คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Ep.1 นีนี่โดดเรียน #เทาไคShota
กว่า 25 ปีที่ผมดำเนินชีวิตมาโดยผ่านชายหญิงมากหน้าหลายตา เสปคเลอค่าจนกระทั่งถึงพวกหน้าไม่ให้แต่ลีลาเร่าร้อน ผมนับเป็นเสือในหมู่มวลชายผู้รักในกิจกรรมบนเตียงเป็นที่สุดที่ผ่านมาทั้งการเป็นวันไนท์แสตนด์หรือกิ๊กรักยามผัวเผลอของใครหลายคน
ใครจะรู้ว่าวันนึงผมจะพ่ายแพ้ให้กันเด็กตัวเล็กๆที่สูงแต่เอว....
“จื่อเทา! ตื่นเร็ว นีนี่จะไปเรียนบัลเล่ต์สายแล้วนะ!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงตวาดจนร่างสูงสะดุ้งพรวดขึ้นมานั่งบนเตียงคิงไซส์ หัวเหอฟูฟ่องเหมือนโดนระเบิด เหลือบมองเด็กตัวเล็กในเสื้อแขนกุดสีขาวกางเกงขาสั้นแค่เข่าสีน้ำเงินพร้อมถุงผ้าสายรูดแบบสะพายหลัง ยืนจ้องเขาอย่างกินเลือดกินเนื้อ
“เรียกน้าก่อน”
“ใช่เวลาไหมหละ!”
“นีนี่...เรียกน้า”
“โถ่เว้ยก็ได้ น้าเทาๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้หน้าเทาเร็วๆเข้า! เดี๋ยวโทรไปฟ้องแม่เลย!”
คุณเคยมีความรู้สึกอยากจับลูกของพี่สาวรวบขาแล้วเหวี่ยงติดข้างฝาไหมครับ?
เด็กนี่แม่งลามปามผมตั้งแต่พูดได้ ไม่เคยสักครั้งจะเรียกผมว่าน้าเพราะพี่สาวบังเกิดเกล้าดันข่มผมต่อหน้าหลานตั้งแต่มันเกิด ใช่ซี๊ ผมมันก็แค่น้องชายหน้าตาหล่อคนนึง
“ไอ้น้าจะลุกยัง?”
ดูมัน....พอให้เรียกน้าแม่งก็มีคำว่าไอ้นำหน้าอีก
“ใจเย็นโรงเรียนมันไม่หนีไปไหนหรอกนะ”
“ก็คิดแบบนี้ไงถึงเรียนไม่จบสักที เค้าไปรอที่รถนะ” สะบัดตูดจากไปทิ้งไว้เพียงคำจิกด่าน้าในไส้(?)
เวรกรรมอะไรที่แม่งต้องมาเลี้ยงหลานอยู่คนเดียวหนะหรอครับ..........
พี่สาวผมหย่าไง มีลูกกับผัวเกาหลีได้จนไอ้เด็กปากร้ายอายุได้3ขวบแล้วก็หอบลูกไปจีน ผมก็ช่วยพี่เลี้ยงหลานมาจนมันโตพอจนเรียกผมว่า “จื้อเจาๆ” เสียงอาโนเนะแบบเด็กฟันเพิ่งขึ้น แล้วพี่สาวผมก็โดนดีเข้าเพราะพี่เขยผมไม่ยอมฟ้องร้องจะเอาลูกกลับมาเกาหลี สนธิสัญญาระหว่างประเทศก็เกิดขึ้นเพราะทั้งคู่แม่งก็ไม่ต้องการให้ลูกไปอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง สรุปภาระเลยมาตกที่ผม
พี่สาวพี่เขยทิ้งเรือนหอที่เกาหลีไว้เป็นบ้านเพื่อให้ผมเลี้ยงหลาน ส่วนเขาสองคนก็ต่างฝ่ายต่างทำมาหากิน ผมก็มีหน้าที่รับเงินเดือนค่าเลี้ยงหลานไป หลานบังเกิดเกล้าที่พร้อมจะตบกบาลผมได้ทุกเมื่อเวลาขัดใจ ถอนหงอกจนหัวกูจะล้านแล้ว...
