ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Allริน(Free!) รวมฟิครินเคะ

    ลำดับตอนที่ #1 : ShortFic Free!(Haruka x Rin): What happen to you?

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 57



        Title : What happen to you?

        Rate : PG

        Pairung : Haruka x Rin


    .........................................

     

                ‘นี่ มาว่ายพลัดด้วยกันมั้ย?

                    นานาเสะ มาว่ายพลัดด้วยกันเถอะ

                    ฉันจะไปออสเตรเลีย

                ‘ถ้านายว่ายน้ำกับฉัน ฉันจะให้นายได้เห็นในสิ่งที่นายไม่เคยเห็น

                    ...

                    ไง

                ‘ฮารุ ยังคบกับพวกนี้อยู่อีกหรอ ไม่เคยเรียนรู้อะไรเลยนะ

                    พวกนายมาเอาไอ้นี่กันใช่มั้ย?

                ‘ฉันไม่ต้องการแล้วล่ะ ของพรรณนี้...

                    ริน...

                    นานาเสะ

                ‘ฮารุ

                    ...นาย

                   
     

                    พรวด!

                    “ฮ่า!” นานาเสะ ฮารุกะ โผล่พรวดขึ้นมาบนผิวน้ำหลังจากที่แช่ตัวเองในอ่างอาบน้ำจนมิดหัวนานเกินไปจนเจ้าตัวกั้นหายใจไม่ไหว

                    “แค่กๆ” เด็กหนุ่มในกางเกงว่ายน้ำลายประจำตัวเดียวสำลักน้ำ นี่คือสาเหตุจริงๆที่ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ในอ่างน้ำรู้ตัวว่าตัวเองกั้นหายใจต่อไปไม่ไหวและทะลุ้งพรวดขึ้นมาบนผิวน้ำ

                    แขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก่ายขอบอ่าง ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำค่อยๆซบลงกับท่อนแขนแกร่งที่ก่ายขอบอ่างอยู่ ดวงตาสีน้ำเงินสวยราวกับน้ำทะเลที่ลึกลงไปจากผิวน้ำนั้นเหม่อลอย

                     เมื่อวานเขาได้เจอริน เพื่อนในวัยเด็กที่ไม่ได้เจอกันมาตั้ง4ปีที่สโมสรว่ายน้ำเก่าซึ่งกำลังจะถูกทุบทิ้งภายในไม่กี่วัน มันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของพวกเขา ความรู้สึกแรกของฮารุกะคือแปลกใจที่รินโผล่มา ต่อมาคือความดีใจ แม้ใบหน้าของเขาจะนิ่งเฉยราวกับไม่มีความรู้สึก แต่ในใจของเขาดีใจ ดีใจที่เห็นว่ารินกลับมาแล้ว ดีใจที่รินชวนเขาแข่งว่ายน้ำ เขาคิดว่ารินกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว... แต่ไม่ใช่

                    ความรู้สึกแปลกใจและดีใจทั้งหมดที่ได้เจอรินของฮารุกะเปลี่ยนเป็นความไม่เข้าใจ เมื่อเด็กหนุ่มผมสีแดงทิ้งถ้วยรางวัลที่พวกเขาตั้งใจมาเอากลับไปก่อนสโมสรถูกทุบทิ้งเหมือนของไร้ค่า

                     ทำไมล่ะ ริน... ตอนนั้นนายยังดีใจที่ได้มันมาอยู่เลยไม่ใช่หรอ...

                    แล้วทำไมตอนนี้ถึงบอกว่ามันไร้ค่า เพราะเรื่องนั้นรึเปล่านะ... หมอนั่นในตอนนี้ทำอย่างกับพวกเราไม่ใช่เพื่อนกันงั้นแหละ

                    นานาเสะ~’ ภาพผมของเด็กชายผมสีแดงที่กำลังยิ้มร่าเริงให้เขาผุดขึ้นมาใน

                    ฮารุ...ภาพในตอนโตของเด็กชายผมสีแดงซึ่งฮารุเพิ่งเจอเมื่อวานผุดขึ้นมาในหัวแทนที่ภาพในวัยเด็กของคนคนนั้น เด็กหนุ่มดีใจนะที่ได้เจอรินและรินก็เรียกชื่อเขา แต่ถ้าใบหน้านั้นยิ้มให้เขาด้วยคงจะดีไม่น้อย

                    “ฮารุ!” เสียงทุ้มที่เจ้าของชื่อคุ้นเคยดังอยู่ข้างอ่างอาบน้ำ ดวงตาสีน้ำเงินที่เหม่อลอยเบิกกว้างด้วยความตกใจที่อยู่ๆเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาใกล้ๆตัว เจ้าของชื่อเรียกเงยหน้ามองไปทางต้นเสียงซึ่งยืนอยู่ห่างจากอ่างอาบน้ำไม่กี่ก้าว

                    “อยู่ใกล้แค่นี้เอง จะแหกปากทำไมห๊ะ? มาโคโตะ”

                    “ฉันเรียกนายตั้งแต่หน้าประตูห้องน้ำแล้วนะ แต่นายไม่ยอมตอบเลย พอเข้ามาในห้องแล้วเห็นนายฟุ่บอยู่กับขอบอ่างฉันก็เลยตกใจเรียกนายเสียงดัง”

                    “คิดมากน่ะ”

                    “เพราะท่าทางนายดูแปลกไปตั้งแต่เจอรินเมื่อวานน่ะสิ”

                    “...” นัยย์ตาสีน้ำเงินสวยหลุบลงต่ำ ในหัวของฮารุกะคิดอะไรบางอย่าง

                    “ฮารุ?”

                    “รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวก็สายกันพอดี” เด็กหนุ่มผมสีดำสลวยเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินทอประกายลุกขึ้นก่อนจะค่อยๆก้าวขาออกจากอ่าง

                    “ก็รู้นี่ว่าจะสาย แล้วยังจะมานั่งแช่น้ำสบายใจเฉิบอยู่อีกนะนายเนี่ย” น้ำเสียงของมาโคโตะมีความเหนื่อยใจปนอยู่

                   

     

     

                    ฉันไม่ต้องการแล้วล่ะ ของพรรค์นี้... ในตอนที่พูด แววตาของรินมีความเจ็บปวด...

