ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] Vongola&Jisronero เชื่อมสัมพันธ์(รัก)วุ่นอลเวง

    ลำดับตอนที่ #4 : [Intro] Vongola family & Jisronero family

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53


    บทนำ

    Vongola family & Jisronero family

     

                    Date: 27 April 200x  

    Time: 21: 59: 30

    Country: Kyoto, Japan  

     

                ในถนนเล็กๆ สายหนึ่งตอนกลางคืน ที่มีผู้คนเดินกันมากมาย ดูๆ แล้วก็เหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วๆ ไป ที่จะมีผู้คนที่ชื่นชอบการเที่ยวกลางคืนทั้งหลายคอยออกมารับประทานอาหาร หรืออาจจะเข้าไปดื่มกันข้างในผับย่านนี้ ซึ่งร้านนั้นก็มีอยู่มากมายให้เลือกเช่นกัน

                แต่กลับมีสถานที่หนึ่งซึ่งไม่มีผู้คนสงสัย ไม่มีใครรู้ และหากรู้...ก็ไม่มีทางจะเข้าไป นั่นก็คือ...

                Jissero Restaurant  

                ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง หากเพียงแต่จะไม่พิเศษเลย ถ้าหากผู้ก่อสร้างเป็นจิสโรเนโร่แฟมิลี่ มาเฟียที่อยู่มานานหลายรุ่นเหมือนดังวองโกเล่แฟมิลี่ 

                เพราะเป็นวองโกเล่ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักและให้ความเคารพทั้ง 2 ฝ่าย นั่นก็คือ วองโกเล่แฟมิลี่กับจิสโรเนโร่แฟมิลี่ ทั้ง 2 แฟมิลี่จึงต้องมาสามสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หากไม่ทำเช่นนั้น แฟมิลี่เล็กๆ ทั้งหลายก็จะรวมตัวกันและพยายามกำจัดทั้ง 2 แฟมิลี่นี้ไปซะ

                



                ณ ห้องประชุมพิเศษชั้นใต้ดิน ภายในร้าน Jissero Restaurant

                ภายในห้องประชุมลับที่อยู่ชั้นใต้ดินของร้านจิสเซโร่ เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอึดอัดและความกังวลไม่มีบุคคลใดกล้าเปิดปากส่งเสียงออกมา แม้แต่เวลาหายใจก็พยายามไม่ให้มีเสียงเช่นกัน จนในที่สุด...อัลโกบาเลโน่แห่งจุกนมธาตุอรุณก็ทนต่อไปไม่ไหว และต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด เพราะตนเองก็มีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปทำเช่นกัน ไม่มีเวลามาคอยคุมเรื่องนี้ทั้งวันเสียด้วย

                สึนะ...หยิบ ไอ้นั่นออกมาอ่านซิอัลโกบาเลโน่ธาตุอรุณหรือ รีบอร์นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปนความเครียดนิดๆ เขาส่งสายตาไปให้ สึนะลูกศิษย์ที่เขาพยายามฝึก (แทบตาย) ให้ดีขึ้น จาก เจ้าห่วยสึนะกลายเป็น หัวหน้าวองโกเล่รุ่นที่ 10แบบเต็มตัวได้ ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบสักเท่าไหร่ แต่แค่นี้ก็โอเค (มาก) สำหรับเขาแล้ว

                 สึนะถึงกับผงะไปหลายนาที ก่อนจะโดนสายตาจิกกัดจากรีบอร์นที่ส่งมาให้ เป็นสัญญาณว่า รีบๆ เข้าสิ!’ ฝ่ายสึนะที่ถอนหายใจเป็นรอบที่หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด จำใจหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากสูทของตน จากนั้นก็เดินไปยังไมค์ที่ยังคงอยู่ที่เดิมและไม่มีใครได้แตะนอกจากฝ่ายจิสโรเนโร่ที่เป็นคนจัดมันเมื่อวันก่อน สึนะกระแอมไอเล็กน้อย พลางคลี่กระดาษแผ่นนั้นและอ่านข้อความที่อยู่ด้านใน

