ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC YURI SNSD รักนะ..เจ้าหญิงของข้า YULSIC TAETIF

    ลำดับตอนที่ #6 : Episode 3

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 54


     EPISODE 3

    พระราชากล่าวปิดงานเสร็จเรียบร้อย ทางฝ่ายร่างบางได้แต่ฉีกยิ้มทำท่าสง่างามตามเดิม แต่ความจริงนั้นรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีอะไรลงท้องเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เดินทางมา ทำให้ร่างบางเคืองร่างสูงที่อยู่ข้างๆอย่างมาก

    การปิดงานได้จบลงแล้ว ร่างสูงเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ สร้างความโกรธให้แก่ร่างบางลึกๆ

    ไม่คิดจะถามไถ่กันเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้ามันใจร้ายจริงๆ

    “เอ่อ เจ้าหญิงพะย่ะค่ะ ทรงเป็นอะไรหรือไม่ พระพักตร์ไม่สดใสเลย” เจ้าชายโจซอนกล่าวถามอย่างสุภาพ

    “อ่อ เปล่าหรอก ท่านพูดกับข้าไม่ต้องเป็นทางการเช่นนั้นก็ได้” ร่างบางกล่าวพร้อมยิ้มให้ พลันนึกไปก็แปลกใจไป เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ทำไมนิสัยใจคอ กิริยา การวางตัว ต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้

    “แต่ข้าเห็นเจ้าดูไม่สดชื่นเลย น้องสาวของข้า แกล้งอะไรเจ้ารึ” เจ้าชายถามอย่างเป็นห่วง คำถามนั้นแทงใจร่างบางนัก แต่ก็ตอบไปอย่างดีตามมารยาททั้งๆที่อยากจะกล่าวไปตามความเป็นจริง

    “เปล่าๆ น้องสาวท่านเป็นคนดี มิเคยทำให้ข้าลำบากเลย

    แต่ทำให้ข้าทุกข์ระทมแสนสาหัส ร่างบางคิดอย่างไม่สบอารมณ์ เจ้าชายพยักหน้า ก่อนจะเดินจากไป ฝ่ายร่างบางก็มีนางข้าหลวงนำทางตามเดิม เพราะร่างบางยังไม่รู้ทิศทางในพระราชวังดีนัก

    ……..

    “โอ้ย ปวดท้อง หิวมากเลย” พอถึงห้องประทับ ร่างบางก็ลงไปนอนคุดคู้อยู่บนที่นอนทันที

    ที่นอนที่เมืองควอนกุกเป็นแบบปูพื้นนอน ไม่เหมือนกับที่นอนในเมืองของตนซึ่งเป็นเตียงยกสูงขึ้นจากพื้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอย่างเดียวในตอนนี้ ก็คือ ร่างบางหิวอย่างมาก ทรมานมากๆแล้ว

    “คืนนี้ข้าต้องอดข้าวจริงๆหรือนี่ โอย” ร่างบางรำพึงรำพัน ก่อนจะกำผ้าห่มแล้วนำมากุมที่ท้องของตนเอง เพราะรู้สึกปวดท้องอย่างมาก

    “แล้วข้าจะทำอย่างไรดีเล่า เฮ้อ” ถอนหายใจรอบที่พันแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย ร่างบางจึงได้แต่นอนโอดครวญอยู่อย่างนั้น

     .........

    “เจ้าหญิงเพคะ ได้เวลาสรงน้ำแล้วเพคะ”

    ร่างบางค่อยๆลุกขึ้น และเดินไปยังประตูด้วยสภาพของคนที่หมดเรี่ยวแรง ร่างบางค่อยๆเปิดประตูช้าๆ
    นางข้าหลวงนั้นจึงค่อยๆเดินตามทางไปเพื่อนำทางเจ้าหญิง

    “เอ่อ นี่เจ้า” ร่างบางกำลังจะเอ่ยขอความช่วยเหลือจากนางข้าหลวงเสียหน่อย แต่พลันคิดไปคิดมา มันก็ทำให้เหมือนเด็กน้อยที่คอยเอาแต่ฟ้อง ร่างบางนึกถึงศักดิ์ศรีของตนเองมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะกล่าวตัดไป

