ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic Haikyuu(Allคาเงยามะ) รวมฟิคสั้นคาเงยามะเคะ

    ลำดับตอนที่ #3 : Fic Haikyuu (Tsukishima x Kageyama) : Say it

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 59



    Title : Say it

    pairing : Tsukishima x Kageyama

    Rate : PG-13



    *****************************************


     

                    เวลาพักเที่ยงของโรงเรียนคาราสึโนะ เด็กหนุ่มผมสีส้มเข้มแห่งชมรมวอลเลย์บอลเดินเร็วๆไปที่ห้องของคู่หูจอมเอา แต่ใจของเขา คิดว่าจะชวนคาเงยามะมากินข้าวเทียงด้วยกันซักหน่อยเพราะวันนี้แม่ของเขาทำ กับข้าวมาเผื่อเด็กหนุ่มร่างสูงผมดำด้วย แต่เมื่อเขาเดินไปห้องเรียนของคาเงยามะ เขากลับไม่เจอเด็กหนุ่มคนนั้น

                   “นี่ คาเงยามะไปไหนหรอ?” ฮินาตะถามนักเรียนหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องกับคาเงยามะ

                   “ไปไหนกับผู้ชายตัวสูงๆ ผมสีบลอนด์ก็ไม่รู้”

                   “ผมบลอนด์? เขาใส่แว่นตาสีดำด้วยใช่รึเปล่า?”

                   “อือ ใช่”

                   คนที่คาเงยามะไปด้วยคือสึกิชิมะแน่ๆ แต่ว่า ปกติสองคนนั้นไม่ชอบหน้ากันนี่นา แล้วทำไมถึงไปไหนด้วยกัน?

                   ฮินาตะเก็บความสงสัยนั้นไว้จนถึงเวลาซ้อมตอนเย็น เด็กหนุ่มตัวเล็กเดินไปที่โรงยิมพร้อมคาเงยามะ โทบิโอะ ‘ราชาเจ้าคอร์ต’ ดังเช่นทุกวัน

                   “คาเงยามะ ตอนเที่ยงฉันไปหานายที่ห้องเราเพื่อนร่วมห้องน้องบอกว่านายออกไปกับคนที่ท่า ทางเหมือนสึกิชิมะ ใช่สึกิชิมะจริงๆรึเปล่า?” ฮินาตะถามขึ้น

                   “ใช่”

                   “ปกตินายกับหมอนั่นไม่ชอบขี้หน้ากันไม่ใช่หรอ แต่ช่วงนี้นายดูสนิทกับหมอนั่นมากกขึ้นนะ มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?” คนถามมุ่นคิ้ว น้ำเสียงที่ถามนั่นเต็มไปด้วยความสงสัย

                   “จะรู้ไปทำไม? แล้วนายไปหาฉันที่ห้องทำไม?”

                   “แม่ฉันทำกับข้าวมาเผื่อนายด้วย ก็เลยจะเอามาแบ่งให้นายกิน”

                   “มีอะไรบ้าง”
                   “คาราเกะกับไข่หวาน อร่อยสุดๆเลยล่ะ”

                   และแล้วฮินาตะก็โดนคาเงยามะเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างเนียนๆ

                   เมื่อคาเงยามะและฮินาตะเดินมาถึงห้องชมรม สึกิชิมะและยามากุจิที่เป็นเสื้อเป็นชุดวอร์มแล้วกำลังเปิดประตูออกมาจาก ห้องชมรมพอดี เด็กหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์ยกมือขึ้นลูบหัวคาเงยามะด้วยใบหน้านิ่งสองสามที เด็กหนุ่มผมส้มมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าตกใจ สึกิชิมะเดินไปที่โรงยิมใกล้โดยมีฮินาตะมองตามด้วยสีหน้าแปลกใจในขณะที่คน ถูกลูบหัวมองคนตัวสูงกว่าที่เดินห่างออกไปด้วยสีหน้านิ่งเฉยอยู่ซักพักหนึ่ง ก่อนจะเข้าห้องชมรมไปเปลี่ยนชุด

                   “คาเงยามะ นายไม่โกรธ?” ฮินาตะเดินมาถามคาเงยามะที่กำลังจะเปลี่ยนเสื้อด้วยน้ำเสียงและสีหน้าแปลกใจ

