ตอนที่ 21 : ภาค 1 ตอนที่ 20
20
ผมเหนื่อย …ท้อ นี่เขาหายไปไหน ? ผมไปหมดทุกที่ที่นึกออกแล้ว ผมบินวนเวียนในป่าแห่งสุดท้าย นั่งลงตรงทางตัน รู้สึกว่าไร้จุดหมาย ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิด เขาเป็นใคร ? ทำไมผมต้องตามหาเขาขนาดนี้ ทำไมคิดถึงใจจะขาด.. ทำไมน้ำตาพาลจะไหลเมื่อคิดว่าผมคงไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกแล้ว ผมทำพายุพัดกรรโชกด้วยอารมณ์ที่สับสนและขุ่นมัว เรียวเมย์เลิกตามหาเขามาตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว ทุกคนเลิกตามหา อ้อ ยกเว้นนาโอยูกิเอาไว้คน รายนั้นพยายามจะออกมา แต่โดนเรียวเมย์ห้ามไว้ เลยได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ผม
“ไคริจัง !!” ผมตะโกนออกไปอย่างสิ้นหวัง ปีกผมตกอย่างอ่อนแรง ผมนอนหงายลงไปบนพื้นชื้นแฉะของป่า เมฆฝนดำทะมึน ผมอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน มองไปยังทางตันนิ่งๆ ใจสั่นรุนแรงเหมือนจะเป็นโรคหัวใจ ความคิดถึงพุ่งไปทั่วทั้งตัว ความรู้สึกรุนแรงนี่มันอะไรกัน ?
ผมอยู่ตรงนั้นจนฟ้ามืดก็ต้องกลับบ้าน ผมบินกลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน
“ยังไม่เจอเหรอลูก” แม่รอรับผมอยู่ที่บึงกัปปะ เธอลูบไหล่ที่แข็งแกร่งของผมอย่างอ่อนโยน สายตาแสดงความห่วงใย ผมยิ้มน้อยๆ
“ยังครับ แต่พรุ่งนี้ผมจะลองใหม่”
“เหนื่อยก็พักนะลูก เดี๋ยวเขาก็กลับมาเชื่อแม่สิ” น้ำเสียงปลอบโยนไม่อาจช่วยอะไรผมได้ เมื่อความหวังที่มีนั้นน้อยลงทุกวัน นานนับเดือนที่ผมเฝ้ารอ แล้วเขากลับมาไหม ? หรือว่าเขาไม่อยากกลับมา เกิดอะไรขึ้นกับเขารึเปล่า เขาปลอดภัยดีไหม? ผมไม่อาจหยุดคิดเรื่องพวกนี้ได้สักวินาทีเดียว
โรงเรียนเคยเป็นที่สร้างความบันเทิงให้กับวันอันน่าเบื่อของพวกปีศาจอย่างผม แต่ตอนนี้ทุกวินาทีเชื่องช้า ทรมาน ผมอดคิดถึงเรื่องร้ายๆที่อาจเกิดขึ้นกับไคริไม่ได้ ใบหน้าที่แสนสดใส แววตาแห่งความอยากรู้อยากเห็น คำถามมากมายที่เขาเคยถามหลั่งไหลวนเวียนในสมอง เขากำลังทำผมคลั่ง คิดถึงไออุ่นจากกายเล็กที่นอนอิงแอบอยู่ข้างตัว ช่วงก่อนเขาขี้อ้อนมาก นั่นทำให้ผมใจพองโต คิดว่าเขาเองก็เห็นผมเป็นคนสำคัญ เห็นผมเป็นที่พึ่ง
… แต่ผมคงจะคิดไปเอง ผมคงเป็นแค่เด็กมัธยม นักเรียน ปีศาจ เป็นใครก็ตามที่ไม่ได้สลักสำคัญกับชีวิตของเขา เขาถึงได้จากผมไป
“แม่ เขาไม่กลับมา .. เพราะเขาไม่อยากจะอยู่กับผมแล้วรึเปล่า” ผมพูดเสียงสั่น รู้ว่าแม่คงไม่มีทางตอบอะไรออกมาได้ แต่ผมก็ยังพูดออกไปไม่หยุด ความกังวลที่อยู่ในใจถูกระบายพร้อมกับน้ำตาที่ไหล เธอยิ้มแล้วกอดผมไปไว้แนบอก ไม่มีคำปลอบใจ มีเพียงอ้อมกอดแสนอบอุ่น ผมนิ่งไปทันที กอดเธอตอบ เพียงหนึ่งนาทีที่เธอกอด ความอ่อนแอของผมก็หายไป
