากใจมึงควรบอกหลานไปตรงๆป่าววะ

    เพื่อนหน้าหมาๆของผมพูดสั่งสอนหลังจากที่ผมระบายความอึดอัดใจกับมัน ว่าด้วยเรื่องความหึงหวงที่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการของเด็กชายคิมจงอิน

    ให้กูบอกว่า นีนี่เลิกคบกับชานยอลเถอะน้าหึง คือแบค กูเหมือนสาวน้อยมากเลยนะแล้วหลานกูจะไปเข้าใจได้ไงว่าแม่งคืออะไร อยู่ๆก็แบบไม่ให้มันมีเพื่อนหรอ ชานยอลมันเพื่อนสนิทเลยนะ

    อ่าว มึงมาเถียงกูแล้วก่อนหน้านี้มึงบ่นทำห่าอะไรอ่ะ ก็มึงบอกมึงไม่ไหวแล้วหลานติดโทรศัพท์คุยกับเพื่อนตลอดเวลา

    ก็วิธีอื่นสิวะ แบบที่ให้หลานกูอยากอยู่กับกูมากกว่าก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์

    ปาโทรศัพท์หลานมึงทิ้ง....

    ขออะไรที่มันปฏิบัติได้โดยกูไม่ต้องทำตัวเลวได้มะ

    จื่อเทาครับ ไอ้เรื่องที่มึงโรคจิตแดรกหลานมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเนี้ยกูว่ามันเป็นโศกนาฏกรรมมากพอแล้วนะ มึงข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ธรมดามาแล้วไอ้เหี้ย มึงมันโชตะค่อนใจอมหิต

     

    ผมไอ้แต่ถอนใจอย่างไร้หนทาง พยอนแบคฮยอนคือเพื่อนสนิทคนเดียวที่รู้เรื่องผมกับนีนี่ เพราะเสือกเกิดเหตุไม่คาดฝันวันที่แบคฮยอนมันเสือกแวะมาบ้านแล้วเจอนีนี่ช่วงอยู่ชั้นประถมวิ่งกำลังแก้ผ้าล่อนจ้อนพอดีรอยอะไรต่อมิอะไรที่ผมทำไว้เลยประจักษ์เต็มสองลูกกะตาตี่ๆของมัน แบคฮยอนมันแทบลมจับตอนที่ผมสารภาพว่าแดรกหลานตัวเองเข้าไปแล้ว มันขอร้องให้ผมเพลาๆลงหน่อยเพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องไปเยี่ยมผมในคุก

     

    เด็กชื่อชานยอลที่ว่านี่หน้าตาดีจนมึงต้องกังวลเลยหรอวะแบคฮยอนถามแล้วก้มดูดชาเขียวปั่นของตัวเอง

    เด็กหน้าตาเหลาเหย่กูจะมาใส่ใจทำเหี้ยไรหละ มึงต้องเห็นหน้ามัน

    สรุปคือหล่อ

    ก็อะไรแบบนั้นแหละ

    มึงเครียดเพราะมึงเริ่มจับไต๋ได้แล้วใช่ไหมว่าเด็กนั่นมีอิทธิพลกับหลานมึง

    เอาจริงนะ”...จื่อเทาลดเสียงลงกระซิบ

    หลานกูมันถึงขั้นช่วยตัวเองให้เพื่อนดูนี่กูว่าไม่ไหวอ่ะ

    หลานมึงมีน้ำใจแบคฮยอนมันพูดไปแล้วหัวเราะคิกๆ

    สัด...ใช่เรื่องตลกหรอ กูขอให้มึงชักว่าวให้กูดูมั่งไหมหละ"

    หลานมึงนี่แซ่บมากจริงๆหวะ จะเลิกเรียนยังวะ แหม่ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี ไหนขอดูความเซ็กซี่แบบเรียลๆหน่อยสิ เห็นแต่รูปเวลามึงส่งให้ก็ว่าน่ารักแล้วนะ

     

     

    แบคฮยอนว่าพลางมองไปฝั่งตรงข้ามของร้านกาแฟที่เป็นโรงเรียนมัธยมที่หลานเพื่อนเรียนอยู่ วันนี้เขานัดมาเจอจื่อเทาเพราะเพิ่งกลับมาจากจีน เขาทำงานเป็นไกด์บินไปๆมาๆระว่างจีนเกาหลีจนไม่มีเวลานัดเจอกับจื่อเทาเลย เพิ่งจะได้ฤกษ์ก็วันนี้แหละวันที่เด็กๆมารับผลสอบกันก่อนปิดเทอม

    อีกห้านาทีเดี๋ยวก็วิ่งมาจื่อเทามองนาฬิกาขณะตอบ ไม่นานเด็กๆก็พกันกรูออกมาจากโรงเรียนราวกับซ้อมดับเพลิง แบคฮยอนดูจะตื่นตาตื่นใจกับเด็กมัธยมโรงเรียนชายล้วนซะเว่อถ้ามีหูมีหางคงกระดิกรัวๆ

    กำลังมองเพื่อนตัวเองอย่างขำๆ พลันสายตาก็เห็นรถฮุนไดสีดำสนิทกับเลขทะเบียนที่คุ้นตา มาจอดชะลออยู่หน้าโรงเรียนไม่ต้องเดาเลยเมื่อร่างของคนสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์เดินก้าวลงมาจากรถ

     

    เชี้ยโคตรหล่ออออออออออออ เสียงแบคฮยอนสครีมออกมาแบบเก้งเสียจริต

    น้องไอ้ลู่ไง มึงไม่เคยเจอมันหรอวะ

    โอ้ย ไม่เคยเว้ย น้องมันอยู่บ้านนอกไม่ใช่ไง๊ เห้ย ทำไมมันสูงอ่ะ ไอ้ลู่นี่ตอนเด็กๆแม่มันไม่รักหรอ เชี้ย ความดีงามแม่มันมอบให้น้องมันคนเดียวเลยอ่ะ สูงขาวตี๋

    มึงอย่าชื่นชมมารหัวใจเบอร์สองได้ไหม

    เหยดดดดดดดดดด นี่ก็ทาสรักหลานมึงหรอ โอ้ยกูไม่แปลกใจหรอก เจอของเขียวอย่างมึงมาทั้งชีวิต พี่ฮุนหล่อแบบเทวดามาจุติไอ้สัดเป็นกู กูก็ไป!

