ตอนที่ 79 : ภาค 3 ตอนที่ 25 [ตอนจบ]
25
ผมแค่อยากให้ลูกๆโตพอที่จะได้เป็นส่วนร่วมในวันที่น่าจดจำ เด็กๆรู้แผนอยู่แล้วว่าเรามาสวนสนุกเพื่ออะไร ตอนแรกผมเผลอหลุดปากบอกริวทาโร่ไปว่าจะขอเขาแต่งงาน มันเองก็หัวเราะแล้วบอกว่าทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อผมกับเขาก็อยู่กันแบบครอบครัวมาเป็นสิบปีแล้ว ผมต้องการเพียงแค่สร้างความทรงจำที่ดีกับเขาและเด็กๆ ให้เขาได้ยิ้มทั้งน้ำตาอย่างยินดีและแสนมีความสุขอย่างที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้ ผมโอบกอดร่างเล็กเอาไว้พร้อมกับลูกๆที่เข้ามากอดด้วย เด็กๆเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นยูดีใจ ผมไม่ใช่คนโรแมนติก ผมใช้ชีวิตอย่างราบเรียบคนเดียวมาเป็นร้อยปี ผมจึงพยายามอย่างมากที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของผมให้เขาได้รับรู้ นาระเข้ามามีส่วนร่วมหลังจากที่ริวทาโร่ไปบอกข่าว
‘ผมทำเรื่องเดือดร้อนมากให้พี่ทั้งสองคน ให้ผมได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้เถอะ ผมเคยทำให้เขาร้องไห้ด้วยความอิจฉาที่ผมมี แต่ตอนนี้ผมจะทำให้เขาร้องไห้เพราะความรักที่ยิ่งใหญ่ของพวกพี่บ้าง’ นาระยืนยันกับผมอย่างนั้น
ผมสบายใจที่เห็นเขาปล่อยวางเรื่องผมได้แล้ว และมีความสุขดีกับริวทาโร่ ทุกคนค่อยๆรู้เรื่องที่ผมจะขอยูแต่งงาน พวกเขาก็เข้ามาช่วย เข้ามาคิดวิธีน่ารักๆที่จะทำให้ยูยิ้มได้ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนโรแมนติก ผมไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไร แต่ไคริเป็นคนคิดเรื่องลูกโป่งและสวนสนุก เขาเป็นคนที่รู้จักยูดีที่สุด และเป็นคนที่ยูรัก ผมเห็นว่าเขาเองก็รักยูมากเหมือนกัน เมื่อเขาตั้งอกตั้งใจวางแผนทุกอย่าง ผมพายูมาที่สวนสนุกให้เขาได้เล่นกับลูก ได้เที่ยวไปโน่นนี่อย่างมีความสุข และมีรูปโพลารอยด์หลายร้อยใบที่ทุกคนช่วยกันถ่ายตลอดทั้งวัน ผมต้องแกล้งทำเป็นพลัดหลงจากเขาและออกมาเลือกรูปที่ผมคิดว่าดีที่สุด คงจะเป็นรูปอื่นไปไม่ได้นอกจากรูปที่เขายิ้มให้โคคิ รอยยิ้มที่ใสบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยความรัก รูปทั้งหมดที่เหลือนั้นถูกเก็บไว้กล่องน่ารักๆที่นาระทำมาแล้วส่งมันให้ยู
“คืนนี้พวกเราจะดูแลเด็กๆเอง ใช้เวลาให้คุ้มค่าล่ะ” นาระยิ้มน้อยๆเมื่อยูรับกล่องไป พวกเขายิ้มให้กัน มีแต่ความรู้สึกดีๆที่หลงเหลืออยู่ในใจ แล้วพวกเขาก็จูงเด็กๆที่โบกไม้โบกมือให้พวกเรายอมออกไปโดยไม่งอแง