                    ถ้วยรางวัลจากการแข่งขันในวัยเด็กของพวกฮารุกะและรินถูกปล่อยจากมือของริน มาโคโตะ นางิสะ และ ฮารุกะตกใจกับการกระทำของร่างเพรียวตรงหน้า

                    เสียงหนึ่งดังขึ้นในยามที่ถ้วยรางวัลหล่นกระทบพื้น

     

                    “ความฝัน?” ฮารุกะลืมตาขึ้น ตอนนี้เขานอนอยู่ใต้ร่มไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่ง

                    ภาพเหตุการณ์ตอนที่เจอรินเมื่อวานลอยเข้ามาในหัวเขาอีกแล้ว

                    “ไม่ใช่ความฝันเว้ย! มาโคโตะที่นั่งอยู่ใกล้ๆโพลงขึ้นมา มีนางิสะนั่งอยู่ด้านข้าง อา... เพราะเรากำลังพูดถึงริน ภาพเหตุการณ์เมื่อวานถึงได้ลอยเข้ามาในหัว

                    “ไม่เข้าใจเลย รินจังดูแปลกไปนะ” นางิสะทำท่าทางครุ่นคิดแบบไม่จริงจัง

                    “ฝาแฝดมั้ง?” เหตุผลบ้าๆที่จู่ๆฮารุก็นึกขึ้นมาได้ เขาเองก็ยังสงสัยไม่หายว่าทำไมรินที่ถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น ทำไมรินที่เคยน่ารักของเขาถึงได้มีท่าทางเกลียดเขาขนาดนั้น

                    หรือว่าเพราะเรื่องในตอนนั้น? รินยังเกลียดเขาเพราะเรื่องตอนนั้นอยู่หรอ...

                    “แล้วทำไมฝาแฝดคนนั่นต้องมาท้านายแข่งด้วยล่ะ” มาโคโตะแย้งขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่ใส่ใจกับคำตอบของฮารุกะ

                    “งั้นคงจะเป็นผีล่ะมั้ง?” จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ไม่อยากให้เป็นรินที่เขาเคยรู้จัก พอฮารุนึกถึงตอนที่รินทำท่าทางเกลียดแบบเมื่อวาน  เขาก็รู้สึก... ไม่ชอบใจเอาซะเลย

                    “ตัวเขาไม่ได้ลอยเหนือพื้นนะ” นางิสะแย้ง

                    “งั้นก็ดอพเพิลแกงเกอร์”

                    แล้วคำว่าดอพเพิลแกงเกอร์ก็ทำให้มาโคโตะนึกถึงเรื่องราวสนุกๆของเขาในวัยเด็ก หัวข้อสนทนาของเด็กหนุ่มทั้งสามเปลี่ยนไป ถึงภายนอกฮารุจะคุยกับมาโคโตะและนางิสะเรื่องอื่น แต่ในใจลึกๆของเขาก็ยังคิดถึงเรื่องของรินอยู่ เด็กหนุ่มพยายามไม่คิดถึงเรื่องท่าทางที่เปลี่ยนไปมากของริน แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

     

     

     

                    “ฮารุจัง รินจังอยู่ที่โรงเรียนซาเมะสึกะล่ะ ไปหารินจังกันเถอะ” นางิสะเข้ามาชวนฮารุกะพร้อมมาโคโตะหลังจากที่เด็กหนุ่มขึ้นมาจากการแช่น้ำในอ่างเสร็จ

                      “ไม่ไป”

                    “ทำไมล่ะ?

                    “ไม่อยากเจอรินหรอ?” มาโคโตะถาม

                    “เมื่อวานก็เจอไปแล้วไง” ตอนนี้ฮารุกะรู้สึกไม่พร้อมที่จะเจอรินอีกครั้ง

                    มาโคโตะถอนหายใจออกมาก “กะว่าถ้านายไปด้วย จะไปว่ายน้ำซักหน่อย ที่ซาเมะสึกะน่ะมีสระว่ายน้ำในร่มนะ”

                    ฮารุกะที่ก้มหน้าเช็ดผมอยู่เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนตัวสูงตาสีเขียวด้วยดวงตาเป็นประกาย

                    สุดท้ายฮารุกะก็ยอมไปซาเมะสึกะ แต่ทั้งหมดก็เพื่อสระว่ายน้ำในร่ม... โดนหลอกล่อจนได้สิน่า

                    พวกฮารุกะไปกันตอนเลิกเรียน พอไปถึงก็เวลาก็เย็นมากแล้ว นางิสะและมาโคโตะแอบมองเข้าไปในชมรมว่ายน้ำจากด้านนอก แต่ก็ไม่เห็นคนที่พวกเขาอยากเจอตัว ส่วนฮารุกะ... จ้องจะว่ายน้ำอย่างเดียว ตอนนี้เขายังรู้สึกไม่พร้อมที่จะเจอริน แต่พร้อมแล้วสำหรับการว่ายน้ำ ฮารุกะเริ่มถอดเสื้อผ้าเตรียมตัวว่ายน้ำตั้งแต่เดินมาถึงตัวอาคารของชมรมว่ายน้ำซาเมะสึกะซึ่งมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านใน มาโคะโตะพยายามห้ามแทบแย่กว่าเพื่อนตาสีน้ำเงินของตัวเองจะยอมสวมเสื้อผ้าและรอไว้ถอดตอนว่ายน้ำหลังจากที่สมาชิกชมรมคนอื่นๆกลับไปแล้ว ตามความคิดของนางิสะ

                    หลังจากที่ท้องฟ้าเริ่มมืด ทุกคนในชมรมว่ายน้ำกลับกันหมดแล้ว พวกมาโคโตะก็แอบเข้าไปในโรงยิมสระว่ายน้ำของโรงเรียนซาเมะสึกะ ฮารุกะรีบถอดเสื้อและกระโดดพรวดลงน้ำทันที คนนอกจากโรงเรียนอิวาโทบิว่ายน้ำอย่างสนุกสนานอยู่ในสระของโรงเรียนอื่นได้ไม่นานนักก็ถูกพบ โดยคนที่พวกเขาต้องการมาหาตั้งแต่แรก

                    การแข่งขันของฮารุกะกับรินเกิดขึ้นโดยฮารุกะเป็นคนท้าแข่ง จริงอยู่ว่าในตอนแรกเด็กหนุ่มตาน้ำเงินยังไม่อยากเจอริน แต่เพราะท่าทางที่บ่งบอกว่าเกลียดเขาจากรินทำให้ฮารุกะอยากทำเรื่องที่ค้างคาใจให้มันจบไป และประโยคที่ว่าถ้านายว่ายน้ำกับฉัน ฉันจะให้นายได้เห็นในสิ่งที่นายไม่เคยเห็น มันเป็นตัวกระตุ้นเขา ในตอนนั้นรินได้ให้เขาเห็นในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นจริงๆ แต่ตอนนี้เขาลืมมันไปแล้ว และเขาต้องการเห็นมันอีก

                    เมื่อผลการแข่งขันออกมา คนชนะคือริน แทนที่เด็กหนุ่มผมแดงจะดีใจกับชัยชนะที่ได้มา แต่เขากลับโวยวายเมื่อคู่แข่งอย่างฮารุกะบอกว่าดีใจด้วยที่ชนะ เด็กหนุ่มผมมองโวยวายไม่พอใจเสียงดังจนครูเวรในโรงเรียนเข้ามาพอพวกเขา

                    พวกมาโคโตะโดนกล่าวตักเตือนและแจ้งครูที่โรงเรียนอิวาโทบิก่อนจะปล่อยตัวกลับ ส่วนริน แค่โดนดักเตือนก่อนะจะปล่อยตัวกลับหอพัก

                    ถึงการแข่งวันจะไม่ทำให้รินพอใจ แต่มันก็ทำให้ฮารุกะโล่งใจไปอย่างหนึ่ง และเขารู้สึกว่าตัวเองได้รับรู้อะไรบางอย่างจากการได้แข่งกับริน ถึงมันจะไม่ชัดเจน แต่เขาก็ได้เห็นสิ่งที่ครั้งหนึ่งไม่เคยเห็นจากริน...อีกครั้ง

     

     


     

                    ...