    ข่วย...แบคมึงเพื่อนกูป่ะ

    เพื่อนแล้วต้องตอแหลหรอ เหี้ยๆๆๆ เขาเห็นกูแล้ว โอ้ยเดินมาแล้ว

    มึงแต๋วแตกมาอ่ะแบค...

    โอ้ยคีพลุ๊คแป๊บ เดินมาแล้วเมิ้งงงงพยอนแบคฮยอนแปะตูดลงเก้าอี้พร้อมนั่งไขว่ห้างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกับที่เซฮุนเดินเข้ามาในร้านเพราะเหลือบเห็นจื่อเทาพอดี

    อ่าวพี่มาไงครับเนี้ยเซฮุนทักพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหันไปก้มหน้าทักทายแบคฮยอน

    ขี่รถมาครับคุณตำรวจ...อ่อนี่แบคฮยอนเพื่อนผม โสดนะ คุณสนใจมันไหมหละ

    จื่อเทาแนะนำเพื่อนสนิทกับเซฮุนด้วยคำพูดที่กวนประสาทจนแบคฮยอนต้องหันมาจ้องอย่างคาดโทษ

     

    ฮ่าๆๆๆ สวัสดีครับพี่แบคฮยอนผมเซฮุนครับน้องชายพี่ลู่หาน ผมเคยเห็นรูปพี่ในหนังสือรุ่นพี่ชาย เจอตัวจริงแล้วน่ารักกว่าในรูปอีกนะครับ

    แบคฮยอนปริ่มจนแทบจะกรี๊ดทำได้เพียงก้มหน้าหัวเราะเขินๆ แต่รองเท้านี่กระทืบลงบนเท้าเพื่อนแบบนันสต๊อป

    มาทำอะไรแถวนี้ครับเซฮุน

    อ๋อมารับเด็กๆไปทานข้าวครับ วันนี้ชานยอลโทรมาบอกว่าอาจารย์แนะแนวให้เขียนถึงอาชีพที่ใฝ่ฝันในอนาคต ชานยอลเขาอยากสอบตำรวจก็เลยนัดผมมาคุยเรื่องข้อมูลและการเตรียมตัวสอบ

    ดีจังเลยครับ ข้างบ้านก็ตำรวจ เพื่อนหลานก็ว่าที่ตำรวจ จื่อเทามึงชีวิตมึงต้องปลอดภัยมากอ่ะ เนอะมึงเนอะ

     

    ปลอดภัยกับหน้ามึงสิ.......แม่งรวมหัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ห่าเอ้ย

     

    อ่าว น้องมานั่นแล้วเซฮุนส่งยิ้มให้กับเด็กมัธยมสองคนที่เดินเข้ามาในร้าน จงอินส่งยิ้มหวานให้จื่อเทาแล้วโบกมืออย่างน่ารัก ในขณะที่ชานยอลเดินเข้ามาและโค้งทักทายผู้ใหญ่ทั้งสามคน

     

    ป๊อก! เผละ

    เสียงแก้วชาเขียวร่วงลงพื้นพร้อมกับซากชาเขียวที่หกลงพื้น แบคฮยอนนั่งตัวแข็งทื่อพูดไม่ออกตั้งแต่ชานยอลเดินเข้ามา ใบหน้าระริกระรี้ตอนเจอเซฮุนหายวับไปทันที คงสภาพเป็นหินหน้าถ้ำลิเจียแบบที่คนข้างๆยังงงกับท่าทางของเพื่อนตัวเอง

    แบค...เห้ยมึง อยู่ป่าวเอื้อมมือไปเขย่าไหล่เพื่อนสนิทจนแบคฮยอนหันกลับมาเหวอๆ

    ห่ะ อ่อ เพื่อนหลานมึง หล่อชิบหาย เอ้ย สวัสดีจงอิน ไม่เจอกันนานเลย น่ารักขึ้นเป็นกอง เพื่อนแบบนี้ไปตกได้แถวไหนหรอ

    แบค...จื่อเทาหันไปมองมันด้วยหางตาพลางคิดในใจ

     แม่ง  แม่สอนแล้วเชียวอย่าไว้ใจพวกเก้งกวางสัตว์สี่เท้า....

    น้าแบคตลกอ่ะ เพื่อนนีนี่ไม่ใช่ปลานะ จื่อเทา เดี๋ยวเค้าไปกินเอ็มเคกะพิฮูนนะ เนี้ยชานยอลก็ไปด้วย

    ไม่ให้ไป การบ้านก็ต้องทำ ไปกินข้าวแล้วก็กลับดึกอีกจะทำตอนไหน

    เดี๋ยวมึงลอกกูก็ได้ชานยอลหันไปบอก เพื่อนเหมือนจะหักหน้าจื่อเทา แต่คนโตกว่าใช่จะยอม

    มีเพื่อนที่ไหนช่วยเพื่อนในทางที่ผิดแบบนี้

    ผมก็ ช่วยเพื่อน ได้ทุกทางและทุกอย่างแหละครับ ตอนเด็กๆคุณน้าไม่เคยลอกการบ้านเพื่อนหรอครับ?” 

