ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SHINee] Crazy On You (Why So Serious?) [HOON]

    ลำดับตอนที่ #2 : Crayon you :: Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    Crazy On • You

    Chapter 1 – New Friend

     

           ตามทางเดินที่เดิมตรงไป นอกจากทางเดินที่มีปูนปูเป็นทางเดินให้เดินได้เท่านั้น นอกนั้นก็มีเพียงต้นหญ้าที่สั้นกุดอยู่เต็มพื้น ก้อนหินและดอกไม้ก้อนหินซึ่งเป็นแผ่นหินอ่อนสลักชื่อของผุ้ล่วงลับไว้และดอกไม้ที่นำมาวางไว้ด้านหน้า

     

    สามร่างเดินไปตามทางจนไปถึงใกล้กับใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง แล้วหยุดลง ร่างเล็กที่ยืนนิ่งคั่นระหว่างคนสองคนกำลังเล่นกับตุ้กตาในมือด้วยรอยยิ้ม อาจจะยังไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเดินมาถึงจุดหมายแล้ว

     

    “ผมพาจินกิมาเยี่ยมครับ” ร่างสูงที่สุดในกลุ่มสามคนยิ้มกับแผ่นหินซึ่งสลักชื่อคนสองคนไว้คู่กัน ซึ่งนามสกุลเดียวกันกับคนตัวเล็กข้างกาย ค่อยๆ คุกเข่าลงแล้ววางดอกไม้สีขาวทั้งสองช่อในมือลงหน้าหลุมศพทั้งสองคน

     

    “ขอโทษด้วยนะครับที่เราทำให้จินกิ

     

    “คิม จงฮยอนมึงรู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูดนะ” มินโฮเงยหน้าขึ้นบอกเตือนเพื่อน จงฮยอนถอนหายใจพยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปหาคนข้างๆ แทน

     

    “จินกิพามาหาพ่อกับแม่แล้วนะ” มือหนาลูบผมสีน้ำตาลเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มละออกมาจากตุ้กตาในมือเพียงชั่ววูบ ร่างเล็กกลับไปเล่นตุ้กตาเหมือนเดิม และยังคงยิ้ม

     

    “อัปป้า ออมม่าจินกิพาน้องมินมินมาหาคิก”

     

    “จินกิ” มือเล็กที่ยื่นตุ้กตาตัวเล็กไปตรงหน้าค่อยๆ ลดลง เด็กน้อยก้มหน้าลง ทั้งสามคนนิ่งเงียบ รอบตัวมีเพียงเสียงลมที่กำลังพัดผ่านไปเบาๆ   จงฮยอนถอนหายใจอีกครั้ง หันกลับไปยังหลุมศพอีกครั้งแล้วโค้งตัวลง

     

    “ขอโทษด้วยครับ

     

    หมับ

     

    มือเล็กคว้าเข้าที่เสื้อคลุมนักเรียนสีดำด้านหลังของจงฮยอน จงฮยอนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากการค้อมตัวเมื่อครู่ มืออีกข้างไม่ได้ปล่อยตุ้กตาลงยังคงกอดไว้ที่แขน แต่มือทั้งสองข้างจับเสื้อจงฮยอนไว้แน่น

    และมันก็เป็นอีกครั้งที่น้ำตาค่อยๆ หยดลงมา

     

    เป็นอีกครั้งที่มันไม่สามารถห้ามได้

     

    จินกิไม่เคยเลยซักครั้งที่จะห้ามมันได้ ทุกครั้งที่มาหาพ่อกับแม่ทั้งๆ ที่พ่อกับแม่บอกให้เข้มแข็งนี่นา

    เข้มแข็งไม่ได้ก็เพราะไม่มีพ่อกับแม่แล้วต่างหาก

     

    “จงฮยอนมินโฮ” จงฮยอนเงียบ มินโฮเงียบ ทั้งสองคนไม่ได้ปลอบ ไม่ได้หันกลับมา พวกเขาแค่อยากให้จินกิเข้มแข็งและสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แม้ว่ามันจะยากแค่ไหน แต่จินกิเองก็ต้องทำให้ได้ ทั้งในเวลานี้และเวลาที่ไม่มีพวกเขาอยู่ข้างๆ แล้วก็ตาม

     

    “ฮือหันมานะหันกลับมา” จินกิดึงเสื้อจงฮยอนและเขย่ามันแรงขึ้น จงฮยอนกับมินโฮก็ยังคงยืนยันที่จะไม่หันกลับไปเพราะพวกเขาไม่เคยทำ