“เหลือแค่เราสองคนแล้ว” ผมโอบเอวเขาเข้ามาใกล้ พลุของการแสดงจบลง และคนทยอยออกจากสวนสนุก ยูแก้มแดงเมื่อผมก้มหน้าลงมองเขา
“อืม จะไปไหนต่อรึเปล่า” เขาพูดเสียงแผ่ว ยูทำตัวไม่ถูกและขยับตัวไปมาในอ้อมกอดผม เขาน่ารักจัง ผมยิ้มแบบกลั้นไม่อยู่เมื่อได้มองหน้าเขาเงียบๆ ไม่ต้องมีคำพูดหวานหูหรือท่าทางอะไรเลย แค่ดวงตาของเขาที่มองผมกลับมา แววตาที่สื่อความหมายหลายๆอย่างได้ดีกว่าคำพูด แค่เรากอดกันเงียบๆอย่างนี้ผมก็มีความสุขจนไม่อยากขยับไปไหนเลย ผมยกตัวเขาขึ้นเล็กน้อยและซบหน้าลงกับไหล่เล็ก
“ง่วงหรือยังล่ะ เหนื่อยไหม พี่มีที่ที่อยากจะพาไป” ผมลูบแก้มเขาอย่างอ่อนโยน ยูเม้มปากแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงว่ายังไม่เหนื่อย
ผมกอดเข้าไว้แนบอกแล้วเหาะขึ้นบนฟ้า พาเขาบินไปกับท้องฟ้ายามราตรีอย่างไม่รีบร้อน ให้สายลมบางเบาพัดแตะผิวหน้า ผมบินไปเรื่อยๆจนมาถึงชายป่าแห่งหนึ่ง ผมค่อยๆลงสู่พื้นด้านล่างและให้เขายืนเอง ยูมองไปรอบๆอย่างงุนงงเล็กน้อย เขาจำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นเขาอาจจะยังเด็กมาก
“นี่เป็นที่แห่งความทรงจำ” ผมจับมือเขาแล้วค่อยๆจูงเดินไปตามทาง
“ตรงนี้เป็นที่ที่พี่พบกับลูกแมวน้อยเป็นครั้งแรก ลูกแมวตัวเล็กๆที่จิตใจไม่ได้เล็กตามตัวไปด้วย ที่ที่ทำให้พี่ตกหลุมรัก” ผมกุมมือเขาไว้ ดึงตัวเขาให้หันหน้ามาหา ก่อนจะแตะลงบนหน้าผากเบาๆ ถ่ายทอดมุมมองของผมในวันนั้นให้เขาได้เห็น ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ สายตาของผมที่มีแค่เขา ผมไม่รู้หรอกว่าผมตกหลุมรัก แต่แค่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเขา เขาก็อยู่ในห้วงความคิดของผมตลอดมาและไม่เคยหายไปไหน ยิ่งผมรู้จักเขามากขึ้น ความรู้สึกที่มีให้เขามันก็มากขึ้นตามไปด้วย เขาไม่ใช่สาวงามไร้เดียงสา ไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือน ไม่ใช่เด็กผู้ชายที่ใสซื่อและบริสุทธิ์ เขาผ่านมาหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจทำให้คนทั่วไปรังเกียจ มองว่าเขาเป็นคนไม่ดี ตัดสินเขาเพียงเพราะว่าเขาเป็นอย่างนั้น ผมให้เขาได้เห็นว่าผมรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา ไม่ว่าร้ายหรือดี สุขหรือโศกเศร้า รอยยิ้มหรือน้ำตา เขาผ่านมันมาด้วยตัวคนเดียว ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง แม้ว่าจะโดนดูถูกจากคนรอบข้าง หรือแม้กระทั่งไคริในตอนแรกที่ไม่เข้าใจเขา แต่เขาไม่คิดจะต่อว่าใคร ไม่เคยยอมแพ้เพื่อคนที่รัก นั่นเป็นสิ่งที่ผมรักที่สุดในตัวเขา ความอ่อนโยนและความรักที่แสนมั่นคง ผมมองผ่านเปลือกนอกที่สังคมตัดสินว่าเป็นเรื่องเลวร้าย ผมเลือกที่จะตัดสินด้วยตัวเอง ว่าคนตรงหน้านี้มีค่ากับผมมากแค่ไหน
