ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC 2PM] The Wolf Boy... !! (Chanho)

    ลำดับตอนที่ #3 : [The Wolf Boy] Chapter 2 : I’m Your Destiny

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 56


    I’m Your Destiny



    แสงแดดยามเช้าสาดส่องร่างที่นอนขดอยู่กับผืนเตียงนุ่ม ดวงตาเรียวกระพริบถี่แล้วลืมขึ้นในที่สุด บิดกายไปมาด้วยความปวดเมื่อย พร้อมไล่ความง่วงออกไป ร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายตามกิจวัต แล้วเดินลงไปทำอาหารที่ชั้นล่าง โดยไม่ลืมที่จะทำอาหารเช้าเผื่อชายหนุ่มร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนอนของตนเอง เมื่อทำอาหารเช้าเสร็จ ร่างเล็กก็เดินไปที่ห้องของตนเอง เพื่อปลุกร่างที่ยังหลับใหลอยู่

    คุณชานซองครับ..

    ร่างบางพูดขึ้นพร้อมนั่งลงกับพื้นข้างๆโซฟา

    “…..”

    ร่างสูงยังคงหลับตานิ่งสนิท เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้ร่างเล็กรับรู้ว่า ไม่มีแววที่ร่างสูงจะตื่นเลย

    คุณชานซอง คนขี้เซา ตื่นเดี๋ยวนี้นะครับ เมื่อคืนก็หนีมานอนก่อนผม แล้วยังตื่นสายกว่าผมอีก

    ร่างเล็กพูดเสียงดังขึ้น แล้วใช้นิ้วชี้เล็กๆจิ้มไปที่แก้มของร่างสูง

    อืมม.. 

    มือใหญ่ของร่างสูงคว้าหมับเข้ากับฝ่ามือเล็ก โดยไม่ทันที่ร่างเล็กจะชักมือกลับ

    จะตื่นได้รึยังครับ~”

    ร่างเล็กลากเสียงยาว ชี้มืออีกข้างบีบแก้มของคนตรงหน้าแล้วออกแรงดึง

    ข้าวต้มหมู~”

    ข้าวต้มหมู? อะไรครับ ฮ่าๆๆ

    ได้กลิ่นข้าวต้มหมู นายทำข้าวต้มหมูใช่มั้ย

    ร่างสูงถาม ดวงตากลมสีน้ำตาลลืมขึ้น แล้วมองไปที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้ห่างกันมากนัก

    ทำไมครับ หิวแล้วหรอ

    ร่างเล็กถาม พร้อมกับยิ้มอย่างสดใสให้กับร่างสูงตรงหน้า

    ถ้าตื่นมาแล้วมีนายยิ้มให้แบบนี้ทุกเช้าก็ดีสิ

    หิว.. ได้กลิ่นด้วย

    ร่างสูงอมยิ้มแล้วพูดขึ้น พร้อมทำจมูกฟุดฟิดๆ

    หืมม~ ได้กลิ่นจากไหนครับ คุณมั่วแล้ว ผมไม่ได้ทำข้าวต้มหมูสักหน่อย

    ร่างเล็กอมยิ้มกับท่าทางของร่างสูงตรงหน้า

    เสื้อนาย ผมด้วย กลิ่นข้าวต้มหมูชัดๆ อย่ามาโกหกเลยอีจุนโฮ

    กลิ่นมันชัดขนาดนั้นเลยหรอ ผมไม่เห็นได้กลิ่นเลย

    ร่างเล็กเอ่ยพร้อมดมเสื้อของตนเอง

    ก็เปล่า ช่างมันเถอะ

    ร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มที่คลุมร่างที่เปลือยท่อนบนอยู่ตอนแรกจึงลงไปกองอยู่ที่ตัก

    นี่คุณถอดเสื้อนอนแบบนี้ทั้งคืนเลยหรอ ไม่หนาวหรือไง

    ร่างเล็กก้มหน้างุด ปิดบังใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อบริเวณแก้ม

    ไม่หนาวหรอก ก็ใครไม่รู้เอาผ้าห่มมาห่มให้

    ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มกวนๆให้กับร่างเล็กที่บัดนี้แก้มใสขึ้นสีแดงมากกว่าเดิม

    คุณแกล้งผม! รู้งี้ผมให้คุณนอนหนาวดีกว่า ไม่เอาผ้ามาห่มให้หรอก

    ร่างเล็กกอดอกทำหน้าบึ้งใส่ร่างตรงหน้า

    “…”

    ถ้าหิวก็ใส่เสื้อแล้วลงไปทานข้าวได้แล้วนะครับ เสื้อผ้าอยู่ในตู้ เลือกเอาเองนะ

    ไม่ทันที่ร่างสูงจะได้ตอบ ร่างเล็กก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน แล้วเดินออกจากห้องไป อาจจะเป็นเพราะความเขิน ถ้าหากยังอยู่ในห้องนี้ต่อไป แก้มของเขาอาจจะแดงจนกลายเป็นมะเขือเทศเลยก็ได้

     
     

    ...........................................................................................................