    “ไม่มีอันใดๆ ข้าลืมไปแล้ว” เรื่องแค่นี้ สำหรับเจ้าหญิงต้องอดทน ร่างบางนึกคิด ก่อนจะเดินไปยังลานสรงน้ำด้วยความโหยหิว  ไม่ได้สนใจการอาบน้ำแสนสุขสบายเลยสักนิด

    ลานสรงน้ำกว้างใหญ่ สีทองอร่าม มีอ่างทรงกลมกว้าง แกะสลักเป็นลายโบราณอย่างงดงาม ในอ่างบรรจุน้ำที่มีกลิ่นหอม เนื่องจากเหล่านางข้าหลวงได้ผสมเครื่องหอม และดอกไม้นานาชนิดลงไป

    เอาน่า อาบน้ำไป อาจลืมอาการหิวก็ได้ ร่างบางนึกคิด

    เหล่านางข้าหลวงค่อยๆช่วยร่างบางถอดชุดและเครื่องประดับ แล้วนำผ้าสีขาวสะอาดคลุมกายร่างบาง ก่อนที่ร่างบางจะก้าวลงอ่างสรงน้ำ

    อุณหภูมิในน้ำไม่เย็นไม่ร้อนเกินไป กลิ่นหอมฟุ้งทำให้ร่างบางเคลิบเคลิ้มและ ลืมอาการหิวไปสักพัก เหล่านางข้าหลวงบรรจงขัดถูผิวร่างบางอย่างเบามือ และนวดผมร่างบางด้วยเครื่องบำรุงหอมชั้นดี

    “พระฉวีขาวนวลจริงๆเลย หม่อมฉันอยากได้พระฉวีของพระองค์จริงๆ” นางข้าหลวงคนหนึ่งกล่าวชื่นชมผิวพรรณของร่างบาง

    “พระเกศานุ่มลื่นมือนัก สีสวยอีกต่างหาก ข้าก็อยากได้”นางข้าหลวงอีกคนเอ่ยขึ้น พร้อมลูบเส้นผมของร่างบางอย่างชื่นชม ฝ่ายร่างบางยิ้มน้อยๆให้นางผู้นั้น ก่อนจะหันไปสนใจดอกไม้แสนสวยที่อยู่ตรงหน้ามากมาย สุดคณานับ

    หลังจากที่ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นจากน้ำ นางข้าหลวงนำผ้าสีขาวสะอาดผืนเดิมเช็ดกายร่างบางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะนำผ้าอีกผืนมาเช็ดผมให้แห้ง และนำผ้าแพรสีฟ้าอ่อนผืนยาวสำหรับคลุมมาคลุมกายร่างบางอย่างมิดชิด และพาเดินออกจากลานสรงน้ำเพื่อตรงไปยังห้องประทับทันที

    ทันใดนั้น เพียงแวบเดียว ความรู้สึกเก่าก็กลับมาเยือน ภายในท้องรู้สึกปวดนิดๆ

    ข้ากลับมาหิวอีกแล้ว ร่างบางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ค่อยๆเดินกลับไปยังห้องประทับอย่างหมดแรงอีกครั้ง

    ……

    ฝ่ายร่างสูงอยู่ในห้องประทับของตนเองก็มัวแต่คิดถึงเรื่องร่างบาง ใครว่าเจ้าตัวใจร้าย ความจริงก็แอบเป็นห่วงไม่ใช่น้อย

    “นี่ข้าแกล้งเจ้าแรงไปหรือเปล่านะ” ร่างสูงนึกพลันก็เดินไปเดินมาอยู่ไม่สุข

    “ไปดูหน่อยดีกว่า” ร่างสูงกล่าวกับตนเอง พร้อมทำท่าจะเปิดประตู แต่แล้วก็งงกับตนเองจนได้

    “อะไรกัน แค่คนๆเดียว ทำไมข้าต้องห่วงด้วยเล่า ! ใช่ ! วันนี้ข้ามีนัดกับฮา จีวอน ข้าไปมีความสุขเสียดีกว่า คิดเรื่องเจ้าทำไมไม่รู้ให้หนักหัว”ร่างสูงกล่าวกับตนเองเพื่อให้ลืมเรื่องร่างบาง ก่อนจะแต่งกายให้ดูดี เรียบร้อย และหยิบอัฐไปจำนวนหนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องไป

    ร่างสูงเดินอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่แล้วก็หยุดชะงัก เมื่อพบเจอร่างบางที่ตนพึ่งแกล้งไปสดๆร้อนๆ

