คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ปฐมกาลในอดีตต่างแคว้นนครย่อมต้องการความเป็นใหญ่เพื่ออำนาจสูงสุดในการปกครองให้ทุกอาณาจักรมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นเหตุให้เกิดสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน เหล่าบรรพบุรุษต่างสละชีพเพื่อปกป้องชนกลุ่มใหญ่ของแต่ละเผ่าพันธุ์ ส่งผลให้เกิดความเคียดแค้นต่อเผ่าพันธุ์อื่น ดำเนินต่อหลายยุคหลายสมัยจนกลายเป็นมหาสงครามที่ยากจะยุติ
ซีกหนึ่งของฟากฟ้าเผยให้เห็นลำแสงสีทองเป็นประกาย สายรุ้งวาดโค้งผ่านนภาซึ่งเป็นความงามยามเช้าของนคร ‘ซาเวีย’ นครต้องมนตราอันเป็นที่น่าหลงใหลต่อผู้พบเห็น ริมเขตนครเป็นป่าต้องห้ามซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์ในตำนานนานาชนิด ต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีสลับกับทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาล้อมรอบพระราชวังสีทองอร่ามบนเนินเขาสูง
ร่างสูงใหญ่ยืนเคียงคู่กับหญิงสาวที่กำลังยิ้มละไมพร้อมกับห่อผ้าในอ้อมกอด ใบหูแหลมยาวชี้ขึ้นรับกับใบหน้าหวานอ่อนละมุน ผิวขาวราวไข่มุกทอประกายยามต้องแสงอาทิตย์ยามเช้า ชาวเมืองนับหมื่นมายืนแสดงความยินดีหลังจากทราบข่าวการให้กำเนิดของ พระธิดาองค์แรกของกษัตริย์ดีเนดัลและพระชายาเอสเทล่า ผู้ปกครองนครมาด้วยความสงบสุขเสมอมา
ใบหน้าหวานกว่าหญิงสาวใดในเผ่าพันธุ์อื่นแต่คมสมเป็นบุรุษเพศสำหรับพันธุ์เดียวกันแต้มยิ้มขณะรับห่อผ้าจากหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะก้มลงเพื่อที่จะกล่าวกับธิดาน้อย
“ข้าจะให้เจ้าชื่อว่า ‘เฟริน่า’ ”
ต่างจากอีกซีกหนึ่งของฟากฟ้า ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าใสปราศจากสิ่งใดบดบังบัดนี้ปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆขนาดใหญ่สีอึมครึม ประกายไฟสีแดงที่เกิดจากก้อนวัตถุมหึมาบนอากาศฟาดผ่าลงบนผืนดิน อันเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า ‘มังกร’ สัตว์ในตำนานผู้ครองความยิ่งใหญ่ตั้งแต่อดีตกาล
เสียงร้องระงมพร้อมกับเสียงกระพือปีกของสัตว์ประหลาดตัวใหญ่มหึมา ขนสีดำเป็นมันวาวตั้งแต่ศีรษะที่มีหูแหลมชี้ขึ้นจนถึงปลายเท้าที่มีกรงเล็บคมสีเทายาวแหลมออกมา เขี้ยวสีขาวถูกเผยให้เห็นต่อสายตามวลมนุษย์ผู้ที่กำลังก่อสงครามกับสัตว์ร้าย ลูกไฟลูกใหญ่สีแดงสดถูกปล่อยออกมา พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ถูกลูกไฟหลอมรวมร่างจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ร่องรอยแห่งความกังวลไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าของ ‘องค์ดราเคเลียส ’ หลังจากที่ทราบข่าวการให้กำเนิดรัชทายาทองค์ที่สองแห่ง ‘นครดราโกไนซ์’ แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็ก้าวเท้าหมายจะพบ ลูกน้อย และพระชายา
“ โรเวียน่า ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น