“ถ้าอยากรู้ ก็ถามเขาตรงๆ ไม่ต้องคิดมากไปเอง เพราะเราไม่มีทางรู้จิตใจของคนอื่นหรอก ตอนนี้หาไม่เจอก็ไม่เป็นไร เราต้องได้เจอเขาแน่ ไม่ช้าก็เร็ว แม่เชื่ออย่างนั้น” เธอกระซิบบอกผม แล้วยิ้มหวาน ผมยิ้มตอบ
“ครับแม่” ผมตอบรับ เลิกทำตัวเป็นเด็กขี้แย และเข้าไปเล่นกับบรรดากัปปะ ทำตัวตามปกติเหมือนที่เคยทำทุกวัน
แต่ระหว่างที่รอเขานั้น ผมไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ผมให้พ่อฝึกสอนวิชา ทั้งๆที่แต่ก่อนผมออกจะขี้เบื่อ ใช้พลังแค่เท่าที่รู้ตามธรรมชาติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมอยากแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนที่รัก พ่อเองก็เข้าใจ และถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อสามารถทำได้มาให้ผม ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าการาสุเทนกุนั้น มีมนตร์มากมายแค่ไหน ทั้งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนไม่อาจมองด้วยตาเปล่าได้ทัน ไหนจะวิชาการต่อสู้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือที่รู้จักกันในนาม นินจา หรือชิโนบิ
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งเดือน .. แทนที่ผมจะเคยชินกับการไม่มีเขา ความคิดถึงของผมกลับทวีคูณ และผมกลัวว่าเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บหนัก ไม่อาจไปไหนได้ ผมจึงตัดสินใจจะตามหาเขาอีกครั้ง
ผมรู้สึกอะไรบางอย่างกับทางตันนั้น ผมย้อนกลับไปที่เดิมทุกวัน และก็เหมือนเคย ใจผมสั่นอย่างรุนแรง ผมไปที่นั่นซ้ำๆเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เริ่มแน่ใจว่าต้องมีอะไรอยู่หลังทางตันนี่ ผมร่ายมตร์ใช้พายุรุนแรงเข้าซัดทางตันที่ดูเหมือนก้อนหินใหญ่ทึบ ใบไม้ใบหนึ่งปลิวและร่วงหล่นลงมา ฉับพลันหินใหญ่ยักษ์จางหายไป เป็นโพรงไม้ทึบๆ ผมรีบเข้าไปในนั้น ก้าวอย่างระมัดระวัง มันทะลุออกไปอีกด้าน
ผมยืนนิ่ง มองไปรอบกาย ข้างในเป็นป่าไม้ ไม่ต่างจากด้านนอกนัก แต่ว่ามีบึงเล็กๆ คล้ายบึงกัปปะที่ผมอาศัยอยู่ช่วงนี้ ด้านในเป็นหุบเขา ได้ยินเสียงคุยกัน ผมสาวเท้าไปอย่างแผ่วเบาระมัดระวัง ถึงผมจะเป็นปีศาจ แต่ก็ใช้ว่าปีศาจทุกชนิดจะเป็นมิตรต่อกัน ผมร่ายมนตร์แปลงกายเป็นอีกาตัวเล็กๆได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผมยิ้มให้กับการพัฒนาของตัวเอง ผมบินไปตามเสียงรื่นเริงนั้น
“ไคริจัง ปลาๆๆ” เสียงเล็กๆของเด็กไม่ทำให้ผมตกใจ แต่เป็นเพราะชื่อนั้นต่างหาก ผมหันควับ เห็นทานูกิตัวจ้อยนั่งเล่นอยู่ริมน้ำ ทำตาโตมองลงไปในนั้น เลยไปหน่อย มีหางสีดำโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ หางแบบนั้น…
