ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Honeypooh079

    ลำดับตอนที่ #39 : เกริ่นเรื่อง2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 242
      0
      10 มิ.ย. 53

    บทนำ

     

    สายลมพัดแผ่วผ่านผิวน้ำสร้างแนวระลอกคลื่นเล็กๆ ซัดกระทบฝั่งเซาะดินสีแดงปะปนลงสู่กระแสธาร กลุ่มปลาน้อยว่ายเวียนใต้ร่มสาขาของพฤกษา เงาดำที่ปรากฏวูบทำให้พวกมันแตกตื่นผลุบหนี เจ้าของเงาบนกิ่งมะเดื่อหยุดยืนสองขากระดกพวงหางฟู ชูจมูกดมฟุดฟิด ขณะที่ใบหูขยับเหมือนเงี่ยฟังเสียงอะไรบางอย่าง สรรพสำเนียงเหล่านั้นอาจเป็นเพียงนทีไหลเอื่อยหรือจะเป็นถ้อยกระซิบจากอดีตกาลกล่าวขานถึงอาณาจักรที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองเหนือผืนทรายภายใต้การปกครองของแปร์อาร์" ฤๅฟาโรห์ผู้มีเชื้อสายแห่งปวงเทพเจ้า...

     

    แม่น้ำไนล์ทอดยาวคดเคี้ยวจากอียิปต์บนซึ่งอยู่ทางทิศใต้ไปสู่อียิปต์ล่างซึ่งอยู่ทางทิศเหนือประดุจ สายโลหิตหล่อเลี้ยงผืนดิน ในฤดูอาเคทเป็นช่วงเวลาที่กระแสธารไหลหลากท่วมตลิ่งพาตะกอนจากต้นน้ำมาทับ ถม พอก้าวเข้าสู่ฤดูเพเรทระดับน้ำลดลงทำให้สองฝั่งแม่น้ำและบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมตอนล่างมีดินตะกอน อุดมสมบูรณ์ พร้อมให้ชาวนาชาวไร่เริ่มเพาะปลูกข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวสาลีและพืชพันธุ์ธัญญาหารชนิดต่างๆ กระทั่งพืชผลเจริญเติบโตเต็มที่ถึงเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวอันเป็นฤดูกาลสุดท้ายของรอบปีที่เรียกว่าเชมุ...

     

    ปฐมฟาโรห์นาร์เมอร์ทรงรวบรวมอาณาจักรจากชนกลุ่มน้อยกระจัดกระจายตามริมฝั่งแม่น้ำให้ กลายเป็นปึกแผ่นแล้วผนึกมงกุฏเด็ชเร็ต...นางพญางูวัดเจ็ตแห่งลุ่มน้ำไนล์ของอียิปต์ล่างกับมงกุฏเฮดเจ็ต...เทวีนกแร้งเน็คคีเบ็ตของอียิปต์บนเป็นมหาเทวีเนบติปกครองสองแผ่นดิน

     

    หากมิมีสิ่งใดจะยืดหยัดต้านทานกระแสเวลาฉันใด ความรุ่งโรจน์ก็หาได้คงอยู่ตลอดกาลฉันนั้น...

     

    กาลผันผ่านไปหลายศตวรรษ พระปรีชาสามารถของฟาโรห์ผู้กุมอำนาจเหนือราชอาณาจักรเสื่อมถอยทีละน้อย โนมน้อยใหญ่ใต้การปกครองก่อกบฏ ข้าราชการภายในคิดคดสร้างความร้าวฉานทำให้มิอาจต่อกรกับผู้เข้ามาแสวงหาดินแดนอยู่อาศัยได้ อาณาจักรที่เคยร่มเย็นเป็นสุขจึงถึงคราวลุกเป็นไฟจากสงครามที่อุบัติขึ้น...และฟาโรห์เป็นฝ่ายปราชัยย่อยยับ!

