คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Episode 4 (100%)
ร่างเล็กๆของทิฟฟานี่ค่อยๆเดินไปตามทางอย่างเฉื่อยชา เนื้อตัวเปียกชุ่มจากการช่วยเหลือคนร่างโปร่ง แต่มันก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าเทียบกับภายในจิตใจตอนนี้ ที่รู้สึกแย่ไปหมด เหมือนตนทำร้ายคนสองคนในเวลาเดียวกัน ทั้งๆที่ตนเองก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย
คนหนึ่งก็ทิ้งเขาไป ทั้งๆที่ยังรักเขาหมดใจ
อีกคนหนึ่งกายอยู่กับเขา แต่ใจไม่ได้อยู่ด้วยเลย
ร่างเล็กไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ ไม่อยากจะกลับไปเจอใคร พบใครทั้งสิ้น ทั้งๆที่ตอนนี้ร่างเล็กเดินมาถึงหน้าบ้านแล้ว แต่กลับไม่อยากเข้าบ้านของตนเลย รู้สึกไม่อยากจะพบเจอใครอีกแล้ว
ร่างบางกลั้นใจ สูดลมหายใจลึกๆ
สุดท้าย ...มือบางค่อยๆเปิดประตูบ้านเบาๆ ก็พบร่างของชายหนุ่มผู้คุ้นเคย เดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด
“ทิฟ ! เจ้าไปไหนมา ! แล้วทำไมเนื้อตัวเปียกเช่นนี้” ชายหนุ่มรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินออกห่าง แล้วกล่าวตัดไปทันที “อย่าพึ่งถามข้าตอนนี้ เจ้าไปนอนเถอะ ข้าขอเวลาเสียหน่อย”
“แต่ !” ชายหนุ่มขัดขึ้น ก่อนที่ร่างบางจะพูดสวนไปอย่างทันควัน “ข้าไม่ได้เป็นอันใดทั้งนั้น แค่ขอเวลาประเดี๋ยว" ชายหนุ่มนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลง
“อย่างไรก็ตาม เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เจ้าก็น่าจะบอกให้ข้ารู้บ้าง”
“ข้าไม่ได้มีอะไรปิดบังเจ้าหรอก แค่เรื่องเพื่อนของข้าเท่านั้นเอง เจ้าไม่ต้องกังวล ไปนอนเถอะ” ร่างเล็กเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่ฝืนทน
เพื่อไม่ให้ชายผู้ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นห่วง
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างจำใจอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าห้องนอนไปด้วยความสงสัยและมึนงง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรร่างเล็กอีก
ร่างเล็กยืนมองจนแน่ใจ ว่าชายหนุ่มเข้าไปนอนแล้ว จึงเดินไปที่หลังบ้านของตน ซึ่งมีแม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่านอยู่ ครอบครัวของตนจะมาตักน้ำจากที่นี่ไปใช้เป็นประจำ จนเหมือนเป็นแม่น้ำคู่ชีวิตไปเสียแล้ว
สำหรับร่างเล็กนั้น ตอนเด็กๆ ร่างเล็กก็ชอบลงมาแช่น้ำที่นี่เช่นกัน เพราะน้ำที่นี่เย็นสบาย น้ำใสสะอาด บรรยากาศก็เงียบสงบ
นอกจากนั้นยังมีลมพัดเย็นสบายพัดผ่านตลอด เวลาร่างเล็กโดนพ่อตีหรือโดนแม่ดุ ก็มักจะมานั่งให้ลมเย็นๆคอยปลอบโยนอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ร่างเล็กมา เพื่อหวังให้คุณสายลม ช่วยเหลือตนอีกสักครั้ง ช่วยปัดเป่าความทุกข์ให้ที ...
