[EXO-FIC] THE GENIUS PROJECT #CHANSOO - นิยาย [EXO-FIC] THE GENIUS PROJECT #CHANSOO : Dek-D.com - Writer
×

    [EXO-FIC] THE GENIUS PROJECT #CHANSOO

    โดย LilyHZT

    THE GENIUS PROJECT 365 วัน กับการใช้ชีวิตร่วมกัน ระหว่างพัคชานยอล เด็กสมองทึบ IQ 90 และ เด็กอัจฉริยะ โดคยองซู IQ 230 เพื่อหาข้อสรุปว่าเด็กโคตรโง่กับเด็กโคตรฉลาดจะสามารถอยู่ร่วมกันได้หรือไม่?

    ผู้เข้าชมรวม

    16,697

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    16.69K

    ความคิดเห็น


    1.64K

    คนติดตาม


    973
    หมวด :  หักมุม
    จำนวนตอน :  22 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 ก.ย. 59 / 20:33 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    PROJECT START




    “น่ารักจังเลยยยยย ชื่ออะไรค๊าบบบบคนเก่ง” มือใหญ่เท่าใบพายบรรจงบีบแก้มของเด็กที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องประชุมอย่างเอ็นดู ดวงตากลมโค้งเป็นขีดตามรอยยิ้มที่ส่งให้เด็กน้อย(ที่เจ้าตัวคิดไปเองว่าเด็กกว่า)

     

    “เอามือสกปกรกของคุณออกไปเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยขึ้นขณะที่มือเล็กๆที่มีนิ้วยาวประหนึ่งแง่งขิงสั้นๆควานลงไปในกระเป๋าเป้สีชมพูของตัวเอง

    ทิชชู่เปียกในซองโดราเอม่อนสีฟ้าถูกขึ้นมาต่อหน้าต่อตาอีกฝ่ายแล้วบรรจงปาดเช็ดที่ตำแหน่งเดียวกับที่มือใบพายบีบแก้มตัวเอง

    “เอ่อ....” ร่างสูงชัดมืออกแทบไม่ทัน รู้สึกวางตัวไม่ถูกแต่ก็ยังยิ้มต่อไป

    “นี่ เอาไป” มือเล็กๆยัดหลอดเจลล้างมือกลิ่นฟรุตตี้สีเขียวอี๋ใส่มือใหญ่ยักษ์ ก่อนจะกระโดดจากเก้าอี้ที่มีความสูงปกติ แต่เพราะขาสั้นๆของเด็กตัวเล็กมันทำให้เก้าอี้ดูสูงจนหยั่งขาลงไม่ถึง

    “ใจร้ายจุง หน้าตาก็น่าร๊อกเอาะ”

    เด็กที่กำลังจะเดินหนีหันมาตามเสียงดัดจริตตามประสาความคิดของผู้ใหญ่โง่ๆที่คิดว่าเวลาคุยกับเด็กต้องดัดเสียงโง่ๆคุยกับเด็กอย่างพวกเขา

    “คุณไม่ควรทำท่าทางสนิทสนมกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก จากลักษณะทางกายภาพของคุณ อายุสักสามสิบได้สินะ?”

    สายตาที่มองไล่ตั้งแต่ขาโก่งๆจนขึ้นไปถึงปลายคางที่สุดจะเงยแล้ว เพราะถ้าเงยจนเห็นหน้าเต็มๆด้วยอาจจะหงายหลังก็ได้.....ทำไมต้องสูงขนาดนี้ด้วย

    “หู้ยยยย บ้าหรอ นี่เพิ่งสิบแปดเหอะ ทำไมไม่น่ารักเลยอ่ะ ชื่อไรเราตัวเล็ก”

    “พวกที่เหยียดปมด้อยของคนอื่นเป็นพวกชั้นต่ำ คุณไม่ควรพูดถึงข้อบกพร่องทางกายภาพของคนอื่นแบบนี้”