    แต่แล้วก็ต้องตะลึงอีกครั้ง เมื่อร่างบางอยู่ในเสื้อคลุมผ้าแพรสีฟ้าอ่อนตัวบางเท่านั้น หยดน้ำเกาะตามใบหน้างาม ลำคอขาวผ่องและเส้นผม ส่วนเสื้อคลุมก็แนบชิดเนื้อผิว ยิ่งมองยิ่งเย้ายวน กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ ฟุ้งกระจายไปทั่ว ร่างสูงไม่สามารถหยุดมองได้เลย แต่ก็ความพยายามสูงซะเหลือเกิน ร่างสูงทำเป็นไม่มอง ไม่สนใจ และรีบเดินจากไปทันที ทั้งๆที่ใจแทบอยากจะครอบครองร่างบางเหลือเกิน ร่างบางเมื่อเห็นท่าทีว่าร่างสูงไม่สนใจไถ่ถาม ทำท่าทีเหมือนโกรธเรื่องที่ตนเผลอตีร่างสูงไป ก็รู้สึกผิดนิดๆ แต่เรื่องที่ทำให้ตนไม่ได้กินข้าวนั้น...

    น่าโมโหยิ่งกว่าหลายเท่านัก

    ในที่สุด ร่างบางก็เดินไปถึงห้องประทับของตน ร่างบางเดินไปยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ที่แกะสลักเป็นลายงดงาม หยิบน้ำมันบำรุงมาทาตัว ให้สดชื่น พลางนึกถึงร่างสูง ก่อนจะบ่นออกมาอย่างน้อยใจ

    “ข้าตีเจ้านิดเดียวเอง ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ ข้าต้องอดข้าวเช่นนี้ น่าโกรธกว่าตั้งหลายเท่า” ร่างบางทำหน้าเศร้าก่อนจะมองตนเองในกระจก “ข้าหิวอีกแล้ว ทำอย่างไรข้าก็ไม่หายหิว”

    ร่างบางถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะหยิบชุดนอนสีชมพูอ่อนแขนยาว เป็นลูกไม้ระบายๆดูน่ารัก ร่างบางนอนลงบนที่นอนแล้วก่ายหน้าผาก พยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ไม่ยอมหลับเพราะความหิวประดังเข้ามา จนในที่สุดร่างบางทนไม่ไหว คิดแผนการอันชั่วร้ายไปต่างๆนานา

    “จะดีหรือนี่ แต่ถ้าข้าไม่ทำ ก็ต้องอดตายแน่ๆ” ร่างบางตัดสินใจ กระทำตามสิ่งที่ตนเองคิด

    ร่างบางนำเสื้อคลุมบางๆมาคลุมหน้าคลุมตา หยิบตะเกียงที่ตั้งอยู่ตรงหัวนอน นำอัฐที่ตนพอมีติดตัวเล็กน้อยไปด้วย แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป

    ถึงร่างบางจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่ด้วยความจำที่ดี จึงทำให้ร่างบางจำทิศทางต่างๆในพระราชวังได้บ้างพอสมควร ร่างบางค่อยๆหาทางออกไปจากพระราชวังด้วยความยากลำบาก

    เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ทุกอย่างมืดไปหมด ถึงจะมีตะเกียง แต่ความสว่างก็ยังไม่มากพอ ร่างบางพยายามฝ่าฟันสุดฤทธิ์ จนในที่สุดก็หาทางออกจากพระราชวังได้ โดยการอาศัยจังหวะช่วยที่ทหารเผลอ รีบวิ่งออกมา ร่างบางยิ้มดีใจกับตนเอง ก่อนจะจัดผ้าคลุมให้คลุมหน้าตนเองให้มิดชิด ร่างบางพยายามนึกถึงเส้นทางที่ตนได้เดินทางมา

    “ข้าพอจะจำได้ ว่าเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปมีอาหารขายเยอะ” ร่างบางนึก แล้วรีบเดินไปทันที

    ถูกต้อง ร่างบางไปถูกทางแล้ว แต่โชคชะตาไม่เข้าข้างเอาซะเลย เมื่อมีชายแก่รูปร่างหน้าตาน่ากลัวฉุดร่างบางไปทันทีอย่างรวดเร็ว ร่างบางพยายามสู้ แต่ไม่สามารถต้านทานแรงได้