    คนโตกว่ากัดฟันไม่โต้กลับไปเพราะพูดไปก็อายปาก ใครมันจะไม่เคยลอกการบ้านเพื่อนวะ

    จื่อเทามึงเก็บเศษหน้าด้วย...แบคฮยอนกระซิบบอก อีนี่ก็ดีงามกับเพื่อนตลอด

    ไม่ให้ไป วันนี้พ่อแม่ไม่อยู่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยขโมยขึ้นบ้านทำไงอ้างก่อนจะลุกขึ้นดึงประเป๋าเป้มาจากมือนีนี่

    พี่ครับหมู่บ้านมีรักษาความปลอดภัย พี่ห่วงบ้านหรือหวงหลานกันแน่เนี้ย ฮ่าๆๆ ไปด้วยกันเถอะครับแค่กินข้าวเอง ไม่ดึกหรอก เดี๋ยวนีนี่ไปรถพี่ฮุนนะครับ

    เดี๋ยวพี่พานีนี่ซ้อนมอไซค์ไปเอง แบค มึงไปรถเซฮุน

    หวายยยย มึง...กูไม่ได้รับเชิญหนา

    กูเชิญมึงแล้วนี่ไง ไปขึ้นรถหันไปบอกเคืองๆไม่เคยคิดจะช่วยเพื่อนอ่ะไอ้หน้าหมาคอร์กี้

    ไม่เอานีนี่จะไปรถพิฮูนอ่ะ อากาศมันร้อน อยากนั่งรถติดแอร์

                  

    ดูมันพูด! นั่งมอไซค์น้ามาตั้งแต่ตัวเท่าลูกหมา ทีตอนนี้บอกร้อน อยากจะจับเหวี่ยงเป็นวงกลมจริงๆ

    นีนี่มองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนๆที่ผมต้องยอมแพ้ทุกที....เออแม่ง

     

    ได้ ป่ะขึ้นรถเซฮุนกัน อ่ะแบคมึงเอากุญแจรถกูไป

    เดี๋ยวไอ้เหี้ย จะให้กูขี่ฮาเล่ย์มึงนี่ดูช่วงขากูด้วยไหม โหนเป็นอุลังอุตังเลยไหม ยังไง!

    พี่แบคเอากุญแจมาครับ เดี๋ยวผมขับเองจื่อเทาเหลือมมองที่ชานยอลพูดขึ้นมาเหวี่ยงๆ หน้าตารำคาญสุด รำคาญก็ช่างแม่งกูไม่ให้หลานไปกับมึงแน่

    เห้ยชาน ไม่มีใบขับขี่นะ

    ก็เดี๋ยวเจอด่านผมให้พี่แบคมานั่งขับแทน ผมเคยขี่มาแล้วว่าเสร็จแม่งก็ลากแบคฮยอนออกไปไม่วายจะหันมาจิกตาใส่เจ้าของมอเตอร์ไซค์

    แม่งเด็กเปรตนี่ อายุแค่นี้แม่งเสือกสูงไล่ๆผมแล้ว ชาติก่อนมึงทำบุญด้วยชุดสังฆทานรุ่นเหยาหมิงรึไง...

    เอ่อนีนี่ไปกันเถอะป่ะเซฮุนบอกแล้วจูงมือเด็กตัวเล็กอีกข้างจื่อเทาก็จับไว้อีกข้างนีนี่ที่อยู่ตรงกลางหันมามองหน้าทั้งสองคนสลับกัน

    จื่อเทา จับมือแบบนี้แล้วเราจะเดินออกประตูร้านยังไงพร้อมกันสามคนอ่ะ...

    ก็เดินตะแคงสิ!

     

    ..............

     

     

    ชานยอล....ขับช้าๆได้ไหมเสียงตะโกนแข่งกับเสียงลมจาก คนซ้อนข้างหลังนั่งกอดเอวเด็ก14แน่น แรกๆก็เพราะแรงพิศวาสแต่ไปๆมาแบคฮยอนแทบระลึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ขึ้นมาเลยเพราะความเร็วของรถที่พัคชานยอลบิดจนมิด

    พี่อยากช้าพี่ลงเดินเลยฮะ มอไซค์นี่เค้าไว้ให้คนอยากไปเร็วๆ

    นั่น..........กวนตีนด้วย แบคฮยอนลดความพิศวาสในตัวไอ้เด็กโย่งลง 30% จากคำพูดคำจานี่แหละ

    ขับเร็วไม่ว่า นี่ขับปาดเก่งด้วย....แหมะ ฟีลลิ่งสก๊อยมันเป็นเยี่ยงนี้เองสินะ

     

     

    ..............

     

    มาดูที่อีกฝั่งบรรยากาศภายในรถฮุนไดของคุณตำรวจอบอวนไปด้วยความรัก....เมื่อนีนี่หลานรักดึงถุงขนมออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วหยิบใส่ปากตัวเองสลับกับป้อนจื่อเทากับเซฮุน เมื่อตอนที่ขึ้นรถมาจื่อเทาอาสาเป็นคนขับเองเพราะการเป็นผู้โดยสารทำให้เขาเวียนหัว เซฮุนก็เลยมานั่งที่ข้างคนขับแล้วจงอินก็นั่งที่เบาะหลัง

    จื่อเทาๆ ปิดเทอมนี้พิฮูนบอกว่าที่สน.เค้ามีออกค่ายหละ นีนี่อยากไปอ่า

    มีเวลาไปหรอ บัลเล่ต์ก็ต้องเรียน

     “อืมถ้าลาได้ก็ดีนะครับ เราออกค่ายกับ5วันครับพี่ ก็พาเด็กๆไปบำเพ็ญประโยชน์แถวชนบทพอจบเราก็มีประกาศนียบัตรให้เซฮุนพยามอธิบายอย่างใจเย็น ส่วนนีนี่ตัวดีก็พยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่าง