“ฮ่า! เจ้าตัวเล็ก เอ้านี่ !” ร่างบางโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เขาสีดำใหญ่มันวาวด้วยน้ำที่ห่อหุ้ม เขี้ยวเล็กๆแย้มออกมาตามรอยยิ้ม ดวงตาสีน้ำเงินใสแจ๋ว ช่วงบนที่เปลือยเปล่า กับหยดน้ำพร่างพราวที่เกาะอยู่บนตัว เป็นภาพที่น่าดูจนผมแทบลืมวิธีบิน ผมร่วงลงจากอากาศค่อนข้างสูง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้ทัน ก่อนจะตกลงไปในน้ำ ผมพยายามบินเข้าไปใกล้ๆ ไคริจังยังคงขาวซีดและผอมบางเช่นเคย
“เก่งจังเลย” ทานูกิน้อยร้องร่าเริงแล้วรับปลาไปไว้ในถังเล็กๆข้างตัว
“เพราะพ่อหนูสอนไง” เขายิ้ม รอยยิ้มอ่อนโยนยิ่งทวีความคิดถึงในใจผม เขาดูแข็งแรงขึ้น ดึงดูดมากขึ้น แก้มขาวๆมีเลือดฝาด
“อ๊ะ” จู่ๆเขาก็ร้อง ทำจมูกฟุดฟิด เขางอกออกมาอีก เขี้ยวก็ด้วย ผมตกตะลึงเมื่อเห็นว่านั่นยังไม่ใช่ร่างเต็มของเขา น้ำในบึงกระจายออกเป็นวง ไคริหายใจหอบ พึมพำชื่อผมออกมาเบาๆ ผมไม่สนใจจะปลอมตัวอีกต่อไป รีบแปลงร่างกลับเป็นคนแล้วพุ่งเข้าหาเขาที่อยู่ในน้ำ
“ฮิโระ ?!” เขาทำตาโต เมื่อเห็นผม ผมสวมกอดเข้ากับร่างเล็กๆอย่างแสนคิดถึง เขาเกร็งนิ่งตัวแข็ง ก่อนที่ตัวจะเริ่มสั่นอย่างรุนแรง
“อย่าเข้ามานะ ออกไป !!” เขาตวาด ผลักผมเสียปลิวกระเด็นขึ้นไปบนฝั่ง ทานูกิน้อยใหญ่เริ่มโผล่ออกมาตามหุบเขา มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมงุนงง ไคริจังทำหน้าตาประหลาด เหมือนอยากจะเข้ามาหา แต่ก็ไม่ยอมขยับไปไหน เขากอดตัวเองเอาไว้ ไฟสีฟ้าแล่นแปลบปลาบทั่วตัว ผมรีบอุ้มทานูกิตัวจ้อยๆทั้งหลายให้ออกห่างจากน้ำ ก่อนที่พวกเขาจะโดนไคริจังช็อตเข้าให้
“ลุงยูโตะ !!” เขาร้องเรียกหาใครสักคน แค่พักเดียวเท่านั้น ก็มีทานูกิในรูปร่างครึ่งมนุษย์ วิ่งออกไปหาเขา ชายหนุ่มดูมีอายุกับหางฟูๆ และหูสามเหลี่ยม ช่วยไคริขึ้นมาจากน้ำ และกำลังจะพาเขาออกไป
“ไคริ …” ผมเรียกเขาเสียงแผ่ว ไม่แน่ใจว่าผมมาที่นี่ทำไมกันแน่ แค่เห็นมือที่เกี่ยวกันของคนสองคนตรงหน้า ก็ดูเหมือนเรี่ยวแรงผมจะหายไป
“โอ๊ะ พ่อหนุ่มการาสุเทนกุ ?” ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองผม เขาทำหน้าแปลกใจ ราวกับรู้จักผมมาก่อน ไคริจังเล่าให้เขาฟังเหรอ ? เล่าว่าอะไร เขายังคิดถึงผมอยู่ใช่ไหม ? หัวใจที่แฟ่บไปกลับพองฟูขึ้นอีกครั้ง ผมวิ่งตรงไปหาร่างบอบบาง เขาถอยหลังหนีผม มือยังคงจับเอาไว้กับชายอีกคนแน่น ผมรู้สึกหน่วงในใจ ไม่อยากคิดไปเองว่าระหว่างสองเดือนกว่าที่หายไป เขาทำอะไรบ้าง
“ไคริจัง” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำๆ ในหัวมันตื้อไปหมด ทั้งๆที่ผมควรจะไปให้พ้น ก็เห็นอยู่แล้วว่าเขามีความสุขดี แม้ไม่มีผม