อ้อ ลืมบอกไป เด็กลูกกรอกตัวเท่าเอวของผมชื่อ “คิมจงอิน” ปีนี้ก็ 10ขวบพอดี ส่วนชื่อนีนี่ได้มาจากแม่มันเรียกลูก จงอินนี่ อินนี่ ไปๆมาๆเป็นนีนี่ตัวมันเองก็เรียกตัวเองว่านีนี่ ใครไม่รู้คิดว่าผมมีหลานสาว แต่ไม่...มันคือสิ่งมีชีวิตมีจู๋เหมือนกันผม
ผมเดินล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ไปที่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์ลูกรักสีเขียวอี๋ ก่อนจะอุ้มไอ้เด็กหน้ามึนขึ้นมานั่งด้านหน้าตักตัวเอง มือเล็กจัดการเกาะที่ถังน้ำมันเอนหลังมาพังอกผมสบายใจฉิบขาเล็กๆแกว่งไปมา
“จื่อเทาแวะ7-11หน่อยสินีนี่อยากกินสเลอปี้”
“โวยวายว่าจะไปเข้าคลาสสายแต่จะแวะ7-11หวะ คนอาไร๊”
“นี่เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชม.”
“แล้วทำไม่ให้น้านอน”
“คุณไม่ได้รับสิทธินั้น...”
หมั่นเขี้ยวไอ้เด็กแก้มยุ้ยจับฟัดแก้มไป2ทีถ้วน หอมซ้ายหอมขวาจบแก้มโย้ เป็นอันเสร็จภารกิจการเต๊าะหลานในเช้าวันนี้ มันก็ไม่ว่าอะไรนะ ผมถือคติไม่พูดแปลว่าชอบ ขับมาถึง 7-11 ขาเล็กๆพยายามตะกายลงจากมอไซค์เองหัวเกือบทิ่มลงพื้นซีเมนต์
“ใจเย็นไอ้เสือ” ผมว่าพลางอุ้มมันลง
“ตังค์...”
“เงินค่าขนมอาทิตย์นี้ให้ไปแล้วถึงวันอาทิตย์เว้ย นี่วันเสาร์”
“ใจคอน้าจะให้เค้าจ่ายทุกอย่างเองหรอ ถึงว่าหละแม่บอกว่าเลี้ยงน้านี่มันเสียข้าวสุกจริงๆ”
อืม ไอสัด..........
ผมจำใจควักแบงค์ 1000 วอนให้มัน 3 ใบ ยื่นให้มันเสร็จได้รับการตอบแทนเป็นรอยยิ้มจนแก้มบุ๋มก่อนจะวิ่งโด๊ะๆๆๆ เข้าไปใน 7-11 ผมกลัวมอไซค์หายเลยนั่งรอ ไอ้ตัวเล็กหายเข้าไปสักพัก ผมเริ่มเป็นห่วง ชะเง้อคอมองไม่เห็น พอเห็นคนเปิดประตูร้านสะดวกซื้ออกมาผมก็เห็นไอ้หลานยืนงอแงอยู่ตรงเค้าเตอร์จ่ายเงิน
“เห้ยน้องพี่ฝากมอไซค์แปบนะ” ว่าพลางยื่นเงินให้ไอ้เด็กที่ขายคิมบับเจ้าประจำ หน้า7-11 ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในร้าน
“อะไรอ่ะ ก็ซื้อแก้วเดียวทำไมต้องจ่ายราคาสามแก้ว!” นั่นเสียงหลานผม
“น้องครับกดกินฟรีๆไปสามรอบแล้วนะ พี่ก็ต้องคิดราคา3แก้วสิ” นั่นพนักงาน7-11
“นีนี่...” ผมเรียกหลานเบาๆก่อนจะวางเงินให้พนักงานก่อนจะกล่าวขอโทษ ไอ้เด็กนี่ก็ดิ้นปัดๆๆๆ ไม่พอใจที่ผมจ่ายเงินแล้วอุ้มมันออกมาจากร้าน
“ทำไมต้องจ่ายอ่ะ เค้าซื้อแค่แก้วเดียว ไอ้พี่นั่นมันขี้โกงเรานะ”
“ใครกันแน่ขี้โกง กดดื่มของเค้าไปตั้งสามรอบ”
“อะไรหละ ไหนป้ายห้าม ไม่มีซักหน่อย!”