                   “ไม่” ตอบเสียงเรียบ และจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองเป็นชุดวอร์มก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วย มีฮินาตะมาองตามด้วยสีหน้าสงสัยและแปลกใจ

                   “มีเรื่องอะไรกันหรอ ฮินาตะ?” สึกาวาระที่ได้ยินการสนทนาของเด็กหนุ่มผมส้มและคาเงยามะเมื่อคู่เดินมาถาม

                   “เปล่าครับ... ช่วงนี้คาเงยามะกับสึกิชิมะดูสนิทกันมากกว่าเดิม เพราะอะไรหรอครับ?”

                   “คาเงยามะยังไมได้บอกนายหรอว่าเขาคบกับสึกิชิมะ”

                   “หา!! สึกิชิมะกับคาเงยามะเนี่ยนะ!?” ฮินาตะแหกปากลั่น

                   “จริงหรอครับสึกะซัง!?” ทานากะที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบปรี่เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

                   “อะ อือ เมื่อสามวันก่อนฉันสังเกตเห็นว่าสึกิชิมะดูสนิทกับคาเงยามะมากขึ้น ก็เลยไปถามสึกิชิมะว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ตอบว่ากำลังคบกับคาเงยามะอยู่”

                   จบคำพูดของสึกาวาระทั้งห้องชมรมก็เต็มไปด้วยเสียงฮือฮา ไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคนที่เกลียดขี้หน้ากันที่สุดในทีมจะมาคบกันเองแบบนี้ เข้าข่ายเกลียดอะไรแล้วได้แบบนั้นจริงๆ หัวข้อการสนทนาของสมาชิกทีมวอลเลย์บอลในห้องชมรมกลายเป็นเรื่องของสึกิชิมะ และคาเงยามะทันที ทุกคนต่างออกความเห็นมาคนละนิดคนละหน่อยก่อนจะเริ่มทยอยออกจากห้องไปที่โรง ยิม ที่นั่น สึกิชิมะและคาเงยามะดำลังยืนอยู่ท่ามกลางสมาชิกทีมวอลเลย์บอลคาราสึโนะ

                   “แหม ไม่นึกเลยว่านายสองคนจะคบกัน” ทานากะพูดแล้วหัวเราะ มือตบหลังสึกิชิมะเบาๆ

                   “ตอนนี้พวกนายดูเขากันแบบแปลกๆเลยล่ะ” นิชิโนยะพูด

                   “รูปประโยคมันฟังดูไม่มีเลยนะ นิชิโนยะ” อาซาฮิพูดกับนิชิโนยะเสียงแผ่ว

                   “ดีแล้วล่ะนะที่พวกนายสองคนเข้ากันได้ดี” กัปตันทีมไดจิพูดขึ้น

                   ทุกคนพูดแสดงความยินดีกับพวกเขาราวกับกับว่าเขาทั้งสองคนกำลังจะแต่งงานกัน อย่างงั้นแหละ สึกิชิมะดูนิ่งๆ ไม่เขินอายกับคำอวยพรและคำแซว ต่างจากคาเงยามะ เด็กหนุ่มดูเกร็งและประหม่า แก้มเนียนทั้งสองข้างขึ้นสีแดงอ่อนๆ นั่นทำให้นิชิโนยะและทานากะแซวทั้งสองคนมากขึ้น

                   “ฉันแปลกใจมากเลยนะที่พวกนายเป็นแฟนกัน คาเงยามะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับนายเลย พอบอกว่าพวกนายดูสนิทกันเขาก็พูดเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่ยอมบอกเลยว่าเป็นแฟนกับนาย” ฮินาตะพูด

                   “งั้นหรอ?” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันไปมองคนผมดำที่ยืนอยู่ด้านข้าง ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ร่างสูง มีเรื่องให้คิดมากผุดขึ้นมาในหัว

     

     

     

     