     

    “จงฮยอนจงฮยอน

     

    ร่างหนาหลับตาลง แต่แรงเขย่าจากด้านหลังก็ยังไม่หยุดลงเหมือนทุกครั้งที่จินกิต้องเหนื่อยและหยุดร้องไห้แค่นั้น แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมทำไมล่ะ

     

    “พอแล้วพอแล้ว” ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องหันกลับมา ดึงร่างเล็กเข้าไปกอดไว้แน่น ร่างสูงที่นั่งนิ่งค่อยๆ ยืนขึ้น

     

    “พอแล้วจินกิกลับบ้านกันนะไม่มีอะไรทั้งนั้น

    คนตัวเล็กในอ้อมกอดหอบหนักๆ ให้ได้ยิน จนจงฮยอนแทบจะใจเสียไปซะตรงนี้ มินโฮเดินมาวางมือลงบนไหล่เพื่อนสนิท

     

    “กลับเถอะ

    แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จงฮยอนหันกลับมา

     

     

     

    “มึงไม่ควรผิดสัญญานะ” หลังจากกลับมาจากการเยี่ยมเยือนหลุมศพ ซึ่งจะทำเป็นประจำ และทุกครั้งที่จินกิร้องไห้ ทั้งจงฮยอนและมินโฮสัญญาไว้ต่อหน้าหลุมศพในวันแรกที่ไปหาพวกท่านว่าจะไม่หันกลับไปเด็ดขาด

      ตอนนี้จินกิเหนื่อยมากจนหลับไป มินโฮพาร่างเล็กขึ้นหลังไม่อยากจะให้ตื่นตอนนี้ ก่อนเดินเข้าบ้านก็หันกลับมาหาจงฮยอนที่เป็นคนขับรถมาส่ง

     

    “กูว่า

     

    ……

     

    “จินกิจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากกว่าเข้มแข็ง”

     

    “กูไม่รู้

     

    “ชเว มินโฮ

     

    “กลับบ้านเหอะ ดึกแล้วเจอกันพรุ่งนี้” มินโฮไม่รอให้จงฮยอนตอบอะไร เดินพาจินกิรวมถึงตัวเองเข้าบ้านไป ปล่อยไว้เพียงร่างของจงฮยอนที่ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น

    จนเมื่อเวลาผ่านไปซักครู่ก็จำต้องกลับไป

     

     

     

    แกร้ก

     

    ร่างสูงเดินเข้ามาภายในห้องมืดสนิทที่ถูกเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นสบายไว้ตลอดเวลา เพื่อเวลาจินกิอยู่ที่บ้านและเวลากลับมาหลังจากไปไหน ก็จะได้นอนหลับได้สบายเลย เดินไปและค่อยหย่อนตัวลงบนเตียง พาร่างเล็กบนหลังนอนราบลงบนเตียง จัดการห่มผ้าให้เรียบร้อย มือหนาลูบผมคนที่กำลังอยู่ในความฝันเบาๆ แล้วเดินอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง ขึ้นบนเตียงแผ่วเบา สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มเดียวกัน รั้งร่างเล็กมานอนใกล้ๆ กอดแนบอก

    ร่างสูงถอนหายใจ หลับตาลง

     

    “มินโฮ” จินกิกำลังอยู่ในความฝันจินกิกำลังยิ้ม

    เขาอยู่ในความฝันนั้นด้วยงั้นหรอ

     

    มือเล็กคว้าตวัดมาด้านหลังกำเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น ขณะที่ลมหายใจยังสม่ำเสมอ ร่างหนาประทับริมฝีปากลงไปเบาๆ บนผมสีอ่อนหอม

     

    “จินกิ

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

     

    “มินโฮ~ ไปกันรึยัง~”

     

    “นี่ๆ ใจเย็นๆ สิ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”

     

    “จินกิไม่ได้รีบ มินโฮช้าต่างหากก เร็วเข้า” คนตัวเล็กยู่ปากพลางเดินเข้าไปจับมือคนที่กำลังรีบเร่งใส่รองเท้าอยู่ แต่ยังไม่ทันได้ใส่เสร็จก็โดนดึงออกไปจนต้องร้องเสียงดัง

     

    “เฮ้ๆ นี่จินกิ!

     

     

     

    “ห้องนี้ ห้องนี้ >____<” จินกิทำหน้าตื่นเต้นแล้วชี้ไปยังป้ายด้านบนของห้องตรงหน้าที่เขียนไว้ว่าห้อง O (#ห้องเชี่ยไรฟะ..)