ร่างเล็กนั่งลงบนผืนหญ้าสีเขียวสดช้าๆ น้ำตาใสๆ เอ่อล้น ตอนนี้ร่างเล็กหาทางออกให้ตนเองไม่ได้เลย ไม่รู้จะทำอย่างไร จิตใจเฝ้าโหยหาอยู่แต่หญิงสาวร่างโปร่งผู้นั้น คิดถึงมาก คิดถึงจนไม่สามารถอธิบายได้
“ข้านี่มัน
เลวจริงๆ” ร่างเล็กต่อว่าตนเองอย่างเหลือทน น้ำในตาคู่สวยเอ่อเป็นสายด้วยความรู้สึกต่างๆที่ปนเปกันไปหมด ไม่ขอกล่าวโทษโชคชะตาหรือพรหมลิขิตเลยแม้แต่น้อย ในชีวิตของตนเอง
แต่จะโทษตนเอง โทษตนเอง ที่มีจิตใจไม่มั่นคงเช่นนี้
กายอยู่กับเขาแล้ว ยังจะไปนึกถึงคนอื่นอีก ข้านี่มันเลวจริงๆ
แล้วเมื่อไหร่ข้าจะตัดใจได้ เมื่อไหร่ทุกอย่างจะจบ จะต้องทำร้ายคนอื่นและตนเองอีกนานแค่ไหน
ร่างเล็กนึกคิดอย่างสมเพชตนเอง มือบางปาดน้ำตาตนเองอย่างช้าๆ นั่งกอดเข่ามองเหม่อไปเรื่อยๆ ลมเย็นๆค่อยๆปะทะเข้าที่เรียวหน้าสวย ร่างเล็กสั่นเล็กน้อย ด้วยความหนาวเย็น แต่นั่น ก็ทำให้รู้ว่า
คุณสายลมนั้น ...มาช่วยปลอบโยนตนแล้ว
มาช่วยทำให้จิตใจสงบอีกครั้ง ...
ยังมีอีกคน ยังมีสายลม ที่คอยช่วยเหลือตนเสมอ เวลาที่ตนมีปัญหา
ทิฟฟานี่หลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้สายลมปะทะเข้าที่ใบหน้าและร่างกายซ้ำๆ แม้จะรู้สึกหนาว จากร่างกายที่เปียก แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยเลย
‘ข้านึกถึงเจ้าอีกแล้ว แทยอน’
.
.
ร่างเล็กนั่งอย่างเงียบๆพร้อมแหงนใบหน้า และหลับตาพริ้มอย่างเหม่อลอย โดยที่ไม่รู้ตัว ว่ามีใครกำลังบุกลุกเข้ามาในที่ของเธอ บุคคลผู้นั้นกระตุกยิ้มเล็กน้อย ทุกอย่างเป็นใจในการกระทำที่เขากำลังจะทำ
..
“อุ้บ ! อื้มมม !!!” บุคคลปริศนาผู้นั้นนำผ้าสีขาวผืนเล็กปิดบริเวณปากและจมูกคนร่างเล็กอย่างรุนแรง ร่างเล็กพยายามดิ้น แต่ไม่เป็นผล ตอนนี้สติของร่างเล็กหลุดลอย ก่อนจะไม่รู้สึกตัวอีก
เข้าทางบุคคลผู้นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ มันคงถึงเวลาแล้ว
ที่แผนการบางอย่างจะดำเนินการไปตามที่มันควรจะเป็น
แผนการนี้ มันจะทำให้ใครเดือดร้อน หรือเสียใจหรือไม่ ...
