คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Ep.6 นีนี่กับเพื่อนชาน #ชานไคDamCute
#ชานไคDamCute
ชั้นประถมสี่เทอมหนึ่ง
ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อจงอินอยู่ประถมสี่ ชานยอลย้ายเข้ามาเรียนและกลายเป็นเพื่อนสนิทของจงอินไม่ใช่เพราะนิสัยใจคอที่เข้ากันได้ แต่กลับเป็น”ประสบการณ์” เรื่องบางอย่างที่ทำให้รู้จักและสนิทกันมากขึ้นอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำถ้าหากใครได้รู้
ชานยอลมีภาพลักษณ์ที่เป็นคนตลกโปกฮาที่ชอบเล่นพิเรนทร์ปล่อยมุขเพี้ยนๆ ในขณะที่จงอินเป็นเด็กร่าเริงที่เอาแต่ยิ้มและหัวเราะแต่กลับพูดน้อยเมื่ออยู่ในกลุ่มคนหมู่มาก
เรื่องทุกอย่างมันเริ่มขึ้นในวันเข้าค่ายที่โรงเรียนวันแรก วันที่คุณครูให้ทุกคนจับคู่กันไปอาบน้ำแน่นอนว่าชานยอลจับคู่กับจงอิน แต่ไม่ใช่เพราะความสมัครใจแต่เป็นเพราะเลขที่ในชั้นของทั้งคู่ใกล้กัน เลขที่ 9 กับ เลขที่ 10
“รอยอะไรหรอ?” ดวงตากลมโตของชานยอลจ้องไปที่ร่องรอยที่ต้นขาด้านในของเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังอาบน้ำอยู่ข้างๆ
“ห่ะ? อ๋อ ตรงนี้หรอ เอ่อ เราก็ไม่รู้มันเรียกว่าอะไรแต่เรารู้ว่าทำยังไง” จงอินยิ้มหวานให้เพื่อนพร้อมกับคำพูดที่ดูเหมือนเป็นผู้รู้เสียเต็มที
“ทำยังไงอ่ะ” คำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
เพื่อนตัวเล็กค่อยๆคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วค่อยๆแนบริมฝีปากแดงอิ่มลงที่ต้นขาของชานยอล ดวงตากลมโตมองท่าทางของเพื่อนที่ชวนให้รู้สึกแปลกๆ ถึงเขาจะเด็กแต่ภาพแบบนี้ชานยอลเคยเห็นมันในอินเตอร์เน็ตตอนที่ไปเล่นเกมส์กับพี่ๆแถวบ้าน พวกพี่ๆเคยเปิดหนังผู้ใหญ่ให้ชานยอลดู และท่าทางของจงอินที่ทำกับเขาตอนนี้มันคล้ายกันมาก... แตกต่างแต่ริมฝีปากนิ่มนั้นอยู่ที่ต้นขาที่กำลังดูดดุนจนต้นขาขาวของชานยอลเป็นรอยแดงจางๆ
“ทำแบบนั้นเป็นไหม?” ชานยอลถามเมื่อจงอินเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย
“แบบไหนอ่ะ”
“ใช้ปากอม..อมเข้าไป”
------------------------------- CUT ---------------------------------
ชานยอลมองท่าทางที่อีกฝ่ายกระทำอย่างเคลิบเคลิ้มและหลงใหลท่าทางเอาใจของจงอินอย่างไม่อาจจะถอดสายตาได้ ทุกอย่างจบลงหลังจากนั้นไม่กี่นาทีพร้อมกับของเหลวรสชาดเฝื่อนที่พ่นเข้าไปเต็มปากเล็กๆ จงอินไม่ได้กลืนมันเข้าไปอย่างในหนังผู้ใหญ่ที่ชานยอลเคยดู ปากเล็กๆป้วนออกแล้วอมน้ำเปล่าเพื่อทำความสะอาดอีกรอบ ชานยอลทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง นั่นคือครั้งแรกที่ชานยอลรู้สึกว่าชอบจงอิน
เขาไม่แน่ใจว่าชอบสิ่งที่จงอินทำให้รึเปล่าเพราะเขาไม่เคยทำกับใคร แต่เขาชอบจงอิน ชอบที่จงอินทำให้แบบนั้น ไม่นานชานยอลก็เริ่มเสพติดจงอินมากขึ้นและมากขึ้น ทั้งการกระทำที่รู้กันเพียงสองคน และกลิ่นหอมๆของเพื่อนสนิทที่ไม่รู้ว่ามันคือกลิ่นอะไร แต่มันก็ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันมาตลอด.