     

    “จินกิแน่ใจหรอว่าเรียนได้?” ที่เขาถามไม่ใช่แค่เพราะว่าเป็นห่วง แต่เพราะว่ามินโฮเองไม่ได้รับอนุญาตให้ย้ายห้องมาอยู่กับจินกิ และเด็กที่เข้ามากลางเทอมแบบนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ในการเลือกห้องด้วยเหมือนกัน

     

    “เรียน? ใช่~ จินกิเรียนได้~ ^^~”

     

    “จินกิ

     

    “เข้าห้องง มินโฮไปส่ง นะๆ” จินกิว่าพลางดึงมินโฮเข้าห้อง

     

    ครืด

     

    ทันทีที่เข้ามาในห้องห้องที่เคยเต็มไปด้วยเสียงคุยซ่อกแซ่กกันจนดังทะลุออกไปด้านนอกก็เงียบลง ทั้งสองคนที่คนหนึ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับอีกคนที่ยังคงคิดไม่ตกกับเรื่องการเรียนของอีกคนก็กลายเป็นเป้านิ่งของสายตาคนทั้งห้องไปโดยปริยาย

     

    แซ่ด แซ่ด

    แต่ไม่นานก็เลิกสนใจ

     

    งั้นตอนแรกมึงจะหันกันมาทำเห้อะไรครับ =_______=’

     

     

    ร่างสูงเดินไปที่แท่นหน้าห้อง พร้อมกับจูงมือจินกิไปด้วย จินกิที่เอาแต่ยิ้มหวานกับตุ้กตาในมือก็เล่นจนไม่ได้สนใจอีกเหมือนกันคือ

    ใครก็ได้สนใจชเวมินโฮซักนิด

     

    ปึ้ง!

    มินโฮวางหนังสือเล่มหนาของตนที่ถือติดตัวมาให้เกิดเสียงขึ้นพอที่จะทำให้ทั้งห้องเงียบและหันมามองได้ ยกมือขึ้นกระแอมไอเบาๆ แล้วพูดเสียงดังฟังชัด

     

    “ช่วยเงียบด้วยครับ เด็กพิเศษทั้งหลาย”

     

    “เห้ยๆ ประธาน วันนี้คงจะไม่มาบอกเราให้ฝากเลี้ยงลูกหรอกใช่มั้ย? พาใครมาด้วยน่ะ อย่าทำอย่างงี้นะเว้ย”

    เฮ้ย แล้วหน้ากูแก่ขนาดมีลูกได้ขนาดนั้นเลยหรอวะ =_____= ขอโทษ กูยังไม่ยี่สิบบริบูรณ์เลย

     

    “เงียบซะ ช่วยนั่งที่ด้วย ฉันจะแนะนำน้องชายฉัน”

     

    “น้องชายงั้นหรอ? เหอะหน้าอย่างกับพ่อลาหน้าเหี่ยวกับลูกกระต่ายน้อยน่ารักน่ะนะ” หลังประโยคนั้นจบก็ตามกันมาด้วยเสียงโห่วี้ดว้ายกันยกใหญ่

    ไม่แปลกหรอกที่ห้องนี้จะเป็นห้องที่แยกออกมาและรวมไว้แต่เด็กพิเศษ

    ก็มีตั้งแต่เด็กเรียนแย่ถึงขั้นตกต่ำ เด็กบ้าบิ่นชอบหาเรื่องทะเลาะไปวันๆ เด็กก้าวร้าวติดยา เด็กมีปัญหากับสมองและสติปัญญา ไปจนถึงเด็กที่มีปัญหาและชอบแยกตัวออกจากสังคม

     

    ลี แทมิน ช่วยเอาขาลงจากโต้ะด้วย” เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อซึ่งนั่งอยู่แถวกลางของห้องค่อนไปขวามือที่นั่งชิดหน้าต่าง หลับตาและมีหูฟังค้างอยู่ที่หู ลืมตาขึ้น และมองมินโฮด้วยสายตานิ่งชา ก่อนจะยักไหล่ เอาขาทั้งสองข้างลงจากโต้ะ แต่เปลี่ยนไปเท้าคางกับโต้ะมองหน้ามินโฮและจินกิที่อยู่หน้าห้องแทน

    ดีจริงๆ เพิ่งจะเอาเท้าไปวางบนโต้ะ ก็เอาหน้าไปถูซะแล้ว - -

    นี่ก็คงเป็นตัวอย่างนึงของเด็กชอบแยกตัวออกจากสังคมล่ะมั้ง

     

