ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The tale of loveless

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 51


     

                  ปฐมกาลในอดีตต่างแคว้นนครย่อมต้องการความเป็นใหญ่เพื่ออำนาจสูงสุดในการปกครองให้ทุกอาณาจักรมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว  เป็นเหตุให้เกิดสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน  เหล่าบรรพบุรุษต่างสละชีพเพื่อปกป้องชนกลุ่มใหญ่ของแต่ละเผ่าพันธุ์  ส่งผลให้เกิดความเคียดแค้นต่อเผ่าพันธุ์อื่น ดำเนินต่อหลายยุคหลายสมัยจนกลายเป็นมหาสงครามที่ยากจะยุติ

               ซีกหนึ่งของฟากฟ้าเผยให้เห็นลำแสงสีทองเป็นประกาย  สายรุ้งวาดโค้งผ่านนภาซึ่งเป็นความงามยามเช้าของนครซาเวียนครต้องมนตราอันเป็นที่น่าหลงใหลต่อผู้พบเห็น ริมเขตนครเป็นป่าต้องห้ามซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์ในตำนานนานาชนิด  ต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีสลับกับทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาล้อมรอบพระราชวังสีทองอร่ามบนเนินเขาสูง 

                   ร่างสูงใหญ่ยืนเคียงคู่กับหญิงสาวที่กำลังยิ้มละไมพร้อมกับห่อผ้าในอ้อมกอด  ใบหูแหลมยาวชี้ขึ้นรับกับใบหน้าหวานอ่อนละมุน  ผิวขาวราวไข่มุกทอประกายยามต้องแสงอาทิตย์ยามเช้า  ชาวเมืองนับหมื่นมายืนแสดงความยินดีหลังจากทราบข่าวการให้กำเนิดของ พระธิดาองค์แรกของกษัตริย์ดีเนดัลและพระชายาเอสเทล่า  ผู้ปกครองนครมาด้วยความสงบสุขเสมอมา

                ใบหน้าหวานกว่าหญิงสาวใดในเผ่าพันธุ์อื่นแต่คมสมเป็นบุรุษเพศสำหรับพันธุ์เดียวกันแต้มยิ้มขณะรับห่อผ้าจากหญิงสาวข้างกาย  ก่อนจะก้มลงเพื่อที่จะกล่าวกับธิดาน้อย

                “ข้าจะให้เจ้าชื่อว่า เฟริน่า’ ”

                     

                     ต่างจากอีกซีกหนึ่งของฟากฟ้า  ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าใสปราศจากสิ่งใดบดบังบัดนี้ปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆขนาดใหญ่สีอึมครึม  ประกายไฟสีแดงที่เกิดจากก้อนวัตถุมหึมาบนอากาศฟาดผ่าลงบนผืนดิน  อันเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า มังกรสัตว์ในตำนานผู้ครองความยิ่งใหญ่ตั้งแต่อดีตกาล 

                เสียงร้องระงมพร้อมกับเสียงกระพือปีกของสัตว์ประหลาดตัวใหญ่มหึมา  ขนสีดำเป็นมันวาวตั้งแต่ศีรษะที่มีหูแหลมชี้ขึ้นจนถึงปลายเท้าที่มีกรงเล็บคมสีเทายาวแหลมออกมา  เขี้ยวสีขาวถูกเผยให้เห็นต่อสายตามวลมนุษย์ผู้ที่กำลังก่อสงครามกับสัตว์ร้าย  ลูกไฟลูกใหญ่สีแดงสดถูกปล่อยออกมา  พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ถูกลูกไฟหลอมรวมร่างจนกลายเป็นเถ้าถ่าน 

                    ร่องรอยแห่งความกังวลไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าของ องค์ดราเคเลียส หลังจากที่ทราบข่าวการให้กำเนิดรัชทายาทองค์ที่สองแห่ง นครดราโกไนซ์แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็ก้าวเท้าหมายจะพบ ลูกน้อย และพระชายา

                “ โรเวียน่า   เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น

                “ข้าเกรงว่า สงครามจะไม่ยุติลงง่ายๆ  มีแต่จะรุนแรงขึ้น น้ำเสียงเจือความกังวลใจถูกกล่าวออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือของหญิงสาวที่กำลังนอนพักฟื้น  หลังจากได้ให้กำเนิดลูกมังกรตัวน้อย