.............................
.
ม.ต้นปีหนึ่งเทอมสอง
“มึงอย่าเอาแต่มองได้ไหม ทำการบ้านไปสิ” จงอินทำเสียงดุใส่คนที่เอาแต่เท้าคางมองผ่านจอคอมพ์สี่เหลี่ยม พวกเขาสไกป์คอลกันทุกวันเวลาที่ทำการบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นจงอินที่คอยสอนการบ้านชานยอล และชานยอลก็จะตอบแทนการช่วยทำการบ้านเป็นการเล่นกีต้าร์ร้องเพลงให้ฟัง ช่วงนี้ชานยอลเล่นกีต้าร์เก่งขึ้นเยอะ หลังจากที่ไปเรียนมาช่วงปิดเทอมทุกๆซัมเมอร์
“อย่าทำหน้าบึ้งได้ไหมที่รัก มึงยิ้มหวานแล้วเดี๋ยวร้องเพลงให้ฟัง” สรรพนามที่เรียกอีกฝ่าย ชานยอลจะเรียกมันเวลาอยู่กันสองคนเท่านั้นสลับกับสรรพนานมกูๆมึงๆตามประสาเพื่อนและจงอินก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ถึงแม้จะไม่แน่ใจในความหมายของมันว่า “ที่รัก” สำหรับชานยอลมันคือคนที่ชานยอลรัก หรือ เป็นแค่สรรพนามประชดประชันกันแน่
“ไม่เอาอ่ะ เบื่อชะมัดเลยแอร์ก็มาเสียอะไรตอนนี้ไม่รู้แป๊บนะเปลี่ยนเสื้อก่อน” จงอินบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะเดินจากหน้าคอมพ์แล้วถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก เขาคิดว่ามันห่างจากกล้องเล็กๆที่ติดอยู่ที่จอโน้ตบุ๊คไปแล้ว แต่ภาพทั้งหมดของร่างสมส่วนที่กำลังถอดเสื้อยืดกางเกงขายาวออกแล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นเสื้อกล้าม คนที่อยู่อีกฝั่งของจอภาพกลั้นหายใจแล้วมองภาพตรงหน้าด้วยใจเต้นระส่ำ ทุกส่วนสัดของเพื่อนสนิทชัดเจนเต็มสองตา
------------------------------- CUT ---------------------------------
“ชาน? มึงไปไหนแล้วอ่ะ?” จงอินเรียกหาและมองเข้าไปในจอ เพราะจู่ๆเมื่อกลับมาภาพในจอก็มืดไป ไม่นานคนที่เรีกหาก็โผล่หน้ามา ใบหน้าของชานยอลแดงกล่ำ เหงื่อซึมตามไรผม
“มาแล้ว”
“มึงไปทำไรมาอ่ะดูเหนื่อยๆ”
“มึงจะเอาคำตอบจริงๆหรือเอาคำตอบเล่นๆ”
“เอาทั้งสองอย่างอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“คำตอบเล่นๆคือกูไปชักว่าวมา”
“กร๊ากกก แล้วคำตอบจริงๆอ่ะ?”