    “แทมิน~”

     

    “อย่ามาเรียกชื่อฉัน” แทมินขมวดคิ้วแล้วตอกกลับ

     

    “เงียบได้แล้ว ทุกคนวันนี้ผมจะมาแนะนำเพื่อนใหม่ให้กับทุกคนได้รู้จัก นี่ลีจินกิ อายุเท่ากับทุกคน จะมาเริ่มเรียนด้วยตั้งแต่วันนี้ ขอให้ให้คำแนะนำด้วย”

     

    “เด็กมีปัญหางั้นหรอ? ไหนประธานเป็นคนเพอร์เฟ็กต์ไม่ใช่หรอ?”

     

    “จินกิเป็นเพื่อนผม”

     

    “เด็กเก็บงั้นหรอ?”

     

    “ลีแทมินผมบอกให้นายอ้าปากพูดแล้วงั้นหรอ?”

     

    “ฉันหมายถึงเก็บมาเลี้ยงมาอยู่ด้วยน่ะ เหอะ ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษด้วยครับท่านประธาน”

     

    “เหอะนายก็พูดได้แค่นี้ใช่มั้ยล่ะ? ก็ทำได้แค่กัดคนอื่นไปวันๆ สังคมไม่เข้า เรียนก็ไม่เรียน ไม่สุงสิงกับใคร แต่ก็ทำนิสัยแย่เรี่ยราดไปทั่ว” แทมินเลิกคิ้ว ถึงกับต้องเอาหูฟังออกคล้องคอออกมาเพื่อฟังให้ชัดเจนว่ามินโฮพูดอะไร

     

    “ว่าไงนะ?”

     

    “เปล่า ผมพูดอะไรงั้นหรอ? นายควรจะฟังเพลงต่อนะ” มินโฮยิ้ม แทมินก็ทำได้แค่ใส่หูฟังคืน เพราะถ้ามีเรื่องอีกคราวนี้เขาได้โดนไล่ออกเป็นแน่ อย่างน้อยก็ไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจอีก

     

    “จินกิอยู่ได้นะมินโฮต้องไปเข้าเรียนแล้ว” มินโฮหันไปหาคนข้างๆ ก้มลงบอกคนที่กำลังยิ้มกับตุ้กตาในมือ คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานแล้วพยักหน้ารัวๆ

     

    “ทำเป็นห่วงกันอยู่ด้ายย อาจารย์ป้าจะเล่นแล้วนะครับบ เข้าเรียนสายน่ะ วู้วววว”

     

    “ผมบอกให้พูดแล้วงั้นหรอ?” สายตาดุดันถูกส่งมาเล่นเอาหุบปากกันแทบไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะยอมหุบปากไปเพราะคำสั่งหรอกนะ ก็แค่อยากจะกวนส้นเท่านั้นล่ะมั้ง

     

    “ไปก่อนนะ”

     

    “อื้อๆ บ๊ายบายมินโฮ โบโบ~” จินกิเขย่งขึ้นเล็กน้อย มินโฮก็ก้มลงไปจุมพิตเบาๆ ตามปกติ แค่ปกติมันไม่ได้มีซาวน์เอฟเฟกต์งี่เง่าเสริมเข้ามาเท่านั้นเอง

     

    “ขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับน้องชายผม ถ้าแตะแม้แต่ปลายก้อยล่ะก็เรื่องนี้ไม่ได้ถึงแค่ฝ่ายปกครอง ผมจะเล่นให้ถึงบรรพบุรุษ” มินโฮทิ้งท้ายไว้ หันกลับไปหาจินกิแล้วยีผมสีน้ำตาลนั่นเบาๆ รีบขอตัวออกไปก่อนที่จะได้โดนอาจารย์ป้าเล่นเข้าอย่างนั้นจริงๆ

     

            หลังจากมินโฮออกไปทั้งห้องก็กลับมากลายเป็นสนามน้ำลายอีกครั้ง จินกิยู่ปากเล็กๆ กวาดตามองไปรอบห้องเพื่อหาที่นั่งว่าง จินกิยิ้มทันทีที่มองเห็นที่หนึ่งว่างอยู่ กระชับสายกระเป๋าสปอนจ์บ็อบ(!) ของจนเองแล้วเดินตรงไปยังโต้ะนั้น

     

    “จินกินั่งนี่นะ~” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเด็กตัวน้อยที่เดินเข้ามาพูดอย่างขี้เล่น เหอะ

