ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC LUHAN x YOU] GROWL

    ลำดับตอนที่ #2 : Prologue

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 58




    ลมหายใจมันพาลจะหยุด ในตอนที่เธอเดินผ่านฉัน และส่งยิ้มมาให้กัน เธอคงมีอะไรที่ดึงดูดฉันละมั้ง ฉันถึงละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย   ”

     

     
     

    เข้าใจอาการของคนแอบรักไหม….

     

     
     

    มันคือการที่เรารักใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้ใครคนนั้นจะไม่เคยรู้จักเรา ไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเราสักครั้ง  เป็นรักที่ไม่หวังผลและเป็นรักที่ไม่มีทางที่จะสมหวัง แต่ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่เคยคาดคิดหวังจะให้เขามารักฉันอยู่แล้วแหละ

     
     

     

    กรี๊ดดดด  กรี๊ดดดดดด 

     
     

     

    หล่ออ่ะแกรรร อร๊ายยย คิม จงอินหล่อมากอ้ะ

     

     
     

    เซฮุนนี่ เลิฟยูวววว

     

     
     

                   เสียงแปดหลอด ดังขึ้นอยู่ใกล้ๆ ฉันผ่อนลมหายใจเล็กน้อย หูทั้งสองข้างได้ยินเสียงถอนหายใจแผ่วเบาเหมือนกันดังขึ้นไม่ไกลนัก เมื่อหันไปข้างหลังตามเสียงก็เจอจินที่กำลังอ่านนิยายอยู่ขมวดคิ้วเบาๆ ฉันละสายตากลับมาอ่านหนังสือที่จะเรียนในวิชาต่อไป
    ถึงแม้เสียงกรี๊ดที่ยังคงดังเป็นระยะๆนั่นจะทำให้หนวกหูมากแค่ไหนก็เถอะ

     

     
     

     

    ลู่หานของฉันต่างหากที่หล่อที่สุด ประโยคสุดท้ายทำเอาฉันที่กำลังอ่านหนังสือนั้นหูผึ่งทันที  ฉันหันขวับไปตามเสียงก่อนจะวางหนังสือลง ค่อยๆกระเถิบแหวกฝูงชนแถวริมหน้าต่างที่ติดริมประตู ชะเง้อคอมองหาเขาคนนั้นหรือก็คือลู่หานเด็กห้อง “ S ” คือห้องที่พิเศษที่สุดในชั้น และมีไว้สำหรับคนที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น 

     
     

     

    อา…. ฉันเห็นแล้วล่ะ เขาคนที่เจิดจรัสในหมู่คนพวกนั้น   

     

     
     

    อะไรของยัยเฉิ่มนี่เนี้ย ถอยออกไปนะยะ เกะกะที่สุด มือปริศนาผลักฉันจนล้มออกมาข้างนอกประตู ฉันคลำหาแว่นเลนส์หนาที่คาดว่าคงตกอยู่ที่ไหนซักแห่ง ก่อนจะมีมือปริศนาสะกิดฉันเบาๆ แล้ววางแว่นไว้บนมือของฉัน

     

     
     

    ขอบคุณค่ะ ฉันพูดพลางก้มหัวขอบคุณบุคคลปริศนา ก่อนจะรับแว่นมาใส่

     
     

     

    เป็นอะไรมากไหม? ” เสียงทุ้มนุ่มแต่ติดหวานเอ่ย ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงก็ถึงกับนิ่งค้าง เมื่อเจอคนที่ไม่เคยคาดฝันว่าจะได้มาอยู่ใกล้ขนาดนี้ในชีวิต

     
     

     

                   ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆก้มหัวลงขอบคุณอีกครั้งแล้วรีบลุกขึ้น  วิ่งหนีออกมาอีกทางทันที  ฉันวิ่งมาทางห้องน้ำก่อนจะทิ้งตัวลงที่หลังบานประตูสุดแรง มือบางที่ยังคงสั่น ค่อยๆเลื่อนมือมากุมหน้าอก สัมผัสตรงหัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆของตนช้าๆ
     

     

     
     

    เหมือนความฝันไปเลย ….. นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม ? ลู่หานเค้าเก็บแว่นให้ฉันด้วย !!