“ฮิโระ คือ .. ได้โปรดเถอะ กลับไปก่อนเถอะนะ” ในที่สุดไคริก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วพูดรัวๆออกมา เขายังคงอยู่ด้านหลังทานูกิ ไม่ยอมออกมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ ไหล่เล็กสั่นน้อยๆราวกับกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง ผมขมวดคิ้ว รู้สึกแย่ที่ถูกผลักไส ทั้งๆที่ตามหาเขาจนแทบบ้า
…ทั้งๆที่คิดถึงขนาดนี้
“ไคริ จะอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเข้าใจแล้ว จะไม่มารบกวนอีก” ผมปั้นยิ้ม แม้ข้างในจะปั่นป่วนไปหมด พายุฝนเริ่มตั้งเค้า ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และที่นี่กำลังจะโดนพายุรุนแรงเข้าโจมตีแน่ถ้าผมยังไม่รีบไป
“คือ ไม่ใช่..” เขาอึกอัก แววตาเศร้าหมองนั่นคืออะไร ถ้าเขาทำอย่างนี้ ผมจะหนีไปไหนได้ ผมจะไปจากเขาได้ยังไงเมื่อตาคู่นั้นกำลังร้องขอความช่วยเหลือ วิงวอนให้ผมเข้าใจ ทั้งๆที่ผมไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง เขี้ยวของเขางอกยาวออกมาจากปาก มือไม้เริ่มสั่น เล็บเขาก็ยาวออกมาด้วย เขาปล่อยมือจากทานูกินั่น ถลาออกไปอีกทาง พอผมจะเข้าไปหา เข้าก็ผวา ส่ายหน้ารัวๆ น้ำตารื้นขึ้นมา เขาดูทรมาน ผมไม่รู้ว่าควรจะช่วยเขาอย่างไรดี
“ไคริ … คิดถึง” ผมพูดความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ในใจ นึกออกเพียงแค่นี้
“…” เขาเม้มปากแน่น ยอมยืนนิ่งให้ผมกอดอีกครั้ง ผมหอมแก้มเขาเบาๆ พยายามกอดและปลอบโยนให้เขาหายตัวสั่น แต่ดูเหมือนว่ามันจะรุนแรงมากขึ้น ไคริหายใจแรง เหมือนแววตาเขาเปลี่ยนไป มันเรียวรีเหมือนสัตว์ป่า
“ได้โปรด ถอยไป ไปให้ไกล ก่อนที่มันจะสาย” ไคริกระซิบ เสียงสั่นจนน่าเป็นห่วง ผมไม่เข้าใจที่เขาพูด จนกระทั่งเขาแตะผมด้วยไฟสีฟ้านั่น จนผมสะดุ้งแล้วต้องถอยออกมา เขามองผมเหมือนอยากจะขอโทษ แล้วก็สาดไฟสีฟ้านั่นใส่ผมจังๆ ส่วนตัวเขาวิ่งหนีไปอีกทาง … ผมหลบไฟนั่นได้ทันท่วงที ผมไม่ใช่ฮิโรโตะคนเก่าอีกแล้ว ผมไม่กลัว แม้ว่าเขาจะทำอะไรกับผมอีก ผมจะไม่ปล่อยให้เขาทรมานคนเดียว หรือหนีมาพึ่งคนอื่น !! ผมอยากเป็นคนที่อยู่กับเขา .. ยามที่เขาไม่เหลือใคร
“ไคริจัง อย่าหนีสิ” ผมวิ่งตามไปติดๆ เรื่องความไวผมเหนือกว่าเขาไปแล้ว แค่ไม่กี่นาที ผมก็มาอยู่ตรงหน้าเขา จับตัวเขาเอาไว้ได้
“ไม่ ฉันอยู่ใกล้นายไมได้เลย ฉัน ฉัน” เขาพึมพำ ท่าทางตื่นตระหนก
“ใจเย็นๆ เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรครับ” ผมพยายามทำให้เขาใจเย็นลง บรรดาทานูกิยังคงตามมาดูอยู่ห่างๆ เขาทำท่าประหลาดมาก เหมือนจะตรงเข้ามาจู่โจม แต่ก็ยั้งตัวเองเอาไว้ได้ แววตาของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
“เขาจะกินคุณ !!” ทานูกิคนเดิมที่ไคริจังเข้าหา ตะโกนมา
