ตอนที่ 57 : ภาค 3 ตอนที่ 3
3
ความประหลาดของเขายังไม่หยุดอยู่แค่ตัวบ้าน เมื่อผมตื่นแต่เช้าอย่างสดชื่นแจ่มใส พระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น แต่เขาไม่อยู่บนเตียงแล้ว ในมือผมมีหมอนของเขาอยู่ นี่เขาเอามายัดใส่มือผมแทนมือของเขาที่ผมจับไว้ตลอดคืนเรอะ ผมบิดขี้เกียจแล้วออกไปมองที่หน้าต่าง แสงนวลๆจากพระอาทิตย์ยามเช้า ทำให้ผมเห็นบริเวณรอบๆบ้านเขาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ผมเห็นร่างสูงใหญ่ของเขาวิ่งอยู่ไกลลิบๆ ตื่นมาวิ่งเรอะ? รักสุขภาพไปไหมเนี่ย ผมหรี่ตาลงก็เห็นว่าเขาไม่ได้ออกมาวิ่งอย่างที่คิด แต่เขากำลังรดน้ำต้นไม้ที่เรียงรายอยู่ยาวออกไปเป็นสวน เป็นสวนเลยนะเฮ้ย! แถมยังมีเรือนกระจกที่มีต้นไม้อยู่ข้างๆบ้าน แล้วนั่นอะไร? เล้าไก่เหรอ? ด้วยความสงสัยใคร่รู้ ผมจึงวิ่งลงจากตัวบ้านออกไปด้านนอก ข้างล่างมีเล้าไก่และเรือนกระจกจริงๆ ถัดออกไปมีคอกม้า มีวัวด้วย! ผมยืนตื่นตะลึงไม่นานร่างสูงใหญ่ของเขาก็วิ่งมาหาผม เขาขมวดคิ้วนิดหน่อย มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นายมีม้า มีวัวด้วย นายทำฟาร์มเหรอ” ผมร้องขึ้น ยังคงตะลึงไม่หาย
“ก็เลี้ยงเล่นๆ”
“บ้าแล้ว ทั้งเลี้ยงทั้งปลูกด้วยตัวคนเดียว? เพราะอย่างนี้นายถึงไม่เหงาใช่ไหม ก็เลี้ยงตั้งเยอะแยะ นั่นแมว !” ผมร้องแล้ววิ่งกระโจนไปหาแมวดำตัวหนึ่งที่โผล่หน้าออกมา แมวจริงๆเลยครับไม่ใช่แมวปีศาจอย่างผม ผมวิ่งตามมันก็หนีเข้าเรือนกระจกไป ข้างในมีต้นไม้กระถางนานาพันธุ์ และแมวอีกเป็นสิบตัว
“โห” ผมอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พวกมันกรูกันเข้ามาดมกลิ่นผมอย่างสนใจ อาจเป็นเพราะมีกลิ่นเดียวกัน ผมก้มลงไปอุ้มพวกมันขึ้นมา หมุนตัวกลับไปหาคัตสึโทชิ เขาอยู่ในชุดยูคาตะสีเดียวกันกับผม และกำลังยืนพิงประตูมองมาด้วยหน้านิ่งๆ พลันผมนึกสงสัย เพราะว่าเขาชอบแมวเป็นพิเศษหรือเปล่า ถึงได้อดใจดีกับผมไม่ได้ จู่ๆเขาก็เดินออกไปทิ้งให้ผมนั่งเล่นอยู่กับพวกแมวนั่น ผมนึกสงสัยอีกว่าถ้าผมแปลงร่างกลับเป็นแมวดำเหมือนบรรดาแมวเหล่านี้ เจ้ายักษ์นั่นจะแยกผมกับพวกมันออกไหม พอคิดได้ผมก็เลยแปลงร่างทิ้งเสื้อผ้ากองไว้ แล้ววิ่งไปรวมกับพวกแมวเหมียว พวกมันเข้ามาดมๆแล้วเลียหน้าเลียหูผม พอโดนแบบนี้แล้วจั๊กจี้ไม่น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดี
“ยู” เสียงเรียกของเขาดังขึ้นเหนือหัว พร้อมกับมือใหญ่ๆที่คว้าตัวผมขึ้นอย่างง่ายดาย ผมดิ้นไปมาในอุ้งมือของเขา แต่เจ้ายักษ์ไม่ได้สนใจ เริ่มใช้อีกมือเทอาหารแมวลงในชามใหญ่ๆ พวกแมวก็วิ่งมาแย่งกันกิน