    ชานยอลไปด้วยรึเปล่า

    ไปจิ

    งั้นน้าไม่ให้ไป

    อ่าว...ไมหงะ

    เซฮุนแอบอมยิ้มแล้วหันมองนอกหน้าต่างดูก็รู้ว่าจื่อเทาเจาะจงหาเรื่องชานยอลคนเดียวจริงๆอย่างที่ชานยอลเองก็คงมีความรู้สึกเดียวกัน ถ้าดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วละก็ จงอินดูงอแงมากหลังจากที่จื่อเทาไม่อนุญาติให้ไปค่าย ทั้งที่เซฮุนก็ออกปากจะช่วยดูแลให้ จนสุดท้ายเซฮุนต้องใช้ไม้เด็ดบอกว่าเพื่อนในห้องของจงอินไปกันหมดถ้าน้องไม่ได้ไปด้วยคงรู้สึกแย่มากๆ

    แล้วนอนค้างกันยังไง

    กางเต้นท์ครับ

    ผู้ปกครองไปด้วยได้มะคนขับถามขึ้นมาหน้าตายจนเซฮุนเองก็หลุดขำออกมา

    จื่อเทา!เด็กสิบสี่ถึงกับแหวออกมาเสียงดังแล้วทิ้งตัวเอาหลังกระแทกเบาะหลังดังปั่กอย่างไม่พอใจ

    ผู้ใหญ่เค้าว่ากันว่ายิ่งเราไปห้ามหรือบังคับเด็กมากๆ เค้าจะยิ่งเตลิดนะครับ ช่วยนี้คดีเด็กหนีออกจากบ้านเยอะซะด้วย

    นี่เรียกชี้โพรงรึเปล่าครับคุณตำรวจ

    ใช่ๆ เค้าจะหนีออกจากบ้านแน่ถ้าจื่อเทาไม่ให้ไปค่าย

    ก็ประมาณนั้นครับเซฮุนตอบขำๆในขณะที่จื่อเทาหน้าบึ้งมองกระจกหลังมองหลานตัวดื้อที่ดีดดิ้นไปมาจะไปเข้าค่ายให้ได้

    พี่แค่เป็นห่วงจื่อเทาบอกพลางถอนใจ

    ผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าผมจะดูแลน้องอย่างใกล้ชิดก็แล้วกัน

     

    มึงนั่นแหละน่ากลัวที่สุด...... จื่อเทากลอกตาเซงๆ จะใครเขาก็กังวลทั้งนั้น มันไม่ใช่กลัวที่คนอื่นจะเข้าหาหลานตัวเอง แต่กลัวที่หลานชายคนดีมันไม่น่าไว้วางใจ ทำอะไรไปบ้างเขาก็มารู้ทีหลังตลอด...

     

    มาถึงร้านอาหารปั๊บไอ้ตัวเล็กก็กระโดดลงจากรถได้ก็เดินควงแขนเซฮุนราวกับคู่รักจื่อเทากำกุญแจรถแน่น ใจอยากจะแกล้งเอากุญแจขูดสีรถตำรวจแม่งให้รอบคันจริงๆ ชานยอลกับแบคฮยอนมาถึงก่อนแล้วสีหน้าแบคฮยอนไม่ค่อยดีเลยเมื่อลงจากรถมา

     

    มึงโอเคป่าววะทำไมหน้าเงี้ย

    กูซ้อนมอไซค์แว้นซ์สะพานพุทธมาไอ้เหี้ย แทบช็อคตายเมื่อกี้มันพากูปาดรถบรรทุกมา หน้าพ่อหน้าแม่กูนี่ลอยมาเลยแบคฮยอนบอกพลางทำท่าเหมือนจะอาเจียน

    ชานยอลเดินมาหาเจ้าของรถพร้อมยื่นกุญแจคืนให้แล้วเดินไปกอดคอจงอินจนเพื่อนตัวเล็กต้องปล่อยแขนที่เกาะเซฮุนอยู่ออกแล้วพากันเดินเข้าร้านไป.....ดูก็รู้ว่าใครมันมีอิทธิพลกับหลานเขามากกว่ากัน

     

    พอนั่งที่โต๊ะชานยอลก็นั่งข้างจงอิน คอยตักนั่นนี่ใส่ถ้วยให้ปล่อยผู้ใหญ่สามคนนั่งมอง

    นี่มึงมาเดทกันหรอ....จื่อเทาคิดพลางคีบหมี่หยกใส่ปาก

     

    โชคดีหน่อยที่เซฮุนเริ่มชวนชานยอลคุยเรื่องการสอบเข้าตำรวจกับหนังสือที่ต้องอ่านพร้อมแนวข้อสอบ เลยทำให้จงอินไม่สามารถอ้อนเพื่อนให้ตักนั่นนี่ให้กินได้อีก จื่อเทาถอนใจ เบื่อแสนเบื่อไอ้หลานชายที่เอาแต่นั่งจิ้มมือถือไม่เงยหน้ามาคุยกับตัวเลย พอกับแบคฮยอนที่แม่งแต่เซลฟี่เป็นสิบๆท่า

     

    "ทำไมมึงถ่ายรูปคนเดียว...." จื่อเทาหันไปมองหน้าหมาๆที่กำลังแยกเขี้ยวใส่กล้องหน้าห้าล้านพิกเซล

    "กูไม่กล้าขอถ่ายกะเซฮุนอ่ะ" แบคฮยอนกระซิบตอบขินๆพชางมองไปที่เซฮุน นั่นไม่ใช่คำตอนที่จื่อเทาต้องการเลย

    "คือกูจะถามว่าทำไมไม่ถ่ายด้วยกันวะ....นานๆเจอกันทีมึงถ่ายรูปตัวเองเองคนเดียวทำไม...."