“คิมจงอิน! อย่าให้น้าฟ้องแม่ใช่ไหมว่าเป็นเด็กขี้โกง กินของคนอื่นฟรีๆแบบนี้ไม่มีใครรักหรอกนะ!”
ผมหันไปดุหลานโชว์สาวแถวป้ายรถเมล์ หึ ต้องให้กำหลาบไม้แข็งดื้อนักหลานใคร
ปากเล็กๆสั่นระริกก่อนจะแผดเสียงออกมา ผมนี่มองบนเลย มารยาเด็กประถมชัดๆ
“ฮึก...ฮืออออออออออออออออออออออ”
“อุ๊ยร้องไห้เลย น่าสงสารจังเลยอ่ะ คนอะไรใจร้ายจัง” สาวๆที่ป้ายรถเมล์ซุบซิบกันนินทาผมที่ดุหลานจนร้องไห้ ผมทำหน้าเมื่อยก่อนจะอุ้มมันขึ้นรถทั้งที่แหกปากร้องแต่มือนี่กอดแก้วสเลอปี้แน่นเชียวนะ
มันยังคงมั่นคงที่จะแหกปากร้องไห้สลับกับดูดสเลอปี้ดังครอกกกกกก พอมอไซค์กำลังขี่ๆไปมันก็เอามือมาตีแขนผม ตอนที่ชะลอจอดไฟแดง
“ไม่อยากไปเรียนแล้วเค้าอารมณ์ไม่ดี”
“เกเร จะฟ้องแม่”
“เอะอะก็ฟ้องแม่ โตปะเนี้ยจื่อเทา”
แล้วมึงนี่โตมากเลยสิ หำเท่าหัวแม่ตีนกูเนี้ย......
“ไม่เรียนแล้วจะไปไหน”
“กินติม”
“ชวนเดทหรอ?”
“อื้อ เดทกัน”
แม่งเข้าใจคำว่าเดทป่ะเนี้ย? ผมไม่ว่าอะไรเลี้ยวรถกลับไปที่ห้างพาไอ้ตัวเล็กไปกินไอติม แค่เรียนพิเศษบัลเล่ต์โดดมั่งก็ไม่มีปัญหาอะไรนอกจากให้แม่มันเสียตังค์เล่นเท่านั้น พอจอรถได้ ผมก็อุ้มไอ้หลานเข้าเอวก่อนจะเอากระเป๋าเป้เล็กๆของมันเก็บใต้เบาะ นี่ก็กอดเป็นลิงเลย ผมเดินเหมือนทหารโดนกับระเบิดเสียขาข้างนึงเพื่อดันลูกลิงที่เกาะแน่นไม่ยอมปล่อยไม่ให้ตก เวลางอแงนี่แม่งอ้อนระดับทำลายล้างมาก
“ช็อคมิ้นต์สามลูก!”