                ด้วยงานสร้างสัมพันธ์ระหว่างวองโกเล่แฟมิลี่กับจิสโรเนโร่แฟมิลี่ที่เก่าแก่ทั้งสอง เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดี ขอให้จิสโรเนโร่และฝ่ายของเรา...วองโกเล่แฟมิลี่ทุกคน อีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ ขอให้ทุกคนมาพร้อมกับที่ปราสาท...!” สึนะเหงื่อซึมเล็กน้อย เพราะเขาอ่านคำๆ นี้ไม่ออก

                สึนะหันไปมองทางรีบอร์นอย่างช้าๆ... ทางด้านรีบอร์นก็ถือระเบิดที่คว้ามาจากหัวของแรมโบ้ไว้อย่างเยือกเย็น ทำให้สึนะถึงกับหนาวติดลบสิบองศา

                อันนี้อ่านว่าอะไรเนี่ย! เป็นภาษาอังกฤษซะด้วย!’ สึนะคิดในใจ พลางมองไปยังรอบๆ ห้องที่ยังคงเงียบกริบ ทุกคนกำลังตั้งใจฟังที่สึนะกำลังพูดอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการเปิดพิธี แต่หากผู้เปิดพิธีนั้น...อ่านภาษาอังกฤษคำว่า ‘Arcobaleno’ ไม่ออก

                รีบอร์นพยายามทำหน้ายิ้ม แต่ความจริงภายในใจอยากจะเอาระเบิดขว้างใส่สึนะซะ...!

                สึนะพยายามอ่านคำว่า ‘Arcobaleno’ เขาสะกดทีละตัว...ทีละตัว เอาล่ะ ได้แล้ว!! คิดแล้วก็เรียกความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา ถึงแม้ความมั่นใจจะมีนิดเดียวก็ตามที

                เอ่อ...ขอให้ทุกคนมาพร้อมกันที่ปราสาท เออาร์โกบาเลนโอพร้อมกันเวลา 08: 00 น. เพื่อฟังการชี้แจงต่อไป...” 

                คิก~

                เสียงหัวเราะที่ฮารุ (และทุกคนในที่นั้น) พยายามกลั้นเอาไว้ก็ถึงเวลาปลดปล่อย ถึงแม้มันจะไม่มีอะไรน่าขำเพราะมุขมันแป้ก (มาก) แต่หากคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของคนที่มีใบหน้าที่ไม่รู้ว่าตัวเองอ่านผิดนั้นมันช่างเนะ (ยิ่งทูน่าเนะยิ่งน่ารัก >///<) เกินไป ทำให้ ฮารุผู้ที่มีความอดทนน้อยที่สุดถึงกับปล่อยก๊ากกออกมาคนแรก และทุกคนก็ทยอยปล่อยความฮาออกมาจนดังทั่วห้อง

                สึนะช่างเป็นคนที่สามารถปลดปล่อยความเครียดได้จริงๆ...ยกเว้น!

                ฮิบาริหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบแห่งโรงเรียนนามิโมริเท่านั้น ที่ไม่มีความฮาหลุดออกมาจากปากแม้เพียงเบาบาง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ และรู้สึกว่ายิ่งสึนะทำให้คนอื่นหัวเราะมากขึ้น ก็จะทำให้โกรธหนักกว่าเดิมซะด้วยสิ 

                ปึง!

                เสียงทอนฟากระทบกับประตูห้องลับถึงกับพังเละ ช่างดูไม่ออกเลยว่าเคยเป็นประตูมาก่อน เหมือนว่าจะเป็นเศษไม้ที่พนักงานเอามาวางผิดที่เสียมากกว่า 

                แหม...รุนแรงจังนะครับ ^^” ผู้ที่รู้สึกถึงความสนุกสนานที่มีในความตึงเครียดที่สุดก็คือมุคุโร่... เขาฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ อย่างชอบใจในความโกรธของฮิบาริ 

                หุบปาก เดี๋ยวก็ขย้ำซะหรอกฮิบาริพูดเสียงลอดไรฟัน สีหน้าของเขาไม่มีแววขำด้วยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่แววตาที่แสดงถึงความโกรธที่อยากจะขย้ำเจ้าพวกสัตว์กินพืชพวกนี้เสียให้หมด!