“นายชอบแมวดำมากเลยเหรอ” ผมแปลงร่างกลับ เขาไม่ได้ตอบ แต่ดึงเอาชายชุดยูคาตะมาเช็ดหน้าผม แรงเยอะจนหน้าชาเลย
“นี่เวลาถามก็ตอบมั่งสิ แล้วก็หยุดถูได้แล้ว เจ็บนะ หน้ายูเลอะอะไรเหรอ” ผมเบ้หน้าแล้วดึงมือใหญ่ๆออกจากแก้มผม เขาจ้องอยู่ตรงนั้นผมเลยชักไม่แน่ใจว่าหน้าผมมันมีอะไรรึเปล่า เขาเลิกเช็ด แล้วเอานิ้วมาลูบเบาๆแทน จากเจ็บแก้มกลายเป็นแก้มร้อนขึ้นมาอีก แล้วผมจะเขินเขาทำบ้าอะไรง่ายดายปานนี้ ผมเคยผ่านอะไรมามากกว่านี้ตั้งเยอะแยะ แต่เพียงแค่นิ้วของเขาที่แตะลงบนผิวแก้มก็ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ
“ไม่ได้มีแค่แมว” เขาเอามือออกจากหน้าผม รู้สึกเสียดายหน่อยๆ ผมมองตามมือเขาไป มือเขามันมีอะไรกันนะ ผมชอบเวลาเขามาลูบๆที่สุดเลย
“รู้แล้ว มีไก่ ม้า แล้วก็วัวด้วย หรือจะมีอะไรแปลกๆอีก”
เขาไม่ตอบ แต่หยิบชุดยูคาตะมาสวมให้ผมใหม่ ก่อนเดินนำผมออกมาจากเรือนกระจก ผมก็เดินตามเขาไป หลังเขาใหญ่มากเลย ผมแอบจ้องเขาจากด้านหลัง แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงไปถนัดตา เขาเดินไปตามต้นไม้ใหญ่ แล้วผมก็เห็น ..สิ่งมีชีวิตสีขาวปุกปุย กระต่าย?
“นายต้องบ้าแล้วแน่ๆที่เลี้ยงทั้งหมดนี่ เฮ้ย กวาง” ผมอุทาน
“ไม่ได้เลี้ยง พวกเขามาเอง” คัตสึโทชิพูดออกมาจนได้ หลังจากปล่อยให้ผมตื่นตูมอยู่นาน มีสัตว์หลายชนิดเมียงมองมาทางผม กวางน้อยเดินเข้ามาหาคัตสึโทชิ เจ้ายักษ์ไม่ได้พูดอะไรนอกจากลูบหัวกวางไปมา พวกมันดูเชื่องมาก แต่ก็มองผมอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ไม่ได้มีแค่ผมที่คิดว่ามือของยักษ์ตรงหน้านี้มันทำให้รู้สึกดีสินะ แสดงว่าผมไม่ได้แปลก เขาต่างหากที่แปลก
ถึงผมจะเป็นปีศาจ แต่ผมก็คุ้นเคยกับเมืองและเทคโนโลยี มากกว่าสัตว์ป่าตัวเป็นๆที่กำลังจ้องผมด้วยตาโตๆพวกนั้นนะ บึงกัปปะของมิซากิว่าเข้าใกล้ธรรมชาติมากแล้ว เจอบ้านของคัตสึโทชิไปแพ้ราบคาบเลย มีนกด้วย ผีเสื้ออีก เหมือนผมหลุดมากลางป่า ทั้งๆมันเป็นแค่สวนน่ะ ผมกะจะหันไปถามว่าอาณาเขตบ้านเขามันกว้างขนาดไหน แต่มีคนวิ่งเข้ามาทางนี้ซะก่อน ผมรีบหันไปมองในขณะที่เจ้ายักษ์ยังยุ่งอยู่กับการลูบขนกวาง ผู้มาใหม่มีหน้าตาสวยหมดจด รูปร่างบอบบาง แต่ผมที่ตัดสั้นนั่นทำให้ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ แต่เขาหนึ่งเขาบนหน้าผาก ทำให้ผมคิดว่าเขาเป็นผ่าพันธุ์ยักษ์เหมือนคัตสึโทชิ แต่เป็นยักษ์เขาเดียว ผมสีน้ำเงิน และตาสีฟ้าใส ยิ่งทำให้ดูสวยน่ามองขึ้นไปอีก