     

    นับกว่าสิบปีเชื้อสายของพระองค์ต้องยินยอมถอยสู่อียิปต์บน ปลดปล่อยอียิปต์ล่างตกอยู่ภายใต้อำนาจคนต่างเผ่าที่ถือโอกาสสถาปนาตนขึ้นเป็นฟาโรห์ปกครองนครหลวงเมมฟิสและกระทำการท้าทายเจ้าอาณาจักรเก่าด้วยการบูชาเทพเจ้าซูเต็คผู้โหดร้าย...

     

    ด้วยวาระนี้มงกุฏสองแผ่นดินจึงแยกเป็นขาวและแดง...

     

    บนและล่าง...ธีบิสและเมมฟิส...

     

    aaaaaaaaaaaaaaa

     

    ปีที่ห้าในราชวงศ์ที่สิบเจ็ดรัชสมัยของฟาโรห์กาโมสแห่งผู้ปกครองนครธีบิสของอียิปต์บน กลางฤดูเชมุแห่งการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ แนวสุดขอบฟ้าบริเวณชายแดนซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างสองแผ่นดินปรากฏเงาทะมึนคืบคลาน ความมืดกลืนกินประกายดาราทั้งปวง กระแสลมสงัดกลับคลุ้มคลั่งจนพระเพลิงหน้ารูปจำลองเทพเจ้าอะมันสะบัดเร่าเจียนจะดับ สัญญาณลางร้ายที่บังเกิดทำให้ฝูงชนในวิหารเล็กเอ็ดอึงอย่างตื่นตระหนก

     

    สายลมโหมกระหน่ำทบทวี เงาทะมึนกลางราตรีแผ่ขยายประดุจกำแพงยักษ์สูงเสียดฟ้า แว่วเสียงทหารที่อยู่ข้างล่างภูเขาตะโกนเตือนเป็นทอดๆ ปนในเสียงวายุพัดอู้แทรกซอกเขา

     

    พายุทราย! พายุทราย!!! ”

     

    เหล่าเสนาบดีและนักบวชหันไปมองทางพลับพลาองค์ฟาโรห์ที่ไหวพะเยิบพะยาบตามทิศทางลมด้วยแววกังวล เมื่อกองทัพกลับมาถึงค่ายทหาร แม่ทัพฮาร์มฮาบิก็ประคองวรองค์สูงเข้าไปในที่ประทับตามลำพัง ไร้ซึ่งเงาแม่ทัพทาซัสติคอยถวายอารักขาใกล้ชิดเช่นเคย เหล่าเสนาบดีจึงเดินพล่านอยู่นอกพลับพลาจนสุริยเทพราล่วงลับอย่างห่วงใยพระองค์ ยามรู้ว่าคณะหมอหลวงถูกตามเข้าไปถวายการรักษาแทบทันที หลังจากแม่ทัพฮาร์มฮาบิออกมาแจ้งพระอาการเจ้าชีวิตต้องธนูจากอริ พวกเขาก็เร่งไปหาเหล่านักบวชร้องขอจัดพิธีบวงสรวงเทพเจ้าอะมันประทานพรแด่องค์ฟาโรห์ ทว่ายังมิทันเริ่มพิธีกรรมกลับบังเกิดลางร้ายเช่นพายุทะเลทราย!

     

    กระแสวายุยังคงพัดรุนแรงอย่างไร้ปรานี หอบละอองทรายหมุนวนจนแม้แต่เสี้ยวรัศมีเทพเจ้าคอนชูแห่งธีบิสยังมิอาจสำแดงเดชเหนือเวหารัตติกาล เสียงลมกรีดร้องเบื้องนอกเล็ดลอดเข้าสู่พลับพลาฟังราวกับมัจจุราชมาเยือนประชิดองค์ฟาโรห์ วรองค์สูงบนแท่นบรรทมเบิกพระเนตรกว้าง ทรงหอบหนักก่อนจะกรรสะออกมาเป็นธารโลหิตสีคล้ำ พอแพทย์หลวงทูลยาถวาย พระองค์เสวยแล้วก็สำรอกอีกครั้งทำให้สีหน้าหมอซีดเซียวมิผิดกับคนเจ็บ

     