    “พูดเป็นผู้ใหญ่จังเลย ตอนท้องคุณแม่ทานอะไรเข้าไปเนี้ย” คนที่ยังล้อเล่นไม่เลิกยิ้มสู้อย่างหน้าด้านหน้าทน ก็คนตรงหน้าเนี้ย ดูยังไงก็เด็กอนุบาลชัดๆ

    “คุณกำลังกล่าวล่วงถึงบุพการีคนอื่นถ้าคุณอายุสิบแปด คุณก็ถือว่าได้รับการอบรมมาแล้ว แต่สมองคงไม่สามารถซึมซับได้ทั้งหมดสินะ ขอทราบชื่อด้วยครับ ผมจะนำชื่อคุณไปร้องเรียนต่อสถานศึกษาที่คุณอยู่”

     

    คนตัวสูงกว่าเป็นโยชน์หลุบตามองต่ำตามความสูงที่ไม่พ้นเอวของเด็กตัวม่อต้อตรงหน้า .......แต่ยังไม่ทันจะตอบชื่อตัวเองออกไปก็มีชายในชุดกาวน์เดินตรงมาที่พวกเขา

     

    “คยองซูครับ ศาสตราจารย์เรียกพบครับ”

    “ขอบคุณครับคุณคิม”

     

    ร่างสูงที่เพิ่งต่อปากต่อคำกับเด็กที่ชื่อคยองซูมองตามขาสั้นๆที่ซอยเท้าถี่ยิบเพื่อเดินให้ทันคุณคิมที่เดินสามก้าวก็พุ่งไปนู้นแล้ว

     

    “คยองซู คยองซู”

     

    เขายืนท่องชื่ออีกฝ่ายเหมือนร้องเพลง เขามองสถานที่ใหญ่โต หมุนตัวไปรอบๆอย่างรู้สึกบันเทิงมากมาย

     

    “พัคชานยอลใช่ไหมครับ?” เสียงเรียกของคนที่สูงแค่ไหล่ของเจ้าของชื่อเดินเข้ามาพร้อมร้องยิ้มที่ดูยังไงก็เสแสร้ง แต่สำหรับชานยอลแล้ว ยิ้มก็คือยิ้มนั่นแหละ...

    “คับพ้ม พัคชานยอลขอรับ” ตอบกลับเสียงสดใส แต่รอยยิ้มที่มอบกลับไปสงสัยจะส่งไปไม่ถึงอีกฝ่าย เพราะเมื่อชานยอลตอบรับ ผู้ชานคนนั้นก็หันหลังกลับไปและบอกเขาว่าให้ตามไป

     

    ชานยอลมาที่ห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน สิ่งประดิษฐ์หน้าตาแปลกประหลาดเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูน .....

     

    “ชานยอล? อ่า นั่งก่อนสิ ขอบคุณนะที่สมัครเข้ามาและคัดตัวมาจนถึงรอบสุดท้าย” ชายร่างหนาสูงใหญ่ที่สวมเสื้อกาวน์ไว้พร้อมกับถือเอกสารเดินมานั่งตรงข้ามชานยอลที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่

    “ฮ่าๆๆๆ มันตลกมากเลย คุณรู้ไหม พวกที่สอบไม่ผ่านที่นี่ พวกนั้นเรียนเก่งกว่าผมหมดเลย โคตรตลกอ่ะ”

    “ใช่ครับ มันถูกต้องแล้วที่คุณจะเป็นคนเดียวที่ผ่านเข้ามาที่นี่ ไม่ใช่คนอย่างพวกเขาหรอกครับที่เราต้องการ อ่า ผมชื่อชเวซึงฮยอน เรียกผมว่าศาสตราจารย์ หรือด๊อกเตอร์ทาบิก็ได้”

    “ฮ่าๆๆๆ ชื่อหมอเหมือนการ์ตูนเลยอ่ะ”

    “ผมไม่ใช่หมอครับ”