                    ...

                    ...

                    ตึก ตึก ตึก ตึก

                    เสียงฝีเท้าของร่างเพียวดังก้องไปทั่วอาคารร้างแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้เดินแรงก็ตาม รินกลับมาที่สโมสรร้างอีกครั้งหลังจากที่ได้พบกับพวกฮารุกะที่นี่เมื่อ3วันก่อน ขาเรียวยาวก้าวไปตามทางเดินไปที่ห้องหนึ่งซึ่งเคยมีรูปถ่ายของเขากับพวกฮารุกะติดอยู่ แต่ตอนนี้มันถูกมาโคโตะเก็บกลับไปแล้วเมื่อ3วันกัน ที่เหลืออยู่ตอนนี้มีแต่ภาพของเด็กกลุ่มอื่นที่เคยมาเรียนที่นี่ และหนึ่งในจำนวนรูปพวกนั้น มีรูปคนที่เด็กหนุ่มผมสีแดงรู้จักอยู่ ดวงตาสีแดงคู่สวยภายใต้หมวกสีดำมองเด็กชายคนหนึ่งในรูปด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกันไปมากมาย และหนึ่งในนั้นมีความเศร้าปนอยู่

                    มือเรียวยืนไปหยิบรูปนั้นมาจากผนัง เด็กหนุ่มยืนมองรูปคนรู้จักในวัยเด็กที่อยู่ในรูปซักพักก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อนอกซึ่งเป็นเสื้อวอร์ม

                    ตึก ตึก ตึก ตึก

                    เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งดังอยู่นอกห้อง รินสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันควับไปทางประตู หัวใจเต้นระทึก ในหัวสงสัยว่ายังจะมีใครอีกนอกจากเขาที่จะมาเดินไปมาในอาคารร้างแห่งนี้

                    “ฮารุ!?” ดวงตาเรียวภายใต้หมวกสีดำที่เจ้าตัวสวมใส่เบิกกว้าง คนรู้จักที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่โผล่ออกมาโดยไม่คาดคิด ผิดกับคนตรงที่ยังยืนมองเขาหน้านิ่ง เพราะอีกฝ่ายคิดไว้แล้วว่าถ้ามาที่นี่อาจจะได้เจอเด็กหนุ่มผมแดงอีกครั้ง

                     “นาย... มาทำอะไรที่นี่...?” รินมุ่นคิ้วถาม

                    “เดินเล่น” คนมาใหม่ตอบเสียงเรียบ

                    “โกหก”

                    “แล้วนายล่ะ?”

                    “ไม่ใช่เรื่องของนาย” เด็กหนุ่มผมแดงตอบพร้อมสายตาดุ ร่างเพรียวเดินส่วนเพื่อนวัยเด็กออกไปจากห้อง

                    “คิดถึงที่นี่สินะ”

                    รินที่อยู่ห่างจากฮารุกะไม่กี่ก้าวหยุดฝีเท้า เขาหันควับมามองเพื่อนวัยเด็ก “อย่าเอาฉันไปเทียบกับพวกนาย” ตอบกลับเสียงขุ่น

                    “แล้วมาที่นี่ทำไม?” ฮารุกะถามเสียงเรียบ ราวกับไม่สนใจ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่

                    “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่เรื่องของนาย” เด็กหนุ่มหันหลังให้และก้าวเดินต่อไป คนถูกปฏิเสธการให้คำตอบเดินตามเพื่อนผมสีแดงไป

                    หมับ!  

                    มือใหญ่จับต้นแขนคนที่คิดจะเอาแต่เดินหนีและรั้งไว้

                    “ปล่อย!” รินสะบัดแขน แต่มือของฮารุกะก็ยังคงจับต้นแขนเขาไว้แน่น

                    “ทำไม... ทำไมนายถึงไม่ดีใจ... นายอยากฉันชนะมากไม่ใช่รึไง? ทำไมพอชนะแล้วนายถึงไม่ดีใจ?” คนที่ตัวสูงน้อยกว่าแค่2เซนต์ถามสีหน้านิ่ง แม้ใบหน้าของฮารุกะเหมือนไร้ความรู้สึก แต่ในใจของเขาอยากรู้คำตอบจากปากของคนตรงหน้าจริงๆ

                    “...” รินเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ดวงตาเรียวมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งเจ็บปวด ลังเล และลึกลงไป เขาดีใจ...

                    ในใจลึกๆของริน เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจที่ได้เจอฮารุกะโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็เจ็บปวดเมื่อได้ยินคำถาม สำหรับเขา สิ่งที่คนตรงหน้าบอกว่าเขาชนะมันไม่ใช้ความจริง รินรู้ดี ตัวเองที่พยายามฝึกหนักมาตลอด ชนะฮารุกะได้แบบที่สูสีทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้ฝึกเลย ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ชัยชนะที่เขาต้องการ

                    “ไม่ใช่... แบบนั้นมันไม่เรียกว่าชนะ” ดวงตาสีแดงหลุบลงต่ำ ไม่อาจฝืนตอบโดยที่สบกับดวงตาสีน้ำทะเลได้

                    “...”

                    “...”

                     ภายในอาคารร้างเงียบงันแม้จะมีคนอยู่ภายในอาคารสองคน รินเอาแต่หันหน้าหนีฮารุกะ ไม่ยอมมองหน้าหรือพูดกับคนตรงหน้าแม้ซักนิด แต่เด็กหนุ่มผมดำนั้นตรงข้าม เขาเอาแต่มองคนที่เขารั้งแขนไว้ด้วยแววตานิ่งแต่มีความจริงจังแฝงอยู่

                    “...” เด็กหนุ่มผมแดงเริ่มคิดได้แล้วว่าเรื่องที่ทำอยู่ตอนนี้มันเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

                    มือเรียวข้างหนึ่งของร่างเพรียวเอื้อมไปจับมือหน้าที่จับต้นแขนเขาอยู่ บีบมือนั่นแรงๆเป็นเชิงบอกให้ปล่อย เจ้าของมือหนาขมวดคิ้วเข้าหากันนิดหน่อย แรงที่จับต้นแขนของคนตรงหน้าเริ่มน้อยลง รินใช้จังหวะนั้นกระชากมือของฮารุกะออกจากแขนของตัวเอง ใบหน้าสวยแบบผู้ชายของเด็กหนุ่มผมแดงตีหน้าบึ้งมองคนตรงหน้าอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะหันหลังและเดินหนี  

                    ฮารุกะมองคนที่ตัวสูงกว่าแค่2เซนต์เดินหนีเขา ไม่กี่อึดใจเด็กหนุ่มก็เดินตามคนตรงหน้าไปโดยไม่พูดไม่จาอะไร แค่เดินตามไปติดๆ คนถูกตามไม่พูดอะไร แต่เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

                    ร่างเพรียวผมสีแดงเดินออกมาจากอาคารร้าง โดยมีฮารุกะเดินตามมาด้วย จนกระเดินมาออกจากอาคารร้างแล้วคนหน้านิ่งก็คงตามเขาไม่เลิก ตอนนี้ฮารุกะเดินเยี่ยงอยู่เดินหลังเขา ทั้งสองคนห่างกันแค่เก้าสองเก้า เด็กหนุ่มผมดำเดินตามคนหน้าสวยเงียบๆด้วยใบหน้านิ่งต่อไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่ทางที่เดินอยู่นี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านของฮารุกะ รินรู้สึกหงุดหงิดจนทนเงียบไว้ไม่ไหว

                     “จะตามมาทำไมวะ!?” ร่างเพรียวหยุดเดินและหันไปโวยใส่คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

                    “จะไปส่ง”

                    “หา...?”  

                    “ฉันบอกว่าจะไปส่ง” ฮารุกะคำเดิมด้วยใบหน้านิ่ง แต่ในแววตานั้นมีความจริงจัง

                    “ฉันไม่ได้ขอให้ไปส่งซักหน่อย มาเดินตามแบบนี้แล้วมันน่ารำคาญ รีบๆกลับบ้านนายไปเลยไป”

                    “จะไปส่ง”

                    “กลับไปซะ!” ดวงตาสีแดงฉายแววแข็งกร้าว

                    “ไม่”

                    “...” ริมฝีปากเรียวสวยเม้มเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ดวงตาสีแดงสว่างๆมองคนตรงหน้าด้วยสายตาดุ ฮารุไม่ค่อยฟังที่เขาพูดเลย เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ตอนป.6

                    รินหันหน้าหนีคู่สนทนาและรีบก้าวเดินเร็วๆเพื่อไปให้ถึงสถานีรถไปให้เร็วที่สุด ฮารุกะยังคงเดินตามไม่เลิก ระหว่างที่ก้าวเดิน เด็กหนุ่มผมแดงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เวลา20.48 เขาคงว่าตัวเองน่าจะไปทันรถไปเที่ยวสุดท้ายและคิดฮารุกะหรือที่รินกับพวกมาโคโตะเรียกว่าฮารุคงไม่ตามเขาไปจริงๆอย่างที่เจ้าตัวพูด เพื่ออีกไม่นานก็จะถึงเวลารถไปเที่ยวสุดท้ายแล้ว ถ้าฮารุตามรินไป นั้นก็เท่ากับว่าเด็กหนุ่มผมดำต้องเดินกลับบ้านด้วยระยะทางหลายกิโลเมตรในเวลาตอนกลางคืนแบบนี้ ฮารุกะต้องไม่ทำเรื่องงี้เง่าแบบนั้นแน่ รินคิด

                    ...แต่ก็เป็นความคิดที่ผิด ฮารุเดินตามรินมาจนถึงสถานีรถไฟและซื้อตัวเที่ยวเดียวกับเขา ในตอนที่ฮารุกะก้าวเท้าเข้ามาในรถไฟโบกี้เดียวกับริน เด็กหนุ่มไล่ให้อีกฝ่ายลงไปด้วยน้ำเสียงขุ่น รินในตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก จะตามเขามาทำซากอะไรก็ไม่รู้ แต่ถึงจะโดนตะวาดใส่ ฮารุก็ยังคงมีสีหน้านิ่ง เขานั่งฝั่งตรงข้ามกับริน ตลอดทางที่รถไฟเคลื่อนตัวออกไปเพื่อไปหมู่บ้านอื่น ดวงตาสีเข้มของฮารุกะจ้องมองรินสลับกับมองทิวทัศน์ยามราตรีด้านนอกไปด้วย ฝ่ายที่ถูกจ้องพยายามทำเป็นไม่สนใจสายตานั้น แต่เขาก็อดใจไม่มองอีกฝ่ายไม่ได้ และครั้งไหนที่รินแอบหันไปมองฮารุและดวงตาสีแดงไปสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงิน คนหน้าสวยก็จะตีหน้าดุใส่คนตรงหน้าเพื่อปิดบังความประหม่าที่เกิดขึ้นมาโดยไม่คาดคิด

                    เมื่อถึงสถานีปลายทางที่ต้องการลง รินก็ลงรถไฟมาโดยมีฮารุเดินตามมาด้วย เด็กหนุ่มจากโรงเรียนซาเมะสึกะพยายามบอกให้ฮารุกะเลิกตาม แต่มันก็ไร้ผลทุกครั้งจนกระทั่งทั้งสองคนมาถึงโรงเรียนซาเมะสึกะ ฮารุกะเดินตามรินไปจนถึงหน้าหอพัก ร่างเพรียวเดินเข้าไปด้านในห้องพักในขณะที่คนนอกหยุดเดินก่อนถึงประตูหอไม่กี่เมตร

                    มัตสึโอกะ ริน แจ้งกับผู้ดูแลหอว่ากลับมาแล้ว ก่อนร่างเพรียวจะเดินขึ้นไปบนหอ เขาหันกลับไปมองด้านนอกผ่านประตูกระจกใส เห็นฮารุกะกำลังเดินไปทางอื่นซึ่งไม่ใช่ทางกลับไปที่ประตูทางเขาของเขตโรงเรียนซาเมะสึกะ

                    นั่นทำให้รินเกิดความสงสัย แต่เด็กหนุ่มผมแดงก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและเดินขึ้นห้องไป

                   

                    เสื้อวอร์มสีทึบถูกถอดออกเมื่อรินมาถึงห้อง เด็กหนุ่มล้วงรูปในกระเป๋าเสื้อออกมาดูซักพัก ก่อนจะว่างมันไว้ที่โต๊ะของตัวเอง เสื้อที่เพิ่งถอดออกก็เอาแขวนไว้ รินนั่งลงบนเตียงหลังพิงกับกำแพงซึ่งอยู่ติดกับเตียง ภายในหัวคิดอะไรมากมายหลายอย่าง ละหนึ่งในเรื่องที่คิดคือเรื่องของคนตัวสีน้ำเวนน้ำทะเลที่เพิ่งแยกกับเขาตรงหน้าหอพัก

                    “...”