    องค์ฟาโรห์! ” แม่ทัพฮาร์มฮาบิปัดม่านเปิดเข้ามาหลังจากทหารไปตามตัวเขา

     

    ฮาร์มฮาบิ... พระหัตถ์ใหญ่ยกขึ้นไขว่คว้าหาเหมือนดวงเนตรมิอาจเห็นสิ่งใด

     

    ยังมิทันข้ามราตรี เหตุใด...เทพอะมันหาได้มีพระเมตตาต่อบุตรแห่งพระองค์! แม่ทัพวัยกลางคนคิดอย่างหวาดหวั่นต่อการสูญเสียองค์กาโมส

     

    ฮาร์มฮาบิ... ทรงเรียกอีกครั้งด้วยสุรเสียงแหบพร่า

     

    พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ ร่างสูงใหญ่คุกเข่าข้างพระลาดที่

     

    ฮาร์มฮาบิ...เจ้าต้องมอบชีวิตหลังความตายให้ทาซัสติแทนข้า เขาผลักข้าตกจากรถศึกเพื่อรับธนูนับสิบดอก... ฟาโรห์ห่วงถึงแม่ทัพคู่พระทัยที่ถวายชีวิตปกป้องพระองค์ในศึกนี้ แม้องค์เองก็เสด็จใกล้ชีวิตหลังความตายเช่นกัน  

     

    พ่ะย่ะค่ะ เขาหักห้ามความริษยาที่ผุดพลุ่งด้วยสถานการณ์ตรงหน้าหาใช่เวลายกเรื่องคู่แข่งอย่างแม่ทัพทาซัสติมาไม่

     

    ฮาร์มฮาบิ...น่าเสียดายที่ข้ามิอาจมอบชีวิตหลังความตายสมบูรณ์พร้อมตอบแทนที่เจ้ารับใช้ข้าและพระบิดาเซเกเนนราด้วยความจงรักภักดี... วรองค์สูงหยุดตรัส กล้ำกลืนเสมหะอบอวลด้วยคาวเลือดลงไปในลำศอ

     

    ข้าเห็นนางพญางูวัดเจ็ตแห่งลุ่มน้ำไนล์...กับเทวีเน็คคีเบ็ตผสานเป็นหนึ่งเดียวหนือศีรษะของอาโมส...แสงทองแห่งมหาเทวีเจิดจ้ายิ่ง...เขา...จักได้เป็นฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า ข้าอยากให้เจ้า...ดูแล ปกป้องอาโมสเหมือนกับข้า... แววเนตรสีเข้มเลื่อนลอยยามมีรับสั่งประดุจคำทำนาย

     

    พ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพใหญ่รับพระบัญชาหนักแน่น

     

    องค์กาโมสแย้มพระโอษฐ์ด้วยสีพักตร์พึงหฤทัยก่อนจะปิดเปลือกเนตรอย่างอ่อนล้ากับการต่อสู้ความเจ็บปวด โดยหารู้ไม่ว่าจะมิมีโอกาสลืมพระเนตรอีกจนกว่าบาแห่งพระองค์อันผ่านพิธีตัดสินต่อหน้าพระพักตร์เทพเจ้าโอซิริสจักกลับคืนสู่ร่างอีกครั้ง

     

    สิ้นกระแสอัสสาสะปัสสาสะสุดท้ายของวรองค์สูงบนแท่นบรรทม สายลมกรรโชกน่ากลัวข้างนอกพลันบรรเทาลงราวกับจากไปพร้อมกับวิญญาณแห่งฟาโรห์กาโมส เหล่าเสนาบดีแลนักบวชคุกเข่าหมอบราบกับพื้นหินเสมือนทำความเคารพถวายพระองค์ ดวงตาแม่ทัพฮาร์มฮาบิแดงก่ำ แม้มิมีหยาดน้ำไหลรินให้ผู้ใดเห็น หากใช่ว่ามิเสียใจ

     

    แผ่นดินที่ว่างเว้นซึ่งองค์ฟาโรห์...โอ...องค์อะมัน...ธีบิสจะเป็นเช่นไร...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×