    “เจ้าคนสวย มาทำอะไรตอนดึกแบบนี้ หืมม “ ชายแก่ตัวใหญ่หน้าขยะแขยงเอ่ย ร่างบางกลัวมาก ตัวสั่นไปหมด ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ทุบตีชายผู้นั้น แต่ชายผู้นั้นก็กระชากข้อมือบางอย่างรุนแรง

    “แต่งกายแบบนี้ เป็นเจ้าหญิงมาจากเมืองใดรึ งดงามเหลือเกิน หึๆๆ” ชายแก่หน้ากลัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ร่างบางน้ำตาไหลด้วยความกลัว “อย่าทำอะไรข้าเลย ข้าขอร้อง”

    “หุบปาก !” ชายแก่บีบข้อมือร่างบางอย่างรุนแรง ร่างบางร้องไห้อย่างหนักด้วยความตกใจกลัว

    “เห้ย ! รังแกผู้หญิงรึ ไอบ้ากาม !” ทันใดนั้น ก็มีชายรูปร่างคุ้นตาปรากฏกายขึ้น ร่างบางรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยที่มีผู้มาช่วยเหลือ ส่วนชายแก่บ้ากามคนนั้น เมื่อเห็นหน้าชายรูปงามผู้นั้นก็รีบวิ่งหนีไปทันที

     “โถ ไอขี้ขลาด พอเห็นข้าก็วิ่งหนีเชียวเอ่อนี่ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมรีบวิ่งไปดู

    “ขอบคุณเจ้ามากนะที่ช่วยข้า ข้าไม่เป็นไรแล้ว อ่ะ ท่านเองหรือ โจซอน” ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อคนที่มาช่วยร่างบางก็คือ เจ้าชายโจซอนนั่นเอง

    “อ่าว เจสสิก้า เจ้ามาทำอะไรกลางค่ำกลางคืนเยี่ยงนี้ มันอันตรายมาก” เจ้าชายโจซอนเอ่ยถามขึ้น

    “เปล่าหรอก ข้าจะกลับแล้วล่ะ” ร่างบางรีบลุกขึ้นทันที แต่แล้วความเจ็บที่ข้อเท้าก็แล่นขึ้นมาทันที อาจเป็นตอนที่โดนฉุด ขาของร่างบางคงจะพลิก

    นอกจากข้าจะไม่ได้กินอะไรแล้ว ยังต้องเจ็บตัวอีก

    ร่างบางคิดอย่างสมเพชตนเอง ก่อนจะลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เจ้าชายโจซอนจึงช่วยประคองร่างบาง แล้วนำไปส่งที่พระราชวัง

    เหล่าทหารเมื่อเห็นเจ้าหญิงบาดเจ็บก็ตกใจมาก จึงช่วยกันประคองนางไปส่งที่ห้องประทับทันที

    ฝ่ายเจ้าชายต่อว่าเหล่าทหารอย่างหนัก และได้ตักเตือนเหล่าทหารและเจ้าหญิงไป “พวกเจ้าต้องไปประมาท ห้ามประมาทอีก ! ส่วนเจ้าหญิงนั้น ต่อไปนี้อย่าได้คิดออกไปในยามวิกาลแบบนี้อีก มันอันตราย” ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนเจ้าชายและเหล่าทหารจะพากันออกไปจากห้องประทับ นางข้าหลวงต่างเอายามาถวายและทำแผลให้ร่างบาง ฝ่ายร่างบางก็ได้แต่นั่งซึม รู้สึกผิดที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย

    …………………………………………..

    ……………………..

    รุ่งเช้า

    ร่างบางลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ก่อนจะพบว่ามีนางข้าหลวงคนหนึ่งนำพระกระยาหารมาตั้งไว้ที่โต๊ะ พร้อมกับเจ้าชายโจซอนที่ยืนจ้องหน้าตนอยู่

    ร่างบางขยี้ตา และค่อยๆลุกขึ้นนั่ง กล่าวทักทายเจ้าชายอย่างเป็นมิตร “โจซอน ท่านมีอะไรรึ มาถึงห้องข้าเชียว” ร่างบางยิ้มไปให้เจ้าชาย ฝ่ายนั้นก็ยิ้ม แล้วตอบร่างบางด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “ข้ามาดูอาการเจ้า”

