ตอนที่ 18 : บทที่8 จบตอนค่ะ
“รอนานรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลขณะเดินมาหยุดมองใบหน้าสวยด้วยแววตาพราวพรายสื่อความหมายบางอย่างที่ทำให้แก้มสาวร้อนฉ่า
“ไม่ค่ะเพื่อนเพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี่เอง ว่าแต่พี่ธามโทร. บอกแม่หวานว่ามีธุระกับเพื่อน มีอะไรคะ” หญิงสาวทำทีไม่รู้ไม่ชี้กับแววตาของคนตัวโต
“ก็เพราะพี่โทร.ไปเบอร์ของเพื่อนแล้วเพื่อนไม่รับ พี่ก็เลยโทร. หาเจ๊หวาน”
“สรุปพี่ธามมีอะไรกับเพื่อนคะ ถึงได้บอกว่ามีธุระด่วนขนาดนั้น” หญิงสาวถามย้ำ
เขาต้องการให้พิมพ์ภัสสรเข้ามาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวซึ่งมันเกี่ยวกับงานแสดงสินค้าบริษัทของตน เนื่องจากตอนนี้พิมพ์ภัสสรควบตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัทเจ๊หวานด้วย เธอลดงานอีเวนต์ของตนเองลงและปั้นพริตตี้หน้าใหม่ขึ้นมาแทนที่ตนซึ่งมันทำให้ธาม พอใจมาก นั่นหมายความว่าผู้ชายคนอื่นจะได้เห็นเธอน้อยลงนั่นเองและมันเป็นโอกาสของเขาที่จะเก็บเธอไว้มองคนเดียว เขาจึงต้องพึ่งพาเจ๊หวานในการที่จะนัดพบเธอ
“นี่ก็จะเที่ยงแล้ว พี่ว่าเราะไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่ามั้ย พี่นัดแทมมี่ไว้ด้วย”
“แต่ว่า...”
“เราไปกินข้าวกันก่อนครับคนสวย พี่หิวแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นทำอย่างอื่นแทนก็ได้นะ” ธามตัดบทยิ้มๆ อย่างมีเลศนัยทำให้หญิงสาวหน้าแดงก่ำ พิมพ์ภัสสรค้อนอย่างหมั่นไส้คนเจ้าแผนการ
“อุ้ย คุณธามขา พอดีว่าจินนี่อยากจะขอบคุณคุณธาม ด้วยอาหารสักมื้อน่ะค่ะ” แต่แล้วเสียงจินนี่ขัดขึ้นพร้อมด้วยร่างระหงปราดเข้ามาขวางเขากับเธออย่างว่องไวราวปรอท
“พอดีว่าผมกำลังจะไปกินข้าวกับน้องสาวแล้วก็น้องเพื่อนพอดีครับ คงไม่สะดวก...”
“อุ้ย ไม่เป็นไรค่ะพี่ธาม เราก็ให้คุณจินนี่ไปกับเราด้วยสิคะ ไปกันหลายๆ คนสนุกดีออกค่ะ” พิมพ์ภัสสรตั้งใจเรียกเขาอย่างสนิทสนมด้วยน้ำเสียงน่ารักสดใสซึ่งสรรพนามที่เธอใช้กับธามนั้นทำให้จินนี่ตาลุกด้วยความริษยาแต่ก็เก็บอาการด้วยการยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“เอ่อ คือ...” ธามลังเลและรู้สึกถึงความยุ่งยากอย่างไม่มีเหตุผลกับการควงหญิงสาวสองคนไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน แล้วยิ่งนึกถึงฤทธิ์ร้ายของน้องสาวแล้วก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที...