     

     
     

                วันนี้กลับบ้านไปต้องไปเขียนในไดอารี่ซะแล้ว  ฉันยิ้มเพ้อๆก่อนจะสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงออดดังขึ้นของโรงเรียน ฉันจึงกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง  แต่คราวนี้บรรยากาศในห้องอึมครึมอย่างเห็นได้ชัด รับรู้ได้ถึงสายตาทุกคนที่จ้องมองมาอย่างเหยียดๆ

     

     

    เฉิ่มแล้วยังไม่เจียมตัว เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆขณะที่เดินผ่าน  ฉันก้มหน้ามานั่งที่โต๊ะของตนเอง

     
     

     

    อย่าไปสนใจเลย ก็แค่คำพูด เจียพูดขึ้นลอยๆฉันยิ้มอ่อน พยักหน้าให้กับคำพูดของเจียคนที่นั่งห่างไปจากฉันไม่เท่าไหร่นัก

     

     
     

                 เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้นอีกครั้งเมื่อหมดคาบเรียน คุณครูปิดการสอนพร้อมสั่งการบ้านในคาบก่อนจะเดินออกไปจากห้อง  ฉันจึงเริ่มเก็บของใส่กระเป๋า เตรียมจะไปห้องสมุดในเวลาพักเที่ยง  เสียงฝีเท้าคคนจำนวนมากมายืนล้อมรอบโต๊ะ ฉันเงยหน้ามองกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างไม่เข้าใจ
     

     

     
     

    มองทำไม ยัยเฉิ่ม หนึ่งในนั้นพูด ก่อนจะเอามือมาผลักหัวฉันอย่างแรง

     

     
     

     แค่ลู่หานเค้าเก็บแว่นให้ ทำมาเป็นดีใจงั้นหรอ? ” ฉันไม่ตอบโต้อะไร เพียงแค่ส่ายหัวเบาๆ ก้มหน้ากัดริมฝีปากแน่น

     

     

    ปล่อยไปเถอะ ยังไงลู่หานเค้าไม่สนใจยัยเฉิ่ม แว่นหนาเตอะหรอก หน้าแบบนี้จะมีใครเอา ฮ่าๆ อีกคนพูดขึ้น เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนรอบข้าง ฉันยกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง  เสียงฝีเท้าเริ่มถอยห่างออกไปพร้อมกับถ้อยคำที่เสียดสีจิตใจค่อยๆลางออกไปด้วย เมื่อเห็นว่าทุกคนเดินออกกันไปหมดแล้ว ฉันจึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะ  พร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างไม่ขาดสาย

     
     

     

                   รู้….รู้ตั้งแรกอยู่แล้ว ว่ายังไงเค้าก็ไม่มีทางมารักฉันได้หรอก ก็แค่คนธรรมดา เป็นยัยเฉิ่มที่หน้าตาบ้านๆ ผมผ้ายุ่งเหยิง ใส่แว่นหนาเตอะ ดัดฟัน แถมยังเป็นหนอนหนังสือวันๆอยู่แต่ในห้องสมุด  แค่ได้รักได้แอบห่วงอยู่ห่าง ๆก็ดีแล้ว ไม่ได้คิดจะคว้าเทพบุตรมาครอบครองหรอก

     

     
     

                   ฉันไม่เคยหวังให้ลู่หานมารักฉันเลย แต่แค่ขอให้ฉันได้ดีใจ ได้มีความสุขบ้างเวลาเห็นเค้าบ้างไม่ได้เหรอ ฉันก้มหน้าพลางคิดน้อยใจในชะตากรรมของตนเอง แม้จะรู้ว่าทำใจมามากเท่าใด แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ เมื่อมีคนมาพูดจากระทบกระทั่งใส่

     

     
     