    “ขอบใจท่านมากนะ” ร่างบางกล่าวตอบ

    “ใช่ ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า ในตอนเช้า จะมีการนำอาหารมาให้ที่ห้องนะ ส่วนตอนกลางวัน และตอนเย็น เจ้าต้องไปที่ห้องเสวยใหญ่ จะมีนางข้าหลงนำเจ้าไป” เจ้าชายโจซอนกำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้น ร่างบางก็ได้จับเบาๆที่ชายเสื้อของเจ้าชาย

    “เอ่อ ท่าน ไอเจ้านี่ มันใช้อย่างไรหรือ ข้า ข้าใช้ไม่เป็น” ร่างบางได้ทีก็เอ่ยถาม ส่วนเจ้าชายยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วช่วยสอนอย่างใจดี

    ……………..

    …….

    ณ ห้องประทับของเจ้าหญิงยูริ

    ร่างสูงเมื่อรู้ว่าร่างบางนั้นบาดเจ็บจากการออกไปข้างนอกพระราชวังในเมื่อคืน ก็รู้ทันทีว่าเพราะอะไร ร่างสูงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องของตน ครุ่นคิดอยู่คนเดียว ด้วยความเป็นห่วงร่างบางโดยไม่รู้ตัว

    “ข้าจะไปเยี่ยมเจ้าดีหรือไม่นะ” ร่างสูงกุมขมับ “เอาเถอะ ไปสักหน่อยก็ดี” ร่างสูงรวบรวมความกล้า แต่ก็มาสะดุดอีก เมื่อนึกไปดีๆ ร่างสูงก็ไม่เข้าใจว่าจะเป็นห่วงร่างบางอีกทำไม

    “ข้าห่วงเจ้าทำไมกันเล่าฮึ่ย” ร่างสูงลงไปนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดพร้อมคิดแล้วคิดอีก

    “ข้าไม่ได้ห่วงสักหน่อย แค่รู้สึกผิดเท่านั้นเอง ! แล้วข้าจะรู้สึกผิดทำไมกันเล่า เฮ้อ!

    ….

    “เอาเถอะ ไปก็ได้ ข้าไปเพราะอยากรู้นั้นว่าเจ้าตายหรือยัง ไม่ใช่เพราะห่วงหรือรู้สึกผิด !” ร่างสูงเปิดประตูออกไปทันที พร้อมจิตใจที่เต้นรัวโดยที่ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด

    ร่างสูงเดินมาจนถึงห้องของร่างบาง แล้วค่อยๆเปิดประตู

    แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าแล้ว ก็ทำให้ร่างสูงโกรธอย่างมาก

    เจ้าชายโจซอนกำลังช่วยเจ้าหญิงเจสสิก้าคีบอาหาร หัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน  เจ้าชายโจซอนเอื้อมมือของตนกุมมือร่างบาง แล้วค่อยๆคีบอาหารขึ้นมาอย่างอ่อนโยน หนำซ้ำ เจ้าชายยังป้อนอาหารให้ร่างบางอีก

    ร่างสูงปิดประตูเสียงดังด้วยความโมโห มือทั้งสองข้ามกำแน่น แล้วรีบเดินกับไปยังห้องของตนเองทันที

    “สนุกกันดีจริงนะ หึ” ร่างสูงสบถอย่างโกรธเคือง

    ฝ่ายร่างบางเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดดังปังก็ตกใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร นั่งคีบอาหารเข้าปากต่อไปเรื่อยๆ พร้อมคุยกับเจ้าชายอย่างสนุกสนาน

    “พระองค์ทรงเสวยเสร็จรึยัง เพคะ” นางข้าหลวงถาม

    “อื้ม เสร็จแล้ว” ร่างบางตอบก่อนจะหันไปทางเจ้าชายโจซอน

    “ท่านยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ท่านรีบไปก่อนเถิด” ร่างบางบอกกับเจ้าชาย

    “งั้นข้าไปก่อนล่ะนะ” เจ้าชายยิ้มให้ “เพคะ” ร่างบางยิ้มตอบ ก่อนที่เจ้าชายจะเดินออกไปจากห้องของตน ร่างบางค่อยๆเดินกระเผลกๆไปที่หน้าต่าง ก่อนจะค่อยๆเปิดหน้าต่างสูดอากาศสดชื่น