“ไม่เอาลูกเดียวพอ กินไม่หมดหรอกเดี๋ยวก็เหลือ”
“จื่อเทาช่วยเค้ากินสิ”
“ไม่เอาน้าดื่มกาแฟอย่างเดียว”
“กินเถอะน่า พี่สาวฮะเอาช็อคมิ้นต์สามลูก”
ดูแม่ง....สั่งเสร็จสรรพ พอไอติมมาก็ยิ้มหวานเชียว ผมยื่นมือไปดึงแก้มนุ่มนิ่ม1ที ไอ้เด็กแก้มตุ่ยก็เอาช้อนเข้าปากตัวเองคำนึง ปากผมคำนึง แลกน้ำลายกันเป็นทายาทอสูรเลย
“ปากเลอะหมดแล้ว” ผมที่กำลังนั่งอ่านข่าวในสมาร์ทโฟนกำลังจะหยิบทิชชู่มาเช็ดปากตัวเองเพราะเสียงหลานบอกว่าปากเลอะ
แต่มือมันก็ชะงักค้างอยู่กลางอากาศเพราะใบหน้าเล็กๆยื่นเข้ามาใกล้ก่อนจะเลียมุมปากผมพร้อมดูดดึงริมฝีปากล่างอีก1ทีเสียงดังจ๊วบ ผมเลยจูบตอบไปอีก1จ๊วบอย่างเคยชิน
ครับเราเคยชินทำแบบนี้กันที่บ้านเท่านั้น.........
แต่นี่แม่งกลางห้าง สายตานับร้อยหันมามองผมกับหลานที่เพิ่งผละออกจากกัน ชิบหายสิครับ....
ได้ยินเสียงโซ่ตรวนมาแต่ไกล..........ขากูก้าวเข้าคุกแล้ว1ขา ข้อหาพรากผู้เยาว์
รีบจ่ายตังแล้วเผ่นพร้อมหิ้วไอ้ตัวเล็กออกจากร้าน ชีวิตแม่งงงงงงง ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมเล่นกะหลานแบบนี้มานานแล้วอ่ะ!
หอบหิ้วกันกลับมาบ้านอย่างไว หนึ่งก็เพราะกลัวโดนรุมประชาทัณฑ์ สองก็คือ...ไอ้หลานมันยั่วยุกิเลสขั้นสุด ผมบอกมันแล้วอย่าทำแบบนี้นอกบ้าน ไม่ใช่ว่าอาย แต่เวลาของขึ้นแล้วมันลงยาก ผมจูงมือเล็กๆให้เดินตามเข้ามาในบ้านอย่างด่วนจงอินไม่พูดอะไร เดินกอดถุงขนมที่เราแวะซื้อหน้าปากซอยมาแล้วเคี้ยวขนมเยลลี่หยับๆอย่างมีความสุข
“น้าบอกแล้วอย่าทำนอกบ้านไง” ผมหันมาโวยวายใส่ไอ้เด็กที่กระดึ๊บตัวไปนั่งบนโซฟาห้อยขาต่องแต่ง
“ไม่เห็นต้องโกรธ อยู่บ้านก็ทำ”
“แต่ข้างนอกเราตกลงกันแล้วว่าไม่ได้ทำไง”
จงอินมองหน้าผมนิ่งริมฝีปากเล็กงับเยลลี่สีม่วงก่อนจะดึงขาดออกจากกันแล้วยัดส่วนที่เหลือใส่ปากผม
“กินซะจะได้อารมณ์ดี”
“ไม่ดีด้วยอ่ะ” ผมตอบงอนๆ อะไรที่เคยสอนกันนี่ไม่เคยจะฟังเลยจริงๆ ผมหันหนีเมินไอ้ตัวเล็ก สัมผัสนุ่มนิ่มที่แก้มพร้อมเสียงจุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จากแก้มละเลงไปทั่วหน้า...วิธีง้อเดิมๆของเด็กชายคิมจงอิน
“เหม็นน้ำลายหมดแล้ว” ผมบึนปากใส่หลานที่ยืนยิ้มให้จนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้มสองข้างแก้ม
จงอินวางถุงขนมลงข้างๆแล้วโถมตัวกอดผมเป็นลำดับต่อมา รู้มากนักเชียว หัวกลมๆซุกอยู่ซอกคอผมเอาหัวไถไปมา เสียงเล็กๆกระซิบแผ่ว