“ห๊ะ ?” ผมยังไม่ทันได้คิดดี ไคริจังก็กระโจนใส่ผมจนล้มคว่ำ เขี้ยวคมๆงับเข้าที่คอ งับซะแรงจนผมเกือบต่อยเขาแล้วเนี่ย เจ็บสุดๆไปเลย ดูเหมือนเขี้ยวเขาจะแหลมกว่าคราวก่อนหลายเท่า มันฝังลึกลงไปในคอของผม ผมกลั้นใจแล้วเรียกเมฆฝนมา ฝนเทกระหน่ำจนเหล่าทานูกิรีบหลบตามแมกไม้ ฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้าตรงเขาไคริ ผมพยายามจะเบาที่สุดแล้ว แต่เขาก็ปลิวกระเด็นไปเป็นเมตร ผมรีบลุก คิดหาวิธีที่จะหยุดเขา พลางหันไปมองเหล่าทานูกิ
“เขาเคยเป็นแบบนี้ไหม ? เฮ้ย ไคริจัง เจ็บนะ” เขาพุ่งมากัดผมอีกแล้ว คราวนี้งับเข้าที่แขน แถมออฟชั่นเสริม เอาไฟมาเผาผมอีก นี่กะย่างสุกพร้อมกินเลยใช่ไหม ผมควบคุมลมให้พัดเอาฝนมาดับไฟจากตัวเขา ใช้พลังมากโขกว่าจะดับได้ อ่า ดูเหมือนไคริจะต่อต้านสัญชาตญาณตัวเองไม่อยู่ เขาอยากกินผมมากเลย
“ก็เคย ปกติเขาบอกให้ลุงแปลงร่างเป็นคุณ .. พอเขาเห็น เขาจะพุ่งเข้ามากิน แต่พอเห็นคุณปลอมๆทำหน้าเจ็บ เขาก็จะหาย แต่ไหงพอตัวจริงมา กลายเป็นอย่างนี้ไปได้” ลุงทานูกิตะโกนแหวกสายลมแรงมา แต่ตัวเขาเองก็ไม่กล้ามาใกล้
“ไคริ ไคริ นี่ผมเอง จำไม่ได้เหรอ เฮ้ๆ” ผมจับแก้มเขา ดึงเขาออกจากแขนผม ถึงมันจะเจ็บและเลือดไหลออกมาจำนวนมาก แต่ผมต้องพาเขากลับมาให้ได้ก่อน เรื่องแผลผมหน่ะช่างมันเถอะ
“งือออ” เขาครางในลำคอ แววตาปกติกลับมาแค่ชั่วครู่
แค่พริบตาเดียวเท่านั้น เขาแยกเขี้ยว พยายามสะบัดหน้าออก
“ให้ตาย ไคริจัง” ผมพึมพำ ร่ายมนตร์ใส่เขาอย่างจังเพื่อให้เขาหมดสติ ร่างบางทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น แต่ไม่ถึงกับสลบ เขายังปรือตามองผม เอาเล็บยาวๆมาข่วนอีก ผมร่ายมนตร์ซ้ำเข้าไป ไคริตาลอยและหมดสติในที่สุด
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” ผมกอดเขาไว้ อุ้มเขาขึ้นแล้วเดินตรงไปหาพวกทานูกิ ที่น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากไคริหายไป
“พาเขาไปพักที่บ้านก่อนเถอะ” ลุงทานูกิคนนั้นเข้ามาจับข้อมือผม และนำทาง แยกออกมาจากบึง ตรงไปยังกระท่อมเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่อย่างกลมกลืนกับต้นไม้ใหญ่ มิน่า ผมหาพวกเขาไม่เจอเลย ผมก้าวเข้าไปในบ้าน วางไคริจังลงบนเสื่อและหมอนเก่าๆ ดูเหมือนไคริจังจะนอนที่นี่ ผมเห็นเสื้อผ้าของเขาตอนที่หนีหายไปพับอย่างเรียบร้อยอยู่ที่มุมห้อง ตอนนี้ไคริจังมีแค่หนังสัตว์เก่าๆปกปิดด้านล่างเหมือนทานูกิอื่นๆที่นี่ เขาครางอือในลำคอ ท่าทางทรมาน
“ลุงเจอเจ้าหนูนี่นอนคว่ำ และได้รับบาดเจ็บอยู่ที่กลางป่าเลยพามารักษา เขาขออยู่ที่นี่แลกกับการให้ลุงช่วยฝึก” ลุงเอาผ้าสะอาดๆผืนหนึ่งส่งให้ผม ผมก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวไคริจังที่เปียกปอนจากน้ำในบึง และฝนของผม
“ฝึก ?”