“จากนี้คงไม่ต้องถามอีกแล้วนะ ว่าทำไมพี่ถึงได้รักคนอย่างยู พี่ไม่ได้ดีไปกว่ายูเลย พี่แค่คนอ่อนแอที่เอาแต่หลบหนีโลกภายนอกและอยู่แต่กับโลกที่สร้างขึ้นมาใหม่ ในขณะที่ยูเผชิญหน้ากับความจริงเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นยู ทำให้พี่รักยู เข้าใจพี่แล้วใช่ไหม” ผมประคองหน้าเขาให้แหงนขึ้น ไล่จูบแก้มเนียนที่แสนรักอย่างแผ่วเบา ยูร้องไห้ออกมาอีกครั้งและพยักหน้าให้ผม
“ร้องไห้ทำไม หืม แก่แล้วนะ ร้องไห้เป็นเด็กๆ” ผมแหย่เขาให้เขาได้หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะจูบที่กลีบปากบางอย่างเชื่องช้า
“ใครจะคิดว่าโทชิเห็นทุกอย่างมามากขนาดนั้นแล้ว แต่ก็ยังรักยูล่ะ รอมานานขนาดนั้นได้ยังไง ทำไมไม่รีบออกมาหาตั้งแต่แรกนะ ไอ้ยักษ์บ้า” เขาพึมพำแล้วก็ซุกเข้ากับอกผม ผมหัวเราะเบาๆไม่ได้ตอบอะไรออกไป
เราจูบกันอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ตรงกัน ผมยกตัวยูขึ้นแล้วอุ้มเขาไปที่หลังพุ่มไม้ ตรงจุดที่เขาเคยนั่งอุ้มทารกน้อยในอดีต จุดที่ผมเคยคิดว่าอยากจะเข้าไปกอดเขามากเหลือเกิน ตอนนี้มันเป็นจริงแล้ว ผมได้กอดเขาเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของตัวเอง ผมจูบไปยังใบหูแมวสีดำที่โผล่ออกมาเมื่อเขาเริ่มตื่นเต้น ทุกครั้งที่ผมกอดเขา ผมจะจูบเขาทั้งตัว ที่หน้าผาก ขมับ แก้ม ริมฝีปาก คาง ไล่เรื่อยมายังลำคอ ผมถอดเสื้อผ้าของเขาออกอย่างเบามือ ในขณะที่ยูก็ขยับมาถอดให้ผม เราเปลือยเปล่าและกอดเกี่ยวกันภายใต้แสงจันทร์จากท้องฟ้า แสงเพียงเล็กน้อยที่ทำให้ผิวขาวๆของเขาผ่องและดูน่าทะนุถนอม ผมสัมผัสเขาด้วยความรัก จูบที่หัวไหล่ หน้าอก ท้อง และไล่ลงไปยังต้นขา ยูตัวสั่นระริกด้วยอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้น ผมยิ้มให้เขา
สำหรับผมมันไม่ใช่การระบายความใคร่ ไม่ใช่การแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เป็นการโอบกอดเขาด้วยร่างกายของผม เพราะผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่มีมากจนล้นหัวใจออกไปให้เขารับรู้ได้ทั้งหมด ผมจึงกอดเขา ให้เขาได้รับรู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน สัมผัสเขาให้เขารู้สึกดีไปพร้อมๆกับผม
