คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [Chapter] 4 - The Illusion... (100%)
Part 4 … The Illusion
กษัตริย์หนุ่มผู้สูงศักดิ์ยังคงเดินตรงมายังร่างบางที่ยังยืนอยู่เบื้องล่างของใจกลางห้องโถง มีเพียงสายตาอันตัดพ้อของว่าที่ราชินีไลลาเท่านั้นที่ยังคงจ้องมองชายหนุ่มผู้หักอกนางอย่างไร้เยื้อใย นางกำมือแน่นจนเล็บมืองามจิกเข้าไปในมือจนเลือดไหลหยดตามมือสองสามหยด ร่างระหงสะบัดหน้าหนีไปอีกทางพร้อมๆกับพาเท้าทั้งสองของนางเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างไม่สบอารมณ์
“สักวัน ท่านจะต้องเสียใจที่ทำเช่นนี้กับข้า ลูออส!!” เสียงในลำคอของนางยังคงเล็ดลอดออกมาด้วยความโกรธแค้นกษัตริย์ลูออสยิ่งนักที่ทำให้นางกลายเป็นตัวตลกบนบัลลังก์
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีความรู้สึกแบบมนุษย์กับเค้าด้วย” หญิงสาวในชุดสีเงินเข้ารูปยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียง ริมฝีปากเอ่ยขึ้นอย่างเย็นๆ เมื่อรับรู้การมาของใครอีกคน
“ท่านเอเลน!..” ไลลาร้องขึ้นเมื่อเสียงอันคุ้นเคยผ่านโสตประสาทหู ใบหน้างามหมดจดของนางเงยขึ้นทันที
“รู้สึกอิจฉานางระบำผู้นั้นรึ?” เอเลนยังคงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงต่อเทพอีกตน ที่ลงมายังโลกมนุษย์เพราะคำสั่งของกษัตริย์ใหญ่
“มิได้เพคะ...” เสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ไลลาพยายามเก็บน้ำเสียงของตนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่านางกำลังโกหก สายตาของนางยังมองต่ำลงไปยังพื้นทันที
“เสียงเจ้าแปลกๆนะ ไลลา ข้าว่าเจ้าไม่เหมาะที่จะทำภารกิจนี้แล้วนะ” ร่างเพรียวหันหน้ามามองร่างหญิงสาวที่ก้มหน้ารุดต่ำลงเพียงเพราะพยายามหลีกเลี่ยงในการสบตากับนาง
“ไม่!...อะ..เออ คือว่าหม่อมฉัน...” ไลลาพูดแทรกทันควันด้วยท่าทางร้อนรน พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะปรับสีหน้าให้เหมือนตอนตอบรับภารกิจของท่านลูซิเฟอร์
“หม่อมฉันมิได้มีความรู้สึกอันใดเฉกเช่นมนุษย์ ความรู้สึกที่หม่อมฉันมีในตอนนี้เป็นเพียงแค่หน้าที่ที่ได้รับคำสั่งมาเท่านั้น” ไลลาเค้นเสียงที่มีอยู่ออกมาด้วยความไม่กลัวเกรง ดวงตาสีเทาใสของนางจ้องมองดวงตาสีฟ้าประกายของสตรีผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าอย่างหมาดมั่นว่านางจะทำภารกิจนี้จนสำเร็จ
“เอาเถอะ...ข้าก็แค่อยากจะเตือนเจ้าในฐานะเทพด้วยกันเพียงแค่นั้น เพราะงั้น...” ร่างบางในชุดรัดรูปสีเงินมองนางอย่างชั่งใจ แต่ก่อนจะได้พูดอะไรต่อหญิงชราเจ้าของคณะระบำก็ขัดขึ้นซะก่อน
“อ่ะ ถวายบังคมเพคะ องค์ราชินี” หญิงสูงอายุรีบร้อนถวายความเคารพเมื่อเห็นว่าบุคคลที่ยืนคุยอยู่กับเด็กในคณะของตนคือใคร หญิงสูงอายุรีบจับแขนของเอเลนแล้วออกแรงดึงให้ก้มตัวต่ำตามนาง
“อ่ะ...มะ...ไม่ต้อง” ไลลาที่เห็นท่าทางของหญิงชรารีบสั่งห้ามนางทันที ณ ที่นี้ อาจจะใช่ที่นางถือว่าอยู่สูงกว่า แต่หากในความเป็นจริงแล้ว ท่านเอเลน่านั้นมีตำแหน่งที่คอนางอาจหลุดเป็นได้ถ้าทำอะไรล่วงเกิน
สตรีผู้สูงอายุงุนงงกับการกระทำของว่าที่ราชินี แต่ก็มิได้แครงใจแต่อย่างใด เพียงแต่เหล่มองเด็กของตนที่บัดนี้ยืนมองนางด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย
“ท่านเรเนสเรียกเจ้าแน่ะเอเลน รีบไปหานางซะ” เสียงแห่บพล่าตามอายุที่เหมาะแก่การสิ้นใจค่อยๆพูดออกมาใกล้ๆใบหูของนาง เอเลนมองหญิงแก่ด้วยท่าทีสะอิดสะเอียนก่อนจะหันไปทูลลาให้เหมาะกับมารยาทของอีกภพเพื่อมิให้ยายแก่ผู้นี้สงสัยในตัวนาง
“หม่อนฉันขอตัวเพคะ องค์ราชินี” เอเลนโค้งศีรษะลงมา ก่อนจะปลีกตัวออกมาทันที หญิงชราทำท่าทีจะเดินตามเอเลนแต่โดนเสียงหนึ่งขัดเอาไว้ก่อน
“เรเนสนิใคร...แล้วเรียกท่าน...อ่ะ...เอเลนด้วยเหตุผลอันใด?” ด้วยความสงสัยในคำพูดของหญิงแก่ ไลลาจึงตัดสินใจถามออกมา
“มิได้เพคะ...ท่านเรเนส คือ หญิงระบำที่งามเป็นอันดับ 1 หาใครเทียบได้ ส่วนที่เรียกนางไปนั้น เพียงเพราะท่านเซเรสแม่ทัพใหญ่ได้ประมูลตัวนางไปด้วยมูลค่าที่สูงที่สุด”
“งั้นรึ...” ไลลามองตามแผ่นหลังของเอเลน่าไปด้วยความกังวล ใช่ว่ากลัวนางจะเป็นอันตราย แต่กลัวว่าท่านแม่ทัพจะเป็นอะไรซะก่อนที่จะได้เชยชมนาง
“ข้าไม่มีธุระกับเจ้าแล้ว...ไปทำงานของเจ้าซะ”
“เพคะ”
.
.
.
.
แสงราตรียามค่ำคืนมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ยังคงเปล่งแสงสว่างไสว ทอแสงสีเหลืองทองอ่อนๆ ลงมาเป็นระรอกพอให้พื้นพสุธาที่มืดมิดพอมองเห็น ณ ทางเดินไปสู่ห้องโถงใหญ่ที่จัดพิธีเอเลนเห็นแต่เพียงภาพการหยอกล้อกันของคู่ที่เหมือนดั่งคนรักก็ไม่ปาน เรเนส หญิงงามอันดับ 1 ของคณะระบำ กับ บุรุษผู้เลื่องชื่อทั้งความเก่งกาจและความหล่อเหลา ร่างบางถอนหายใจอย่างช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปแทรกระหว่างบทสนทนาของคนทั้งคู่
“เรียกข้ามา...มีอะไร?” เอเลนถามเสียงเรียบด้วยท่าทางไม่หยี่ระต่อสายตาอาฆาตที่ดันเข้ามาขัดขวางความสุขของนาง
“ค่ำนี้ เจ้าต้องคอยปรนิบัติท่านแม่ทัพให้ดีจนกว่าจะถึงรุ่งพรุ่งนี้” เรเนสตอบออกมาอย่างเสียไม่ได้ ในใจก็เฝ้าแต่คิดอิจฉาเด็กใหม่ แต่เพื่อปากท้องของคณะ ถึงจะเจ็บใจแค่ไหนแต่ก็ควรจะเสี่ยง
“ข้ามิล่วงเกินเด็กของเจ้าหรอกเรเนส ไว้ใจข้าได้” เซเรสที่ดูท่าทางของเรเนสอยู่สักพักจึงกระซิบข้างๆหูนางอย่างแผ่วเบาจนเหมือนลมพัด ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำไปจนถึงใบหู นางได้แต่เพียงก้มหน้าหงิดเพื่อกลบความอายก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“ข้าเชื่อใจท่าน ท่านเซเรส” รอยยิ้มของหญิงที่กำลังมีความรักนั้น เปรียบดั่งน้ำหวานอาบยาพิษ ร่างสูงเพียงแค่ยิ้มกลับให้นางก่อนจะเดินไปหาเอเลน
“เจ้าตามข้ามาเอเลน...”
“ข้าบอกแล้วใช่ไหม? ...ว่าค่ำนี้ยังอีกยาวนัก” หลังจากที่เดินมาห่างจากเรเนสพอสมควร เซเรสแกล้งเดินเข้าไปใกล้เอเลนจนสามารถกระซิบจนปากหนาเกือบจะโดนใบหู
‘ควับ!’ ร่างบางที่ยังคงอื่นนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าของนางปราศจากอารมณ์ใดๆ มีเพียงแต่ มือเรียวบางเท่านั้นที่จับกริบอย่างแน่นมือที่บัดนี้ปลายของกริบได้ไปอยู่ตรงช่องท้องของเซเรสเข้าอย่างจัง จนทำให้ร่างสูงผงะออกมาในที่สุด
“เจ้านินะ...” เซเรสส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะเดินนำเอเลนตรงไปยังห้องประทับส่วนตัว
HG - รู้สึกว่าเหมือนจะยาว แต่ท่าทางจะยังน้อยไป ฮ่าๆ เอาเป็นว่าอ่านไปก่อนนะค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะถึงช่วงที่ต้องออกมากันเยอะซะอีก ที่ไหนได้ ยังอีกยาวไกลนัก (ยืมคำท่านเซเรสมาใช้ซะเลย 5 5 5)
ความคิดเห็น