     

     

    หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จ ร่างสูงก็เดินลงมาชั้นล่าง พบกับร่างเล็กที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว บนโต๊ะมีชามข้าวต้มหมูอยู่สองชาม

    ไหนนายบอกว่าไม่ใช่ข้าวต้มหมูไง

    ก็ใครจะไปรู้ว่าคุณชานซองจมูกดีขนาดนี้หล่ะครับ

    ร่างเล็กอมยิ้ม ตักข้าวต้มตรงหน้าทานอย่างเอร็ดอร่อย

    นายไม่รู้อะไร ฉันหน่ะ จมูกดีมานะ

    ร่างสูงอวดในความสามารถของตน

    ทำไมครับ คุณเป็นหมาหรือไง ฮ่าๆๆๆ

    ร่างเล็กถามด้วยความขี้เล่น แต่ประโยคนั้นกลับทำให้ร่างสูงนึกได้ เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาเป็นครึ่งคนครึ่งหมาป่า ซึ่งแน่นอนว่าร่างเล็กตรงหน้ายังไม่รู้

    หรือนายอยากให้ฉันเป็นหมา?”

    ร่างสูงใช้ดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อนมองร่างเล็กตรงหน้า

    ไม่ได้อยากให้เป็นสักหน่อย ผมแค่พูดเล่นเฉยๆเอง

    แล้วถ้าฉันเป็นหมาจริงๆหล่ะ?”

    ร่างสูงถาม แววตาจริงจังจ้องมองไปที่ใบหน้าหวาน

    ไม่รู้~”

    ร่างเล็กตอบพร้อมก้มหน้าทานอาหารเช้าของตนเองต่อ ร่างสูงก็เช่นกัน ต่างคนต่างทานอาหารในชามของตนเองจนหมด

    จุนโฮ ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อยนะ

    เป็นร่างสูงที่เอ่ยขึ้นมาก่อนทำลายความเงียบหลังจากทานข้าวเสร็จ

    ครับ คุณชานซองจะไปไหนหรอ?”

    ไปเดินเล่นแถวๆนี้แหละ ตอนเย็นๆฉันจะกลับมา

    อ่า โอเคครับ แล้วเจอกันนะ

    ร่างเล็กเอ่ยพร้อมรอยยิ้มสดใสมอบให้กับร่างสูง

    ดูแลตัวเองด้วยหล่ะ

    ร่างสูงพูดพร้อมเดินออกไปทิ้งให้ร่างเล็กอยู่คนเดียวกับเจ้าแมวตัวน้อย

     
     

    ...............................................................................................................

     

     

    ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในป่าสนอีกด้านที่ตนผ่านมา เดินเข้าไปลึกเรื่อยๆจนปลอดสายตาคน แล้ววิ่งหายเข้าไปในป่าด้วยความรวดเร็ว วิ่งมาได้ไม่ไกลนัก ร่างสูงชะงักฝีเท้าลง เพราะได้ยินเสียงบางอย่างตามมาจากทางด้านหลัง แขนเล็กกอดเข้ากับสะโพกของร่างหนาจากด้านหลัง

    คิดถึงจังเลยชานซอง..

    เสียงหวานเอ่ยทักทายร่างสูงตรงหน้า พร้อมซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง ปิดบังความรู้สึกบางอย่างที่แทบจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด

    อูยอง.. ฉันต้องรีบไป ปล่อยก่อนเถอะ

    นายจะไปไหน?”

    กลับบ้าน ฉันถูกไล่ล่า ฉันต้องบอกแม่

    ใครกันที่ตามไล่ล่านาย? แล้วทำไมมันถึงไล่ล่านาย

    ร่างเล็กถามด้วยความสงสัย แล้วค่อยๆลดมือที่กอดสะโพกหนาลง

    ฉันไม่รู้ แต่มันรู้จักฉัน

    ระวังตัวด้วยนะชานซอง ถ้านายเป็นอะไรไปฉันคงอยู่ไม่ได้

    นายก็เหมือนกันนะอูยอง ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นใคร มันอาจจะมาทำร้ายนาย อย่าออกไปไหนคนเดียว มันอันตราย

    อืม...