    “เจ็บทั้งข้อมือ เจ็บ ทั้งขา ทำไมชีวิตข้ามาอาภัพเยี่ยงนี้ ~” ร่างบางพูดกับตัวเองก่อนจะค่อยๆเดินไปส่องกระจกเพื่อดูข้อมือของตนที่บวมช้ำ ก่อนจะมองไปที่ข้อเท้าที่บวมช้ำไม่แพ้กัน ร่างบางถอนหายใจ ก่อนจะนึกถึงร่างสูง และเสียงประตูที่ปิดเสียงดัง

    “หรือเป็นเจ้ากันนะที่เปิดประตูเข้ามา” ร่างบางนึกไปเล่นๆ

    “เจ้าเนี่ยน่ะหรือ จะเป็นห่วงข้า~” ร่างบางม้วนปลายผมตนเองเล่นๆ พลางพูดไปเรื่อยๆ “เจ้าเป็นห่วงข้าหรือนี่ น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ...... บ้าๆๆ ข้าพูดอะไรเนี่ย เจ้าเป็นผู้หญิงนะ” อยู่ๆร่างบางก็ลงไปนอนทุบหมอนด้วยความเขินอาย ทำไมตอนนี้เจ้าตัวรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน อาจเป็นเพราะคนร่างสูงเหมือนชายกระมัง

    “เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆ ลองไปหาดูหน่อยละกัน จะได้ไปขอโทษด้วยที่เผลอตีแรงไปหน่อย” ร่างบางยิ้มหวาน ก่อนจะค่อยๆเดินไปที่ห้องคนร่างสูง

    “ว่าแต่ว่า ห้องเจ้านั่นอยู่ไหนล่ะเนี่ย” ร่างบางเดินหา ก่อนจะลองสุ่มเดาไปเรื่อยๆ ร่างบางลองขึ้นบันไดไปชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เดินหาไปทั่ว

    ในเวลาเดียวกัน ร่างสูงเปิดประตูออกมาจากห้อง ร่างบางจึงรู้ทันที ว่าห้องร่างสูงอยู่ที่ไหน

    “เจ้าอยู่นี่เองรึ ข้าหาอยู่ตั้งนาน” ร่างบางยิ้ม ก่อนค่อยๆเดินไปหา ร่างสูงมองคนร่างบางด้วยสายตาเรียบเฉย คนร่างบางไม่ใส่ใจ ยังยิ้มและเดินเข้าไปหา

    “ตอนเช้าๆ เจ้ามาหาข้าใช่หรือไม่” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงสดใส ร่างสูงเห็นดังนั้น จึงกระชากตัวร่างบางเข้ามาในห้องของตนทันทีพร้อมใส่กรประตูห้องอย่างรวดเร็ว ร่างบางร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    “โอ้ย ข้าเจ็บแขนอยู่นะ ! เจ้ากระชากทำไมเล่า” ร่างบางตะโกนดังลั่น

    “หึ เจ็บงั้นรึ คนอย่างเจ้ามันเจ็บเป็นด้วยรึ ข้าไม่ยักรู้” ร่างสูงพูดจาไม่ดี ร่างบางทั้งงงทั้งสงสัย

    “ทำไมเจ้าพูดเช่นนี้” ร่างบางเอ่ยถามพร้อมพยายามกระชากมือออก แต่ร่างสูงก็ใช้แรงที่มีมากกว่าของตนตรึงมือทั้งสองข้างของร่างบางไว้กับกำแพง

    “เจ้าหญิงผู้ดูอ่อนต่อโลกอย่างเจ้าความจริงก็ออเซาะผู้ชายไปทั่วนั่นแหละ !” ร่างสูงพูดจาดูถูกร่างบาง มองด้วยสายตาเหยียดหยาม  จนร่างบางเกิดอารมณ์โมโหด้วยเช่นกัน

    “เจ้าพูดอะไร ! ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย” ร่างบางไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างสูงพูดแม้แต่น้อย ส่งสายตาเป็นคำถามให้ร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ

    “ไม่ต้องมาทำไร้เดียงสา ที่เจ้ายอมให้ไอโจซอนมาจับมือถือแขน ป้อนอาหารให้แก่เจ้า มันก็รู้แล้ว ว่าเจ้ามันก็ไม่ต่างอะไรจากนางโสเพณี ข้าอยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าไอโจซอน มันกอดเจ้า จูบเจ้า เจ้าจะทำเช่นไร คงให้ท่าต่อ ให้ทำถึงไหนต่อไหนเลยสิ !” ร่างสูงกล่าวดูถูกเหยียดหยามอย่างถึงที่สุด ร่างบางโมโหมาก ไม่สนใจความเจ็บที่ข้อมือของตน รวบรวมแรงทั้งหมดกระชากข้อมือออกแล้ว ตบเข้าไปที่ใบหน้าของร่างสูงอย่างรุนแรง

    “เจ้าพูดจาพล่อยๆแบบนี้กับข้ายังไม่พอ ยังจะเรียกพี่ชายแท้ๆของเจ้าเช่นนี้อีก เจ้ามันสารเลวจริงๆ” ร่างบางพูดด่าว่าร่างสูงอย่างรุนแรง ก่อนจะรีบออกจากห้องทันที

    แต่ไม่ทันได้ออกจากห้อง ร่างสูงคว้าแขนร่างบางไว้ทันท่วงที

    “ปล่อย ปล่อยสิ ! ข้าเกลียดเจ้า !” ร่างบางพยายามกระชากแขนกลับ

    “ทำไม ! ข้าด่ามันไม่ได้เลยใช่ไหม ไอโจซอนน่ะ ห๊ะ ! เจ้าออกรับแทนมัน เจ้าปกป้องมัน !” ร่างสูงตะโกนเสียงดัง ร่างบางใช้มือที่เหลืออีกข้างตบหน้าร่างสูงอีกครั้ง ก่อนจะพูดกลับด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนที่เต็มไปด้วยความโมโหและเสียใจ

    “โจซอนน่าปกป้อง เพราะเขาเป็นคนดี ไม่ได้เลวเหมือนเจ้า ! เจ้ามันเป็นคนสารเลวที่สุดเท่าที่เคยพบเคยอุ้บ อื้มม ” ร่างสูงไม่ปล่อยให้ร่างบางกล่าวด่าทอตนเองต่อ ก็ประกบริมฝีปากของตนลงที่ริมฝีปากของร่างเล็กอย่างรุนแรงและแนบแน่น ร่างบางตกใจมาก พยายามดันตัวร่างสูงออกแต่ไม่เป็นผล ร่างสูงดูดริมฝีปากของร่างบางอย่างหนักหน่วง ใช้โอกาสตอนที่ร่างบางหายใจแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงบางอย่างหิวกระหาย ลิ้นร้อนของร่างสูงดูดดุนลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม ยาวนาน ก่อนจะกลับมาจุมพิตริมฝีปากล่างของร่างบางอย่างหลงใหล ดูดกลืนริมฝีปากสวยของร่างบางจนเจ้าตัวแทบยืนไม่ไหว มือบางที่ตอนแรกใช้ทั้งผลักทั้งตบร่างสูงบัดนี้ได้แข็งทื่อไปเสียแล้ว ร่างบางนั้นเคลิบเคลิ้มไปกับรสจุมพิตที่เกิดจากความโมโหโทสะของร่างสูงไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่ร่างสูงจะค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ มองที่ดวงหน้าของร่างบางที่ตอนนี้ซับสีแดงระเรื่อไปหมด ริมฝีปากเจ่อบวมเล็กน้อยจากการจุมพิตที่หนักหน่วงเมื่อครู่ ตอนนี้ทุกอย่างพลันเงียบ

    มีแต่เสียงหัวใจที่เต้นแรงของทั้งสองคน ร่างบางรู้สึกเขินอายเหลือเกิน จึงพูดจาเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

    “เจ้าคนวิปริต !” ร่างบางเอ่ยก่อนจะรีบวิ่งออกไป ฝ่ายร่างสูงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่เข้าใจความรู้สึกตนเอง

    ร่างบางวิ่งไปกุมใบหน้าที่แดงจัดของตนเองไป  พร้อมเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

    “เจ้าบ้า เจ้าวิปริต !...

    อ๊า ~ ฉากจูบฉากแรกที่เราเขียนในชีวิต 555555

    แททิฟรอตอนหน้านะคะ ^^

    ขอร้อง เม้นต์ + โหวต ด้วยนะคะ ^^

    ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ ^^ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×