“คัตสึโทชิซัง แม่ผมฝากนี่มาให้ .. แล้วนี่ใครเหรอ” เขายื่นปิ่นโตขนาดใหญ่ให้กับคนหน้าตายข้างตัวผม เขาก็รับไว้ ไม่แม้แต่จะยิ้มตามมารยาท แต่คนตรงหน้าดูไม่ได้สนใจ เพราะหันมาจ้องผมอยู่ ผมแสยะยิ้มเมื่ออ่านออกว่าสายตาที่เขาใช้มองผมแปลว่าอะไร และจากเสียงที่ติดจะแหบน้อยๆก็ทำให้ผมรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย
“โคอิเคะ ยู เป็นหวานใจของโทชิไง นี่ใครเหรอโทชิ แนะนำให้ยูรู้จักมั่งสิ” ผมกอดแขนของเจ้ายักษ์ทันที ส่งเสียงออดอ้อนพร้อมเอาหางไปพันๆกับเอวเขา ทำหน้าตาบ๊องแบ๊ว แหม ดูเขามองผมสิ ไม่พอใจขนาดนี้ หึงล่ะสิ เป็นอะไรกับเจ้าก้อนหินผมก็ไม่รู้หรอก แต่ขอแกล้งหน่อยแล้วกัน
“นะ นี่! กล้าเรียกเขาห้วนๆอย่างนั้นได้ไง ผมสนิทกับเขามาตั้งแต่เกิดยังไม่เคยเรียกสั้นๆเลยด้วยซ้ำ ไร้มารยาท แล้วผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าคุณเป็นแฟนของคัตสึโทชิซังด้วย เป็นอะไรนะ โคอิเคะ? แมวสกปรก จะมายั่วเขาละสิ” หนุ่มผมน้ำเงินก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผมแล้วกระซิบ ตาสีฟ้าที่เคยคิดว่าสวยนั้นกำลังมองผมอย่างดูถูก ผมที่ถูกด่าอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าหน้าสวยๆจะปากร้ายแบบนี้ แต่แล้วพระเอกปากหนักก็ยอมเปิดปากพูด ดูเหมือนเขาได้ยินทุกอย่าง แม้ว่าเจ้าคนตรงหน้าพยายามพูดให้เบาที่สุดแล้วก็ตาม
“นาระ อย่าทำตัวหยาบคาย” เขาดุขึ้น เสียงเขาดูน่ากลัวขึ้นมา เอ๊ะ นี่เขาโกรธรึเปล่า เขาก็ไม่ได้ไร้อารมณ์งั้นสิ
“ไม่นะ เขาเป็นแฟนพี่เหรอ ผมมาก่อนเขานะ! แล้วผมก็สัญญาจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตั้งแต่สองขวบแล้วด้วย!” เขากำมือแน่น แล้วตวัดตามามองผมอย่างโกรธเคือง ผมเบิกตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน อะไรกันๆ เป็นแค่ก้อนหินแต่ก็ไวไฟนะเนี่ย หาเมียตั้งแต่เด็กๆเลยสิ ผมหรี่ตาลงไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าอายุเท่าไหร่ เพราะพวกยักษ์อายุยืนมาก แต่จากหน้าตาที่ดูเด็กกว่าคัตสึโทชิ และสรรพนามที่เรียกพี่ ก็คงจะเด็กกว่า ผมหันไปสบตากับเจ้ายักษ์แล้วยิ้มล้อเลียนเขา
“มันก็แค่สัญญาเด็กๆ จะคิดอะไรจริงจังกันครับ เราสองคน ‘ลึกซึ้ง’ กันไปถึงไหนแล้ว โทชิจังจะทิ้งยูเพราะเขาไม่ได้หรอกนะ ใช่ไหมโทชิ เลือกมาสิว่าจะเอาว่าที่เจ้าสาวคนนี้ หรือยู” ผมเบียดตัวเข้าไปหาคัตสึโทชิที่เริ่มมีปฏิกิริยา เขาขมวดคิ้วแล้วมองผมที่เอาแก้มถูกับแขนเขา ผมจีบปากจีบคอได้น่ากระทืบ แล้วหันไปยิ้มอย่างเหนือกว่าให้นาระอะไรนี่ ผมแอบงับแขนเขาด้วยความมันเขี้ยวอีก