                    ฉันเดินออกมาจากห้องเรียน มือบางอีกข้างถือกระเป๋าขนาดพอดี เดินไปตามทางยาว มือบางผลักประตูโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ป้ายหน้าห้องเขียนว่า ห้องสมุด ฉันทักทายครูบรรณารักษ์ ก่อนจะเดินไปที่ตรงเคาท์เตอร์ ทุกพักเที่ยงฉันมักจะมากินข้าวที่นี่ประจำ และจะมาเป็นบรรณารักษ์ฝึกหัดอีกด้วย จึงทำให้สนิทกับคุณครูผู้ดูแลที่นี่เป็นพิเศษ จนได้รับมอบหมายให้คอยดูแลห้องสมุดเป็นประจำ

     

     

    เป็นอะไรจ้ะ ทำไมตาแดงแบบนี้ หื้ม? ” คุณครูทิฟฟานี่ผู้ใจดีเอ่ยทักลูกศิษย์ของตน เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั้นเดินมาด้วยท่าทางหงอยๆ

     

     

    ก็วันนี้ลู่หานเค้าเก็บแว่นให้หนูด้วยค่ะ หนูดีใจมากแต่พอกลับมาทุกคนก็… ” ฉันเว้นว่างไว้พร้อมกับก้มหน้าถอนหายใจ คุณครูทิฟฟานี่ยิ้มเข้าใจก่อนจะกอดปลอบเบาๆ ฉันแยกย้ายไปนั่งที่โต๊ะ หยิบกระติกน้ำเย็น กับกล่องข้าวมาวางไว้บนโต๊ะ เมื่อทานเสร็จฉันจึงอ้อมไปด้านหลังเพื่อล้างกล่องข้าว เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงหยิบกองหนังสือบนเคาน์เตอร์สำหรับคนที่มาคืนหนังสือ มือบางค่อยๆทยอยยกไปเก็บตามชั้นหนังสือตามหมวด

     

     

    เห้ยแล้วเจอกันที่ห้องนะ

     

     

    อือ

     

     

                  เสียงแว่วๆดังขึ้นแถวเคาท์เตอร์ ฉันหันไปตามเสียง แย่แล้วสิ อาจารย์ทิฟฟานี่เพิ่งออกไปทานข้าวมื้อเที่ยงกับอาจารย์แทยอนเมื่อกี้นี้เอง ฉันจึงวางกองหนังสือที่สูงชะลูดบนมือลงบนพื้น ในจังหวะที่กำลังจะหันตัวเดินออกจากชั้นหนังสือนั้นได้บังเอิญไปชนกับบุคคลที่มาใหม่เข้า

     

     

    โอ๊ะ เสียงบุคคลมาใหม่ดังขึ้น ฉันล้มลงนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น อีกฝ่ายที่ตั้งตัวลุกขึ้นยืนได้ก่อน ยื่นมือส่งให้มาทางฉัน

     

     

    อ่ะ ขอบคุณค่ะ ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา




    มะ ไม่จริงใช่ไหม เจอลู่หานอีกแล้วอ่ะ TwT  ฉันมองอย่างอึ้งเมื่อเจอบุคคลที่ไม่คาดฝัน ยกมือที่สั่นเทาออกจากมือหนา แล้วลุกขึ้นยืนเองทันที

     

     

    ขะขอโทษค่ะ! ” ฉันพูดพลางก้มหัวขอโทษแบบเมื่อเช้าอีกครั้ง

     

     

    อ้าวเธอนี่เอง ไม่เป็นไรหรอก ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ลู่หานโบกมือไปมาอย่างเกรงใจเมื่อเห็นฉันยืนก้มหัวอย่างรู้สึกผิด

     

     

    อ่อค่ะ @_@ ” ฉันตอบกลับอย่างมึนๆ

     

     

    แล้วนี่เธอจัดหนังสืออยู่หรอ ฉันรบกวนอยู่รึเปล่า ไม่มีใครเฝ้าอยู่ที่เคาท์เตอร์ฉันเห็นเธอยืนอยู่เลยจะมาสอบถามอะไรหน่อย ลู่หานหันไปมองกองหนังสือกองโตที่วางกองอยู่บนพื้น แล้วส่งยิ้มให้กับฉันที่ตอนนี้แทบเพ้อไปกับรอยยิ้มหวานๆเทพบุตรนั่นแล้ว !!