    “เสื้อนั่น ใครใส่ก็เป็นหมอหนิ?” ชานยอลชีไปที่เสื้อกาวน์ของคุณชเวอย่างไร้มารยาท แต่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่อะไร

    “ครับหมอก็ได้ เอาหละ โปรเจคนี้จริงๆผมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณฟังเยอะ เพราะจากการทดสอบ สมองของคุณสามารถจดจำเรื่องที่ไม่สำคัญต่อชีวิตตัวเองได้แต่ 30.13 นาที นั่นหมายความว่าถ้าผมเล่าไปมันก็เท่านั้น งั้นผมจะแจ้งสั้นๆว่า คุณจะต้องอยู่ในความดูแลของเราไป อีก 1 ปีหลังจากนี้ โดยมีค่าตอบแทนให้คุณหลังจากกลับออกไป 30 ล้านวอน (900,000 บาท)”

    “เจ๋งงงงงง” เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างตื่นเต้น มือใหญ่รีบจับมือของคุณชเวเขย่าๆราวกับเป็นเพื่อนกัน

    “ครับ หากมีอะไรที่ต้องการนอกจากสิ่งที่มีอยู่ในห้องพักคุณสองคน ให้แจ้งที่คุณคิมได้เลย เขาจะจัดการให้คุณเอง” คุณชเวแจ้งก่อนจะยิ้มให้ชานยอล เป็นรอยยิ้มที่หลังจากวันนี้จนกระทั่งครบ 1 ปี ชานยอลคงไม่ได้เห็นอีกแล้ว

     

    ที่ห้องฝั่งตรงข้าม การอธิบายยังคงยืดยาวไม่จบ เด็กตัวเล็กที่จ้องปึกกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าและยังสักถามทุกอย่างละเอียดยิบ ทุกหน้ากระดาษที่วางอยู่นั้น คยองซูใช้เวลาอ่านเพียง 18.45 นาทีเท่านั้น

    “มันเป็นโครงการระยะสั้นครับ ที่จะต่อเนื่องไปสู่การทดลองในครั้งต่อไป ประเทศของเราได้ค้นหาเด็กมัธยมจากทั่วประเทศ และเราดีใจมากจริงๆที่เจอคุณ เด็กมัธยมที่สอบเข้าชั้นมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุ15นั้นไม่ได้มีมากมายและพวกที่สอบได้บางคนก็มีภาวะถดถอยทางอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากการทดสอบ มีแค่คุณคนเดียวจริงๆที่เราต้องการ”

    “คำเยินยอของคุณไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ ผมแค่อยากแน่ใจว่าหลังจากวันนี้ผมจะได้รับประโยชน์จากมันจริงๆ แล้วการทดลองนี้ คุณให้ใครมาอยู่กับผม?”

    “คุณพบเขาแล้วไงครับ คุณชานยอล เด็กมัธยมปลายตัวสูงโย่งนั่น”

    “เขาดู....”

    “ดูโง่ใช่ไหมครับ ใช่ครับ โปรเจคนี้เราต้องการจะทดสอบว่าระหว่างคนไอคิว 230 กับ คนไอคิว 90 จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ไหม ในสถานการณ์ต่างๆที่เราเตรียมไว้ให้ แน่นอนว่าคุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรบ้างที่เราได้จัดฉากไว้ แต่ที่แน่ๆ คุณคือคนที่ฉลาดกว่าเขา ผมหวังว่าคนที่ผ่านโปรเจคนี้จะเป็นคุณนะครับ”

     

    คยองซูหลุบตามองเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง.....

    นี่เป็นสัญญาที่เขาอ่านและเซ็นมันด้วยลายมือที่เหมือนกันทุกหน้ากระดาษ

     

    นี่จุดเริ่มต้นของการทดลองที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และมนุษยชาติไปตลอดกาล...