ไม่สำคัญอีกต่อไป สำหรับบุคคลปริศนาผู้นี้
ไม่สำคัญเลย ...ไม่สนใจอีกต่อไป
-------------------------------------20% ค่าา เม้นต์ให้ด้วย เดี๋ยวมาต่อค่ะ ^^-----------------------------------
ต่อๆ
“อืมม
” ชายหนุ่มร่างกายกำยำบิดตัวไปมาอยู่บนที่นอนนุ่ม มือหนาค่อยๆคลำไปยังข้างๆตน หวังจะได้กอดผู้เป็นที่รักให้อบอุ่นอย่างเช่นทุกวันที่เคยทำ
แต่แล้วก็ต้องชะงักทันที เมื่อพบว่าไม่มีใครนอนอยู่ข้างตนเองเลย ที่สำคัญ ที่นอนข้างๆตนไม่มีร่องลอยยับยู่ยี่จากการนอนเลยแม้แต่น้อย จิตใจของ “จอร์นสัน” เป็นกังวลอย่างมาก จึงรีบวิ่งลงบันไดมาด้านล่างของบ้านทันที
“ทิฟฟานี่ ! ทิฟฟานี่ !” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง เดินหาไปทุกซอกทุกมุมของบ้าน แต่ก็ไม่พบเจอทิฟฟานี่เลย
ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของร่างเล็กตกใจตื่นด้วยเสียงอันดังลั่น พลางเดินลงมาชั้นล่างเพื่อดูต้นตอของเสียง
“เอะอะอะไรเสียงดัง ไอลูกเขย
” เสียงที่งัวเงียเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ทิฟฟานี่หายตัวไป ทำเช่นไรดี ๆ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างลุกลี้ลุกลน ใบหน้าเลิกลักด้วยความตกใจ กลัวเหลือเกิน กลัวร่างเล็กจะเป็นอันตราย
“จริงรึ ! ทำเช่นไรดีเล่า” แม่ของร่างเล็กเอ่ยอย่างตกใจ
“เจ้าแน่ใจรึ ว่าหายตัวไป อาจจะออกไปข้างนอกก็เป็นได้” ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้น
“แต่ ทิฟฟานี่ยังไม่ได้เข้ามาในห้องนอนทั้งคืนเลยนะ” จอร์นสันยืนการหนักแน่นว่าร่างเล็กหายไปจริงๆ
“ข้าว่า รอดูจนถึงตอนกลางวันก่อนดีกว่า ถ้าลูกข้าไม่กลับมา ก็ไปตามหาเลย ตอนนี้อย่าพึ่งเลย อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ยัยมิยอง
เอ่อ ยัยทิฟฟานี่น่ะ ซนจะตายไป ไปนอนก่อนเถอะพ่อหนุ่ม” เสียงแหบแห้งปนกับความงัวเงียของ ทั้งผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมตบบ่ากำยาไปหนึ่งที ก่อนจะกลับไปสู่ห้องนอนของตน
ฝ่ายจอร์นสันพยักหน้ารับ ก่อนจะกลับเข้าห้องนอนของตนไปด้วยจิตใจที่หวาดกลัว
“หวังว่าเจ้าแค่ออกไปเดินเล่นข้างนอก หวังว่าเจ้าแค่ออกไปสูดอากาศสดชื่น หวังว่าเจ้าแค่แกล้งทำให้ข้าเป็นห่วง หวังว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร”
.
ณ พระราชวังที่ประทับแห่งราชวงศ์ควอนนัมพยอล
ปัง !
เสียงปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างบางๆ ที่กำลังยืนพิงประตูด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
“เจสสิก้า !~ นี่เจ้าเป็นอะไรไปเล่า ! เฮ้อ” ร่างบางสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้ายังคงแดงก่ำจากเรื่องที่ผ่านไปเมื่อครู่ แทนที่จะรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ดันรู้สึกดีมากจนอธิบายไม่ถูก
ริมฝีปากที่สัมผัสกันตอนนั้น ร่างบางไม่อาจปฏิเสธได้ ว่ารู้สึกดีจริงๆ มือบางค่อยๆเอื้อมไปแตะริมฝีปากของตนเองเบาๆ พร้อมความรู้สึกต่างๆที่ประดังเข้ามาในหัวสมอง
ทั้งๆที่อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิง เราก็ควรจะรู้สึกประหลาดสิ
แต่ทำไมดันรู้สึกเคลิบเคลิ้มไป เป็นไปได้อย่างไรกันนะ
ร่างเล็กค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงบนพื้นห้องที่อบอุ่น ก่อนที่จะยิ้มเขินไปคนเดียวเพียงเท่านั้น
..