                “ข้ากลัวว่าลูกของเราจะไม่ปลอดภัยในยามนี้   กษัตริย์แห่งดราโกไนซ์กล่าว  เราจะต้องพาลูกหนีไปเพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายของพวกมนุษย์   โรเวียน่าหลับตาลงเนื่องด้วยเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  นางจะต้องอยู่ห่างจากลูกอย่างนั้นหรอกหรือ

                “ข้าไม่อยากห่างจากลูกในยามนี้    น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยท้วงขึ้นมา

                “ ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะต้องพา อาร์คีรอสหนีไป   ส่วน อิคารัสข้าคิดว่าโตพอที่จะอยู่กับข้าที่นี่  เจ้าต้องพาอาร์คีรอสไปที่ริมชายแดนเพราะจะเป็นส่วนที่ลึกที่สุดที่มนุษย์สามารถจะไปถึง ดราเคเลียสกล่าวจบก็หยิบไข่มังกรสีดำเป็นประกายเหลือบเงาขึ้นมาอย่างทะนุถนอม  ก่อนจะส่งไข่มังกรนั้นฝห้โรเวียน่าเพื่อหลบหนีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                 “ข้าจะไปรับเจ้าและลูกทันทีที่สงครามสงบลง  ข้าสัญญา

     

                  โรเวียน่ากระชับไข่มังกรไว้แนบอกก่อนจะโผทะยานขึ้นสู่ฟ้าพร้อมกับร่างที่กลายเป็นมังกรสีขาวนวล  มุ่งหน้าไปสู่ชายแดนปีกที่กระพืออยู่บนท้องฟ้ายิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นหลังจากเห็นลูกธนูพุ่งผ่านไปอย่างฉิวเฉียดเป็นสัญญาณเตือนภัยว่ามีคนเห็นนางและกำลังไล่ล่านางอยู่

                 “มันอยู่บนท้องฟ้า  ยิงมัน   เสียงแหบห้าวตะโกนฝ่ากับสรรพเสียงอื่นๆ  แต่ทว่ากลับดังก้องในหัวของโรเวียน่า

                 “ฉึกลูกธนูสีดำสนิทปักเข้ากับปีกข้างขวาของมังกรขาว  เลือดสีแดงสดไหลริน  

                       โรเวียน่าข่มตาทนรับความเจ็บปวด  ดวงตาสีเทาทอแสงอ่อนลงเรื่อยๆ  เมื่อเห็นชายแดนอยู่ตรงหน้าอย่างเลือนลาง  พร้อมกับรวบรวมแรงสุดท้ายที่มีอยู่โยนไข่มังกรออกไปให้พ้นเขตแดน  ปีกที่เคยเป็นสีขาวนวลบัดนี้เป็นสีแดงฉานถูกปล่อยลงข้างตัวพร้อมกับลมหายใจที่หยุดลงทำให้ร่างถูกทิ้งลงสู่พื้นดิน

                        ดราเคเลียสเมื่อทราบข่าวของพระชายาโรเวียน่าก็ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นเป็นเท่าทวี  สั่งบรรดาทหารออกไปรับตัวพระชายากลับมา  ก่อนที่ร่างสูงพร้อมกับเด็กหนุ่มอายุไม่เกินสิบปีที่มีดวงตาสีแดงอันเป็นเอกลัษณ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ  แปลงเป็นมังกรตัวใหญืสีดำสนิท และมังกรสีแดง  ตามเวทย์วิเศษที่เกิดมาพร้อมกับตัวมังกรผู้นั้น

     

                       ไข่มังกรสีดำถูกปล่อยลงในเขตป่าต้องห้าม  แต่ทว่าหาใช่ผืนดินอันเป็นถิ่นกำเนิดของมังกรตัวน้อยไม่  แต่หากเป็นผืนดินของเผ่าพันธุ์ต้องมนตราที่เกิดมาพร้อมกับเสียงเพลง เผ่าพันธุ์ เอลฟ์  ผู้ปกครองนคร ซาเวีย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×