                   สายวันเสาร์

                   บนเตียงหนาขนาดไม่ใหญ่ มีชายหนุ่มสองคนนอนชิดกันอยู่ เด็กหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์ตัดสั้นกำลังนอนเท้าคาง ใช้มือข้างหนึ่งเกลี่ยผมสีดำของคนข้างตัวที่กำลังหลับอยู่เล่น ‘คาเงยามะ โทบิโอะ’เมื่อก่อนเขาคือเด็กผู้ชายที่ชอบดีหน้าไม่พอใจและชอบพูดจาหาเรื่อง ใส่สึกิชิมะ และสึกิชิมะก็เป็นคนที่ชอบพูดจากวนโมโหอีกฝ่าย เพราะหมั่นไส้ที่อีกฝ่ายทำตัวเจ้าบงการเวลาอยู่ในคอร์ตสนามวอลเลย์บอล แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก คาเงยามะไม่ใช่ราชาจอมเผด็จการในคอร์ตอีกแล้ว และตอนนี้เด็กหนุ่มร่างเพรียวก็เป็นแฟนกับสึกิชิมะ

                   พอมาลองคิดๆดู มันดูไม่น่าเชื่อเลยที่คนอย่างสึกิชิมะมีแฟนเป็นผู้ชายแถมยังเป็นคาเงยามะ ที่มีเรื่องไม่ลงรอยกับเขามาตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก เด็กหนุ่มร่างสูงจำไม่ได้ว่าเขาเริ่มชอบคาเงยามะตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว คงเพราะนิสัยของคาเงยามะที่เริ่มเปิดใจรับคนอื่นและท่าทางเกร็งของคนตัวเล็ก กว่ามันน่ารักน่าแกล้ง พอแกล้งมากเขาก็ดันสนิทกันมากขึ้นและตกหลุมรักไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว

                   เมื่อนึกถึงเรื่องดีๆในอดีต รอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของสึกิชิมะ หลังจากรู้ตัวว่าชอบคาเงยามะ เด็กหนุ่มใช้เวลาอยู่นานพอสมควรกว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกชอบเขาได้ แต่ถึงคาเงยามะจะชอบสึกิชิมะแล้วแต่เด็กหนุ่มผมดำก็ยังคงปากแข็งและไม่แน่ใจ กว่าร่างสูงจะได้คำตอบตกลงจากร่างเพรียวก็กินเวลาไปเป็นวันเลย ลำบากจริงๆกว่าจะทำให้คนปากแข็งตรงหน้าพูดความในใจออกมาได้ซักนิดหนึ่ง

     

                   ‘คาเงยามะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับนายเลย พอบอกว่าพวกนายดูสนิทกันเขาก็พูดเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่ยอมบอกเลยว่าเป็นแฟนกับนาย’

     

                   คำพูดของฮินาตะเมื่อ 2 วันก่อนผุดขึ้นมาในหัวสึกิชิมะ พอเขามาลองนึกๆดู เขาไม่เคยได้ชอบคาเงยามะพูดว่า‘ชอบ’เขาเลย พอถามไปก็หลีกเลี่ยงการพูดคำนั้นตลอด

                    “...” สึกิชิมะทิ้งตัวนอนหงายอยู่ข้างคาเงยามะที่นอนหันข้างมาทางเขา ใบหน้าของเด็กหนุ่มร่างสูงเหม่อมองเพดาน ภายในหัวคิดกำลังคิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องๆหนึ่ง

                   “คิดอะไรอยู่?” จู่ๆเสียงทุ้มของคาเงยามะก็ดังขึ้น สึกิชิมะหันมามองคนข้างตัว ดวงตาเรียวที่ก่อนหน้านี่เคยปิดอยู่ ตอนนี้กำลังจ้องมองเขา

                   “ไม่มีอะไร ตอนนี้สายแล้ว ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว”

                   “...” เด็กหนุ่มผมดำยังคงนอนอยู่ท่าเดิม ใบหน้าคมมุ่นคิ้วมองคนตัวสูงกว่า

                   “ไปอาบน้ำ” ร่างสูงย้ำ

                   “...รู้แล้วๆ” คาเงยามะลุกจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้าของสึกิชิมะก่อนจะหยิบเสื้อยืดออกมา ตัวหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็หยิบผ้าขนหนูของร่างสูงมาและเดินไปเข้าห้องน้ำที่แยกอยู่ นอกห้อง