..
ทางอีกฝ่าย
ร่างกายอันสูงสง่าดังชายชาตรีของเจ้าหญิงยูริยืนค้างนิ่งอยู่กับที่ สายตาจ้องอยู่ที่ประตูบานงามที่ร่างบางหน้าสวยผู้นั้นรีบเปิดออกไปเมื่อครู่
“นี่ข้าทำอะไรลงไป” ร่างสูงยืนนิ่ง พลันทบทวนเรื่องราวต่างๆเป็นลำดับขั้นตอน
“แล้ว ทำไมมัน
” ร่างสูงยังไม่รู้ถึงความรู้สึกตนเอง จูบกับร่างบางคนนี้ ทำไมไม่เหมือนกับตอนจูบกับ
ฮาจีวอน หรือสาวสวยๆทั่วไป
‘ความรู้สึกมันไม่เป็นแบบนี้’
หัวใจเต้นอย่างหนักหน่วง ใบหน้าที่อยู่ดีๆสีก็ระเรื่อขึ้นมา
“อ้ากกก ! ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย !!!!!!!!!!!!!!!” ร่างสูงกระโจนตัวลงที่ทีนอนนุ่มๆ ก่อนจะยิ้มกับความน่ารัก และริมฝีปากแสนนุ่มของร่างบางอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
“ฮ้า ทำไมข้ามีความสุขขนาดนี้นะ” ร่างสูงพึมพำกับตนเองไปมาพร้อมยิ้มล่า
........
แต่สุดท้ายก็มาสะดุดกับสิ่งที่ร่างบางแสนสวย กับพี่ชายของตนได้ทำร่วมกันในตอนนั้น
“ไม่ ! ข้าไม่มีความสุขเลย เจ้ามันก็แค่ผู้หญิงอย่างว่า” ร่างสูงกอดอก ทำสีหน้าบึ้งตึงทันที แต่แล้วทำไม ยังรู้สึกอยากเจอร่างบางอยู่นั่น ก็ไม่รู้
แต่มันไม่กล้าจะเดินไปหน้าห้องของร่างบางด้วยซ้ำ
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงของประตูเคาะรัวและดังมาก สร้างความหงุดหงิดแก่ร่างสูงเป็นอย่างมาก
“ใคร บังอาจเคาะประตูข้าแทบพัง !!! เดี๋ยวจะจับประหารซะ
เจ้า !” ร่างสูงที่กำลังตะโกนโหวกเหวก เมื่อเปิดประตูไปพบเจอคนบางคนยืนอยู่ ก็ถึงกับนิ่งไปด้วยความตกใจ
จะเป็นใครไปได้ที่ทำให้ร่างสูงอย่างเจ้าหญิงยูริตกใจ
ถ้าไม่ใช่เจ้าหญิงผู้แสนงามผู้นั้น
เจ้าหญิงเจสสิก้านั่นเอง
ตึกตักๆๆ
เสียงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะของทั้งคู่ดังขึ้น อาจเป็นเพราะฉากจุมพิตแสนหวานนั่นก็เป็นได้
ต่างฝ่ายต่างก้มหน้างุด ไม่มีใครยอมสบตาใครเลยทั้งสิ้น ก่อนที่ร่างบางจะเอ่ยคำพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบขึ้น
“เจ้าจะประหารข้ารึ” ร่างบางเอ่ยเสียงสั่น ร่างสูงยิ้มนิดๆก่อนจะเอ่ยตอบ
“ใช่ โทษฐานทำประตูข้าพัง” ร่างสูงกล่าวขู่ ร่างบางหน้าเจื่อนลงทันที พร้อมกล่าวขอโทษขอโพยเป็นวรรคเป็นเวร “ข้าขอโทษนะ อย่าจับข้าประหารเลย ข้ายังไม่อยากตาย อีกอย่างประตูยังไม่พังเลย เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ
” ด้วยความใสซื่อนั้น เรียกเสียงหัวเราะจากร่างสูงเป็นอย่างดี
“ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอกน่า ข้าล้อเล่นแค่นี้ไม่รู้ ซื่อบื้อ”
“เจ้าด่าใครซื่อบื้อ !” ร่างบางยื่นหน้าเข้าหาร่างสูงอย่างโมโห ก่อนที่ร่างสูงจะเริ่มนำใบหน้าคมเข้าชิดใกล้
“เจ้าอยากโดนแบบเมื่อครู่อีกรึ” ร่างสูงพูดกระซิบเบาๆ ร่างบางขนลุกซู่ด้วยความเขินอาย ก่อนจะกระชากใบหน้างามออกมาจากใบหน้าคม
“จะบ้าหรือ ใครเขาอยากโดนหญิงด้วยกันจูบ!” ร่างบางสวนกลับพร้อมมองค้อน
“งั้นถ้าเป็นพี่ชายข้า มากกว่าจูบก็ได้ งั้นรึ” ร่างสูงกล่าวขึ้นพร้อมหันหน้าหนีใบหน้าร่างบาง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“เจ้าจะมาหาเรื่องข้าอีกทำไมกัน ! ก็ข้ากำลังจะมาคุยกับเจ้าเรื่องนี้ เจ้าเข้าใจผิด !” ร่างบางดึงข้อมือร่างสูงมาเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงจะหันใบหน้าไปมองมือบางที่ดึงมือของตนอยู่ และค่อยๆช้อนสายตามองหน้าร่างบางช้าๆ
“เข้าใจผิดงั้นหรือ ภาพมันเห็นตำตา เจ้าไม่ต้องอธิบาย ข้าไม่ฟัง!” แผนการแกล้งของเจ้าหญิงยูริค่อยๆเริ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ร่างสูงจะดึงข้อมือของตนออกจากการเกาะกุมของร่างบาง
“ง่า ~ ท่านเจ้าหญิงยูริ ผู้สง่างาม ฟังข้าก่อน ได้โปรด!” ร่างบางของเจ้าหญิงเจสสิก้า กระโดดขึ้นลงราวกับเด็กที่อยากได้ของเล่น พร้อมดึงมือของร่างสูงมากุมเอาไว้อีก
“ไม่ฟัง” ร่างสูงยืนการ พร้อมทำสีหน้าจริงจังใส่ร่างบาง จนร่างบางหลงเชื่อในการแกล้งของร่างสูงอีกครั้ง
“ฟังข้าเถอะ นะ ๆๆ” ร่างบางออดอ้อน
“ไม่ฟัง ไม่ต้องมาออเซาะใส่ข้า จะไปไหนก็ไป” จนบางที
ก็เกรงว่าเจ้าหญิงยูริจะแกล้งแรงไปแล้วเพคะ
“ฮือๆ ฮึก ฟังข้านะ ฮึอๆ ฟังข้าเถอะนะ” น้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่สวยพร้อม เสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ถึงกับสะดุ้งทันที ทำอะไรไม่ถูกกันเลยทีเดียว
‘ข้าแกล้งแรงไปใช่ไหมเนี่ย’
“เฮ้ย ข้า
ข้าล้อเล่น” ร่างสูงกล่าวตะกุกตะกัก มือไม้เก้งก้างไม่รู้จะทำอย่างไร มือใหญ่เรียวค่อยๆลูบที่ผมหอมของร่างบางอย่างเงอะงะ ก่อนที่จะค่อยๆก้มลงมองหน้าร่างบาง
“ล้อเล่น
เจ้าล้อเล่นจริงๆหรือ เจ้าจะฟังข้าจริงๆใช่ไหม เย้ !ๆๆ ข้ารักเจ้าที่สุดเลย” ร่างบางกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ มือบางปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะยิ้มหวานจนกว้างอย่างมีความสุข