     

     

    Genius Project

    365 วัน กับการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างเด็กมัธยมปลายอายุ18ปีที่มีไอคิวเพียง90 และ เด็กอัจฉริยะอายุ 15 ปี ที่มีไอคิว 230 ซึ่งเป็นระดับน้องๆไอสไตล์  การทดลองนี้เป็นการทดลองเพื่อหาข้อสรุปว่า คนที่ฉลาดที่สุดกับคนที่โง่ที่สุด จะกลายเป็นตัวแปรของกันและกันหรือไม่ คนใดคนหนึ่งจะสามารถทำให้คนที่อยู่ร่วมกันเปลี่ยนตามได้หรือไม่

     

     

    #Chansooจีเนียส

     

    คิดถึงชานซูที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    O W E N TM.

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ฟิคนิยายที่น่าสนใจ"

    (แจ้งลบ)

    เป็นฟิคนิยาย ที่น่าประทับใจมาก ทั้งซับซ้อน ชวนให้คิด สนุกในการเดาเนื้อเรื่อง หักมุมแล้วหักมุมอีก คาดเดาเหตุการฌ์ได้ไม่แ่นอน คือดีอ่ะ คือเป็นนิยายท่คาดเดาอะไรไม่ได้ แถมได้ความรู้ในหลายๆเรื่องถึงจะงงไปหน่อยก็เถอะเป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ โอ้ยไม่รู้จะอธิบายยังไง สรุปมันคือนิยายที่ดีมากกกกกกกก ก.ไก่ล้ายตัว อ่านเพิ่มเติม

    เป็นฟิคนิยาย ที่น่าประทับใจมาก ทั้งซับซ้อน ชวนให้คิด สนุกในการเดาเนื้อเรื่อง หักมุมแล้วหักมุมอีก คาดเดาเหตุการฌ์ได้ไม่แ่นอน คือดีอ่ะ คือเป็นนิยายท่คาดเดาอะไรไม่ได้ แถมได้ความรู้ในหลายๆเรื่องถึงจะงงไปหน่อยก็เถอะเป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ โอ้ยไม่รู้จะอธิบายยังไง สรุปมันคือนิยายที่ดีมากกกกกกกก ก.ไก่ล้ายตัว  

    mook_BTS_GOT7 | 19 ต.ค. 60

    • 0

    • 0

    คำนิยมล่าสุด

    "ฟิคนิยายที่น่าสนใจ"

    (แจ้งลบ)

    เป็นฟิคนิยาย ที่น่าประทับใจมาก ทั้งซับซ้อน ชวนให้คิด สนุกในการเดาเนื้อเรื่อง หักมุมแล้วหักมุมอีก คาดเดาเหตุการฌ์ได้ไม่แ่นอน คือดีอ่ะ คือเป็นนิยายท่คาดเดาอะไรไม่ได้ แถมได้ความรู้ในหลายๆเรื่องถึงจะงงไปหน่อยก็เถอะเป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ โอ้ยไม่รู้จะอธิบายยังไง สรุปมันคือนิยายที่ดีมากกกกกกกก ก.ไก่ล้ายตัว อ่านเพิ่มเติม

    เป็นฟิคนิยาย ที่น่าประทับใจมาก ทั้งซับซ้อน ชวนให้คิด สนุกในการเดาเนื้อเรื่อง หักมุมแล้วหักมุมอีก คาดเดาเหตุการฌ์ได้ไม่แ่นอน คือดีอ่ะ คือเป็นนิยายท่คาดเดาอะไรไม่ได้ แถมได้ความรู้ในหลายๆเรื่องถึงจะงงไปหน่อยก็เถอะเป็นนิยายที่น่าติดตามมากๆ โอ้ยไม่รู้จะอธิบายยังไง สรุปมันคือนิยายที่ดีมากกกกกกกก ก.ไก่ล้ายตัว  

    mook_BTS_GOT7 | 19 ต.ค. 60

    • 0

    • 0

    ความคิดเห็น