                    ...ทางนั้น... มันทางไปสระของโรงเรียน

     
     

     

                    อาคารสระว่ายน้ำในร่มในตอนนี้ไม่มีนักเรียนโรงเรียนซาเมะสึกะ อาจารย์เวรที่คอยทำหน้าที่ตรวจโรงเรียนก็เดินไปไกลแล้ว นักเรียนชายจากโรงเรียนเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อคเข้าไปภายในอาคารอย่างเงียบๆ เมื่อเดินมาใกล้สระน้ำที่เงียบสงบ เด็กหนุ่มผมดำออกน้ำเงินนิดหน่อยก็รีบถอดเสื้อผ้าด้วยความเร็วกว่าคนปกติจนสามารถเรียกได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษแล้วกระโดดลงน้ำอย่างไม่รีรอ

                    ฮารุกะเลยตัวอยู่บนผิวน้ำ ใบหน้าโผล่ผิวของเหลวสีใส ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสวยงามลอยไปมาในสระน้ำอย่างสบายตัว ดวงตาสีน้ำเงินน้ำทะเลปิดลง ใช้เพียงร่างกายรับสัมผัสนุ่มนวลสบายตัวที่สายน้ำมอบให้

                    การได้ว่ายน้ำนี่มันรู้สึกดีจริงๆ

                    ผู้บุกรุกสระว่ายน้ำยามวิกาลจากโรงเรียนอิวาโทบิปล่อยตัวไปกับสายน้ำที่นิ่งสงบจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่

                    “ที่ตามฉันมา ก็เพื่อมาว่ายน้ำนี่เอง”

                    !

                    คนที่ลอยอยู่ในสระลืมตาและรีบหันไปมองต้นเสียง ใบหน้าของคนที่พูดนั้นตีหน้าบึ้งๆนิด รินในตอนนี้ใส่เพียงเสื้อกล้ามสีเข้มช่วงคอเว้ากว้างและลึก ตรงช่วงแขนก็เว้ากว้างเช่นกันโดยเฉาะด้านหลัง

                    “ไม่ใช่... ก็แค่อยากมาส่งนายจริงๆ ที่เข้ามาว่ายน้ำนี่ถือว่าเป็นผลพลอยได้” นักเรียนชายจากโรงเรียนอิวาโทบิยังคงลอยตัวอยู่ในน้ำ มันรู้สึกสบายจนเข้าไม่อยากขึ้นจากสระ

                    “หึ” รินตอบรับคำพูดนั้นแค่เพียงเท่านี้ ร่างเพรียวเดินมายืนตรงขอบสระ “ตอนนี้เวลามันเลยสามทุ่มครึ่งแล้วนะ มัวแต่ว่ายน้ำเล่นแบบนี้มันจะดีหรอ? ยังไงนายก็ต้องใช้เวลาเดินกลับมากกว่า1ชั่วโมง ถ้าไม่รีบกลับ เวลาดึกกว่านี้มันจะอันตรายนะ?”

                    “...”

                    ฮารุกะไม่ตอบ เด็กหนุ่มว่ายไปมาในสระอย่างสบายใจ รินถอดหายใจออกมานิดหน่อย รู้สึกเหนื่อยกับท่าทางไม่ยอมฟังใครของคนในสระ ตอนเด็กไม่เคยคิดมากเรื่องนี้ แต่พอโตมาแล้วรู้สึกว่ามันน่าเหนื่อยใจนิดๆ

                    รินนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆสระ ดวงตาเรียวมองคนในสระที่ว่ายน้ำไปมาอย่างคล่องตัวราวกับเป็นปลาโลมา สนุกสนานไปกับการว่ายน้ำ... ภาพตรงหน้ากลายเป็นสิ่งที่แทงใจดำของเด็กหนุ่มผมแดง นั้นคือสิ่งที่เขาโหยหา แต่ไม่อาจทำได้ เขาซบหน้าลงกับกับเขา ในหัวคิดถามตัวเองหลายเรื่อง ทั้งๆที่บางเรื่องเขาก็รู้คำตอบของมันดีแต่ไม่ยอมรับมันเอง

                     ผ่านไปหลายนาทีคนที่ว่ายน้ำอยู่ถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ารินมีท่าทางเปลี่ยนไป คิ้วสีดำขมวดเขาหากันนิดหน่อยก่อนจะว่ายน้ำไปตรงที่รินนั่งกอดเขาและซบหน้าลงกับเข่าอยู่ ภายในอาคารที่เงียบสงบ เสียงฮารุว่ายน้ำของฮารุดังชัดเจน เสียงนั้นใกล้เข้ามาหารินเรื่อยๆ เป็นการบอกให้รู้ว่าเด็กหนุ่มผมดำว่ายเข้ามาหา แต่รินก็ไม่รู้สึกตัวเพราะยังคงเหม่อลอยกับความคิดในหัวของตัวเองอยู่

                    “ริน” ฮารุกะยืนบนสระที่มีน้ำสูงแค่ระดับหน้าอกของเขา ขยับแว่นกันน้ำไปคาดไว้ที่หัว เด็กหนุ่มยืนชิดขอบสระและส่งเสียงเรียกคนที่นั่งอยู่ข้างสระ แต่เหมือนเจ้าของชื่อจะไม่ได้ยิน

                    “ริน” คนเรียกยื่นหน้าเขาไปใกล้

                    “...”

                    “นี่ ริน” มือที่เปียกน้ำยื่นไปจับต้นแขนเปลือยเปล่าของร่างเพรียว รินสะดุ้งเมื่อโดนมือเย็นสัมผัสต้นแขน ดวงตาเรียวสีแดงมองเจ้าของมือเปียกชื้นด้วยความตกใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตานิ่ง

                    “มีอะไร?”

                    “เมื้อกี้นายดูเหม่อลอยนะ คิดเรื่องอะไรอยู่?”

                    “ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรู้” นัยน์ตาสีแดงมองไปทางอื่น

                    “ดูเหมือนเรื่องนั้นมันทำให้นายไม่ค่อยสบายใจ”

                    “...”

                    “...มาโคโตะเคยบอกฉันหลายครั้งว่าถ้าเรื่องไหนเก็บไว้คนเดียวแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีก็ให้เล่าออกมา เขาจะเป็นคนคอยรับฟังเอง แต่ตอนนี้มาโคโตะไม่อยู่ ถ้านายอยากเล่า ฉันจะเป็นคนรับฟังมันเอง”

                    รินหันมามองคนที่ยืนอยู่ในสระครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าหนี ฮารุแอบหงุดหงิดเล็กๆกับท่าทางงอนเหมือนเด็กของคนตรงหน้า มือหนาเลื่อนมาจับข้อมือของรินแทน

                    “ริน มาว่ายน้ำกัน”

                    “ไม่ ฉันไม่ได้ใส่กางเกงว่ายน้ำมา แล้วฉันก็ไม่อยากว่ายน้ำเล่นกับนาย ฉันแค่ต้องการแข่งกับนาย เรื่องอื่นฉันไม่สน” มีคำโกหกคำโตอยู่ในประโยค

                    ความหงุดหงิดในตัวฮารุกะเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของริน ดวงตาของเขาสื่อออกมาชัดเจนว่าไม่พอใจ เขาสวมแว่นตาให้เขาที่ มือข้างหนึ่งจับข้อมือรินแน่น ขาข้างหนึ่งยันที่พนังสระก่อนจะถีบตัวออกอย่างแรงทำให้ฮารุกะพุ่งตัวออกจากขอบสระโดยลากรินที่โดนจับข้อมือไว้มาด้วย คนถูกลากตกใจตาเบิกกว้าง

                    “เฮ้ย!...”