“ฝากบอกแม่ด้วยว่าขอบคุณ ยูมานี่” เขาพูดสั้นๆแล้วหิ้วผมขึ้นเอวเหมือนอุ้มเด็ก ผมตกใจอยู่เล็กน้อย แต่พอตั้งสติได้ ผมก็โอบรอบคอเขา เอาหัวไปซบๆตรงซอกคอ ออเซาะชนะเลิศ ผมเหลือบตาไปมองหนุ่มผมน้ำเงิน เขากระทืบเท้าอย่างขัดใจ แล้วส่งสายตาอิจฉาริษยามาให้ผมอย่างไม่มีปิดบัง หึหึ มีอะไรให้เล่นแล้วสิ ผมหันมาให้ความสนใจกับร่างกำยำตรงหน้าแทน แอบเอามือสอดเข้าไปในยูกาตะเขา อกแน่นจริงจังเลย ผมวางมือแปะอยู่บนกล้ามเนื้ออกของเขา
“เพราะหุ่นอย่างนี้สิน้า ถึงได้มีคนอยากหม่ำอ่ะ ว่าแต่นายไปสัญญาอะไรกับเขา จะแต่งงานกับเขาจริงๆเหรอ แต่เรานอนด้วยกันแล้วนะ จะทำอย่างนี้กับยูไม่ได้นะ” ผมทำเป็นดีดดิ้นโอเวอร์ แค่นอนข้างกันจะไปมีอะไรเสียหายล่ะ แต่เห็นหุ่นอย่างนี้แล้วอยากเสียหายอยู่เหมือนกันแฮะ
“ไม่ได้สัญญา เขาสัญญาเองคนเดียว” เขาตอบกลับมาทันควัน
“ต๊าย น่ารักที่สุดหวานใจใครเนี่ย ไหนยิ้มกว้างให้ดูทีสิที่รัก” ผมจับแก้มเขายืดออก เขาเอาแต่ขมวดคิ้วใส่ผม ส่วนผมหัวเราะชอบใจอยู่คนเดียวเพราะสีหน้าประหลาดๆที่หลุดออกมาจากคนหน้านิ่ง
“อย่าเล่น” เขาพึมพำ
“อย่าเล่นอะไร อย่าเล่นหน้า หรืออย่าเล่นเป็นหวานใจ อะไรกัน หวั่นไหวแล้วใช่ไหม จู่ๆก็นึกอยากจูจุ๊บเค้าขึ้นมาใช่เปล่า” ผมยิ้มหวาน แหย่เขาไปเรื่อย แถมทำปากจุ๊บๆให้เขาดู แต่เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรอีกเลย ไม่ได้หันมามองด้วย เขาวางผมลงเมื่อมาถึงบริเวณบ้าน แล้วเขาก็ผลุบหายเข้าไปในบ้าน ผมเลยเดินเตร่ไปแถวคอกม้า เห็นหลังคนแวบๆวางมาวางหญ้าให้ม้า ผมรีบกระโจนเข้าไปข้างในนั้น เป็นชายมีอายุคนหนึ่ง เป็นมนุษย์ ? และเขาหันมาเห็นผม เขาตกใจเล็กน้อย
“โคอิเคะซัง?”
“อ๊ะ รู้จักผมเหรอ” ผมแปลกใจ เขารีบส่ายหน้าปฏิเสธ ผมเลยต้องตะครุบตัวเขาไว้ ลุงนี่ต้องรู้อะไรแหงๆ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นตอนเห็นผมด้วย
“ยู! ไปอาบน้ำ เดี๋ยวเป็นหวัด” เสียงดังสนั่นเล่นเอาทั้งผมทั้งลุงสะดุ้งเฮือก หันไปก็เห็นคัตสึโทชิมองเข้ามาในคอกม้า เขามีแค่หน้าตายกับหน้าดุสองอย่างหรือไง จ้องมาจนตาจะหลุดแล้วพี่ท่าน
“ไม่เป็นหรอก แข็งแรงจะตาย เป็นห่วงยูเหรอ กอดยูสิ ยูจะได้ไม่หนาว” ผมวิ่งระริกระรี้ไปเกาะหนึบอยู่ตรงอกเขา รอให้เขากอดเต็มที่ แต่เขาแค่ตวัดสายตาลงมา อูย สายตาเชือดเฉือน เหมือนมีพ่อเพิ่มมาเลย เขาดึงเอวผมเข้าไปหา แล้วจัดระเบียบยูคาตะให้เรียบร้อย คงเพราะผมพุ่งไปหาลุงเมื่อกี้ เสื้อผ้าเลยไม่ค่อยเรียบร้อย ผมอ้าแขนออก พยักหน้างึกๆให้เขาเชิงว่าอยากให้กอด แต่เขาไม่สนใจเลยสักนิด แค่เข้ามาจิ้มหน้าผากผม แล้วเดินเลยไปหาลุงในคอกม้านั่น ร่ายมนตร์เวทล้อมรอบตัวทั้งคู่ ทำให้ผมไม่ได้ยินบทสนทนาอะไรเลย ผมพองแก้มอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินหนีไปอาบน้ำอย่างที่เขาบอก ทำไมต้องทำตัวมีความลับด้วยนะ