แทนฤทัยนั่งหน้างออย่างไม่สบอารมณ์เมื่อมื้อกลางวันนี้เธอต้องมีผู้ชายที่เธอไม่อยากเห็นหน้ามานั่งร่วมโต๊ะด้วย พร้อมทั้งหญิงสาวที่เธอไม่คิดอยากจะได้มาเป็นพี่สะใภ้ทั้งสองคน แม้ว่าอีกคนหนึ่งจะเป็นหุ้นส่วนของเธอก็ตามแทนฤทัยคิดอย่างเคืองขัดในใจ และที่เธอไม่ชอบหน้าราฟาเอลเพราะเขาชอบทำตัวเป็นคู่แข่งกับพี่ชายเธอนั่นเองหรืออาจจะมีอะไรลึกๆ ซ่อนไว้ในใจ
“ไม่รู้จะพากันมาทำไมเยอะแยะ...” หญิงสาวบ่นขณะปรายตามองคนที่เดินผ่านประตูกระจกร้านอาหารหรูชื่อดังเข้ามา ทำให้ราฟาเอลแค่นยิ้มขันเธอราวกับว่าเธอเป็นเด็กหญิงเกเรคนหนึ่งทำให้แทนฤทัยอยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นนัก
“นายหัวเราะอะไร”
“เปล่า ฉันหัวเราะตรงไหนกัน” ชายหนุ่มก้มหน้าซ่อนยิ้มทำให้เห็นสันจมูกโด่งสวยจนแทนฤทัยนึกอยากจะลูบมันเล่น แต่ก็รีบห้ามความคิดของตัวเองแล้วทำเสียงเขียวใส่เขา
“เมื่อกี้นายทำเสียง หึ ในลำคอ...”
“เด็กหนอเด็ก...” ราฟาเอลพูดแค่นั้นแล้วลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้ให้เกียรติผู้มาใหม่ตามมารยาทแล้วยิ้มให้พิมพ์ภัสสรอย่างเป็นมิตรอ่อนโยนผิดกับที่มองธามมันเต็มไปด้วยความเย็นชาหมางเมินและชิงชัง
“สวัสดีครับ เราเจอกันอีกแล้วนะครับคุณพิมพ์ภัสสร”
“สวัสดีค่ะ ยินดีมากค่ะที่ได้พบคุณอีก”
“ฉันว่านายไม่ควรมาอยู่ที่นี่นะราฟาเอล” ธามพูดขัดขึ้นทั้งด้วยความหึงหวง และความขัดแย้งที่มีก่อนหน้านั้น
“นั่นสิคะ ไม่รู้จะมาทำไมทั้งที่รู้ว่าไม่มีใครชอบหน้า” แทนฤทัยปรายตามองดาราสาวที่ยืนเกาะแขนพี่ชายของเธอแจเหมือนตุ๊กแกซ้ำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจใครแต่ราฟาเอลก็ยืดอกยอมรับหน้ามึนๆ ยียวนสองพี่น้องนี้เสียมากกว่า
“ฉันมาตามสิทธิที่ฉันควรจะได้และตามที่คุณลุงอนุญาตเธอลืมไปรึเปล่าครับคุณหนูแทมมี่”
แล้วหนุ่มสาวเลิกต่อปากต่อคำกันเมื่อพนักงานสาวเข้ามารับออร์เดอร์ จินนี่รีบเข้ามานั่งตัดหน้าพิมพ์ภัสสรที่กำลังจะนั่งลงข้างๆ ธาม ทำให้พิมพ์ภัสสรต้องเดินมานั่งข้างราฟาเอลซึ่งขยับเก้าอี้ให้เธออย่างยินดี ท่าทางของราฟาเอลที่แสดงออกต่อหญิงสาวทำให้ธามไม่พอใจอยู่ลึกๆ ไม่แตกต่างจากแทนฤทัยที่ปรายตามองพิมพ์ภัสสรด้วยความอิจฉาโดยไม่รู้ตัว…
บรรยากาศในการรับประทานอาหารดูเหมือนนางเอกสาวจะผูกขาดการสนทนาไปคนเดียว จินนี่คุยฟุ้งถึงชีวิตของตนเองเสียเลิศเลอจนพิมพ์ภัสสรรู้สึกอิ่มและเอียนอาหารตรงหน้าไปเลยทีเดียว