    หน้ามันเข้ากันมากเลยนะทำแบบนั้น

     

    “อยากนั่งก็เชิญถ้านายไม่กลัวพวกที่นั่งฝั่งนั้นน่ะนะ”

     

    “อ้าว แล้วถ้าจินกิกลัวล่ะ? กลัวๆ”

     

    “ถ้ากลัวทางเดียวที่ดีที่สุดก็ออกไปจากที่นี่ซะ” แทมินยังไม่มองหน้าจินกิอีกกดไอพอดเปลี่ยนเพลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้อารมณ์เสียจากคำด่าจากประธานนักเรียนคนเมื่อกี้คนไม่มีอารมณ์จะฟังเพลงอะไรทั้งนั้น

     

    “บู่ๆ นายโกหก ออกไปจากที่นี่ไม่ได้ โดดเรียนเป็นเด็กไม่ดี”

     

    “บ้าจริงๆ” จินกิยังคงยิ้ม อาจจะเพราะไม่ได้ยินหรืออาจจะได้ยินแต่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรก็ตาม หย่อนตัวลงนั่งแล้วหันข้างมาทางแทมินนั่ง

     

    “นี่~ จินกิไม่รู้จักนาย~ นายชื่ออะไร?”

     

    “ทำไม? ฉันต้องบอกนายด้วยงั้นหรอ?”

     

    “แทมินนี่~

     

    “ใครให้ในเรียกอย่างนั้นกันฮะ?”

     

    “มินโฮเรียกนายว่าลีแทมินนี่นา ไม่ดีเลย นายอายุน้อยกว่ามินโฮต้องเรียกมินโฮว่าพี่ มินโฮต้องเรียกนายว่าแทมินอา~ เนอะ~

     

    “ชิกะมาปล่อยให้ฉันดูแลล่ะสิไอ้ประธานเฮงซวย” แทมินพึมพำกับตัวเอง ถอนหายใจแรงๆ เพิ่มเสียงเพลงจนเกือบสุด เพื่อตัดขาดกับโลกภายนอก ยกขาสองข้างขึ้นวางบนโต้ะเรียนเหมือนเดิม สองมือประคองท้ายทอยตัวเองหลับตาลง

     

    “อย่ามายุ่งกับฉัน”

     

    “อ้ะ! ทำไมล่ะ! ทำไม! ทำไมล่ะแทมินน!

     

    ……” อีกฝ่ายนิ่ง ดูเหมือนจะเข้าสู่โลกส่วนตัวของตนเองไปเรียบร้อยแล้ว จินกิอมลมแก้มป่องแล้วหันกลับเข้าหาโต้ะตัวเอง หยิบเอาสมุดวาดรูปกับกล่องดินสอออกมาจากกระเป๋า

     

    “แทมินไม่สนใจจินกิเลย” จินกิหายฟึดฟัดอย่างเด็กอารมณ์เสีย น้ำตาคลอขึ้นมาทันทีที่โดนเมินแบบนี้

    ไม่ใช่เพราะจินกิไม่มีใครและโดนมินโฮกับจงฮยอนตามใจจนเคยตัว

    ไม่ใช่เพราะจินกิเป็นเด็กดื้อ อยากเรียกร้องความสนใจ

    ไม่ใช่เพราะจินกิไม่มีใคร

     

       แต่เพราะจินกิไม่ชอบให้ใครไม่สนใจ ไม่ชอบให้ใครเมินแบบนี้ ไม่ชอบให้ใครเงียบใส่ ไม่ชอบให้ใครหันหลังให้

     

    ทำไมทุกคนต้องไม่สนใจและหันหลังให้จินกิด้วย

    ทำไมทุกคนต้องไม่รักจินกิด้วย

     

    ครืดครืด

     

    กระดาษสีขาวทั้งหน้าตอนนี้ถูกละเลงเต็มไปด้วยสีดำเข้มจากดินสอไม้ในมือสองแท่งที่จินกิถือมันไว้ในมือเดียวละเลงลงไปจนเละไปทั้งหน้า เริ่มกดเข้มขึ้นจนใกล้ทะลุขาดออกไปอีกหน้า

     

    “โถ เด็กน้อย โดนเมินงั้นหรอเนี่ย?” เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดข้างๆ โต้ะของจินกิพร้อมกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ดึงดินสอแท่งหนึ่งออกมาจากมือของจินกิ แล้วควงไปมา

     