    "เออหวะ...." แบคฮยอนทำหน้าหมาฉลาดแล้วเขยิบมานั่งใกล้ๆเพื่อนสนิท ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปคู่ที่กัน เอนหัวซบไหล่ จื่อเทายิ้มหวาน ทำปากจู๋ชูสองนิ้ว และอีกสารพัดท่าที่แสนจะแบ้ว ต่อหน้าคนทั้งโต๊ะ ที่มองอย่างเหลือเชื่อกับความเยอะของทั้งคู่ ..จงอินเองก็เพิ่งรู้ว่าน้าตัวเองบ้ากล้องขนาดไหนก็วันนี้แหละ

    เพราะตลอดมาจื่อเทากับจงอินไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลยสักครั้งยกเว้นตอนที่ไปเที่ยวก็มีแต่รูปจงอินที่จื่อเทาเดินตามถ่ายให้ตลอด

    ยิ่งตอนที่แบคฮยอนกอดคอจื่อเทาแล้วแทบจะนั่งตักอีกฝ่ายแล้วกอดคอถ่ายรูปคู่กัน

    โต๊ะข้างๆถึงกับกระซิบกระซาบจนลอยเข้าหูหลานชายที่แอบมองอยู่ว่า "แฟนกันแน่เลยแก เหมาะกันนะ คนนึงก็ตัวเล็กน่ารัก อีกคนก็ตัวสูงแถมหน้าตาคมเข้ม"

     

     น้าแบคจะเป็นแฟนจื่อเทาได้ยังไง...ก็นีนี่เป็นแฟนจื่อทาแล้ว....

     

    เด็กน้อยคิดและแอบบึนปากอย่างไม่สบอารมณ์มองไปทางผู้หญิงโต๊ะข้างๆสายตาไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด

    "แก...น้องเค้ามองจิกเราป่าววะ"

    "เอ่อ สงสัย ไปเหอะ"

     

    สองสาวโต๊ะข้างๆรีบเผ่นไปทันทีที่หันมาสบตากับจงอิน หันกลับมามองสองน้าที่ยังไม่เลิกถ่ายรูปกัน นี่ถึงขั้นเอาอุปกรณ์บนโต๊ะมาทำเป็นพล็อบกันแล้วไม่ว่าจะเป็นตะเกียบตะกร้อกระบวยตักซุป....

     

    "จื่อเทา นีนี่อยากเข้าห้องน้ำ"

    "ก็ไปสิ นั่งไงมีป้ายบอกอยู่" จื่อเทาบุ้ยใบ้ไปแบบไม่สนใจ ชานยอลหยุดบทสนทนากับเซฮุนแล้วหันมามองหน้าคนที่นั่งข้างๆ

    จงอินมีสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด มือหนาแตะที่ต้นแขนเพื่อนตัวเล็ก

    "เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน" ว่าพลางลุกจากโต๊ะแล้วจูงมือเพื่อนให้ลุก แต่จงอินก็ไม่ยอมลุกตาม

    "ไม่ปวดแล้ว อยากกลับบ้าน จื่อเทานีนี่จะกลับบ้าน" เสียงเอาแต่ใจของจงอินทำเอาคนทั้งโต๊ะหันมามองเป็นตาเดียว

    "เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า เช็คบิลด้วยครับ" เซฮุน รีบพูดทำลายความเงียบเพราะเห็นท่าทางไม่ค่อยดี ชานยอลยังคงยืนจับมือเพื่อนไม่ปล่อยในขณะที่จื่อเทานั่งมองหลานชายอย่างเงียบๆ

     

    "จื่อเทานีนี่จะกลับบ้าน" พูดซ้ำประโยคเดิมแต่คราวนี้ดวงตากลมมีน้ำตาคลออย่างน่าสงสารริมฝีปากอิ่มเริ่มเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้

    "มึง....กูว่ามึงพาหลานมึงกลับก่อนที่ระเบิดจะลงเถอะ" แบคฮยอนกระซิบบอกกลัวๆ มองหน้าคุณหลานตัวเล็กของเพื่อนสนิทแล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

     

    "เมื่อกี้งอแงจะมาแล้วตอนนี้คนอื่นเขายังกินกันไม่เสร็จเลย ถ้าทำตัวไม่น่ารักแบบนี้วันหลังน้าจะไม่ให้ไปไหนแล้วนะ"

     

    คำพูดของน้าชายทำเอาน้ำตาที่ปริ่มขอบตาร่วงเผาะออกมา

    ....นีนี่ไม่น่ารักหรอ ทำตัวไม่น่ารักงั้นหรอ

     

    "จื่อเทา นีนี่จะ.."

    "อยากกลับนักให้ชานยอลไปส่งสิ กลับถึงบ้านก็รีบทำการบ้านซะด้วย วันนี้น้ากลับดึกคงไม่ได้สอนหรอกนะ อ้อ ชานยอลจะให้ลอกพรุ่งนี้เช้านี่ใช่ไหม? งั้นก็สบายแล้วหนิ การบ้านก็ไม่ต้องทำเอง ป่ะแบคเดี๋ยวกูไปส่ง เอ้อ ขอบใจที่เลี้ยงนะเซฮุน"

     

    พูดจบจื่อเทาก็ลุกจากโต๊ะพร้อมลากแขนเพื่อนตัวเล็กไปด้วย แบคฮยอนก้มหัวให้เซฮุนหน้าเจื่อนๆ

    เดินหันหลังห่างจากโต๊ะได้ไม่เท่าไหร่ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ตามหลังมา แต่จื่อเทาไม่ยอมหันกลับไป

    .

    .

    .