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกดีกับเจ้ายักษ์มาขึ้นเยอะเลย แกล้งเขาก็สนุกดีถึงเขาจะไม่ตอบโต้ แต่ก็ไม่ต่อต้าน ยอมให้ผมกระแซะได้ตามใจชอบ จากบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่เดินกันให้ว่อนสวนเขาก็เป็นหลักฐานชั้นดี ว่าต่อให้เขาไม่แสดงอารมณ์ แต่สัตว์เหล่านั้นก็รับรู้ถึงความใจดีของเขา ถึงได้แห่กันมาอยู่อย่างสบายอกสบายใจ และผมคงจะแช่น้ำนานไปหน่อย พอออกมาก็เจอกับข้าวหอมกรุ่นวางเตรียมไว้แล้ว พร้อมกับพ่อบ้านสุดหล่อที่นั่งรอผมอยู่
“ทำอาหารเก่งอย่างนี้ เมียรักเมียหลงเลยนะ หึหึ” ผมยิ้มกรุ้มกริ่มใส่เขา แต่เขาก็ไม่ตอบตามเคย แต่ลงมือกินข้าวแทน
“เราอยู่ที่ไหนกันอ่ะ จะออกไปข้างนอกยังไง จะไปหางานทำ” ผมพูดขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จ รู้สึกเหมือนถูกตามใจเลย ก็พอกินเสร็จเขาก็แย่งจานผมไปล้าง แถมยังเอาขนมมาให้ผมนั่งกินไปดูทีวีไปสบายใจสุดๆ
“… อยู่นี่แหละ”
“แหม ตัวเอง จะให้เค้าอยู่นี่เฉยๆ ต้องไปสู่ขอกับผู้หลักผู้ใหญ่ก่อนนะ แบบนี้มันไม่งาม” ผมช้อนตามองเขา เขาคงอยากเข้ามาตบหัวผมสักป้าบ ข้อหากวนเขาตั้งแต่เช้า เขานั่งลงข้างๆผม ไม่ได้แตะต้องส่วนไหนเลย แต่ผมตื่นเต้นขึ้นมา โอย นี่ผมเป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย
“ถ้าอยากไปทำงาน ก็ทำอะไรสักอย่างกับรูปร่างและหน้าตาของนายก่อน ไม่งั้นนายโดนรังแกแน่” เขาเอียงหน้ามามองผม
จะถือว่าชมดีไหม ผมก็ลืมนึกไปว่าหน้าโดยธรรมชาติของผมมันดึงดูดผิดปกติ เอ๊ะ หรือผมจะใช้ประโยชน์จากความดึงดูดนี่ได้ เป็นโฮสต์เลยไง ? สาวๆคงไม่อันตราย ผมยิ้มอยู่ในใจ จนคัตสึโทชิมองหน้าผม
“เอาน่า ยูดูแลตัวเองได้อยู่แล้วโทชิจัง พาไปข้างนอกหน่อยนะ” ผมซบไหล่เขาแบบเนียนๆ เขาไม่ได้ขยับออก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ผมซบนานไม่ได้หรอก ผมเตี้ยเกินจะซบไหล่สูงๆของเขา ผมไถหัวไปมาอ้อนเขาอยู่ไม่นาน เขาก็ยอมแพ้ แล้วอุ้มผมออกมา ผมฟินมากเลยเวลาเขาอุ้มผม แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะพาผมเหาะออกไปจากพื้นที่สวนที่กว้างใหญ่นี้ ผมถามโน่นถามนี่เขามากมายไปหมดเกี่ยวกับสวน และก็หนุ่มผมน้ำเงินนั่นด้วย แต่เขาปิดปากผม ด้วยการลูบหัวลูบหาง ผมเลยต้องเงียบ มัวแต่เคลิ้มกับการที่เขาลูบจนลืมไปเลยว่ายังไม่ได้คำตอบ
“ขอบใจมากนะ แล้วนายจะไปทำงานร้านเดิมรึเปล่า เดี๋ยวเย็นๆไปหา”
“อือ” เขาตอบรับผมเท่านั้น แล้วก็แยกย้าย