“เจ้ารักข้า
จริงหรือ” ร่างสูงเอ่ยพร้อมยักคิ้วหลิ่วตา ก่อนที่ร่างบางจะหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว
“ข้าล้อเล่น !” ร่างบางเอ่ย
“เรื่องของเจ้า ! จะมาคุยไม่ใช่หรือ เข้าไปคุยข้างใน ข้าขี้เกียจยืนคุย” ร่างสูงเอ่ยด้วยเสียงเรียบ พร้อมเดินนำเข้าไปในห้อง ก่อนที่ร่างบางๆจะเดินตามติดเข้าไป
ทั้งสองนั่งลงบนเบาะนั่งก่อนที่ร่างสูงจะค่อยๆรินน้ำชาใส่ถ้วยหินแล้วมอบให้ร่างบาง
“มียาพิษแน่ๆ” ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อใจ
“งั้นก็เอาคืนมา” ร่างสูงกวักมือเรียกถ้วยน้ำชาคืน
“ข้าล้อเล่น ! ฮิๆ” ร่างบางหัวเราะอย่างร่าเริงก่อนจะจิบน้ำชาในถ้วยหินลายสวยช้าๆ ร่างสูงยิ้มพร้อมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะถามเรื่องที่ร่างบางต้องการจะคุยกับตน
“ตกลงเจ้ามีอะไรก็ว่ามา” ร่างสูงรินน้ำชาอีกถ้วยให้ตนเอง ก่อนจะค่อยๆจิบชาไปเรื่อยๆ
“อื้ม
คืออย่างนี้ เจ้าชายมาดูอาการข้า เสร็จแล้วข้าใช้ตะเกียบไม่เป็น ข้าเลยขอให้เจ้าชายสอนให้ แล้วก็แค่ขำๆกัน ก็เหมือนมิตรสหายข้าคนหนึ่ง ข้าไม่ได้คิดกับเจ้าชายแบบนั้นเสียหน่อย อีกอย่าง เจ้านั่นแหละที่ไม่ยอมสอนข้าคีบตะเกียบ !” ร่างบางอธิบายอย่างยาวเหยียด พร้อมมองหน้าร่างสูงอย่างงอนๆ
“อะไร ก็เจ้านั่นแหละที่ตีข้าแรง ข้าก็เจ็บนะ แบบนี้ใครจะไปอยากสอน” ร่างสูงเอ่ยพร้อมทำท่าจิบชาไม่สนใจร่างบาง
“ข้าขอโทษๆๆๆ” ร่างบากล่าวซ้ำๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ร่างสูง
ฝ่ายร่างสูงก็เผลอหลุดยิ้มออกมาเล็กๆ ก่อนจะจิบชาต่อไปเรื่อยๆ ทำเป็นมาดขรึมต่อไป
“เออนี่
แล้วตอนนั้นเจ้าโกรธมากหรือ ทำไมถึงโกรธเล่า”มือบางๆเขี่ยๆเข้าที่มือของร่างสูงเบาๆพร้อมถามอย่างสงสัย
“ก็
ก็ข้าโกรธนี่ เจ้าทำเหมือนรักใคร่กับพี่ชายข้ามาก” ร่างสูงกล่าวปัดๆ
“ต่อให้รักมาก แล้วทำไมเจ้าต้องโกรธล่ะ” ร่างบางถามต่อไปเรื่อยๆ
“ก็โกรธ อยากโกรธ แล้วใครจะทำไม” ร่างสูงกล่าวตอบไปอย่างกวนๆ ร่างบางเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะยิงคำถามที่
“แล้ว
เจ้าจูบ ทำไมอ่ะ” ร่างบางก้มหน้าเขิน ก่อนที่ร่างสูงจะสำลักน้ำชาออกมาระลอกใหญ่
“แค่กๆๆๆ” ร่างสูงก้มหน้าปิดปาก พร้อมสำลักอย่างหนัก ร่างบางตกใจ ด้วยความเป็นห่วงจึงหันหน้าเข้าไปหาร่างสูงใกล้ๆ