     

     

    เอ่อ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ? ฉันถามอย่างตื่นเต้น ก็นะ อะไรที่ฉันช่วยลู่หานได้ ฉันก็ดีใจที่จะทำให้อยู่แล้วล่ะ

     

     

    คือฉันจะมาถามว่าหนังสือพวกชีววิทยาอยู่ทางไหนน่ะ

     

     

    อ๋อ งั้นเดียวฉันพาไปก็ได้ค่ะ ฉันอาสาก่อนจะเดินนำทางเดินมาที่หมวดชั้นหนังสือชีววิทยาอย่างเคยชิน

     

     

    ขอบคุณมากเลยนะ ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอ ? เขาหันมาหาฉันที่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ข้างๆ ฉันสะดุ้งเงอะงะ มือบางดันแว่นขึ้นก่อนจะตอบ

     

     
     

    เฟย์ค่ะ ฉันก้มหน้าแอบซ่อนรอยยิ้ม แบบว่าฟินลู่หานเค้าถามชื่อฉันด้วยยย ฮือ T//T เกิดมาคุ้มค่ะ แค่นี้ก็ปริ่มแล้ว 

     
     

     

    อ้อ อีกอย่างเธออยู่ปีเดียวกับฉันนี่ ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ลู่หานบอกเมื่อเห็นจุดที่ปักอยู่บนเสื้อฉัน ฉันจับมือตนเองแน่น ชักรู้สึกอยากจะออกจากสถานการณ์ในตอนนี้
    มันรู้สึกเขินจะตายอยู่แล้วนะ !! 

     
     

     

    อื้อ ฉันตอบสั้นๆ ที่กล้าไม่พูดอะไรเพราะถ้าพูดไป กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าตอนนี้เสียงฉันสั่นมากแค่ไหน

     
     

     

    เจอละ มือหนาหยิบหนังสือชีววิทยามาสองเล่ม  ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง นี่ต้องทำเรื่องยืมก่อนใช่ไหม ฉันพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะรับหนังสือมาจากมือลู่หานแล้วเดินกลับมาที่เคาท์เตอร์ คลิกคีย์ข้อมูลลงไปในคอมเล็กน้อย ก่อนจะสแกนบัตรประจำตัวของห้องสมุด ฉันยื่นหนังสือและบัตรประจำตัวคืนให้ลู่หาน แล้วยิ้มเล็กน้อย

     

     
     

     “ อีกเล่มนึง? ” ลู่หานขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหนังสือที่ได้คืนกลับมีสามเล่ม ก็ตอนเขาหยิบมามันมีแค่สองเล่มนี่นา

     

     
     

    ระเรายืมให้ เล่มนั้นมีประโยชน์มากนะ ฉันก้มหน้าพูด ใจกลัวว่าลู่หานจะโกรธที่ฉันทำอะไรไปโดยพละการ

     
     

     

    ครับ ขอบคุณมากนะ เราไปละ บ๊ายบายเฟย์ ลู่หานยิ้มให้พลางโบกมือแล้วผลักประตูบานใหญ่ออกจากห้องสมุดไป

     
     

     

    ฉันยิ้มค้างก่อนจะเอามือสองข้างปิดหน้าที่จู่ๆก็อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

     

     
     

     

    ใช่แล้วล่ะ ห้ามไม่ได้……ห้ามไม่ได้อีกแล้ว หัวใจ

      













    มาลงบทนำแล้วจ้า ขออภัยที่มาลงช้านะ ^^
    อ้อ แล้วก็เรื่องนี้จะไปสัมพันธ์กับเรื่องของเฮียคริส
    เรื่องเฟิร์ทสโนว สนใจดูในหน้าบทความเลย เชื่อมลิ้งค์ไว้แล้ว

    ชอบคนอ่าน แต่รักคนเม้นท์มากกว่า
    1 คอมเม้นท์ = 1ล้านกำลังใจ




     
    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×