ผมเดินทางไปบริเวณที่มีโฮสต์คลับสำหรับสาวๆ หดหูหดหางเข้าไป และแปลงร่างให้ดูสูงและหล่อมากกว่านี้นิดหน่อย ถ้าแปลงให้ห่างจากตัวจริงผมจะใช้พลังเยอะน่ะครับ เลยแปลงแค่พอเรียกลูกค้าสาวๆได้ และพวกเขารับผมเข้าทำงานโดยไม่มีเกี่ยงงอน โดยสอนงานผมเล็กน้อยตอนกลางวัน และให้เริ่มทดลองงานตอนกลางคืนได้เลย เงินดีกว่าที่ผมคิดไว้อีกครับ แถมถ้าเป็นโฮสต์ติดอันดับที่เป็นที่นิยมเงินก็จะสูงขึ้นอีก
สาวๆที่มาที่ร้านค่อนข้างน่ารัก งานสบาย แค่นั่งคุย นั่งเอาอกเอาใจ เชียร์เธอเยอะๆ ยอดขายเครื่องดื่มเยอะผมก็เปรม ผมทำงานจนลืมไปเลยว่างานนี้จะเลิกดึก และผมนัดกับคัตสึโทชิเอาไว้เย็นๆ พอผมดูนาฬิกาที่ด้านข้างของร้านก็เห็นว่าห้าทุ่มกว่าแล้ว! ผมตกใจได้ไม่นาน ก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ผมรีบลุกขึ้นดู
“ว้าย ตายแล้วหล่อมาก โฮสต์ใหม่เหรอ ฉันจองคนนี้” เสียงสาวๆกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ ในขณะที่ตาคมๆของร่างสูงกวาดไปทั่วร้าน ไม่รู้ทำไม ผมรีบนั่งลง สาวที่โต๊ะผมเมาอยู่ จึงไม่ได้หันไปมองคัตสึโทชิอย่างที่คนอื่นกำลังทำ เธอเข้ามาก่ายกอดผมอย่างแนบชิด แล้วเอียงหน้าสวยๆมาหาเหมือนจะจูบผม
“กลับบ้าน” เสียงเขาดังขึ้นพร้อมดันตัวหญิงสาวออกจากผม ก่อนที่ปากเราจะแตะกันแค่เสี้ยววินาที ผมหนาวไปถึงไขสันหลังเมื่อเห็นสีหน้าของเขา
“ยังไม่เลิกงานเลยโทชิ รอยูแปบเดียวนะ” ผมเดินไปเกาะแขนเขาแบบสั่นๆ แล้วผมจะกลัวเขาทำไมเนี่ย คัตสึโทชิไม่ได้ทำหน้าอะไรทั้งนั้น สีหน้าเขาเรียบเฉย แต่รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป มันเหมือนเขาโกรธ? แล้วเขาจะโกรธอะไรผมล่ะ? ผมหันไปจ้องหน้าเขาอย่างหาคำตอบ
“ชอบแบบนั้น?” เขาเหล่ไปที่สาวด้านหลังผมที่เมาหลับไปแล้ว
“ไม่เอาน่า ขี้หึงจังเลย ยูชอบแบบนี้มากกว่าเยอะ” ผมจิ้มอกเขาแล้วทำเป็นยืนเขิน ก็แค่กะจะแกล้งเขาสนุกๆ แต่เขาดันหันไปอีกทางเฉยเลย
“ยูจัง นี่เพื่อนเหรอ ชวนเขามาทำงานที่นี่ด้วยสิ เจ๊ว่าแบบนี้ร้านเราดังระเบิดแน่ ว้ายหล่อละลาย เจ๊อยากได้เป็นของตัวเอง” เจ๊ผู้จัดการที่เป็นสาวประเภทสองปรี่เข้ามาประชิดตัวทันใด คัตสึโทชิหันมามองผมเหมือนรอคอยว่าผมจะทำยังไง ผมรีบคิดแล้วกอดแขนเขาแน่นกว่าเดิม ก่อนจะยิ้มหวานไปให้เจ๊
“ไม่ได้หรอกครับ คนนี้ของผม ให้เขารอหลังร้านแล้วกัน เขามารับผมกลับบ้าน สุดหล่อ รอยูไม่นานนะ เดี๋ยวก็เลิกแล้ว” ผมดึงแก้มเขาแบบหยอกล้อ
“ต๊าย มีผัวแซ่บไม่บอกเจ๊สักคำ ไปๆให้เขาไปรอตรงนู้น”