                   ผ่านไปประมาณ 20 นาที คาเงยามะก็กลับเข้ามาในห้อง เสื้อยืดที่คาเงยามะใส่เป็นของสึกิชิมะมันจึงหลวมโครงสำหรับเขา ร่างเพรียวนั่งตรงริมเตียง

                   หมับ

                   “...!” ร่างสูงที่ก่อนหน้านี้นอนอยู่บนเตียงลุกขึ้นมานั่งซ้อนตัวคาเงยามะ วงแขนแกร่งโอบเอวร่างเพรียวหลวมๆ เด็กหนุ่มผมดำหันไปมองคนด้านหลังด้วยสายตานิ่งๆก่อนจะเอนตัวพิงร่างสูง

                   “...” เด็กหนุ่มผมดำไม่พูดอะไรออกมาเลย

                   “...ทำไมถึงไม่บอกฮินาตะว่านายกำลังคบกับฉัน” สึกิชิมะถามขึ้นมาเสียงนิ่ง

                   “นายกังวลเรื่องคำพูดนั้นมาตั้งแต่วันนั้นแล้วสินะ?”

                   “ตอบสิ ทำไม?” ร่างสูงก้มมองคนในอ้อมแขน

                   “เพราะฉันรู้ว่าถ้าฮินาตะรู้มันจะวุ่นวายไงถึงไม่บอก คิดว่าจะปล่อยไปซักพักก่อนแล้วค่อยบอก”

                   “...” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใต้แว่นกรอบดำมองคนผมดำในวงแขนด้วยสายตานิ่ง

                   เด็กหนุ่มผมดำเอี่ยวตัวหันมามองหน้าร่างสูง

                   “สายตาแบบนั้นมันอะไร ไม่เชื่อฉันรึไง?” คาเงยามะมุ่นคิ้ว

                   “เปล่า... นายชอบฉันรึเปล่า?”

                    “ถามอะไรของนายวะ ถ้าไม่ชอบแล้วจะตกลงคบหรอ”

                  “งั้นพูดให้ฟังหน่อยว่านาย ‘ชอบ’ฉัน” แขนทั้งสองข้างกอดเอวของร่างเพรียวแน่นขึ้น

                   “หา? นี่นายสบายดีมั้ยเนี่ย?”

                   “พูด”

                   “อะไร ทำไมอยู่ดีๆถึงอยากได้ยิน”

                   “อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่อง พูดมา”

                   “...” คาเงยามะเม้มปาก ดวงตาเรียวคมมองหน้าคนตัวสูงกว่า

                   “...”

                   เด็กหนุ่มผมดำไม่ยอมพูด

                   “คาเงยามะ” สึกิชิมะเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

                   “อย่ามาบังคับ”

                   “ฉันไม่ได้จะบังคับ แค่พูดว่าชอบกับแฟนตัวเองมันยากมากหรอ”
                   คนถูกถามหันหน้าไปด้านข้างและก้มหน้า “ไม่ยากแต่มันอายเว้ย” คาเงยามะพึมพำ

                   สึกิชิมะมองอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งอยู่อึดใจก่อนจะใช้มือใหญ่ทั้งสองข้างจับหน้าคมสวยให้หันมามองเขา

                   “ฉันชอบนาย ชอบมากเลยด้วย” เด็กหนุ่มผมบลอนด์พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

                   แก้มเนียนสีน้ำผึ้งของคาเงยามะขึ้นมีระเรื่อ เขาก้มหน้าลงทั้งๆที่มือใหญ่ยังจับแก้มทั้งสองข้างของเขาอยู่

                   “ไอ้บ้า...” ร่างเพรียวพึมพำ

                   สึกิชิมะมองดูคนที่กำลังก้มหน้างุดเพราะความเขิน ริมฝีปากเรียวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คาเงยามะเงยหน้าขึ้นมามองเขาพอดี ร่างสูงชะงักปากที่จะพูด

                   “ฉันก็...ชอบนาย” คาเงยามะพูดออกด้วยน้ำเสียงเบา แต่มันชัดเต็มสองหูของสึกิชิมะ พวงแก้มของร่างเพรียวแดงขึ้นมาก คาเงยามะที่ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองหน้าสึกิชิมะด้วยความเขิน