“เขากินปีศาจ และดูเหมือนเขาตั้งใจจะหยุดความอยากกินนั้นให้ได้ เขาอาละวาดบ่อยทีเดียว แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่ได้กินใครเข้าไปเลย น่าแปลก ทุกครั้งที่เขาเห็น หรือได้กลิ่นคุณ เขาจะตัวสั่น เขี้ยวกับเขางอกทุกที คุณเป็นคนสำคัญของเขาเหรอ” ลุงยิ้มใจดีให้ผม ผมนิ่ง จะว่ายังไงดี ผมสำคัญกับเขาไหม ? ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ผมเช็ดอย่างแผ่วเบาจนแน่ใจว่าเขาจะไม่ป่วย แล้วก็จัดแจงห่มผ้าให้ ผมใส่มนตร์ลงไปแรงมากจนกลัวว่าเขาจะไม่ฟื้น แต่ดูเหมือนจะทำอะไรเขาไม่ได้มาก เมื่อร่างบางขยับไปมา ทำท่าเหมือนจะฟื้นได้ทุกเมื่อ
“ผมก็กะจะมาถามเขาอยู่เหมือนกัน” ผมตอบไปตามตรง
“หึหึ หนุ่มๆก็งี้แหละน้า บางทีเขาอาจจะไม่ได้หิวมากมายขนาดนั้น แต่เป็นเพราะพ่อหนุ่มเป็นคนพิเศษ ความโหยหาและความรู้สึกที่ท่วมท้นอาจทำให้เขาสับสน และกระตุ้นให้เขาอยากกิน เขาคงแค่..คิดถึงมาก” ลุงเอื้อมมือมาลูบหน้า
ผากไคริจังอย่างเอ็นดู ผมรู้สึกคันยิบๆในหัวใจ เหมือนมดมาเดินยั้วเยี้ย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นอะไร ผมไม่ค่อยอยากเห็นใครแตะต้องไคริจัง
“คิดถึงจนอยากกินผมเหรอ” ผมขำหน่อยๆ ในใจก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ลุงทานูกิมองหน้าผมชั่วครู่แล้วถอนหายใจ
“เดี๋ยวเขาคงฟื้น คุยกันดีๆ ลุงไปดูเด็กๆข้างนอกล่ะ” เขาตบบ่าผม แล้วค่อยๆเดินจากไป ประตูปิดลงอย่างแผ่วเบา เหลือแต่ผม กับไคริจังที่ยุกยิกไปมา คิ้วขมวดและก็พึมพำ ผมได้ยินชื่อตัวเองสองสามครั้ง อดยิ้มออกมาไม่ได้ ผมลูบแก้มเขาไปมา สำรวจทั่วตัวพบว่าเขามีรอยแผลอยู่บ้างประปราย ผมสำรวจได้ไม่นาน ตาใสๆสีน้ำเงินก็เปิดออก จ้องตรงมาที่ตาผม หลังจากนั้นเขาก็ลุกพรวด ถอยไปชิดกำแพงอีกด้านของบ้าน ทำหน้างุนงง
“ไคริจัง” ผมเรียกเขา ยื่นมือไปด้านหน้า
“ฉันกัดนายอีกแล้วใช่ไหม ฉันทำอีกแล้ว” เขาจ้องไปที่เลือดตรงคอและแขนของผม ตัวยังคงสั่นรุนแรงจนน่ากลัว จมูกเขาเริ่มฟุดฟิด นี่แค่ได้กลิ่นผม เขาก็หิวขึ้นมาเลยเหรอ ผมยิ้มหน่อยๆ ไม่ถือสาถ้าหากว่าเขากินผมเข้าไปจริงๆ อย่างน้อยก็มีแค่ผมเท่านั้นที่เขาอยากจะกิน
“ไม่เป็นไร มันไม่เป็นไร มานี่มา ผมตามหาอยู่เป็นเดือนๆ คุณก็หมกตัวอยู่ในนี้เหรอไคริ คุณไม่อยากเจอหน้าผมแล้ว ?” ผมตัดพ้อ เริ่มใจชื้นเมื่อไคริยังมีแววตาที่ปกติ ไม่เหมือนเมื่อครู่
“ฉันทำร้ายนาย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าฮิโรโตะ บ้านของนายด้วย มันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันทำลายมันเอง .. กับมือ” เขาพูด เสียงขาดหาย น้ำตาหยดลงมาตามแก้ม ไม่ยอมขยับตัวแม้สักนิด เขายืนชิดริมกำแพงจ้องผมอยู่อย่างนั้น มือเขากำแน่น ผมจะโกรธเขาลงได้ยังไง ในเมื่อเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ และเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกผิดมากเสียจนไม่อาจกลับไปหาผมได้ ผมยิ้มให้เขา