คำพูดของเจ๊ทำให้ผมไม่กล้าหันไปสบตากับคัตสึโทชิอย่างช่วยไม่ได้ เวลาผมล้อเขาเองมันไม่น่าอาย แต่พอคนอื่นเรียก ผมเขินจนไปไม่เป็นเลย ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นอะไรกับผมสักหน่อย ผมพาเขาที่หน้านิ่งมากๆไปนั่ง แล้วก็ออกไปทำงานต่อ กว่าจะเลิกก็อีกชั่วโมงกว่าๆ ผมได้ค่าฝึกงานเล็กน้อยเป็นกำลังใจ ก่อนที่เจ๊จะตกลงให้ผมมาเซ็นสัญญาจ้างงานวันพรุ่งนี้
“ฮันแน่ หึงเหรอ ทำไมทำหน้าดุจัง” ผมเดินเกาะแกะเขาไปมาระหว่างออกจากร้าน เขาดูเงียบผิดปกติ คือปกติเขาก็เงียบแต่ไม่แผ่รังสีน่ากลัวแบบนี้
“ทำงานอะไรของนาย”
“โฮสต์ไง หล่อๆอย่างนี้ต้องโฮสต์เท่านั้น สาวๆกรี๊ดตรึมแน่นอน” ผมจับคางตัวเองแล้วเก๊กท่าใส่เขา เขาเลิกคิ้ว เอามือจับที่หลังคอผมเบาๆ รู้สึกร้อนผ่าวแล้วร่างแปลงผมก็กลับเป็นอย่างเดิมพร้อมหูและหาง
“แบบนี้ดีกว่าเยอะ”
“เหอะ เป็นโรคบ้าแมวละสินาย เฮ้ย ว่าแต่หายูเจอได้ไงอ่ะ ไม่ได้บอกร้านที่จะไปทำสักหน่อย” ผมหันควับไปจ้องเขา
“มนตร์ ฉันทำมนตร์ใส่นายไว้ จะได้หาเจอ”
“ขี้โกงสุดๆเลย” ผมพึมพำ แต่พอเขามาจับหัวก็เงียบอีก ผมโดนโจมตีจุดอ่อนนี่ เขาลูบๆผม แล้วก็พาผมกลับบ้านพร้อมๆกับที่ลูบอยู่นั่นแหละ เวลาที่มือเขาอยู่บนแก้มหรือหัวผม สมองก็หยุดทำงาน ผมคิดอะไรไม่ออกนอกจากอยากให้เขาลูบต่อไปเรื่อยๆ ผมเพลินจนกลับมาถึงบ้าน เขากำลังทำให้ผมแย่ ผมกำลังติดมือของเขา สัมผัสของเขา แล้วก็ความใจดีของเขา เขากำลังทำให้ผมคิดเพ้อเจ้อว่าเขาแอบมีใจให้ผมนะเนี่ย ก็เขาเล่นตามใจผมขนาดนี้ ดูสิ พอกลับมาถึงก็ดันให้ผมไปอาบน้ำ แล้วตัวเองไปทำกับข้าว ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? ผมไม่อยากจะคิดมากเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นคนหลงตัวเอง
กลิ่นของผมเริ่มติดที่นี่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกินข้าว โซฟา ห้องน้ำ เตียงนอน แมวเป็นสัตว์ที่ติดที่มากกว่าติดคน และการที่บ้านมันเต็มไปด้วยกลิ่นของผม จะทำให้ผมทำใจยากเมื่อต้องย้ายออก มันไม่เหมือนบ้านของฮิโรโตะ ที่นั่นมีคนเยอะจึงมีกลิ่นอื่นๆด้วย ผมจากที่นั่นมาได้โดยไม่รู้สึกอะไร แต่กลับที่นี่คงยากสักหน่อย ถ้าผมอยู่ไปอีกสักเดือน ผมต้องไม่อยากไปไหนแหงๆ
“ทำไมนายถึงใจดีจังล่ะ ถ้าเป็นคนอื่น นายจะพาเขามาอยู่ที่บ้านนี่ไหม” ผมถามขึ้นบนโต๊ะอาหารเมื่อทนคิดเองเออเองไม่ไหว
“ไม่”
พอเขาตอบกลับมาแบบไม่ต้องใช้เวลาคิดแบบนั้น ผมก็พูดไม่ออก เกิดเขินขึ้นมาเองเมื่อคิดว่าเขาพาผมมาแค่คนเดียว ไม่กล้าถามต่อแล้วอ่ะ เห็นเงียบๆแบบนี้แต่จู่โจมผมด้วยคำพูดนิ่งๆกับหน้าตายๆมาหลายทีแล้วนะ ทำไมมีแค่ผมคนเดียวที่เขินอ่ะ ผมทั้งหยอด ทั้งอ่อย ทั้งหยอกล้อสารพัด เขาไม่เห็นเขินผมบ้างเลย ผมเหลือบตาไปมองก็เห็นเขาจ้องผมอยู่ ดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้ว