                   สึกิชิมะปล่อยมือจากหน้าของคาเงยามะ แขนข้างหนึ่งของร่างสูงเลือนลงมาโอบเอวคอดของร่างเพรียวไว้ ใบหน้านิ่งของสิกิชิมะขยับเข้ามาหอมแก้มของคาเงยามะก่อนจะเลือนริมฝีปากของ ตัวเองประกบกับปากเรียวได้รูปของคนในอ้อมแขน ลิ้นร้อนของเด็กหนุ่มผมดำตอบสนองลิ้นของอีกคนที่สอดใส่เข้ามาในปากเขาเป็น อย่างดี มือใหญ่ข้างที่ว่างล้วงเข้าไปในเสื้อตัวหลวม สัมผัสกับผิวสีน้ำเนียนที่อยู่ใต้เสื้อ

                   ลิ้นร้อนของคนทั้งสองดูดดุนกันร้อนแรงมากขึ้น มือหนาของร่างสูงปะปายไปทั่วผิวเนียนใต้เสื้อตัวใหญ่และสัมผัสหนักขึ้น สึกิชิมะเอนตัวไปหาคาเงยามะมากขึ้น...

                   “บ้านของสึกิชิมะใหญ่ชะมัดเลย” น้ำเสียงร่าเริงของฮินาตะดังขึ้นด้านนอกห้องพร้อมสีฝีเท้าของคนหลายคนที่ กำลังเดินขึ้นบันไดมา

                   “อย่าเสียงดังในบ้านคนอื่นนะ ฮินาตะ” เสียงของสึกาวาระ

                   คาเงยามะผลักสึกิชิมะออกอย่างแรงและรีบลุกขึ้นยืน เขาหันหน้าไปมองประตูซึ่งเสียงของฮินาตะและคนอื่นๆกำลังใกล้เข้ามา

                   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                   “ซึกกี้ พวกฉันเข้าไปนะ” เสียงยามางุจิดังอยู่หน้าประตู

                   “เข้ามาเลย” เจ้าของห้องตอบรับเสียงเรียบ

                   เอี๊ยด

                   “อ๊ะ คาเงยามะ” ยามางุจิที่เปิดประตูเข้ามาดูแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเซ็ตเตอร์ของทีมตัวเองมา อยู่ในห้องของเพื่อนสนิทของเขา

                   “แหมๆ รีบมาหาเพื่อนตัวเองแต่เช้าเลยนะ” ทานากะที่ยืนอยู่ด้านหลังยามางุจิเดินมาด้านหน้าและพูดแซวด้วยรอยยิ้มแหย

                   “พวกนายนี่หวานกันกว่าที่คิดนะ” ฮินาตะพูดเสริม

                   “หนวกหูน่า” คนถูกแซวพูดด้วยใบหน้าเขิน ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนที่นอน ”ทำไมพวกสึกาวาระซังถึงมาที่นี่!?”

                   “ประมาณชั่วโมงที่แล้วทานากะซังส่งข้อความมาถามว่า มาติวที่บ้านฉันได้มั้ย และฉันก็ตอบตกลงไป พวกเขาก็เลยมาที่นี่ไง”

                   “ทำไมไม่บอกฉันวะ!?” คาเงยามะพูดเสียงดุ

                   “อะไร นี่ฉันมาขัดเวลาสวีทของพวกนายงั้นหรอ?” ทานากะแซวพร้อมกันเดินมาใกล้

                   “ไม่ใช่ครับ!” เด็กหนุ่มผมดำรีบปฏิเสธทันควัน

                   “คู่ข้าวใหม่ปลามันนี่สวีทกันจังเลยน้า~” ฮินาตะเสริมขึ้นมาอีก

                   “ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!”

                   คาเงยามะโดนฮินาตะกับทานากะแกล้งแซวยกใหญ่เลย

                   สิกิชิมะมองคาเงยามะที่กำลังรับมือกับพวกบ้าบอด้วยท่าทีนิ่งๆพลางคิดในใจ

                   เมื่อกี้ทำให้มีอารมณ์ขึ้นมาซะแล้ว อยาก‘ทำ’ชะมัดเลย...

     

     

    END.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×