จินนี่บอกว่าว่าตนเป็นลูกสาวผู้ดีเก่าที่ไปเกิดและเติบโตอยู่ที่อเมริกาตามบิดาและมีอีกมากมายที่เจ้าหล่อนจะพูดเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาใครๆ พิมพ์ภัสสรแอบกลอกตามองเพดานด้วยความหมั่นไส้อยู่เสียหลายครั้ง อยากจะโพล่งถึงความเน่าเฟะและความร้ายกาจของจินนี่ให้ใครๆ ได้รับรู้เสียให้รู้แล้วรู้รอด
“น้องเพื่อนอิ่มแล้วเหรอครับ” ราฟาเอลถามเมื่อเธอกับเขาต่างอนุญาตให้เรียกขานกันด้วยสรรพนามที่เป็นกันเองซึ่งชายหนุ่มก็ยินดีเพราะรู้สึกถูกชะตาและชอบพอนิสัยของพิมพ์ภัสสรมากโดยไม่ต้องอาศัยเวลานานเลย
“ค่ะพี่ราฟ สงสัยอาหารแบบนี้ไม่ถูกปากค่ะ มันเลี่ยนแล้วรสชาติมันดูเสแสร้งยังไงไม่รู้”
“แหม... ก็อย่างนี้ล่ะค่ะคุณเพื่อน คนที่ไม่เคยเข้าร้านอาหารหรูๆ หรือไม่เคยร่ำเรียนเมืองนอกเมืองนามาก็จะกินอาหารดีๆ พวกนี้ไม่ได้...” จินนี่พูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราวนางเอกผู้อารีอ่อนโยนต่อเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาส
แทนฤทัยแค่นยิ้มอย่างหมั่นไส้ท่าทางดัดจริตของนางเอกสาวเช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาผิวพรรณของเจ้าหล่อนดูดีและสวยสมเป็นนางเอกแม้จะดูรู้ว่าศัลยกรรมมาก็ตาม แต่สิ่งที่แทนฤทัยยังไม่รู้ก็คือจินนี่ทำมาทั้งตัวและเจ้าหล่อนก็ไม่ได้เป็นผู้รากมากดีมากจากไหน...
“แหม ดูคุณจินนี่เนี่ยเป็นผู้ดีจังนะคะ บ้านในอเมริกานี่คงจะใหญ่โตราวกับวังสินะคะ” แทนฤทัยตั้งใจพูดประชดเสียมากกว่าแต่นางเอกสาวกลับยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น
“อุ้ย คุณแทมมี่รู้ได้ยังไงคะว่าบ้านของจินนี่ใหญ่มาก จินนี่ พยายามมากเลยนะคะที่จะปกปิดฐานะที่แท้จริง และไม่อยากให้ใครว่าที่ได้เป็นนางเอกพระรวยมาก อีกอย่างจินนี่อยากจะเป็นเพียงคนธรรมดามากกว่านะคะดูจะลำบากน้อยกว่าด้วยค่ะ”
“ตายจริง นี่พูดจริงเหรอคะ ถึงขนาดปกปิดฐานะที่แท้จริงเลยหรือคะคุณจินนี่ แหมลำบากนะคะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ” พิมพ์ภัสสรพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่แฝงไว้ด้วยคำเหน็บแนมที่รู้กันสองคนกับนางเอกสาว
“นี่อิ่มกินแล้วใช่มั้ย...” ธามถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขาอยากจะอยู่ตามลำพังกับพิมพ์ภัสสรมากกว่าที่จะมาฟังเรื่องไร้สาระของนางเอกสาวและไม่ต้องการให้ราฟาเอลมายุ่งกับพิมพ์ภัสสรด้วย
“แทมมี่อิ่มแล้วค่ะ จะไปทำงานต่อ”
“จินนี่ก็อิ่มแล้วค่ะคุณธาม แต่จินนี่มีเรื่องจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวนิดหน่อยไม่ทราบว่า...”