“โทชิไม่ชอบเห็นยูทำงานที่นั่นเหรอ” ผมเริ่มทำเสียงหวานอีกครั้ง
“อือ”
สั้น กระชับ สไตล์พี่ยักษ์ ผมกุมหัวตัวเอง ผมอยากได้คำตอบที่มากกว่านี้อย่างเช่น หึง! หวง! หรือไม่ก็นอกเรื่องไปเลย เจอสั้นๆมาแบบนี้ผมก็อึ้งสิ
“ถ้ายูไม่ไปทำ จะมีรางวัลให้ไหมอ่ะ” ผมยื่นหน้าไปใกล้ๆเขา แล้วก็รู้สึกว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง เมื่อหน้าเขาแบบใกล้ๆมันสมบูรณ์แบบ หาสิวไม่เจอสักเม็ด แถมสายตาของเขายังมีอานุภาพแปลกประหลาด ผมเลยหดหน้ากลับมาที่เดิม
“ไม่มี”
“หึ งั้นก็ไม่เลิกหรอก” ผมแลบลิ้นใส่เขา แล้วก็เห็นแมวน้อยที่ริมหน้าต่าง มันมาเมียงมองอยู่ คัตสึโทชิจึงเดินไปเปิดหน้าต่างแล้วอุ้มมันเข้ามา
“นายชอบแมวเหรอ” ผมอดอิจฉาแมวน้อยที่ทำหน้าฟินเวลาถูกเขาลูบไม่ได้ มาลูบผมบ้างสิ ผมส่งสายตาอิจฉามากเกินไป เจ้ายักษ์จึงรู้ตัวแล้ววางเจ้าแมวลงให้มาพันแข้งพันขาผม ส่วนเขาเดินอ้อมโต๊ะมา โน้มหน้าเข้าหาผม มืออุ่นๆลูบลงที่คาง แทนที่จะรู้สึกเคลิ้มผมกลับรู้สึกร้อนแปลกๆ ประกอบกับสายตาที่จ้องตรงเข้ามาในตาของผม โอย สายตาจะอะไรขนาดนี้ หล่อเกินแล้วครับคุณ !
“ชอบ”
บ้าจริง! สาบานสิว่าเขาไม่ได้หมายถึงผม เขาหมายถึงแมวทั่วๆไปใช่ไหม
“ชอบที่สุด” น้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้นทำให้ผมทนจ้องตากับเขาไม่ได้ ต้องรีบปิดตาแน่น รู้สึกได้เพียงนิ้วของเขาที่ไล้อยู่บนคอ แก้มผมร้อนไปจนถึงหู
พอเถอะ หัวใจจะวายแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------
つづく
โฮกกก พี่ยักษ์ดูมีอะไรในกอไผ่นะคะ ฮา
นี่บอกชอบน้องแมว หรือแค่ชอบแมวเฉยๆ รู้แต่ว่าเขินจนตัวบิดแล้วค่า ฮืออ
เปิดตัวยักษ์เด็กนาระ เป็นผู้ชายนะคะ พี่ยักษ์ของเราแม้จะเหมือนก้อนหิน แต่ก็มีเสน่ห์
มีเด็กมาหลงรักด้วยแหละ แล้วจะมีใครโผล่มาอีกหรือไม่ รอชมตอนต่อไปเลยยยย > <
คอมเม้นยังอ่านหมดเหมือนเดิมนะค้า แค่เปิดเทอมแล้ว อาจไม่ได้มาตอบทีละคนๆ
รีบมาลงให้อ่านบ่อยๆแทนเนอะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ยักษ์คือดีจย์
... โอย เขิน ดีงามอะไรเบอร์นี้ งื้อออออ
แต่มานึกถึงที่พี่แกเสียน้องไปแล้ว น่าสงสารอ่ะ ต้องเสียใจมากๆแหงๆ ดูเป็นอ่อนโยนขนาดนี้ งือออออ พี่ยักษ์
พี่ยักษ์มีความลับอะไรหรือเปล่า~
ให้เลื่อนลอยดุจอยู่ในความฝัน
ความรักที่เขามีให้แก่กัน
ยังนิรันดร์รักนี้มิสั่นคลอน
อยู่ๆก้แต่งได้ไรต์ชอบบมั้ยคะ
ยูต้องจับพี่ยักษ์ให้อยู่นะ ห้ามพลาด