“อื้อ โทชิ” เขาครางเสียงสั่นไหว เมื่อผมไล่เลียจากโคนขาอ่อนเข้าไปด้านใน ไม่ว่าจะจับตรงไหน จูบตรงไหน ยูก็สั่นสะท้านไปเสียหมด เขาอ่อนไหวมากกว่าปกติ คงเพราะเรื่องราวในวันนี้ที่ผมทำให้เขาเขินไม่หยุดหย่อน ผมปรนเปรอให้เขามีความสุขจนร้องครางอย่างต่อเนื่อง ผมชอบสัมผัสยู เช่นเดียวกับที่เขาชอบให้ผมสัมผัส ตัวของเขานุ่มนิ่มและน่ากอด ขาเรียวไม่ผอมบางและไม่อ้วน สะโพกขนาดพอเหมาะกับตัว เอวบางและอกที่กระเพื่อมเพราะการหายใจที่กระชั้นถี่ รูปร่างของเขางดงามและน่าหลงใหล ยิ่งเมื่อเขามองมาที่ผมด้วยแววตาที่เรียกร้อง เว้าวอนให้ผมกอดเขายิ่งดึงดูดและเต็มไปด้วยเสน่ห์ หางสีดำของเขามักจะคลอเคลียอยู่ที่หน้าและแขนของผม
“รัก พี่รักยู” ผมโน้มตัวลงโอบกอดร่างเล็กที่แสนบอบบางเอาไว้ บอกรักเขาอย่างไม่รู้เบื่อ กระซิบวนเวียนอยู่ที่ข้างหู
“ฮื้ออ โทชิ รักเหมือนกัน ..อา จูบหน่อย จูบยูหน่อย” เขาผละมาสบตาผม ดวงตารื้นไปด้วยน้ำตาจากแรงอารมณ์ ผมก้มลงดูดดึงปากนิ่มของเขา สอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม เขาทำให้ผมคลั่งและอยากจะกินเขาเข้าไปทั้งตัว ผมได้แต่เฝ้าวนเวียนฉกชิงลมหายใจเขา ผมไม่เคยสัมผัสคนอื่นในแบบนี้ และผมดีใจที่ทั้งหมดในตัวผมมอบให้เขาเพียงผู้เดียว ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าผมเป็นของเขา รวมถึงหัวใจเขาทำให้ผมหยุดไม่อยู่ ผมเองก็รักเขาไปทั้งตัว รักดวงตาของเขาที่เฝ้ามองผมด้วยแรงปรารถนาและความรัก รักแก้มแดงๆที่ขึ้นสี สะโพกที่เคลื่อนย้ายตอบสนองกับร่างกายผมอย่างร้อนแรง หางที่พันเกี่ยวรอบเอวอย่างไม่อยากให้ผมผละออกไปไหน
“เหนื่อยหรือยัง อีกหน่อยนะยู” ผมยกตัวเขาขึ้นนั่งตักผม ให้เขาได้เคลื่อนไหวเอง เราจูบกันอยู่อย่างนั้นและไม่ยอมผละออกห่างจากกันแม้ว่าพระอาทิตย์จะเริ่มขึ้นสู่ฟ้า
“ต่อที่บ้านนะครับ” ผมกระซิบข้างหูยูที่หอบหนักอยู่กับตัวผม เขาไม่ปฏิเสธ ผมจึงใส่เสื้อผ้าเพียงแค่คลุมๆตัวให้เขา แล้วก็เหาะพาเขากลับมาที่บ้าน
………………………………………………….
( :: ยู :: )
ผมทำได้เพียงกอดคอเขาเอาไว้แล้วซบลงกับบ่าใหญ่แข็งแรง ทุกอย่างที่เขาทำให้ผมเมื่อคืนนั้นน่ารักมาก ผมไม่เคยคิดว่าคัตสึโทชิจะได้น่ารักได้ถึงขนาดนี้ ภาพที่เขาให้ผมได้เห็นด้วยมนตร์ก็ทำให้ผมหมดคำพูด จะมีใครบนโลกที่สามารถรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้ ผมร้องไห้เพราะว่าผมคิดว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาได้พบเจอกับเขา ได้เป็นคนที่คัตสึโทชิรัก