     

    "มึงครับ...หลานมึงนี่โคตรเอาแต่ใจเลยให้ตายเหอะ"

    "เป็นกับกูคนเดียวนี่แหละ"

     

    ทั้งสองคนมานั่งดื่มกันที่บาร์ชั้นใต้ดินของโรงแรมที่แบคฮยอนพักอยู่ บทสนทนาก็เป็นเรื่องหลานชายตัวแสบของจื่อเทาทุกวีรกรรมที่เด็กตัวเล็กเคยก่อไว้ออกมาจากปากจื่อเทาหมด สลับกับเสียงหัวเราะของแบคฮยอน

    เสียงข้อความไลน์เข้ามาดวงตาเรียวยาวเหลือบมองป๊แบอัพที่เด้งมาหน้าจอ

     

    Ninie Baby : แม่บอกว่าให้จื่อเทารีบกลับ

     

    "โอ้ยเมิ้ง 5555555" แบคฮยอนขำลั่นออกมาเมื่อชะโงกไปอ่านข้อความของเพื่อน ดูท่าทางหลานตัวน้อยจะไม่จบง่ายๆ

    "เดี๋ยวมึงคอยดูนะ กูตอบไปประโยคเดียวโทรกลับมาแน่" จื่อเทาบอกพลางพิมพ์ข้อความตอบกลับ

     

    ABStyle : บอกแม่ด้วยว่าน้าไม่กลับ

     

    5

    4

    3

    2

    ครืดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดด

     

    สมาร์ทโฟนสีทองสั่นทันทีพร้อมแบคฮยอนที่ระเบิดเสียงหัวเราะจนท้องแข็งเมื่อเห็นชื่อที่เมมไว้ว่า “หมีน้อย” จื่อเทาเลือกที่จะไม่รับสายแล้วจิบเบียร์ไปยิ้มไป

     

    เด็กเอาแต่ใจ....มันต้องเจอแบบนี้แหละ

     

    ตกดึกจื่อเทากลับมาจากบาร์ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเก่ง เบียร์ไม่กี่ขวดทำอะไรเขาไม่ได้ ร่างสูงดับเครื่องมอเตอร์ไซค์ก่อนถึงหน้าบ้านประมาณ 50เมตรแล้วเข็นมาถึงหน้าบ้านเพราะไม่อยากให้หลานชายรู้ว่ากลับมาแล้ว

     

    "คุณใจร้ายมากรู้ตัวไหม?"  เด็กชายตัวสูงเดินออกมาจากมุมเสาไฟตรงข้ามบ้านของเขา จื่อเทาทำเพียงกระตุกยิ้มก่อนจะหันมาเผชิญหน้าอีกฝ่าย

    "ไม่ขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนกันหละ ออกมายืนตรงนี้ทำไม?" คนโตกว่าแกล้งถามหน้าตาย

    ชานยอลขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่ใช่เขาไม่อยากเข้าไป แต่เพราะจงอินไม่ยอมให้เข้าไป....แถมยังทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากจะเป็นบ้าเพราะเรื่องไปค่ายที่ถามเพื่อความมั่นใจ

     

     

    "มึงกลับบ้านเถอะ ขอบใจที่มาส่งนะ "   เพื่อนร่างเล็กบอกพลางฝืนยิ้มทั้งที่ขอบตาแดงช้ำ

    "อืม มึงยังไปค่ายกับกูใช่ไหม?" 

    "ไม่ไปแล้วได้ไหม..."

    "อ่าว ทำไมวะ"

    "กูกลัวจื่อเทาโกรธ..."

     

    จื่อเทามองหน้าชานยอลพลางเลิกคิ้วเป็นเชิญถาม ชานยอลกัดริมฝีปากก่อนจะตอบ

    "คุณทำให้เค้าไม่ยอมไปค่าย ทั้งที่เพื่อนทั้งห้องไปเพราะเค้ากลัวคุณโกรธ คุณไม่ควรทำให้จงอินเอาแต่กลัวคุณจนไม่เป็นอันทำอะไร"

    "อ้อ นั่นไม่เรียกกลัวหรอกชานยอล ภาษาผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า "แคร์" กันต่างหากหละ"

    "อะไรนะ?"

    "การที่ใครบางคนมีอิทธิพลต่อหัวใจเราเรียกว่า แคร์กัน ใช้กับคนที่รักกันมากๆ"

    จื่อเทายืนล้วงกระเป๋าและยิ้มอย่างผู้ชนะ ชานยอลจ้องอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ

    "ตกลงคุณ...เป็นอะไรกับจงอินกันแน่ น้าหลานเขาทำอะไรแบบนี้กันได้หรอ"

    "นายรู้คำตอบอยู่แล้วชานยอล"

     

    หลังพูดจบคนโตกว่าเข็นรถมอเตอร์ไซค์เข้าบ้านไปโดยไม่หันมาสนใจเด็กตัวโย่งที่ได้แต่ยืนอ้าปากค้างหมือนโดนตบหน้า

     

    ชานยอลอาจจะคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเข้าใจว่าจื่อเทาหมายถึงอะไร....

    แต่ที่แน่ๆ เด็กชายตัวสูงคงต้องคิดใหม่เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเขากับจงอิน....ว่ามันคงเป็นไปได้ยากเสียแล้ว

     

     

    “ทะเลาะอะไรกันมา?” เสียงพี่เขยดังขึ้นจากในครัว จื่อเทาชะงักขาที่กำลังจะขึ้นบันไดบ้านก่อนจะเดินเข้ามาหาพี่ชายที่กำลังคลุกผักกาดขาวดองกิมจิ...สงสัยพี่สาวเขาจะสั่งให้ทำ

    “ก็นีนี่ไปอาละวาดข้างนอกอ่ะพี่ ตอนแรกก็งอแงจะไปกินเอ็มเคกับน้องชายไอ้ลู่ พอนั่งๆกินกันอยู่ก็งอแงจะกลับบ้าน ผมเลยให้เพื่อนเขามาส่ง เพราะนี่ไอ้แบคมันมาผมต้องไปส่งเพื่อนอ่ะ”

