คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องเล่าประหลาดที่หนึ่ง เสียงเคาะประตู...3ครั้ง
เนื่องจากว่าสมัยเด็ก ๆ ผมมีเรื่องเล่าในบ้านใหม่มากมายเลยครับ
จึงอยากจะเก็บประสบการณ์ความรู้สึกที่เคยได้พบนั้น
มาบอกเล่าในรูปแบบนิยายให้กับนักอ่านได้ร่วมรับรู้กัน
ผมไม่ใช่คนที่หมกมุ่นเรื่อง ผี ๆ แต่ก็เชื่อว่ามีจริงมาสักพัก
และค่อนข้างมีเซนส์ดีกับเรื่องประมาณนี้
ทว่าไม่เคยเห็นและไม่อยากเห็นครับ 555
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ
เรื่องเล่าประหลาดที่หนึ่ง เสียงเคาะประตู...3ครั้ง
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“ใครคะ?” ฉันพยายามส่งเสียงถามในขณะที่นอนพลิกตัวบนที่นอนตอนช่วงเย็นหลังจากขนย้ายของเข้าบ้านใหม่จนเหน็ดเหนื่อยจนต้องมานอนล้มพับตั้งแต่บ่ายในห้องนอนใหม่
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกสามครั้ง ฉันเงียบเสียงเพื่อรอคำฟังการตอบกลับ ทว่ามันกลับไร้เสียง...
“ใครคะ?” ฉันส่งเสียงถามกลับไปอีกหน ทว่าก็ยังคงเงียบ จึงตัดสินใจลุกตัวขึ้นจากเตียงนอนและเดินตรงออกไปเพื่อเปิดประตูห้อง ทั่วทั้งบ้านเวลานี้เงียบมากจนผิดปกติ หรืออาจเพราะไม่มีใครขึ้นมานอนอุดอู้ในชั้นสามของบ้านอย่างฉันในเวลานี้
แอ๊ด...เสียงเปิดประตูห้องอย่างช้า ๆ ฉันขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิดใจเล็กน้อยเพราะไม่พบใครเลย ทั่วทั้งด้านนอกตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว แสงอาทิตย์ริบหรี่ลอดผ่านมายังช่องหน้าต่างซึ่งบดบังด้วยผ้าม่าน
“นี่เราฝันหรือละเมอรึเปล่าเนี่ย” พูดขึ้นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะขยี้ศีรษะแล้วเดินปิดประตูห้องนอนกลับไปนั่งตรงปลายเตียง นั่งเหม่อลอยสักพักก็มองไปยังนาฬิกาที่บอกเวลาว่าหกโมงเย็นกว่า ๆ แล้ว
นี่ฉันนอนไปเกือบสี่ชั่วโมงเชียวเหรอเนี่ย
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
จู่ ๆ อีกราวห้านาที เสียงเคาะประตูห้องนอนฉันก็ดังขึ้นอีกหน ฉันหันหน้ามองไปยังประตูโดยอัตโนมัติ ก่อนจะตัดสินใจส่งเสียงถามอีกครั้ง
“ใครคะ?”
“………………” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง ฉันนึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย ไม่อยากลุกบ่อย ๆ แล้วไปพบกับว่าเก้ออีก ไม่รู้ว่าน้องชายตัวดีมาแกล้งหรือเปล่า
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะดังขึ้นอีกหน ครั้งนี้ฉันไม่ถามว่าใครแล้ว ลองเปลี่ยนคำถามดูใหม่บ้าง
“มีอะไรคะ ตอบหน่อยสิคะ” ตั้งคำถามขณะที่ลุกตัวขึ้นยืนและก้าวเท้าสัมผัสแผ่นกระเบื้องอันเย็นเฉียบออกไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งไปยืนหยุดตรงหน้าประตู ฉันก็ยืนนิ่งและรอฟังคำตอบ ทว่า...
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก!
ฉันขมวดคิ้วมุ่น ครั้งนี้ไม่ส่งเสียงถามแล้วแต่เปิดประตูออกไปดูในทันทีที่เสียงเคาะดังขึ้นเลย
“เหวอ!” เสียงร้องอย่างตกใจของน้องชายซึ่งกำลังจะเคาะประตูอีกหน แต่ฉันออกมาเปิดประตูเร็วจนเกินเหตุ ฉันหน้ามุ่ยใส่อย่างอารมณ์เสีย เมื่อต้นเหตุที่ก่อกวนฉันเป็นน้องชายจริง ๆ
“นี่เมษา มาเคาะทำไมตั้งหลายรอบ แล้วทำไมไม่ยอมขานตอบพี่ห๊ะ!” ฉันต่อว่าเสียยกใหญ่ ทว่าเด็กหนุ่มซึ่งตัวสูงกว่าฉันประมาณสิบเซ็นถึงกับหน้าเหวอรับประทานพลางรีบส่ายหน้า
“พี่พูดอะไรน่ะมีนา ผมเพิ่งมาเคาะเมื่อกี้ครั้งแรกเองนะ จะมาเรียกให้ลงไปกินข้าว” นายเมษาอธิบาย ฉันไม่เชื่อพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มอกไล่ต้อนเขาเดินถอยออกไปด้านหลังและต่อว่า
“อย่ามาโกหก แกล้งพี่ใช่ไหมล่ะ นี่นายขึ้นมอปลายแล้วนะ ส่วนฉันก็อยู่มหาลัยแล้ว ไม่ใช่เด็กๆที่จะมาหลอกกันได้ง่ายๆนะยะ”
“ผมเปล่าจริงๆนะ ไม่เชื่อพี่ลงไปถามแม่ได้เลย พี่ได้ยินเสียงเคาะตอนไหนบ้าง ผมน่ะช่วยแม่จัดของอยู่ข้างล่าง” เมษาอธิบายเพิ่ม
ปัง! จู่ ๆ ประตูห้องนอนของฉันก็ปิดเองเสียงดังสนั่น ทั้ง ๆ ที่ตรงมุมห้องนอนนี้ไม่มีลมพัดผ่านเข้ามาเสียด้วยซ้ำ เราสองพี่น้องแอ่นหลังตรงและจ้องสายตากันเลิกลั่ก
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูซึ่งก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ยินไม่รู้กี่หนดังขึ้น ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ขณะเหลือบสายตาจ้องมองไปด้านหลัง ส่วนเมษายืนนิ่งไม่ไหวติง
“นายได้ยินเสียงเคาะไหม ใครเคาะประตูห้องพี่...” ฉันถามคำถามน้อง ทว่าไร้เสียงตอบ...
“เมษา...” ฉันหันกลับไปมองหน้าน้องชายซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยผุดเหงื่อและซีดเผือด
“นายเห็นอะไร?”
มันคงเป็นคำถามที่แปลกเอามาก ๆ ทว่าสำหรับบ้านเราแล้วมันปกติ...
“มีผู้ชายสวมชุดโค้ทตัวยาวสีน้ำตาลเข้มเข้าไปในห้องนอนของพี่...ตอนที่ประตู...มันปิดเองเมื่อกี๊” สิ้นคำตอบของเมษา เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง...
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก....
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น