และเขาก็กอดผมได้นุ่มนวล อ่อนโยนมาก ..ในขณะเดียวกันก็เร่าร้อนแทบขาดใจ เขาเป็นอย่างนี้ตลอดแหละ ทำเอาผมไม่มีเสียงอะไรเพราะครางมาทั้งคืน ผมก้มหน้างุดเมื่อเจอนาระกับริวทาโร่ที่บ้าน พวกเขาทำอาหารเช้าให้เด็กๆกินอยู่ สภาพของผมที่ใส่เพียงเสื้อคลุมตัวเดียวของคัตสึโทชิ และเจ้ายักษ์ก็ใส่แค่กางเกงไม่ใส่ท่อนบน อุ้มกันเข้ามาในบ้าน อกเขา หลังเขา และหน้าท้องของเต็มไปด้วยรอยข่วนและกัดจากผม ก็มันเสียวจนไม่รู้จะระบายยังไงนี่ ผมเลยข่วนเขาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ สภาพแบบนี้มองปราดเดียวก็รู้ ว่าเมื่อคืนหนักหน่วงกันแค่ไหน ผมยังไม่ได้นอนเลย และน่าแปลกที่ไม่มีความง่วงเลยสักนิด แม้ว่าจะเหนื่อยสุดๆแต่ว่าผมยังไม่อยากขยับออกจากตัวเขา จึงได้แต่ก้มหน้าซบไหล่เขาไว้ เนียนว่าหลับ
“ร้อนแรง” ได้ยินเสียงริวทาโร่ล้อเลียนมา
“ขอบใจมากที่ช่วยดูแลเด็กๆ พอพวกเขาไปเรียนก็กลับได้เลยนะ” คัตสึโทชิพูดแค่นั้นแล้วอุ้มผมขึ้นมายังห้องนอน เขาวางผมลงบนเตียงนุ่มและถอดเสื้อคลุมออก ขยับมาจูบและเริ่มสัมผัสผมอีกครั้งโดยไม่รอให้ผมได้พักหายใจเลย
“โทชิ อ๊ะ คึกอะไรมาเนี่ย” เขาไม่ได้ทำเรื่องอย่างนี้กับผมถี่นักหรอก แต่ทุกครั้งที่ได้ทำก็ยิงยาวจนเกือบเช้า แต่นี่เช้าแล้วและเขายังจูบอยู่ตรงคอผมอยู่เลย ผมไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเขาจะทำต่อไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยก็จริง แต่ความฟินมันมีมากกว่า เขาเป็นผู้ชายที่โคตรเซ็กซี่เลยนะ สายตาเขาเวลามองผมก่อนจะจู่โจมเนี่ยเหมือนสัตว์ป่าเตรียมขย้ำเหยื่อ แต่เหยื่ออย่างผมก็ยอมให้ขย้ำโดยไม่ขัดขืน ผมจูบกับเขาจนปากเจ่อบวมและเจ็บปากไปหมดแล้ว
“ยูน่ารัก” เขาพึมพำ จูบที่หลังของผมไปมาแล้วนอนกอดผมเอาไว้
ถามว่าเขินไหม บอกเลยว่ามากครับ เขาชมผมบ่อยแทนที่ผมจะชินผมเขินแทบบ้าทุกที ผมไม่ได้หันไปหาเขาที่พึมพำว่าผมน่ารักไม่ยอมหยุด แถมยังงับที่หลังคอผมเบาๆ ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดทำให้ผมขนลุกซู่ แต่วันนี้เสียพลังงานไปมากแล้ว ผมเลยไม่มีแรงจะทำอะไรอีก
“พี่อาบน้ำให้นะครับ” เขาอุ้มผมไปที่ห้องน้ำ และค่อยๆอาบน้ำให้อย่างทะนุถนอม ตัวผมไม่มีรอยแดงๆอะไรเลย เพราะว่าเขาระวังที่จะทำให้ผมเกิดรอยมากๆ ผมเคยถามว่าทำไมไม่ทำรอยแบบที่คนอื่นเขาชอบทำ
‘พี่ชอบให้ผิวสวยๆของยูเป็นแบบนี้มากกว่า’
คำตอบเขาทำให้ผมเขินจนม้วนอีกนั่นแหละ
“เลือดออกอีกแล้ว พี่ขอโทษนะ” เขาขยับมาจูบหน้าผากผม เมื่อมองลงไปข้างล่างและเห็นแผลของผม ขนาดเขามันยิ่งใหญ่อลังการแบบนั้นระวังแค่ไหนก็ได้เลือดอยู่ดีแหละ ผมไม่โทษเขาหรอก ผมขยับตัวไปหอมแก้มเขาเบาๆ แสบที่ด้านล่างมากเลย แต่ผมรักเขานี่นา เวลาที่เขากอดผม ต่อให้เจ็บผมก็ยอมได้อยู่แล้ว ผมยิ้มหวานให้เขาที่ขมวดคิ้วอยู่