                     

                    !

                    น้ำกระจายเป็นวงกว้างในตอนที่รินตกลงไปในน้ำ ดวงตาเรียวของคนที่ถูกลากลงน้ำปิดแน่น ตอนนี้เขาไม่ได้มีแว่นตาที่สามารถมองในน้ำได้สบายเหมือนฮารุกะ ตอนนี้เขาถูกฮารุกะจับให้ลอยตัวอยู่ในสระในแนวราบ มือข้างที่ไม่โดนอีกฝ่ายจับข้อมือพยายามดันตัวอีกฝ่ายที่อยู่ห่างกันไม่กี่คืบออกและพยายามตั้งตัวยืนในสระ

                    เด็กหนุ่มที่อยู่ในสภาพพร้อมว่ายน้ำทั้งชุดที่ใส่และมีแว่นตามองคนหน้าสวยที่หลับตาแน่นโดยที่มือข้างหนึ่งของอีกฝ่ายพยายามผลักตัวเขาออก โดยที่ฮารุเองก็ไม่รู้ตัว แขนข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มผมดำโอบเอวคนที่ดันอยู่ไว้ มือข้างที่จับข้อมืออีกฝ่ายก็ดึงข้อมือนั้นไปทางด้านหลังตัวเอง ตอนนี้ฮารุไม่ได้ตระหนักเลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ใบหน้าที่ปกตินั้นเรียบนิ่งยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าสวย ริมปีปากของทั้งคู่สัมผัสกันแนบชิด เพียงแค่นั้นฮารุกะก็แผละออกจากริมฝีปากคนหน้าสวย รินตกใจกับสัมผัสที่ได้รับตรงริมฝีปาก ดวงตาเรียวเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับสัมผัสเพียงไม่ถึง2วิ แต่ภาพตรงหน้าที่เห็นตรงหน้านั้นพร่ามัว

                      ฮารุกะปล่อยมือทั้งสองข้างจากตัวริน เมื่อไร้ซึ่งพันธนาการ รินก็รีบตั้งตัวยืนในสระ

                    “ฮ่า! ศีรษะของรินโผล่พรวดพ้นผิวน้ำขึ้นมา ฮารุกะโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำในเวลาติดๆกัน ทั้งสองยืนห่างกันประมาณสองก้าว ไม่ถึงนาทีอาการแสบตาหลังจากที่ลืมตาในน้ำของรินก็หายไป ดวงตาสีแดงสวยจ้องมองคนใกล้ตัวถอดแว่นตาและสะบัดผมเสร็จแล้ว ดวงตานิ่งเฉยของฮารุกะมองตอบเขา

                    “ไอ้บ้าฮารุ! แกทำฉันเปียกหมดเลย!” เสื้อกล้ามสีเข้มที่เด็กหนุ่มผมแดงใสอยู่แนบไปกับลำตัว สัดส่วนของร่างกายส่วนบนถูกเผยให้เห็นชัดเจน

                    “อย่าเสียงดังสิ ฉันไม่อยากโดนอาจารย์ดุเพราะโดนจับได้ว่าแอบเข้ามาในโรงเรียนคนอื่นอีก”

                    “ไม่สนเว้ย! แล้วนายดึงชั้นลงมาในน้ำทำซาก... อุ๊บ”

                    ยังไม่ทันได้พูดจบรินก็โดนฮารุกะยื่นมือมาปิดปากซะก่อน เด็กหนุ่มดวงตาสีน้ำทะเลยกนิ้วชี้ขึ้นมาวางบนริมฝีปากพร้อมส่งเสียงบอกให้คนตรงหน้าเงียบ “ชู่...”

                    ริมฝีปากสวยได้รูปที่โดนมือหนาปิดปากอยู่เม้มเข้าหากัน ดวงตาสีแดงสวยจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ในใจของรินยังคงนึกด่าเด็กหนุ่มโรงเรียนอิวาโทบิเรื่องที่ดึงเขาตกน้ำอยู่ แต่เรื่องสัมผัสที่ริมฝีปาก เด็กหนุ่มผมแดงไม่แน่ใจว่ามันใช่อย่างที่เขาคิดรึเปล่า เรื่องนี้จึงถูกเก็บไว้ในใจรวมอยู่กับความสับสน

                    “ห้ามโวยวายนะ” ฮารุบอกในขณะที่มือของตัวเองยังปิดปากคนตรงหน้าอยู่

                    “...” สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาไม่เป็นมิตร

                    ถึงรินจะทำหน้าไม่พอใจประหนึ่งว่าจะจับฮารุกะกดน้ำให้ตายคาสระ แต่เด็กหนุ่มผมดำก็เลือกปล่อยมือจากริมฝีปากสวย เขาคิดว่ารินจะไม่โวยวายเสียงดังหลังจากที่ริมผีปากนั้นเป็นอิสระ และเป็นอย่างที่ฮารุคิด เด็กหนุ่มผมแดงเอาแต่มองเขาด้วยสายตาดุ

                     เด็กหนุ่มที่ทั้งตัวใส่แต่กางเกงว่ายน้ำลงทิ้งตัวไปด้านหลังลงสู่ของเหลวสีใสก่อนจะตีขาในน้ำเบาๆ ลอยตัวอยู่ในน้ำอย่างสบายตัว ใบหน้าลอยอยู่เหนือผิวน้ำ

                    “ตอนแรกก็คิดจะดึงนายลงมาเล่นน้ำด้วย แต่ดูจากสภาพแล้ว นายคงไม่อยาก น่าเสียดายนะ”

                    “ไอ้เวรฮารุ ไอ้งี่เง่า ไม่เห็นรึไงว่าฉันใส่เสื้อผ้าแบบไหนมา ต้องมาเสียเวลาบิดน้ำออกจากเสื้อก่อนกลับอีก ข้างนอกก็หนาว ทำให้ฉันวุ่นวายซะจริงๆเลย ไอ้บ้า” รินบ่นเสียงขุ่นแล้วตีน้ำใส่คนที่ลอยตัวเล่นอยู่ในน้ำ ซึ่งฮารุก็ยังมีท่าทีเฉยชาเหมือนเดิม

                    “ให้ตายเถอะ” เด็กหนุ่มผมแดงสบถออกมาในขณะที่หันตัวเดินไปที่ขอบสระ

                    “...นี่ ริน” เด็กหนุ่มผมดำเรียกอีกคนที่อยู่ในอาคารซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายเดินไปเกือบถึงขอบสระแล้ว

                    “หือ?” เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียกที่อยู่กลางสระ

                    “...นายดูเปลี่ยนไปเยอะนะ...”