    “อ้ะ เอาคืนมานะ นั่นของจินกินะ ของจินกิ” ร่างเล็กยืนขึ้นจะคว้าดินสอคืน แต่อีกคนก็ชูดินสอแท่งนั้นขึ้นจนสุดแขน จินกิกระโดดเหยงๆ จะเอาคืนให้ได้

     

    “เอาคืนมาน้า นั่นของจินกินะ!” กลิ่นหอมอ่อนๆ กระทบเข้าที่ปลายจมูก ประสาทรับรู้ได้ แทบคลั่ง ไม่คิดว่าเด็กตัวเล็กแค่นี้จะมีแรงดึงดูดมหาศาลขนาดนี้

     

    “มีอะไรมาแลกคืนมั้ยล่ะ?” เมื่อเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ คนที่ใกล้เข้าสู่นิทราก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มองไปยังโต้ะข้างๆ ที่เคยเงียบสงบเมื่อไม่นานนี้ แล้วถอนหายใจ

     

    “งื้อ~ เอาคืนมานะ~~

     

    “พอได้แล้ว

     

    “เอาคืนมาน้า!

     

    “โอ๊ย!

     

    เคร้ง

     

    ดินสอในมือที่เหลืออีกแท่งถูกขว้างออกไปโดนเข้าใกล้ส่วนสำคัญที่สุดอย่างดวงตาทันที ยังดีที่เพียงแค่เฉียดเข้าที่ใกล้หางตาเท่านั้น พร้อมๆ กับที่แทมินรีบมาแยกทั้งสองคนออกจากกัน ตัวเองรีบเข้ามากันจินกิไว้

     

    “ฉันบอกให้พอรึเปล่า? พอได้แล้วแทคยอน!

     

    “แทมิน นายไม่เห็นเด็กนั่นทำกับฉันหรือไง!!

     

    “นายทำเขาก่อนรึเปล่า ถ้าคืนไปตั้งแต่แรกก็ไม่เกิดเรื่องหรอก ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูไอ้ประธานนั่นได้มีนักเรียนหายจากห้องนี้ไม่ใช่น้อยแน่

     

    “โธ่เว้ย! นายก็อย่าปล่อยให้ไอ้เด็กบ้านั่นมาเข้าใกล้ฉันก็แล้วกัน!!

     

    “นายก็อย่าเข้าใกล้มันก็พอไม่ใช่หรือไง?”

     

    “เออ! รู้แล้วน่า!!” แทคยอนขว้างดินสอทิ้งลงกับพื้นอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินกลับไปนั่งที่ของตนเอง ไม่วายสงสายตาอาฆาตกลับมาให้อีก

     

    “ยังไม่ตายใช่มั้ย?”

     

    “มินมิน

     

    “นี่” เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้สนใจคำถามของตนนัก หันกลับมาเห็นจินกิกำลังกอดตุ้กตากระต่ายไว้แน่นแนบอก แทมินมองตามจินกิที่ไม่มีท่าทีกลัวเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะโดนแกล้งซะขนาดนี้จนแทบจะโดนเล่นเข้าให้ แต่ว่าก็ไม่ได้กลัวจนตัวสั่น

    ดวงตา สีหน้า ร่างกายนิ่ง

     

    ริมฝีปากกำลังยกยิ้ม

     

    ฟุ่บ!

    แทมินสะดุ้ง เหมือนกำลังถูกจ้องมองจากอะไรบางอย่างอะไรน่ะ

     

     

     

    ตุ้กตา?

     

    ราวกับตุ้กตาในมือจินกิเหมือนจะสื่อความหมายอะไรบางอย่างได้ไม่สิเหมือนกับตุ้กตาตัวนั้นกำลังจ้องมองและคอยปกป้องจินกิตลอดเวลาอย่างนั้นแหละ

    มันคืออะไรกัน

     

    “อะไรนะฆ่าให้หมดเลยหรอ?

     

    “จินกิ

     

    “อะ!...

     

    “เป็นอะไรน่ะ?” อยู่ๆ จินกิก็ร้องออกมาเบาๆ สองมือกุมหัวไว้แน่น แทมินย่อตัวลงนั่งตรงหน้าคนตัวเล็ก พยายามจะช่วยว่าหากเกิดอะไรขึ้น

     

    “มินมินอย่าพูดแบบนั้นสิ

     

    ……

     

    “มันไม่ดี

     

    “นี่

     

     

     

    เด็กคนนี้...

     

    ก่อนจบตอนที่ 1 มาดูหูฟังอันโปรดของแทมินกันฮะ :3 #หูฟังก็ไม่เว้น..




     

    To Be Continue :3


    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×