“ไม่เป็นไร ยูบอกแล้วว่าแค่นี้สบายมาก ยูชอบเวลาที่โทชิ เอ่อ กอดยูแบบนั้นจะตายไป” ผมย้ำกับเขาทุกครั้งหลังจากที่ผมเจ็บตัว เขาก็กังวลทุกทีไป
“ครับ งั้นไปพักนะ”
เขาอาบน้ำให้ผมจนเสร็จแล้วก็พาผมไปกินข้าวและเข้านอน ผมมองแหวนบนนิ้วของตัวเองและนิ้วของเขาและก็ต้องยิ้มออกมา ในสายตาของคนอื่นมันอาจไม่มีความหมายอะไรเลย ก็แค่แหวนวงหนึ่ง ก็แค่คำขอแต่งงานที่แสนธรรมดา แต่ทว่ามันเป็นเพราะเขาพยายามจะทำให้ผมมีความสุข ผมจึงรู้ว่านั่นหมายความว่าเขาแคร์ผมมาก และเห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญในการขอให้ผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ผมจับฝ่ามือหนาที่ยื่นมา สอดประสานมันไว้ด้วยกัน เขาไม่ใช่คนที่คอยพร่ำพูดคำหวาน ไม่ใช่คนที่เฝ้าหาของขวัญหรือดอกไม้มามอบให้ ไม่ได้ฉลองวันพิเศษตามเทศกาล ไม่ได้โรแมนติก แต่เป็นคนที่คอยกอดผมตรงนี้ ดูแลผมโดยไม่เคยเหนื่อยและไม่เคยเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เรารู้จักกัน
ผมจะไม่มีวันปล่อยมือนี้ ไม่ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้น และผมรู้โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ว่าเขาก็จะไม่ปล่อยมือจากผมเช่นกัน
………………………THE END…………………….
ในที่สุดก็ลงเอยกันหมดแล้ว น้องแมวที่เจ็บปวดมาตั้งแต่สองภาคแรก มาเจอหนุ่มแซ่บอย่างพี่ยักษ์
ที่ไม่ใช่แค่แซ่บแต่อบอุ่น อ่อนโยน และรักน้องแมวมาก มีตัวน้อยๆอีกสองคนด้วย
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ ยาวถึง 70 กว่าตอนขนาดนี้
นี่เป็นเรื่องแรกเรื่องเดียวของเราที่เป็นแฟนตาซีจ๋า ไว้มีโอกาสอันดี จะแต่งแฟนตาซีอีกนะคะ
ตอนนี้สั้นหน่อย มาแค่แถม ให้ชุ่มชื่นหัวใจค่ะ จริงๆจบตั้งแต่ตอนที่แล้ว 555
มีปรับตัดบางส่วนที่ล่อแหลมออกไปแล้ว หวังว่าจะไม่โดนแบนนะ งืออ
เหลือพิเศษของริวทาโร่อีกสองตอนถ้วน จะมาลงให้
พร้อมกับเปิดรีปริ้นค่ะ เย้ หลายคนรอกันข้ามปีแล้ว เพิ่งจะมีเวลารีให้ แหะๆ
คอมเม้นเดี๋ยวมาตอบรวบยอดอีกทีเลยค่า /โค้ง ขอบคุณคนที่รักที่ชอบนิยายเรา ทั้งที่ได้แสดงตัวและไม่ได้แสดงตัวนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่ารักอะไรแบบนี้ ยูจังกลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก จะมีอีกมั้ยเนี่ยคนที่รักใครสักคนสุดหัวใจแบบพี่ยักษ์ โฮกกกกก
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ เป็นอะไรที่ชุ่มฉ่ำใจเรามาก ฮือออ ไม่อยากให้จบเลยย