“ข้าเกรงว่า สงครามจะไม่ยุติลงง่ายๆ มีแต่จะรุนแรงขึ้น ” น้ำเสียงเจือความกังวลใจถูกกล่าวออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือของหญิงสาวที่กำลังนอนพักฟื้น หลังจากได้ให้กำเนิดลูกมังกรตัวน้อย
“ข้ากลัวว่าลูกของเราจะไม่ปลอดภัยในยามนี้ ” กษัตริย์แห่งดราโกไนซ์กล่าว “เราจะต้องพาลูกหนีไปเพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายของพวกมนุษย์ ” โรเวียน่าหลับตาลงเนื่องด้วยเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นางจะต้องอยู่ห่างจากลูกอย่างนั้นหรอกหรือ
“ข้าไม่อยากห่างจากลูกในยามนี้ ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยท้วงขึ้นมา
“ ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะต้องพา ‘อาร์คีรอส’ หนีไป ส่วน ‘อิคารัส’ ข้าคิดว่าโตพอที่จะอยู่กับข้าที่นี่ เจ้าต้องพาอาร์คีรอสไปที่ริมชายแดนเพราะจะเป็นส่วนที่ลึกที่สุดที่มนุษย์สามารถจะไปถึง ” ดราเคเลียสกล่าวจบก็หยิบไข่มังกรสีดำเป็นประกายเหลือบเงาขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ก่อนจะส่งไข่มังกรนั้นฝห้โรเวียน่าเพื่อหลบหนีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ข้าจะไปรับเจ้าและลูกทันทีที่สงครามสงบลง ข้าสัญญา”
โรเวียน่ากระชับไข่มังกรไว้แนบอกก่อนจะโผทะยานขึ้นสู่ฟ้าพร้อมกับร่างที่กลายเป็นมังกรสีขาวนวล มุ่งหน้าไปสู่ชายแดนปีกที่กระพืออยู่บนท้องฟ้ายิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นหลังจากเห็นลูกธนูพุ่งผ่านไปอย่างฉิวเฉียดเป็นสัญญาณเตือนภัยว่ามีคนเห็นนางและกำลังไล่ล่านางอยู่
“มันอยู่บนท้องฟ้า ยิงมัน ” เสียงแหบห้าวตะโกนฝ่ากับสรรพเสียงอื่นๆ แต่ทว่ากลับดังก้องในหัวของโรเวียน่า
“ฉึก” ลูกธนูสีดำสนิทปักเข้ากับปีกข้างขวาของมังกรขาว เลือดสีแดงสดไหลริน
โรเวียน่าข่มตาทนรับความเจ็บปวด ดวงตาสีเทาทอแสงอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นชายแดนอยู่ตรงหน้าอย่างเลือนลาง พร้อมกับรวบรวมแรงสุดท้ายที่มีอยู่โยนไข่มังกรออกไปให้พ้นเขตแดน ปีกที่เคยเป็นสีขาวนวลบัดนี้เป็นสีแดงฉานถูกปล่อยลงข้างตัวพร้อมกับลมหายใจที่หยุดลงทำให้ร่างถูกทิ้งลงสู่พื้นดิน
ดราเคเลียสเมื่อทราบข่าวของพระชายาโรเวียน่าก็ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นเป็นเท่าทวี สั่งบรรดาทหารออกไปรับตัวพระชายากลับมา ก่อนที่ร่างสูงพร้อมกับเด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบปีที่มีดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลัษณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แปลงเป็นมังกรตัวใหญืสีดำสนิท และมังกรสีแดง ตามเวทย์วิเศษที่เกิดมาพร้อมกับตัวมังกรผู้นั้น
ไข่มังกรสีดำถูกปล่อยลงในเขตป่าต้องห้าม แต่ทว่าหาใช่ผืนดินอันเป็นถิ่นกำเนิดของมังกรตัวน้อยไม่ แต่หากเป็นผืนดินของเผ่าพันธุ์ต้องมนตราที่เกิดมาพร้อมกับเสียงเพลง เผ่าพันธุ์ ‘เอลฟ์’ ผู้ปกครองนคร ‘ซาเวีย’
ความคิดเห็น