    “ก็รู้อยู่หลานมันติดแกเคยไปไหนไม่เอามันไปด้วยหรอ ตอนเล็กๆพ่อแม่มาบ้านยังไม่สนใจเลย แกจะไปส้วมยังต้องอุ้มมันเข้าไปด้วยเลย”

    “โตแล้วอ่ะ ก็ต้องดัดนิสัยกันบ้าง”

    “กลับมาร้องไห้อย่างเดียวไม่ยอมเล่าให้ฟัง แม่มันก็ร้องไห้ตามลูกอีก นี่รอเอาไม้ตีหัวแกอยู่นะ ระวังตัวด้วย”

    พี่จงแดบอกพลางยิ้มเจื่อนๆให้น้องเมีย จื่อเทาพยักหน้ารับทราบก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไป

     

    “แกทำอะไรลูกชั้น” ภาษาจีนสำเนียงซานตงดังมาจากด้านหลัง จื่อเทาถอนใจแล้วหมุนตัวกลับมามองหน้าพี่สาวเขา โมโหทีไรก็ปะทะกันภาษาจีนตลอดเพื่อไม่ให้จงอินรู้ว่าแม่กับน้าคุยอะไรกัน เพื่อลดปัญหาเรื่องความรุนแรงในครอบครัว (นั่นมันที่พี่สาวผมคิด)

    “พี่ถามลูกชายพี่ยัง? นี่มันไปออกฤทธิ์ออกเดชนอกบ้าน ร้องไห้กลางร้านอาหารเลยนะ”

    “แล้วทำไมแกปล่อยลูกชั้นกับมาคนเดียว”

    “เพื่อนเขามาส่งไง”

    “จื่อเทา ชั้นอุตส่าไว้ใจแก ให้แกดูแลลูกชั้นไม่ใช่ให้แกมาทำร้ายจิตใจลูกชั้นแบบนี้นะ นีนี่ร้องไห้อย่างกับหัวใจสลาย แกเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ไหม”

    “พี่เข้าใจหัวอกคนเป็นน้าไหมหละ? เลี้ยงมา14ปีนี่มันไม่เคยเรียกน้าสักคำแถมเอาแต่ใจแบบนี้ พี่เลี้ยงเองไหมหละ ผมเหนื่อยเหมือนกันนะ”

    คุณแม่ยังสาวเริ่มหน้าเสียเมื่อน้องชายเริ่มต่อปากต่อคำกลับมา

    “พูดแบบนั้นได้ไง แกก็รู้ว่าลูกชั้นมันไม่เชื่อฟังใครนอกจากแกนะ”

    “พี่ก็เริ่มเลี้ยงลูกเองตั้งแต่วันนี้เลยดิ ลูกพี่จะได้เชื่อฟังพี่ไง พี่จะได้รู้ว่าเลี้ยงเด็กมันเหนื่อย”

    ร่างสูงโต้กลับด้วยท่าทางโกรธไม่แพ้กันเพราะพี่สาวที่เอาแต่ใจตัวเอง รู้แล้วว่าหลานได้นิสัยนี้มาจากใครกัน ส่วนพี่สาวถึงกับโมโหจนเสียงแหลมหวีดใส่น้องชายที่เดินหนีเข้าห้องตัวเอง

    “จื่อเทา!!!

     

    .

    .

    .

    “แม่งอะไรก็กู ไม่เลี้ยงไม่ดูกันเองแล้วพอมีปัญหาก็โทษกูกันหมด”  ชายหนุ่มบ่นพึมพำอย่างหัวเสียเมื่อเข้ามาในห้องกดล็อคประตูเพราะกลัวพี่สาวตามมาแหกอก เปิดไฟได้ ร่างสูงถอดเสื้อแล้วปาอัดลงพื้นด้วยความโกรธ เขาคิดว่าจะกลับมาง้อหลาน อาจจะยากสักหน่อยเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาแกล้งเมินหลานชายตัวเอง แต่การที่พี่สาวมาพูดเหมือนทุกอย่างมันผิดที่เขาแม้แต่นิสัยแย่ๆของหลานที่เอาแต่ใจจนแก้ให้ตายก็แก้ไม่หายนี่มันเกินไป

     

    “แม่งแทนที่กลับมาอยู่บ้านจะสั่งสอนกันให้เด็กมันนิสัยดีขึ้น แม่งสปอยด์กันจนเสียเด็ก แต่ก่อนเลี้ยงคนเดียวไม่เห็นจะนิสัยแบบนี้วะ” กำปั้นหนักๆทุบตู้เสื้อผ้าดังโครม

    เดินหงุดหงิดงุ่นง่านเปิดตู้เสื้อผ้ากระชากเสื้อจากไม้แขวนจนไม่แขวนพลาสติกหักร่วงลงมา ไม่บ่อยนักที่จื่อเทาจะอารมณ์เสียจนทำลายข้าวของขนาดนี้

    “เดี๋ยวก็หนีออกจากบ้านซะเองเลยมะ กลัวลูกตัวเองมีปัญหา น้องชายพี่นี่แหละมีปัญหาที่สุดแล้วเว้ย!” พูดไปก็เหวี่ยงเสื้อฟาดตู้อีกรอบ

     

    “ฮึก....”