“กูชักว่าวไปก็นึกถึงมึงไป เมื่อกี้มึงแก้ผ้ากูก็แอบมองแล้วก็จินตนาการว่ากำลังทำแบบนั้นกับมึงอยู่”
จงอินเงียบกริบพูดอะไรไม่ออกตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนพูดเล่น แต่พอเห็นชานยอลไม่มองกล้องตอนที่พูดกับเขา แถมมือข้างนึงก็ดึงทิชชู่ออกมานั่งเช็ดมือที่เปรอะเปื้อนคราบขาวประกอบการอธิบายตามไปด้วย
“มึง”
“ห่ะ?” จงอินหลุดออกมาจากห้วงความคิดที่ไม่เข้าใจด้วยเสียงเรียกจากอีกฝ่าย
“ช่วยตัวเองให้กูดูหน่อยดิ”
“เห้ยบ้าดิไม่เอาอ่ะ”
“เพื่อนกันอ่ะมึงทำไรแบ่งกันดูแค่นี้มึงเสียหายไรวะครับที่รัก”
“...ก็จริงแต่ว่า”
“มึงไม่ค่อยเข้าวัด ที่ทำให้กูดูก็ถือว่าทำบุญเถอะ”
จงอินมองดวงตาระยิบระยับเป็นประกายที่เต็มไปด้วยความหวังของเพื่อนสนิทตาโตผ่านหน้าจอ ใจนึงก็เขินเพราะนอกจากจื่อเทาแล้วจงอินไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นให้ใครดูเลย แต่พอฟังเหตุผลของชานยอลแล้วมันก็จริง ชานยอลไม่ได้ทำอะไรเขาเสียหน่อย ไม่ได้แตะต้องตัว จื่อเทาคงไม่ว่าอะไร ก็แค่ขอดูเฉยๆ อีกอย่างชานยอลก็เป็นเพื่อนสนิทเรื่องแค่นี้คงไม่เป็นไร...
“อือก็ได้”
.............................
ม.ต้นปีสองเทอมหนึ่ง
ชานยอลเดินเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใต้สนามฟุตบอลที่มาเล่นกันหลังเลิกเรียน เมื่อเข้ามาถึงก็เห็นเพื่อนสนิทตัวบางกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่ขอบกระเบื้องที่เชื่อมกับอ่างล้างหน้า เด็กหนุ่มมองอย่างไม่สบอารมณ์ ทุกครั้งที่ริมฝีปากอิ่มพูดชื่อของคนอื่นอย่างออดอ้อน
“จื่อเทาอ่ะ ก็บอกแล้ว่าเค้าใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ช่ายแอดไม่เป็นอ่า ก็ไม่สอนหง่า รู้แล้วๆ ก็เดี๋ยวรีบกลับไป.... อื้อ... ชะ ...ชา... ช่ายๆ อ๊ะ รู้...จะ จื่อ อึก เทา คะแค่นี้ก่อนนะ จ๊ะ...แล้ว จะ เจอกัน”
------------------------------- CUT ---------------------------------
“แฮ่ก แฮ่ก อื้มมมม ชะ...ชาน พอก่อน”
มือเล็กดันไหล่ของคนที่อยู่ต่ำกว่าออก เรียวขาเนียนที่ยกขึ้นลอยจากพื้นชื้นเหงื่อไปหมด ใบหน้าแดงเรื่องจากอารมณ์วาบหวิวที่เพื่อนชายคนสนิทกำลังปลุกเร้า ใบหน้าของเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกให้หยุดเงยขึ้นมาสบตาดวงตาปรือปรอยออดอ้อนที่ประดับไปด้วยขนตายาวเป็นแพ
“ไม่ต่อให้เสร็จหรอ?”