                    “...ก็แหงสิ โตแล้วนะ จะให้เป็นเด็กตลอดไปได้ยังไง” รินเดินไปใกล้ขอบสระและปีนขึ้นไป เด็กหนุ่มมองหาประตูห้องแต่งตัวของชมรมและเจอมันอย่างรวดเร็ว

                    “แต่นายดูแปลกไป... อย่างกับไม่ใช่ตัวของนายเลย” ฮารุพูดในขณะที่เขายังลอยตัวอยู่ในน้ำ สายตามองด้านบนของสระ รินหันควับมาทางฮารุกะทันทีหลังจบคำพูดนั้น

                    “อย่า - มา - ทำเป็นรู้ดีเกี่ยวกับตัวฉัน” เด็กหนุ่มผมแดงพูดเสียงขุ่น ดวงตาจ้องเขม็งไปที่คนในสระน้ำ

                    “ฉันไม่ได้ทำเป็นรู้ดี แค่พูดตามที่คิด นายดูแปลกๆจริงๆ อย่างกับกำลังฝืนอะไรอยู่” ฮารุกะตอบน้ำเสียงเรียบ

                    ฟันสีขาวของเด็กหนุ่มผมแดงขบกันด้วยความหงุดหงิด... หงุดหงิดที่โดนดูออก ทั้งๆที่เขาพยายามซ่อนมันไว้ให้ลึกที่สุด

                    รินสะบัดหน้าหนีจากเด็กหนุ่มในสระและเดินไปที่ห้องแต่งตัวของชมรม  และเมื่อลองบิดลูกบิดประตูดู ก็พบว่ามันไม่ได้ล็อค เด็กหนุ่มผมแดงหายเข้าไปในห้องชมรมซักพักก่อนจะออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พาดคอไว้ เสื้อกล้ามสีเข้มที่เคยสวมใส่ถูกถอดออกและถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง เขาเดินไปที่ริมสระ บิดเสื้อให้น้ำที่ชุ่มอยู่ในเนื้อผ้าไหลลงสระ

                    เพราะในสระว่ายน้ำในร่มมีคนแค่สองคนและเงียบสงบ เสียงน้ำที่ถูกบิดจากผ้าสีเข้มไหลลงกระทบกับน้ำในสระนั้นได้ยินชัดเจน ฮาระเป็นจากลอยตัวในน้ำเป็นยืนในสระและหันมองต้นเสียง รินรู้ตัวว่าถูกมอง เขาเลื่อนจาจากผ้าในมือไปมองคนที่จ้องเขา สายตาของทั้งคู่สบกัน อยู่แบบนั้นซักพักจนรินเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน

                     เด็กหนุ่มจากโรงเรียนอิวาโทบิขึ้นจากสระ เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของชมรมว่ายน้ำโรงเรียนอื่นและเดินออกพร้อมกับผ้าขนหนูผืนหนึ่งซึ่งเป็นของใช้สำรองของชมรมว่ายน้ำซาเมะสึกะ เป็นของใหม่  ฮารุกะเดินไปใกล้รินที่สวมเสื้อกล้ามซึ่งเปียกชื้นและกำลังเช็ดผมอยู่ จากด้านหลัง เด็กหนุ่มผมแดงรู้ว่าอีกคนกำลังเดินมาใกล้ แต่ก็ไม่สนใจที่จะหันไปมอง

                    “ตอนประถม นายเคยพูดว่าถ้าฉันลงว่ายผลัดกับนายและนายจะให้ฉันได้เห็นสิ่งที่ฉันไม่เคยเห็นสินะ...”

                    “แล้วไง?” ถามโดยไม่หันไปมอง ผ้าขนหนูคลุมอยู่ที่ศีรษะ มือเรียวขยี้มันกับเส้นผมสีแดงเบาๆ

                    “ตอนนั้นฉันได้เห็นนะ ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปีฉันก็ลืมมันไป แต่ฉันก็ได้เห็นมันอีกครั้ง”

                    “...”

                    “เพราะได้ว่ายน้ำกับนายวันนั้น ฉันถึงได้เห็นอะไรดีๆอีกครั้ง

                    “...”

                    “ทั้งๆที่ก่อนหน้านี่ก็เคยว่ายน้ำกับคนอื่นมาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นมันเลย แต่รินทำให้ฉันได้เห็นมันตั้งสองครั้ง...”

                    “อย่างกับว่า... มีแค่รินคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกดีได้ขนาดนั้น รินเองก็...”

                    “น่ารำคาญ เลิกพูดเพ้อเจ้อซักที” รินหลับตาลงและพูดแทรกขึ้น

                    “...” ดวงตาสีน้ำเงินมองด้านหลังของเพื่อนสมัยเด็ก

                    “...”  

                    “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าก่อนหน้านี่นายเจออะไรมาบ้าง ฉันไม่รู้ว่าอะไรทำให้นายเปลี่ยนไปแบบนี้ ตอนเหมือนกับว่านายพยายามเก็บซ่อนบ้างสิ่งเอาไว้ข้างใน”

                    “...” รินหลับตาแน่น ไม่คิดจะหันไปมองฮารุกะ และถึงหันไป เขาในตอนนี้ก็ไม่อาจทำสีหน้าให้เป็นปกติและมองหน้าอีกฝ่ายได้

                    “ถึงตอนี้เราจะเพิ่งได้เจอกันไม่กี่ครั้ง แต่ก็มีบ้างครั้งที่สายตานายสื่อว่ากำลังอัดอั้นกับบางอย่างหรือคอยเก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้อยู่”

                    “หุบ..ปาก...” รินพูดเสียงสั่น คำพูดพวกนั้นมันทำให้เขานึกถึงเรื่องน่าอัดอั้นใจที่เขาพยายามเก็บไว้คนเดียว ตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกอัดอั้นจนอยากระบายออก แต่ถ้าทำแบบนั้น เขาคงเหมือนคนน่าสมเพช...

                    “...อย่างที่เคยบอก ฉันจะเป็นคนรับฟังเรื่องของนายเอง ถ้าอยากระบายก็พูดออกมาได้เลย...”

                    “หุบปากไปซะ...” รินหลับตาอย่างพยายามข่มอารมณ์ไว้

                    “...”

                    “...” ท่ามกลางความเงียบสงบ รินพยายามเก็บความรู้สึกหลายๆอย่างที่ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นเอาไว้

                    “งั้น... ฉันจะรอ”

                    “...หา?” เด็กหนุ่มผมแดงหันมามองคนพูดช้าๆแบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ดวงตาสีแดงเรียวสวยฉายแววไม่อยากจะเชื่อซะเต็มประดา  

                    “ฉันจะรอจนกว่านายจะพร้อมระบายมันออกมา ถ้าถึงเวลาที่นายอยากพูด ฉันจะเป็นคนรับฟังมันเอง” แววตาที่ปกติดูไม่จริงจังกับอะไรมาก ตอนนี้ฉายแววแน่วแน่กับคำพูดอย่างเห็นได้ชัด

                    “...” ริมฝีปากสวยอ้าปากนิดหน่อยราวกับจะพูดอะไรซักอย่าง แต่รู้สึกว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังหวั่นไหว

                    ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นยังคงมองมาที่รินไม่เลิก รินอึกอัก ทำตัวไม่ถูกอยู่ซักพักก่อนจะตั้งสติได้