     

    ร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงยีนส์สีซีดสะดุ้งสุดตัวหันกลับมามองที่เตียงนอนที่อยู่ด้านหลังด้วยความตกใจเพราะเสียงสะอื้น เขาคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวมาตลอด

     

    “จื่อ.... ฮึก น้าอย่าไปนะ น้าอย่าหนีไปนะ ฮือออออออออ”

     

    ครั้งแรกที่จงอินยอมเรียกอีกฝ่ายว่าน้าโดยไม่ต้องให้ดุ ร่างเล็กนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าสงสารอยู่ที่มุมเตียงเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ทุกอย่างเหมือนภาพฉายซ้ำมาอีกครั้ง ร่างเล็กๆสวมเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินกอดตัวเองร้องไห้ในห้องจื่อเทามาตั้งแต่กลับเข้าบ้าน

    น้าชายตัวสูงเดินเข้าไปหา ถึงขอบเตียงไม่ต้องเรียก ร่างที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นก็โถมตัวเข้าใส่พลางกอดแน่นเหมือนกลัวอีกคนจะหายไป จื่อเทาไม่พูดอะไรออกมาสักคำเพียงแค่กระชับกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นโยกตัวไปมาเพื่อปลอบขวัญ มันแย่ที่เขาไม่ทันระวัง ไม่รู้ว่าจงอินอยู่ในห้อง เขาไม่เคยทำท่าเกรี้ยวกราดหรือสบถด่าหยาบคายให้หลานได้ยินสักครั้งไม่แปลกที่ตอนนี้หัวใจของหลานตัวเล็กจะเต้นโครมครามเพราะตกใจจนเขารู้สึกได้

     

    “เค้า..คะ ขอโทษ ฮึก นะ น้า ฮึก ยะ อย่าไป ฮึก ฮือออนะ”  ปากอิ่มพยายามจะพูดขอโทษอีกฝ่าย ทั้งน้ำตา แต่ก็กลั้นเสียงสะอื้นตัวเองไว้ไม่ได้ นีนี่ยังคงเป็นเด็กที่ร้องไห้เก่งเสมอเวลาที่เสียใจ

    “ขอโทษแล้วก็ทำใหม่อีกอยู่ดี”

    “มะ ไม่ ฮึก ฮืออออออ ไม่ทำแล้ว ฮึก”

     

    ร้องไห้เสียจนจมูกแดงไปหมด แก้มก็แดง ตาก็บวม ตอนนี้หลานชายของจื่อเทามีสภาพไม่ต่างจากเด็กเล็กๆที่ร้องไห้โยเย ร้องจนหยุดไม่ได้ ชายหนุ่มพลิกตัวเด็กที่ร้องไห้สลับกับคำขอโทษลงวางกับเตียง จมูกโด่งหอมแก้มนิ่มที่เปียกไปด้วยน้ำตา ริมฝีปากอุ่นกดจูบเรียวปากอวบอิ่มที่เอาแต่เอ่ยคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมา เรียวลิ้นร้อนสอดเข้าไปเกี่ยวหวัดดูดเลียลิ้นเล็กรุกไล่เข้าไปในโพรงปากที่มีรสชาติของมายมิ้นท์ที่อีกฝ่ายชอบกิน

    มือเล็กๆเลื่อนจากลำคอแกร่งลงมาจิกไหล่หนาเอาไว้ขณะเดียวกันกับที่มือของคนที่คร่อมอยู่กอบกุมและรูดรั้งส่วนหน้าผ่านเนื้อผ้าลื่นของกางเกงขาสั้น ปลายนิ้วเท้าเล็กเกร็งจนจิกผ้าปูเตียงยับยู่ยี่ เมื่อถูกปลุกเร้า ริมฝีปากอุ่นถอดถอนออกมาให้เด็กน้อยได้หายใจ ดวงตาแดงกล่ำตอนนี้มีเพียงคราบน้ำตาที่แห้งสนิท

     

    “อย่าเสียงดังนะ เข้าใจไหม?” จื่อเทากระซิบข้างหูพลางดึงกางเกงขาสั้นพร้อมชั้นในสีขาวออกจากสะโพกเล็ก หลานชายพยักหน้ารับน้อยๆ ขนตาเป็นแพกระพริบตาปริบๆมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะกระซิบคำพูดที่เรียกร้อยยิ้มคนที่อยู่ด้านบน

    “จะไม่ทิ้งเค้าไปแล้วใช่ไหม”

    “ไม่ทิ้งครับสัญญา”

     

     

     CUT

     

     

    เซ็กซ์ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนเพราะจื่อเทาทำตามในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่มีความกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการเล้าโลมหรือช่วงจังหวะที่สอดใส่ เล่นเอาหมดแรงจนร่างหนานอนหงายอยู่ข้างๆหอบหายใจแรงราวกับไปวิ่งมา เหลือบมองเด็กน้อยที่นอนตะแคงเหนื่อยหอบไม่ต่างกัน มืออุ่นลูบผมนิ่มที่ชื้นเหงื่อเบาๆ

     

    “เจ็บไหม?” กระซิบถามพลางจูบหน้าผากนิ่มเบาๆ

    “ไม่เจ็บ....แต่เมื่อกี้ เจ็บตรงนี้” มือเล็กจับมือของอีกฝ่ายไปทาบทับอยู่ที่ตำแหน่งของหัวใจที่เต้นแรง

    “เจ็บยังไงหรอ?” คนไม่เข้าใจถามด้วยความห่วงใยเพราะคิดว่าหลานมีอาการอะไรผิดปกติ

    “ไม่ใช่ เจ็บเหมือนกำลังจะตายเลย ตอนที่จื่อเทาบอกว่าจะไป...” เด็กน้อยเอ่ยพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา

     

    ลำแขนหนารวบร่างอีกฝ่ายมากอดไว้ ลูบหลังแผ่วเบาอย่างปลอบขวัญ

     

    “ไม่ไปแล้วครับ ขอโทษนะที่ทำให้กลัว น้าจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้วนะคนดี”

     

    หัวกลมๆที่แนบอยู่ที่อกพยักหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นจูบริมฝีปากรูปกระจับสวยของน้าชายอย่างรักใคร่....

     

     

    จบตอน

     

    ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับน้าหลานคู่นี้....สุดท้ายก็ง้อกันแบบนี้ทุกทีสิน่า....


    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×