“ไคริจัง ผมก็ไม่ได้เป็นอะไร ยังอยู่ตรงนี้”
“ฉันเป็นตัวอันตราย ฉันกลับไปไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่”
“ไม่ ไคริจัง ไม่ ได้โปรดเถอะ ผมคิดถึงคุณจะแย่อยู่แล้ว ถ้าคุณจะใช้ชีวิตที่เหลือทั้งชีวิต ด้วยการไปห่างๆจากผมล่ะก็ กินผมเสียเลยสิ กินผมเดี๋ยวนี้เลย !!” ผมทุบกำปั้นลงกับพื้น บ้านสะเทือนรุนแรงจากอารมณ์ของผม ผมจ้องเขานิ่ง ไม่ได้พูดเล่น ถ้าเขากลัวจะทำร้ายผม และต้องหลบๆซ่อนๆอย่างนี้ ก็กินผมไปเสียเลย จะได้ไม่ต้องกลัวอะไรอีก ให้มันจบลงตรงนี้
“ฮิโระ..” เขาพูดเสียงแผ่ว ค่อยๆเดินออกมาหาผม สองแขนบอบบางโอบกอดรอบคอ ซุกตัวเข้ามาหาผม ผมรัดตัวเขาเข้ามากอดทันที
ทั้งๆที่คิดว่าไม่มีเขาผมก็ไม่เป็นไร ก็เหมือนกับที่เคยมีชีวิตมาก่อนหน้านี้ แต่เพียงแค่อ้อมกอดชั่ววินาที ก็ทำให้ผมไม่อาจปล่อยเขาได้ ผมจะไม่ปล่อยเขาไปไหนอีกแล้ว ! ผมกอดเขาแน่น กดจมูกลงกับแก้มนิ่มที่เปียกชื้นด้วยน้ำตา
“นี่ไง ไม่หิวแล้วใช่ไหม” ผมยิ้ม เมื่อตัวเขาเลิกสั่น
“แต่ก็ไม่รู้จะหิวอีกเมื่อไหร่” เขาพูดแผ่วเบา แตะลงที่คอผม หน้าตาเป็นกังวล สับสน และไม่ยอมหยุดร้องไห้เสียที ผมนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะจับแก้มเขาเงยขึ้น กดจูบเบาๆที่ริมฝีปาก ตั้งใจเพียงแค่จูบเบาๆเท่านั้น แต่ความคิดถึงที่ล้นเหลือทำให้ผมหยุดไม่ได้ ผมจูบซับหยดน้ำตาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะวกกลับไปที่ริมฝีปากเล็ก งับอย่างหยอกล้อ ไคริจังเผยอปากเล็กน้อย กำลังจะพูด แต่ผมสอดลิ้นเข้าไปทันที กดจูบเชื่องช้า เนิ่นนาน เขี้ยวของเขาหดกลับเข้าไปแล้ว ไคริจังตัวสั่นน้อยๆ คราวนี้ไม่ใช่เพราะว่ากลัว แต่เพราะแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นช้าๆ
“ผมรักคุณ ไคริจัง รัก รัก” ผมพร่ำกระซิบที่ข้างหู กอดเขาไว้
“คิดถึง” เสียงเล็กและเบาหวิว ทำเอาผมผละออกจากตัวเขา จดจ้องไปที่ใบหน้าของไคริ นั่นเขาพูดเหรอ? เขาเพิ่งบอกว่าคิดถึงผมใช่ไหม
“กลิ่นของนาย ..กระตุ้นฉัน ฉันไม่อาจจะทนอยู่ใกล้ๆนายได้นานกว่านี้ ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันคิดว่าฉันทำได้แล้ว ฉันอยู่ได้สองเดือนโดยไม่กินปีศาจตนใดเลย แต่เพียงแค่กลิ่นของนาย เบาบางมาตามสายลม ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนสติจะเลือนหาย ฉันโดดเข้าหานายและไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่ว่า.. พอนายไม่อยู่ ฉัน .. ฉันคิดถึง ฉันอยากให้นายกอดฉันเหมือนอย่างที่ทำอยู่” เขาสะอื้นเบาๆ กอดผมแน่น รู้สึกได้ถึงความชื้นที่ไหล่ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพียง
แค่ผมรู้ว่าเขาก็คิดถึงผมมากเช่นเดียวกัน ไม่ว่าอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม
“แต่ฉันต้องสะสางสิ่งที่ฉันก่อ ฉันจะไปจัดการพวกมันให้หมด พวกชิมิซึ .. จากนั้นพวกนายจะอยู่อย่างมีความสุข แสนสงบอย่างเช่นก่อนหน้าที่จะมีฉัน”
“ไคริจัง ! ไม่ต้องคิดเลยนะ พวกเขาจะฆ่าคุณ” ผมรีบร้องห้าม ไคริผละออกจากอ้อมกอด ยิ้มให้ผมทั้งน้ำตา ใจผมไหววูบ รู้สึกได้ว่าในหัวเล็กๆของเขากำลังคิดอะไรที่มัน .. แย่ แย่มาก ไครินิ่ง ไม่สะอื้นแต่ทว่าน้ำตายังไม่หยุดไหล เขาจ้องหน้าผม ส่งยิ้มแสนเศร้า
“นายมันเป็นแค่เด็กนักเรียนของฉัน ปีศาจตนแรกที่ฉันรู้จัก เจ้าอีกาบ้าๆบอๆ เก่งก็ไม่เก่ง แถมยังซื่อบื้อ หน้าตาก็ประหลาดๆ ตาโตอย่างกับใส่บิ๊กอาย แต่ฉันคิดถึงนายเสมอ และมากขึ้นเรื่อยๆ นายมันแย่ นายทำให้ฉันสับสน และเริ่มคิดเรื่องไร้สาระ อย่างเช่น .. ฉันคิดว่า ฉันรักนายเข้าแล้ว”
“อะไรนะ?” ผมอ้าปากค้าง หัวใจเต้นรัวแรงอย่างไม่อาจควบคุม
“ฉันคิดเรื่องนายทุกวัน คิดจนหัวจะแตก แต่ฉันหาเหตุผลไม่ได้เลย นั่นแปลว่า ฉันรักนายใช่ไหม? ” เขายิ้ม จับแก้มผมเอาไว้ เราจ้องตากันนิ่ง ผมแทบไม่หายใจ แววตาที่เขามองผม มันอธิบายออกมาหมดแล้ว แต่แทนที่ผมจะดีใจ ทำไมใจผมสั่น หวาดหวั่นกับสิ่งที่เขากำลังคิด
“ฉันหิวมากตอนนี้ แต่กำลังอดทน .. ฉันจะกินพวกมันให้หมด ฉันจะปล่อยปีศาจในตัวฉันออกมา พอฉันทำมันสำเร็จ … ฉันจะเข้าไปทำร้ายนาย นายบอกว่านายรักฉันใช่ไหม เพราะฉะนั้นนายต้องช่วยฉันนะ ได้โปรดช่วยฉันเถอะ” เขาจ้องตาผม น้ำตาหยุดไหล แววตาของเขามั่นคงแน่วแน่ ผมไม่กล้าปริปากอะไรออกมาเลย ไม่กล้าจะตอบรับคำขอนั้น
“ถึงตอนนั้น …ช่วยฆ่าฉันด้วยนะ”
------------------------------------------------------------------------------------------
つづく
นั่นเป็นแผนที่ไคริจังตั้งใจจะทำ แต่พ่อบิ๊กอายมาเจอเขาเข้าซะก่อน
เพราะว่ากลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวว่าจะต้องทำร้ายคนอื่น ดังนั้นให้คนที่รักจัดการกับเราเสียดีกว่า
แต่ฮิโรโตะจะตอบรับคำขอแบบนั้นได้ยังไง จะมีทางไหนที่ช่วยไคริจังได้บ้าง
ก็ซดมาม่ากันไป ฮืออออออออออ
น้ำหวาน >> มาตอนนี้รู้สึกไคริจังจะคิดถึงทุกคน แต่ลืมคคิดถึงตัวเอง และใจขอฮิโรโตะไปซะแล้ว
Hnontaopuy >> ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลอ่านมาเยอะจริงๆ แต่ข้อมูลแต่ล่ะแหล่งก็ไม่ค่อยเหมือนกัน ดังนั้นก็ดัดแปลงกันไปเน้อออ ตำนานส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ท้องที่ด้วยจ้า
Yokai >> ตระกูลหลักหลงคิดว่าตัวเองเลิศเลอเกินไปเลยเป็นเช่นนี้ เคราะห์กรรม ความทุกข์ใจมาตกกับไคริจังอย่างหนักเลย ไปปลดล็อคพลังเข้าให้
ตอนหน้า !! หากกลัวว่าพี่ยักษ์บทน้อย มาแน่นอน เตรียมเช็ดเลือดที่สาดกระจายกันได้เลยค่ะ
แต่จะเป็นเลือดใคร รอลุ้นนนนนนนนนน บทบู๊ต้องมา!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

// ตอนหน้าเลือดสาดที่ว่านี่ เกิดจากการบู๊สินะคะ 5555555 ถ้างั้นก็ต้องเป็นเลือดพวกชิมิซึฝั่งโน้น! ไคริจัง ยกพวกไปถล่มมันโลด!