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวจื่อเทามารับแล้ว” ใบหน้าน่ารักส่ายหน้าปฏิเสธ ชานยอลยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับค่อยๆดึงกางเกงบอลสีแดงพร้อมกับชั้นในสีขาวสวมกลับขึ้นมารู้ร่างสมส่วนที่นั่งอยู่กับขอบอ่างล้างหน้ายกสะโพกขึ้น เพื่อให้ชานยอลสวมกางเกงเข้ามาให้ ร่างเล็กพยายามกระถดตัวลงจากขอบอ่างล้างหน้าที่ปีนขึ้นมานั่ง แขนยาวสอดใต้รักแร้แล้วโอบร่างของจงอินอุ้มลอยลงมายืนที่พื้น เพื่อนตัวเล็กหัวเราะแหะๆอย่างเขินอาย ชานยอลลูบผมนิ่มอย่างอดไม่ได้ จงอินไม่ควรเกิดเป็นผู้ชายเลยความรู้สึกของเขา ถึงแม้จะไม่ใช่คนที่ผิวขาวจัดเช่นคนเกาหลีทั่วไปแต่ผิวสีน้ำผึ้งของอีกฝ่ายกลับดึงดูดสายตาใครต่อใครมากมายให้หลงใหล หนึ่งในนั้นก็คือพัคชานยอล
ขณะที่เดินตามจงอินมาที่ล็อคเกอร์มองอีกฝ่ายก้มๆเงยๆเก็บของใส่กระเป๋า ชานยอลเหลือบไปเห็นรอยจางๆที่แอ่นอกนวลเนียน ฟันขาวขบริมฝีปากล่างอย่างเดือดดาล เขาไม่ชอบรอยนั่น เขาเห็นมันมานับครั้งไม่ถ้วนยามที่อยู่ใกล้กัน หรือแม้แต่ตอนที่อาบน้ำรวมกัน จงอินมีร่องรอยแบบนี้ใต้ร่มผ้าไม่น้อย ยิ่งต้นขาอ่อนด้านในมันเป็นรอยที่โดนทำย้ำซ้ำไปซ้ำมาไม่เคยจางหาย และชานยอลพอจะรู้ว่ามันเกิดจากฝีมือใคร แต่เขาไม่อยากพูด เพราะจงอินเองก็เลี่ยงที่จะพูดมันออกมา จงอินอยู่กับน้ามาตั้งแต่เด็กเพิ่งจะมีเมื่อปีสองปีมานี้ที่พ่อกับแม่ย้ายมาอยู่ด้วย
ชานยอลรู้ดีว่ามันไม่ใช่ร่องรอยที่เกิดจากการถูกทำร้าย เขาโตพอที่จะดูออกว่ามันเป็นรอยคิสมาร์กและคงหาเจ้าของรอยนี้ไม่ยากเพราะจงอินไม่เคยไปไหนกับใครไม่ใช่เด็กเกเร จะมีใครทำถ้าไม่ใช่คนที่บ้าน
“เสร็จแล้วหละ ชานจะกลับเลยป่าว?”
“ยัง เดี๋ยวเดินไปส่งหน้าโรงเรียน”
“เป็นไรทำไมเสียงเข้มเชียว โดนโค้ชดุมาหรอ?”
“เปล่าไม่มีไร หิวน้ำไหมเดี๋ยวแวะตู้กดน้ำกัน”
“อื้อๆไปกัน ชานกูมีสไกป์ในมือถือด้วยหละ จื่อเทาบอกมันโทรฟรีได้หละ นี่ไม่ต้องโทรศัพท์ให้เสียเงินแล้วนะ” จงอินพูดพร้อมเดินตามอีกคนที่ฉวยกระเป๋าเป้หมีบราวน์ของจงอินไปสะพายแทน
“รู้แล้วน่าโลกเค้าไปถึงไหนกันแล้วมีแต่มึงนั่นแหละใช้โทรศัพท์ฝาพับจนม.ต้น”
“ฮ่าๆ เราใช้ไม่ค่อยเป็นนี่นา” จงอินยิ้มตาหยีแล้วเดินเคียงข้างอีกฝ่ายไปถึงตู้ขายน้ำอัดลมใกล้ๆทางออก
“มีอะไรไม่อัดลมไหม อุ๊ยๆ เอานี่อ่ะชาน กูจะกินไมโลกระป๋อง”
ชานยอลมองเพื่อนตัวเล้กว่าแล้วส่ายหัวพึมพำว่า “แม่งเด็กน้อยชิบหาย” แล้วก็กดไมโลกระป๋องให้และตามด้วยเนสทีของตัวเอง เปิดกระป๋องได้ยังไม่ทันจะดื่มมือเล็กก็ฉวยกระป๋องชาไป