                    “พ...พูดบ้าอะไรของนายวะ!? งี่เง่าชะมัด เห็นฉันเป็นเด็กรึยังถึงต้องคอยมาทำเป็นห่วงฉันตลอด”

                    “ไม่ใช่” ฮารุตอบโดยที่ยังคงสบตากับดวงตาสีแดงคู่สวยอยู่ น้ำเสียงที่ตอบออกมาแม้จะไม่ดังแต่ก็ชัดเจนเต็มสองหูของริน

                    “เวรเอ๊ย! ผ้าเช็ดตัวที่เคยถูกใช้เช็ดผมของเด็กหนุ่มผมแดงถูกโยนใส่หน้าของฮารุกะ “ฉันจะกลับแล้ว!” รินหันหลังควับและก้าวเท้าเร็วๆไปทางประตู

                    “ริน” ฮารุกะออกปากเรียกด้วยน้ำเสียงปกติ

                    “...” เจ้าของชื่อยังคงก้าวเท้าต่อไป

                    “ไอ้บ้าริน”

                    “ไอ้บ้าฮารุ!” รินที่เดินไปได้ครึ่งทางแล้วหันควับกลับมาด่า

                    “ฉันจะรอนะ”

                    คนฟังอ้าปากค้างนิดหน่อยแบบคนไม่รู้จะตอบโต้ยังไง ใบหน้าเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อนิดหน่อย ไม่อาจรู้ว่าเจ้าตัวกำลังโกรธหรือเขินอยู่กันแน่ รินค้างอยู่ในท่าทางนั้นซักพักจนเริ่มได้สติ คิดออกว่าจะทำอะไรต่อ ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากัน ดวงตาคู่สวยมองคนที่อยู่ห่างออกไปด้วยสายตาดุที่พยายามจะสื่อว่าไม่ได้หวั่นไหวกับคำพูดนั้นทั้งๆที่ตอนนี้แก้มเนียนทั้งสองข้างของเขามีสีแดงระเรื่อ ดีหน้าดุไม่อีกฝ่ายได้ไม่นานรินก็หันหลังเดินไปออกจากอาคารไปอย่างรวดเร็วโดยมีดวงตาสีน้ำทะเลคู่สวยมองตามจนลับประตูไป เหลือแต่ฮารุกะอยู่ในอาคารสระว่ายน้ำในร่มที่เงียบสงบ

                     ในบรรยากาศเงียบสงบ ฮารุยิ้มขึ้นมาน้อยๆเมื่อนึกถึงสัมผัสตอนที่ริมฝีปากของเขากับรินสัมผัสกัน

                   

                    เพราะเสื้อผ้าที่ใส่อยู่เปียกชื้น และด้านนอกอาคารมีลมพัดแรง ตอนนี้รินจึงอยู่ในสภาพแขนกอดตัวเอง เขารู้สึกหนาวจนหงุดหงิด แต่ที่น่าหงุดหงิดกว่าคือความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเพราะคำพูดและสายตาของฮารุกะ ร่างเพรียวรีบเดินไปที่หอพักให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเข้าไปด้านในก็รายงานตัวว่ากลับมาแล้วและรีบวิ่งขึ้นห้องไป

                    ทันทีที่เข้ามาในห้องเรียบร้อย รินรีบถอดเสื้อออกและเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างตัว ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มสังเกตเห็นใบหน้าของตัวเองที่ดูต่างไปจากปกติในกระจกหน้าห้องน้ำ ใบหน้าสวยที่ปกติชอบตีสีเหมือนไม่รู้สึกอะไร ตอนนี้แต่งเติมไปด้วยสีแดงระเรื่อ หัวใจในอกข้างซ้ายเต้นแรงผิดปกติ... ซึ่งเขารู้ว่าใครที่เป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนี้

                    “ไอ้บ้าฮารุ ไอ้งี่เง่า ไอ้บ้า...” น้ำเสียงน้ำพูดแผ่วเบาราวกับเพ้อออกมาอย่างลืมตัว

     
     

                   

     

     

                    “ฮารุ~ นี่ฉันเองนะ... ขอเข้าไปนะ” เสียงทุ้มน่าฟังของเด็กหนุ่มตัวสูงดังขึ้นที่ประตูหลังของบ้านไม้สองชั้นของเพื่อนสนิท

                    ครืด

                    ประตูไม้แบบเลื่อนไม้มีเสียงยามที่ถูกเปิดและปิด มาโคโตะมองไปที่ประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้เป็นหลังบ้านเป็นอันดับแรกและเดินไปใกล้มัน

                    “ฉันเข้าไปนะ” แล้วมือหน้าก็เลื่อนบานประตูให้เปิดออก สิ่งที่มาโคโตะคิดว่าจะได้เห็นคือเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านแช่อยู่ในอ่างเหมือนวันก่อนๆที่เขามาตาม แต่วันนี้ไม่ใช่ ห้องน้ำที่เปิดเข้านั้นว่างเปล่า

                    “เอ๋ ไม่อยู่?” เด็กหนุ่มร่างสูงสับสนเล็กน้อย ไม่นึกว่ามันจะต่างจากที่คิดไว้ เขาใช้หัวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกเดินหาตัวฮารุกะในบ้าน

                    ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องไหนๆในชั้นแรกก็ไม่มี ทำให้มาโคโตะคิดว่าได้ว่าฮารุกะอาจจะยังไม่ตื่น ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นบันไดไม้ไปชั้นสอง เปิดประตูเข้าในห้องนอนบ้านคนอื่นอย่างถือวิสาสะ และสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ นานาเสะ ฮารุกะ เจ้าของบ้านที่เขายืนอยู่กำลังหลับอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่จนถึงช่วงลำคอ

                    “นี่~ ฮารุ นี่มันจะสายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว ฮารุ...” มาโคโตะพูดพลางเขย่าคนที่นอนอยู่ ไม่นานนักคนถูกปลุกก็ลืมตาขึ้น ใช้เวลาอยู่ซักพักกว่าสายตาจะปรับให้ชินกับแสงยามเช้าได้

                    “มาโคโตะ?” นี่คือสิ่งแรกที่ฮารุกะเห็น

                    “ลุกได้แล้ว จะสายแล้วนะ”

                    “หะ... อือ” เด็กหนุ่มผมดำค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้น เมื่อลุกขึ้นนั่งได้เขาก็จัดการบิดขึ้เกียจไปซักหน่อย

                    “แปลกจังนะที่วันนี้นายเพิ่งตื่น ปกติถ้ามาเวลานี่นายก็จะแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำแล้ว”

                    “เมื่อคืนมีเรื่องนิดหน่อย เลยทำให้นอนดึก” กว่าเขาจะกลับถึงบ้าน ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว

                    “ไปทำอะไรมา?”

                    “แค่ออกไปเดินเล่นนานเกินไปหน่อยน่ะ” ใบหน้าของฮารุกะปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขานึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน นึกถึงตอนที่ริมฝีปากของเขากับรินสัมผัสกัน 

                      

    END.

     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×