    ร่างเล็กอมยิ้มดีใจ เพราะชานซองเป็นห่วง มันทำให้รู้สึกดีกว่าอะไรที่เคยได้รับ

    ฉันไปนะ แล้วเจอกัน

    ร่างสูงเอ่ย ยกยิ้มให้กับร่างบาง แล้ววิ่งออกไปด้วยความเร็ว

    ทำไมนายทำกับฉันแบบนี้ฮวางชานซอง..

    ร่างเล็กที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีใจตอนแรก กลับมีน้ำใสๆเอ่อล้นขอบตาเรียวที่ร้อนผ่าว ไม่นานมันก็หยดลงมาเปรอะเปื้อนแก้มใส

     

     

    ร่างเล็กเดินกลับบ้านด้วยความยากลำบาก ขาเรียวแทบจะไม่มีแรงก้าวเดิน เหมือนกันว่าน้ำตาที่เขาเสียไปกลับทำให้พลังงานในตัวเขาลดน้อยลงด้วย ขาเล็กเดินเข้าไปในป่าเรื่อยๆจนถึงคฤหาสน์หลังใหญ่บ้านของตนเอง ก้าวขาให้เร็วที่สุดเพื่อขึ้นไปยังห้องของตนเอง โดยพยายามไม่ให้ใครรับรู้ว่าเขากำลังร้องไห้ แต่เสียงทุ้มกลับดังขึ้นทำให้ร่างเล็กหยุดชะงัก

    นายไปไหนมา พี่ตามหานายจนทั่ว

    ร่างสูงพูด แล้วเดินมาโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน

    พี่คุณ ผม.. ฮึก

    คนตัวเล็กพยายามกลั้นอารมณ์ของตัวเอง ที่ตอนนี้มันอ่อนไหวและอ่อนแอเหลือเกิน พยายามเอ่ยปากตอบคำถามร่างสูง แต่กลับมีก้อนสะอื้นขวางกั้น ทำให้ร่างสูงรู้ว่าร่างเล็กตรงหน้ากำลังร้องไห้  

    ใครทำอะไรนาย บอกพี่สิ

    ร่างสูงโอบกอดคนตรงหน้าให้แน่นขึ้น หวังว่าจะช่วยลดความอ่อนแอของคนน้องได้บ้าง

    ผมได้กลิ่น.. กลิ่นที่ไม่คุ้นติดตัวชานซองเต็มไปหมด เป็นกลิ่นของมันใช่มั้ย กลิ่นของมนุษย์คนนั้น...

    ใบหน้าใสซบลงกับไหล่พี่ชายของตน แขนเรียวโอบกอดคนตรงหน้าแน่น

    พี่ไม่รู้.. นายน่าจะถามแจบอม พี่จะพานายไปเอง

    ร่างสูงพูดพร้อมกับโอบเอวคนน้องเดินไปหาพี่ชายอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องโถงใหญ่ ร่างหนาประครองร่างเล็กให้นั่งลง มือหนาซับน้ำตาให้กับคนน้องอย่างแผ่วเบา

    มีอะไรอูยอง เป็นอะไรไป

    พี่ใหญ่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ถึงกับชะงัก วางหนังสือในมือลงแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆร่างบาง

    ผมได้กลิ่น กลิ่นที่ไม่ใช่กลิ่นของชานซอง แล้วก็ไม่ใช่กลิ่นของมนุษย์ทั่วไป..

    ร่างเล็กค่อยๆอธิบายสิ่งที่ตนเองรับรู้แก่พี่ใหญ่

    ถ้าพี่บอกนาย นายต้องใจเย็นๆ เข้าใจมั้ย

    ผมจะใจเย็น จะฟังทุกคำพูดที่พี่พูด

    มันเป็นกลิ่นของมนุษย์ที่ได้การผูกจิต ซึ่งปกติแล้วถ้าหมาป่าผูกจิตกับหมาป่าด้วยกันจะไม่มีกลิ่นพวกนี้หรอก จะมีเฉพาะการผูกจิตของหมาป่ากับมนุษย์เท่านั้น มันจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัว เหมือนกับการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งมนุษย์จะไม่ได้กลิ่นนี้แต่หมาป่าจะได้กลิ่นนี้ชัดเจนกว่ากลิ่นอื่นๆ นายเข้าใจรึยัง

    ครับ..

    ดวงตาเรียวปิดลง ปิดกั้นอารมณ์ของตนเองที่แสดงออกมาจากนัยน์ตา ปิดกั้นหยาดน้ำที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง มือหนาของพี่ชายคนกลางลูบปลอบไหล่เล็กเพื่อปลอบคนน้อง

    พี่แจบอมต้องช่วยผม พี่คุณด้วย ผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้..”