                ฮ่ะๆๆ ผมก็รอให้คุณมา ขย้ำผมอยู่นานแล้วล่ะครับ ก็ไหนสัญญาว่าจะมา ขย้ำผมเมื่อคืนก็ไม่เห็นมาสักที...เอ หรือว่าจะไม่กล้า ขย้ำผมกันแน่เอ่ย... ^ ^+” 

                เฮือก O_O///

                ทุกคนในที่นั้นถึงกับสะดุ้งและหน้าแดงกับเป็นแถวๆ เพราะพวกไม่คิดว่าเลยมุคุโร่กับฮิบาริจะ...ทุกคนถึงกับเข้าถึงความคิด (พิสดาร) ของตัวเองกันเลยทีเดียว ยกตัวอย่าง...

                ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้ง 2 คนนี้จะ...สึนะ

                ฮิบาริกับ...มุคุโร่เนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อ!’ โกคุเดระ

                ฮ่ะๆๆ อึ้งสุดๆ เลยแฮะยามาโมโตะ

                ชะ...ช็อคสุดหูรูด!!’ เรียวเฮ

                 ทะ ท่านมุคุโร่กับ...คุณฮิบาริเค้า...โคลม

    ส่วนเจ้าทุกข์ที่ถูกฟ้องก็หน้าแดงแจ๊ดยิ่งกว่าใครๆ ในที่นี้ ไม่น่าเชื่อว่าจากเรื่อง Fic Normal จะกลายเป็น Fic Yaoi ไปแล้ว OxO//

                อย่ามาพูดมั่ว!” เมื่อฮิบาริเห็นทุกคนหน้าแดง (มากๆ) และดูเหมือนว่ากำลังจะคิดเรื่องอะไรพิสดาร (อยู่แน่ๆ) ก็ถึงกับหน้าแดงกว่า (คนอื่น) x2 และระเบิดความเขินด้วยการ...

                ปัง!

                ใช้ทอนฟาทุบโต๊ะเหล็กบุบทั้งโต๊ะ... ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือวิธีการที่ฮิบาริใช้สำหรับแก้เขิน ช่างน่ารักน่าชังดีจริงๆ (ประชด)

                หลังจากที่เจ้าตัวแก้เขินด้วยการทุบโต๊ะเหล็กบุบแล้วก็รีบหุนหันออกไปจากห้องประชุมทันที ทุกคนที่อยู่ข้างในถึงกับถอนหายใจราวกับรอดตายอย่างหวุดหวิด แต่คราวนี้ก็คงจะต้องขอบคุณมุคุโร่มากจริงๆ ที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ แต่เอ...คืนนี้ฮิบาริจะไปขย้ำมุคุโร่ที่ห้องรึเปล่านั้น ก็แล้วแต่ว่าห้องของมุคุโร่มีสิ่งที่ไว้ใช้แก้เขินให้ฮิบาริมากกว่าสิบอย่างขึ้นไปล่ะนะ

                เอาล่ะๆ ทุกคนกลับกันไปได้แล้ว เรื่องที่จะแจ้งมันก็มีแค่นี้แหละรีบอร์นพูดตัดบทพร้อมกับหาววอดๆ ด้วยความง่วง จากนั้นก็กระโดดขึ้นนั่งบนไหล่ของเบียงกี้ที่เดินออกไปนอกห้องพอดี   

                สึนะมองรีบอร์นที่เดินออกไปด้วยความงุนงง... แล้วจะให้ตูเขียนบทพูดมาทำไมตั้ง 3-4 หน้าฟระ =O=;;

     

    End Intro

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×