“ผมไม่ว่างหรอกครับ เอาเป็นว่าหากคุณมีอะไรด่วนหรือสำคัญก็คุยกับเลขาของผมก่อน ผมมีเรื่องต้องคุยกับน้องเพื่อน เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไปรอที่รถนะแทมมี่ หรือจะกลับเอง”
“แทมมี่กลับเองดีกว่าค่ะ พี่ธามไปเถอะ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วหันมามองหญิงสาวที่ยังนั่งจิบน้ำส้มอยู่ข้างๆ ราฟาเอลโดยไม่สนใจเขาทำให้ธามต้องกระแอมเรียกเธอกรายๆ
“แต่คุณธามคะ จินนี่ไม่ได้เอารถมานะคะให้จินนี่กลับกับคุณได้มั้ยคะ”
“อุ๊ย คุณจินนี่ขาเดี๋ยวแทมมี่เรียกแท็กซี่ให้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
“จริงด้วยค่ะ คุณจินนี่น่าสงสารออก เดี๋ยวยังไงเพื่อนขอพาเธอไปรอแท็กซี่ก่อนนะคะพี่ธาม รอเพื่อนแป๊บเดียวค่ะ” ว่าแล้วพิมพ์ภัสสรก็ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงแล้วทำทีเข้ามาจูงมือของนางเอกสาวอย่างอ่อนโยนแล้วประคองร่างที่แทบจะเต้นเร่าๆ ของจินนี่ออกไปตามด้วยแทนฤทัยที่เดินมาประกบด้วยความหมั่นไส้นางเอกสาวเต็มแก่ ท่าทางของพวกเธอเหมือนเพื่อนรักที่ต้องจัดการคู่อริด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น
ทั้งสามสาวออกไปแล้วทำให้ที่โต๊ะอาหารมีเพียงสองหนุ่มที่ยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมหลบตาตาใคร รัศมีความหล่อเหลาสง่างามของพวกเขาก็ไม่ด้อยไปกว่ากันด้วย ซึ่งข้อนี้พนักงานสาวๆ ต่างพากันกรีดร้องอยู่ในอกด้วยความตื่นเต้นที่เห็นหนุ่มหล่อมารับประทานอาหารในร้านที่ตนทำงานอยู่ซึ่งต่างก็พากันมองชายหนุ่มทั้งสองอย่างหลงใหล
“ฉันคิดว่าครั้งต่อไปฉันจะไม่เจอหน้านายอยู่กับน้องสาวของฉัน...”
“ฉันเองก็รับปากไม่ได้หรอกนะ เพราะบางทีมันอาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ฉันกับน้องนายต้องมาพบเจอกันก็เป็นได้”
“ฉันไม่มีวันมีน้องเขยชื่อราฟาเอล ฟร้องซ์...”
“หึหึ มันก็ไม่แน่หรอกธามเอาเป็นว่าวันนี้อาหารอร่อยมากและน้องเพื่อนก็น่ารักจริงๆ หากนายไม่คิดจริงจังกับเธอก็บอกนะ ฉันยินดีรับช่วงต่อ...” ราฟาเอลยิ้มอย่างรื่นรมย์แล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจสายตาวาวโรจน์ของธามที่แทบจะกระโดดเข้ามาขย้ำเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ ได้เลยทีเดียวราฟาเอลทำทีโบกมือให้ธามอย่างยั่วเย้าเสียมากกว่าทำด้วยความจริงใจจริงจัง
ราฟาเอลรู้ดีว่าธามนั้นมีความเป็นสุภาพชนอยู่สูงมากและไม่ทำร้ายใครลับหลัง ธามไม่มีทางทำอะไรให้เป็นเรื่องเอิกเกริกให้ตัวเองเดือดร้อนแต่ธามจะเป็นคนที่เอาคืนศัตรูได้เจ็บแสบด้วยวิธีการที่แนบเนียนกว่าใช้อารมณ์เข้าห้ำหั่น และเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงสักเท่าไหร่สู้ไปหาอะไรสนุกๆ ทำดีกว่า เช่นกวนประสาทน้องสาวตัวแสบของธามเล่นสนุกกว่าเป็นไหนๆ
**********************
ฝากติดตามพี่ธามกับน้องเพื่อนด้วยนะคะ แล้วอย่าลืมติดตาม คู่แค้นแสนเสน่หาด้วยนะคะ
จะเป็นเรื่องราวน่ารักกุ๊กกิ๊กๆ ของแทนฤทัย กับราฟาเอลค่ะ
ขอบคุณค่ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