    พี่ชายคนโตนิ่งเงียบ เพราะเขารู้อยู่เสมอว่าโชคชะตาเป็นสิ่งที่กำหนดไม่ได้ และแก้ไขไม่ได้เช่นกัน

    พี่จะไม่ช่วยให้นายทำสิ่งที่ผิด.. ถึงแม้ปกติพี่จะตามใจนายทุกเรื่องก็เถอะ แต่เรื่องนี้พี่ช่วยนายไม่ได้ พี่ขอโทษนะอูยอง..

    พี่ใหญ่พูดขึ้นอย่างเด็ดขาด พร้อมก้าวเดินออกจากห้องไป น้ำเสียงแน่วแน่ทำให้ร่างเล็กรู้ว่า ไม่มีทางที่เขาจะอ้อนวอนให้คนพี่ช่วยเขาได้

     ....

    พี่คุณต้องช่วยผมนะ ผมขอร้อง.. ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้!! ”

    ตาเรียวเบิกโพลงขึ้นพร้อมด้วยนัยน์ตาสีแดงเลือด แสดงได้ถึงอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในร่างกายเล็ก จางอูยองเป็นน้องเล็ก เพราะเหตุนี้ทำให้เขาถูกตามใจโดยพี่ๆบ่อยๆ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเอาแต่ใจ และเป็นเรื่องปกติที่เขาจะอารมณ์เสียเมื่อถูกขัดใจ

    พี่ช่วยนายแน่ ก็นายเป็นน้องพี่หนิ..

    ร่างสูงพูด แล้วดึงคนน้องเข้ามากอดแนบอก เขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด แต่มันก็คงดีถ้าหากทำให้น้องชายมีความสุขได้

    ผมรักพี่คุณ..

    ดวงตาเรียวที่เคยเป็นสีแดงเลือก กลับกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มดังเดิม ต่างจากคนพี่ จากที่นัยน์ตาเคยเป็นสีดำสนิท กลับกลายเป็นสีแดงราวกับไฟที่พร้อมมอดไหม้ทุกสิ่ง

    พี่ก็รักนายอูยอง รักมากที่สุด พี่จะทำทุกอย่างให้นายมีความสุข

    ฝ่ามือหนาลูบลงบนศีรษะก้มเล็กที่ซบอยู่บนแผงอกของตน อดกลั้นอารมณ์ภายในร่างไม่ให้แสดงออกมาให้ร่างบางเห็น

     

     

    .........................................................................................................................

     

     

    อีกด้านหนึ่งของป่า ชายหนุ่มเดินมาถึงคฤหาสน์อีกหลัง รีบเดินเข้าไปหาร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนอนของเธอ

    แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว

    ร่างสูงรีบวิ่งไปหาร่างของผู้เป็นแม่ แล้วโอบกอดแน่น

    ชานซอง ลูกหายไปไหนมา..

    คนเป็นแม่เอ่ยด้วยความเป็นห่วง วางหนังสือในมือลง แล้วใช้มือทั้งสองข้างลูบหัวลูบหลังลูกชายด้วยความเอ็นดู

    ผมเจอคนๆนั้นแล้ว คนที่แม่เคยเล่าให้ผมฟังตอนเด็กๆ แม่ดีใจกับผมมั้ย

    ร่างสูงยิ้มด้วยความดีใจกับแม่ของตน ซบหน้าลงกับไหล่ของผู้เป็นแม่

    แล้วเขาเป็นยังไง น่ารักถูกใจลูกของแม่รึเปล่า

    ผู้เป็นแม่ยกยิ้มให้กับนิสัยขี้อ้อนของลูกชาย พร้อมดึงหูด้วยความหมั่นเขี้ยว

    น่ารักครับ เขาน่ารักมาก เขาเป็นแบบที่แม่บอกจริงๆ

    ถ้าเจอเขาแล้ว ต้องดูแลเขาให้ดีรู้มั้ย เพราะเขาคือโชคชะตาของลูก ห้ามทิ้งเขาเด็ดขาด..

    ผมไม่มีวันทิ้งเขาครับ สัญชาตญาณมันบอก ฮ่าๆๆ คิดถึงแม่จัง

    ชายหนุ่มหัวเราะร่า แล้วหอมแก้มของผู้เป็นแม่ฟอดใหญ่

    พูดดีนัก มีหมาป่าที่ไหนเค้าขี้อ้อนแบบนี้กัน โตเป็นหนุ่มป่านนี้แล้วเนี่ย หืมม~”

    ก็หมาป่าตัวนี้ไง ลูกรักของแม่ไงครับ

     

     

     

     
     

    To Be Continued

    ………………………………………………………………………………….

    เรื่องนี้คุณด้งเป็นพี่น้องกันนะคะ เอ้ะ หรือว่าไม่ใช่พี่น้องดี? 5555555555

    คอมเม้นต์หน่อยน้า~  

    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×