“เจ้าเป็นอะไรไหม” ร่างบางเอ่ยถามพร้อมเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ก่อนร่างสูงจะรีบลุกและกระชากตัวร่างบางให้ออกไปจากห้องตัวเองอย่างด่วน
“นี่ ! เจ้าดันข้าทำไมเล่า” ร่างบางตะโกนโหวกเหวก ขณะที่ร่างสูงดันร่างบางให้ออกไปจากห้องเต็มแรง
“ขืนเจ้าอยู่ต่อไป ข้าหนักแน่เลย ออกไปๆๆ” ในที่สุด ร่างสูงก็ดันร่างบางออกไปจากห้องจนได้
ร่างบางที่ตอนนี้อยู่นอกห้องเรียบร้อยแล้วได้แต่มึนงง ก่อนจะเดินกลับห้องตนเองไปอย่างเบลอๆ
ส่วนร่างสูง
ก็ได้แต่ใจเต้นไม่เป็นส่ำเป็นส่าย รู้สึกแปลกๆกับคนตรงหน้าเหลือเกิน
หญิงสาวคนนี้ดูไม่เหมือนใคร ไม่เหมือน ฮาจีวอน หรือหญิงสวยๆอื่นๆที่ตนเคยพบ
ความรู้สึกที่ตอนนี้ร่างสูงมีก็ไม่อาจอธิบายได้ เพราะมันไม่เคยเกิดมาก่อน ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แล้วร่างสูงก็ไม่รู้ ว่ามันคืออะไร
รู้เพียงแค่ว่า
“ถ้าเจ้าอยู่ต่อไป ข้าต้องบ้าตายแน่ๆเลย เฮ้อ !”
.
.
ณ บ้านหลังเล็กๆแห่งหนึ่ง
“แม่ ข้าจะไปดูไร่ผักที่ปลูกเอาไว้เสียหน่อย คราวนี้ข้าไปนานหน่อยนะ ข้าไม่ได้ไปดูนานแล้ว เดี๋ยวพืชผักจะเสียหาย” เสียงทุ้มของร่างโปร่งกล่าวกับผู้เป็นแม่ของตนพร้อมหยิบข้าวของของตนใส่ที่หลังของม้าตัวโปรด
“อืม ดีแล้ว ส่งข่าวคราวมาบ้างนะแทยอน อย่าหายไปแบบคราวก่อนโน้นล่ะ” หญิงวัยกลางคนกล่าวเอ่ยด้วยความเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวของตน ร่างโปร่งของแทยอนหันมายิ้มให้แม่ของตนหนึ่งที ก่อนจะขับเคลื่อนม้าตัวโปรดจากบ้านของตนไปอย่างรวดเร็ว
“ไปแล้วลูกสาวข้า” ร่างของหญิงวัยกลางคนชะเง้อมองด้านหลังของร่างโปร่งที่ควบม้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มในความขยันของลูกสาว และตักกับข้าวขายให้ลูกค้าต่อไป
.
ทางด้านหนึ่งในชนบท
“อือ
อืมม” เสียงงัวเงียดังขึ้น ร่างกายรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด ร่างเล็กๆของหญิงสาวผู้หนึ่งค่อยๆลุกขึ้น จากที่นอน สำรวจไปยังรอบๆ พบเห็นแต่พื้นไม้ หน้าต่างไม้ ของประดับที่ดูบ้านๆ เหมือนกระท่อมหลังเล็กๆในชนบท
“ตื่นแล้วรึ” เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งดังขึ้น ร่างเล็กพยายามมองหาต้นตอของเสียงด้วยความตื่นตระหนก
“ใครกัน เจ้าเป็นใคร” ร่างเล็กเอ่ยถามเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าจับข้ามาใช่หรือไม่ !” ร่างเล็กตะโกนถามเสียงดัง ก่อนที่หญิงสาวผู้หนึ่งจะปรากฏตัวออกมา
ความคิดเห็น