“จื่อเทาอย่างอนซี่ เลี้ยงเสียข้าวสุกนะแบบนี้”
เมื่อไหร่มันจะเลิกเอาคำที่แม่มันสอนมาพูดซักทีวะเนี้ย เสียอารมณ์โม้ดดดดดดดดดดดดดด
“ไม่พูดด้วยหรอ ปากเป็นไรไหนดูสิ” ไอ้เด็กรู้มากพูดต่อแล้วจะใช้สองมือจับแก้มผมแล้วค่อยๆอ้าปากเล็กงับริมฝีปากผม ลิ้นเล็กๆแลบเลียเหมือนลูกแมว ขี้อ้อน มันคือสิ่งที่ผมสอนมาทั้งนั้น เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนที่จงอินอายุ 8 ขวบ
--------------------CUTสิครับลงในนี้ก็โดนแบนสิ---------------------
“แค่ก แค่ก”
ผมเผลอปล่อยลูกที่ไม่ได้เกิดเป็นล้านตัวเข้าไปในปากหลานชายที่กำลังสำลักคราบน้ำสีน้ำนมที่เลอะปากเล็กไหม แถมไหลอาบคอขาวจนเสื้อยืดที่เจ้าตัวใส่แฉะแหมะ ผมสวมกางเกงก่อนจะอุ้มไอ้ตัวเล็กพาดบ่าไปห้องน้ำก่อนที่มันจะเปิดปากด่าอะไรออกมา พามายืนบนเก้าอี้เตี้ยประจำตัวหน้าอ่างล้างหน้าแล้วยื่นแก้วน้ำให้นีนี่บ้วนปาก จับล้างหน้าถอดเสื้อแล้วลงอ่างน้ำอุ่นที่เปิดไว้ หลานตัวเล็กดูสนุกมากกับการเล่นน้ำฟองสบู่ เขาไม่พูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเลยไม่ถาม ไม่พูดอะไร มันคือความเคยชิน ที่ผมค่อยๆสอนให้เขารู้จัก
“จื่อเทากอดหน่อย” ไอ้ตัวนุ่มนิ่มตะกายขึ้นมาบนเตียงหลังจากแปรงฟันเสร็จ โถมตัวใส่ผมที่นอนหงายอ่านหนังสืออยู่
“กอดหน่อย” หัวกลมซุกมาที่อกผมแล้วเอามือเล็กตะกุยแผ่นอกผมเบาๆ ผมถอนใจก่อนจะวางหนังสือลงแล้วโอบกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน
“จื่อเทา”
“อะไร”
“เมื่อไหร่เราจะทำแบบนั้นได้หรอ?”
“แบบไหน?”
“เมื่อวานเค้าเห็นพี่ลู่หานกับพี่มินซ็อกอยู่ตรงระเบียง พี่เค้าไม่ใส่เสื้อผ้าแล้วก็ทำอะไรแปลกๆด้วย พี่ลู่หานกอดพี่มินซ็อกจากข้างหลังแล้วก็ชนก้นพี่มินซ็อกใหญ่เลย”
ผมนี่.....อยากเผาบ้านไอ้เจ๊กข้างบ้านจริงๆเลยครับ แม่งเหี้ย ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่แครืสายตาประชาชนเล้ย
“เอาไว้โตก่อน”
“ต้องอายุเท่าไหร่อ่ะ?”
“เอาไว้สูงถึงอกน้าก่อน”
“หง่อว งั้นต้องกินนมเยอะๆแล้วหละ”
พูดจบเสียงหายใจเป็นจังหวะคงที่ตามมา ไอ้ตูดหมึกหลับไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความคิดฟุ้งซ่านของผม
มีอะไรที่ให้เด็ก 10 ขวบกินแล้วโตอายุ 14 ได้ภายในวันพรุ่งนี้ไหมครับ?
จบตอน
สครีมในทวิต #เทาไคShota
ความคิดเห็น