“ตอนอยู่ในตู้อ่ะกระป๋อมมันสกปกรกนะรู้ไหม เราต้องเช็ดก่อน” พูดไปก็จับชายเสื้อของตัวเองเช็ดขอบกระป่องน้ำอัดลมให้ ชานยอลได้แต่ยืนดูเงียบๆ ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของจงอินเป็นสเน่ห์อย่างนึงที่ทำให้ชานยอลไม่สามารถมองใครได้อีก หรืออาจจะเพราะชานยอลชอบทุกอย่างที่เป็นคิมจงอิน
“จื่อทาวววววววววววววววว”
เสียงเรียกบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ดังขึ้นพร้อมกับคนที่เคยยืนอยู่ข้างกันวิ่งไปหารถฮาเลย์สีเขียว ชานยอลมองตามเพื่อนสนิทไป จงอินวิ่งไปตัวเปล่าเพราะกระเป๋าอยู่ที่ชานยอล กว่าจะรู้ตัวชานยอลต้องเป็นฝ่ายเดินตามถือไปส่งให้มือเล็กกำลังจะคว้ากระเป๋าเป้ตัวเองพร้อมกับคำขอบคุณแต่มือของ “ผู้ปกครอง”ที่มารับก็ฉวยกระเป๋ามาจากมือชานยอลซะก่อน
“ขอบใจ” เสียงทุ้มบอกพลางสบตาเพื่อนสนิทหลานชาย ชานยอลก้มหัวให้90องศาตามมารยาทของคนอายุน้อยกว่า แล้วเงยขึ้นมาโบกมือให้จงอิน
“ไปก่อนน้า เดี๋ยวถึงบ้านแล้วไลน์ไปนะ”
“ห่างกันไม่ถึงชม.จะตายมะ มีโทรศัพท์ไว้คุยกับเพื่อนรึไง”
“จื่อเทาอย่ายุ่งน่า ชานยอล กูไปก่อนน้าไว้คุยกาน”
ชานยอลยิ้มให้อีกฝ่ายจนกระทั่งมอเตอร์ไซต์คันใหญ่เลี้ยวออกไปจากสายตา มุมปากที่เคยส่งยิ้มให้เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เด็กชายขบกรามแน่นด้วยแรงอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจ เขาไม่ชอบจื่อเทาและไม่เคยคิดว่าจะสามารถทำใจให้ชอบได้แม้จะเป็นน้าของเพื่อนสนิท เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นทั้งที่เขาเองเคยเจอเซฮุนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่อีกฝ่ายมาส่งจงอิน แต่เขาไม่เคยเกิดความรู้สึกไม่ชอบหน้าอีกฝ่ายเลย
หนำซ้ำยังรู้สึกพอใจกว่าถ้าจะเห็นเซฮุนจะเป็นฝ่ายมารับเหมือนแต่ก่อน แต่ตอนนี้จื่อเทามารับจงอินเหมือนสมัยประถมแล้ว เขาไม่รู้ว่าทำไมเซฮุนถึงเลิกมารับมาส่งจงอินแล้ว เพราะถามจงอินก็ไม่บอกอะไร แค่บอกว่าจื่อเทาจะมารับเหมือนเดิม
ชานยอลไม่รู้ว่ามันคืออะไรที่เขาไม่ชอบหน้าจื่อเทา ไม่ชอบให้จงอินพูดถึงจื่อเทา พูดง่ายๆคือไม่ต้องการให้อีกฝ่ายพูดถึงจื่อเทาเลยแต่กลับต้องได้ยินชื่อนี้ทุกวัน เขาหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ชอบ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่พี่สาวเขาเคยบอกก็ได้ว่ามันคือ อาการหึงหวง
จบตอน
ความคิดเห็น